คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : การเคลื่อนไหวที่พลิกยุทธภพ
ณ บัดนี้ที่ตรงหน้าไร้ซึ่งเสียงร่ำร้องใดๆ อสูรร้ายแห่งหมอกอันมืดมัวได้ลางเลือนหายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงสภาพที่ย่ำแย่เสียจนน่าทรุดกองลงไปกับพื้น...
ซากศพที่บ่งบอกได้ว่าเจ้าของชีวิตที่หลุดลอยนั้นได้เคยทรมานขนาดไหนนั้นได้บีบรัดหัวใจของตนเองแน่น...บอร์กสีเงินลอยต่ำมาอย่างช้าๆ ใบหน้าของคนทั้งสองไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมามากนัก
"เอาล่ะ...คิดว่าเรื่องมันเลยเถิดมาถึงตอนนี้แล้ว จะปล่อยให้บานปลายไปนานกว่านี้คงจะไม่ได้แล้วสินะ" มาสเตอร์ส่งรอยยิ้มบางไปทางซากุระที่ยืนอยู่ข้างๆ คนงามไม่ได้พูดอะไรมากไม่กว่าพ่นลมหายใจเบาๆ
"แล้วจะเอายังไงต่อล่ะครับ"
"ก็ไม่เอาไง เขาส่งคำเชิญมาขนาดนั้นแล้วนี่นา ถ้าเราคือ 'ผีเสื้อมรณะ' อย่างที่เขาว่าจริงๆ...เราก็จะโบยบินไปอย่างองอาจ...เพื่อมอบความตายให้แก่ผู้ที่กล้ามาเหยียบเท้าเราถึงถิ่น..."
เสียงเรียบเรื่อยของมาสเตอร์ที่กำลังยืนมองลานกว้างที่ ณ บัดนี้ได้กลายเป็นหลุมศพขนาดใหญ่ไม่บ่งบอกว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน
แต่ซากุระรู้ดี...มาสเตอร์ของเขากำลังโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา...
แม้องอาจใช่ว่าจะมิเสียน้ำตา
แม้กาจกล้าใช่ว่าจะมิมีความรู้สึก
แม้ทรงปัญญาใช่ว่าจะตัดความอาวรณ์ได้
และแม้จะมีอายุยืนนาน...ใช่ว่าจะชินชากับการสูญเสีย...
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
การตายของสมาชิกส่วนใหญ่นั้นไม่ได้แพร่สะพัดไปในวงกว้างอย่างที่ผู้รอดชีวิตหลายคนคิด แต่เป็นเพียงคนในระดับสูงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
'ไม่รู้ว่าต้องใช้เม็ดเงินเท่าไหร่ไปกับการอุดข่าวนี้'
เซ็ตสึนะคิดกับตนเอง ดวงตาสีฟ้าครามนิ่งสงบแฝงแววเศร้าสร้อยไว้ลึกๆยังกวาดตามองไปยังตัวอักษรบนหน้าหนังสือพิมพ์...เธอเป็นหนึ่งในผู้สูญเสียในครั้งนี้...
ภายในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทุกคนใช้ชีวิตตามที่เคยทำมา เพียงแต่งดรับภารกิจทุกชนิดเท่านั้น ราวไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าการจากไปของบุคคลซึ่งเคยได้ทานอาหารและหยอกล้อซึ่งกันเป็นเรื่องที่ควรเศร้าสร้อยแม้แต่น้อย
พวกเขาสะสมเดือนและปีแห่งชีวิตมามากมายเหลือเกิน มากจนอยากนำร่างกายที่หนักอึ้งนี้โยนทิ้งลงในห้วงสมุทรลึก หุบเหวไร้ก้นบึ้ง หรือว่ากระโจนเข้าสู่กองเพลิงแห่งชีวิตที่กำลังลุกประกายโชติช่วงอยู่เสียจนแสบตา
หากมีคนต้องการชีวิตนี้จักน้อมให้
หากบุรุษแห่งความตายเอ่ยเรียกจักไปหา
หากผู้ดูแลสุสานหวังกลบกายา
ข้าจักเอนกายด้วยความเปรมปรีดิ์
มันคือบทกลอนที่กวีพเนจรคนหนึ่งได้มอบไว้ให้พวกเขาเมื่อนานมาแล้ว น่าแปลกที่ถึงแม้จะเป็นเพียงการพูดปากเปล่า และบทกลอนนี้ก็ไร้ซึ่งการขัดเกลาภาษาให้สวยงามดังที่กวีคนหนึ่งพึงกระทำ แต่พวกเขากลับจำบทกลอน น้ำเสียงและท่าทางของกวีคนนั้นได้อย่างขึ้นใจ...ราวกับว่าน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มนวลนั้นได้แทรกลึกเข้าไปทิ่มแทงดวงใจของเขาได้อย่างตรงประเด็นกระมัง
แต่นึกๆดูแล้วก็น่าขำสิ้นดี ทั้งๆที่เคยคิดว่าทรงอำนาจ ทั้งๆที่เคยคิดว่าทรงปัญญา ทั้งๆที่เคยคิดว่าอาจจะไม่แพ้ใคร...
