ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : DEVIL BOY CHAPTER 1 : 100%
- one -
MUSE
( Vodka/Talk )
ครืด ครืด
เสียงไอโฟน 6 ที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง แต่ถ้ามันยังสั่นอีกต่อไปสักวินาทีคนที่จะบ้าคลั่งไม่ใช่ไอ้ไอโฟนแน่แต่มันคงจะเป็นผมแทน
ครืด ครืด
ยัง มันยังไมเลิกสั่นอีก นี่ผมต้องแพ้มันใช่ไหมเนี่ยสรุป ผมต้องแพ้ไอ้จอสี่เหลี่ยมที่ไม่มีชีวิตเนี่ยนะ ผมว่าผมจะไม่รับแล้วนะแต่มันไม่ไหววะเล่นสั่นขนาดนี้ใครมันจะไปหลับลงวะ
" บ้านพ่องมึงตายหรอคร้าบ โทรมาทำเชี่...ไรแต่เช้าวะ ถ้าไม่สำคัญพอนะมึงรับรองมีเฮ " ผมกรอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิดโดยที่ยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา
" บ้านพ่องกูอ่ะยังไม่ตายหรอกแต่คนที่กำลังจะตายมันคือมึงไอ้วอดก้า กูนึกว่ามึงแดกหอยจนตายห่าไปแล้วกูโทรไปจนมือกูจะหงิกแล้วเนี่ย" ตายห่าเพราะแดกหอยเนี่ยนะ มันคิดได้ไงวะ
ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่รู้ว่าเป็นเสียงไอ้เลโอเพื่อสุดเลิฟแต่ที่ผมเด้งตัวขึ้นมาเนี่ยไม่ใช่ดีใจที่มันโทรมาหรอกนะแต่เพราะจะได้ด่ามันได้สะดวกๆหน่อยเท่านั้นเองที่มันบังอาจกวนเวลานอนอันมีค่าของผม แม่มเมื่อคืนก่อนจะได้นอนยันเช้าอ่ะผู้หญิงเชี่...ไรวะแมร่งอึดชิหายแต่ผมชอบนะ เร้าดี
" มึงหุปปากแล้วรีบลุกไปอาบนำ้เลยกูให้เวลามึง 5 นาทีในกานอาบน้ำแต่งตัวแล้วมามหาลัย ย้ำ 5 นาทีนะมึง " อะไรของแมร่งวะ ทำไมผมต้องไปมหาลัยด้วยวันนี้มันวันอาทิตย์ปะวะ ไอ้นี่ท่าจะเพี้ยน
" เหอะ เพี้ยนแล้วมึง ทำไมกูต้องไปมหาลัยวะ มึงจะไปช่วยลุงยามเฝ้าประตูไง "
" เหอะ กูขอเหตุผลดีๆสักข้อสิว่าทำไมมึงถึงไม่สมควรมามหาลัยวันนี้ " ไอ้นี่มันยังไม่เลิกยอกย้อนผมว่ามันวอนตายจริงๆแล้วนะ
" มึงอยากรู้มากใช่ไหม เดี๋ยวกูจะบอกมึงเอาบุญให้นะว่าวันนี้วันอาทิตย์เพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยไงเพราะมหาลัยมันไม่เปิดวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์มันไม่มีการเรียนการสอนเพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยจบปะครับ " ผมเตรียมจะวางสายทันที่ที่พูดจบแล้วค่อยไปคิดบัญชีกับมันทีหลังแต่ตอนนี้ขอนอนก่อน ง่วงชิบ แต่...
