ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You are stealing ให้ตายเถอะ! เธอขโมยหัวใจผม

    ลำดับตอนที่ #6 : ❤__{'4 เรื่องของเรา ฉันไม่อยากจำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 54


    Qreaz. 10

    4
    เรื่องของเรา ฉันไม่อยากจำ
    หลายสัปดาห์มานี้ ฉันต้องรับศึกหนักมากมายกับไอ้พวกหัวขโมยนี่ พวกนั้นคิดว่าฉันโง่รึไง ฉันรู้ทุกอย่าง ฉันรู้ว่าพวกเขากำลังพยายามกำจัดฉันด้วยการก่อกวน ไม่เชื่อฟังฉัน หรือแม้แต่แกล้งฉัน มีบางครั้งที่ฉันทนไม่ได้ แต่ฉันก็ต้องเก็บเงียบไว้ในใจ ฉันอยากรู้นัก ว่าพวกนายจะหมดมุขกันเมื่อไหร่
    “ดัฟเน พวกหนุ่มๆอยู่ที่ไหนหรอจ๊ะตอนนี้”
    วินดี้ถามฉันที่กำลังนั่งเขียนตารางงานให้พวกเขา ในความรู้สึกฉันวินดี้เป็นสไตล์ลิสต์ที่มีความสามารถมาก ถ้าไม่สามารถคงมาเป็นสล์ลิสต์ของวง The Thief ได้หรอก เพราะพวกเขาทั้งเรื่องมาก ดื้อ ซน แถมยังพูดไม่รู้เรื่องอีก วินดี้เคยบอกกับฉันว่าเพราะเป็นงานที่เธอรัก เธอถึงต้องทน แม้ว่ามันจะลำบากแค่ไหน ฉันว่ามุมมองของเธอดีนะ เธอเป็นพวกคิดบวกเสมอ ไม่ว่าจะถูกดุถูกด่าอะไรยังไง แต่เธอก็มักจะยิ้มตอบกลับมา ฉันนับถือเธอเลยล่ะวินดี้ ที่ทนได้ขนาดนี้ -_-‘’
    “ตอนนี้กำลังซ้อมเสียงก่อนอัดเพลงน่ะค่ะ คุณมีอะไรก็ฝากบอกฉันได้นะคะวินดี้”
    “ค่ะ ฉันอยากจะถามว่าผู้หญิงที่จะมาเล่นเอ็มวีตัวใหม่ให้นี้จะเป็นใครหรอคะ ฉันจะได้จัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับเธอ”
    “อืมม ตอนนี้ยังหาใครที่ตรงคอนเซ็ปต์ไม่ได้เลยค่ะ เอาไว้ถ้าหาได้แล้วฉันจะบอกคุณนะคะวินดี้”
    “อ้อ ฉันเกือบลืมบอกคุณ ท่านประธานเรียกพบคุณที่ห้องประชุมใหญ่ค่ะ”
    “ค่ะ”
    ก่อนไปหาพ่อฉันต้องโทรไปบอกพวกเขาก่อนดีกว่า ถ้ากลับมาไม่เจอฉัน พวกเขาจะได้ไม่ต้องโวยวายใส่ฉันว่าไม่รับผิดชอบหน้าที่ =_=’ อ่า อะไรเนี่ย ทำไมช่วงนี้ฉันขี้ลืมบ่อยจัง ฉันลืมไปเลยว่าไอ้พวกหัวขโมยมันจะไม่พกโทรศัพท์ไว้ติดตัว เพราะกลัวพี่โปรดิวเซอร์สุดโหดดุ เป็นฉัน ฉันก็ไม่พกหรอก ก็แต่ละวันมักจะมีพวกแมวมองโทรมาชวนไปเล่นหนัง เล่นละคร หรือไม่ก็มักจะมีแฟนคลับโรคจิตโทรมาบอกรักทุกวันๆ จนพี่โปรดิวเซอร์สุดโหดเค้ารำคาญ ปรี๊ดแตกขึ้นมา
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
    “นี่พวกนะ…นาย ทำอะไรกัน -_-;;”
    “=[ ]=;; เอ่อ คือว่าไอ้เล็ทนะ ฉันไม่ได้ทำอะไร”
