คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [OS JACKBAM] JACKBAM...YES
JACKBAM…YES
[OS JACKBAM]
"นามัน มลลัทซอทดอนu something บุนมยองกี นึกกยอจยอ must be something~~!!"
ร่างหนาขยับตัวพลิกไปพลิกมาด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าคมขมวดคิ้มมุ่น จะคลุมโปรงก็แล้ว เอาหมอนปิดหูก็แล้ว แต่เสียงคุ้นหูของใครสักคนที่แหกปากร้องเพลงอย่างไม่สนใจว่ามันจะเพี้ยนและผิดคีย์ขนาดไหนก็ยังคงดังรอดเข้ามาให้เขาได้ยินอยู่ดี
เสียงดังขนาดนี้ นี่ต่อไมค์ร้องออกลำโพงรึไงวะ!
คิดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย จนสุดท้ายก็ต้องยอมลืมตาตื่น แล้วมองไปทางประตูห้องนอนของตน เห็นประตูห้องที่เปิดค้างไว้ จึงเลิกสงสัยว่าเหตุใดเสียงถึงดังเข้ามาในห้องนอนได้ขนาดนี้
ใครเปิดประตูทิ้งไว้วะ แจ็คสันอยากด่า
ขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้ผมตัวเองเป็นการจัดทรงเล็กน้อย นั่งเบลอตาปรืออยู่บนเตียงฟังเสียงร้องเพลงของใครสักคนที่อยู่นอกห้องนอน ยังดีที่ตอนนี้เจ้าจองเสียงลดดีกรีการทำลายล้างลงแล้ว
ตาคมหรี่ลงอย่าจับสังเกตเสียง
เสียงใสร้องเพลงไปหัวเราะคิกคักคลอไปกับเสียงจากรายการโทรทัศน์
แบมแบม...?
ร่างหนาลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจเล็กน้อย อ้าปากหาวหวอดๆ ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางสะลึมสะลือเล็กน้อย
"ฮืมม ฮือ must be something~ ฮ่าาๆๆ อ้าว แจ็คสันฮยอง ตื่นแล้วหรอ"
ผมจ้องเจ้าเด็กหัวสีบลอนด์ที่กำลังหัวเราะคิกคักๆกับหน้าจอโทรศัพท์อยู่พักนึงกว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวว่าผมออกมาจากห้องแล้วหันมาทัก
ผมพยักหน้ารับส่งๆก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวีข้างๆกัน
แบมแบมก็ดูจะไม่ได้สนใจผม ทำเพียงหันกลับไปเล่นโทรศัพท์ในมือต่อ ผมนั่งนิ่งๆอยู่พักนึง ถึงนึกได้ว่าทำไมวันนี้หอมันเงียบแปลกๆ เพราะช่วงนี้พวกเราได้หยุดพักหลังตารางงานที่ยาวเหยียด จินยอง ยองแจแล้วก็ยูคยอมเลยกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนแล้ว เหลือแต่แจบอมฮยองและสมาชิกชาวต่างชาติอย่างผมที่ต้องอยู่โยงเฝ้าหอกัน ว่าแต่อีกสองคนไปไหน
"คนอื่นไปไหนกันหมด"
"โธ่ ฮยองดูดิ๊ว่ามันกี่โมงแล้ว จะบ่ายแล้วเนี่ย"เจ้าคนข้างๆว่าใส่ แต่ก็ไม่ยักตอบให้ตรงคำถาม จนผมขมวดคิ้วใส่ด้วยความงุนงง แบมแบมเลยเงยหน้าจากโทรศัพท์แล้วหันมาอธิยายต่อ
"มาร์คฮยองออกไปข้างนอกกับแจบอมฮยอง"
ผมพยักหน้ารับรู้แกนๆ
ว่าแต่