" มันก็ถูกของมึงนะที่วันอาทิตย์มหาลัยไม่เปิดแล้วก็วันอาทิตย์ไม่มีการเรียนการสอน แต่ บังเอิญวันนี้มันจันทร์วะเพราะงั้นมหาลัยมันเลยเปิดและก็มีการเรียนการสอน อ้อ ที่สำคัญนะมึงวันนี้ไม่ใช่วันจันทร์ธรรมดาด้วยเพราะมันเป็นวันจันทร์พิเศษ "
" พิเศษเหมือนผัดไทกุ้งสดดพิ่มกุ้งเยอะๆปะวะมึง " ผมว่าจะตั้งใจฟังมันแล้วนะเห็นมันทำเสียงเครียดแต่ไอ้คำว่าวันจันทร์พิเศษนี่ผมทนไม่ได้จริงๆอะ โคตรฮาอะ
" เออ ขำไปเหอะมึงเดี๋ยวถ้ามึงรู้ว่ามันพิเศษยังไงมึงจะขำไม่ออก "
" แล้วมันพิเศษยังไงแว๊กูอยากรู้มากกกกเหอะ " ผมยังคงกวนประสาทไอ้เลโอไม่เลิก
" วันนี้มีสอบอีป้าหน้าเหงือก โจษมึงอ่ะ เป็นไงแบบนี้พิเศษพอปะมึง อ้อ แล้วก็นะที่กูบอกมึงว่าให้เวลามึง 5 นาทีอะตอนนี้แมร่งหมดเวลาแล้ววะโชคดีนะมึงไอ้เพื่อนเลิฟฟฟ "
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด
เสียงสัญญาณตัดไปพร้อมกับชีวิตผมที่กำลังถูกตัดออกไปจากโลกนี้เหมือนกัน ผมหยิบนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ที่วางอยู่หัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 13.55 นาที และที่สำคัญมันเป็นวันจันทร์ เฮ้ย!!! งั้นที่ผมคิดว่าผมชูปีดูวับกับยายนี่ข้ามคืนนี่มันไม่ถูกใช่ไหมเพราะถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนใช่ไหม โอ้ย กูเพลีย กูเพลียยยย
เสียงไอโฟน 6 ที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง แต่ถ้ามันยังสั่นอีกต่อไปสักวินาทีคนที่จะบ้าคลั่งไม่ใช่ไอ้ไอโฟนแน่แต่มันคงจะเป็นผมแทน
ครืด ครืด
ยัง มันยังไมเลิกสั่นอีก นี่ผมต้องแพ้มันใช่ไหมเนี่ยสรุป ผมต้องแพ้ไอ้จอสี่เหลี่ยมที่ไม่มีชีวิตเนี่ยนะ ผมว่าผมจะไม่รับแล้วนะแต่มันไม่ไหววะเล่นสั่นขนาดนี้ใครมันจะไปหลับลงวะ
" บ้านพ่องมึงตายหรอคร้าบ โทรมาทำเชี่...ไรแต่เช้าวะ ถ้าไม่สำคัญพอนะมึงรับรองมีเฮ " ผมกรอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิดโดยที่ยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา
" บ้านพ่องกูอ่ะยังไม่ตายหรอกแต่คนที่กำลังจะตายมันคือมึงไอ้วอดก้า กูนึกว่ามึงแดกหอยจนตายห่าไปแล้วกูโทรไปจนมือกูจะหงิกแล้วเนี่ย" ตายห่าเพราะแดกหอยเนี่ยนะ มันคิดได้ไงวะ
ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่รู้ว่าเป็นเสียงไอ้เลโอเพื่อสุดเลิฟแต่ที่ผมเด้งตัวขึ้นมาเนี่ยไม่ใช่ดีใจที่มันโทรมาหรอกนะแต่เพราะจะได้ด่ามันได้สะดวกๆหน่อยเท่านั้นเองที่มันบังอาจกวนเวลานอนอันมีค่าของผม แม่มเมื่อคืนก่อนจะได้นอนยันเช้าอ่ะผู้หญิงเชี่...ไรวะแมร่งอึดชิหายแต่ผมชอบนะ เร้าดี
" มึงหุปปากแล้วรีบลุกไปอาบนำ้เลยกูให้เวลามึง 5 นาทีในกานอาบน้ำแต่งตัวแล้วมามหาลัย ย้ำ 5 นาทีนะมึง " อะไรของแมร่งวะ ทำไมผมต้องไปมหาลัยด้วยวันนี้มันวันอาทิตย์ปะวะ ไอ้นี่ท่าจะเพี้ยน
" เหอะ เพี้ยนแล้วมึง ทำไมกูต้องไปมหาลัยวะ มึงจะไปช่วยลุงยามเฝ้าประตูไง "
" เหอะ กูขอเหตุผลดีๆสักข้อสิว่าทำไมมึงถึงไม่สมควรมามหาลัยวันนี้ " ไอ้นี่มันยังไม่เลิกยอกย้อนผมว่ามันวอนตายจริงๆแล้วนะ
" มึงอยากรู้มากใช่ไหม เดี๋ยวกูจะบอกมึงเอาบุญให้นะว่าวันนี้วันอาทิตย์เพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยไงเพราะมหาลัยมันไม่เปิดวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์มันไม่มีการเรียนการสอนเพราะงั้นกูเลยไม่ต้องไปมหาลัยจบปะครับ " ผมเตรียมจะวางสายทันที่ที่พูดจบแล้วค่อยไปคิดบัญชีกับมันทีหลังแต่ตอนนี้ขอนอนก่อน ง่วงชิบ แต่...
