ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF/OS GOT7] COME AND GET GOT7 MOMENTS ! [Status : JackBam]

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF BROMANCE] WISH 1

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 57







    ...ขอมอบฟิคตอนแรกนี้ให้เป็นของขวัญเด็กน้อยแบมแบม...
     

    WISH 1

    [BROMANCE]







                  “พวกเรา GOT7 ขอบคุณครับ!!!” เสียงดังเข้มแข็งทั้ง7เสียง ตะโกนพร้อมเพรียงกัน พร้อมกับทำท่าประจำตัวแล้วโค้ง90องศาให้กับกล้องตัวโต

     

     

    “เรียบร้อยแล้วค่ะ”เสียงสต๊าฟด้านหลังกล้องตะโกนบอก

     

     

    เมื่อได้ยินเสียงดังนั้น สมาชิกทั้ง 7ต่างละท่าทีหน้ากล้องของตน แล้วเปลี่ยนมาทำตัวสบายๆพูดคุยเบาๆพร้อมกับค่อยจัดแจงเสื้อผ้าและถอดไมค์ออกจากชุด

     

     

    ร่างโปร่งผมสองสีพยายามจะถอดเอียร์มอนิเตอร์ออกจากทางด้านหลังกลับดึงไม่ออก เหมือนเครื่องมันไปเกี่ยวกับเสื้อผ้าอยู่ ครั้นจะดึงกระชากออกก็กลัวจะเสียทั้งชุดทั้งเอียร์มอนิเตอร์ หากเป็นแบบนั้นเขาต้องแย่แน่ๆ คิดได้ดังนั้นจึงพยายามมองหาคนช่วย แต่ก็พบว่าสต๊าฟแต่ละคนกำลังวุ่นวายกับการเก็บของเพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ก็จะมีบอยแบนด์กลุ่มอื่นมาใช้สตูดิโอนี้เช่นกัน ต้องเร่งรีบเพื่อทำเวลา ทั้งฝ่ายคอสตูมเสื้อผ้า ช่างแต่งหน้าก็พากันวิ่งวุ่นช่วยเก็บของกันหมด จึงไม่มีใครแวะมาดูฝ่ายศิลปินได้เลย

     

     

    เห็นดังนั้นเจ้าตัวจึงหันเหสายตาเปลี่ยนเป้าหมายจากสต๊าฟมาเป็นเพื่อนร่วมวงแทน

     

     

    “ยูค-”ยังไม่ทันจะเรียกจบคำ เพื่อนร่างใหญ่ของเขาก็หันไปขำกับมุกตลกของรุ่นพี่ชาวฮ่องกงแล้วเดินไปเล่นด้วยกันเสียแล้ว แบมแบมมองค้างก่อนจะมองหาเป้าหมายใหม่แทน มองไปทางลีดเดอร์แจบอมที่ดูวุ่นวายกับการพูดคุยกับสตาฟเรื่องตารางงานต่อไปของวันนี้ที่พวกเขาต้องไปทำ แล้วมองไปทางยองแจที่วุ่นวายเก็บของของตนอยู่ไกลออกไป สุดท้ายร่างบางจึงหันมาหารุ่นพี่โตสุด มาร์คฮยอง ที่กำลังพูดคุยกับจินยองฮยองอยู่

     

     

    “มาร์คฮ-”เป็นอีกเช่นเคย ออกเสียงยังไม่ครบประโยค ร่างสูงทั้งสองที่เขาจะร้องขอความช่วยเหลือก็เดินกอดคอจากไปเสียแล้ว มองไปทางอื่นคนอื่นๆก็ค่อยๆทยอยกันออกไปหมด ไม่มีการเรียก ไม่มีการหันมามอง เพียงแค่เดินออกไปโดยไม่สนใจเขา เหลือเพียงตัวเขาที่ยังยืนหน้ามึนแกะเอียร์มอนิเตอร์ไม่ออกอยู่คนเดียว จนสต๊าฟสังเกตเห็นแล้วเดินเข้ามาช่วยถอดออกให้

     