"แล้วนายไม่ไปด้วยรึไง"
แบมแบมส่ายหัว
"ถ้าผมไปแล้วฮยองจะอยู่กับใคร"คำตอบแบบไม่มีท่าทีใส่ใจอะไร เพราะคนตอบหันกลับไปตั้งใจจิ้มมือถือต่อ แต่กลับเป็นผมที่ชะงักไป อยู่ๆก็รู้สึกดีอย่างน่าประหลาดจนเผลอหลุดยิ้มออกมา
ห้องทั้งห้องกลับมาไร้เสียงพูดคุยอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะผมที่พึ่งตื่น สติยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่เลยได้แต่นั่งมึนๆรอเวลาสติสมประกอบ และแบมแบมก็เอาแต่นั่งเล่นมือถือบ้างหันไปดูทีวีบ้าง หัวเราะคิกคักๆไปตามประสา
ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดลำลองแขนยาวแล้วสวมทับด้วยเสื้อฮู้ดแขนกุด กางเกงขาสั้นพอดีตัวเผยให้เห็นขาเรียวเล็กตามขนาดตัวของผู้เป็นเจ้าของ ผมสองสีถูกคลุมด้วยฮู้ดเผยปอยผมบลอนด์สว่างด้านหน้ามาให้เห็นเล็กน้อย ตาคู่โตจ้องหน้าจอมือถือไม่กระพริบ แก้มตุ่ยๆสองข้างกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูที่เจ้าตัวชอบกัดปากแล้วเลียจนติดเป็นนิสัย
น่ารักดี
คำที่ผุดขึ้นมาในใจ
แต่ก่อนจะได้สำรวจมากไปกว่านั้น คงเป็นเพราะผมเผลอเหม่อจ้องอีกฝ่ายนานไปหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่แบมแบมหันหน้ามาหาผมแล้วจ้องกลับตาแป๋ว ก่อนที่ตาคู่โตจะหรี่ลง
"ฮยอง!ตื่นยังเนี่ย!"มือสองข้างของเขาตบแปะเข้าที่แก้มผม แล้วตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่ไม่ดังเท่าไหร่ แต่เท่านั้นก็พอแล้วที่จะทำให้ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ
"เสียงดังทำไมเล่า ตกใจหมด!"บ่นพรางผลักหัวทุยๆนั้นออกด้วยความหมั่นไส้
ตกอกตกใจหมด ไอ้เด็กบ้านี่
แต่อีกฝ่ายดูไม่ถือสา หันไปหัวเราะเอิ๊กอ๊ากท่าทางสะใจ
"ก็ฮยองเหม่อเองนี่หว่า... เมื่อคืนนอนดึกเหรอ ทำไรอ่ะ"
"อือ..."ส่งเสียงตอบในลำคอแล้วลูบหน้าตัวเองให้มีสติขึ้นเล็กน้อย จะได้ต่อกรกับเจ้าเด็กคนนี้ได้บ้าง "เกือบเช้าอ่ะ แต่งเพลง"
"ว้าา ขยันจัง ขนาดได้หยุดแท้ๆ"แบมแบมว่าก่อนจะทิ้งตัวลงทับแขนผมแล้ววางศรีษะพิงไว้ที่ไหล่
เราเงียบกันไปอีกสักพัก หมอนั่นกลับไปจิ้มมือถือตามเดิม ท่าทางมีความสุขหัวเราะคิกคักๆตลอดเวลาทำเอาผมแอบหมั่นไส้ไม่น้อยไม่เข้าใจ เฮ้ๆ ไอ้เปี๊ยก Wild&Sexy นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน ทำไมถึงมัวแต่สนใจโทรศัพท์อยู่ได้!
แจ็คสันไม่ปลื้มนะแบบนี้!
ผมแอบเหล่ตามองหน้าจอมือถือของแบมแบม เห็นเผินๆว่าเป็นโปรแกรมแชท ก่อนจะแอบมองต่อว่าคุยกับอะไรกับใคร เพ่งอยู่นานแต่ไม่รู้เสียมีว่าคุยกับใคร
"ฮยอง"
ชิท!