" มันก็ถูกของมึงนะที่วันอาทิตย์มหาลัยไม่เปิดแล้วก็วันอาทิตย์ไม่มีการเรียนการสอน แต่ บังเอิญวันนี้มันจันทร์วะเพราะงั้นมหาลัยมันเลยเปิดและก็มีการเรียนการสอน อ้อ ที่สำคัญนะมึงวันนี้ไม่ใช่วันจันทร์ธรรมดาด้วยเพราะมันเป็นวันจันทร์พิเศษ "
" พิเศษเหมือนผัดไทกุ้งสดดพิ่มกุ้งเยอะๆปะวะมึง " ผมว่าจะตั้งใจฟังมันแล้วนะเห็นมันทำเสียงเครียดแต่ไอ้คำว่าวันจันทร์พิเศษนี่ผมทนไม่ได้จริงๆอะ โคตรฮาอะ
" เออ ขำไปเหอะมึงเดี๋ยวถ้ามึงรู้ว่ามันพิเศษยังไงมึงจะขำไม่ออก "
" แล้วมันพิเศษยังไงแว๊กูอยากรู้มากกกกเหอะ " ผมยังคงกวนประสาทไอ้เลโอไม่เลิก
" วันนี้มีสอบอีป้าหน้าเหงือก โจษมึงอ่ะ เป็นไงแบบนี้พิเศษพอปะมึง อ้อ แล้วก็นะที่กูบอกมึงว่าให้เวลามึง 5 นาทีอะตอนนี้แมร่งหมดเวลาแล้ววะโชคดีนะมึงไอ้เพื่อนเลิฟฟฟ "
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด
เสียงสัญญาณตัดไปพร้อมกับชีวิตผมที่กำลังถูกตัดออกไปจากโลกนี้เหมือนกัน ผมหยิบนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ที่วางอยู่หัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 13.55 นาที และที่สำคัญมันเป็นวันจันทร์ เฮ้ย!!! งั้นที่ผมคิดว่าผมชูปีดูวับกับยายนี่ข้ามคืนนี่มันไม่ถูกใช่ไหมเพราะถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนใช่ไหม โอ้ย กูเพลีย กูเพลียยยย
*************************
( I-Tim/Talk )
หลังจากที่เราไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็ร้องคาราโอเกะเสร็จ ตอนนี้เมเปิลก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ห้องเสื้อแฟชั่นชื่อดังแห่งหนึ่งก่อนที่สองมือเรียวบางจะลากฉันเข้าไปด้้านในแล้วก้หยิบชุดนั้นชุดนี่มาทาบบนตัวฉันให้วุ่นวายไปหมด
ทันทีที่ฉันเห็นเสื้อผ้าที่เมเปิลเลือกมาให้อย่างเต็มตาฉันถึงกับออกอาการส่ายหน้าดิกแล้วเตรียมตั้งท่าจะเดินออกมาจากบริเวณนั้นถ้าไม่มีมือเรียวของเมเปิลมาคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน
" จะไปไหน " ถามเสียงต่ำพร้อมกับใช้สายตามองมาอย่างคาดโทษ "อย่าลืมนะว่าวันนี้แกรับปากอะไรกับฉันไว้ นี่ฉันยังไม่หายโกรธแกเลยนะ อย่าลืม" ฉันจะไม่มีอาการแบบนั้นเลยถ้าชุดที่เมเปิลเลือกมามันจะไม่โป๊ขนาดนี้
" แต่ ฉัน "
" ไม่ต้องมาต่งมาแต่เลย ไปลองชุดเดี๋ยวนี้ เร็วๆ " ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเมเปิลก็พูดสวนขึ้นมาอย่างรู้ทันพร้อมกันยัดเสื้อผ้าใส่มือแล้วดันหลังฉันให้เข้าไปในห้องลองชุดพร้อมกับย้ำนักย้ำหนาว่าถ้าลองเสร็จให้ฉันเดินออกมาให้ดูด้วย
สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่อาจต้านทานความดื้อของยัยเพื่อนซี้ได้หลังจากที่เราลองชุดแล้วจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยฉันก็โดนเมเปิลลากมาที่้ร้านทำผมชื่อดังเพื่อแปลงโฉมแต่พอฉันถามว่าจะพาฉันไปไหนเมเปิลก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลยนอกจากคำว่า "วันนี้ฉันจะพาแกไปมันส์ให้หลุดโลกไปเลย"
ทันทีที่ฉันก้าวเท้าเข้ามาในสถานที่ที่ใครหลายคนเรียกกันว่า ผับ สิ่งแรกที่ฉันรับรู้เลยก็คือเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแบบไม่เกรงใจว่าคนที่ฟังเสียงนี้อาจจะมีอันตรายถึงขั้นหูหนวกได้ และต่อมาคือกลิ่นบุหรี่ผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ผสมปนเปคละคลุ้งรวมกันลอยอยู่ในอากาศซึ่งฉันมารู้ภายหลังว่าผับแห่งนี้มีชื่อว่า MUSE
" แก แกจะดื่มอะไรดีอ่ะ " เมเปิลตะโกนแข่งกับเสียงเพลงมาถามฉัน
