ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You are stealing ให้ตายเถอะ! เธอขโมยหัวใจผม

    ลำดับตอนที่ #2 : ❤__{'1 ฉันกับงานใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 54



    Qreaz. 10 

    1

    ฉันกับงานใหม่

              นครนิวยอร์ก, แมนแฮตตัน

    ฉันคือนักศึกษาจบใหม่และฉันยังไม่มีงานทำ =_=’ อย่ามองฉันเป็นยัยบ้าขี้เกียจอะไรแบบนั้นนะ ที่ยังไม่มีงานทำเพราะว่าคุณพ่อที่รักยิ่งนั่นแหละ ไม่ยอมให้ฉันทำงาน เหตุผลนะหรอ

    ลูกยังเด็กอยู่ พ่อไม่อยากให้ลูกต้องออกไปทำงานห่างไกลพ่อ =3=’

    นั่นเป็นเหตุผลที่บ้ามาก บ้ามากจริงๆ ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ! (ฉันเข้าเรียนเร็ว ก็เลยเรียนจบตอนอายุยี่สิบ) เฮ้ออ ตอนนี้ฉันเลยได้แต่อยู่อย่างสบาย กินๆนอนๆอยู่แต่ในบ้าน ความรู้ที่เรียนมา แทบจะไม่ได้งัดออกมาใช้เลย คุณพ่อของฉันเป็นเจ้าของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเพลง เค้าเรียกกันว่าอะไรนะ ค่ายเพลง อา คงจะใช่ -*-  ก็ฉันจะไปรู้อะไรล่ะ วันๆฉันเอาแต่หมกอยู่บ้าน ตื่นเช้า ทานข้าว อ่านหนังสือ ทานข้าว อ่านหนังสือ และนอน ทำไมชีวิตฉันมันวนเวียนได้แค่นี้ล่ะ เฮ้อ ถ้าเป็นวัยรุ่นคนอื่นๆป่านนี้ชีวิตพวกเค้าคงจะเป็นตื่นเช้า ทานข้าว ออกจากบ้าน เที่ยว เที่ยว เที่ยว กลับบ้าน และนอน

    เดี๋ยวพ่อออกไปทำงานที่บริษัทก่อนนะลูก มีอะไรก็เรียกพวกแม่บ้านมาแล้วกันพ่อพูดขึ้นก่อนจะจัดเน็คไทค์ให้ดี

    ค่ะ =_=”

    ฉันตอบด้วยสีหน้าแห้งเหี่ยว พยายามจะสื่อความหมายให้พ่อรู้ว่าฉันเบื่อกับการจมปลักอยู่ที่บ้านหลังนี้เต็มแก่ ถึงแม้บ้านหลังนี้จะกว้างมากแค่ไหนก็เถอะ

    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิลูก เพราะพ่อเป็นห่วงลูกน่ะ พ่อคิดว่าอายุลูกยังไม่เหมาะที่จะต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก

    พ่อคะ หนูยี่สิบแล้วนะ หนูดูแลตัวเองได้ พ่อให้หนูออกไปทำงานเถอะ

    ยังไงพ่อก็ไม่ให้ลูกออกไปทำงานเด็ดขาด ไม่ใช่ตอนนี้

    ทำไมล่ะคะ? หนูไม่อยากจะอยู่แบบนี้นี่นา

    ลูกกำลังจะทำให้พ่อไปทำงานสายนะ เอาไว้เย็นนี้เราค่อยกลับมาคุยกับอีกทีดีกว่า ^^ พ่อไปล่ะลูกรัก

    อย่าลืมซื้อหนังสือให้หนูด้วยนะคะ -_-”

    ฉันมองพ่อที่กำลังเดินออกไปจากบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เห็นสีหน้าท่าทางของพ่อแล้วฉันไม่อยากจะเถียงอะไรมากเท่าไหร่ ฉันรู้ว่าพ่อคงมีงานหนักๆรออยู่ที่บริษัทดังนั้นฉันคงไม่กวนท่าดีกว่า เดี๋ยวเซ้าซี้มากๆแล้วเกิดพ่อตะบะแตกไล่ฉันออกจากบ้านหรือไม่ก็เตะโด่งฉันไปอยู่ข้างถนนจะทำไง -_-;;

     

    7.00 P.M.

    ครื้นนน ! ครื้นนน

    ซ่า ซ่า ๆ...

