ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Devil boy ร้าย (ก็) รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : DEVIL BOY CHAPTER 1 : 100%

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57














     




    - one -


    MUSE 


     
    ( Vodka/Talk )


     
             ครืด ครืด

             เสียงไอโฟน 6 ที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง แต่ถ้ามันยังสั่นอีกต่อไปสักวินาทีคนที่จะบ้าคลั่งไม่ใช่ไอ้ไอโฟนแน่แต่มันคงจะเป็นผมแทน

             ครืด ครืด

             ยัง มันยังไมเลิกสั่นอีก นี่ผมต้องแพ้มันใช่ไหมเนี่ยสรุป ผมต้องแพ้ไอ้จอสี่เหลี่ยมที่ไม่มีชีวิตเนี่ยนะ ผมว่าผมจะไม่รับแล้วนะแต่มันไม่ไหววะเล่นสั่นขนาดนี้ใครมันจะไปหลับลงวะ

             " บ้านพ่องมึงตายหรอคร้าบ โทรมาทำเชี่...ไรแต่เช้าวะ ถ้าไม่สำคัญพอนะมึงรับรองมีเฮ " ผมกรอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิดโดยที่ยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา

             " บ้านพ่องกูอ่ะยังไม่ตายหรอกแต่คนที่กำลังจะตายมันคือมึงไอ้วอดก้า  กูนึกว่ามึงแดกหอยจนตายห่าไปแล้วกูโทรไปจนมือกูจะหงิกแล้วเนี่ย" ตายห่าเพราะแดกหอยเนี่ยนะ มันคิดได้ไงวะ

              ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่รู้ว่าเป็นเสียงไอ้เลโอเพื่อสุดเลิฟแต่ที่ผมเด้งตัวขึ้นมาเนี่ยไม่ใช่ดีใจที่มันโทรมาหรอกนะแต่เพราะจะได้ด่ามันได้สะดวกๆหน่อยเท่านั้นเองที่มันบังอาจกวนเวลานอนอันมีค่าของผม แม่มเมื่อคืนก่อนจะได้นอนยันเช้าอ่ะผู้หญิงเชี่...ไรวะแมร่งอึดชิหายแต่ผมชอบนะ เร้าดี

              " มึงหุปปากแล้วรีบลุกไปอาบนำ้เลยกูให้เวลามึง 5 นาทีในกานอาบน้ำแต่งตัวแล้วมามหาลัย ย้ำ 5 นาทีนะมึง " อะไรของแมร่งวะ ทำไมผมต้องไปมหาลัยด้วยวันนี้มันวันอาทิตย์ปะวะ ไอ้นี่ท่าจะเพี้ยน

              " เหอะ เพี้ยนแล้วมึง ทำไมกูต้องไปมหาลัยวะ มึงจะไปช่วยลุงยามเฝ้าประตูไง "

              " เหอะ กูขอเหตุผลดีๆสักข้อสิว่าทำไมมึงถึงไม่สมควรมามหาลัยวันนี้ " ไอ้นี่มันยังไม่เลิกยอกย้อนผมว่ามันวอนตายจริงๆแล้วนะ

              " มึงอยากรู้มากใช่ไหม เดี๋ยวกูจะบอกมึงเอาบุญให้นะว่าวันนี้วันอาทิตย์เพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยไงเพราะมหาลัยมันไม่เปิดวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์มันไม่มีการเรียนการสอนเพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยจบปะครับ " ผมเตรียมจะวางสายทันที่ที่พูดจบแล้วค่อยไปคิดบัญชีกับมันทีหลังแต่ตอนนี้ขอนอนก่อน ง่วงชิบ แต่...