" อือ.. เอาน้ำส้มละกัน " ฉันตะโกนตอบกลับไปก่อนจะนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บคอนิดหน่อยที่ต้องมาตะโกนแบบนี้ นี่ขนาดเรานั่งติดกันมากและตรงนี้ก็เป็นโซนที่ถือได้ว่าเงียบที่สุดแล้วนะ
" แกจะบ้าหรอฉันพาแกมาเที่ยวนะยะ นี่มันผับนะแกไม่ใช่ร้านอาหารในห้างที่แกจะได้มาสั่งน้ำส้มดื่มฆ่าเวลาน่ะ " ยัยนี่บ่นให้ฉันพร้อมกับกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก
" ขอ คอสโมโพลิแทน สองค่ะ " เมเปิลสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ผับแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
" ไม่ต้องมามองหน้าแบบนี้เลยยังไงวันนี้แกก้ต้องดื่มเป็นเพื่อฉันแล้วก็ไม่ต้องห่วงเพราะที่ฉันสั่งไปมันอ่อนสุดแล้ว แล้วก็ดื่มง่ายด้วยรับรองแกต้องชอบ "
" แกก็รู้ว่าฉันดื่มเหล้าไม่เป็น " ฉันตอบไปเสียงอ่อยเผลื่อฟลุคยัยนี่เปลี่ยนใจเป็นสั่งน้ำส้มมาให้ฉันแทน
" ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยยังไงวันนี้แกก็ต้องดื่มเป็นเพื่อน จบนะ " เมเปิลพูดจบพร้อมกับที่พนักงานยกเครื่องดื่มสีสวยมาเสริฟพอดิบพอดี
เมเปิลยกเครื่องดื่มสีสวยจรดริมฝีปากก่อนจะยกขึ้นดื่มวดเดียวหมดแก้ว
" แกจะนั่งจ้องอีกนานไหมเนี่ย ดื่มสักทีเอาให้หมดแก้วเลยด้วย เข้าใจ๋ ถ้าไม่หมดมีงอนอ่ะ บอกตรงๆ " ฉันยกเครื่องดื่มสีสวยขึ้นดื่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ทันทีที่ฉันส่งของเหลวในแก้วเข้าไปในปากรสชาติแรกที่ฉันรู้สึกคือความขมของแอลกอฮอล์ฉันเกือบจะวางแก้วลงถ้าไม่ติดที่เมเปิลเอื้อมมือมาจับแก้วฉันไว้แล้วยกแก้วขึ้นเป็นการบังคับให้ฉันดื่มกรายๆ
" แค่ก แค่ก แค่ก " ฉันสำลักทันที่ที่ของเหลวในแก้วหมดและสิ่งต่อมาที่ฉันรู้สึกคืออาการมึนหัวมันเหมือนโลกหมุนแล้วก็เหมือนมีใครเอาอะไรหนักๆ มาทุบหัว
" ไหวไหมแก "
" อือ " ฉันสบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่อาการมึน
" ฉันไม่คิดว่าแกจะคออ่อนแบบนี้อ่ะ ขอโทษนะแกเป็นอะไรมากรึเปล่า " เมเปิลลุบหลังฉันไปมาเบาๆ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษไม่หยุด
" อือ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแกจะขอโทษฉันทำไมนักหนามันทำให้ฉันรู้สึกผิดนะที่ทำให้แกไม่สบายใจน่ะ " ฉันไม่ได้โกหกเมเปิลเพื่อให้ยัยนั่นสบายใจหรอกนะแต่ฉันรู้สึกดีขึ้นจากเมื่อกี้แล้วจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังไม่ชินกับแอกอฮอล์ก็ได้มั้ง
" จริงนะ "
" อือ จริงสิ ฉันเคยโกหกแกที่ไหนละ "
" งั้นเดี๋ยวฉันสั่งน้ำส่งมาให้แกแล้วกัน "
" ไม่ต้องๆ เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ อร่อยดี "
" ยัยบ๊องเอ้ย " เมเปิลใช้มือดีดมาที่หน้าผากฉันเบาๆ แล้วกวักมือเรียกพนักงานเพื่อจะสั่งเครื่องดื่มเหมือนเดิมมาอีกสองแก้ว แต่จะว่าไปไอ้คอกเทลนี่มันก็อร่อยดีเหมือนกันแฮะ นี่ฉันคงไม่ได้ติดมันแล้วหรอกนะ
" เป็นไง ไหวไหม " เมเปิลถามฉันทันที่ที่คอกเทลแก้วที่ห้าหมดลง
" อือ.. " ฉันทำท่าคิดก่อนจะยิ้มแล้วตอบเมเปิลกลับไปว่าไหว เฮ้อ ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวมันเบาๆ ล่องลอยๆ ยังไงไม่รู้แฮะ
" แก เราไปเต้นตรงนั้นกันไหม " ตรงนั้นที่ฉันว่าก็คือฟลอ์ที่เขามีไว้สำหรับขาแดนส์ทั้งหลายที่ต้องการออกสเต๊ปวาดลวดลายได้เต้นกัน
" เอาจริงดิ " เมเปิลมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา
" อือ " ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำเมเปิลไปที่ฟลอร์โดยไม่รอว่าเมเปิลจะลุกตามมารึเปล่า ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นในตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือ ฉันอยากแดนส์ วูฮู้