    นี่จะได้เวลาอัดเสียงกันอยู่แล้วนะ ยังจะมานั่งดูหนังโป๊กันอยู่ได้ พวกนายนี่มันโรคจิตวิปริตสุดๆ
    “ฉันไม่ได้ว่าอะไรนี่ นายจะร้อนตัวทำไมคริส”
    “(._.) ฉันถูกใส่ร้าย มันไม่ใช่ของฉันนะ ไอ้เฮคเอามา”
    “ไหงโยนกันแบบนี้วะไอ้เล็ท T^T เค้าเปล่านะดัฟฟฟ ~”
    “ฉันจะมาบอกว่าฉันจะไปทำธุระก่อน ถ้าพวกนายอัดเสียงเสร็จแล้วก็กลับบ้านกันได้เลย”
    “เธอจะไปหาชู้หรอที่รัก =_=+”
    พวกคุณรู้มั้ยว่าช่วงที่ฉันมาเป็นผู้จัดการวงไอ้พวกนี้ใหม่ๆน่ะ ฉันเคยมีข่าวกับอีตวาร์เล็ทนี่ด้วยนะ เพราะหมอนี่น่ะชอบเรียกฉันว่าที่รัก ให้พวกนักข่าวเข้าใจผิด แล้วไปเขียนข่าวมั่วๆออกมา มันก็ผ่านมาได้สามอาทิตย์แล้วล่ะ ข่าวเลยเริ่มซา ช่วงนั้นฉันเลยสั่งหมอนี่ไว้ว่าถ้าไม่เลิกเรียกฉันว่าที่รัก ฉันจะเพิ่มตารางซ้อมและคิวออกงานให้แน่นเอี๊ยดเอาจนไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลย
    “แฟนฉันยังไม่มีแล้วจะให้ฉันไปหาชู้ที่ไหนล่ะไอ้บ้า”
    “งั้นเรามาเป็นแฟนกันมั้ย -.-”
    “จ้างฉันด้วยเงินหมื่นล้านดอลล่าฉันก็ไม่เอานายมาเป็นแฟนหรอก!!”
    ปัง
    บ้าจริง ทำไมนายถึงชอบเล่นอะไรบ้าๆแบบนี้นะวาร์เล็ท นายอย่าทำให้ฉันหวั่นไหวจะได้มั้ย บางทีคำพูดเล่นๆของนายอาจจะทำให้ฉันคิดจริง แต่… ไม่มีทางซะหรอก ไอ้บ้าเอ้ย ฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมาฉันถูกพวกนั้นรุกมากเกินไปแล้ว (ในความหมายของฉันคือถูกแกล้ง) ฉันต้องหาวิธีรุกพวกนั้นซะบ้าง จะได้รู้กันไว้ว่าฉันจะไม่ยอมเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียวหรอกนะ พวกนายต้องการแกล้งฉันเพื่อให้ฉันทนไม่ได้ แล้วก็ขอลาออกอย่างนั้นนะเหรอ พวกนายทำแบบนั้นเพราะอยากได้ยัยลี จินอาอะไรนั่นคืนมา ฉันก็เห็นใจอยู่หรอกนะ แต่ถ้าฉันยอมถอยออกไป ไม่ยุ่งกับพวกนาย ฉันก็จะทำในสิ่งที่พ่อต้องการไม่สำเร็จ และฉันก็จะไม่ได้ทำในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันต้องทำให้พวกนายดัง ฉันต้องทำให้พวกนายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก
    “อ้าวดัฟเน่ พึ่งมาถึงหรอ ^^”
    “…ก็อย่างที่พี่เห็นนี่คะ”
    ฉันไม่อยากจะเสวนากับผู้ชายคนนี้สักเท่าไหร่ เขาเป็นคนที่ดูเจ้าชู้ และไม่น่าไว้ใจ ฌอนเคยบอกฉันว่าก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายการตลาด เขาเคยทำผู้หญิงคนหนึ่งท้อง ฌอนบอกให้ฉันระวังตัวไว้ เพราะฌอนคิดว่าผู้ชายคนนี้กำลังจีบฉันเพื่อหวังอะไรบางอย่าง (แบบนี้เค้าเรียกว่าผีย่อมเห็นผีรึเปล่านะ -_- แต่ฌอนไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น)