     

    แบมแบมกล่าวขอบคุณพร้อมก้มหัวให้ก่อนจะวิ่งไปหยิบของของตนพร้อมกับวิ่งตามผู้จัดการและเพื่อนร่วมวงที่ออกไปแล้ว

     

     

     

     

    ร่างบางวิ่งกระหืดหระหอบมาที่รถที่จอดรอเขาอยู่ ลีดเดอร์ของวงที่ยืมกอดอกหน้าตาค่อนไปทางบึ้งตึงมองเขาด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย

     

     

    “ทำไมช้านักล่ะแบมแบม พวกเราต้องรีบไปงานอื่นต่อนะ”ว่าแล้วก็เดินไปขึ้นรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างๆกันโดยไม่ฟังคำแก้ตัวอะไรของรุ่นน้องร่วมวงทั้งสิ้น

     

     

    แบมแบมยืนงง

     

     

    “ขอโทษครับ”ก่อนจะกล่าวคำขอโทษตามหลังไป แล้วก้าวขาขึ้นรถไปนั่งยังที่ว่างที่เหลือ

     

     

    ถายในรถมียองแจ มาร์คและจูเนียร์นั่งอยู่สองคนทางด้านหลัง บรรยากาศภายในรถทำให้แบมแบมรู้สึกไม่สู้ดีนัก ยองแจที่นั่งข้างๆเขาก็ใส่หูฟังนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว มาร์คกับจินยองที่อยู่ด้านหลังก็คุยเบาๆอยู่สองคน ไม่มีการทักทายอะไรใดๆเขาทั้งสิ้น

     

     

    แบมแบมแอบถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ เขารู้สึกเหนื่อยและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ทั้งวันเขามีความรู้สึกว่าเพื่อนร่วมวงของเขาต่างพากับเมินไม่สนใจเขาเลย ในตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นการซ่อนกล้องหรือแกล้งอำกันเล่นหรือเปล่า แต่เขาต้องตัดความคิดนั้นทิ้งไปได้เลยในเมื่อมันเป็นแบบนี้มาสี่ห้าวันแล้วแถมรู้สึก นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    หรือเขาไปทำอะไรให้คนอื่นไม่พอใจกันนะ หรือช่วงนี้เขาเล่นมากเกินไป คิดยังไงก็คิดไม่ออกจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

     

     

    “แบมแบม”เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ร่างโปร่งค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นผู้จัดการของตนที่ขับรถอยู่เบาะหน้าเอี้ยวตัวมาเขย่าเขาเบาๆ

     

     

    “ครับ”

     

     

    “ตื่นได้แล้ว เร็วเข้า ถึงแล้ว”ได้ยินดังนั้นแบมแบมก็หันไปดูด้านนอกก็พบว่าเขามาถึงสตูดิโอแห่งใหม่แล้ว ก่อนจะหันไปดูถายในรถก็พบว่าสมาชิกคนอื่นๆหายกันไปหมดแล้วเช่นกัน

     

     

    “ฮยอง คนอื่นล่ะครับ”แบมแบมหันไปถามผู้จัดการพร้อมกับเดินลงจากรถ

     

     

    “ลงไปกันหมดแล้วล่ะ มีแต่เราน่ะ ปลุกไม่ตื่น”

     

     

    ไม่จริง

     

     

    เขารีบเอ่ยค้านในใจทันที เขาเป็นคนตื่นง่ายจะตาย หรืออย่างน้อยๆ ถ้าปลุกเขา เขาก็จะตื่น แล้วยิ่งแค่งีบหลับแปปเดียวแบบนี้ มีหรือ ถ้าปลุกเขาแล้วเขาจะไม่ตื่น คนอื่นไม่ปลุกเขามากกว่าน่ะสิ

     

     

    ถอนหายใจยาวๆอีกรอบก่อนจะเดินตามผู้จัดการของตนเข้าไป

     

     

     

     

     

     

     

