คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF BROMANCE] WISH 2+ Interview [END]
...ขอมอบฟิคตอนนี้แรกนี้ให้เป็นของขวัญเด็กน้อยแบมแบม...
WISH 2
[BROMANCE]
และแล้วคืนนั้นก็ผ่านไป กว่าพวกเราจะได้กลับหอพักก็ปาไปเกือบตีหนึ่งนั่นล่ะครับ ผมที่ตื่นเช้ามารู้สึกไม่สดชื่นเลยสักนิด แค่ลืมตามามันก็รู้สึกหน่วงถาโถมเข้ามาในจิตใจยังไงชอบกล ตามันจะคอยแสบๆร้อนๆโดยไม่มีเหตุผลอยู่เรื่อย
เฮ้ๆ อาการหนักแบบนี้สงสัยต้องกลับไปพักที่ไทยแล้วล่ะม้างเนี่ย
อ่า คิดแล้วก็อยากจะกลับบ้านจริงๆแฮะ
แบมแบมอดทนเว้ย ฮึบๆ
เมื่อทุกคนอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ลงมาขึ้นรถที่ผู้จัดการจอดรถรอหน้าตึก
“วันนี้มีรายการวิทยุตอนเช้ารายการเดียวนะ ส่วนตอนบ่ายเดี๋ยวมีคุยเรื่องงานที่ตึกนิดหน่อย แล้วนอกนั้นก็เป็นเวลาซ้อมเหมือนปกติ เข้าใจแล้วใช่มั๊ยทุกคน”
“คร้าบ”ทุกคนขานรับก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ ผมรีรอเลือกไม่ถูกว่าจะขึ้นรถคันไหนดี รู้สึกไม่อยากจะเข้าไปอัดอยู่กับพวกเขานานๆ
เลยรอจนกระทั่งทุกคนกำลังเลือกขึ้นรถจนหมด โชคดีที่คันแรกนั่งกันไปสี่คนคือ แจบอมฮยอง จินยองฮยอง แจ็คสันฮยอง กับ ยองแจฮยอง ผมเลยเลือกขึ้นรถอีกคันที่คนน้อยกว่า มีเพียงมาร์คฮยองกับยูคยอม อย่างน้อยลดไปหนึ่งคนก็ดีครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากปะทะซึ่งๆหน้ากับพวกเขายังไงชอบกล รู้สึกกดดันแบบบอกไม่ถูก
ทุกคนนั่งเงียบ ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง มีเพียงเสียงพูดคุยหยอกล้อของมาร์คฮยองกับยูคยอมดังขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็นะ มันไม่ได้เกี่ยวกับผมเลยนี่นา
เมื่อมาถึงสถานีวิทยุ พวกเราทำการทักทายแบบเป็นทางการกับดีเจที่เป็นรุ่นพี่ในวงการก่อน แล้วแยกย้ายกันนั่งตามที่พวกเขาจัดที่ไว้ให้
“เอาล่ะค่ะ และแล้วตอนนี้พวกเราก็อยู่กับ GOT7 ค่า!!! GOT7 เป็นวงน้องใหม่จากค่าย JYPนะคะ ที่ตอนนี้กระแสมาแรงสุดๆเลย และตอนนี้พวกเขาก็คัมแบ็คกลับมาในเวลาเพียงหนึ่งถึงสองเดือนเองนะคะ เรียกได้เวลาเร็วมากเลยกับการคัมแบ็คครั้งนี้ งั้นเราขอไปฟังคำทักทายและแนะนำตัวจากพวกเขาก่อนเลยนะคะ…”
รายการวิทยุดำเนินไปเรื่อยๆ ทุกคนพูดคุยกันสนุกสนาน ผมก็แสร้งทำเป็นสนุกหัวเราะไปกับพวกเขาด้วย โชคดีที่เป็นรายการวิทยุที่ไม่มีการบันทึกภาพ เพราะผมรู้ตัวดีว่าสีหน้าและท่าทางของผมไม่พร้อมจะออกสื่อในตอนนี้หรอกครับ
ทุกอย่างในที่นี้ดูปกติดีนะครับ ยกเว้นผมนี่แหละ ยิ่งรายการดำเนินไปผมยิ่งรู้สึกแย่นะ ไม่ว่าผมจะเล่นมุกอะไร หรือพูดอะไรผมจะถูกปล่อยเบลอตลอดเลย ทุกคนดูไม่สนใจในสิ่งที่ผมพูดหรือออกความคิดเห็นเลย
เห้ย แบบนี้มันชักจะเกินไปแล้วนะ!!