    “ขอโทษที่มาช้าค่ะ”
    ทำไมวันนี้บรรยากาศในห้องประชุมมันดูมืดมนแบบนี้ หรือจะมีปัญหาอะไรกันนะ แล้วทำไมทุกคนต้องจ้องมาที่ฉันด้วย ฉันไปทำอะไรผิดรึเปล่า =_=’’ ใครก็ได้ ช่วยตอบคำถามฉันที
    “นี่มันก็ผ่านมาได้หนึ่งเดือนแล้วนะดัฟเน เมื่อไหร่พวกเขาจะดังไปทั่วโลกตามที่ลูกสัญญาไว้กับพ่อ”
    “เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามในสิ่งที่หนูพูดค่ะ”
    “แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ฟังลูกล่ะดัฟเน”
    “หนูคิดว่าเรื่องนี้น่าจะรู้กันดีนะคะ ผู้หญิงที่ชื่อลี จินอา”
    “…”
    “เรื่องที่หนูสัญญาไว้กับพ่อ หนูจะทำให้ได้ ในเร็วๆนี้ ขอตัวก่อนนะคะ”
     
    6.00 P.M.
    ฉันนั่งจัดตารางการซ้อมและตารางงานให้พวกเขาใหม่หมด ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำดีกับพวกเขาอีกแล้ว ฉันจะต้องเคร่งกับพวกเขาให้มาก พวกเขาจะได้ดังและฉันจะถือว่านี่เป็นการรุกกลับอีกด้วย -^-‘ พวกนายเสร็จแน่
    “โอ้ยยย เหนื่อยจังเลย ไอ้เล็ทขอเบียร์หน่อยโว้ย”
    “มาถึงก็ดื่มเบียร์เลยนะคริสโตเฟอร์”
    พ่อบอกว่าอยากให้ฉันสนิทกับพวก The Thief ท่านก็เลยให้ฉันออกมาอยู่กับพวกเขาที่บ้านพักหลังหนึ่งในย่านดาวน์ทาวน์ ที่นี่ตอนกลางคืนกับตอนกลางวันดูไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะผู้คนจะเยอะแยะตลอดเวลา และที่ฉันได้ยินมา ที่พวกเขาเลือกมาอยู่ที่นี่ เพราะมีเดอะ ทรอยคาสิโน คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในมหานครนิวยอร์กและยังเป็นคาสิโนของพ่อนายคริสโตเฟอร์
    “ฉันจะออกไปเดินเล่นแถวๆย่านการค้า นี่ตารางงานการซ้อมและตารางงานใหม่ของพวกนาย”
    “O[ ]O!! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้” ฉันคิดไว้แล้วว่าเฮคเทอร์ต้องโวยวายเป็นคนแรก หมอนี่ขี้โวยวาย อะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะบ่นๆ
    “พวกนายต้องซ้อมให้หนักขึ้น และออกต้องงานเยอะๆถ้าอยากดัง”
    “แต่พวกเราบอกเธอแล้วไงว่าไม่อยากดัง”
    “เห็นด้วยเลยไอ้ฌอน”
    “นี่วาร์เล็ท ฌอน ถึงพวกนายไม่อยากดัง ถึงเป้าหมายของพวกนายคือได้เป็นนักร้องแค่นั้นก็พอใจ แต่สำหรับฉัน มันไม่ใช่แบบนั้น พวกนายต้องดัง ถ้าฉันทำให้พวกนายดังไม่สำเร็จภายในหนึ่งเดือนนี้ ฉันจะไม่เป็นผู้จัดการวงของพวกนายอีกแล้ว”
