คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ศพรายที่หนึ่ง
"เอ๋? เงียบจังเลย" ร่างบางเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อเดินออกมาจากห้องมิติ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ ฮิเมะเดินออกจากห้องนั้น แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของผู้ออกภารกิจ เดินเข้าไปในวอล์กอินเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทีมีเลือดเลอะเกรอะกรัง
แต่บอกไว้ก่อนนะว่านั่นไม่ใช่เลือดของเธอหรอก
ฮิเมะเดินออกมาในเสื้อผ้าสบายๆ อย่างเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น ปล่อยผมยาวหยักจรดสะโพกที่รวบไว้ เท้าบางสวมใส่รองเท้าสลิปเปอร์รูปแมว ก่อนจะเดินออกไปจากห้องตามทางเดิน เมื่อเดินมาถึงห้องนั่งเล่นที่ติดอยู่กับห้องครัว ฮิเมะก็ทรุดกาย ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มนิ่มอย่างไม่ยั้งแรง
"ฮ่า...เหนื่อยจัง..." ดวงตาสีเงินปรือลงอย่างผ่อนคลาย ก่อนที่จมูกที่ได้กลิ่นไวจะได้กลิ่นที่แสนหอมหวน...ในความคิดของเธอคนเดียว... ดวงตาที่แทบจะปรือปิดเบิกโพลง ก่อนที่มันจะเป็นประกายวิ้งวั้งเมื่อเห็นเตกีล่าขวดหนึ่งตั้งหราอยู่บนบาร์เครื่องดื่ม
ไม่รอช้าอีกต่อไป เจ้าหญิงแทบจะพุ่งไปด้วยความเร็วระดับแสงแล้ว ถ้าไม่นึกขึ้นได้ว่าต้องรักษาภาพลักษณ์เสียก่อน...
เมื่อไปถึงที่หมาย ฮิเมะคว้าแก้วแถวนั้นมา เปิดขวดเหล้านั้นแล้วรินใส่แก้ว ก่อนจะคว้าแก้ว กระดกอั้กๆเข้าปากรวดเดียว
รสชาติขมปร่าฝาดเฝื่อนบาดคอไหลลง ก่อนที่ใบหน้างามจะส่งออร่าที่บ่งบอกมาว่า 'ฟินสุดๆ' ออกมา แล้วฮิเมะก็ค้นพบว่า...รินใส่แก้วนี่มันไม่ทันใจเลยจริงๆ...
แต่ไม่ได้ๆ ถ้าเกิดเตกีล่าขวดนี้เป็นขวดสุดท้ายล่ะ ต้องค่อยๆละเลียดสิ...
(รู้สึกเหมือนดิฉันจะดำเนินเรื่องมาผิดทางนะคะ...ขอเบนเข็มกลับทางเดิมก่อนนะคะทุกท่าน...)
"เอ๋ ฮิเมะซัง...?"
"อ้าว พู่กันนนนน เรนนนน กลับมาแล้วเหรอค้าาาา" พู่กันกับเรนผงะไปนิดๆเหมือนได้ยินเสียงยานคางของใครสักคนจากโซฟา และเอ่อ...ไอ้ปอยผมสีฟ้านั่น...มองยังไงก็ฮิเมะซังไม่ใช่เหรอนั่น...
ร่างบางชันเข่ากับโซฟา หันมาเกาะพนักเอาไว้แล้วฉีกยิ้มกว้างให้ทั้งสองคน ที่ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็คืออาการของคน 'เมา' ชัดๆ
"อ้อ...เตกีล่านั่นน่ะสินะ..." เรนเอ่ยขึ้นเบาๆเหมือนจะพึมพำเมื่อมองเลยไปยังโต๊ะแก้วตรงกลางที่มีเหล้าขวดใหญ่ที่ของเหลวในนั้นพร่องไปกว่าครึ่ง เขาคิดในใจ ซาพลาดซะแล้ว
"เฮ้อ...ฮิเมะซังครับ หายเมาแล้วฟังที่ผมจะพูดให้ดีๆนะครับ" พู่กันเป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่จริงจังกว่าเดิม มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าแม่นางกำลังแกล้งเมา เขาน่ะ...โดนหลอกบ่อยแล้วน่า!! (?)
"เดี๋ยวววว อย่าเพิ่งน้าาาา" ฮิเมะยกฝ่ามือขาวขึ้นมา ก่อนจะคว้ารูบิกคิวบ์ที่เป็นคริสตัลใสขนาดเล็กกว่าฝ่ามือขึ้นมา ลูบไปยังช่องหนึ่งแล้วบิดหนึ่งที ภาพสามิติก็ฉายขึ้นมาทันที คนที่อยู่ในภาพนั้นคือซากุระที่ดูจะมอมแมมนิดๆ
'ฮิเม...'
