คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [OS JACKBAM] BECAME REAL
BECAME REAL
[OS JackBam]
เราเริ่มกันจากความสนิท กลายมาเป็นการเซอร์วิสเพื่อความสนุก
และการเซอร์วิสของผมกับเขามันก็มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่เขากอด ทุกครั้งที่เขาดูแลผม ทุกครั้งที่เขาคอยอยู่ข้างผม
ทุกๆการกระทำของเขา มันส่งผลกระทบต่อผมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
จนกระทั่งตอนนี้ จากการเซอร์วิสในวันนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความจริงในวันนี้...
ร่างโปร่งเพรียวของเด็กหนุ่มชาวไทยเดินออกมาจากห้องนอนของตนด้วยท่าทีเบลอๆ เสื้อผ้าราคาแพงถูกสวมใส่ครบชุดพร้อมกับผมสีบลอนด์สว่างที่ถูกเซ็ตเป็นทรงอย่างลวกๆเพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับตารางงานในเช้ามืด
ปากอิ่มเรื่ออ้าหาวน้อยๆด้วยท่าทีน่ารัก รู้สึกยังไม่พร้อมเท่าไหร่สำหรับงานเช้านี้ บ่อยครั้งที่ตารางงานของพวกเขาถูกกำหนดตั้งแต่เช้า และนั่นเป็นปัญหาของพวกเขาที่ต้องตื่นให้เช้ายิ่งกว่าเพื่อที่จะต้องมาเตรียมตัวให้พร้อม เขาก็ไม่ได้อยากจะบ่นหรอกนะ เพราะเขารักงานนี้ แต่บางทีวันนี้ก็ดูจะยากไปสักหน่อยสำหรับเด็กหนุ่มที่นอนได้นอนหลับเพียงสองชั่วโมงเพราะมัวแต่คุยเล่นกับเพื่อนทางโทรศัพท์
“แบมแบม ไปตามแจ็คสันให้ฮยองที หายเงียบไปในห้องเลย ไม่รู้ไปแอบหลับหรือเปล่า แล้วถ้าเสร็จแล้วก็ลงไปรอข้างล่างเลยนะ”เมเนเจอร์ฮยองที่วิ่งวุ่นเตรียมของในหอพักเห็นเด็กหนุ่มเดินมาพอดีจึงวานใช้เสียยาวเหยียด
แบมแบมชะงัก สมองที่เบลอๆกลับโล่งขึ้นมาชั่วขณะ แต่ท่าทางกลับอ้ำๆอึ้งๆ
“แล้วมาร์คฮยอง...”
“มาร์คกับคนอื่นลงไปรอข้างแล้ว”ว่าอย่างไม่สนใจสังเกตุท่าทีของฝ่ายตรงข้ามพรางสะบัดมือไล่ให้ไปตามพี่ชายจากฮ่องกงได้แล้ว
แต่แบมแบมกลับยังนิ่ง สีหน้าดูอึกอัก แต่ขณะนั้นแบมแบมเห็นมังเน่ตัวโตที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องนอนจึงได้ทีหันไปหาเจ้าตัว
“ยูคยอม ฮยองวานให้ไปนายไปตามแจ็คสันฮยองให้ แล้วรีบลงไปรอข้างล่างเลยนะ ฉันไปก่อนละ”ว่าอย่างรวดเร็วแล้วรีบพาสองเท้าวิ่งฝุ่นตลบหนีออกมาจากตรงนั้นทันทีโดยไม่สนใจท่าทีที่งุนงงของรูมเมทเลย
ผมได้บอกหรือยังว่า ถ้าจะมีอะไรที่ผมไม่พร้อมยิ่งกว่างานสำหรับเช้านี้…
ก็แจ็คสันฮยองนี่แหละครับ
ทุกคนสงสัยเหรอ ว่าผมเป็นอะไร…
นั่นสินะ ผมเป็นอะไรไป พักนี้ถึงได้คอยแต่จะหลบหน้าแจ็คสันฮยอง ผมก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆผมถึงทำแบบนี้
หรือไม่แน่ ผมอาจจะรู้ ว่าบางที
สิ่งที่ผมทำไป มันกำลังย้อนกลับมาเล่นงานผมแล้ว…
แบบสาหัสซะด้วยสิ
ยูคยอมเดินนำร่างหนาของอดีตทีมชาติฮ่องกงเดินผ่านประตูตึกลงมาที่รถจอดรออยู่ ท่าทีของร่างหนาดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ทุกคนกลับไม่ได้ดูใส่ใจอะไร