ตะโกนได้แค่ในใจแหละครับ ฮ่ะๆ
“เอาล่ะค่ะ เรามาพูดถึงวันสำคัญที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ดีกว่า”ดีเจเว้นช่วงไปนิดนึง ทุกคนมองหน้าผม จนผมอดส่งเสียงออกมาด้วยความสงสัยไม่ได้
“ครับ?”ผมครับเป็นเชิงถาม แต่อยู่ๆทุกคนกลับหัวเราะขึ้นมาซะอย่างงั้น
เห สมาชิกคนอื่นหัวเราะกับคำพูดของผมด้วยเหรอ… แบบนี้รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึงแฮะ
“ช่วงนี้เค้าคงยุ่งๆน่ะครับเลยลืมวันเกิดตัวเอง”คำพูดของจินยองฮยองทำเอาผมตาโต ก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆก็จะพูดล้อเลียนผมขึ้นมาบ้างที่ลืมวันเกิดตัวเอง
“หา วันเกิดผมเหรอครับ”ผมอดตกใจไม่ได้ก่อนจะหยิบมือถือมาเช็ควันที อ่า พรุ่งนี้แล้วเหรอ…
เมื่อกี๊นี้จินยองฮยองเป็นคนพูดขึ้นมาว่าเป็นวันเกิดผม เขาจำได้งั้นเหรอ? อย่างน้อยพวกเขาก็จำเรื่องของผมได้ล่ะน่า เนอะ
“ค่ะ แล้วแบมแบมมีแพลนอะไรในวันเกิดรึเปล่าคะ”คำถามที่ทำเอาผมนั่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ผมควรจะตอบว่ายังไงดีล่ะในเมื่อสถานการณ์รอบตัวผมเป็นแบบนี้
“อ้า แน่นอนครับ ผมต้องจัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับสมาชิกทุกคนอยู่แล้วล่ะครับ”ผมตอบแล้วหัวเราะร่า สุดท้ายผมก็ได้แต่เลือกตอบอะไรที่จะไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของวงเสียหาย ตามด้วยสมาชิกคนอื่นๆที่พูดเกี่ยวกับวันเกิดของผมไปเรื่อยด้วยความสนุกสนาน
ผมอยากให้หน้ากล้องกับหลังกล้องมันเป็นแบบเดียวกัน ผมต้องทำยังไงเหรอครับ…
ผมไม่อยากโดดเดี่ยวแบบนั้นอีก
ผมเหงา…
มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆนะครับกับการมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว ไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้จักใคร พูดไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง ยิ่งผมมาตั้งแต่เด็กมากๆด้วยแล้ว เวลานั้นมันยิ่งยากลำบากมาก ผมเกลียดช่วงมาที่นี่ใหม่ๆที่สุด ผมกลัว กลัวมาตลอดว่าจะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก จนกระทั่งผมปรับตัวเข้ากับทุกๆอย่างได้ จนกระทั่ง พวกเขาเข้ามาในชีวิตผม จนกระทั่ง…ผมกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกGOT7 ผมก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นอีกเลย
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้วล่ะครับ
หลังจากจบรายการวิทยุพวกเราก็นั่งรถกลับไปที่บริษัทเพื่อคุยรายละเอียดเรื่องงานและซ้อมตามตารางต่อ
เนื้อหาการประชุมมีไม่เยอะ เพียงเรื่องที่ทางบริษัทต้องการจะถ่ายทำคลิปพิเศษที่เป็นวันเกิดของผมและเรื่องที่ช่วงวันเกิดของผม มันตรงกับวันหยุด ได้หยุด3วันติดกันเลย หลังจากคุยกันนิดหน่อยพวกเราก็ต่างแยกย้ายกันไปซ้อมต่อ
ผมแยกไปซ้อมเต้นคนเดียวในส่วนท่อนโซโล่ของผม เพราะเมื่อวานยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ซ้อมอยู่นาน จนผมรู้สึกอยากพักจึงหยุดซ้อมชั่วครู่แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
“ฮยอง พวกผมไม่ถ่ายทำไม่ได้หรอ วันหยุดตั้งสามวัน ผมอยากกลับบ้าน”เสียงคุ้นหูของยองแจฮยองดังขึ้นจากในห้องประชุมเล็กๆที่ถูกกั้นไว้เป็นส่วนทำงาน
