ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ❤__{'10 ดินเนอร์นรกแตก
10
ดินเนอร์นรกแตก
เรากลับมาถึงนิวยอร์กประมาณตีหนึ่งกว่าๆ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปหลับ มีแค่เฮคเทอร์กับคริสโตเฟอร์ที่นอนกองกันอยู่บนโซฟาเพราะเล่นน้ำจนหมดแรง ส่วนฌอนพอลงรถแล้วหมอนั่นก็ตรงดิ่งเข้าห้องไปเลย ตอนที่ฉันเอายาเข้าไปให้(เห็นบอกว่าปวดหัว)ก็เกือบจะกรี๊ดตามสัญชาตญาณผู้หญิงที่เห็นผู้ชายนอนเปลือยมีแต่ผ้าขนหนูพันรอบเอวเท่านั้น แต่ฉันตกใจกับอุณภูมิในห้องมากกว่า ก็ไอ้คุณฌอนเล่นเปิดตั้ง 8 องศา ไม่หนาวตายก็ให้มันรู้ไปสิ -_-
แล้ววาร์เล็ทน่ะไม่ต้องพูดถึงหรอก พอกลับมาก็ต้องเอาน้ำแข็งประคบเกือบทั้งตัว เพราะหลังจากที่มันบ้ามากัดพุงฉัน ฉันก็ทั้งจิก ทั้งหยิก แล้วก็เอาแฟ้มเอกสารระดมทุบจนหมอนั่นมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆตามตัว สมน้ำหน้า บังอาจมากัดพุงฉัน =_=^ ถึงฉันจะประหลาดไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ฉันก็มีจุดหวงแหนเหมือนผู้หญิงคนอื่นอยู่นะ ก็แอบอายนิดๆแหละ ฉันไม่ได้หุ่นสลิมแบบพวกนางแบบพวกนั่นนี่ แถมเมื่อก่อนฉันน่ะอยู่แต่บ้าน มีแต่กินกับนอน แล้วก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลยด้วย
เอาล่ะ! วันนี้ The Thief ต้องซ้อม ซ้อม ซ้อม และซ้อม อ้อ ท่านประธานหรือก็คือคุณพ่อบอกมาว่าอยากให้มีเพลงป็อบผสมอาร์แอนด์บีอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย แล้วก็อยากจะได้นักร้องหญิงมาร้องคู่กับวาร์เล็ท พอมาอยู่ในฐานะลูกน้องแล้วรู้สึกว่าพ่อของฉันจู้จี้จุกจิกใช่ย่อยเหมือนกัน เมื่อก่อนอยู่ในฐานะลูกสาว ไม่ค่อยได้เจอพ่อเท่าไหร่ ได้เจอแค่ตอนเช้ากับตอนเย็นเท่านั้น ฉันเลยรู้สึกว่าพ่อใจดีจัง ตามใจฉันทุกเรื่องเลย แต่ก็นะ ฉันคิดไว้แล้วล่ะว่าถ้าเกิดข้อตกลงที่ให้กับพ่อไว้สำเร็จ ฉันจะไปอยู่ที่อิตาลีหรือไม่ก็ที่อังกฤษ
“นี่พวกนาย จะสายแล้วนะรีบๆกันหน่อยสิ วันนี้ฉันต้องรีบเข้าบริษัทนะ -_-^”
“คร้าบคุณแม่ >..<”
“ถ้าไม่รีบฉันจะเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายแล้วล่ะคริสโตเฟอร์!”