    “เอาล่ะ ตารางวันนี้ก็หมดแล้ว เดี๋ยววันนี้เรากลับหอกันเลยแล้วกันนะ มีใครอยากแวะซื้ออะไรมั๊ย”ผู้จัดการถามขณะที่พวกเขากำลังจะเดินมาขึ้นรถ กว่าตารางงานของวันนี้จะหมดลงก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว

     

     

    “ผมๆ ผมอยากกินไก่ร้านนั้นอ่ะ เราแวะซื้อกันร้านนั้นก่อนได้มั๊ยอ่ะ”แจ๊คสันเต้นดึ๋งดั๋งๆไปรอบๆตัวผู้จัดการพร้อมร้องโยเยๆไม่หยุด สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนอื่น

     

     

    จากนั้นก็มีคนเริ่มเสนอไอเดียกันเรื่อยๆ แบมๆก็พยายามจะเสนอบ้าง แต่เสียงดังสู้คนอื่นๆที่เหลือไม่ได้เลย สุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการสั่งไก่มากินเป็นอาหารเย็นที่หอกันทุกคน

     

     

    อันที่จริงแล้วตัวแบมแบมเองไม่อยากกินไก่เลยสักนิด เขารู้สึกว่าช่วงนี้เขากินไก่บ่อยเกินไปแล้ว เช้าก็ไก่ กลางวันก็ไก่ เย็นก็ไก่ จนเขาเอียนน้ำมันไปหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าแย้งอะไร เพราะคนส่วนมากเลือกที่จะกินไก่ เขาก็ได้แต่เออออตาม เพราะกลัวจะทำให้คนอื่นๆไม่พอใจ

     

     

    ตกดึกเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว คนอื่นๆเริ่มทยอยกันเข้าห้องนอนของเรื่อยๆ แบมแบมที่กำลังเล่นนู่นนี่ไปเรื่อยอยู่ๆก็รู้สึกหิวขึ้นมา เพราะมื้อเย็นที่เขาควรจะได้กินเยอะๆหลังจากเหนื่อยกับตารางงานมาทั้งวัน กลับได้กินเพียงนิดเดียวเพราะเอียนไก่ จึงเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่าพอจะมีอะไรให้เขาลองท้องได้บ้าง แต่ก็มีแต่ของเดิมๆ

     

     

    “อยากกินโดนัทกับโกโก้อุ่นๆจังอ่ะ”บ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาสี่ทุ่ม ก็นึกได้ว่าร้านขนมร้านประจำของเขายังเปิดอยู่ แถมอยู่ใกล้แค่นี้ เดินไปแปปเดียวก็ถึงแล้ว คิดได้ดังนั้นจึงจะวิ่งไปชวนเพื่อนร่วมวงคนอื่นออกไปหาอะไรกินกัน แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้ก่อน ด้วยเพราะเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ทำให้เขาไม่กล้าจะไปยุ่งวุ่นวายกับคนอื่นๆมากนัก เลยเปลี่ยนใจ เดินตรงไปยังห้องนอนของตนแทน

     

     

     

    ร่างโปร่งชะโงกหน้าเข้ามาดูเพื่อนร่วมห้องที่นอนเอกขเนกเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ก่อนจะร้องเรียกเบาๆ

     

     

    “ยูคยอมอ่า”

     

     

    “อื้อ”ร่างสูงส่งเสียงตอบมาเบาๆ สายตาและความสนใจยังคงอยู่ที่โทรศัพท์ในมือของตน

     

     

    “นายหิวมั๊ย”คนตัวเล็กกลั้นใจถามออกไป เพื่อนร่วมห้องละสายตามามองเล็กน้อยก่อนตอบ

     

     

    “ไม่อ่ะ นายหิวหรอ จะทำรามยอนกินหรือเปล่าล่ะ”

     

     