"ฮั้ลโลว์ ซาสุดสวยยยยยย แม่จิ้งจอกขาวสุดเซ็กซี่่ อยู่ไหนกันค้าาาาาา" ยังไม่ทันให้อีกฝ่ายขานชื่อตัวเองจบ เจ้าหญิงก็กรอกเสียงหวานๆที่ฟังปราดเดียวก็รู้ว่าเมาไป
'...' ซากุระมองอีกฝ่ายอย่างเอือมระอา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนออกมาเขาวางเตกีล่าขวดใหญ่ไว้บนบาร์... นี่กินมันไปแล้วสินะ
ซากุระไม่ใส่ใจท่าทางเมาๆของอีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยเสียงเป็นการเป็นงานขึ้นจนคนเมาต้องเก็บท่าทางเมาๆของตัวเองไป 'ฟังนะฮิเมะ ตอนนี้เจย์กับพายที่ออกไปทำภารกิจของเธอเมื่อตอนเช้าไม่กลับไปที่กิลด์จนเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนก็ยังไม่กลับมา...เดาได้แล้วสินะว่ามันผิดปกติ...ตอนนี้พวกเราอยู่ในป่าแสงสูญ กำลังตามหามาตั้งหนึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่เจอ ขอให้เธอกับเรนและพู่กันที่ผมส่งไปหา มาสมทบที่ป่าแสงสูญให้เร็วที่สุด เข้าใจมั้ย'
ฮิเมะไม่ตอบ เพียงสบตากับซากุระผ่านเครื่องฉายภาพแล้วเก็บรูบิกไป ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ทั้งสามคนรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาอ้อยอิ่ง
ร่างบางก้าวพรวดมายังห้องมิติ ไม่ต้องเสียเวลาควานหา ฮิเมะคว้าบานประตูสีแดงสดอันเป็นเครื่องหมายฉุกเฉิน เพียงนึกถึงสถานที่ที่จะไปมันก็จะพาไปอัติโนมัติ แต่ก็แลกด้วยพลังเวทเช่นเดียวกัน ใบหน้างามไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
"มาแล้วเหรอ" เอมพ์เป็นคนแรกที่ทั้งสามพบหน้า ดวงหน้าเดียวกันกับฮิเมะปิดแววเคร่งเครียดไม่มิด "ถ้าอย่างนั้นก็ครบแล้ว พวกนายสองคนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ แล้วอย่าปิดกั้นสัญลักษณ์กิลด์...มันลงเวทติดตามเอาไว้อยู่"
"ฮะ" ทั้งสองรับคำแล้วพุ่งไปทางที่ได้รับมอบหาย
"พี่คะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่" ฮิเมะถาม
"ไม่รู้สิ พายกับเจย์หายตัวไป ป่านนียังหาไม่เจอ อย่างน้อยก็คงจะไม่ปกติแล้วมั้ง" ผู้เป็นพี่ตอบเนือยๆ แล้วยักไหล่อย่างไม่ยี่หระอะไรกับการหายตัวไปของสองสมาชิก
"ไม่สนล่ะ พี่ต้องตามหาพวกเขาให้เร็วที่สุด เข้าใจมั้ย เร็ว-ที่-สุด!" ฮิเมะหรี่ตาแล้วเล่นเกมจ้องตากับพี่ชายตัวเองอย่างเด็กเอาแต่ใจ...อืม...มันก็เอาแต่ใจจริงๆนั่นล่ะนะ...
ในที่สุดเอมพ์ก็ถอนหายใจกับความดื้อรั้นที่ส่งมาให้รับรู้ทางสายตา ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักเป็นสัญญาณว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะสลายกายเนื้อของตัวเอง เหลือเพียงรูปลักษณ์ของดวงวิญญาณสีฟ้าขมุกขมอมเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าน้องสาวตัวเองเข้ามาในสร้อยคอของตัวเองแล้ว เอมพ์ก็หลับตาลง ริมฝีปากพึมพำอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครได้ยิน พลันพลังเวทสีขาวก็ปะทุออกมาอย่างไร้ซึ่งขีดจำกัด ละอองเวทสีขาวล่องลอยออกไปรอบทิศอย่างรวดเร็และรุนแรงราวสายลมพัดพาออกไป...
ทันใดนั้นรอบกายมีเพียงแค่สีขาว...
