ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You are stealing ให้ตายเถอะ! เธอขโมยหัวใจผม

    ลำดับตอนที่ #11 : ❤__{'9 ลั้ลลาชายทะเล

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 54


    9
    ลั้ลลาชายทะเล
    ผลัก! ตุ้บ!
    “เฮ้ยแกเป็นใครวะ”
    เสียงดังอยู่ข้างๆตัวฉัน ก่อนจะเป็นเสียงของโนอาห์ตามมา ฉันอยากจะลุกขึ้นไปห้าม แต่ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าแขน ขาและแรงหมดไป แม้แต่แรงที่จะเปิดเปลือกตาเพื่อดูเหตุการณ์ตรงหน้าก็ยังไม่มี ฉันได้แต่นอนนิ่ง คอยฟังเสียงนั่น
    “เป็นเจ้าของบ้านเว้ย”
    นั่นเสียงของวาร์เล็ทแน่นอน ฉันจำได้ -_-‘
    “ดัฟเน…เฮ้ ทำไมนอนนิ่งแบบนี้ล่ะ”
    “ไม่สบาย”
    ฉันไม่ได้ตอบนะ นั่นมันไม่ใช่เสียงของฉัน คิดว่าคงเป็นเสียงของโนอาห์
    “ไอ้ฌอน อุ้มดัฟเนออกไปดิ๊ วันนี้อยากต่อยคนว่ะ”
    “อย่าให้หน้าเละก็แล้วกัน =_=”
    ฌอนเข้ามาอุ้มฉันก่อนจะบ่นอุบอิบว่าฉันหนัก -_-+ แน่สิ ฉันไม่ได้ผอมแห้งแบบพวกนางแบบที่พวกนายฝันนี่ แต่ฉันก็ไม่ได้อ้วนนะ ฉันแค่อวบ เฮอะ
    เสียงทะเลาะกันของสองคนนั้นเบาลงเรื่อยๆ ฉันที่เริ่มจะได้สติมาเต็มร้อยแล้ว จึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา
    “ฌอน นายวางฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
    “เสียงเธอดูแหบๆนะว่ามั้ยไอ้คริส”
    เอ๊ะไอ้บ้านี่ ฉันคุยกับนายอยู่นะ จะหันไปคุยกับคนอื่นทำไม -_-!
    “นั่นสิ ฉันรู้สึกแย่แฮะ”
    “แล้วนายจะรู้สึกแย่ทำไมคริส หรือตอนที่ฉันไม่อยู่นายแอบไปจิ๊จ๊ะกับสาวๆในรายการนั่น”
    “-O- คิดไปได้นะคนเรา ที่ฉันรู้สึกแย่เพราะว่าเราที่ใกล้ชิดกับเธอดันไม่รู้ว่าเธอสบายแต่ไอ้หมอนั่นที่มันเป็นใครไม่รู้มันกลับรู้ว่าเธอไม่สบาย แล้วถ้าเราไม่เข้าไปตอนนั้น เธอรู้มั้ย …เธอรู้มั้ยว่ามันจะจูบเธอน่ะ”
    “-_-;; ฉันคิดว่าพวกนายคงจะตาฝาดไปล่ะมั้ง”
    ใช่ พวกนายคงจะตาฝาดไปแล้วแน่ๆ คนอย่างโนอาห์ เอ่อ หมอนั่นคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก ผู้ชายที่สุภาพ อ่อนโยน แล้วก็ยิ้มได้… นะ น่ารักแบบนั้น คงไม่ทำแบบที่ไอ้บ้าคริสว่าหรอก
    “ฉันรู้ว่าเธอกำลังเถียงฉันอยู่ในใจ T^T”
    “ฉันไม่ได้เถียง -_-”
    “T_T ไม่เชื่อ เธอด่าฉันว่าไอ้บ้าคริสด้วยใช่มั้ยล่ะ”
    “ฌอน ปล่อยฉันลง”
    ฉันเกลียดไอ้บ้านี่จัง บอกให้ปล่อยก็ไม่ยอมปล่อย =_=^ หูตึงรึไง นี่ถ้าฉันมีแรงเยอะกว่านี้นะ หึ ฉันจะดิ้นๆแล้วให้นายอุ้มอยู่แบบนี้แหละ ดูซิ จะทนไหวมั้ย
    “อยากให้ปล่อยใช่มั้ย -_-+”
    “ก็ใช่นะสิ -_-++”
    ฌอนทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วก็หัวเราะหึหึ ฉันรู้แล้วว่าไอ้หมอนี่มันจะทำอะไร -__- มันต้องปล่อยฉันลงกับพื้นให้ทรมารก้นหรือไม่ก็ทุ่มลงแบบพวกนักมวยปล้ำอย่างแน่นอน
    ตุ้บ
    “อ๊ะ… -___-”
    เจ็บ ฮ่วย!