ผมชะงักกึก หยุดฟังสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดต่อ
พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องงานวันเกิดผมหรือเปล่า
“นั่นสิ สามวันอันที่จริงผมก็บินด่วนกับฮ่องกงก็ได้นา”
“อื้อ ผมไม่ได้เจอพ่อแม่มานานแล้วด้วย งานวันเกิดค่อยถ่ายทำตามหลังไม่ได้หรอฮยอง”
“แค่งานวันเกิดเองน่า ฮยองนะ”
และอีกมากมายที่ตามมาจนผู้จัดการต้องยอมรับปากเสียงระอา
“อา…ก็ได้ๆ พวกนายนี่จริงๆเลย วันเกิดน้องตัวเองแท้ๆ แต่ยังไงเดี๋ยวฮยองจะลองคุยกับแบมแบมอีกทีแล้วกัน”
อา…แบมแบมจุกจริงๆครับ โครตจุก จุกทั้งคอทั้งใจ
แค่วันเกิดงั้นเหรอ…
ใช่ มันก็แค่วันเกิดเอง ทำไมผมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ผมควรจะเข้าใจทุกคนสิ มีวันหยุดทั้งที ทุกคนก็อยากกลับบ้านกันอยู่แล้ว
อันที่จริง ถึงจะแค่สามวัน ผมก็น่าจะบินกลับไทยได้นี่นา
ซ้อมเสร็จแล้วค่อยจองตั๋วกลับเช้าพรุ่งนี้เลยก็น่าจะทัน
หลังจากนั้นพวกเราก็ถูกเรียกซ้อมรวมในห้องอีกครั้ง
ผมไม่พ้นโดนว่าอีกแล้ว ทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าเต้นถูกแล้วแท้ๆ ทำไมยังผิดได้นะ หรือผมเข้าใจสเต็ปผิดตั้งแต่แรก
เหมือนเดจาวู…
พวกเขาทิ้งผมให้ซ้อมคนเดียวพร้อมกับคำพูดต่างๆที่เจาะลึกเข้าไปในจิตใจของผม
“ทำไมตอนแรกนายไม่เห็นเต้นห่วยขนาดนี้”
เฮ้ ผมว่าตอนนี้ผมเก่งขึ้นแล้วนะจินยองฮยอง
“รายการวิทยุวันนี้นายก็แย่มากนะ เล่นมุกซะจนเราตามไม่ทัน”
ผมพยายามทำให้ดีที่สุดต่างหากล่ะ แต่มันคงมากเกินไปสินะแจ็คสันฮยอง ผมขอโทษ
“ทำไมเต้นผิดแต่จุดเดิมวะแบมแบม ฉันเหนื่อยแล้วนะ!”
ฉันควรจะทำให้ดีกว่านี้สินะยูคยอม ฉันขอโทษ
“นายยังมีจิตใจที่อยากจะอยู่ในวงของพวกเราอยู่รึเปล่าวะแบมแบม แบบนี้มันแย่เกินไปแล้วนะ น่ารำคาญชะมัด!!”
แบมอยากอยู่ มาร์คฮยอง แบมจะทำให้ดีขึ้นนะ แบมขอโทษ
“ถ้ายังไม่พร้อมก็ออกไปซะแบมแบม พวกฉันเบื่อคำขอโทษของนายเต็มทนแล้ว!!”
แบมขอโทษแจบอมฮยอง อย่าพึ่งไล่ผมไปไหนเลย ผมขอโทษ
และ
“ทำไมเดี๋ยวนี้นายเป็นแบบนี้ล่ะ นายเปลี่ยนไปรึเปล่าแบมแบม…”
ไม่จริงหรอก พวกฮยองต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป… อึก ตอนที่พวกเขาไม่อยู่นี้ ผมขอร้องไห้ได้ไหม ผมจะไม่ให้พวกเขาเห็นน้ำตา ผมสัญญา ผมจะไม่ทำให้พวกเขารำคาญอีก แต่แค่แปปเดียวจริงๆ ผมจะไม่ไหวแล้ว
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ทุกคนเข้ามามีอิทธิพลต่อผมขนาดนี้ คงเป็นเพราะชีวิตของเด็กฝึกหัดต่างชาติ ห่างจากบ้านที่คุ้นเคย ห่างจากครอบครัวที่รัก ห่างจากเพื่อนพี่น้องที่ผูกพันธ์ พวกเขากลายมาเป็นไม่กี่สิ่งที่ผมมีที่นี่ หอพักของพวกเรากลายเป็นบ้านอีกหลังที่ผมคุ้นเคย GOT7กลายเป็นอีกครอบครัวที่ผมรัก สมาชิกในGOT7กลายเป็นเพื่อนพี่น้องที่ผมผูกพันธ์
ชีวิตที่เกาหลี ผมมีแค่พวกเขา… อึก
ผมทิ้งตัวลงกับพื้นอยู่สักครู่ พยายามจะลุกขึ้นซ้อมเต้นต่อ
พรึ่บ
ทันใดนั้น ไฟทุกดวงในห้องก็ดับสนิท ใจผมตกไปอยู่ตาตุ่ม แต่นึกได้ว่าคงถึงเวลาตัดไฟแล้ว บริษัทนี้จะตัดไปอัตโนมัติตอนตีสองครับ เดี๋ยวไฟก็กลับมาแล้วครับ อีกแปปเดียว
นั่นไง แอร์ทำงานแล้ว
แต่น่าแปลก รอไปสักพักไฟก็ไม่ติดสักที
ชิบหายแล้วสิครับ!