"เอ๊ะ มีคนใช้เวทเหรอ...?" ซากุระขมวดคิ้วนิดๆเมื่อสัมผัสได้ถึงไอเวทแปลกๆที่ลอยมาอยูอบกาย "สงสัยเป็นของเอมพ์มั้ง สะอาดแสบตาขนาดโอโมยังอายแบบนี้..." บ่นฮึมฮัมเบาๆแล้วก็ใช้ดวงตาสีเหลืองที่ปรากฏวงเวทบางๆที่ทำให้มองเห็นวงจรเวทของละอองพวกนี้
"เอ๊ ว่าแต่นี่มันเวทอะไรน่ะ ไม่เคยเห็นวงจรเวทแบบนี้เลยแฮะ เอ่ แต่ก็คล้ายๆเวทเขตแดนอยู่น้า หรือว่า..."
คนงามยืนนิ่งแล้วพึมพำกับตัวเอง มือก็คว้ากระดาษกับปากกามาจดสิ่งที่ตัวเองพูดไป ดวงตาก็เอาแต่จ้องไปในอากาศ
สรุปว่า จากที่จะตามหาคน ซากลับมาวิเคราะห์เวทแปลกหน้าแทนซะงั้น...อาเมน...
"คงจะเป็นเวท 'อาณาจักรสีขาว' น่ะค่ะท่านพี่"
"หืม? งั้นเหรอ หน้าที่ 233 บรรทัดที่ 61 ย่อหน้าที่ 3 สินะ..."
"ฉันไม่ได้อัจฉริยะแบบท่านพี่นะคะถึงจะจำได้ขนาดนั้น=____=;;;" บทสนทนาระหว่างลูมินาและโนวาดังขึ้นระหว่างการค้นหาชะงักกระทันหันเพราะมีละอองเวทแปลกๆโผล่มา จนสองพี่น้องต้องหยุดเพื่อมองละอองเหล่านั้นให้ชัดๆ
เอาเป็นว่า...ตอนนี้ก็มีทีมที่สองแล้วที่หยุดการค้นหาลงกระทันหันแล้วมาวิเคราะห์ละอองเวท...อาเมน
ขอให้เธอไปดีนะพาย
(พาย : ตูยังไม่ตายเฟร้ยยยยยย!!? แต่จะตายถ้าเอ็งยังไม่แต่งต่อนี่แหละ!!?)
ไม่ใช่...ไม่ใช่...ไม่ใช่...ไม่ใช่!!
คนงามคำรามในใจอย่างบ้าคลั่งในอาณาจักรสีขาวที่ตัวเองสร้างมา ดวงตาสีเงินนั้นกวาดหาใครบางคนอย่างบ้าคลั่ง สองมือบดทำลายภาพที่ไม่ต้องการทิ้งไป เหงื่อเริ่มไหลซึมขมับขาว ยิ่งห้วงเวลาผ่านไปนานเท่าไร เลือดในกายก็ดูเหมือนจะเย็นเยียบลงเท่านั้น
จนในที่สุดในห้วงคำนึงสีขาว ก็พบเจอกับร่างสองร่างที่นอนหายใจระรวยรินจมกองเลือด...
เจ้าของอาณาจักรสีขาวทรุดตัวลงอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงกระดิ่งกังวานใสดังขึ้นหนึ่งครั้ง แล้วห้วงสำนึกนั้นก็ปริร้าว ก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆราวเป็นเพียงกระจกไร้ค่า
"อึก..." ภูตหนุ่มกระอักลิ่มเลือด ใช้มือที่ไร้เรี่ยวแรงนั้นหยิบรูบิกคิวบ์ทรงใสออกมา เอ่ยเสียงกังวานหวานกรอกใส่ในนั้น "ละติจูด 38 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 45 องศา 12 ลิปดาตะวันออก...ที่นั่น...ค้นพบสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์สองราย นอนจมกองเลือดอยู่ แต่ยังไม่ตาย ขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณนั้นช่วยออกตามหาด้วย"
'รับทราบ'
'รับทราบ'
'รับทราบ'
มีเสียงตอบกลับไม่น้อยกว่าสามเสียง ร่างบอบบางนั้นใช้หลังมือปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากลวกๆ แล้วติดต่อไปหาสองพี่น้องตระกูลวอลตาร์
"โยกินะ โมจิฮิ"
'ค่ะ คะ? เอ้อ เอมพ์ซัง!! เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไม...'