     
    1.00 P.M.
    ตอนนี้พวกเราอยู่ที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส ที่นี่เป็นสนามบินที่มีการจารจรทางอากาศหนาแน่นที่สุดในโลกเป็นอันดับห้า โดยบริการผู้โดยสารมากกว่าหกสิบล้านคน และยังเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นี่กว้างมากถึงมากที่สุด แต่ค่าตั๋วแพงชะมัด ดีนะที่บริษัทจ่ายให้เพราะเรามาทำงาน ถ้ามาเที่ยวล่ะก็ ฉันขอนั่งรถไฟมาดีกว่า มันคลาสสิกดี ถึงแม้จะนานก็เถอะ -_-;
    หลังจากที่ถูกฌอนปล่อยลงพื้นด้วยความโหดเหี้ยม ฉันก็รีบเดินเข้าไปห้ามศึกของไอ้บ้าสองคนนั่นที่กำลังตะลุมบอนกันอย่างเมามัน อยากให้บอกผลมั้ยล่ะ ฉันว่ามันเสมอกันนะ หน้าตาแต่ละคนพอกันเลย
    ฉันไล่ให้โนอาห์กลับบ้าน ก่อนกลับหมอนั่นบอกว่าถ้ากลับมาแล้วจะพาฉันไปดะ…ดินเนอร์หรือไม่ก็ไปออกเดทกัน -_-‘ ฉันยังไม่ทันได้ตอบตกลงอะไรเลย มันพูดเองเออเองทั้งนั้น ส่วนไอ้บ้าวาร์เล็ท ไหนๆหน้าหมอนี่ก็เสียหายแล้วฉันเลยตบไปสองฉาด ฉันมีเหตุผลที่ตบก็แล้วกัน
    ครั้งแรก ฉันตบเพราะว่าไอ้บ้านี่วู่วาม เกเร อันธพาล ไม่ฟังเค้าพูดก่อนก็ไปต่อยเค้า
    ครั้งที่สอง ฉันอยากตบ รำคาญมันมานานแล้ว -_-!
    “ทำไมมันร้อนจังเลยวะ T^T”
    “นี่มันหน้าร้อนแถมเรายังอยู่กันที่แคลิฟอร์เนีย จะบ่นอะไรนักหนา อยากโดนตบอีกรึไง -_-^”
    “เออใช่ เธอตบฉัน T__T เจ็บนะ”
    “นายเป็นโรค 2อ. รึไง”
    “-O- อะไรคือ 2อ. ??”
    “(อ่อน)แอและ(สำ)ออยไงล่ะ -__-”
    ปี๊มม ปี๊มปี๊มมม
    เสียงแตรรถแท็กซี่ดังระงมไปทั่ว อันที่จริงทางทีมงานบอกมาว่าจะเอารถมารับ แต่ฉันปฏิเสธเขาไป ไม่รู้ทำไม แต่ฉันอยากขึ้นรถแท็กซี่
    “สวัสดีครับคุณผู้หญิง จะไปที่ไหนกันหรอครับ เดี๋ยวผมไปส่ง ^^” ชายวัยกลางคนผมทองดูท่าท่างใจดีคนหนึ่งเดินเข้ามาทักฉัน
    “สวัสดีค่ะ พวกเราต้องการจะไปที่นิวพอร์ตบีช”
    “โอ้ ย่านคนรวย งั้นเชิญเลยครับ ^^”
    เขาผายมือไปยังรถแท็กซี่คันหนึ่งที่จอดเทียบอยู่ใกล้ๆกับร้านฟาสต์ฟู้ด -_-; ฉันแอบหิวเหมือนกันแฮะ ตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย ท้องโล่งชะมัด