    “เปล่าๆ ฉันถามเฉยๆน่ะ เห็นไก่ยังเหลืออยู่ เสียดาย”ได้ยินว่าเพื่อนไม่หิวก็รีบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่อยากกวนคนอื่นให้ออกไปกับเขาทั้งๆที่เจ้าตัวไม่หิว เลยเข้ามาทำเป็นนั่งๆนอนๆในห้องแปปนึง รอจนยูคยอมลุกไปอาบน้ำ เจ้าตัวจึงหยิบเสื้อกันหนาวมาสวมทับ หยิบกระเป๋าตังค์แล้วออกมาจากหอพักเพียงคนเดียว

     

     

    ร่างบางที่สวมฮู้ดกันคนจำได้เดินไปเรื่อยๆจนถึงร้าน ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปในร้านที่ยามนี้มีลูกค้าเพียงสามสี่คน ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานจึงเอาฮู้ดลงก่อนจะเดินไปสั่งเมนูมาทาน คิดอยู่สักพักว่าจะเอากลับไปทานที่หอหรือทานที่นี่ดี สุดท้ายจึงตัดสินใจหาที่นั่งแล้วทานอยู่ที่นี่เลย

     

     

    เขายังรู้สึกไม่อยากกลับหอพักในตอนนี้ รู้สึกอึดอัดไปหมด รู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่ถูกใจใครเลย ทำอะไรก็ไม่มีใครสนใจเลยสักนิด ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมานี้ หน้ากล้องพวกเขาจะดูเป็นปกติก็ตาม แต่หลังกล้องเขาจะทำอะไร เล่นอะไรทุกคนก็ดูเอือมๆเขายังไงไม่รู้ หรือช่วงนี้เขาจะเล่นมากเกินไปนะ ยุ่งกับทุกคนเกินไปหรือเปล่า ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ รู้แต่เขาคงทำผิด แต่เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิด

     

     

    ความรู้สึกคล้ายกับเมื่อตอนมาเป็นเด็กฝึกใหม่ๆกลับเข้ามาในจิตใจ รู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกไร้ที่พึ่ง พูดกับใครไม่ได้ คุยกับใครไม่เข้าใจ จนมาถึงตอนนี้ เขาเคยคิดว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาคิดว่าเขามีอีกครอบครัวหนึ่งอยู่ที่นี่ ครอบครัวที่ชื่อ GOT7 แต่ทำไมตอนนี้มันถึงเป็นแบบนี้นะ

     

     

    ร่างโปร่งอดถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่ได้ยกแก้วโกโก้ร้อนขึ้นดื่มก่อนจะมองออกไปตรงกระจกหน้าร้าน ฝนตกปรอยเบาๆในความมืดประกอบไปกับเสียงเพลงช้าๆในร้านยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกตีบตันในหัวใจมากขึ้นไปอีก

     

     

    เขานั่งอยู่ที่ร้านจนรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วจึงตัดสินใจกลับหอ แต่ก็ไม่ลืมซื้อขนมบางอย่างที่สมาชิกในวงชอบติดไม้ติดมือกลับไปด้วยความเคยชิน

     

     

    เมื่อแบมแบมกลับมาถึงหอ ก็พบกับอิมแจบอม ลีดเดอร์ที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ พร้อมกับคนอื่นๆ ที่คุยกันเงียบๆ แบมแบมชะงักเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไป เขาฝืนยิ้มแหยๆให้เล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเสียงสดใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    “ทุกคน ผมมีขนม-” แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปถึง

     

     

    “นายไปไหนมา”น้ำเสียงนิ่งดุดันจากลีดเดอร์ถูกส่งมายังคนตัวเล็ก แบมแบมนิ่งไป พอจะรับรู้ได้ว่าถูกโกรธที่หายไปโดยไม่บอกกล่าว

     

     

    “ขอโทษครับ”เอ่ยขอโทษเสียงหงอยเบาๆ ก่อนจะพยายามเอ่ยปากอธิบาย “ผม-”

     

     

    “ฉันถามว่านายไปไหนมา!”น้ำเสียงที่หนักขึ้นกว่าเดิมทำให้คนถูกถามที่กำลังจะเอ่ยปากอธิบายถึงกับชะงักไป

     

     