ให้ตายสิ ปลุกพวกนี้อย่างกับปลุกเจ้าหญิงนิทรา ฉันปลุกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าแล้วผ่านไปสามสิบนาทีก็ยังไม่มีใครตื่นสักคน ตอนนี้จะเก้าโมงแล้ว ที่จริงฉันไม่รีบหรอก แค่โม้ไป เผื่อพวกนี้จะได้เร่งสปีดกันขึ้นมาหน่อย
“อ้าวไอ้เล็ท โดนแฟนคลับรุมทึ้งมาหรอวะ ทำไมเละแบบนี้ล่ะ O.o”
“T^T แฟนคลับบ้าอะไร คุณผู้จัดการตัวดีนี่แหละ เจ็บเป็นบ้าเลย เห็นตัวเล็กแบบนี้ไม่คิดเล้ยว่าจะแรงเยอะขนาดนี้ ฮืออ”
“วาร์เล็ท คริสโตเฟอร์ วันนี้พวกนายต้องแต่งเพลงมาให้ฉันคนละสองเพลง!! -_-^”
“โฮ๊ะๆ สมน้ำหน้า นี่ต้องทำตัวน่ารักแบบฉันนี่สิดัฟถึงจะรัก -w-”
“ของนายสามเพลงเลยดีมั้ยเฮคเทอร์ -_-+”
“พะ
เพลงเดียวก็พอแล้วจ้า T^T”
การซ้อมวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี เพราะฉันให้พวกนั้นแต่งเพลงมาให้คนละเพลง ยกเว้นวาร์เล็ท เพราะหมอนี่มัวแต่วุ่นวายกับการใส่ทำนองเพลงที่แต่งเมื่อวาน ในความคิดเห็นของฉัน ฉันชอบเพลง I’m over the moon มากกว่า ทั้งเรื่องความหมายที่ดูเรียบง่ายแต่กลับกินใจแล้วก็ยังเป็นเพลงที่ฟังแล้วสบายหู มันไม่ใช่เพลงจังหวะร็อคชวนหัวใจวาย แล้วก็ไม่ใช่เพลงช้าที่จะทำให้เคลิ้มหลับ ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นเพลงแนวไหน บอกแล้วไงว่าฉันไม่ถนัดเรื่องนี้
เย็นนี้ฉันมีดินเนอร์กับคนแปลกหน้า ก็อีตาโนอาห์นั่นไง หมอนั่นรู้จักกับพ่อของฉัน แถมยังแอบไปสืบประวัติของฉันมาด้วยว่าฉันเป็นคนที่ไม่กล้าปฏิเสธคำขอของพ่อ คงจะเดากันออกนะว่าหมอนั่นขอพาฉันไปดินเนอร์ที่พ่อ ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ แต่ฉันอยากจะพักผ่อนซะมากกว่า
ฉันหนีกลับบ้านมาก่อนโดยไม่ได้บอกอะไรพวกนั้นว่าฉันจะไปดินเนอร์ข้างนอกกับนายโนอาห์นั่น พอถึงบ้านฉันก็เข้าครัวไปทำอาหารแล้วก็จัดการแพ็กใส่ตู้เย็น กว่าพวกนั้นจะกลับบ้านก็คงอีกสักสองชั่วโมง แล้วฉันก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องออกไปดินเนอร์นอกบ้านกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ ฉันเลยตัดสินใจหยิบเสื้อที่วาร์เล็ทซื้อให้ฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าหมอนั่นแอบไปซื้อมาจากไหน แต่ทุกคนในวงบอกว่าตัวนี้แหละเหมาะกับฉันที่สุด มันเป็นเดรสสีครีมอ่อนๆที่ดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ฉันชอบตรงเสื้อคลุมแขนยาวที่เป็นผ้าโปร่งลายดอกซากุระสีชมพูอ่อนนั่นอ่ะนะ มันดูน่ารักดี -_-‘
“เฮ้สาวน้อย เธอปล่อยให้ฉันนั่งรอมาได้เกือบชั่วโมงเต็มๆ อันที่จริงก็จะโกรธแล้วล่ะ แต่เห็นเธอน่ารักแบบนี้ ฉันอภัยให้ ^^”
“เงียบเถอะน่า แล้ววันนี้จะไปที่ไหน”
“มันอาจจะไม่เป็นแบบที่เธอคิดหรอกนะ มันไม่ใช่สถานที่ไฮโซอะไรนักหรอก ก็แค่ร้านอาหารจีนแถวๆย่านไชน่าทาวน์ เธอคิดว่าไง”
โนอาห์ยักคิ้วให้ฉันเป็นเชิงขอความเห็น แต่ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะกำลังเขียนโน้ตบอกกับ The Thief ประมาณว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก อาหารก็อยู่ในตู้เย็นให้เอามาอุ่นเองก็แล้วกัน