    ฝนตก -_- ฉันเกลียดฝนที่สุดเลยเพราะมันทั้งชื้นและแฉะและถ้ามีฝนเมื่อไหร่เสียงฟ้าร้อง (ที่ไม่ทราบว่ามันจะร้องอะไรนักหนา) ตามมาด้วย

    ทำไมพ่อยังไม่กลับมาอีกนะ

    ปกติพ่อของฉันต้องกลับมาก่อนหนึ่งทุ่มทุกวันเลยนี่นา ทำไมวันนี้มันแปลกๆนะ อันที่จริงแปลกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แปลก... แปลกมากด้วย ทุกๆเช้า พ่อจะยิ้มแย้มแจ่มใสก่อนออกไปทำงาน และทุกครั้งท่านจะหอมที่ตรงหน้าผากฉัน แต่วันนี้ไม่ พ่อลืมไปได้ไงนะ ฉันก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอก แค่แปลกใจ อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกแฮะ หรือนี่จะเป็นลางสังหรณ์อะไรสักอย่างงั้นหรอ

    ปิ๊ด ปิ๊ด

    ฉันชักจะรู้สึกหวั่นๆและเป็นห่วงพ่อขึ้นมา เลยออกจากห้องสมุดมาที่ห้องนั่งเล่น เพื่อเปิดทีวีดูข่าวจากรายการบ้าๆที่มียัยพิธีกรที่ฉันรู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยเท่าไหร่(อันที่จริงมากเลยล่ะ) ถ้าฉันจำชื่อไม่ผิด ยัยนั่นชื่อซิดนี่ย์ล่ะมั้ง แล้วฉันจะไปสนใจยัยนี่ทำไมนะ =_=’ ฉันปัดความคิดในหัวบ้าๆนี่ออกไป แล้วก็ตั้งหน้าตั้งหน้าดูข่าว

    สวัสดีค่ะท่านผู้ชม >O< นี่คือรายการเอนเตอร์เทนเมนต์ อัพเดต ~ กับคนเดิมที่ท่านผู้ชมเจอจนเบื่อ  ซิดนี่ย์ ฟรานซ์ แหมแต่อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ วันนี้ซิดมีข่าวใหม่ข่าวดัง!! มาบอกท่านผู้ชมด้วยแหละค่ะ แต่ก่อนจะบอกอะไรไปมากกว่านี่ ซิดว่าวันนี้เรามาดูพยากรณ์แฟชั่นกันดีกว่าค่ะ บลาๆ

    =_=’ ลีลานัก! จะบอกก็ไม่บอกนะยัยนี่

    ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับพยากรณ์แฟชั่นของเรา เป็นยังไงบ้างค่ะ ^O^ เอ รู้สึกเหมือนซิดจะติดอะไรบางอย่างกับท่านผู้ชมไว้น๊า แหม ไม่ลืมหรอกค่ะ ข่าวดัง!ที่ว่าเนี่ย ไม่ใช่ข่าวอะไรที่ไหนนอกจากข่าวของวง ‘The Thief’ ซึ่งหนุ่มๆวงนี้เค้าเป็นวงนักร้องรุ่นใหม่ที่ทางบริษัทเซอัน มิวสิคได้ปลุกปั้นขึ้นมา ฟังๆไป เนื้อข่าวก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือเร้าใจอะไรเลยแม้แต่น้อย -.- อย่าพึ่งเปลี่ยนช่องนะคะ ไม่ใช่ข่าวนี้มันน่าเบื่อนะ อันที่จริงนี่แค่เกริ่นนำค่า ข่าววงในเค้าว่ากันว่าหนุ่มๆ The Thief เนี่ยกำลังมีปัญหากับทางบริษัทต้นสังกัด ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งผู้จัดการวงของหนุ่มๆพวกนี้ค่ะ ตั้งแต่ตั้งวงมาทางบริษัทได้เปลี่ยนผู้จัดการวงมาแล้วถึงสิบสามคน! โอ้โห อะไรมันจะมากมายขนาดนั้น ล่าสุดเกล เบเนสัน ผู้จัดการวงคนล่าสุดออกมาเปิดอกคุยกับทางรายการเราว่าที่ต้องลาออกเนี่ยเพราะทนพวกหนุ่มๆไม่ได้จริงๆ ทั้งที่พยายามทำงานพร้อมกับดูแลหนุ่มๆสุดฝีมือแล้วแท้ๆ อ๊ะ เหมือนเกลจะบอกกับเรามาแค่นี้แหละค่ะ ซิดชักจะสงสัยแล้วสิคะว่าพวกหนุ่มๆเค้าทำวีรกรรมอะไรกันคุณผู้จัดการวงทั้งสิบสามคนจนทนไม่ไหว >_<”