แบบนี้มันอดใจหายไม่ได้นะ หรือทุกคนแกล้งปิดไฟตอนผมอยู่คนเดียวให้ผมกลัว? บ้าน่า พวกเขาไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้หรอกนะ
ผมเหลือบสายตามองนาฬิกาดิจิตอลที่ยังคงทำงาน มันฉายแสงในความมืดบอกเวลา 12:09 เห แต่ตอนนี้ยังไม่ตีสองเลยนี่นา…
นี่พวกเขาแกล้งผมจริงๆเหรอ
อา…แบบนี้มันรู้สึกแย่จริงๆนะครับเนี่ย
แต่ไม่หรอกมั้ง ผมคิดเพ้อเจ้อไปงั้นแหละครับ พวกเขาไม่น่าทำขนาดนี้หรอก ไม่หรอก…
แต่ตอนนี้ทุกคนหายไปไหนล่ะ
ทำไมถึงยังไม่กลับมา
พวกเขาจะทิ้งผมจริงๆหรอ…
อยู่ๆขอบตาก็ร้อนผ่าวอีกครั้ง รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่คลออยู่ในหน่วยตา
“ทุกคนไปไหนหมดน่ะ”ผมอดร้องเรียกออกมาเบาๆไม่ได้ และไม่คิดด้วยว่าจะมีเสียงตอบรับ รู้สึกถึงบางอย่างที่มาจุกอยู่ที่ลำคอ
“พวกเราอยู่นี่ไง”แต่แล้วเสียงคุ้นหูของลีดเดอร์ดังแว่วมาแต่ไกล ผมหันไปดูทางประตูที่ตอนนี้ทุกคนทยอยกันเข้ามาในความมืด มีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยจากแสงเทียนที่ปักมากับเค้กก้อนโตที่ทำให้ผมรู้ว่าใครเป็นใคร
“หนึ่ง สอง สาม เอ้า Happy birthday to you happy birthday to you happy birthday happy birthday HAPPY BIRTHDAY TO OUR LITTLE BAMBAM~~”
ผมเบิกตากว้าง แทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
จินยองฮยองที่เป็นคนถือเค้กนำทุกคนเข้ามา ยื่นเค้กมาตรงหน้าพร้อมกับทุกคนที่เฮลั่นกันเข้ามากอดผม ผมยังคงยืนนิ่ง พยายามประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด
นี่หมายความว่าพวกเขาแกล้งผมใช่ไหม
ทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม
พวกเขาไม่ได้รำคาญผมใช่ไหม
ทุกสิ่งยืนยันได้จากการที่ทุกคนยังยิ้มแย้มและหัวเราะให้ผม พร้อมกับเข้ามากอดโอ๋ผมกันไม่หยุด
เมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมด ราวกับภูเขาร้อยลูกถูกยกออกไปจากอกเลยทีเดียว ความรู้สึกกดดันทั้งหมดถูกปล่อยออกมาเป็นน้ำใสๆที่ไหลออกจากตา
บ้าเอ๊ย ผมลูกผู้ชายอกสามสองต้องไม่ร้องเซ่
แต่เวลานี้ ขอนิดนึงเถอะ…
ร่างโปร่งที่อยู่กลางวงสมาชิกค่อยๆทรุดตัวลงช้าๆพร้อมเอามือปิดหน้า ร้องไห้สะอึดสะอื้น ปากเอ่ยออกมาเพียง
“ทำไมทำแบบนี้เล่า ทำไมต้องทำกับแบมแบบนี้ด้วย ทำไม ทำไม ทำไม”ซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
แจ็คสันหัวเราะลั่นก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับคนตัวเล็กแล้วโอบรอบตัวบาง
“แต่นายนี่ก็จริงๆเลยน้า ลืมวันเกิดตัวเองได้ไง”ว่าแล้วก็หัวเราะลั่นก่อนจะเขย่าไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
แบมแบมพยายามสะบัดพี่ชายชาวฮ่องกงออกแล้วตอกกลับด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
“ก็เพราะใครเล่า เพราะพวกฮยองนั่นแหละทำให้ผมเครียดจนลืมวันเกิดตัวเองเนี่ย ฮึก”
“แต่ถ้านายไม่ลืมวันเกิด แผนเราก็อาจจะไม่สำเร็จน่ะสิ เมื่อเช้าก็เกือบจะเสียแผน ไม่คิดว่าที่รายการวิทยุจะพูดถึงเรื่องวันเกิดนาย เนี่ยเราลงทุนเซอร์ไพร์ซ ตอนเข้าวันเกิดนายตอนเที่ยงคืนเลยนะ”ยองแจว่าพลางหัวเราะลั่นไม่ต่างจากคนอื่น
“ฮ่าๆๆๆๆ นายเข้าใจความรู้สึกฉันรึยังล่ะแบมแบมมม”มักเน่ตัวโตว่าพร้อมกับหัวเราะแล้วลงไปกอดคลอเคลียกับคนตัวเล็กด้วยอีกคน
“ฮึก ไม่ต้องมาพูดดีเลย ไหนนายเคยบอกว่าไม่โกรธฉันไงวะไอ้ยูค ไหงทำงี้เล่า แกมันบ้า ทุกคนบ้าหมดเลย ฮือ”แบมว่าด้วยท่าทีโมโหพรางปัดทุกคนออกจากตัว แต่การกระทำทั้งหมดกลับดูน่าขันและน่าเอ็นดูในที