              " มันก็ถูกของมึงนะที่วันอาทิตย์มหาลัยไม่เปิดแล้วก็วันอาทิตย์ไม่มีการเรียนการสอน แต่ บังเอิญวันนี้มันจันทร์วะเพราะงั้นมหาลัยมันเลยเปิดและก็มีการเรียนการสอน อ้อ ที่สำคัญนะมึงวันนี้ไม่ใช่วันจันทร์ธรรมดาด้วยเพราะมันเป็นวันจันทร์พิเศษ "

              " พิเศษเหมือนผัดไทกุ้งสดดพิ่มกุ้งเยอะๆปะวะมึง " ผมว่าจะตั้งใจฟังมันแล้วนะเห็นมันทำเสียงเครียดแต่ไอ้คำว่าวันจันทร์พิเศษนี่ผมทนไม่ได้จริงๆอะ โคตรฮาอะ

              " เออ ขำไปเหอะมึงเดี๋ยวถ้ามึงรู้ว่ามันพิเศษยังไงมึงจะขำไม่ออก "

              " แล้วมันพิเศษยังไงแว๊กูอยากรู้มากกกกเหอะ " ผมยังคงกวนประสาทไอ้เลโอไม่เลิก

              " วันนี้มีสอบอีป้าหน้าเหงือก โจษมึงอ่ะ เป็นไงแบบนี้พิเศษพอปะมึง อ้อ แล้วก็นะที่กูบอกมึงว่าให้เวลามึง 5 นาทีอะตอนนี้แมร่งหมดเวลาแล้ววะโชคดีนะมึงไอ้เพื่อนเลิฟฟฟ "

              ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด

              เสียงสัญญาณตัดไปพร้อมกับชีวิตผมที่กำลังถูกตัดออกไปจากโลกนี้เหมือนกัน ผมหยิบนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ที่วางอยู่หัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 13.55 นาที และที่สำคัญมันเป็นวันจันทร์ เฮ้ย!!! งั้นที่ผมคิดว่าผมชูปีดูวับกับยายนี่ข้ามคืนนี่มันไม่ถูกใช่ไหมเพราะถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนใช่ไหม โอ้ย กูเพลีย กูเพลียยยย







     
    *************************





     
    ( I-Tim/Talk )
     

     
               หลังจากที่เราไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็ร้องคาราโอเกะเสร็จ ตอนนี้เมเปิลก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ห้องเสื้อแฟชั่นชื่อดังแห่งหนึ่งก่อนที่สองมือเรียวบางจะลากฉันเข้าไปด้้านในแล้วก้หยิบชุดนั้นชุดนี่มาทาบบนตัวฉันให้วุ่นวายไปหมด

               ทันทีที่ฉันเห็นเสื้อผ้าที่เมเปิลเลือกมาให้อย่างเต็มตาฉันถึงกับออกอาการส่ายหน้าดิกแล้วเตรียมตั้งท่าจะเดินออกมาจากบริเวณนั้นถ้าไม่มีมือเรียวของเมเปิลมาคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน

               " จะไปไหน " ถามเสียงต่ำพร้อมกับใช้สายตามองมาอย่างคาดโทษ "อย่าลืมนะว่าวันนี้แกรับปากอะไรกับฉันไว้ นี่ฉันยังไม่หายโกรธแกเลยนะ อย่าลืม" ฉันจะไม่มีอาการแบบนั้นเลยถ้าชุดที่เมเปิลเลือกมามันจะไม่โป๊ขนาดนี้

               " แต่ ฉัน "

               " ไม่ต้องมาต่งมาแต่เลย ไปลองชุดเดี๋ยวนี้ เร็วๆ " ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเมเปิลก็พูดสวนขึ้นมาอย่างรู้ทันพร้อมกันยัดเสื้อผ้าใส่มือแล้วดันหลังฉันให้เข้าไปในห้องลองชุดพร้อมกับย้ำนักย้ำหนาว่าถ้าลองเสร็จให้ฉันเดินออกมาให้ดูด้วย

               สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่อาจต้านทานความดื้อของยัยเพื่อนซี้ได้หลังจากที่เราลองชุดแล้วจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยฉันก็โดนเมเปิลลากมาที่้ร้านทำผมชื่อดังเพื่อแปลงโฉมแต่พอฉันถามว่าจะพาฉันไปไหนเมเปิลก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลยนอกจากคำว่า "วันนี้ฉันจะพาแกไปมันส์ให้หลุดโลกไปเลย"