เพราะต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ อาการของทุกคนจึงไม่ได้ต่างกันมากนัก สะลึมสะลือ หงุดหงิด เบลอ นอนไม่พอ และดูท่าทางแจ็คสัน หวังก็ไม่น่าจะพ้นหนึ่งในอาการจากการนอนน้อยเหล่านี้ เมื่อเห็นว่าลงมากันครบเจ็ดคนแล้วจึงแยกย้ายขึ้นไปนั่งบนรถ
ดวงตาคมที่เดินมาถึงรถกวาดตามองเพื่อนร่วมวงที่กำลังแยกย้ายกันไประหว่างรถสองคัน เห็นร่างโปร่งของรองมังเน่กำลังปีนขึ้นไปนั่งรถอีกคันนึงก็รีบเดินตามไปด้วยท่าทีหงุดหงิดเช่นเดิม ไม่สนเสียงเรียกของยูคยอมที่ร้องเรียกเลยสักนิด
“ฮยองจะไปไหน”
“นั่งคันนู้น”
“แต่คันนั้นนั่งห้าคนแล้วนะฮยอง”แจ็คสันไม่สนเสียงคัดค้านของยูคยอม เดินริ่วๆจากไป ทิ้งคนถามให้ยืนเกาหัวงุนงงกับอาการประหลาดของพี่ชายร่วมวง
ก็ยืนอยู่หน้ารถคันนี้เห็นๆ ประตูก็เปิดรออยู่นี่แล้วทำไมต้องเดินไปนั่งรถคนนั้น
คิดอย่างงๆก่อนจะเลิกสนใจแล้วขึ้นไปนั่งรอเมเนเจอร์ฮยองบนรถ
ช่างปะไร เขานั่งคนเดียวก็ได้
แจ็คสันที่เดินตรงไปยังรถอีกคันกระชากประตูรถให้เปิดก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปนั่งเบียดกับคนที่นั่งอยู่ริมประตูพอดีท่ามกลางความงุนงงของเหล่าสมาชิกที่เหลือ
“ย่าห์แจ็คสัน ทำไมนายมานั่งคันนี้เล่า!”มาร์คที่นั่งอยู่เบาะแรกริมหน้าต่างหันมาโวยวายถามทันที เพราะเบาะแรกที่นั่งกันตอนแรกมีสามคน คือมาร์ค แบมแบม และเจบี พอแจ็คสันขึ้นมานั่งเบาะนี้อีกเลยกลายเป็นว่ามาร์คโดนเบียดมาชิดติดหน้าต่าง
“ถ้านายจะนั่งคันนี้ก็ไปนั่งเบาะหลังไม่ก็เบาะหน้าสิ!”เจบีที่ถูกแจ็คสันเบียดหันมาไล่ให้อีกคนไปนั่งเบาะหลังที่มีเพียงยองแจกับจูเนียร์สองคน หรือเบาะหน้าข้างคนขับที่ไม่มีคนนั่ง
แจ็คสันเชิดนิ่ง ตอบเพียงสั้นๆ
“ไม่ ผมจะนั่งตรงนี้”ว่าก่อนจะเหล่มองคนตรงกลางที่โดนเบียดไม่ต่างกัน แต่กลับนั่งเงียบไร้ปากเสียงต่างจากทุกที...อันที่จริงก็หลายทีแล้ว
แจ็คสันไม่ได้อยากจะหาเรื่องคนอื่น เขาเพียงแค่รู้สึกหงุดหงิดที่เด็กคนนั้นเมินเฉยต่อเขามาได้สองสามวันแล้ว ดูเผินๆอาจจะไม่มีอะไร แต่แจ็คสันรู้! แจ็คสันสังเกตุได้!
แล้วยิ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เมเนเจอร์ฮยองให้แบมแบมไปตามเขา เขาเปิดประตูออกมาทันได้ยินบทสนทนาของทั้งสองพอดีจึงทำให้เขาแน่ใจได้ว่า
แบมแบมตั้งใจหลีกเลี่ยงเขา
ปกติแล้วเขาคิดว่าเขามักจะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เสมอ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดยังไงชอบกล แบมแบมไม่เล่นกับเขาแบบแต่ก่อน ไม่พูดคุยกับเขาแบบแต่ก่อน ทำตัวติดกับสมาชิกคนอื่นมากขึ้น และนั่นยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
ที่ตรงนั้น ข้างๆเด็กนั่น มันควรจะเป็นที่ของเขาสิ!
ในขณะที่มาร์คกับเจบีกำลังบ่นกับอาการประหลาดของแจ็คสัน แบมแบมกลับขยับตัวลุกแล้วเอื้อมมือเปิดประตูพร้อมพูด
“เดี๋ยวผมไปนั่งคันนู้นเป็นเพื่อนยูคยอมนะ”
แต่ขณะที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถกลับถูกคนริมประตูยึดแขนไว้แน่นแล้วถามพร้อมสบตานิ่ง
“ไปทำไม!”