“เชิญเลยคร้าบคุณผู้หญิง นี่คือ BMW รุ่นล่าสุดที่ฉันภูมิใจนำเสนอ ^^”
“รีบๆไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นกลับมา นายได้ถูกไอ้บ้าวาร์เล็ทต่อยอีกรอบหรอก”
และแล้วตอนนี้ฉันก็มายืนอยู่หน้าร้านอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แต่กลิ่นอาหารหอมฉุยมาตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไปในร้านเลย รู้สึกว่าเมื่อวานทั้งวันฉันไม่ได้กินอะไรเลย แล้ววันนี้ฉันก็กินแค่เบอร์เกอร์ไปนิดเดียวเพราะถูกไอ้บ้าพวกนั้นแอบเอาไปกินตอนที่ฉันเผลอ ไร้มารยาทที่สุดเลย -_-^
“ถามหน่อยสิ เธอเคยกินอาหารจีนมั้ย”
โนอาห์หันมาถามขณะที่กำลังจูงมือฉันเข้าไปยังโต๊ะที่หมอนี่จองไว้
“ไม่เคย แล้วนายก็อย่าหันหน้ามาทางฉันได้มั้ย! เดี๋ยวก็ชนโต๊ะคนอื่นเข้าหรอก”
คนบ้าอะไรยิ้มอยู่นั่นแหละ นี่ขนาดฉันโวยใส่แล้วยังจะมีหน้ามายิ้มระรื่นอีก
“ถึงแล้วครับคุณผู้หญิง อ๊ะอย่าพึ่งนั่งนะ ฉันต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการลากเก้าอี้ให้เธอนั่งก่อน เดี๋ยวเธอจะไม่ประทับใจ ^^”
“=_= เป็นเอามากนะนาย นี่กี่โมงแล้วน่ะ”
“หือ ก็ทุ่มครึ่งแล้วล่ะ ทำไมหรอ อ๋อ สงสัยจะเป็นห่วงพวกนักร้องของเธอสินะ น่าอิจฉาจัง ฉันอยากให้เธอห่วงฉันบ้าง T-T”
ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงล่ะ รำคาญจะแย่แล้ว ตั้งแต่อยู่กับพวกนั้นฉันเริ่มด่าเก่งขึ้น ชอบใช้ความรุนแรงเพราะเวลามันงอแงก็ต้องมีเตะมีตบกันบ้างเป็นบางครั้ง ควรจะดีใจมั้ยที่ฉันพัฒนาได้ขนาดนี้ -_-;
“เรามีเล่นตอบคำถามกันดีกว่า เธอตอบนะ ฉันจะถามเอาล่ะ!”
“แค่สิบคำถามเท่านั้นนะ -_-^”
ฉันต้องรีบปรามหมอนี่ไว้ เพราะกลัวว่าจะถูกถามรัวๆแบบตอนที่รู้จักกับ `The Thief ครั้งแรกนั่น
“โอเค งั้น... จะถามอะไรดีนะ มันมีเป็นร้อยๆคำถามเลยอ่ะ”
“ฉันจะให้เวลานายคิดคำถามไปเรื่อยๆก็แล้วกัน”
ฉันจะได้มีเวลาสำรวจร้านแล้วก็วิวนี่สักหน่อย เพราะตั้งแต่เข้ามาในร้านฉันก็มัวแต่จดจ่อสมาธิกับเสียงฟ้าร้องในท้องของฉันให้มันสงบลงเสียที
บรรยากาศในร้านนี้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคประวัติศาสตร์ของจีน ดูจากลักษณะการตกแต่งฉันคิดว่าเจ้าของร้านคงจะเป็นผู้หญิงที่ชอบความหรูหราหรือไม่ก็พวกรักสวยรักงาม เพราะภายในร้านถูกประดับตกแต่งด้วยรูปของสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีนเป็นคำเรียกสตรีสี่นางที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในประวัติศาสตร์จีนโบราณ โดยทั้งสี่นางนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองพลิกผันถึงขั้นล่มสลายของอาณาจักรหรือเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ ผู้หญิงที่สวมชุดจีนสีน้ำเงินท่าทางเหมือนกำลังทำอะไรสักอย่างข้างลำธารนั่นชื่อไซซี รู้สึกว่าเธอจะอยู่ในสมัยชุนชิวได้รับฉายาว่ามัจฉาจมวารี ซึ่งหมายความว่าความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงปลายังต้องจมลงสู่ใต้น้ำ ถัดจากไซซีก็คือหวังเจาจวิน(ชื่อออกเสียงยากนิดนึง -_-)มีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ฮั่น