    หือ -_- เซอัน มิวสิค นั่นมันบริษัทของพ่อฉันนี่ แล้วไอ้วง The Thief มันเป็นใครกันถึงกล้ามามีปัญหากับบริษัทของพ่อฉัน! มิน่าเมื่อเช้าพ่อถึงเครียดๆ เป็นเพราะไอ้บ้าพวกนี้นี่เองสินะ อย่าให้ฉันเจอพวกนายแล้วกัน ดัฟเนคนนี้จะเอาหนังสือที่มีอยู่ทั้งบ้าน(ซึ่งมันเยอะมากกก)ฝังพวกนายซะเลย เฮอะ เปลี่ยนผู้จัดการวงมาตั้งสิบสามคน แสดงว่าพวกนี้มันต้องร้ายหรือไม่ก็เลวกันแน่ๆเลย =_=’ ถ้าฉันเป็นพ่อ ป่านนี้พวกนายไม่ได้มาอยู่ที่เซอัน มิวสิคหรอก

    We can be the kings and queens of anything if we believe. It's written in the stars that shine above, a world where you and I belong, where faith and love will keep us strong, exactly who we are is just enough  there's a place for us, there's a place for us ~

    หือ =_=’ ใครมาเปิดเพลงแถวนี้น่ะ ฉันหันไปมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นจะมีใคร แล้วใครมันมาเปิดเพลง ด้วยความสงสัยฉันเลยลุกขึ้นยืน มองไปทางนั้นทีทางนี้ทีก็ไม่มีใครมาจัดปาร์ตี้แถวนี้ เสียงเพลงยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ ฉันรู้สึกคุ้นๆกับเพลงนี้จัง -_-;;

    ฉันว่า ฉันรู้แล้วล่ะ มันเป็นเสียงริงโทนโทรศัพท์ฉันเอง พึ่งเปลี่ยนเมื่อเช้าเลยไม่ชินเท่าไหร่ แต่ว่าดึกดื่นป่านนี้ใครโทรมานะ

    เอ่อพ่อ -_-a โทรมาทำไมกันนะ หรือว่าจะชวนออกไปทานดินเนอร์นอกบ้าน แต่คงไม่ใช่หรอก

    ค่ะพ่อ

    ดัฟเน ตอนนี้ลูกทำอะไรอยู่

    ก็ดูข่าวบริษัทของพ่อนั่นแหละค่ะ =_= ”

    งั้นลูกก็คงจะรู้นะว่าตอนนี้พ่อมีปัญหาอะไร คือว่าพ่อมีเรื่องอยากจะให้ลูกช่วย

    เอาล่ะสิ ฉันว่าเรื่องที่พ่อจะขอน่ะมันต้องเกี่ยวกับไอ้พวกหัวขโมยนั่นแน่ๆ ให้ตายเถอะ ฉันชักจะไม่อยากตอบตกลงคำขอของพ่อซะแล้วสิ ปกติเวลาพ่อขออะไรฉันมันจะตกลงทันใดแบบไม่ต้องคิด แต่ครั้งนี้ โอ้ พระเจ้า! ฉันไม่อยากจะคิดเลย

    “….”

    เดี๋ยวพ่อจะให้คนที่บริษัทไปรับลูกที่บ้านนะ

    บอกตอนนี้ไม่ได้หรอคะ

    “…”

    ก็ได้ค่ะ บอกคนของพ่อรีบๆหน่อยก็แล้วกัน

    ขอบคุณนะลูกรัก

    ฉันรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้สถานการณ์ที่บริษัทคงกำลังเครียดอยู่แน่นอน คงไม่พ้นเรื่องนั้นหรอกสินะ =_=’ พ่อจะให้ฉันช่วยหาคนมาเป็นผู้จัดการวงให้ไอ้พวกนั้นหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ฉันจะไปจ้างพวกทหารมาฝึกมารยาทพวก The Thief ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

    8.00 P.M.

    ในที่สุดฉันก็มายืนอยู่หน้าบริษัทเซอัน มิวสิค บริษัทของพ่อฉันน่ะ ไม่ใช่บริษัทเล็กๆหรอกนะ =^= เซอัน มิวสิคเป็นถึงค่ายเพลงยักษ์ใหญ่หมายเลขหนึ่งของอเมริกาเชียวล่ะ แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ พ่อฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว มีครั้งนึงตอนที่ก่อตั้งบริษัทใหม่ๆ ตอนนั้นเงินทุนอะไรก็เหลือน้อยเต็มทน ไหนจะมีฉันเป็นภาระพ่ออีก พ่อเลยส่งฉันไปอยู่กับป้าเอ็มม่าที่อิตาลี -_-‘ ฉันก็ไม่อยากห่างพ่อเท่าไหร่หรอก แต่ฉันก็ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงของพ่อ เลยต้องยอมไปอยู่กับป้าเอ็มม่าที่เคี่ยวมาก! แต่มันก็สนุกดีนะ ที่นั่นทำให้ฉันเลือกเข้าเรียนประวัติศาสตร์ล่ะ