ฉันโยกย้ายส่ายสะโพกโชว์ลีลาออกสเต๊ปอยู่กลางฟลอว์โดยไม่ได้สนสายตาคนรอบข้างเลยสักนิดเดียว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการมาเที่ยวผับมันจะมันส์และสนุกได้มากขนาดนี้นี่ถ้าวันนี้เมเปิลไม่ชวนฉันมาฉันคงจะเสียดายแย่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของคอกเทลที่ดื่มเข้าไปหรือเป็นเพราะเพลงที่ดีเจเปิดมันสนุกกันแน่ถึงทำให้ฉันเต้นได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้
" อ๊ะ ขอโทษค่ะ " เป็นเพราะตรงนี้คนเยอะหรือเพราะความซุ่มซ่ามของฉันกันแน่จึงทำให้ฉันเผลอไปเหยียบเท้าของใครบางคนเข้า
" ไม่เป็นไรครับ คนสวย " บุคคลปริศนาตอบกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาคว้าเอวฉันไว้เมื่อฉันทำท่าจะล้มเพราะสะดุดขาตัวเอง
" เอ่อ ขอบคุณค่ะ " ฉันพยายามเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมของชายปริศนาแต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผลเพราะนอกจากมันจะไม่หลุดแล้วมันยิ่งกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
" ปล่อยฉันก่อนได้ไหมค่ะ " ฉันบอกออกไปเผื่อว่าเขาจะไม่รู้ว่ากำลังกอดฉันอยู่
" ปล่อยทำไมละครับ อยู่แบบนี้กำลังสนุกได้ที่เลยนะ " สายตากรุ้มกริ่มที่มองมานั้นทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ พิกล ฉันมองไปข้างๆ เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากเมเปิลแต่ปรากฎว่ายัยนั่นไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว
ซวยแน่ๆ นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันคิดออกตอนนี้ ฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนนี้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
นอกจากมือปลาหมึกที่กำลังโอบเอวฉันอยู่ตอนนี้สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมายังค่อยๆ โน้มลงมาๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนจมูกของเราจะชนกันอยู่แล้ว ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้นะ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย
" ปล่อยนะ " ฉันร้องเสียงดังมากขึ้นจนผู้คนที่อยู่รอบๆ เริ่มให้ความสนใจแต่ก็ไม่มีใครที่จะคิดเข้ามาช่วย ฉันพยายามดิ้นรนสุดกำลังและร้องเสียงดังมากขึ้นเพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วย ใครสักคนก้ได้แค่สักคนเดียวเท่านั้น
" ปล่อยฉันนะ อึก " ฉันขอร้องให้เขาปล่อยพร้อมกับเสียงสะอื้นที่กลั้นไว้ไม่อยู่หลุดออกมา ไม่เอาแบบนี้นะ มันเริ่มจะม่สนุกแล้วนะ
" ปล่อยทำไมละ ก็ไอ้ที่เธอมาเต้นยั่วอยู่ตรงนี้เนี่ยอย่าบอกนะว่าได้หวังให้มันเป็นแบบนี้ อ่ะ หรือว่าแค่อยากจะอัพค่าตัว " คำพูดดูถูกที่หลุดออกมานั้นกระตุ้นต่อมความโกรธของฉันได้ดีทีเดียวดังนั้นฉันจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวออกมาจากการเกาะกุมได้สำเร็จและไม่รอช้าที่จะเงื้อมือขึ้นตบหน้าผู้ชายปากปีจอตรงหน้าเพื่อเป็นการสั่งสอนว่าอย่าบังอาจมาดูถูกคนอย่างฉัน
" ว้าย " เสียงผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือของฉันกระทบเข้ากับใบหน้าของผู้ชายปริศนาพร้อมกับที่ทุกคนพร้อมใจกันถอยหลังออกไปคนละหลายก้าวเพื่อดูสถานการณ์
" เธอ เธอกล้าตบฉันหรอ " สายตาที่ส่งมาบวกกับน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมานั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้คงโกรธมาก " เธอคงไม่อยากตายดีสินะ อยากลองดีมากนักใช่ไหม ห๊ะ "