เป็นอีกครั้งที่คนที่พิงผมอยู่ทำเอาใจผมไหลลงเป็นจังหวะฮิบฮอปไปอยู่ที่ตาตุ่ม เกือบจะหลุดสะดุ้งให้มันจับได้ว่าผมแอบเสือกมันอยู่ แบมแบมแหงนหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋วในระยะที่ค่อนข้างประชิด
สบตากับมันก่อนจะเอ่ยถามเสียงห้วน
“อะไร”
แจ็คสันไม่ได้อยากจะทำเสียงห้วนใส่น้องนะ แจ็คสันแค่ตกใจ
แต่ดูเหมือนแบมแบมจะไม่ได้ติดใจอะไร ยังคงจ้องผมตาแป๋วเหมือนเดิม
“แบมหิวว่ะ”
“หิวแล้วทำไมไม่หาอะไรกิน”
“ผมอยากกินอะไรอร่อยๆอ่ะ ในตู้เย็นไม่เหลืออะไรเลย ผมรอฮยองตื่นเนี่ยแหละจะชวนออกไปข้างนอก”แบมแบมขยับตัวออกแล้วหันมาพูดกับผมกึ่งโวยวาย แต่พอเห็นว่าผมยังนั่งนิ่งก็เริ่มออกลวดลายทันที
“ฮยอง! ไปเหอะ เนี่ย ผมรอฮยองตั้งนาน หิวจะแย่อยู่ละ นะๆ นะ ไปเถอะ!”ไม่พูดเปล่ายังดึงไม้ดึงมือผม เขย่าตัวบ้างเอาหน้าถูแขนผมบ้าง ร้องโวยวายไม่หยุด ผมแสร้งทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ อันที่จริงวันนี้ผมมีแพลนจะทำเพลงทั้งวัน แต่เห็นแก่ว่าเด็กคนนี้ไม่ออกไปกับคนอื่นเพราะจะอยู่เป็นเพื่อนผม หิวก็ไม่ยอมหาอะไรกิน เพราะจะรอผม
งั้นผมยอมให้วันนึงก็ได้
“เออๆ ขอฮยองอาบน้ำก่อน”ว่าก่อนจะดันหัวแบมแบมที่ถูไถไม่ยอมเลิกออกไป แล้วลุกเดินเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำทิ้งให้เด็กตัวบางแก้มตุ่ยร้องไชโยแล้วกลิ้งไปมาบนโซฟา
แต่เอาจริงๆ ถึงหมอนี่ไม่อยู่รอผม ไม่ออดอ้อนผม... ผมก็ยอมอยู่แล้วล่ะน่า หึ
ผู้คนพลุกพล่านมากมายทั้งชาวเกาหลีและชาวต่าวชาติที่กำลังเดินจับจ่ายซื้อของและท่องเที่ยวในย่านนี้ เสียงจ้อกแจ้กจอแจของผู้คนมากมายผสมผสานไปกับเสียงของพ่อค้าแม่ค้าจากที่ร้านรวงมากมายตามสองข้างทาง
ร่างหนาสมส่วนของอดีตนักดาบทีมชาติอย่างแจ็คสันเดินเคียงข้างไปกับร่างโปร่งของเด็กหนุ่มแรปเปอร์ชาวไทย ทั้งสองคนเดินปะปนอยู่กับผู้คนมากมายในฮงแด แม้จะมีผู้คนมากมายจนแทบไม่เป็นที่สังเกต แต่ด้วยทั้งสองยังคงดูโดดเด่นออกจากผู้อื่นทำให้ทั้งสองเป็นที่สนใจของผู้คนที่พบเห็นไม่น้อย
แจ็คสันในชุดเสื้อกล้ามสีดำตัวเท่ เสื้อคลุมแขนยาวที่ใส่เมื่อตอนออกจากหอถูกผูกไว้รอบเอวแทนเพราะอากาศที่เริ่มร้อนขึ้น มือหนายกขึ้นเสยผมแล้วขยับหมวกที่สวมอยู่ มืออีกข้างถือถุงสองสามใบจากการชอปปิ้ง ดวงตาคมเหลือบมองคนข้างกายที่เดินดูของร้านรวงต่างๆด้วยความสนใจ ตาคู่โตมองรอบข้างแววตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากอิ่มสีแดงเรื่อยกยิ้มเมื่อเจอสิ่งของถูกใจก่อนจะสะกิดเขายิกๆ
“ฮยองๆ ขอแวะดูร้านนี้ได้มั๊ย”ว่าแล้วเดินนำเขาเข้าร้านค้าไป แจ็คสันมองตามแบมแบม
ในทางทฤษฎีนั่นคือประโยคคำถาม แต่ในทางปฏิบัติมันคือประโยคบอกเล่า
แล้วจะถามทำไม...