แบมแบมชะงัก เผลอสบตาด้วยความตกใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเบือนสายตาหนีแล้วฝืนดึงแขนออกจากการเกาะกุมพร้อมทั้งก้าวลงรถไป
“ก็ฮยองแหละทิ้งยูคยอมมา หมอนั่นเลยให้ผมไปนั่งเป็นเพื่อนอ่ะ”แกล้งว่าทีเล่นที่จริงพร้อมชูมือถือในมือให้ดูเป็นเชิงบอกว่าเพื่อนรักตัวโตของเขาเมสเสจมาตาม ว่าเท่านั้นก่อนจะเริ่มรู้สึกอึกอักกับสายตาที่อีกฝ่ายส่งมาให้เลยรีบจัดการปิดประตูแล้วเดินไปนั่งอีกคันแทนหวังลึกๆในใจว่าอีกคนคงไม่ระห่ำเปลี่ยนคันตามมา
ตลอดทั้งวันแบมแบมพยายามหลีกเลี่ยงแจ็คสันให้มากที่สุดโดยการเล่นกับสมาชิกคนอื่นเกือบจะตลอดเวลา หรือแม้กระทั้งตอนเล่นโทรศัพท์ เจ้าตัวก็ไม่ได้นั่งเล่นเงียบๆคนเดียวเหมือนทุกครั้ง กลับจะนั่งอยู่ในกลุ่มสมาชิกเสมอพร้อมทั้งเล่นโทรศัพท์ไปเพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะต้องอยู่คนเดียวและอาจจะมีบุคคลที่เขาไม่พร้อมจะเจอเข้ามาหาได้
ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้เล่นกันเหมือนทุกครั้งจนสมาชิกที่เหลือแปลกใจแต่กลับไม่มีใครติดใจสงสัยอะไรเพราะทั้งสองยังดูปกติ
แจ็คสันที่นั่งแต่งหน้าเตรียมถ่ายแบบนิตยสารอยู่เหลือบมองแบมแบมที่นั่งอยู่กับเจบีและยูคยอมด้วยความหงุดหงิดลึกๆในใจ ยิ่งเห็นเจ้าตัวนั่งพูดคุยหัวเราะโดยมีมังเน่ตัวยักษ์นั่งกอดก่ายไม่หยุดยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก คิ้วเข้มเผลอขมวดมุ่นจะแทบจะผูกกันเป็นปม ร้อนถึงสตาฟท์ที่กำลังแต่งหน้าให้อยู่ต้องเอาบรัชออนเคาะที่หว่างคิ้วเบาๆเป็นการเตือน
“ขมวดคิ้วทำไมเนี่ย นูน่าแต่งหน้าให้อยู่นะ เดี๋ยวหน้าก็ยับหรอก”
ได้ยินดังนั้นจึงยอมละสายตาออกมาจากร่างเล็กแล้วหลับตาคิดเรื่องอื่นไปแทนจนกระทั่งใกล้แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อย แจ็คสันเตรียมลุกขึ้นยืนพร้อมกับเสียงร้องทักทายคุ้นหูของใครบางคนที่ดังอยู่ไม่ไกล
“ฮาย”
“โอ้ว ฮยอง!”ทันทีที่ได้ยินเสียงของคนที่เขานึกหงุดหงิดใจมาตลอดร้องเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ แจ็คสันจึงรีบหันกลับไปมอง เห็นร่างสูงสมส่วนในชุดแจ็คเก็ตหนังดูดี พร้อมทั้งแต่งหน้าแล้วเรียบร้อย ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงมีถ่ายแบบในตึกนี้เหมือนกัน แต่คงจะเป็นในสตูดิโอห้องอื่น
“ฮยองมาได้ไงเนี่ย!”แบมแบมที่วิ่งไปยืนออเซาะอีกฝ่ายเอ่ยถามท่าทางตื่นเต้น พร้อมกับสมาชิกคนอื่นที่เริ่มทักทายผู้มาเยือนอย่างสนิทสนม
“นายรู้ได้ไงว่าพวกเรามีถ่ายแบบที่นี่พีเนียล”มาร์คที่เดินเข้าไปจับมือชนอกกับเพื่อนสนิทต่างสังกัดเอ่ยถาม
พีเนียลยิ้มรับคำทักทายของทุกคน เขาไม่ถือสาเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องกับคนพวกนี้หรอก เพราะทุกๆคนก็เหมือนเพื่อนพี่น้องของเขาที่ผ่านอะไรมากมายมาด้วยกันเกินจะนับเรื่องหยุมหยิบพวกนี้
“ก็คุยกับแบมแบมอยู่ พอรู้ว่าอยู่สตูเดียวกันเลยมาหาน่ะ”ตอบยิ้มๆพรางดึงคนตัวเล็กที่ส่วนสูงเท่าเขาแล้วเข้ามาโอบ แบมแบมหันไปยู่หน้ากวนๆใส่เล็กน้อย
“ฮยองไม่เห็นบอกผมเลยว่าฮยองมีงานที่นี่”
“ก็ฮยองมาหาแล้วนี่ไง”ว่าก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาฟัดพรางโยกตัวไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคน
แจ็คสันที่แต่งหน้าเสร็จพอดีเห็นดังนั้นเลยรีบเดินท่าทางยิ้มแย้มเข้ามาหาพีเนียลพรางร้องทักเสียงดัง
“Look! Who is here!”