ทันทีที่ฉันตั้งสติได้และบอกตัวเองว่าตอนนี้ฉันควรจะหนีเอาตัวรอดดังนั้นฉันจึงรีบหันหลังกลับและเตรียมจะจ้ำอ้าวแต่ก็ช้ากว่าคนร่างสูงที่ตอนนี้เอื้อมมือมาจับแขนฉันและกระชากเข้าหาลำตัวไว้ได้ทันก่อนที่ฉันจะหนีได้สำเร็จ
" ซวยแล้วไหมละ "
" รนหาที่เองแท้ๆ "
" น่าสงสารจัง "
นี่คือเสียงจากเหล่าบรรดาไทมุงทั้งหลายแหล่ที่ส่งมาให้ได้ยิน จะมีใครสักคนไหมเนี่ยที่จะเอื้อมมือเข้ามาช่วยฉัน
" ถ้าเธอคิดว่าตบหน้าฉันแล้วจะหนีไปได้ง่ายๆ ขอบอกเลยว่าเธอคิดผิดเพราะนอกจากเธอจะหนีไปไม่ได้แล้ว เธอยังต้องได้รับโทษอย่างสาสมอีกด้วยจำไว้สาวน้อย " สิ้นเสียงใบหน้าหล่อเหลาก็ฉกวูบลงมาจุดหมายคือริมฝีปากบางสีชมพู
เพล้ง
โครม
ตึง
" โอ๊ะ โทษที พอดีเส้นตีนกระตุกวะ "
ทันทีที่ฉันเห็นเสื้อผ้าที่เมเปิลเลือกมาให้อย่างเต็มตาฉันถึงกับออกอาการส่ายหน้าดิกแล้วเตรียมตั้งท่าจะเดินออกมาจากบริเวณนั้นถ้าไม่มีมือเรียวของเมเปิลมาคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน
" จะไปไหน " ถามเสียงต่ำพร้อมกับใช้สายตามองมาอย่างคาดโทษ "อย่าลืมนะว่าวันนี้แกรับปากอะไรกับฉันไว้ นี่ฉันยังไม่หายโกรธแกเลยนะ อย่าลืม" ฉันจะไม่มีอาการแบบนั้นเลยถ้าชุดที่เมเปิลเลือกมามันจะไม่โป๊ขนาดนี้
" แต่ ฉัน "
" ไม่ต้องมาต่งมาแต่เลย ไปลองชุดเดี๋ยวนี้ เร็วๆ " ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเมเปิลก็พูดสวนขึ้นมาอย่างรู้ทันพร้อมกันยัดเสื้อผ้าใส่มือแล้วดันหลังฉันให้เข้าไปในห้องลองชุดพร้อมกับย้ำนักย้ำหนาว่าถ้าลองเสร็จให้ฉันเดินออกมาให้ดูด้วย
สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่อาจต้านทานความดื้อของยัยเพื่อนซี้ได้หลังจากที่เราลองชุดแล้วจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยฉันก็โดนเมเปิลลากมาที่้ร้านทำผมชื่อดังเพื่อแปลงโฉมแต่พอฉันถามว่าจะพาฉันไปไหนเมเปิลก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลยนอกจากคำว่า "วันนี้ฉันจะพาแกไปมันส์ให้หลุดโลกไปเลย"
ทันทีที่ฉันก้าวเท้าเข้ามาในสถานที่ที่ใครหลายคนเรียกกันว่า ผับ สิ่งแรกที่ฉันรับรู้เลยก็คือเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแบบไม่เกรงใจว่าคนที่ฟังเสียงนี้อาจจะมีอันตรายถึงขั้นหูหนวกได้ และต่อมาคือกลิ่นบุหรี่ผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ผสมปนเปคละคลุ้งรวมกันลอยอยู่ในอากาศซึ่งฉันมารู้ภายหลังว่าผับแห่งนี้มีชื่อว่า MUSE
" แก แกจะดื่มอะไรดีอ่ะ " เมเปิลตะโกนแข่งกับเสียงเพลงมาถามฉัน
" อือ.. เอาน้ำส้มละกัน " ฉันตะโกนตอบกลับไปก่อนจะนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บคอนิดหน่อยที่ต้องมาตะโกนแบบนี้ นี่ขนาดเรานั่งติดกันมากและตรงนี้ก็เป็นโซนที่ถือได้ว่าเงียบที่สุดแล้วนะ
" แกจะบ้าหรอฉันพาแกมาเที่ยวนะยะ นี่มันผับนะแกไม่ใช่ร้านอาหารในห้างที่แกจะได้มาสั่งน้ำส้มดื่มฆ่าเวลาน่ะ " ยัยนี่บ่นให้ฉันพร้อมกับกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก
" ขอ คอสโมโพลิแทน สองค่ะ " เมเปิลสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ผับแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
" ไม่ต้องมามองหน้าแบบนี้เลยยังไงวันนี้แกก้ต้องดื่มเป็นเพื่อฉันแล้วก็ไม่ต้องห่วงเพราะที่ฉันสั่งไปมันอ่อนสุดแล้ว แล้วก็ดื่มง่ายด้วยรับรองแกต้องชอบ "
" แกก็รู้ว่าฉันดื่มเหล้าไม่เป็น " ฉันตอบไปเสียงอ่อยเผลื่อฟลุคยัยนี่เปลี่ยนใจเป็นสั่งน้ำส้มมาให้ฉันแทน
" ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยยังไงวันนี้แกก็ต้องดื่มเป็นเพื่อน จบนะ " เมเปิลพูดจบพร้อมกับที่พนักงานยกเครื่องดื่มสีสวยมาเสริฟพอดิบพอดี
เมเปิลยกเครื่องดื่มสีสวยจรดริมฝีปากก่อนจะยกขึ้นดื่มวดเดียวหมดแก้ว
" แกจะนั่งจ้องอีกนานไหมเนี่ย ดื่มสักทีเอาให้หมดแก้วเลยด้วย เข้าใจ๋ ถ้าไม่หมดมีงอนอ่ะ บอกตรงๆ " ฉันยกเครื่องดื่มสีสวยขึ้นดื่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ทันทีที่ฉันส่งของเหลวในแก้วเข้าไปในปากรสชาติแรกที่ฉันรู้สึกคือความขมของแอลกอฮอล์ฉันเกือบจะวางแก้วลงถ้าไม่ติดที่เมเปิลเอื้อมมือมาจับแก้วฉันไว้แล้วยกแก้วขึ้นเป็นการบังคับให้ฉันดื่มกรายๆ
" แค่ก แค่ก แค่ก " ฉันสำลักทันที่ที่ของเหลวในแก้วหมดและสิ่งต่อมาที่ฉันรู้สึกคืออาการมึนหัวมันเหมือนโลกหมุนแล้วก็เหมือนมีใครเอาอะไรหนักๆ มาทุบหัว
" ไหวไหมแก "
" อือ " ฉันสบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่อาการมึน
" ฉันไม่คิดว่าแกจะคออ่อนแบบนี้อ่ะ ขอโทษนะแกเป็นอะไรมากรึเปล่า " เมเปิลลุบหลังฉันไปมาเบาๆ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษไม่หยุด
" อือ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยแกจะขอโทษฉันทำไมนักหนามันทำให้ฉันรู้สึกผิดนะที่ทำให้แกไม่สบายใจน่ะ " ฉันไม่ได้โกหกเมเปิลเพื่อให้ยัยนั่นสบายใจหรอกนะแต่ฉันรู้สึกดีขึ้นจากเมื่อกี้แล้วจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังไม่ชินกับแอกอฮอล์ก็ได้มั้ง
" จริงนะ "
" อือ จริงสิ ฉันเคยโกหกแกที่ไหนละ "
" งั้นเดี๋ยวฉันสั่งน้ำส่งมาให้แกแล้วกัน "
" ไม่ต้องๆ เอาเหมือนเดิมนั่นแหละ อร่อยดี "
" ยัยบ๊องเอ้ย " เมเปิลใช้มือดีดมาที่หน้าผากฉันเบาๆ แล้วกวักมือเรียกพนักงานเพื่อจะสั่งเครื่องดื่มเหมือนเดิมมาอีกสองแก้ว แต่จะว่าไปไอ้คอกเทลนี่มันก็อร่อยดีเหมือนกันแฮะ นี่ฉันคงไม่ได้ติดมันแล้วหรอกนะ
" เป็นไง ไหวไหม " เมเปิลถามฉันทันที่ที่คอกเทลแก้วที่ห้าหมดลง
" อือ.. " ฉันทำท่าคิดก่อนจะยิ้มแล้วตอบเมเปิลกลับไปว่าไหว เฮ้อ ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวมันเบาๆ ล่องลอยๆ ยังไงไม่รู้แฮะ
" แก เราไปเต้นตรงนั้นกันไหม " ตรงนั้นที่ฉันว่าก็คือฟลอ์ที่เขามีไว้สำหรับขาแดนส์ทั้งหลายที่ต้องการออกสเต๊ปวาดลวดลายได้เต้นกัน
" เอาจริงดิ " เมเปิลมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา
" อือ " ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำเมเปิลไปที่ฟลอร์โดยไม่รอว่าเมเปิลจะลุกตามมารึเปล่า ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นในตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือ ฉันอยากแดนส์ วูฮู้
ฉันโยกย้ายส่ายสะโพกโชว์ลีลาออกสเต๊ปอยู่กลางฟลอว์โดยไม่ได้สนสายตาคนรอบข้างเลยสักนิดเดียว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการมาเที่ยวผับมันจะมันส์และสนุกได้มากขนาดนี้นี่ถ้าวันนี้เมเปิลไม่ชวนฉันมาฉันคงจะเสียดายแย่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของคอกเทลที่ดื่มเข้าไปหรือเป็นเพราะเพลงที่ดีเจเปิดมันสนุกกันแน่ถึงทำให้ฉันเต้นได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้
" อ๊ะ ขอโทษค่ะ " เป็นเพราะตรงนี้คนเยอะหรือเพราะความซุ่มซ่ามของฉันกันแน่จึงทำให้ฉันเผลอไปเหยียบเท้าของใครบางคนเข้า
" ไม่เป็นไรครับ คนสวย " บุคคลปริศนาตอบกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาคว้าเอวฉันไว้เมื่อฉันทำท่าจะล้มเพราะสะดุดขาตัวเอง