              
              ทันทีที่ฉันก้าวเท้าเข้ามาในสถานที่ที่ใครหลายคนเรียกกันว่า ผับ  สิ่งแรกที่ฉันรับรู้เลยก็คือเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแบบไม่เกรงใจว่าคนที่ฟังเสียงนี้อาจจะมีอันตรายถึงขั้นหูหนวกได้ และต่อมาคือกลิ่นบุหรี่ผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ผสมปนเปคละคลุ้งรวมกันลอยอยู่ในอากาศซึ่งฉันมารู้ภายหลังว่าผับแห่งนี้มีชื่อว่า MUSE 

              " แก แกจะดื่มอะไรดีอ่ะ " เมเปิลตะโกนแข่งกับเสียงเพลงมาถามฉัน

              " อือ.. เอาน้ำส้มละกัน " ฉันตะโกนตอบกลับไปก่อนจะนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บคอนิดหน่อยที่ต้องมาตะโกนแบบนี้ นี่ขนาดเรานั่งติดกันมากและตรงนี้ก็เป็นโซนที่ถือได้ว่าเงียบที่สุดแล้วนะ

              " แกจะบ้าหรอฉันพาแกมาเที่ยวนะยะ นี่มันผับนะแกไม่ใช่ร้านอาหารในห้างที่แกจะได้มาสั่งน้ำส้มดื่มฆ่าเวลาน่ะ " ยัยนี่บ่นให้ฉันพร้อมกับกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก

              " ขอ คอสโมโพลิแทน สองค่ะ " เมเปิลสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ผับแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน

              " ไม่ต้องมามองหน้าแบบนี้เลยยังไงวันนี้แกก้ต้องดื่มเป็นเพื่อฉันแล้วก็ไม่ต้องห่วงเพราะที่ฉันสั่งไปมันอ่อนสุดแล้ว แล้วก็ดื่มง่ายด้วยรับรองแกต้องชอบ "

              " แกก็รู้ว่าฉันดื่มเหล้าไม่เป็น " ฉันตอบไปเสียงอ่อยเผลื่อฟลุคยัยนี่เปลี่ยนใจเป็นสั่งน้ำส้มมาให้ฉันแทน

              " ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยยังไงวันนี้แกก็ต้องดื่มเป็นเพื่อน จบนะ " เมเปิลพูดจบพร้อมกับที่พนักงานยกเครื่องดื่มสีสวยมาเสริฟพอดิบพอดี

              เมเปิลยกเครื่องดื่มสีสวยจรดริมฝีปากก่อนจะยกขึ้นดื่มวดเดียวหมดแก้ว

              " แกจะนั่งจ้องอีกนานไหมเนี่ย ดื่มสักทีเอาให้หมดแก้วเลยด้วย เข้าใจ๋ ถ้าไม่หมดมีงอนอ่ะ บอกตรงๆ " ฉันยกเครื่องดื่มสีสวยขึ้นดื่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ทันทีที่ฉันส่งของเหลวในแก้วเข้าไปในปากรสชาติแรกที่ฉันรู้สึกคือความขมของแอลกอฮอล์ฉันเกือบจะวางแก้วลงถ้าไม่ติดที่เมเปิลเอื้อมมือมาจับแก้วฉันไว้แล้วยกแก้วขึ้นเป็นการบังคับให้ฉันดื่มกรายๆ

              " แค่ก แค่ก แค่ก " ฉันสำลักทันที่ที่ของเหลวในแก้วหมดและสิ่งต่อมาที่ฉันรู้สึกคืออาการมึนหัวมันเหมือนโลกหมุนแล้วก็เหมือนมีใครเอาอะไรหนักๆ มาทุบหัว

              " ไหวไหมแก "

              " อือ " ฉันสบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่อาการมึน

              " ฉันไม่คิดว่าแกจะคออ่อนแบบนี้อ่ะ ขอโทษนะแกเป็นอะไรมากรึเปล่า " เมเปิลลุบหลังฉันไปมาเบาๆ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษไม่หยุด