    พูดจบฉันก็เดินไปหยิบรองเท้าและรีบๆออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ เฮ้อ ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันแบบนี้ค่อยผ่อนคลายลงมาบ้าง ฉันเดินดูข้าวของต่างๆในย่านการค้า อ่า ไม่ได้พกเงินออกมาซะด้วยสิ =_=^
    “นี่ฉันอยากกินออมเล็ต เราไปกินกันเถอะ”
    “วาร์เล็ท -_-?? นายมาได้ไง”
    “ฉันก็ตามเธอมาไง ^^”
                    เดี๋ยวนะ แล้วหมอนี่มาจับมือฉันตอนไหน -_- ฉันกำลังจะหันไปส่งสายตาพิฆาต แต่จู่ๆเขาก็ปล่อยมือจากฉันแล้วเปลี่ยนมาโอบไหล่ฉันแทน
    “นี่นาย! ปล่อยฉันนะ เดี๋ยวก็มีนักข่าวบ้าๆพวกนั้นมาเห็นเข้าหรอก”
    “ฉันเป็นอะไรไม่รู้ แต่ฉันอยากจะให้เราเข้าใจกัน”
    “นายไม่ต้องมาล้อฉันเล่นเลยนะ แล้วก็ปล่อยมือออกจากไหล่ฉันได้แล้ว”
    “ฉันบอกเธอรึยังว่าฉันกับจินอา เราเคยรักกัน”
    แล้วทำไมนายต้องบอกฉันด้วย ฉันไม่อยากจะรู้อะไรทั้งนั้น บอกฉันทำไม หรือนายอยากให้ฉันพายัยนั่นกลับมาล่ะ
    “ฉันไม่กินแล้วออมเล็ต คนเยอะชะมัด T^T”
    “ฉันปวดขาแล้ว -_-”
    จริงๆนะ ฉันปวดขามากๆเลย วันนี้ทั้งวันฉันต้องเดินไปนั่นมานี่ตลอดแทบจะไม่ได้นั่งกับที่เลย เพราะเรื่องจัดตารางงานใหม่ของพวกเขา 
    “งั้นเราไปนั่งคุยกับที่สวนตรงนั้นมั้ย”
    “ฉันอยากกลับบ้าน นี่วาร์เล็ทฉันพูดจริงๆนะ ฉันปวดขา นายเลิกแกล้งฉันสักที”
    “ใครบอกว่าฉันแกล้งเธอ ฉันแค่อยากจะคุยปรับความเข้าใจกับเธอต่างหาก ถ้าเธอปวดขาก็ขี่หลังฉันได้นะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก”
    “ไม่! ว้ายย นี่นายจะทำอะไรนะ ปล่อยฉันนะวาร์เล็ท ไอ้บ้าปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไม่เห็นรึไงว่าคนเขามองมาที่เราหมดแล้วนะ ปล่อยฉันลงนะ”
    ไอ้บ้านี่จู่ๆก็อุ้มฉันโดยไม่บอกไม่กล่าวเลยสักนิด แล้วดูสิ เลือกได้ถูกสถานที่มาก นี่มันย่านการค้าดาวน์ทาวน์เชียวนะ คนเยอะแค่ไหนก็น่าจะรู้ แล้วถ้าเกิดเป็นข่าวขึ้นมาพวกนายจะดังได้ยังไงล่ะ
    “ถ้าเธอไม่หยุดดิ้นและโวยวายฉันจะบอกทุกคนว่าเธอเป็นแฟนฉัน ^^+”
    -__- ให้ตายเถอะวาร์เล็ท ทำไมนายถึงได้เป็นสุภาพบุรุษเกินร้อยแบบนี้ ข่มขู่ผู้หญิง เฮอะ ถ้าพวกแฟนคลับเขารู้ว่านายเป็นแบบนี้ จะยังกรี๊ดนายกันอยู่มั้ยนะ
    “ถึงแล้วครับเจ้าหญิงของผม”
    “ถ้านายปล่อยฉันลงนายตายแน่ =_=++”
    “ฮะ ฮะ นี่ไงฉันวางเธอลงเบามากเลยนะ เจ็บมั้ยครับ”