ตอนแรกพวกเราก็คิดว่าจะหาอะไรทานแถวหอพัก แต่ไปๆมาๆไหงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้ก็ไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ๆแบมแบมก็เดินไปเรียกแท็กซี่แล้วบอกว่าไปฮงแด หรือเพราะผมที่ยอมขึ้นแท็กซี่แล้วตามคนตัวเล็กมาต้อยๆ
คนตัวเล็ก...ที่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ผมถึงแอบหวั่นใจกับส่วนสูงที่เริ่มจะใกล้เคียงกับผมเข้าไปทุกที ผมไล่สายตามองผมสีบลอนด์สว่างที่เจ้าตัวมั่นใจว่าจะเพิ่มความแมนให้กับตัวเองได้นั้นถูกสวมทับด้วยหมวกแก็ปใบโปรด มันดูเท่ขึ้นก็จริง แต่ในความคิดของผมแล้ว ผิวสีขาวละมุนแม้ไม่ขาวจัด ตาสองชั้นโตๆ ปากนิดจมูกหน่อย บวกกับผมสีบลอนด์ทองมันกลับดูน่ารักในสายตาผมอยู่ดี บางทีผมก็แอบสงสารที่น้องชายผมพยายามแมนเท่าไหร่ก็ไม่แมนสมใจเขาสักที
แต่ถ้าจะแมนมากไปกว่านี้…
ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆแจ็คสันถึงอยากร้องไห้
ผมเดินตามแบมแบมเข้าร้านไป ทันเห็นคนตัวเล็กที่เดินปรี่เข้าไปหยิบจับดูมุมต่างหู ก่อนจะหันมากวักมือเรียกผมยิกๆดวงตาเป็นประกายวิบวับ
“ฮยองๆ ดูอันนี้ดิ เท่มากเลย เหมาะสุดๆ”มือบางหยิบต่างหูคู่หนึ่งขั้นมาโชว์ เป็นต่างหูเงินห้อยๆทรงคล้ายปีกค้างคาวอันเล็กๆ
ผมแอบขมวดคิ้วเล็กน้อย แบบนี้มันไม่เท่ไปเหรอวะ นู่น แบบแกต้องมุมหมีน้อยตรงนู้นโน่น
“เหมาะกับนายเหรอ ชอบเหรอ”ผมถามด้วยท่าทีที่ค่อนข้างจะแสดงออกว่าไม่แน่ใจและไม่ค่อยเห็นด้วย แต่คนตรงหน้ากลับส่ายหน้าพรืด
“เปล่า ผมหมายถึงฮยองต่างหาก ลองดูดิฮยอง โครตเท่!”