" เอ่อ ขอบคุณค่ะ " ฉันพยายามเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมของชายปริศนาแต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผลเพราะนอกจากมันจะไม่หลุดแล้วมันยิ่งกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
" ปล่อยฉันก่อนได้ไหมค่ะ " ฉันบอกออกไปเผื่อว่าเขาจะไม่รู้ว่ากำลังกอดฉันอยู่
" ปล่อยทำไมละครับ อยู่แบบนี้กำลังสนุกได้ที่เลยนะ " สายตากรุ้มกริ่มที่มองมานั้นทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ พิกล ฉันมองไปข้างๆ เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากเมเปิลแต่ปรากฎว่ายัยนั่นไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว
ซวยแน่ๆ นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันคิดออกตอนนี้ ฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนนี้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
นอกจากมือปลาหมึกที่กำลังโอบเอวฉันอยู่ตอนนี้สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมายังค่อยๆ โน้มลงมาๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนจมูกของเราจะชนกันอยู่แล้ว ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้นะ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย
" ปล่อยนะ " ฉันร้องเสียงดังมากขึ้นจนผู้คนที่อยู่รอบๆ เริ่มให้ความสนใจแต่ก็ไม่มีใครที่จะคิดเข้ามาช่วย ฉันพยายามดิ้นรนสุดกำลังและร้องเสียงดังมากขึ้นเพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วย ใครสักคนก้ได้แค่สักคนเดียวเท่านั้น
" ปล่อยฉันนะ อึก " ฉันขอร้องให้เขาปล่อยพร้อมกับเสียงสะอื้นที่กลั้นไว้ไม่อยู่หลุดออกมา ไม่เอาแบบนี้นะ มันเริ่มจะม่สนุกแล้วนะ
" ปล่อยทำไมละ ก็ไอ้ที่เธอมาเต้นยั่วอยู่ตรงนี้เนี่ยอย่าบอกนะว่าได้หวังให้มันเป็นแบบนี้ อ่ะ หรือว่าแค่อยากจะอัพค่าตัว " คำพูดดูถูกที่หลุดออกมานั้นกระตุ้นต่อมความโกรธของฉันได้ดีทีเดียวดังนั้นฉันจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวออกมาจากการเกาะกุมได้สำเร็จและไม่รอช้าที่จะเงื้อมือขึ้นตบหน้าผู้ชายปากปีจอตรงหน้าเพื่อเป็นการสั่งสอนว่าอย่าบังอาจมาดูถูกคนอย่างฉัน
" ว้าย " เสียงผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือของฉันกระทบเข้ากับใบหน้าของผู้ชายปริศนาพร้อมกับที่ทุกคนพร้อมใจกันถอยหลังออกไปคนละหลายก้าวเพื่อดูสถานการณ์
" เธอ เธอกล้าตบฉันหรอ " สายตาที่ส่งมาบวกกับน้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมานั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้คงโกรธมาก " เธอคงไม่อยากตายดีสินะ อยากลองดีมากนักใช่ไหม ห๊ะ "
ทันทีที่ฉันตั้งสติได้และบอกตัวเองว่าตอนนี้ฉันควรจะหนีเอาตัวรอดดังนั้นฉันจึงรีบหันหลังกลับและเตรียมจะจ้ำอ้าวแต่ก็ช้ากว่าคนร่างสูงที่ตอนนี้เอื้อมมือมาจับแขนฉันและกระชากเข้าหาลำตัวไว้ได้ทันก่อนที่ฉันจะหนีได้สำเร็จ
" ซวยแล้วไหมละ "
" รนหาที่เองแท้ๆ "
" น่าสงสารจัง "
นี่คือเสียงจากเหล่าบรรดาไทมุงทั้งหลายแหล่ที่ส่งมาให้ได้ยิน จะมีใครสักคนไหมเนี่ยที่จะเอื้อมมือเข้ามาช่วยฉัน
" ถ้าเธอคิดว่าตบหน้าฉันแล้วจะหนีไปได้ง่ายๆ ขอบอกเลยว่าเธอคิดผิดเพราะนอกจากเธอจะหนีไปไม่ได้แล้ว เธอยังต้องได้รับโทษอย่างสาสมอีกด้วยจำไว้สาวน้อย " สิ้นเสียงใบหน้าหล่อเหลาก็ฉกวูบลงมาจุดหมายคือริมฝีปากบางสีชมพู
เพล้ง
โครม
ตึง
" โอ๊ะ โทษที พอดีเส้นตีนกระตุกวะ "
1 เม้น 1 กำลังใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น