พีเนียลหัวเราะ ละตัวออกจากแบมแบมหันมาจับมือชนไหล่กับอีกฝ่ายแทน
“I’m here! Peniel is here!”ว่าก่อนจะหัวเราะลั่น
ทั้งหมดพูดคุยทักทายกันสักพักจนเมเนเจอร์ของพีเนียลมาตามกลับไปถ่ายแบบต่อ ทำให้อีกฝ่ายต้องลุกขึ้นพรางบอกลาทุกคนด้วยความเสียดาย ตั้งแต่ออกมาจากjypแล้ว ทั้งๆที่ตึกอยู่ตรงข้ามกันแท้ๆแต่กลับแทบจะไม่มีโอกาสได้พบกับคนพวกนี้เลย และยิ่งตอนเดบิวท์เป็นGOT7ด้วยแล้ว ทุกคนยิ่งยุ่งมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะมีโอกาสเจอกันตามงานต่างๆ แต่นั่นก็มีโอกาสน้อยมากเลยทีเดียว ถึงจะไปเดบิวท์กับอีกสังกัด แต่มิตภาพของพวกเขากลับไม่เคยเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะกับเด็กน้อยคนนี้ที่โตมากเท่าไหร่ก็ยังเป็นเด็กน้อยของเขาอยู่ดี
“อ้อแบมแบม นายน่ะเลิกตอบเมสเสจมาตอนดึกๆได้แล้ว ช่วงนี้งานเยอะไม่ใช่หรือไง ดึกแล้วก็นอนซะ ดูสิต้องลงรองพื้นหนาขนาดไหนถึงกลบรอยได้หมด”พีเนียลพูดกับแบมแบมพรางก้มหน้าลงไปจับแก้มตุ่ยทั้งสองข้างแล้วใช้นิ้วโป้งลูบเบาๆที่ใต้ดวงตาคู่โต
“นะ my baby”ว่ายิ้มๆทิ้งท้ายพรางบีบแก้มตุ่มสองข้างเบาๆก่อนจะหันไปล่ำลากับทุกคนอีกครั้งแล้วเดินตามเมเนเจอร์ของตนออกไป
ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านของใครบางคนกับฉากสุดท้ายที่ตนเห็น
แจ็คสันหงุดหงิด
และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อรับรู้ว่าใครบางคนคุยกันดึกดื่นแทบทุกคืน
เอาเวลาที่อยู่กับเขาไปอยู่กับคนอื่นไม่พอ ยังจะเอาเวลากดไลค์รูปเขาไปคุยกับคนอื่นอีกสินะ!
คิดอย่างไม่พอใจก่อนจะมองไปยังร่างโปร่งที่เล่นกับสมาชิกคนอื่นด้วยท่าทีสบายใจ
ให้ตายสิ ถ้าเป็นปกติเขาควรจะทำเนียนเข้าไปเล่นแล้วแย่งเด็กนั่นมาอยู่กับเขาเหมือนทุกครั้งสิ แต่ครั้งนี้ มันเห็นได้ชัดเกินไปว่าเด็กนั่นตั้งใจหลบเขา หลบจริงๆ มันทำให้เขาหงุดหงิด
แบมแบมเป็นอะไรไป แต่ช่างเถอะ เด็กนั่นจะทำยังไงก็ช่าง ผมจะทำตามใจผมเหมือนกัน
แจ็คสันทำตามใจตัวเองโดยการทำทุกวิถีทางที่จะได้เข้าไปเล่นกับแบมแบมตามเดิม ทำทั้งการกอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนทุกครั้ง พูดคุยสนิทสนมเหมือนทุกครั้ง จนแบมแบมที่พยามเลี่ยงมาตลอดกลับแปลกใจท่าทีที่ดูเฮฮาขึ้นของแจ็คสัน
แบมแบมอึดอัด เขาอยากจะหยุดการกรัทำเหล่านี้แล้ว ไม่อยากจะถลำลึกลงไปมากกว่านี้
หลังจากถ่ายแบบนิตยสารเสร็จ จะต้องมีอัดคลิปเพื่อไว้โปรโมทต่อที่ห้องพักรับรองของสตูดิโอ แบมแบมที่จัดการทุกอย่างเสร็จก่อนเพื่อนจึงเข้าไปรอในห้องพักก่อน แต่ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปกลับพบบุคคลที่ตนคอยหลบมาตลอด
“แบ๊มแบมมม มานั่งนี่ๆ”แจ็คสันร้องเรียกแบมแบมพรางตบที่นั่งข้างๆตนเป็นเชิงบอกให้มานั่งข้างกัน แบมแบมเห็นดังนั้นทำท่าจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อไปนั่งด้านหลัง แต่กลายเป็นว่าจังหวะที่กำลังจะเดินผ่านแจ็คสัน ร่างหนากลับดึงคนตัวเล็กกว่าเข้าไปนั่งตักแล้วโอบกอดไว้แน่น
แบมแบมตาโต ใจกระตุกวูบ แสร้งหัวเราะแล้วทำท่าจะลุกขึ้น
“อะไรของฮยองเนี่ย”ว่าพรางจะแกะมือหนาที่รัดแน่นอยู่ที่เอวออก แต่แบมแบมกลับรู้สึกว่ามันแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“ฮยอง”แบมแบมเรียกเบาๆพรางตีมือแปะๆไปยังมือที่รัดเขาอยู่