“พวกเราแกล้งเล่นน่า แต่ท่าหมาหงอยของนายก็น่ารักดีนะ”มาร์คว่าแล้วหัวเราะลั่น คุกเข่าลงไปนั่งด้วยอีกคน ก่อนจะขยี้หัวคนตัวเล็กที่ตอนนี้ถูกพี่ๆและเพื่อนตัวโตมะรุมมะตุ้มอยู่
“น่ารักบ้าบออะไรวะ แค่วันเกิดต้องแกล้งกันขนาดนี้เลยเหรอ แม่งเอ๊ย แบมเกลียดทุกคน โกรธนะเว่ย ฮึก ทุกคนไม่รู้หรือไงว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นยังไง ฮึก”ว่าด้วยความโมโหพร้อมสบทคำหยาบออกมาแต่ฮยองทั้งหลายกลับไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด แถมยังหัวเราะลั่นเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
“ผมคิดว่าทุกคนเกลียดผมกันหมดแล้ว…อึก”
ประโยคพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ตามมาด้วยเสียงสะอื้นเบาๆของคนตัวเล็ก แทนที่พวกเขาจะรู้สึกผิดแต่กลับสร้างรอยยิ้มให้พวกเขาเสียอย่างนั้น
ก็จะไม่ให้ยิ้มได้ไงล่ะ ก็ในเมื่อคนตรงหน้ามันน่าเอ็นดูขนาดนี้ ปกติเห็นแต่จะพูดมาก พูดเป็นต่อยหอย พูดไร้สาระตลอด แถมบางทียังขี้เก๊ก เป็นเด็กแก่นๆซนๆไปเรื่อย แต่พอมาเจอเวลาแบบนี้แล้วมันก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้เลย
ที่แท้ไอ้ดื้อคนนี้ ก็ต้องการความรักจากฮยองทั้งหลายมากเหมือนกันนี่นา
“พวกเราแค่แกล้งเล่นจริงๆนะ ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะก็ เราไม่มีวันทำกับนายแบบนั้นหรอกนะ แบมแบมนะครับผม”เจบีบอกด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคแหย่ภาษาไทยที่ติดหูเขา
ทุกคนหัวเราะขำการแหย่ของลีดเดอร์ก่อนจะพากันพูดยืนยันว่าแค่แกล้งจริงๆ ชีวิตจริงพวกเขาไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด ส่งเสียงดังเซ็งแซ่ไปหมด
“จริงๆนะ”คนถูกแกล้งถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่าทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริง
“จริงสิ!!!”และอีกหกเสียงก็ตอบรับพร้อมเพรียงกันแล้วหัวเราะลั่นกับความน่ารักของสมาชิกชาวไทย
เจบียิ้มกว้าง
“โอ๋ๆ เอาน่า ลุกขึ้นมาเป่าเค้กก่อน”ก่อนจะพยุงน้องเล็กขึ้นมา แล้วโอบไหล่ลูบหลังเป็นการปลอบเบาๆ เมื่อร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาก็มีแต่คราบน้ำตาไหลเต็มหน้า ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
มาร์คยิ้มกว้างก่อนจะยื่นหน้าไปทำตาปริบๆใส่คนตัวเล็กแล้วเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้าเบาๆแล้วบอก
“อธิษฐานสิ”พร้อมกับจินยองที่ยื่นเค้กไปตรงหน้าแบมแบม
แบมแบมหายใจเข้าลึกๆ กลั้นสะอึกสะอื้นแล้วหลับตาประสานมือ อธิษฐานในใจ
ผมไม่ขออะไรมาก ขอเพียงให้ทุกๆคนบนโลกนี้มีความสุข แล้วก็ขอให้พวกเราเจ็ดคนอยู่ด้วยกันตลอดไป เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นครอบครัวแบบนี้ตลอดไป แบมแบมขอแค่นี้ล่ะครับ…
อธิษฐานเสร็จก็ค่อยลืมตาพร้อมกับเป่าเทียนจนดับ แล้วไฟภายในห้องซ้อมก็ค่อยๆติดขึ้นทีละดวงๆ
จินยองวิ่งไปวางเค้กไว้มุมหนึ่งก่อนจะวิ่งอ้าแขนเข้าหาแบมแบม
“ย๊าาาา แบมแบมเตรียมตัว!!!!”
สมาชิกคนอื่นๆเห็นดังนั้นก็รีบอ้าแขนพุ่งไปหาคนตัวเล็กบ้าง
“หลบไป ให้ฉันกอดก่อนเซ่ฉันเป็นลีดเดอร์นะ!”
“ให้ผมกอดบ้างดิฮยอง!!”
“เห้ยๆ ฉันโตสุด ให้ฉันกอดก่อน!!”
“อย่าเบียดเด้ ผมจะกอดแบมแบม”
“ฉันเป็นออมม่าต้องได้กอดก่อนเว้ย!!”
“ทุกคนหลบไป wild&sexy Jackson wang คนนี้มาแล้ววว!!!”