รูปของเธอดูอลังการที่สุดในบรรดาสี่หญิงงามนี่แล้วล่ะ เธอสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดในมือก็อุ้มพิณที่ห่อด้วยผ้าลินินอย่างดีไว้ ฉากหลังก็เป็นดอกอะไรสักอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับดอกซากุระของญี่ปุ่น(ฉันเรียนเรื่องนี้ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วล่ะ ก็ต้องมีลืมกันบ้าง -__-) หวังเจาจวินมีฉายาว่าปักษีตกนภา ที่แปลว่าความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงนกยังต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า และคนที่สามนี้ ฉันคิดว่าหลายๆคนคงจะรู้จักกันอยู่นะ เตียวเสี้ยน ในเรื่องสาวก๊ก รูปของเตียวเสี้ยนนี้เป็นรูปตอนที่เธอกำลังอธิษฐานต่อดวงจันทร์อยู่ภายในสวนขณะที่มีลมพัดอยู่ ฉายาของเธอคือจันทร์หลบโฉมสุดา ความหมายก็นะ
ความงามที่ทำให้แม้แต่ดวงจันทร์ยังต้องหลบเลี่ยงให้ ส่วนคนสุดท้าย เอิ่ม ฉันจำไม่ได้แฮะ ชื่ออะไรนะ =_=;;
“หยางกุ้ยเฟย อยู่ในช่วงราชวงศ์ถัง ฉายาก็คือมวลผกาละอายนาง ที่แปลว่าความงามที่ทำให้แม้แต่มวลหมู่ดอกไม้ยังต้องละอาย ^^”
“พูดอะไรของนาย -_-^”
ฉันขัดขึ้นขณะที่หมอนี่ทำท่าว่าจะเล่าต่อ นายไม่บอกฉันก็รู้หรอก ฉันแค่กำลังใช้ความคิดและพลังจิตนึกชื่ออยู่ต่างหาก(แบบนี้เรียกว่าอาการหน้าเสียแล้วไม่ยอมรับ)
“ก็ฉันเห็นว่าเธอกำลังมองที่รูปหยางกุ้ยเฟยแล้วก็ทำหน้าเครียดๆไง ฉันเลยคิดว่าเธอคงนึกชื่อไม่ออก”
“
” ฉันเกลียดพวกรู้ทัน -_-!
“โอ้ อาหารมาพอดีเลย นี่เกี๊ยวซ่า ซาลาเปา ฮะเก๋า ขนมจีบ พวกนี้เรียกรวมๆว่าติ่มซำ แล้วนั่นก็เป็ดปักกิ่ง อ๊ะอันนี้คือหมั่นโถว ฉันชอบกินมากๆเลยล่ะลองชิมดูสิ”
ฉันมองตามอาหารแต่ละอย่างที่โนอาห์แนะนำมา ขอบอกเลยว่าฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ฉันลองกัดไอ้ลูกกลมๆที่เรียกว่าหมั่นโถวดู ก็อร่อยดีนะแต่ไม่เห็นจะมีไส้เลย แถมยังมีแต่แป้งอีก ฉันจะต้องอ้วนแน่ๆเลย =_=;;
“เป็นไงอร่อยมั้ย ^^”
“นี่ถือว่าเป็นคำถามที่หนึ่งแล้วนะ”
“-O- ใจร้ายจัง งั้นก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้า ฉันขอถามเธอว่า
เธอชอบผู้ชายแบบไหนหรอดัฟเน”
“ไม่รู้เหมือนกัน -_-^ คำถามต่อไปล่ะ”
“T^T ทำไมเธอตอบแบบนี้อ่ะ ฮือ ฉันเสียไปฟรีๆสองข้อแล้วนะ ข้อสาม! ถ้าฉันให้พรเธอหนึ่งข้อเธอจะขออะไรจากฉัน”
“ขอให้นายถามครบยี่สิบคำถามสักที -_-”
“T_T ขะ
ข้อสี่ เธออยากจะไปประเทศไหนมากที่สุด”
“อิตาลีมั้ง =_=”
เหมือนว่าฉันจะตอบชุ่ยไปรึเปล่า ทำไมโนอาห์ทำหน้าเหมือนอยากจะกรีดร้องอย่างนั้นแหละ ในระหว่างที่รออีตานี่ถามคำถามต่อไป บริกรที่แต่งชุดยูนิฟอร์มไม่เข้ากับร้านก็เดินเข้ามาเสิร์ฟไวน์ แปลกจัง เดี๋ยวนี้ร้านอาหารจีนเค้ามีไวน์กันด้วยหรอ
“บริการพิเศษจากทางร้านครับนี่น้ำส้มสำหรับคุณผู้หญิง ส่วนนี่ก็ไวน์สำหรับคุณผู้ชายครับ”
ฉันว่าเสียงนี้มันคุ้นมากเลยนะ เสียงคล้ายๆกับฌอน
คงไม่ใช่หรอกมั้ง แต่พอเงยหน้าขึ้นไปดูก็พบว่านี่คือฌอน ไอ้บ้าฌอนตัวจริงเสียงจริง แล้วหมอนี่มาทำไม -_-^
“เฮ้ยนี่คุณ!”