แจ็คสันยังนิ่ง แบมแบมไม่เห็นว่าคนด้านหลังทำสีหน้าอย่างไร แต่รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดต้นคอก่อนจะตามมาด้วยน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงที่หลังและสันจมูกคมที่ฝังลงที่ต้นคอ
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ยังไม่มีสตาฟท์คนไหนเข้ามา และยังไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากคนทั้งคู่
แบมแบมยอมนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นพักใหญ่ เขาไม่รู้ว่าคนข้างหลังเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงการกระทำจะไม่ต่างจากการนั่งตักครั้งก่อนๆ ก็แค่ดึงเขาเข้ามา ให้นั่งตัก และโอบเอวเขาไว้ แต่แบมแบมรู้สึกได้ว่าครั้งนี้มันต่างออกไป อาจจะเป็นความรู้สึกและบรรยากาศที่มันทั้งดูชัดเจนและคลุมเคลือในตัวของมันเอง
เขาชัดเจนในตัวเขาเองแล้ว ถึงต้องการจะหยุดไว้เพียงเท่านี้ ถ้ายังจะทำแบบนี้ต่อไป…
เขาอาจจะถลำลึกลงไปจนเอาตัวเองขึ้นมาไม่ได้อีก
แค่นี้มันก็ลึกมากพอแล้ว
“ฮยอง พอเถอะ เลิกทำแบบนี้เถอะ ที่นี่ไม่มีแฟนคลับ ไม่ต้องเซอร์วิสหนักขนาดนี้ก็ได้”
ในที่สุดแบมแบมก็เลือกที่จะเอ่ยประโยคทำลายความเงียบ ประโยคที่สะกิดในความรู้สึกลึกๆของแจ็คสัน
ร่างหนาเงยหน้าขึ้นจากลำคอระหง กลิ่นหอมละมุนของร่างเล็กยังติดอยู่ที่ปลายจมูก แจ็คสันยอมคลายอ้อมกอดเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมปล่อยไป ขยับให้คนบนตักหันข้างเข้าหาเพื่อที่จะพูดคุยด้วย
แบมแบมยอมขยับตามแรงดึง แต่กลับไม่ยอมเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย ทำเพียงก้มหน้าจ้องหน้าจอโทรศัพท์สีดำในมือของตนเท่านั้น
ตาคมจ้องใบหน้าด้านข้างของคนในอ้อมแขน ไล่ตั้งแต่ปลายผมสีบลอนด์สว่าง หน้าผากมน ขนตายาวเป็นแพ สันจมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มสีเรื่อกับแก้มกลมๆที่เขามักจะนึกหมั่นเขี้ยวจนอดหยิกไม่ได้อยู่บ่อยๆ
จ้องสักพักก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กในอ้อมกอด
“หันมานี่สิ แบมแบม”คำสั่งที่เอ่ยออกมา แบมแบมยอมหันมามองพรางส่งสายตางุนงงให้
“มองแล้วตอบ ว่านายเป็นอะไร หลบฉันทำไม”คำถามที่เอ่ยออกมาจากใบหน้านิ่งๆที่จ้องกลับมารอคำตอบ
แบมแบมเบนสายตาหลบ ก้มหน้าลงเหมือนเดิม คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะบอกให้ชัดเจน
“ฮยอง”คำเปรยจากร่างเล็กเรียกให้แจ็คสันที่กำลังนึกขัดใจที่จ้องได้อยู่ครู่เดียว อีกฝ่ายกลับหลบสายตาไปก่อน
ก็บอกว่าให้มองให้มอง จะหลบตาทำไม!
“ก่อนอื่นนะ ฮยองปล่อยผมก่อนเหอะ”ว่าสั้นๆก่อนจะพยายามแกะแขนล่ำออกอีก แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอม
“ไม่! ทำไมต้องปล่อยด้วย ตอบมา ก็ทำแบบนี้กันออกจะบ่อยไม่เห็นจะเป็นอะไร!”
“ก็เพราะมันบ่อยเกินไปแล้วฮยอง! พอเถอะ ปล่อย! ที่นี่ไม่ได้มีแฟนคลับซะหน่อย!”
คำตอบที่ทำเอาแจ็คสันขมวดคิ้วหงุดหงิด
“ไม่มีแฟนคลับแล้วยังไง! ทุกทีก็ทำแบบนี้ มันเป็นอะไร! ตอบมา! นายเป็นอะไรแบมแบม!!”
“ก็จะตอบอยู่นี่ไง ปล่อยก่อนดิวะ!”
“ไม่ปล่อย! ตอบมาก่อนว่าเป็นอะไร! หลบฉันทำไม!”