แล้วทั้งหมดก็กระโดดกอดกันกลมพร้อมกับพูดอวยพรให้เจ้าของวันเกิดพร้อมกันจนฟังไม่ได้ศัพท์
พวกเขาจะอยู่กันเจ็ดคนแบบนี้ คอยแกล้งกัน แหย่กัน ดุกัน ทะเลาะกัน ยิ้มด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน จากนี้และตลอดไป…
~เก็บตกหลังกล้อง~
ยองแจ
MC : รู้สึกยังไงกับการแกล้งสมาชิกชาวไทยบ้างคะ
ยองแจ: เอาตรงๆนะ ผมว่าก็สนุกดี แต่บางทีแบมแบมก็น่าสงสารเกินไปหน่อย ผมจำได้เลย ตอนที่ทุกคนเมินแบมแบม อา…เขาน่าสงสารจริงๆนะ
MC : แล้วทำไมถึงยังแกล้งแบมแบมล่ะ
ยองแจ : หา ผมเปล่านะ ก็แจบอมฮยองเขาบังคับผมอ่ะ
MC : แล้วถ้าเลือกได้จะยังแกล้งแบมแบมอยู่รึเปล่า
ยองแจ : ถึงเขาจะน่าสงสาร แต่เวลาเขาทำท่าหงอยแล้วมันก็น่ารักดีนะครับ(หัวเราะ) อา…ดังนั้นถ้าให้เลือกอีก ก็คงแกล้งอยู่ดีล่ะฮะ
MC : มีอะไรฝากถึงแบมแบมมั๊ย
ยองแจ : แบมแบมอ่า ฮยองขอโทษนะ แล้วก็สุขวันต์วันเกิด รักนายน้า~
เจบี
MC : มีคนให้สัมภาษณ์ว่าเราเป็นคนบังคับให้แกล้งแบมแบม
เจบี:ใครครับ
MC:ยองแจ
เจบี:อ๋า หมอนั่นเองเหรอ ผมเปล่าออกความคิดเห็นนะ แจ็คสันต่างหาก แจ็คสันออกความคิดเห็นหมดเลยครับ
MC:แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ
เจบี:อา มันก็รู้สึกผิดนะครับ แต่สนุกดี(หัวเราะ) บางครั้งแบมแบมจะเป็นคนอึนๆครับ เวลาแกล้งบางทีนี่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ถ้าแกล้งเบาๆเขาอาจจะเฉยๆ เลยต้องแกล้งหนักๆให้ซึมไปเลย(หัวเราะ)
MC: ตอนไหนที่ถือว่าเป็นจุดพีคสุดของเราคะ
เจบี : สำหรับผมน่าจะเป็นช่วงที่ตวาดใส่แบมแบมทุกครั้งเลยครับ ทั้งว่าเรื่องที่เต้นแย่ ว่าเรื่องที่เขาไม่พร้อมทำงานด้วย
MC : รวมถึงแกล้งทำเป็นห่วงแค่ภาพลักษณ์ของวงแล้วบอกแบมแบมว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาจะส่งผลต่อวงด้วยใช่มั๊ย ได้ข่าวว่าตอนนั้นน้องซึมไปเลย
เจบี : อ๋า นูน่าจะพูดถึงทำไมเนี่ย ผมอุตส่าห์แกล้งทำเป็นลืมแล้วนะ อา ตอนนี้ผมรู้สึกแย่จริงๆแล้วนะเนี่ย จริงๆเลย ผมไม่น่าจะพูดขนาดนั้นเลย อา แบมแบม ฮยองขอโทษ ฮยองรักนายนะตัวน้อย
ยูคยอม
MC : รู้สึกผิดตอนไหนมากที่สุด
ยูคยอม : อ่า ทุกตอนเลยครับ ถึงผมจะแอบสะใจ แต่ผมก็รู้สึกผิดจริงๆนะ
MC : มีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับตอนที่แบมแบมออกไปหาอะไรทานข้าวนอกคนเดียวคะ
ยูคยอม : อ๋า ตอนนั้นน่ะเอง ตอนแรกผมก็พอจะเดาออกล่ะครับว่าแบมแบมคงหิว ถึงมาถามผมว่าหิวมั๊ย แต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะออกไปคนเดียวนะ หลังจากผมออกมาจากห้องน้ำ ผมตกใจมากเลยที่แบมแบมหายไป เลยไปบอกทุกคน
MC : แล้วหลังจากนั้นได้ออกตามหามั๊ย
ยูคยอม : ครับ พวกเราไม่กล้าโทรหา เพราะจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจ พวกเราเลยออกตามหากันแทน แล้วก็ไปเจอเขาอยู่ที่ร้านขนมร้านประจำนั่นล่ะครับ
MC : มีอะไรจะฝากถึงแบมแบมมั๊ยคะ