“โอ๊ะ ขออภัยครับ”
คุณบริกร(ฌอน)ที่เหมือนจะจงใจทำเป็นมือสั่นขณะยื่นแก้วไวน์ไปให้โนอาห์หกเลอะเสื้อท่อนล่างของเขา นั่นไง -___- แล้วหลังจากนั้นฌอนก็ยิ้มมุมปากให้ฉันก่อนจะถอยห่างออกไปหลังจากแกล้งทำเป็นขอโทษด้วยใบหน้าแสนซื่อ จะว่าไปโนอาห์คงจะไม่เคยเห็นหน้าฌอนเพราะตอนนั้นเขาถูกวาร์เล็ทต่อยเข้าไป เลยทำให้ไม่ได้สนใจคนอื่นที่อยู่รอบข้าง
โผละ!
“โอ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย T^T ไข่ไก่นี่มันมาจากไหนนน”
โถ น่าสงสาร ไอ้คนปาไข่น่ะ มันซ่อนอยู่หลังเสานั่น แปลกใจมั้ยทำไมฉันถึงรู้ -_-^ เพราะก่อนที่เฮคเทอร์จะขว้างไข่นี่มา มันแอบส่งสัญญาณให้ฉันก้มหัวลงเผื่อปาผิด
“ฉันว่าถ้าเราอยู่ต่ออีกสักพักนายอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะ -O-”
ฉันยื่นผ้าเช็ดโต๊ะให้โนอาห์เอาไปเช็ดไข่ที่อยู่บนหัว ฉันคงไม่เสียสละผ้าเช็ดหน้าของฉันให้นายเอาเช็ดไข่เละๆนั่นหรอกนะ เสียดายผ้าเช็ดหน้า
“ก็เพราะว่าปีศาจที่มันตามรังควานฉันมันเปลี่ยนเป้าหมายเป็นรังควานนายแทนยังไงล่ะ -_-”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเป็ดสองสามตัวถูกจับโยนมาที่หัวของโนอาห์ ครั้งนี้ฉันไม่รู้ว่าใครโยนมาหรอกนะ แต่ว่าไอ้เป็ดบ้านี่มันบินเฉี่ยวหน้าฉันไป ให้ตายเถอะ แต่ที่น่าสงสารที่สุดเห็นจะเป็นอีตาโนอาห์นี่แหละนะ ถูกปาไข่จนผมเหนีนวเหนอะแล้วยังจะมีเป็ดบินมาเกาะหัวอีก คราวนี้นายได้เอาแอลกอฮอล์อาบน้ำแน่
“ฉันว่าเรากลับกันเถอะ ฉันอยากอาบน้ำแล้วล่ะดัฟเน T^T”
มันก็สมควรอยู่หรอก โนอาห์กวักมือเรียกบริกรของร้านมาเพื่อเก็บเงิน หลังจากนั้นก็รีบจ้ำอ้าวไปที่รถโดยไม่รอฉันเลย สงสัยจะอายสภาพตัวเองล่ะนะ =_=
“เดี๋ยวฉันไปสะ
อ๊ากกกก ใครมาเจาะยางรถฉานนน TOT เวรเอ้ย ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้าทำแบบนี้วะเนี่ย ดูสิเจาะทั้งสี่ล้อเลย โฮกกกก”
ฉันได้แต่ยืนมองโนอาห์ด้วยความเวทนาอยู่ห่างๆ ฉันควรจะยิ้มสะใจหรือยิ้มปลอบโยนให้กับหมอนี่ดีล่ะ ทำตัวไม่ถูกเลย -_-;;
รถตู้สีดำคันคุ้นตาเคลื่อนเข้ามาหยุดลงตรงหน้าคั่นกลางระหว่างฉันกับโนอาห์ที่กำลังโศกาอาลัยกับยางรถที่ถูกเจาะจนแบน แล้วคนบนรถก็เปิดประตูออกมาก่อนจะลากฉันขึ้นรถ แต่ก่อนจะออกรถไอ้พวกนี้ก็ยังอุตส่าห์แกล้งส่งท้ายด้วยการโปรยกลีบกุหลาบ ซึ่งเหมาะเจาะกับช่วงที่ลมพัดไปทางอีตานั่นพอดี เนื้อตัวที่เหนียวเหนอะไปด้วยไข่ก็เลยเปรียบเสมือนกาวเลยทำให้กลีบดอกกุหลาบติดหนึบเลยล่ะ
สรุปแล้วฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากหมั่นโถวแค่คำเดียว นี่มันดินเนอร์นรกแตกชัดๆเลย -__-
Qreaz. 10
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น