คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : EPISODE#002
EPISODE#002
The Russian Supercar MARUSSIA B2 สีดำวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อมุ่งหน้าสู่เขตการปกครองทางเหนือของดินแดนยูมิภายในรถหรูชินเรกำลังแอบมองใบหน้าสวยเป็นระยะ
ชุดกิมโมโนจูนิฮิโตเอะที่ยาวระเกะระกะเป็นตัวน่ารำคาญที่สุดเมื่อชินเรคิดจะจับต้อง เพราะเสียเวลาต้องแกะต้องดึง แถมมันยังมีหลายชั้นซึ่งทำให้ชินเรอารมณ์เสียอยู่บ่อยครั้ง
“ให้ตายเถอะจะใส่อะไรหนักหนาว่ะรู้ไหมกูถอดยาก”ชินเร สถบเสียงดังลั่นรถ แต่มันก็ไม่ทำให้ร่างบางหนึ่งตื่นขึ้นมา
“อื.ม..”เสียงครางเบาๆของโซระทำให้ชินเรต้องหันมามองอีกครั้ง ก่อนที่โซระจะพลิกตัวมาทางฝั่งของคนขับ
“สวยเหมือนกันนิ สมกับที่จะมาเป็นเมียกู”ชินเรพูดออกมาด้วยความภูมิใจสุดๆไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะเจอคนที่สวยขนาดนี้มาก่อน
“อือ..”อีกครั้งที่ร่างบางส่งเสียงครางเบาๆออกมา เพราะเคลิ้มไปกับสมผัสนิ่มนวลที่ชินเรมอบให้ มือหนาลูบไล้ไปยังใบหน้าโซระเบามือกลัวจะทำให้โซระรู้สึกเจ็บมากขึ้นไปอีกหลังจากโดนพ่อของตัวเองตบไปหลายฉาก
ทุกการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของชินเร ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาความรักดุเดือน หรือ แม้แต่การกระทำรุนแรงระหว่างพ่อกับลูก
ชินเรอยากจะก้าวเข้าไปห้ามแต่พ่อของตนรั้งเอาไว้สะก่อน
ดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าจริงจังและรักคนรักของตนแค่ไหน แต่อยากให้จำไว้อย่าง ของที่เป็นของ นานามิ ชินเร ไม่มีสิทธิ์จะเป็นคนของคนอื่น
ต่อให้ร้องไห้อ้อนวอนเป็นสายเลือดก็ไม่มีวันยอมปล่อยไปให้ใครเด็ดขาด
...
ขับรถไม่นานก็มาถึงบ้านตนเองที่อยู่ในใจกลางเมืองยูมิด้านทิศเหนือ บ้านสไตล์ญี่ปุ่นประยุกต์เข้ากับร่วมสมัยที่อยู่ตรงหน้าถูกสร้างขึ้นมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
ไม่มีใครในพรรครู้เลยว่า นานามิ อิชชิน สั่งให้สร้างทำไม จนกระทั่งการประชุมแบบลับๆได้ถูกประกาศออกไปพร้อมกับการบอกถึงสาเหตุที่สร้างบ้านแบบญี่ปุ่นประยุกต์ร่วมสมัยนี่ด้วย เพื่อเอาไว้ต้อนรับลูกสะใภ้เอกของบ้าน
บ้านแบบญี่ปุ่นประยุกต์ร่วมสมัยสร้างแยกออกมาจากตัวบ้านหลักเรือนใหญ่ มีสวนขนาดเล็กรายล้อมทำให้บ้านสดใสยิ่งขึ้น บริเวณที่ถัดออกไปคือบ้านของคนในพรรคซึ่งถือได้ว่าบ้านหลังนี้คือใจกลางของบ้านอาศัยของคนในพรรค ถ้าใครคิดจะหนีออกไปมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ทางเข้าออกมีเพียงแค่ทางเดียวนั่นคือต้องเดินภายเข้าไปในตัวบ้านหลัก จะเรียกว่าเป็นคุกก็ได้ก็มันเหมือนอยู่แล้วนิ มีทางออกทางเดียว มีคนเฝ้าตลอดเวลา ไม่สารถจะขยับตัวไปไหนได้เลย