ในขณะที่กำลังยื้อยุดกันชุลมุนนั้น โทรศัพท์ในมือของแบมแบมกลับส่งเสียงร้องบอกว่ามีเมจเสจเข้า หน้าจอที่สว่างขึ้นพร้อมกับเมสเสจที่โชว์บนหน้าจอ แบมแบมก้มลงมอง
เป็นข้อความจากพีเนียล
‘แบมมี่~ ฮยองกลับแล้วนะ ถ้านายว่างเย็นนี้ก็บอกฮยองนะ เดี๋ยวจะพาไปเลี้ยง~’
แจ็คสันมองข้อความบนโทรศัพท์อย่างหัวเสียมากกว่าเดิม คว้าโทรศัพท์เครื่องนั้นมาก่อนจะพูดเสียงดัง
“เพราะหมอนี่ใช่มั๊ยนายถึงเป็นแบบนี้!”
แบมแบมขมวดคิ้วงุนงงถามกลับเสียงดัง เขาไม่ชอบที่แจ็คสันตะโกนใส่
“พีเนียลฮยองเกี่ยวอะไรด้วย! ฮยองอย่าลากคนอื่นมายุ่งมั่วซั่วได้มั๊ย”
“แล้วแฟนคลับเกี่ยวอะไรด้วย! นายมีอะไรก็พูดออกมาตรงๆก่อนสิ หลบหน้าฉันทำไม!”
พลันทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ไม่มีใครตอบคำถามของใคร ต่างคนต่างรู้สึกว่าพวกตนอาจจะออกจากเรื่องหลักมาไกลแล้ว
แบมแบมนิ่งลง แจ็คสันเองก็เช่นเดียวกัน เขาไม่อยากใส่อารมณ์กับแบมแบม
เงียบกันไปอีกพักใหญ่ก่อนที่แบมแบมจะค่อยๆแกะแขนสองข้างที่รัดอยู่ที่เอวออก แจ็คสันอยากจะฝืนกอดไว้แต่ แต่แรงดึงเบาๆที่มือของเขาทำให้รู้ว่าเขาไม่ควรจะรั้งมือไว้
แบมแบมแล้วเลื่อนตัวไปนั่งอยู่เบาะข้างๆแจ็คสันแทน ร่างเล็กระบายลมหายใจช้าๆอย่างใช้ความคิด
เขารู้ว่าการหลบหน้ามันอาจจะดูงี่เง่าเป็นนางเอกละครหลังข่าว แต่เขาคิดออกเพียงวิธีนี่จริงๆ ห่างออกมา เว้นระยะระหว่างกัน ให้ตัวเขาได้ถอนออกมาก่อนจะถลำลึกมากไปกว่านี้
“ผม...แค่คิดว่า บางทีพวกเราอาจจะเล่นเยอะกันเกินไปแล้วก็ได้”คำบอกอ้อมๆแต่สามารถเข้าใจได้ชัดเจน แจ็คสันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถอดหมวกออกก่อนจะขยี้ผมตนเอง
เขาพอจะเข้าใจความหมายของแบมแบมแล้ว อันที่จริง เขาอาจจะเข้าใจมาตลอด เพียงแต่อยากได้ฟังจากปากเจ้าตัวว่าคิดแบบนั้นจริงๆ
ตัวแจ็คสันก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่กับคนตัวเล็กนี่มากไปหรือเปล่า แต่รู้ตัวอีกทีหันไปด้านข้างทีไรก็จะมีเด็กคนนี้อยู่ด้วยตลอด เริ่มแรกอาจจะบอกได้ว่าเป็นการเล่นกันเพื่อเซอร์วิสแฟนๆ การสกินชิพของพวกเขาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆและทำจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว และพวกเขาก็ชอบเพราะมันสนุกดี แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ทุกอย่างกลายเป็นความเคยชินของเขาเองรวมถึงตัวแบมแบมด้วย
แต่เด็กนี่คงเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่ามันอาจจะมากไป เลยคอยจะหลบเขาตลอด
เขาอาจจะอยู่กับแบมแบมมากเกินไป แต่มันแล้วยังไงล่ะ และเขาก็ไม่คิดจะเลิกเสียด้วยสิ
เพราะเขามีความสุข…
ได้อยู่กับเด็กคนนี้แล้วมีความสุขจริงๆ
“แบมแบม ที่เคยเล่นกับฮยองมาตลอด นายรังเกียจรึเปล่า นายไม่ชอบบ้างหรือเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แบมแบมหันขวับมามองคนข้างกายก่อนจะพยายามค้นหาความหมายของคำถามผ่านแววตา
สุดท้ายเมื่อเห็นว่ามีแต่ความจริงจังและสายตาที่ดูคาดคั้นที่สื่อออกมานั้น เขาจึงได้แต่ส่ายหน้าปฎิเสธเบาๆ
“จริงๆนะ”แจ็คสันถามย้ำ สบตาแน่นิ่ง
เขาแค่อยากมั่นใจ
แจ็คสันพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ายืนยัน
“ถ้างั้น นายฟังนะ”น้ำเสียงจริงจังเปรยขึ้นอีก “ฉันก็ ไม่เคย ไม่ชอบที่ปฏิบัติกับนายแบบนั้น”น้ำคำเน้นย้ำชัด “เคยคิดเหมือนกันว่ามันเป็นการเซอร์วิส แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว ฉันชอบเวลาที่ได้อยู่กับนาย”
แบมแบมรับฟังด้วยความไม่คาดคิด ก่อนทำท่าจะเอ่ยค้าน
“แต่...”