    ตึกตัก ตึกตัก
    อ่า นี่ฉันเป็นอะไรไป ทำไมใจถึงเต้นแรงอย่างนี้ แค่เพราะหมอนี่มาทำดีด้วย ยิ้มให้ฉันถึงกับใจเต้นอย่างงั้นน่ะหรอ แล้วที่ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน ไม่เห็นหัวใจบ้านี่จะเต้นแรงขนาดนี้เลย
    “ดัฟเน เธอจะเปิดใจยอมรับฉันได้มั้ย”
    “…”
    “ให้ตายเถอะ เธอคงจะคิดว่าฉันล้อเธอเล่นแน่ๆเลย ฉันพูดจริงๆนะ ฉันเป็นบ้าอะไรไม่รู้เวลาที่อยู่กับเธอ หัวใจนี่มันจะเต้นแรงจนฉันแทบทนไม่ไหว แบบนี้รึเปล่าที่เรียกว่ารัก”
    “ทำไมนายกับลี จินอาถึงรักกัน”
    “เอ่อ…”
    “นายจะบอกฉันได้มั้ยวาร์เล็ท”
    “ตอนนั้นฉันเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังสับสนกับตัวเองว่าฉันอยากจะทำอะไร ฉันอยากจะเป็นอะไร ฉันพยายามหาคำตอบให้ตัวเอง แต่ฉันก็ล้มเหลว จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้เจอกับจินอา จินอาเป็นนักร้องในคาเฟ่เล็กๆที่บรูคลิน ครั้งแรกที่ฉันพบจินอา ฉันเหมือนตกอยู่ในห้วงอวกาศ ที่ซึ่งฉันไม่สามารถจะบังคับให้ตัวเองอยู่ได้โดยปราศจากอากาศ ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และฉันพยายามทำทุกอย่างให้ได้ใกล้ชิดกับจินอา แต่ฉันก็ทำไม่สำเร็จ ในตอนที่ฉันเหมือนจะหมดหวัง เพื่อนรักหักเหลี่ยมโคตรอย่างไอ้เฮคเทอร์ก็บอกให้ฉันไปสมัครเป็นนักร้องที่คาเฟ่ สุดท้ายแล้วฉันก็ทำสำเร็จ เรารักกันมาได้สองปีกว่าๆ ตอนนั้นที่เซอัน มิวสิคกำลังเปิดรับออดิชั่น พวกฉันเลยไปออดิชั่นที่นั่น ฉันร้องคู่กับจินอา ไอ้เฮคเล่นเบส ไอ้คริสก็เล่นกีต้าร์ ส่วนมือกลองก็ให้พี่ที่คาเฟ่มาเล่นให้ แล้วพวกเราก็ผ่านการออดิชั่น แต่จินอาป่วยทางบริษัทจึงให้เธอมาเป็นผู้จัดการให้พวกเราแทน”
    “…นายอยากได้ลี จินอากลับมาไหม”
    “อยากสิแต่ว่ามัน…”
    “ลึกๆในใจของนาย นายยังรักจินอาอยู่ แล้วนายจะมาทำเล่นๆแบบนี้กับฉันทำไม เรื่องของเราในวันนี้ฉันไม่อยากจำ -_- และจะดีมากถ้านายช่วยลืมมันไปซะ”



     

    # 2 talk with me ; ต้องขอโทษทุกๆคนด้วยนะคะที่มาอัพช้าไป พอดีว่าโน้ตบุ๊คช็อต เลยต้องส่งเค้าศูนย์ เนื่องจากโดนน้ำสาด T^T เสียใจมากเลยค่ะ เพราะอุส่าแต่งได้ 6 ตอนแล้ว และไม่รู้จะกู้ข้อมูลคืนได้รึเปล่า ไรเตอร์ก็เลยตัดใจ คิดว่าถ้ารอได้โน้ตบุ๊คคงเสียเวลา ก็เลยแต่งขึ้นใหม่ซะเลย = w =b
    ยังไงก็ขออภัยด้วนะคะที่มาอัพช้าาา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×