“ถึงบ้านของเราแล้วนะ”ชินเรพูดน้ำเสียงเบาข้างหูร่างบางก่อนจะอุ้มโซระเดินผ่านเข้าไปในบ้านใหญ่ ทุกคนภายในบ้านต่างก้มหัวทำความเคารพกันเป็นแถว บางคนก็แอบมองร่างบางที่ชินเรอุ้มอย่างไม่วางตา ชินเรรู้สึกภูมิใจเมื่อใครเห็นก็ตามพากันอิจฉาคนของตน
เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดหน้าบ้านที่พ่อของตนเองสั่งให้สร้างขึ้นมาใหม่ ตัวบ้านเป็นสีขาวทำมาจากไม้ทั้งหลัง บ้านขนาดกำลังพอดีเหมาะที่จะอยู่กันแค่สองคนเท่านั้น แถมบรรยากาศก็สดชื่นด้วยดอกไม้และพุ่มไม้หลากหลายชนิด โดยอย่างยิ่งกุหลาบแดงและขาวที่แซมอยู่ด้วยกันมันทำให้รู้ถึงความหมายได้ไม่อยากเย็น ความหมายที่ว่า “สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน” นั่นหมายถึงให้รีบเผด็จศึกโซระหรือเปล่านะ หึหึๆ
พ่อจัดการทุกอย่างได้อย่างเหมาะสมไม่ว่าจะเป็นของตกแต่ง หรือแม้กระทั่งสิ่งของเล็กน้อยที่ชินเรไม่เคยรู้สึกถึงมาก่อน นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้แม่รักพ่อก็ได้
ตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถงโล่งมีเพียงโต๊ะตั้งอยู่บนเสื่อทาทามิส่วนนี้น่าจะเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น อีกส่วนที่อยู่ถัดเข้าอีกจะเป็นห้องครัวมีแบบเก้าอี้และแบบนั่งพื้น ส่วนถัดเข้าไปอีกจะเป็นห้องน้ำแบบธรรมชาติมีอ่างน้ำสีขาวให้ลงไปแช่ได้ทั้งตัวและมีฝักบัวแบบสมัยใหม่หรือไม่ก็มีอ่างน้ำที่ให้ตักขึ้นมาอาบแบบโบราณเรียกว่ามีครบจะเลือกอาบแบบไหนก็ได้
ส่วนชั้นที่สองจะประกอบไปด้วยห้องนอนสามแบบ แบบโบราณ แบบประยุกต์ และ แบบสมัยใหม่ ชินเรเลือกที่จะให้ร่างบางของโซระได้นอนพักในห้องแบบโบราณมากกว่า ในห้องนี้เป็นห้องหน้าสุดของตัวบ้าน ด้านข้างจะเป็นหน้าต่างบานเล็ก ส่วนตรงปลายเท้าจะเป็นประตูที่สามารถเปิดรับลมและแสงแดดหรือชมทิวทัศน์ของดอกไม้บริเวณบ้านได้อีกด้วย ฝาผนังมีภาพวาดส่วนต่างๆของต้นไผ่สามภาพไม่ว่าจะเป็นส่วนของลำต้นส่วนของกิ่งและส่วนของใบซึ่งหมายถึงการเจริญเติบโตของทุกๆสิ่งเพราะต้นไผ่เจริญงอกงามและแตกกิ่งก้านออกไปกว้างไกลอย่างรวดเร็ว และมีตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนคำเอาไว้ว่า “สองเราจะเคียงคู่ชั่วนิจนิรันดร์” ถือว่าห้องนี้เป็นไฮไลท์ของบ้านเลยทีเดียว
ชินเรเดินออกไปสำรวจห้องที่เหลืออีกสองห้องมันทำให้ชินเรพอใจมาก ห้องที่สองห้องประยุกต์ระหว่างแบบเก่าและแบบใหม่เน้นโทนสีส้มอ่อนเตียงทำจากไม่เนื้อนวลดูบอบบางแต่คงทนแข็งแรงอยู่บนเสื่อทาทามิสองผืนขนาดใหญ่บนฝาผนังห้องมีตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนเอาไว้ว่า “ท้องทะเลจะไม่เงียบสงบ หากไร้เงาดวงจันทร์อยู่เคียงข้าง”ห้องนี้เครื่องตกแต่งจะน้อยชิ้นเมื่อเทียบกับห้องแรกที่แทบไม่มีของตกแต่งอะไรเลย