    “เดี๋ยวนะดัฟ แล้วรถของทีมงานอ่ะ แล้วเรามีกันอยู่ห้าคนนะ แล้ว… แล้วรถแท็กซี่คันเล็กๆแบบนี้จะนั่งได้ไง แล้วมันไม่อึดอัดแย่หรอ แล้วฉันจะนั่งตรงไหน T^T”
    เฮคเทอร์ถามฉัน ใช่สิ ฉันยังไม่ได้บอกพวกนี้เรื่องที่เราจะขึ้นแท็กซี่ไปนี่นา
    “ฉันปฏิเสธไปแล้ว เรื่องรถแท็กซี่นี่พวกนายก็อัดกันข้างหลังหมดเลย เดี๋ยวฉันจะนั่งข้างคนขับ -_-”
    “มันอึดอัดแย่น่ะสิ ฉันว่า… เธอมานั่งตักฉันดีกว่า แล้วก็ให้ไอ้ฌอน ไอ้คริส ไอ้เฮคนั่งเบาะหลัง -..-”
    “ไม่ได้! ฉันจะนั่งหน้าคนเดียว”
    “หุหุ ไม่ได้ๆ เธอจะเอาเปรียบพวกเราไม่ได้”
    ไอ้บ้าวาร์เล็ทลากฉันไปที่รถฝั่งข้างคนขับ หมอนั่นเปิดประตูเข้าไปนั่งแล้วก็ดึงฉันลงไปนั่งบนตัก ให้ตายสิ นี่มันอึดอัดชะมัด แถมลมหายใจของเขาก็เป่ารดต้นคอฉันด้วย
    “เธอหนักจัง แต่ว่าฉันชอบแบบนี้แฮะ มันอวบๆนิ่มๆ เหมือนมาชเมลโล่อ่ะ อ๊างงง >_<”
    “นี่อย่าเอาหน้ามาซบหลังฉันนะ -_-!”
    เฮ้อไม่ฟังกันเลยนะไอ้บ้านี่ วาร์เล็ทเอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ฉัน เขาค่อยๆกอดฉันจากข้างหลัง พอฉันดิ้นหนีเขาก็จะยิ่งรัดแน่นขึ้นจนฉันต้องหยุดเพราะฉันเริ่มอึดอัด -__-
    “นี่… เธอหอมจัง -.,-”
    ฟุดฟิดๆ
    “หุบปาก แล้วเลิกดมฉันสักที น่ารำคาญ! =_=+”
    “ก็มันหอมดีนี่ (._.)”
    จะอะไรของหมอนี่ก็ช่างแต่ตาลุงคนนี้ขับรถได้ชวนอ้วกสุดๆ ฉันจะจำหน้าลุงไว้ ถ้าคราวหน้าจะใช้แท็กซี่อีก ฉันจะไม่ขอขึ้นรถของลุงถึงแม้ว่าจะรีบแค่ไหนก็ตาม
    ฉันกลัวว่าถ้าขืนยังมีสติอยู่ต่อไปในขณะที่ลุงนี่ขับรถอยู่ฉันคงจะต้องได้อ้วกออกมาแน่ๆ ฉันเลยพิงเบาะเพื่อจะหลับพักผ่อน อีกนานกว่าจะถึงที่นิวพอร์ตบีช หลับเอาแรงซักหน่อยก็ดี ตื่นมาจะได้มีแรงด่าไอ้พวกบ้านี่
    จึ้กๆ
    “นี่มาชเมลโล่~ ถึงแล้วล่ะ”
    “เออๆรู้แล้ว เลิกสะกิดซักทีมันน่ารำคาญ -_-^”
    “ฉันอยากกลับแล้วอ่ะ มันร้อน ฉันเกลียดแสงแดด โฮกกก T^T”
    ลูกผู้ดีก็แบบนี้แหละ ในบรรดาพวกบ้านี่ นายคริสโตเฟอร์ดูจะเป็นคุณหนูที่สุดแล้วล่ะ เพราะหมอนี่ทั้งขาวจนแทบซีด ผิวก็นุ่มเหมือนเด็กๆ หน้าก็ใสไร้ฝ้า แต่ฉันชอบหมอนี่ตรงที่มีมารยาทนี่แหละ
    “เห็นด้วยเลยไอ้คริส วาร์เล็ทสุดหล่อร้อนไม่ไหวแล้ว TOT”
    “รีบๆไปทำงานได้แล้ว!”