    คุณท่านรอคุณหนูที่ห้องทำงานของคุณท่านครับ

    อืม…”

    นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันได้เข้ามาเหยียบที่บริษัทแห่งนี้เลยทีเดียว พ่อไม่ค่อยให้ฉันยุ่งอะไรมากหรอก กลัวพวกแมวมองหรือปาปารัซซี่จะมาจับตาดูฉันแล้วก็เขียนข่าวบ้าๆลงไป เมื่อสองปีที่แล้วฉันเคยถูกปาปารัซซี่ลงข่าวว่ากำลังกิ๊กกั๊กหวานแหววกับนักร้องในบริษัทของพ่อ =_= นั่นทำให้ฉันรู้สึกขยาดและไม่อยากจะมาที่บริษัทนี่อีก

    ในที่สุดลิฟท์ก็หยุดอยู่ที่ชั้น 24 ภายในชั้นนี้ถูกตกแต่งด้วยฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรป พ่อของฉันท่านเป็นคนที่หลงใหลในอารยธรรมยุโรปมากเลยทีเดียว แต่เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้หรอก พ่อชอบปิดบังเรื่องอะไรต่อมีอะไรกับฉันตลอด ฉันถึงไม่เคยรู้ถึงปัญหาของพ่อเลยไงล่ะ -_- รู้สึกเหมือนฉันเป็นลูกที่แย่มากเลย

    ก๊อกๆๆ

    ดัฟเนหรอลูก เข้ามาสิ

    ฉันเปิดประตูเข้าไปข้างใน รู้มั้ยฉันเจอะอะไร ? ฉันเจอตัวประหลาด =_=’ อันที่จริงมันก็แค่นักร้องในบริษัทของพ่อก็เท่านั้น นี่สินะ The Thief คิดไม่ผิดจริงๆด้วย พ่อต้องเรียกให้ฉันมาทำอะไรบางอย่างที่มันเกี่ยวกับไอ้พวกนี้อย่างแน่นอน จะว่าไปพวกนี้มันก็หล่อดีนะ แต่ฉันแค่รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยก็เท่านั้นแหละ ฉันเป็นคนที่ตัดสินคนจากชะตา ถ้าฉันรู้สึกไม่ชอบหรือไม่ถูกชะตาด้วยฉันก็เกลียดๆๆ ที่ผ่านมาฉันยังไม่เคยเจอใครที่รู้สึกชอบหรือถูกชะตาสักคน -_-

    “…”

    นั่งลงสิลูกพ่อชี้ให้ฉันนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับพวกนักร้องบ้านี่หรือก็คือข้างๆท่านนั้นแหละ

    แล้วลูกสาวท่านประธานมาทำไมที่นี่ล่ะครับฉันหันไปมองไอ้ผู้ชายหัวยุ่งๆสีน้ำตาลเข้ม หน้าตากวนบาทา หมอนั่นถือเบสสีดำขลับ พอรู้ตัวว่าถูกมองหมอนั่นก็หันมามองหน้าฉันก่อนจะยักคิ้วหลิ่วตามาให้ =_=’

    ฉันจะให้ลูกสาวฉันมาเป็นผู้จัดการวงของพวกนาย

    พะพ่อ” =__=;;; เอาล่ะสิ งานเข้าแล้วไงฉัน

    เอาเป็นว่าพวกนายตกลงกันเองกับลูกสาวฉันก็แล้วกัน ดัฟเนพ่อขอออกไปหากาแฟกินที่ช้อปข้างล่างก่อนนะ

    พ่อบอกก่อนจะจับขมับตัวเองด้วยท่าทางที่เหนื่อยอ่อนจนฉันไม่กล้าที่จะเถียงอะไรทั้งสิ้น ได้แต่ทำหน้าตาเหี่ยวแห้งเหมือนดอกไม้ใกล้ตาย -_-a

    ปัง...

     

    # 2 Talk with me ; แวะมาสวัสดีกันอีกครั้งในบทที่หนึ่งนี้นะคะ อาจจะเปิดตัวได้ไม่แรงหรือฉูดฉาดแต่ก็ตั้งใตแต่งมานะเออ T^T


     

    จับขมับตัวเองแรงๆ =_='' โทษทีค่ะ พอดีไรเตอร์เป็นโรคมึนขึ้นสมอง T^T

    MUZICCODE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×