ห้องสุดท้ายเน้นโทนสีเข้มกระตุ้นอารมณ์ให้ร้อนแรงตามสไตล์ห้องแบบใหม่ ห้องนี้ดูมีสีสันไม่จืดชืด บนเตียงประกอบไปด้วยชุดหมอนหลากสีทั้งสองด้านมีโคมไฟตั้งอยู่ยิ่งเพิ่มความเร่าร้อนให้กับคู่รักเป็นอย่างดี มีกระจกบานใหญ่เพื่อให้ส่องดูความเรียบร้อยมีเก้าอี้ที่หันมายังเตียงนอนมันช่างวิเศษกว่าห้องอื่น
เมื่อสำรวจเสร็จชอนเรเดินกลับมายังห้องแรกเพื่อดูว่าโซระตื่นหรือยัง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างบางที่นอนอยู่จะตื่น ชินเรเดินลงบันไดจากชั้นสองเพื่อมาดูรายละเอียดตัวบ้านอีกครั้งหนึ่ง จนเดินออกมาทางด้านหลังของบ้านก็ต้องรู้สึกตะลึงกับความสวยที่ไม่เคยคิดว่าบ้านตัวเองจะมีอะไรแบบนี้ด้วย มีที่เบาะรองนั่งกับชุดน้ำชาเล็กๆพร้อมกับบ่อน้ำแบบเก่าที่ต้มน้ำให้อุ่นสามารถจะหย่อนขาลงไปแช่เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้ ชินเรรู้สึกได้ดีเลยว่านี่มันยิ่งกว่าที่ฝันเอาไว้อีก
“ถูกใจไหม ไอ้ลูกชาย”เสียงผู้ชายมีอายุถามขึ้นชินเรจึงหันกลับไปมอง
“แน่นอน มันยิ่งกว่าที่คิดไว้”ชินเรพูดด้วยอาการดีใจผิดกับตอนแรกที่หน้าบอกบุญไม่รับ
“แกจะได้มากกว่านี้ถ้าสามารถพิชิตใจโซระ”นานามิ อิชชิน บอกลูกชายเสียงเรียบ
“หมายความว่าอะไรที่พ่อพูดออกมานะ”ชินเรถามด้วยความสงสัยทำไมอยู่พ่อถึงพูดออกมาแบบนี้
“ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไรหรอก แต่อยากจะเตือนเอาไว้ ยามานากะ โซระ มีวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง แกอย่าคิดจะทำอะไรเขาเด็ดขาด ไม่งั้นฉันไม่เอาแกไว้แน่ไอ้ลูกชาย”นานามิ อิชชิน พูดปรามลูกชายเอาไว้เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
“พ่อจะพูดอะไรกันแน่ พูดมาตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมผมไม่ชอบ”ชินเรหันไปบอกพ่อตัวเอง
“ยามานากะ โซระ จะแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างดินแดนกับแกก็จริงอยู่ แต่วิถีชีวิตของเขาคือการสืบทอดตระกูล”นานามิ อิชชิน พูดไปโดยมองปฏิกิริยาของลูกชายตัวเองไปด้วย
“หมายความว่าอะไร”ชินเรถาม นานามิ อิชชิน เสียงเข้ม
“ก็ตามที่ฉันบอกแกไงล่ะ ว่าเขาต้องสืบทอดตระกูล”นานามิ อิชชิน บอกเสียงนิ่ง
“แล้วยังไง ก็สืบไปสิผมไม่ได้ว่าอะไร”ชินเรยังไม่รู้ความหมายที่แม้จริงที่พ่อตนเองพยายามจะสื่อ
“แกเข้าใจใช่ไหมว่าห้ามล่วงล้ำ หรือ บังคับ ข่มขืน ฝืนใจ หรือ ห้ามมีอะไร กับ ยามานากะ โซระ”ชินเรแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“แล้วพ่อจะสร้างบ้านขึ้นมาทำเพื่ออะไร และดอกไม้นั่นอีก ความหมายนั่นอีก มันหมายความว่าอะไร”ชินเรตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ เหมือนคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย
“ฉันบอกแล้วนะ ว่าจะสร้างรับขวัญสะใภ้เอกของบ้าน”นานามิ อิชชิน พูดด้วยน้ำเสียงเบาลงกว่าเดิม ชินเรรู้ถึงความหมายที่พ่อบอก บ้านนี้ถูกสร้างให้โซระคนเดียวเท่านั้น
“แล้วผมล่ะ พ่อเอาผมไปไว้ที่ไหน”ชินเรถามด้วยน้ำเสียงสั่น
“แกก็กลับไปอยู่ที่ห้องตามเก่าของแกตามเดิมใช้ชีวิตเหมือนเดิมปกติ ส่วนโซระ ฉันจะให้คนรับใช้มาดูแลเขา แกไม่มีหน้าอะไรต้องมาที่นี่อีกออกไปสะ”นานามิ อิชชิน ไล่ลูกชายตัวเองหน้าเฉย
“แล้วที่พ่อบอกตอนต้นล่ะหมายความว่ายังไง ถ้าผมพิชิตใจโซระได้”ชินเรถามออกไปเพราะรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล
“เรื่องแค่นี้แกเอาไปคิดเองไม่เป็นหรือไงว่ะห๊ะ เรื่องโง่ๆฉลาดนัก เรื่องฉลาดๆกลับโง่ นี่แกเป็นลูกฉันแน่เหรอไอ้ชินเร”นานามิ อิชชิน สุดจะทนกับคำถามแต่ลพคำถามของลูกชายตัวเอง
“ผมรู้หรอกน่า ไม่ได้โง่ พ่ออุตส่าห์บอกใบ้ไว้ขนาดนี้แล้วจะทำให้พ่อผิดหวังได้ยังไงกัน ผมมีวิธีของผมที่จะสามารถผูกมัดโซระไว้ไม่ให้ไปไหนจนกว่าจะตายจากกัน”ชิเรพูดดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ถือว่าฉันเตือนแกไปแล้ว อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเพราะฉันจะไม่ช่วยอะไรแกถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามเข้าใจไหม”นานามิ อิชชิน ย้ำกับลูกชายตัวเอง
“ไม่ต้องย้ำ ผมรู้หรอก ส่วนพ่อกลับไปได้แล้ว นี่มันบ้านใหม่ของผมถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องมาเรียก ผมจะไม่ออกไปไหนจนกว่าจะเปิดเรียน และไม่ต้องให้คนเข้ามาวุ่นวายในบ้านด้วย แค่เอาอาหารมาให้แล้วก็ออกไปให้หมด ถ้าเกิดพวกนั้นหัวใจวายตายผมไม่รับผิดชอบนะ”ชินเรพูดแซวพ่อเล่นตามประสา
“เออ ฉันจะจัดการให้ อย่าให้พลาดนะ ไม่มีโอกาสจะแก้ตัว ถ้าโซระหนีมาหาฉันได้ชีวิตแกจบเห่แน่ คนของฝั่งนั้นมาเฝ้าจับตาเราอยู่ด้วย แกคิดก่อนจะทำอะไรก็ดีนะ”นานามิ อิชชิน ยังย้ำเตือนเพราะไอ้ลูกชายตัวดีจะทำให้แผนการล้มได้
“ทำไมพ่อไม่คิดจะเป็นฝ่ายหนีโซระ แล้วก็พาไอ้พวกที่มาจับตาไปเปิดหูเปิดตากับแสงสีของเมืองเราสะล่ะพ่อ สักสามวันเป็นไง”ชินเรเสนอทางให้พ่อจัดการตัวเกะกะ
“ตามนั้น แค่สามวันเท่านั้นนะ”นานามิ อิชชินบอก่อนจะเดินไปยังบ้านหลักเรือนใหญ่ของตน โดยปล่อยให้ลูกชายยืนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียวก่อนจะมองขึ้นไปยังห้องนอนที่โซระกำลังนอนอยู่
...
สายตาชินเรยังคงทอดมองไปยังร่างของโซระที่นอนหลับอยู่อย่างหลงใหล บางทีห้องนี้มันก้เหมาะกับการมีอะไรตอนรับการตกของดวงอาทิตย์เหมือนกันนะ
มันอาจจะทำให้โซระดูสวยกว่าเดิมก็ได้เหมือนผิวขาวนั่นกระทบกระแสงสีส้มของดวงตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้า ถ้าตอนกลางคืนมีแรงของดวงจันทร์สักหน่อยโซระเองก็คงจะสวยไม่แพ้กัน
พรืด..