เป็นอีกครั้งที่หมอนี่ทำใจผมกระตุกโดยไม่รู้สาเหตุ มือบางเอาต่างหูในมือมาเทียบกับหูผม โอบรอบคอผมแล้วดึงเข้าไปใกล้เพื่อให้ส่องกระจกที่อยู่ด้านหน้าเขา
“เนี่ย เท่อ่ะฮยอง เอาอันนี้ป้ะ”ใบหน้าเล็กแก้มตุ่ยที่อยู่ห่างไปไม่กี่เซ็นหันมาทางเขา ผมสบตาคู่โตไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่สมองผมจะสั่งให้เบือนสายตาหนีแล้วทำเป็นส่องกระจก
ปกติผมก็ไม่ค่อยใส่แบบนี้สักเท่าไหร่ จะใส่เป็นจิลไปเลยหรือไม่ก็เป็นห่วงก้านอันใหญ่เสียมากกว่า แต่จะว่าไป อืม มันก็เหมาะจริงๆแฮะ
“ตกลงเอามั๊ยฮยอง”แขนบางละออกไปจากผมแล้วชูส่องต่างหูในมือต่อ
“นายชอบเหรอ”ผมถามเขายิ้มๆ ถ้าหมอนี่ชอบ ผมก็โอเคนะ
“อือ ผมว่ามันเท่ดีอ่ะ”ตอบแต่ก็ยังคงจ้องต่างหูในมือท่าทางครุ่นคิด ก่อนบ่นพึมพำออกมา“อืม จะว่าไปก็เหมาะดีแฮะ”
ผมยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจยังไงชอบกล แล้วถาม
“มันเหมาะกับฮยองมากใช่มั๊ยล่ะ”
“เปล่าอ่ะ ที่ผมพูดตะกี๊ผมหมายถึงมันก็เหมาะกับผมดีนะ ผมว่าผมซื้อกับฮยองด้วยดีกว่า เนี่ย มันดูคล้ายต่างหูของมาร์คฮยองด้วยอ่ะ ผมชอบ”
หุบยิ้มแทบไม่ทัน ไม่ว่าจะเพราะหมอนี่อยากใส่เพราะมันเท่ หรือเพราะต่างหูที่หมอนี่อยากใส่เพราะคล้ายของมาร์ค หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมรู้สึกอยากจะดึงหมอนี่ออกจากร้านยังไงก็ไม่รู้
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ซื้อ ฉันไม่ชอบ”ผมเบ้ปาก กอดอกแล้วเบือนหน้าหนี
นี่มันอยากจะเท่ไปเพื่ออะไรนักหนา อยากจะเท่แบบมาร์คฮยองงั้นเหรอ นี่ แบบอย่างความเท่คือแจ็คสัน หวังคนนี้นี่!
“โหยย ฮยองอ่ะ เท่ออกจะตาย ดูดิ ผมว่ามันเหมาะกับฮยองอ่ะ”ว่าแล้วยื่นเข้ามาใกล้เสียจนจะทิ่มเข้าหน้า ผมเบือนหน้าหนี
“เหมาะกับฮยอง งั้นนายก็ไม่ต้องใส่ดิ”ผมหันบอก แบมแบมก็ดูเงียบไป ท่าทางครุ่นคิด
“อือ...มันเหมาะกับฮยองนะ แต่ผมก็อยากได้ด้วยอ่ะ”
ผมกำลังจะดึงเด็กนั่นออกจากร้านอยู่แล้วเชียวถ้าเขาไม่พูดขึ้นมาก่อนว่า
“นี่ไงฮยอง เอาคนละข้างม้า... ใส่คนละข้าง เท่ดีออก ต่างหูคู่ไง ต่างหูคู่”
ผมชะงัก
ต่างหูคู่เหรอ…
ต่างหูของผมกับแบมแบมงั้นเหรอ…
ใจผมเย็นลงแบบไม่มีสาเหตุ อยู่ๆก็อารมณ์ดีจนอยากจะยิ้มออกมา แต่ต้องทำเป็นนิ่งแล้วบ่นกลับใส่แบมแบม
“แต่มันเหมือนของมาร์คแล้วจะเป็นต่างหูคู่ได้ไง!”
“เหมือนที่ไหน แบมแค่บอกว่าคล้าย นี่มันคนละแบบกันเลยนะฮยอง!”แบมแบมว่า
“จริงอ่ะ?”