              " อือ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแกจะขอโทษฉันทำไมนักหนามันทำให้ฉันรู้สึกผิดนะที่ทำให้แกไม่สบายใจน่ะ " ฉันไม่ได้โกหกเมเปิลเพื่อให้ยัยนั่นสบายใจหรอกนะแต่ฉันรู้สึกดีขึ้นจากเมื่อกี้แล้วจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังไม่ชินกับแอกอฮอล์ก็ได้มั้ง

              " จริงนะ "

              " อือ จริงสิ ฉันเคยโกหกแกที่ไหนละ "

              " งั้นเดี๋ยวฉันสั่งน้ำส่งมาให้แกแล้วกัน " 

              " ไม่ต้องๆ เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ อร่อยดี "

              " ยัยบ๊องเอ้ย " เมเปิลใช้มือดีดมาที่หน้าผากฉันเบาๆ แล้วกวักมือเรียกพนักงานเพื่อจะสั่งเครื่องดื่มเหมือนเดิมมาอีกสองแก้ว แต่จะว่าไปไอ้คอกเทลนี่มันก็อร่อยดีเหมือนกันแฮะ นี่ฉันคงไม่ได้ติดมันแล้วหรอกนะ

              " เป็นไง ไหวไหม " เมเปิลถามฉันทันที่ที่คอกเทลแก้วที่ห้าหมดลง

              " อือ.. " ฉันทำท่าคิดก่อนจะยิ้มแล้วตอบเมเปิลกลับไปว่าไหว เฮ้อ ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวมันเบาๆ ล่องลอยๆ ยังไงไม่รู้แฮะ

              " แก เราไปเต้นตรงนั้นกันไหม " ตรงนั้นที่ฉันว่าก็คือฟลอ์ที่เขามีไว้สำหรับขาแดนส์ทั้งหลายที่ต้องการออกสเต๊ปวาดลวดลายได้เต้นกัน

              " เอาจริงดิ " เมเปิลมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา

              " อือ " ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำเมเปิลไปที่ฟลอร์โดยไม่รอว่าเมเปิลจะลุกตามมารึเปล่า ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นในตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือ ฉันอยากแดนส์ วูฮู้

              ฉันโยกย้ายส่ายสะโพกโชว์ลีลาออกสเต๊ปอยู่กลางฟลอว์โดยไม่ได้สนสายตาคนรอบข้างเลยสักนิดเดียว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการมาเที่ยวผับมันจะมันส์และสนุกได้มากขนาดนี้นี่ถ้าวันนี้เมเปิลไม่ชวนฉันมาฉันคงจะเสียดายแย่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของคอกเทลที่ดื่มเข้าไปหรือเป็นเพราะเพลงที่ดีเจเปิดมันสนุกกันแน่ถึงทำให้ฉันเต้นได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้


                  " อ๊ะ ขอโทษค่ะ " เป็นเพราะตรงนี้คนเยอะหรือเพราะความซุ่มซ่ามของฉันกันแน่จึงทำให้ฉันเผลอไปเหยียบเท้าของใครบางคนเข้า

              " ไม่เป็นไรครับ คนสวย " บุคคลปริศนาตอบกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาคว้าเอวฉันไว้เมื่อฉันทำท่าจะล้มเพราะสะดุดขาตัวเอง

              " เอ่อ ขอบคุณค่ะ " ฉันพยายามเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมของชายปริศนาแต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผลเพราะนอกจากมันจะไม่หลุดแล้วมันยิ่งกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

              " ปล่อยฉันก่อนได้ไหมค่ะ " ฉันบอกออกไปเผื่อว่าเขาจะไม่รู้ว่ากำลังกอดฉันอยู่ 

              " ปล่อยทำไมละครับ อยู่แบบนี้กำลังสนุกได้ที่เลยนะ " สายตากรุ้มกริ่มที่มองมานั้นทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ พิกล ฉันมองไปข้างๆ เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากเมเปิลแต่ปรากฎว่ายัยนั่นไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว

              ซวยแน่ๆ นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันคิดออกตอนนี้ ฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนนี้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

              นอกจากมือปลาหมึกที่กำลังโอบเอวฉันอยู่ตอนนี้สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมายังค่อยๆ โน้มลงมาๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนจมูกของเราจะชนกันอยู่แล้ว ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้นะ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย

              " ปล่อยนะ " ฉันร้องเสียงดังมากขึ้นจนผู้คนที่อยู่รอบๆ เริ่มให้ความสนใจแต่ก็ไม่มีใครที่จะคิดเข้ามาช่วย ฉันพยายามดิ้นรนสุดกำลังและร้องเสียงดังมากขึ้นเพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วย ใครสักคนก้ได้แค่สักคนเดียวเท่านั้น

              " ปล่อยฉันนะ อึก " ฉันขอร้องให้เขาปล่อยพร้อมกับเสียงสะอื้นที่กลั้นไว้ไม่อยู่หลุดออกมา ไม่เอาแบบนี้นะ มันเริ่มจะม่สนุกแล้วนะ

              " ปล่อยทำไมละ ก็ไอ้ที่เธอมาเต้นยั่วอยู่ตรงนี้เนี่ยอย่าบอกนะว่าได้หวังให้มันเป็นแบบนี้ อ่ะ หรือว่าแค่อยากจะอัพค่าตัว " คำพูดดูถูกที่หลุดออกมานั้นกระตุ้นต่อมความโกรธของฉันได้ดีทีเดียวดังนั้นฉันจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวออกมาจากการเกาะกุมได้สำเร็จและไม่รอช้าที่จะเงื้อมือขึ้นตบหน้าผู้ชายปากปีจอตรงหน้าเพื่อเป็นการสั่งสอนว่าอย่าบังอาจมาดูถูกคนอย่างฉัน

              " ว้าย " เสียงผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือของฉันกระทบเข้ากับใบหน้าของผู้ชายปริศนาพร้อมกับที่ทุกคนพร้อมใจกันถอยหลังออกไปคนละหลายก้าวเพื่อดูสถานการณ์

              " เธอ เธอกล้าตบฉันหรอ " สายตาที่ส่งมาบวกกับน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมานั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้คงโกรธมาก " เธอคงไม่อยากตายดีสินะ อยากลองดีมากนักใช่ไหม ห๊ะ "

              ทันทีที่ฉันตั้งสติได้และบอกตัวเองว่าตอนนี้ฉันควรจะหนีเอาตัวรอดดังนั้นฉันจึงรีบหันหลังกลับและเตรียมจะจ้ำอ้าวแต่ก็ช้ากว่าคนร่างสูงที่ตอนนี้เอื้อมมือมาจับแขนฉันและกระชากเข้าหาลำตัวไว้ได้ทันก่อนที่ฉันจะหนีได้สำเร็จ

              " ซวยแล้วไหมละ "

              " รนหาที่เองแท้ๆ "
     
              " น่าสงสารจัง "

              นี่คือเสียงจากเหล่าบรรดาไทมุงทั้งหลายแหล่ที่ส่งมาให้ได้ยิน จะมีใครสักคนไหมเนี่ยที่จะเอื้อมมือเข้ามาช่วยฉัน

              " ถ้าเธอคิดว่าตบหน้าฉันแล้วจะหนีไปได้ง่ายๆ ขอบอกเลยว่าเธอคิดผิดเพราะนอกจากเธอจะหนีไปไม่ได้แล้ว เธอยังต้องได้รับโทษอย่างสาสมอีกด้วยจำไว้สาวน้อย " สิ้นเสียงใบหน้าหล่อเหลาก็ฉกวูบลงมาจุดหมายคือริมฝีปากบางสีชมพู

               เพล้ง

               โครม

                ตึง

               " โอ๊ะ โทษที พอดีเส้นตีนกระตุกวะ "








     
    1 เม้น 1 กำลังใจ

              

       












             
     
              
                 
     
              
     
            
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×