เสียงเชือกที่ผูกเสียงหลุดออกจากกัน
“โซระ ถ้านายกลายเป็นของฉันแล้ว นายยังจะเฝ้าฝันหาคนที่นายรักอยู่หรือเปล่า”ชินเรใช้มือดึงเชือกที่ผูกเสื้อของโซระออกอบ่างเบามือ พลางก้มหน้าลงไปยังซอกคอขาวพร้อมกับซิบข้างหูนั่น
“อือ..”โซระรู้สึกถึงการรบกวนการนอนแปลกแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูเพราะพื้นที่ข้างๆอุ่นกว่าที่ตัวเองนอนอยู่จึงพลิกเข้าไปหาโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
“น่ารักเหลือเกินโซระ จนฉันห้ามใจไม่อยู่ คืนนี้เราจะขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน ฉันจะไม่หยุดจนกว่าความต้องการของฉันจะหมดลง”ชินเรพูดได้เท่านั้นก่อนจะลงมือแกะชุดกิมโมโนออก
“หืม..อ๊ะ เจ้าทำบ้าอะไรของน่ะไอ้คนชั้นต่ำ”เหมือนชินเรจะรีบเกินไปหน่อยจึงเผลอดึงชุดออกอย่างแรงจนทำให้ร่างบางตื่นขึ้นมา
เพี๊ยะ..
เสียงโซระตบหน้าของขินเร
“ตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว จำหน้าคนที่จะเป็นตัวตัวเองไว้ให้ดีล่ะโซระ”ชินเรพูดเสียงเข้มทำให้โซระกับอาการของคนตรงหน้า
“อย่าฝันไปหน่อยเลย.. ถอยไปนะ..”โซระพยายามดิ้นหนีออกจากชินเรอย่างสุดกำลัง แต่มีหรือที่ชินเรจะปล่อยให้โซระทำแบบนั้นได้
เปรี้ยง..
โซระถีบเข้าที่หน้าท้องของชินเร ทำให้ชินเรถอยออกไปจากตัวของโซระเล็กน้อย ก่อนที่โซระจะใช้จังหวะนั้นวิ่งหนีชินเรลงมาข้างล่างพร้อมกับตะโกนให้คนช่วย
“แสบหนักนะโซระ ไม่เจ็บตัวคงจะไม่จำสินะ”ชินเรพูดพึมพำกับตัวเองก่อนจะวิ่งตามโซระอย่ารวดเร็ว
“มีใครอยู่ไหม ใครก็ได้ช่วยข้าที ข้าถูกจับตัวมา ช่วยข้าด้วย”โซระ ตะโกนเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเงียบผิดปกติ โซระพยายามมองหาแต่ก็ไม่พบใครเลย
“ร้องไปก็เท่านั้น ไม่มีใครมาช่วยหรอกกลับมากับฉันสะดีๆ อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังนะโซระ”ชินเรบอกเสียงเหี้ยม
“ไม่มีวัน ข้าไม่รู้จักคนต่ำๆแบบเจ้า เรื่องอะไรข้าจะต้องไว้ใจเจ้าด้วย”โซระบอกก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านหลัก แต่ชินเรวิ่งมาจับตัวได้สะก่อน
หมับ..