“จริง เนี่ย คนละข้าง เอาเปล่าฮยอง”ผมมองคนตรงหน้า ใบหน้าใสกับรอยยิ้มน้อยๆที่ยิ้มออกมาจนเห็นแก้มตุ่ยสองข้าง ตาโตจ้องมองผมอย่างรอคำตอบ
เฮ้ๆ จ้องกันแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้…
ผมคงมีให้คำตอบเดียวเท่านั้นล่ะ
“เอามานี่ ฮยองจ่ายเอง”
พวกเรายังคงเดินดูของกันไปเรื่อยๆ เจอร้านที่ถูกใจก็แวะดูกันไป ได้ของมาบ้างไม่ได้บ้าง เดินกันไปเรื่อยจนเริ่มเหนื่อยผมกับแบมแบมจึงเดินเข้าร้านเครื่องดื่มข้างทางหาอะไรเย็นๆดับร้อนก่อน
“เอาชาเขียวปั่นหนึ่งแก้ว กับ...”แบมแบมหันมาทางผมพร้อมกับส่งสายตาแสดงคำถามมาให้
“โกโก้เย็น”
“ครับ โก้โก้เย็นอีกแก้วครับ”สั่งออเดอร์พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆแบบเด็กน้อยให้กับคนขาย แบมแบมนี่มันเด็กชายจากไทยแลนด์ แดนออฟสมายจริงๆ แจกยิ้มเรี่ยราดมาก ดีนะที่คนขายเป็นอาจุมม่าวัยดูเฉียดห้าสิบ ไม่งั้นหมอนี่คงได้แฟนคลับเพิ่มมาอีกหนึ่ง
อะไร! ใครบอกผมหวง ผมเปล่าเสียหน่อย!
ขณะที่ยืนรอน้ำที่สั่งไปนั้นก็ต่างคนต่างเงียบ แบมแบมก็จิ้มมือถือไปเหมือนเดิม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ตลอดเวลาตั้งแต่เดินดูของกันมาแบมแบมเอามือถืออกมาจิ้มเรื่อยๆเป็นระยะๆตลอด จนผมอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ หมอนี่ติดมือถือก็จริง แต่ปกติก็ไม่ได้คุยแชทกับใครตลอดแบบนี้นี่!
มือถือนั่นมีอะไร ยิ้มอยู่ได้ อยากยิ้มหันมายิ้มกับแจ็คสันนี่!
หรือจะแอบคุยกับนูน่าที่ไหน หรือคุยกับมาร์ค?
สงสัยจนในที่สุดอดจะถามออกไปไม่ได้
“นี่ คุยกับใครนักหนา เห็นจิ้มอยู่แต่กับโทรศัพท์”ผมถามพรางขมวดคิ้ว แบมแบมเงยหน้ามอง รอยยิ้มยังคงค้างอยู่ใบหน้าจากการคุยโทรศัพท์
“นี่เหรอ”ถามกลับพรางชี้มือถือตัวเอง
ผมพยักหน้าส่งๆ
“เห็นคุยหัวเราะคิกคักมาตั้งแต่เช้าไม่หยุดสักที เดินก็จิ้มอยู่นั่นละ จนจะชนคนอื่นเค้าไปทั่วแล้ว”พูดปนบ่นเล็กน้อย แต่เจ้าตัวดูจะไม่ถือสากลับยิ้มหัวเราะให้ผมเช่นเดิม
“ก็คุยกับพวกเรานั่นแหละ”
ตอบสั้นๆแล้วหันกลับไปพิมพ์ต่อ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่สาวที่ไหน...เดี๋ยวนะ คุยกับพวกเราเหรอ คุยกับมาร์คเหรอ? นี่จะคลั่งอะไรขนาดแยกกันไม่ได้เลยหรือไงวะ
“ใคร มาร์คเหรอ”พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอใช้น้ำเสียงจริงจังไปก็ตอนพูดจบประโยค ยังดีที่อีกฝ่ายมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับมือถือเลยไม่ทันได้สังเกต
“เปล่าอ่ะ แบมคุยกับยูคยอมอยู่”
คำตอบที่ผมแทบหงายหลังเมื่อรู้ว่าคาดโทษคนผิดมาตลอด
ใช่ ผมลืมหมอนี่ไปได้ไง เห็นเงียบๆ แต่โมเม้นหลังกล้องพวกมันเพียบนะครับ แจ็คสันบอกเลย
อยู่ๆก็อยากจะแย่งมือถือในมือบางนั่นมาขว้างทิ้ง แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาเขี่ยต่างหูที่เจ้าตัวใส่อยู่เล่น
ต่างที่หูใหม่ที่เจ้าตัวเห่อจนเมื่อจ่ายเงินเสร็จก็แย่งไปใส่ทันทีทันใด แถมยังบอกให้ผมใส่อีกด้วย
ถามผมใส่หรือเปล่าน่ะเหรอ…
แน่นอน ถ้าผมไม่ใส่ก็ไม่ใช่ต่างหูคู่สิ!