ยูคยอม : แบมมี่ ชั้นชอบ อ๊ะ ไม่สิ ฉันรักนายนะ มักเน่ไลน์ มักเน่ไลน์~
จูเนียร์
MC :มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาคะ
จูเนียร์ : เหตุการณ์ไหนล่ะครับ แจมบอมฮยองกับแจ็คสันดุแบมแบม มาร์คฮยองกับยูคยอมแกล้งแบมแบม หรือที่ยองแจเมินแบมแบมครับ (หัวเราะ)
MC : ไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่เราว่าแบมแบมบ้างเหรอ แล้วที่เป็นตัวต้นเรื่องให้ยองแจแกล้งทำเป็นพูดว่าไม่อยากถ่ายทำงานวันเกิดแบมแบมให้เจ้าตัวได้ยินอีก
จูเนียร์ : โอะ นูน่ารู้ได้ไง(หัวเราะ) ตอนนั้นผมรู้สึกแย่มากเลยนะ ที่จริงอยากจะแกล้งให้เยอะกว่านี้ แต่พอเห็นหน้าแบมแบมแล้ว ผมก็คิดกับตัวเองว่า ‘อา…แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะ’ (หัวเราะ)
MC : แล้วไม่กลัวแบมแบมเสียใจเหรอ
จูเนียร์ : ผมไม่กลัวเขาเสียใจหรอก ผมรู้ว่าเขาต้องเสียใจแน่ๆ (หัวเราะ) แล้วยิ่งเป็นสมาชิกต่างชาติ มาอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ แล้วยังมาโดนเมินแบบนี้ ถ้าเป็นผม ผมต้องเสียใจแน่ๆครับ
MC : แล้วทำไมถึงยังแกล้งล่ะ
จูเนียร์ : อา นูน่าพูดแบบนี้ผมก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกันนะ(หัวเราะ) แต่มันเป็นอะไรที่สุดยอดเลยนะ ตอนที่ผมเดินถือเค้กเข้าไปแล้วหน้าแบมแบมเหวอมาก จากนั้นก็ร้องไห้โฮเลย เสียดายไม่รู้ว่ามีใครถ่ายไว้หรือเปล่า
MC : มีสต๊าฟถ่ายไว้ได้อยู่ ฝากอะไรถึงแบมแบมหน่อย
จูเนียร์ : จริงหรอครับ!! ว้าว สุดยอดเลยๆ(ตื่นเต้นสุดๆ) แบมแบมอ่า ฮยองรักนายที่สุดเลยนะ ฮยองจะเป็นออมม่าที่ดี ในเวลาที่นายต้องการใคร มาหาออมม่าคนนี้ได้ทุกเมื่อเลยนะ ซารางเฮโยววว~~
แจ็คสัน
MC : เจบีบอกว่าแจ็คสันเป็นคนต้นคิดเรื่องทั้งหมดเลย
แจ็คสัน : หา ใครนะครับ แจบอมฮยองหรอ ไม่จริงอ่ะ ผมไม่ได้ทำ เจ้ายูคยอมต่างหาก ยูคยอมเป็นคนคิด!
MC : แล้วแบมแบมหายงอนหรือยัง
แจ็คสัน : (หัวเราะเสียงดังแล้วตะโกนถามข้ามห้อง) นายหายงอนรึยังแบมแบม!!?
แบมแบม : ไม่หาย!!
แจ็คสัน : เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงดันกิ้นโดนัท!!
แบมแบม : เห ผมเคยโกรธฮยองเรื่องอะไรด้วยหรอ!!(หัวเราะ)
แจ็คสัน : ย่าห์ เจ้าเด็กนี่มันจริงๆเลย เห็นมั๊ยครับ แบมแบมไม่เคยโกรธผมอยู่แล้ว
MC : อ่า งั้นเหรอ แล้วรู้สึกยังไงบ้างที่เราไปว่าน้องว่าน้องตั้งเยอะ ไม่ได้เรื่องบ้าง เต้นห่วยบ้าง แถมเป็นต่างชาติไลน์ด้วยกันอีก น้องไม่เสียใจแย่เหรอ
แจ็คสัน : อ๊า นูน่าก็อย่าพูดสิ! ผมก็… ผมก็ ผม(นึกคำพูดแก้ตัวไม่ออก) แบมแบมอ่า ฮยองรักนายนะ! (ยิ้มประหลาด)
MC : (หัวเราะ)ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ แล้วมีตอนไหนบ้างมั๊ยที่เราคิดจะเข้าไปสารภาพความจริง