ชินเรกอดโซระแน่น
“ถึงฉันจะต่ำยังไง อย่างน้อยฉันก็กำลังจะเป็นผัวนายนะครับโซระ..”ชินเรพูดขณะกอดโซระเอาไว้กลัวว่าโซระจะหายไปไหนสะอย่างนั้น
“หยุดพูดเรื่องเหลวไหลได้แล้ว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ข้าต้องรีบไปพาตัวชิองกลับมานะ ปล่อยข้าสักที”โซระพยายามดิ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ
“ถ้าต้องการแค่นั้นฉันช่วยนายก็ได้เอาไหมล่ะ”ชินเรพูดออกไปเพราะโซระต้องสนใจแน่
“เจ้าต้องการอะไร ทรัพย์สินเงินทองใช่ไหม ถ้าข้ากลับไปถึงดินแดนของข้าเมื่อไรข้าจะให้เจ้า”โซระบบอกถึงค่าตอบแทนถ้าชินเรยอมช่วยตนเอง
“ไม่ต้องเอาเงินมาให้ฉันหรอก ฉันต้องการอย่างอื่นจากนาย แค่นายรับปากว่าจะให้ฉันก็ยินดีช่วย”ชินเรพูดเกลี้ยกล่อมโซระดีๆเพราะไม่อยากจะรุนแรงทำให้โซระมีแผลเพิ่มขึ้นอีก แค่ชินเรเห็นรอบตบบนหน้าก็แทบขาดใจแล้ว
“เจ้าบอกมาก่อนว่าจะเอาอะไร”โซระต่อรองเพราะถ้าเกิดให้โซระไปทำเรื่องไม่ดีมันจะเสื่อมเสียมาถึงวงศ์ตระกูล
“รับรองนายให้ฉันได้สบายมาก เอาล่ะไปกันเถอะ”ชินเรปล่อยโซระก่อนจะเดินนำโซระเข้าไปในบ้านหลักเพื่อจะไปหาบ้านเพื่อนสนิทนั่นคือไอ้เซริว
“นี่ไม่มีใครอยู่เหรอ..ทำไมมันเงียบจังล่ะ”โซระถามเสียงสั่นนิดหน่อย แต่ชินเรก็พอจะรู้เลยหันกลับมาโซระพร้อมกับเอื้อมมือไปผูกเชื่อเสื้อกิมโมโนให้โซระ
“ถ้าเกิดเดินไปแบบนี้นายไม่รอดมือฉันแน่โซระ จับมือกันเดินไปแล้วกันจะได้ไม่หลงทาง”ชินเรยื่นมือไปให้โซระจับ แต่โซระก็ลังเลที่จะจับมือชินเรเพราะไม่คุ้นเคยด้วย
“ไม่ดีกว่า..อ๊ะ..”โซระตกใจเมื่อชินเรจับมือตัวเองก่อนจะเดินลากให้ตามร่างสูงออกไป
“อย่าดื้อกับฉันฉันไม่ชอบ”ชินเรพูดบอกโดยไม่หันหนากลับมามองโซระ
เดินไม่เท่าไรก็มาถึงรบคันโปรดของชินเร แต่โซระก็ยังไม่ขึ้นไปนั่งทั้งที่ชินเรขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับแล้ว
“ทำไรอยู่..ขึ้นมาสิจะไปไหม”ชินเรพูดเมื่อเก็นว่าโวระไม่ขยับ
“ข้าไม่เคยขึ้นน่ะ”โซระพูดเสียงเบา ทำให้ชินเรต้องลงมาจากขึ้นเพื่อเปิดประตูให้โซระเข้าไปนั่ง
“ขึ้นไปสิ ฉันเปิดให้แล้ว..”ชินเรบอกโซระ เมื่อเห็นโซระยังนิ่งชินเรก็ถอนหายใจก่อนจะจับตัวโซระให้ก้มลงไปในรถแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความปลอดภัย ส่วนตัวเองก็รีบไปขึ้นรถทันที
“เจ้านี่ใจดีผิดกับหน้าตานะ”โซระพูดเมื่อชินเรกำลังจะขับรถออกไปจากตัวบ้าน
“นึกว่าจะพูดอะไร..”ชินเรพูดพลางยิ้มนิดๆก่อนจะปรับเบาะที่นั่งของโซระให้เอียงลง
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ..”โซระตกใจที่จู่ๆเบาะที่นั่งเลื่อนลง
“อีกไกลกว่าจะถึง นอนไปก่อนถึงแล้วจะปลุก”ชินเรพูดกับโซระอ่อนโยนทุกครั้งไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
“อืม..”โซระรับคำก่อนจะหลับตาลงและพลิกตัวมาทางชินเร ชินเรเองก็รู้สึกเอ็นดูกับท่าทางน่ารักนั่น ก่อนที่จะยกมือเกลี่ยไลผมที่ปกคลุมอยู่บนใบหน้าสวยออก
รถกำลังเคลื่อนตัวออกไปช้าๆแล้วเร่งความเร็วขึ้นเมื่ออกสู่ถนนใหญ่ มือของชินเรกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยและกดโทรออกไป แต่ก็มีเสียงปลายสาบว่าให้ฝากข้อความเอาไว้แทน ชินเรพลางคิดว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ของตน
ชินเรไม่อยากจะใส่ใจเท่าไรเพราะอีกไม่แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็เจอกันแล้วค่อยถามตอนนั้นก็ได้ ไม่ต้องรีบไปหรอกยังไงก็ต้องเจอกันอยู่ดี..
TBC
ความคิดเห็น