“น้ำที่สั่งไว้ได้หรือยังคะ โอ๊ะ แบมแบม!”ผมหันควับไปมองทันทีมีคนเอ่ยชื่อแบมแบม เห็นเป็นผู้หญิงวัยรุ่นสองคนอายุประมาณผมถือน้ำที่สั่งไว้ในมือ ยิ้มแย้มท่าทางดีใจ คนนึงเป็นคนเกาหลี อีกคนผมจำเธอได้ เธอเป็นคนไทย เป็นแฟนคลับของแบมแบม ผมเคยเห็นเธออยู่หน้าตึกบางครั้ง ผู้หญิงคนนั้นคุยกับแบมแบมอยู่ไม่ได้หันมามองผม
“อ้า อันยองแจ็คสัน อันยอง นายสบายดีมั๊ย โอเค นายสบายดีเหรอ”ผมแทรกพูดเองเออเองคนเดียวใส่ผู้หญิงคนนั้นเป็นเชิงประชดเล่นๆ อันยองงง แจ็คสันอยู่นี่ ช่วยสนใจแจ็คสันด้วยครับ!
ทุกคนหัวเราะขำ ก่อนที่แฟนคลับเกาหลีอีกคนจะเข้ามาคุยกับผมด้วย ปล่อยให้แฟนคลับคนไทยคุยกับแบมแบมเป็นภาษาไทยไป แต่ขณะที่ผมกำลังคุยอยู่กับอีกคนนั้นนั้น หูอันดีของผมกลับได้ยินชื่อมาร์คออกมาจากบทสนทนานั้น ผมรีบหันขวับไปมองแล้วแทรกพูดทันที
“Hey hey what are you guys talking about!? Why Mark? i’m here, Jackson is here!”
แบมแบมกับแฟนคลับหัวเราะทันที ก่อนที่แฟนคลับไทยคนนั้นจะหันมาพูดกลั้วหัวเราะเป็นภาษาเกาหลีกับผม
“นายอยากรู้เรื่องที่พวกเราคุยกันงั้นเหรอ”
ผมพยักหน้าหงึกๆ
แจ็คสันไม่ควรถูกกันออกจากบทสนทนาครับ!
แฟนไทยคนนั้นหัวเราะเล็กน้อย
“ฉันแค่ถามแบมแบมว่าเมมเบอร์คนอื่นไปไหน แบมแบมบอกว่าคนอื่นกลับบ้านหมด เหลือแค่มาร์คกับเจบี ฉันเลยถามว่าแล้วมาร์คไม่มาด้วยงั้นเหรอ ก็แค่นั้นเอง”อธิบายยาวเหยียดไปหัวเราะขำผมไป
โอเค เอาเป็นว่าผมตีโพยตีพายไปเองก็ได้
“สรุปว่ามากันสองคนใช่มั๊ยแบมแบม”คราวนี้แฟนคลับคนนั้นคุยเป็นภาษาเกาหลีกับแบมแบมแต่กลับส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผม
สงสัยที่แบมแบมเคยบอกว่าแฟนไทยยิ่งรักยิ่งแซะนี่ท่าจะจริง…
ว่าแต่เธอแซะเพราะรักผมใช่ไหม?