“ไม่มีแต่ แบมแบม” แจ็คสันขัด “ฮยองเล่นกับนายเพราะฮยองอยากเล่น ตอนนี้ระหว่างฉันกับนายน่ะ มันเลยคำว่าเซอร์วิสมาแล้ว ฮยองชอบ ฮยองมีความสุขที่ได้อยู่กับนาย…แล้วนายล่ะ”
Forever Young ดูมัลนี ชีกานึลนัล
Forever Young ความทรงจำนี้จะเป็นแค่ของเราสองคน
Forever Young โนจีโก ชิพจิ อันนา
Forever Young ผมไม่อยากปล่อยให้มันจางหายไป
Forever Young woo baby woo woo baby woo woo baby
คำถามที่ถามกลับทำให้แบมแบมนิ่งไปอีก ริมฝีปากบางเม้มอย่างคนกำลังคิดหนัก
ผมควรจะตอบยังไงดี เขาชอบ ผมก็ชอบ แต่มันแย่ตรงความรู้สึกของผมที่ถลำลึกมากเกินไปแล้วนี่สิ ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไร ผมชอบผู้หญิง แต่เวลาได้อยู่กับแจ็คสันฮยอง...
ผมชอบความรู้สึกตอนนั้นนะ
"แบมแบม"แจ็คสันเรียกเบาๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปนาน แบมแบมหันตามเสียงเรียก สบตาคู่คมที่จ้องมาก่อนแล้ว
"สำหรับฮยอง ฮยองจะไม่เลิกทำแบบนี้กับนายหรอกนะ ฮยองไม่ได้เล่น มันไม่ใช่การเซอร์วิส มันคือความรู้สึก และความต้องการของฮยอง บอกแล้วไง ระหว่างเรามันเลยคำว่าเซอร์วิสไปแล้ว...
ฮยองก็แค่จะทำสิ่งที่ฮยองทำแล้วมีความสุข…ถ้าเปรียบเรื่องนี้เป็นหลุม ลึกขนาดไหนฮยองก็พร้อมจะตก"แจ็คสันพูดอธิบาย หวังให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงความหมายในประโยคของเขาที่เขาต้องการจะสื่อ
เขาไม่ชอบเล่นกับความรู้สึกของใคร และกับเรื่องนี้ เขาจริงจังมาตลอด
Cause I wanna be…Forever Young
เพราะฉันอยากจะให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด
นอวา นา อีแดโร
ฉันกับนาย แค่เราเป็นแบบนี้
Forever Young ชีกัลนี ฮึลรอกาโด
Forever Young ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
Forever Young woo baby woo woo baby woo woo baby
แบมแบมชั่งใจอยู่พักใหญ่ พยายามค้นหาความจริงผ่านแววตาของอีกฝ่าย และคิดตามสิ่งที่คนข้างกายต้องการจะสื่อออกมา คิดไปสะระตะ ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะตอบด้วยท่าทีลังเล
“ผม… ก็ชอบ เวลาอยู่กับฮยอง”คำตอบที่ทำให้หัวใจที่เต้นระรัวของแจ็คสันกระตุกไปวูบหนึ่งก่อนจะเต้นแรงกว่าเดิมด้วยความดีใจ ใบหน้าคมลอบยิ้มกว้าง
Forever you're my shawty
นายจะเป็นที่รักของฉันตลอดไป
แต่แบมแบมตอบเพียงเท่านั้นแล้วเงียบไปอีก จนแจ็คสันต้องเลิกคิ้วถาม
“แค่นั้น?”
แบมแบมเบือนหน้าหนี
“ก็จะให้พูดขนาดไหนเล่า!”
"ย่าห์ อะไรกัน นี่ฉันพูดไปตั้งเยอะนะ!"