    ใจจริงฉันก็ไม่อยากจะรับงานนี้เท่าไหร่หรอกนะ (แต่พ่อของฉันขอไว้ ก็ตาเจ้าของโปรเจ็กต์นี้เป็นเพื่อนกับพ่อ) เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงจัดทำเฟิร์สอัลบั้มของ The Thief หลังจากที่ยัยผู้จัดการวงคนก่อนๆปล่อยมินิอัลบั้มออกมาอย่างไม่รู้จักกาลเทศะ ทั้งๆที่พึ่งฟอร์มวงมาได้ไม่ถึงสองปี แถมการยังเลิกเพลงเปิดตัวได้โหดสุดขีด เพลง Warming! แต่งโดยไอ้บ้าวาร์เล็ท เป็นเพลงแนวป็อบร็อค ก็ไม่ได้โหดอะไรมากนักหรอก แต่สำหรับฉันมันโหดเพราะมีช่วงที่ต้องหอนหมู่ -_- แต่ความหมายของเพลงก็เหมาะกับชื่อวง ประมาณว่าระวังนะ ผมจะขโมยหัวใจคุณอะไรแบบนี้ บ่งบอกได้เลยว่าคนแต่งมันแรด =_=^
    งานถ่ายแบบตอนนี้เหมือนอะไรๆจะผ่านไปได้ด้วยดี อากาศมันร้อนพวกนั้นเลยตั้งใจทำงานจะได้เสร็จเร็วๆ ฉันรู้หรอก เพราะฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ให้ตายเถอะนี่มันปาเข้าไปจะสี่โมงเย็นแล้วนะ เหลืออีกสองสามชุดก็คงจะเสร็จแล้ว เหมือนจะเป็นครั้งแรกนะที่ฉันได้เห็นซิกแพ็กครบชุด -_-// แต่ละคนนี่ เฮอะ ส่วนบรรดาแฟนคลับก็พากันกรี๊ดกร๊าดดังลั่นตอนที่ไอ้พวกหัวขโมยมันเปลี่ยนชุด เป็นฉันก็คงจะกรี๊ดเหมือนกันแหละเพราะว่ามันไม่มีห้องเปลี่ยนเสื้อให้ ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนกันโต้งๆแบบนั้น นี่ยังดีนะที่มีบ็อกเซอร์กันความอุบาทว์ไว้
    “นี่แกพี่ฌอนเซ็กซี่มากเลย กรี๊ดดดด พี่ฌอนนนน >.,<”
    นั่นคือหนึ่งในเสียงวิจารณ์ของพวกแฟนคลับที่ฉันพอจะฟังรู้เรื่อง แต่มันก็จริงอย่างที่ยัยนั่นพูด เพราะไอ้บ้าฌอนมันเซ็กซี่มากจริงๆ ผิวออกสีน้ำผึ้งอ่อนๆ ซิกแพ็กก็เห็นได้ชัดเจน หน้าตาเรียบเฉยแต่กลับเต็มล้นไปด้วยเสน่ห์ เวลาที่หมอนี่กระตุกยิ้มมุมปาก หรือไม่ก็ทำหน้ายักคิ้วหลิ่วตาแบบกวนๆ พวกแฟนคลับก็จะกรี๊ดลั่น
    “พี่คริสกับพี่เฮคน่ารักอ่ะแก อ๊างง พี่คริสสส พี่เฮคคค oh, my sunshine >O<”
    ยัยพวกนี้…ควรจะไปพบจิตแพทย์ได้แล้วนะ -_-^ กับอีแค่ไอ้บ้าสองคนนั่นมันโบกมือให้ถึงขั้นจะเป็นลมกันไปเลย ไม่ไหวๆ พวกดารางนักร้องนี่นากลัวชะมัด
    “ใครก็หล่อสู้พี่วาร์เล็ทของฉันไม่ได้หรอก ดูซิกแพ็กสิ กรี๊ดดดด อยากจะเป็นลม หล่อละลายยย ~/////~”
    ไม่เห็นจะหล่อเลย พวกเธอตาบอดกันรึไง -_-// ก็แค่ทำผมฟูนิดๆ ซิกแพ็กก็เห็นได้ชะ…ชัดเลยล่ะ ผิวขาวๆมีหยดน้ำเกาะเกือบทั่ว แล้วก็…เอ่อ พอดีกว่า ยิ่งพูดก็ยิ่งหมดความหล่อ