"อย่าเพิ่งถามอะไร ตอนนี้ฉันอยู่ตรงที่รวมพลครั้งแรก มาหาฉัน"
'อะ...ค่ะ!' โกินะตอบ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีร่างของโยกินะและโมจิฮิก็มาถึงที่นัดหมาย
แล้วพบภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าชาตินี้จะได้เห็น
ร่างของเอมพ์นั้นเอนไปกับต้นไม้ใหญ่ แผ่นอกบางหอบกระเพื่อม ดวงตาสีเงินทีไม่ว่าจะมองภาพอะไรก็พร่าเลือน ทั้งมุมปากยังมีเลือดสีแดงหลั่งออกมา
"มาก็ดีแล้ว ฟังนะ จับแขนฉันไว้ เราจะเทเลพอร์ตไปที่ที่ฉันบอกเมื่อกี๊"
ที่เอมพ์สั่งให้สองคนนี้มาหาก็เพราะอย่างนี้นี่ล่ะ สองคนนี้ไม่มีเวทสักบทสำหรับเคลื่อนย้ายระยะไกล ขณะที่ทุกทีมที่ออกไปตามหานั้นก็มีใครสักคนที่ใช้เวทเคลื่อนย้ายเป็นบ้าง
"ไม่ได้แล้ว คุณเสียพลังเวทจำนวนมหาศาลในคราวเดียว ถ้ายังฝืนใช้อีก..."
"นายมีสิทธิ์ห้ามฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" ดวงตาสีเงินหรี่ลงอย่างไม่ชอบใจ กะอีแค่พลังเวทแค่นี้ ไม่ทำให้เขาตายหรอกน่า (?) แล้วนายนี่เป็นใคร กล้ามาสั่งเขางั้นเรอะ?
"งั้นก็แล้วแต่แล้วกัน..."
ทั้งสามเทเลพอร์ตมาถึงพิกัดดังกล่าว...มีคนหลายคนที่มาก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนั้นกำลังยืนล้อมกองเลือดนั้นอยู่
"หลีกหน่อย" เอมพ์ปฏิเสธการประคองของโยกินะ ฝืนกายเดินเข้าไปยังวงล้อมนั้น มีหลายคนตกใจกับสภาพของเอมพ์ แต่คนที่เป็นเป้าสายตาตอนนี้ไม่ว่างพอจะมาพินิจอะไรทั้งสิ้น ระหว่างที่เดินตรงเข้าไปก็ร่ายเวทรักษาขั้นอัลติเมตไปด้วย
เมื่อมาถึงใจกลางวงล้อม ลูมินากำลังร่ายเวทอย่างต่อเนืองเพื่อยื้อชีวิตร่างที่นอนหายใจระรินอยู่บนผืนหญ้า เอมพ์ไม่พูดอะไร เพียงซัดเวทที่เพิ่งร่ายจบเข้าไปอย่างไม่มีออมแรง
เฮือก!
พายสะดุ้งเฮือก ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นมานั่ง แล้วยังไม่ทันให้สมองได้ประมวลผลอะไรก็ไอออกมาราวปอดจะหลุด
"เอะ...เอ๋? อุ๊บ! แค่กๆๆ แค่กๆ แค่ก เฮือก แค่กๆๆ น้ำ...ขอน้ำๆ"
เอมพ์ไม่สนใจเสียงไอนั้น หันหน้าไปดูอีกทาง...ไม่คิดจะร่ายเวทรักษาให้แม้แต่น้อย
เวทรักษาขั้นไหน...ก็ไม่สามารถคืนชีพให้กับร่างไร้วิญญาณได้หรอก...
"...ไม่จริงน่า...มีคนตายงั้นเหรอ..." ซากุระพึมพำเบาๆ...ดวงตาสีเหลืองนั้นไม่ฉายแววโศกเศร้า...เขาเพียงแค่ไม่เข้าใจ...
ไม่เข้าใจว่าแค่ภารกิจระดับเอฟนั้นจะอันตรายจนมีคนตายได้ แถมอีกหนึ่งก็บาดเจ็บสาหัสจนแทบจะรั้งชีวิตไว้ไม่อยู่
บรรยากาศในตอนนี้ไม่ได้มีความเศร้าโศก มันมีเพียงสีขาว...มีมากมายหลายคำถามที่ตกันจนยุ่งพันกันอยู่ในสมองไม่หยุดหย่อน
เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ภารกิจนี่ทำให้มีคนตายเชียวหรือ?
เป็นฝีมือของผู้ประสงค์ร้ายรายไหน?
และ...ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้
ภายใต้ห้วงนภายามราตรีสีดำสนิทไร้ดาราและดวงเดือน
ฟันเฟืองตัวเล็กตัวหนึ่งหมุนอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ฟันเฟืองอีกกว่าร้อยพันอันหมุนตาม
ฟันเฟืองนั้นมีชื่อว่า 'ชะตากรรม'
ความคิดเห็น