แจ็คสัน : จริงๆก็มีหลายครั้งนะที่ผมเกือบจะเดินไปดึงแบมแบมเข้ามากอดแล้วบอกว่า ‘โอ๋ๆ ตอนนี้นายปลอดภัยแล้ว’ (หัวเราะพร้อมทำท่าประกอบ) แล้วยิ่งตอนแบมแบมนั่งรอเวลาซ้อมเต้มอยู่คนเดียวที่โซฟา ไม่มีใครเข้าไปนั่งกับเขา ผมเกือบจะเดินไปคุยกับเขาแล้วเชียว เห็นแล้วมันน่าสงสารมาก อ๊ะๆ ตอนนั้นด้วย ที่ผมต้องตวาดใส่แบมแบม สาบานได้ว่าต่อจากนี้ไปผมจะไม่พูดหยาบคายใส่น้องโดยไร้เหตุผลแบบนั้นอีกแล้วล่ะ
MC : สุดท้ายแล้วอยากฝากบอกอะไรแบมแบมหน่อยมั๊ย
แจ็คสัน : บอกสิๆ ว่าแต่ทำไมผมต้องฝากคนอื่นบอกด้วยล่ะ ผมไปบอกเขาเองก็ได้นี่นา
MC : เอาหน่อยน่า พูดหน่อย
แจ็คสัน : อืม… แบมแบมอ่า ถึงฮยองจะไม่ใช่พี่ชายที่ดีที่สุด แต่ฮยองจะเป็นพี่ชายที่รักแบมแบมที่สุดนะ! อ๊าาาาา!!!! ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย!!(หัวเราะ)
มาร์ค
MC : แบมแบมงอนเราเรื่องนี้บ้างรึเปล่า
มาร์ค : เรื่องไหนครับ(ทำเป็นไขสือ)
MC : ที่เราแกล้งแบมแบม
มาร์ค : อ่า…ก็มีบ้างครับ
MC : แล้วง้อแบมแบมยังไงบ้าง
มาร์ค : อ๋า นี่ผมต้องบอกทุกอย่างเลยหรอเนี่ย (หัวเราะ) ผมฟังคำถามนี้ไม่ค่อยเข้าใจครับ ขอคำถามข้อต่อไปเลยได้มั๊ย (หัวเราะ)
MC : ตอนไหนที่เราสงสารแบมแบมมากที่สุด
มาร์ค : อืม คงจะเป็นตอนที่ผมต้องตวาดเขาครับ ผมมานึกย้อนดูอีกที ผมว่าคำพูดพวกนั้นมันร้ายกาจมากเลยนะ ตอนเห็นคนอื่นตวาดมันยังพอทนครับ แต่พอต้องทำเองแล้วนี่มัน อา… ผมสงสัยจังว่าแจบอมทนทำไปตั้งหลายรอบได้ยังไง
MC : เห็นว่าเช็ดน้ำตาให้น้องด้วย
มาร์ค : (หัวเราะ) ก็ตอนนั้นเขาน่าสงสารจริงๆนะ
MC : นึกว่าจะบอกว่าน่ารักซะอีก
มาร์ค : … ก็น่ารักครับ น่าเอ็นดู น่าตี(หัวเราะ)
MC : สุดท้าย พูดอะไรกับแบมแบมสักหน่อย
มาร์ค : แบมแบมอ่า… ผมจะพูดอะไรดี อืม แบมแบม ฮยองเป็นพี่โตสุดแต่กลับร่วมแกล้งนาย ทำให้นายร้องไห้ ต่อไปนี้ฮยองจะไม่ให้นายร้องไห้เสียใจอีก ฮยองสัญญา แล้วก็แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ รักนะครับ(อมยิ้ม)
MC : ต่อไปนี้จะไม่แกล้งน้องจนร้องไห้แล้วใช่มั๊ย
มาร์ค : ก็แกล้งแบบไม่ให้ร้องสิครับ! (หัวเราะ)
คุยกันหน่อยนะค๊า
อ๊าา จบไปอีกตอนอ่ะ มีคนเดาทางถูกด้วย 55555 คือเราอยากแต่งให้ดูดราม่า แต่ไม่รู้ว่าจะให้จุดเกิดเรื่องมาจากอะไร แล้วก็ทำใจแต่งแบบให้ทะเลาะกันจริงๆไม่ได้อ่ะ แล้วบังเอิญเคยเจอคอมเม้นต์ในยูทูปใน real got7 ตอนซ่อนกล่องแกล้งยูคว่า ‘Next target, Bambam please’ เลยแต่งออกมาเป็นแบบนี้ 55555
เห็นหลายคอมเม้นต์เริ่มจะดราม่าเข้าชีวิตจริง ไม่เอาน้า ไม่เอา 5555 เราไม่เอาไปยุ่งเกี่ยวกันดีกว่า คือช่วงแรกๆก็มีบ้างที่คิดว่าแบมถูกปล่อยเบลอ แต่หลังๆนี่เราว่าแจ็คสันกับพี่ๆคนอื่นมันรับมุกแถมจะคอยซุกน้องตลอดเลยนะ 5555 ดังนั้น อย่าไปคิดมากกันเลยเนอะ เรามามีความสุขกับสิ่งที่เรามโนขึ้นมาดีกว่า 55555
แล้วก็ตอนนี้พอใช้ได้มั๊ยอ่ะ สนุกไม่สนุกอย่าลืมบอกกันน้า คือแบบอยากให้ดูมุ้งมิ้งๆตอนท้าย แบบแอบมีลับลมคมนัยระหว่างมาร์คแบมแจ็ค 555555 ถึงจะBromance ก็ขอนิดนึงตามประสาติ่ง 5555
สุดท้าย!!! อย่าลืม จะมุ้งมิ้งลงทวิต โปรดติดแท็ก #ฟิคgetgot7
ความคิดเห็น