บัมแซ บยอนรึล ซู โนอา เน มาเม นัล โนอา
ให้ฉันเข้าไปในหัวใจของนายท่ามกลางค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว
"ก็พูดไปหมดแล้วไง!" ว่ากลับด้วยอาการเขินเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา
นอเอ นุลบิชกวา นอเอ มีโซกา
สายตาของนาย รอยยิ้มของนาย
นัล โนกยอ ทออก ซอลเรอีเก เฮ
มันทำให้ฉันละลาย นายทำให้ฉันตื่นเต้นกว่าที่เคย
เท่านี้เขาก็ได้แบมแบมของเขาคืนมาแล้วสินะ บอกแล้วไง เวลาที่เล่นคือเล่น เวลาจริงจังผมก็ต้องทำให้ถึงที่สุด
"ย่าห์ เพราะนายทำให้ฮยองหงุดหงิด มานี่เลยนะ!"ว่าอย่างเอาเรื่องก่อนจะคว้าร่างบางด้านข้างขึ้นมานั่งตักอีกครั้งแล้วจับฟัดเสียจมอ้อมกอด ขยี้เสียเต็มไม้เต็มมือด้วยความหมั่นเขี้ยว แบมแบมได้แต่ร้องเสียงหลงพรางหัวเราะลั่น แกล้งอยู่นานกว่าแจ็คสันจะยอมปล่อยแบมแบมให้เป็นอิสระ
นอล คือแดโร เนเก ทอ คากาอี วา
เขยิบเข้ามาหาฉันแบบนั้นแหละ
นาวา อารึมดาอุล อี บัมมึล นึคคยอบุลเร
รับรู้ความรู้สึกของฉัน แล้วคืนนี้จะเป็นคืนที่งดงาม
ร่างบางยังคงนั่งบนตักคนตัวโตกว่า แผ่นหลังพิงไปกับอกกว้าง เพ่งความสนใจและสายตาไปยังโทรศัพท์ในมือ แจ็คสันทำเพียงโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดแต่สายตากลับสอดส่องโทรศัพท์ในมือบาง นึกขัดใจเล็กๆที่อีกฝ่ายคุยกับคนอื่นสนุกสนาน แต่ยังยับยั้งความรู้สึกหงุดหงิดไว้ได้เพราะอย่างน้อยร่างเล็กบนตักเขานี่ก็ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่ใช่ของคนอื่น
พวกเขาไม่ต้องพูดออกมาหรอกว่ารู้สึกยังไง ไม่ต้องนิยามความรู้สึกหรือกำหนดฐานะของกันและกัน แม้มันจะดูคลุมเคลือ แต่ในความคลุมเคลือนั้นพวกเขาสัมผัสได้…
ถึงความรู้สึกของกันและกัน แค่ทุกวันนี้ ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ได้ดูแลกัน ได้หยอกล้อและหัวเราะไปด้วยกัน มันก็ดีมากแล้ว
Hey shawty I wanna be with you forever young
เฮ้ ที่รัก ฉันอยากจะอยู่กับนายแบบนี้ตลอดไปเลย
ตักบวาโด อารา นัล you're ma baby girl
ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง นายก็ยังเป็นเด็กน้อยสำหรับฉันเสมอ
แต่จะว่าไป บางทีแจ็คสันก็อยากจะบอกให้คนอื่นรู้ไว้บ้าง…
"ไหนเอามือถือมานี่สิ"แจ็คสันว่าพรางคว้ามือถือในมือแบมแบมไปอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ยฮยองทำไร ผมคุยกับพีเนียลฮยองอยู่"ร้องโวยวายพรางจะเอื้อมมือแย่งกลับคืนไป แต่ไม่สำเร็จ
"หยุดเลย อยู่นิ่งๆ"แจ็คสันว่าพรางเอาแขนทั้งสองข้างกอดรวบแขนคนตัวเล็กไว้
Listen to me baby
ฟังนะครับที่รัก
นอเอเก โจนานึล มาอึม ดึลรินี
ได้ยินไหม เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่ารักนาย
นอล ฮยางฮัล แน ชินชิมี ทากิล
โอบกอดความรักของฉันที่มอบให้
แน กอทเทมัล อิซซอ จวอ อิแดโร
ขอแค่อยู่ข้างๆฉันแบบนี้ตลอดไป
เมื่อแจ็คสันคว้าโทรศัพท์มาได้ แววตาพลันระยิบระยับบอกความถูกใจกับไอเดียของตน พร้อมรอยยิ้มเหยียดปรากฏบนใบหน้า
พีเนียลก็พีเนียลเหอะ ให้มันรู้หน่อยว่าจริงๆแล้วนี่เด็กใคร
แจ็คสันยิ้มสะใจก่อนจะกดพิมพ์พร้อมอ่านออกเสียง
"Peniel, Do you know JackBam?"
Cause I wanna be…Forever Young
เพราะฉันอยากจะให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด
นอวา นา อีแดโร
ฉันกับนาย แค่เราเป็นแบบนี้
Forever Young ชีกัลนี ฮึลรอกาโด
Forever Young ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
Forever you're my shawty
นายจะเป็นที่รักของฉันตลอดไป
คุยกันหน่อยน้า
ก่อนอื่นขอบคุณรูปของMEMIND และคลิปจากNMPDW_สำหรับเนื้อเพลงและคำแปล อันนี้เราไม่ได้เรียกเนื้อเพลงเป๊ะๆนะคะ เอามาบางท่อน 555555
โฮฮฮฮฮฮฮ ในที่สุดก็แต่งเสร็จซะที หายไปนานอีกละอ่ะ ขอโต๊ดดดดด 55555 ตอนนี้มันดูต่างจากที่เราเคยเขียนใช่ป้ะ555555 แปลกมั๊ยอ้ะ สนุกมั๊ย พอได้เปล่า เราว่าตอนนี้มันยากมากอ่ะ แต่งแบบงงๆ งงกันบ้างป้ะ55555555
เอาจริงนะะะ รู้สึกไงบอกน้า สนุกไม่สนุก แปลกไม่แปลก บอกเลยยย
ขอบคุณที่ติดตามนะค้า
เม้นวันละนิด จิตแจ่มใจ
จะมุ้งมิ้งลงทวิต โปรดติด #ficgetgot7
กิกิ
ความคิดเห็น