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนดี...กลับเสียพรรคพวกไปมากมายขนาดนี้!!
ความแข็งแกร่งที่มีมากเกินไปของพวกเขา ทำให้ประมาทและชะล่าใจ...ความทระนงตนที่มากเกินไปได้เริ่มก่อตัวขึ้นในเงามืดโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้ตัว ความทระนงนั้นก็แปรเป็นกำแพงสีดำสนิทที่ทั้งกว้างใหญ่และแสนแข็งแกร่ง...
เย่อหยิ่ง ทระนงตน มั่นใจในตัวเองสูง สิ่งเหล่านั้นรังแต่หวนกลับมาทำร้ายพวกเขาเอง
ในเวลาสิ่งที่ควรทำจึงไม่ใช่ไปแค้นเคืองเหล่าศัตรูที่ได้พรากชีวิตกว่าสามสิบคนไปอย่างโหดเหี้ยม แต่เป็นการทำลายหอคอยสูงที่ชือว่าความทระนงต่างหาก
และแน่นอนว่าสมาชิกระดับสูงที่เหลือรอดอยู่ ได้มีอันขนลุกขนชันไปกับการฝึกสยองจากเหล่าผู้ออกภารกิจเป็นแน่แท้....
และในที่สุดแฟนธอม ลอร์ดก็ออกเคลื่อนไหว หลังจากที่ไม่เคยกระทำการใดเป็นชิ้นเป็นอันมาถึงสิบสองปี และการเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบห้าสิบปี ภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ดี มาสเตอร์แห่งแฟนธอม ลอร์ด ได้มีคำสั่งถ่ายทอดประกาศเปรี้ยงลงไปที่กลางเมือง กระดาษตราเวทมนตร์แผ่นขนาดใหญ่ลอยอยู่หน้าหอนาฬิกาแห่งมาเนอร์เมียน หอนาฬิกาที่ได้ชื่อว่าเดินอย่างเที่ยงตรงที่สุดในโลก
และไม่ใช่แค่หอนาฬิกาแห่งมาเนอร์เมียนเพียงอย่างเดียว ทั้งแท่นศิลาแห่งการพิพากษาแห่งเมืองตาเตก้า ลานประลองแห่งความเยือกเย็นที่เมืองเวอร์จีนัน และอีกหลายสถานที่สำคัญๆในโลกนี้
แผ่นกระดาษสีเหลืองนวลเปล่งแสงละอองสีทองนวลตาออกมาอย่างโดดเด่น แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาไม่ใช่สิ่งนั้น แต่กลับเป็นเนื้อความในจดหมายอันน่าตกตะลึงพรึงเพริดนั่นต่างหาก...
"...สรุปแล้วที่ประชุมได้ตกลงกันตามนี้ขอรับท่านประธานฯ ไม่ทราบว่าท่านมีข้อโต้แย้งใดๆหรือไม่" เสียงทุ้มนุ่มๆฟังระรื่นหูกลับไม่ทำให้ชาร์รูเรรันหรือท่านประธานที่พวกเขาเรียกเมื่อครู่คลายหัวคิ้วที่ขมวดกันแน่น...ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นก็ตามเถอะนะ
ชาร์รูเรรัน อาร์เทียมีส คือประธานสหพันธ์นักผจญภัยระดับโลก หรือตำแหน่งอีกหนึ่งคือนายกรัฐมนตรีประจำสภารัฐบาลแห่งเมืองมาเนอร์เมียน ไม่เคยมีใครล่วงรู้รูปลักษณ์หรือหน้าตาของประธานสหพันธ์นักผจญภัยผู้นี้ เขามักจะใส่เสื้อคลุมรุ่มร่ามเต็มยศของเขา และสวมผ้าคลุมสีขาวโปร่งบางที่พอเพียงให้เห็นโครงหน้าเลาๆเท่านั้น แต่นั่นยิ่งทำให้เขาดูลึกลับและน่าเกรงขาม...จนไม่ว่าผูใดก็ต้องมองมาที่เขาด้วยความชื่นชมระคนอิจฉา
เขาเป็นผู้ที่มากความสามารถ และเพราะอย่างนั้นเอง ภายในเวลาไม่ถึงปีที่เขารับตำแหน่ง เขาได้ฟื้นฟูสหพันธ์ที่กำลังประสบสภาวะขาดความคล่องทางการเงินเป็นอย่างหนักจนแทบจะต้องถูกยุบไปเสียแล้ว กลับมายืนหยัดผงาดกล้า และได้กลายเป็นสหพันธ์อันดับหนึ่งที่ไม่ว่าสมาคมเล็กใหญ่ใดๆต้องให้ความร่วมมือทั้งสิ้น
และไม่เคยมีเรื่องครั้งไหนเลยที่ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความหนักใจได้ถึงเพียงนี้!
