คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ระวังอายแชโดร์ อายไลน์เนอร์ จุลินทรีย์ปนเปื้อน เสี่ยงตาบอด
ระวังอายแชโดร์ อายไลน์เนอร์ จุลินทรีย์ปนเปื้อน เสี่ยงตาบอด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2550 10:13 น.
กรมวิทย์ฯ สำรวจพบเครื่องสำอาง อายแชโดร์ อายไลน์เนอร์ อายครีม ดินสอเขียนขอบตา มีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อน เสี่ยงตาบอด รวมทั้งอุปกรณ์แปรงปัดขนตา พู่กันควรมีคุณภาพ เตือนระวังสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แนะซื้อเครื่องสำอางที่มีฉลากภาษาไทยกำกับ และอ่านฉลากให้ละเอียด
วานนี้ (28 ส.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี ในการประชุมวิชาการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 15 มีการนำเสนอผลการวิจัยเรื่อง แนวโน้มความเสี่ยงด้านจุลชีววิทยาในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตาจากผู้ผลิตทั้งในประเทศต่างประเทศ โดย น.ส.สิริมา สายรวมญาติ กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยได้มีการเริ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2547-กุมภาพันธ์ 2549 ประกอบด้วย อายแชโดว์ อายไลน์เนอร์ ดินสอเขียนขอบตา อายครีม อายเจล มาสคาร่า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรอบดวงตา รวมจำนวน 265 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์ด้านจุลชีววิทยา ปรากฏว่า พบผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน 13 ตัวอย่าง คิดเป็น ร้อยละ 4.9 โดยพบเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคได้ เช่น Clostridium spp., Pseudomonas seruginosa และ Streptococ-cus casseliflavus มากถึง 10 ตัวอย่าง
น.ส.สิริมา กล่าวว่า ผู้บริโภคที่ที่ใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาที่มีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนดังกล่าว จะมีความเสี่ยงสูงต่อดวงตา ทางกองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย จึงได้ทำการสำรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรอบดวงตาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มเก็บตัวอย่างครั้งที่ 2 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2549-มิถุนายน 2550 เพื่อเปรียบเทียบผลการสำรวจกับครั้งแรก โดยได้เก็บตัวอย่างเพิ่มอีก 108 ตัวอย่าง ปรากฏว่า พบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน 7 ตัวอย่าง คิดเป็น ร้อยละ 6.5 โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณเชื้อปนเปื้อนเกินมาตรฐาน แต่ไม่พบจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
“ผลิตภัณฑ์ที่พบว่ามีเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนมากที่สุดคือ อายแชโดว์ชนิดผง พบมากเกิน 14 ตัวอย่าง รองลงมาคือ อายครีม หรืออายเจล และดินสอ หรืออายไลน์เนอร์เขียนขอบตา ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศแถบเอเชีย และนำเข้าจากบริษัทเดียวกัน และเป็นสินค้าที่ผลิตภายใต้การกำกับดูแลเครื่องสำอางเป็นหนึ่งเดียวกันแห่งอาเซียนหรือ The ASEAN HarmoniZed Cosmetic Regulations scheme , AHCRS ส่วนมาสคาร่า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรอบดวงตาไม่พบว่ามีการปนเปื้อน” น.ส.สิริมากล่าว
น.ส.สิริมา กล่าวต่อว่า หากทาอายแชโดว์ หรือใช้อายไลนเนอร์ ที่มีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Clostridium ในปริมาณมากๆ และใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะเป็นอันตรายต่อดวงตา ทำให้ตาอักเสบจากการติดเชื้อ และอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด รวมถึงอุปกรณ์ในการตกแต่งรอบดวงตา ทั้ง แปรงปัดขนตา พู่กัน ก็ควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่ที่บอบบาง เป็นเนื้อเยื้ออ่อน มีความเสี่ยงที่จะเกิดบาดแผลรอบตาได้ง่าย และหากมีบาดแผลแล้วไปใช้เครื่องสำอางที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนก็ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่ายยิ่งขึ้น
น.ส.สิริมา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอายแชโดว์ เป็นเครื่องสำอางประเภท oil-based มีส่วนผสมเป็นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งมีปริมาณน้ำอิสระอยู่ จึงเป็นสภาวะที่เชื้อแบคทีเรียไม่สามารถที่เจริญเติบโตได้ แต่ขณะเดียวกันเชื้อรา และสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียสามารถทนต่อสภาวะนี้ได้ และเมื่อผู้บริโภคนำผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์มาใช้ทารอบดวงตาก็ทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ เพราะเชื้อรา แบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตอยู่ในสภาพผิวหนังของผู้ใช้ได้ต่อ
ด้าน นางสุวรรณา จารุนุช ผู้อำนวยการกองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์รอบดวงตาทุกชนิดทั้งที่ผลิตจากประเทศไทย และนำเข้า จะต้องที่มีฉลากเป็นภาษาไทยกำกับทุกครั้ง และฉลากจะต้องระบุข้อมูลครบถ้วนทั้งวันที่ผลิต หมดอายุ สถานที่ผลิต และส่วนผสม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสำคัญกับฉลาก แต่กลับให้ความสนใจเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่สวยงานเท่านั้น นอกจากนี้ต้องใส่ใจกับคำเตือนข้างกล่องด้วย เช่น การกำหนดอายุการใช้งานหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก เพราะเครื่องสำอางบางชนิดมีอายุการใช้งานเพียง 6 เดือนเท่านั้นหลังจากที่เปิดใช้แล้วครั้งแรก รวมถึงบางชนิดต้องเก็บให้พ้นแสงแดด ที่สำคัญจะต้องไม่ใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่นเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเฉพาะจากคนอื่นได้
ความคิดเห็น