    “นี่พวกแก ผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ แฟนของพี่ๆ The Thief รึเปล่า O_o แต่ว่าสวยจังแค่มองด้านข้างก็ตกหลุมรักแล้ว”
    ฉันคงไม่ตาต่ำไปรักไอ้พวกหัวขโมยนี่หรอก เอาเงินร้อยล้านดอลลาร์มากองให้ฉัน ฉันก็ไม่เอา ให้มาเป็นแฟนกับลิงเนี่ยนะ แค่ดูแลทุกวันนี้น้ำหนักฉันก็ลดลงไปตั้งเยอะแล้ว
    “ไม่จริงนะ T^T นั่นอาจจะเป็นน้องสาวของพี่ๆเค้าก็ได้”
    “ฉันว่าต้องเป็นแฟนแน่เลย >_<”
    ซุบซิบๆ
    แล้วประเด็นฮอตของชั่วโมงนี้ก็กลายเป็ฯฉันซะแล้ว ~ ฮ่วย! พวกเธอจะมาสนใจฉันทำไม ไปสนใจไอ้พวกบ้านู่นสิ ไม่เห็นรึไงว่าพวกมันกำลังเปลี่ยนผ้ากันน่ะ ไปสนใจพวกนั้นสิ อย่ามาสนใจฉัน -_-^^
    “ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้จัดการวงของพวกพี่เอง ^^”
    “กรี๊ดดดดดด พี่วาร์เล็ท >O<”
    เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ไอ้บ้าวาร์เล็ทมายืนอยู่ข้างๆฉัน หมอนี่เอาไหล่มาคล้องคอฉันพร้อมกับโปรยยิ้มมรณะไปให้พวกแฟนคลับที่ยืนอยู่ด้านหลัง พอไอ้บ้าวาร์เล็ทมา คริสโตเฟอร์และเฮคเทอร์ก็ตามมา หรือแม้แต่ฌอน ทำเอายัยพวกแฟนคลับเป็นลมไปแล้วสามคน เชื่อเลยว่ารอยยิ้มของพวกนายคือรอยยิ้มมรณะ =_=
    “เดินมานี่ เสร็จกันแล้วรึไงพวกนาย”
    “อื้อเสร็จแล้ว งั้นเราไปเล่นน้ำได้เลยใช่ป่ะดัฟฟฟ”
    “ตามสบายถ้าไม่กลัวฉลามกัด และแฟนคลับฉุด -_-”
    แล้วคริสโตเฟอร์กับไอ้ไฮเปอร์นั่นก็วิ่งลั้ลลาไปเล่นน้ำกันทันที สงสัยจะร้อนกันมากสินะพวกนาย ส่วนฌอน อืมเหมือนหมอนี่จะฮอตที่สุดในวงแล้วล่ะ เพราะหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว พวกแฟนคลับก็เข้ามารุมขอลายเซ็นต์ ทางวาร์เล็ทก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะหมอนั่นยังไม่ทันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แฟนคลับก็พุ่งเข้าไปขอลายเซ็นต์ พวกคุณอาจจะนึกภาพไม่ออกหรอก แต่ลองคิดว่าไอ้บ้าวาร์เล็ทเป็นเหมือนห้างดังระดับโลกที่ประกาศลดราคาสินค้าลง 70% สิ พวกแฟนคลับที่ได้ลายเซ็นกันแล้วก็ทยอยออกมายืนวิจารณ์ฉันที่นั่งจมอยู่กับกองเอกสารต่างๆ
    กว่าแฟนคลับจะแยกย้ายกันกลับก็ปาเข้าไปเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว ฌอนเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะทำหน้ามุ่ยหึ คงจะเหนื่อยแย่เลยนะ ต้องแจกลายเซ็นตั้งเกือบสองชั่วโมง
    “นี่ฌอน อย่าเอาน้ำมะพร้าวของฉันไปดื่มสิ!”