“ครับ ผมมากับแจ็คสันฮยองสองคน มาร์คฮยองออกไปกับเจบีฮยองครับ”แบมแบมตอบยิ้มๆ
“Just JackBam You know MarkBam no! JackBam Yes!”ว่าแล้วผมก็วาดแขนโอบคอดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด
ทุกคนหัวเราะขำ ผมก็หัวเราะไปด้วย แต่จะมีใครรู้มั๊ยว่าผมหมายถึงแบบนั้นจริงๆนะ
แค่แจ็คแบมก็พอแล้ว ยูคแบม มาร์คแบมที่ไหนไม่ต้องมายุ่ง แค่แจ็คแบมเท่านั้นที่ ‘เยส’
ผมก็แค่...หวงน้องชายผมนี่หว่า
คุยกันไปอีกสักพักจนเครื่องดื่มที่สั่งได้เราเลยบอกลาแฟนคลับทั้งสองคน
“เที่ยวให้สนุกนะแบมแบม พี่ไปละ”แฟนคลับคนนั้นยกมือบ๊ายบายให้พวกผม ขณะที่แบมแบมที่หันหลังกลับกำลังจะออกเดิน แฟนไทยหันมาทางผมแล้วพูดเบาๆ
“ที่จริงฉันชอบแจ็คแบมที่สุดเลยนะ แจ็คแบม เยส แจ็คแบม ไฟท์ติ้ง!”เธอว่าก่อนจะหัวเราะแล้วยกมือทำท่าไฟท์ติ้ง
ผมหัวเราะกลับก่อนจะยื่นมือไปไฮไฟว์กับเธอแล้วหันกลับมาเดินข้างแบมแบมที่หันมามองด้วยท่าทีสงสัย
“มีอะไรเหรอฮยอง”
ผมส่ายหน้า หัวเราะน้อยๆ ก่อนจะหันไปคล้องคอเอาคนตัวเล็กข้างกายเข้ากอดแล้วยิ้มกว้าง
“ตอนนี้ที่มี...ก็แค่ ‘แจ็คแบม’ เท่านั้นแหละ”
Look! There's our shipper, They just want 'JACKBAM'...
คุยกันหน่อยยยย
ก่อนอื่นขอบคุณแฟนอาร์ตจากคุณ MINKMEE นะคะ ยังไม่ได้ขอเลยจิ๊กมาใช้เลยง่า แฮ่ๆ
แล้วก็เราหายอีกละ กราบขอโทษค่ะ 5555555 ไม่ได้อยากหายนะ แต่แบบบางทีมันก็แอบตัน แล้วภารกิจในชีวิตจริงก็เยอะเหลือเกิน 5555
ตอนนี้เราพาแจ็คแบมมาง้อ โธ่ ก็โมเม้นคู่นี้มาแรง ถ้าฟีดแบคดีอาจจะมีคู่หายากมาด้วยนะ 55555 ตอนนี้มันดูขาดๆเกินๆแหว่งๆหรือเปล่า รีบมาก มีคนมาทวง แต่งเสร็จแล้วรีบอัพเลย จะยังมีคนอ่านอยู่มั๊ย 555555 สนุกไม่สนุกก็บอกกล่าวกันหน่อยเน่อ อยากรู้ฟีดแบคคคคค คึคึ
ขอบคุณที่ติดตามนะค้าา
เม้นวันละนิด จิตแจ่มใส
จะมุ้งมิ้งลงทวิต โปนดติดแท็ก #ฟิคgetgot7
ความคิดเห็น