หัวข้อในการประชุมปรึกษาหารือในครั้งนี้ก็ว่าด้วยเรื่อง 'การคงอยู่ของกิลด์อันดับหนึ่ง แฟนธอม ลอร์ด' นั่นเอง
แน่นอนว่าข่าวการสูญเสียสมาชิกกว่าสามสิบคนภายในระยะเวลาหนึ่งราตรี ทำให้ความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมาตลอดสิบสองปีนั้นได้พังทลายลงมาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่เขาเหยียบย่างเข้ามาในผืนดินมาเนอร์เมียนหลังจากไปประชุมที่ต่างทวีปมา นอกจากจะถูกลากตัวเข้าประชุมติดๆกันแล้ว ยังไม่ได้พักผ่อนแม้แต่นิดอีกตางหาก
ชาร์รูเรรันอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้สมองไหลตายแบบรู้แล้วรู้รอด แม้ยามปกติเขาจะถูกมองว่าเป็นคนเลือดเย็นที่เล่นเกมธุรกิจแบบหน้าเลือดหน่อยๆก็ตามที แต่ใช่ว่าเขาจะไม่มีผู้ที่เหนือกว่าเสียหน่อย...
และหนึ่งในผู้ที่เหนือกว่าเขานั้นก็รวมมาสเตอร์แห่งกิลด์อันดับหนึ่งอีกด้วย การพบกับเมื่อสิบสองปีก่อนทำให้เขารู้สึกตัวได้เลยว่าเผลอทำสัญญากับปีศาจที่ร้ายกาจยิ่งกว่าราชาแห่งภพปีศาจเสียอีก...
แต่ก็คงเป็นเพราะข้อเสนอที่ยั่วยวนให้น้ำลายสออย่างยิ่งกระมัง จึงทำให้เขาตอบตกลงอย่างเกือบจะทันที และตอนนี้ก็ต้องมานั่งปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างนี้ไงล่ะ
สมองของชาร์รูเรรันกำลังทำงานอย่างเร็วจี๋ จนเมื่อสายข่าวของเขาเข้ามากระซิบข้างหูนั่นล่ะ เขาจึงยิ้มออกมาได้อย่างโล่งใจเสียที
"พี่น้องที่รักโปรดฟังข้าก่อน" ร่างเล็กของประธานผู้ลึกลับเอ่ยด้วยเสียงทุ้มกังวานที่ผ่านการดัดแปลงแล้ว "เมื่อครู่สายข่าวของข้าได้รับรายงานว่า...มีประกาศแผ่นนี้ติดไปทั่วทวีปมาเนอร์เมียนและทวีปอื่นๆอีกมากมาย..." เขาเว้นจังหวะเล็กน้อยล้วใช้มนตราให้กระดาษสีเหลืองที่แผ่ละอองเวทสีทองออกมา "...ข้าคิดวา ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของกิลด์นี้ต่างหาก มิใช่การสูญเสียจุดยืนแต่อย่างใด และกรณีที่มีผู้คนเสียชีวิตนั่น...ก็คงจะเป็นการคัดคนออกกระมัง...หรือพวกท่านจำไม่ได้กันหรือ...ว่าพวกพ้องเราเองก็เคยคัดผู้คนออกจากสหพันธ์ด้วยวิธีเยี่ยงนั้นเช่นเดียวกัน..."
เสียงเรียบเรื่อยเนิบช้าแต่ทำให้ไร้ซึ่งผู้โต้แย้งของชาร์รูเรรันนั้น ก้องออกไปทั่วห้องประชุมเป็นการบอกนัยๆว่าพลิกล็อกเสียแล้ว ให้ทั้งผุ้ที่ยินดีกับมตินี้และผุ้ที่ไม่พอใจอย่างรุนแรงได้ฟัง
เนื้อความในนั้นเขียนว่า
'ประกาศ!! กิลด์อันดับหนึ่ง แฟนธอม ลอร์ด เปิดรับสมัครสมาชิกแล้ว ไม่จำกัดอายุ เพศ และวัย เพียงเดินทางมาทำการทดสอบเท่านั้น ส่วนเรื่องสถานที่ ทางเราได้มีเกมเล็กๆน้อยๆให้ท่านได้เล่นกัน
มองลงไป แก้วผลึกใส เห็นสีเพลิง
น่ารื่นเริง ก้านใบเขียว เจือสีสัน
สัตรงค์ บุปผา สะท้อนตะวัน
เกิดแปรผัน รุ้งไม้งาม น่าชื่นชม
เพียงหาของสิ่งนั้นที่บอกใบ้ในคำกลอนได้ ท่านก็จะพบเราที่นั่น และบททดสอบจะเริ่มต้นขึ้น
เรายินดีต้อนรับ...สมาชิกใหม่ทุกท่าน...'
ความคิดเห็น