    ไร้มารยาทที่สุดเลยเอาน้ำของคนอื่นไปดื่มโดยไม่ขออนุญาตแบบนี้เนี่ย ไม่รู้รึไงว่าแก้วนี้มันแพงแค่ไหน มันแพงกว่าที่นิวยอร์กตั้งหนึ่งดอลลาร์แหน่ะ สมแล้วที่มันเป็นย่านคนรวย ข้าวของแพงชะมัด แต่ของบางอย่างถ้าเทียบกับที่นิวยอร์กแล้วก็ถูกเยอะเลยล่ะ
    “เธอไม่เข้าใจความรู้สึกฉันหรอก อากาศก็ร้อน ยังจะถูกแฟนคลับรุมจนจะไม่มีอากาศหายใจอีก นี่ถ้าฉันเป็นพวกอ่อนแออะไรแบบนี้ ฉันคงจะเป็นลมไปนานแล้วล่ะ”
    “ก็ยังดีที่นายไม่ยืนเปลือยท่อนบนให้แฟนคลับเป็นลมเล่นเหมือนไอ้สามตัวนั่นน่ะ -_-//”
    “หึ หวั่นไหวกับซิกแพ็กของพวกเรารึไง แล้วนี่จะกลับกันเมื่อไหร่”
    “อีกสองชั่วโมง คาดว่าคงจะถึงนิวยอร์กประมาณตีหนึ่งล่ะมั้ง”
    ฌอนพยักหน้าหงึกๆแล้วก็เอนหลังนอนลงกับเก้าอี้ผ้าใบ และหมอนี่ก็ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายน้ำมะพร้าวของฉัน
    “หุหุ ดัฟเนที่รัก! เมื่อกี้ฉันแอบไปแต่งเพลงมาล่ะ แล้วก็ไปซื้ออูคูเลเล่มาด้วย ^^”
    วาร์เล็ทเดินเข้ามานั่งขนาบข้างฉันก่อนจะยื่นกระดาษโน้ตมาให้สองแผ่น ฉันไล่สายตาตรวจดูกระดาษใบแรก ชื่อเพลง I’m over the moon งั้นหรอ เฮอะ น้ำเน่าชะมัดเลย สำหรับอเมริกันชนบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำนี้หรืออาจจะเคยได้ยินผ่านๆ ไอ้ I’m over the moon เนี่ยเป็นประโยคที่ผู้ดีอังกฤษเขาชอบพูดกันเวลาที่มีเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต เขาเลยเปรียบกับดวงจันทร์ว่าถ้าเราได้เข้าไปใกล้กับมันคงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด อีกเพลงก็เหมือนจะเป็นเพลงปัญญาอ่อนอ่ะนะ She’s a knock out ความหมายของเพลงก็ออกไปทางเซ็กซี่ -_-// ก็เข้ากับชื่อเพลงดีอยู่หรอกนะ ถ้าพูดถึง Knock out หลายคนอาจจะนึกถึงมวย แต่สำหรับคำว่า She’s a knock out มันหมายถึงว่าผู้หญิงที่สวยอ่ะ สวยมากอะไรแบบนี้ ก็แบบว่าเวลาเราเจอใครที่สวยสุดๆ เราก็จะรู้สึกเหมือนถูกน็อคลงไปแดดิ้นกับพื้น
    “นายไปแอบดูสาวใส่บิกินีมารึไงถึงได้แต่งเพลงนี้น่ะไอ้หื่น -_-^”
    “-_-;; อย่าเดามั่วแบบนั้นสิ ฉันเริ่มเสียใจแล้วนะ”
    ว่าแล้วหมอนี่ก็ฟุบหน้าลงบนตักฉันทำเสียงกระซิกๆ แถมยังเอาแขนทั้งสองข้างมารัดเอวฉันซะแน่นเลย ฉันเลยจัดการดึงหู ทึ้งผมเล่นซะเลย หึ =__= แต่แทนที่ไอ้บ้านี่จะเลิกทำ มันดันมากัดพุงฉัน
    “โว้ยย! มันเจ็บนะไอ้บ้า นี่แหน่ะๆ ตายซะแก!”



     

    # 2 talk with me ; แฮ่ l-. -) ไรเตอร์อยากจะบอกว่าเค้าไม่ได้ดองน๊า ที่ไม่ได้อัพเพราะว่าลืมไปจ่ายค่าเน็ตเลยถูกตัดไปซะงั้น T^T ไรเตอร์ก็เลยต้องรีบเก็บตังค์ไปจ่ายค่าเน็ต(ที่ค้างมาได้สามเดือน) ล่อซะหมดตูดเลยค่ะพ่อแม่พี่น้อง =___=' อุตส่าเก็บตังค์ไว้ซื้อนิยาย
    ในบทนี้ไรเตอร์แอบสอดแทรกสำนวนภาษาอังกฤษเข้าไปสองคำนั่นคือ
    I'm over the moon ที่แปลว่า ผมมีความสุขมวากกก ><//
    และ She's a knock out ซึ่งก็คือ หล่อนสวยสุดๆไปเลย!
    ลาล่ะค่า





    Qreaz. 10
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×