    ความเงียบทิ้งตัวลงช้าๆ แบมแบมมองลีดเดอร์ของวงนิ่ง สายตาบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังคงโกรธและดูเกรี้ยวกราดมาก จึงยอมเอ่ยปากอีกรอบ

     

     

    “ผม-

     

     

     “ไปไหนทำไมไม่บอก ถ้าเกิดนายเป็นอะไรขึ้นมา..”เสียงดุดันกล่าวขึ้นโดยไม่ฟังคำกล่าวของแบมแบมอีกครั้ง แต่เมื่อได้ยินถึงตรงนี้หัวใจของคนตัวเล็กค่อยๆแอบพองโต อย่างน้อยทุกคนก็เป็นห่วงเขา “แล้วมันเกิดผลเสียต่อวง พวกเราจะทำยังไง!!

     

     

    แล้วหัวใจของคนฟังก็ค่อยๆแฟบลงอีกครั้ง ความผิดหวังค่อยๆถูกทดแทนด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นเป็นริ้วๆในจิตใจ

     

     

    ทำไมถึงไม่ฟังเขาบ้าง ทำไมถึงทำแบบนี้กับเขา!

     

     

    สายตาของคนตัวเล็กมองไปยังคนตรงหน้าที่ยังมีท่าทีโกรธเขาอย่างเห็นได้ชัด แล้วไพร่สายตามองไปยังคนอื่นๆที่เหลือด้านหลัง กลับทำให้ความโกรธค่อยลดลงแล้วถูกแทนที่ด้วยความเสียใจ

     

     

    สายตาของทุกคนที่ส่งมายังเขา ทั้งผิดหวัง ไม่พอใจ และเฉยชา กับสิ่งที่เกิดขึ้น

     

     

    แบมแบมหลุบสายตาลงต่ำ

     

     

    “ขอโทษครับ ครั้งหน้าผมจะไม่ทำแล้ว”

     

     

    “ดี นายพูดแล้วนะ”พูดจบอิมแจบอมก็หันหลังเดินจากไปพร้อมๆกับสมาชิกคนอื่นๆที่แยกย้ายกลับห้องของตนไป แบมแบมมองตามหลังของสมาชิกคนอื่นๆ มีความรู้สึกเข่าอ่อน อยากจะล้มตัวทรุดกับพื้นเสียตอนนี้ แต่ก็ต้องกลั้นใจไว้ เดินไปวางถุงขนมที่ตนซื้อมาในห้องครัวก่อนจะเดินเข้าห้องไปหยิบเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำ

     

     

    มือเรียวหมุนก๊อกน้ำเปิดแล้วรองน้ำขึ้นล้างหน้าตน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาทำอะไรผิด ทำไมทุกคนปฎิบัติกับเขาแบบนี้

     

     

    รู้สึกแย่ชะมัด

     

     

    แล้วอย่างวันนี้ ถ้ากลัวเกิดเรื่องกับเขาจริง แล้วมันจะส่งผลต่อวง แล้วทำไมถึงไม่โทรตาม หรือติดต่อเขาเลย โทรศัพท์เขาก็เอาไปด้วย แต่ไม่เห็นจะมีมิสคอลหรือเมสเสจใดๆทั้งสิ้น หรือว่า นั่นหมายความว่า แม้กระทั่งตำแหน่งหน้าที่ในวง เขาก็ยังมีความสำคัญไม่พอ…?

     

     

    ร่างบางส่ายศีรษะเบาๆเพื่อละทิ้งความคิดที่มันหนักเกินไป

     

     

    สำหรับแบมแบม ถ้าเป็นเรื่องที่หนักทางร่างกายเขาทนได้ ซ้อมหนักขนาดไหนเขาทนได้ เรียกหนักขนาดไหนเขาก็ทนได้ แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง เขายังพอจะทำใจให้รับได้ แต่นี่มันจิตใจของคนที่เขารักราวกับครอบครัว

     

     

    หรือบางที เรื่องแบบนี้มันจะหนักเกินไปสำหรับเด็กอายุ16แบบเขานะ

     

     

     

     

     

    วันต่อมา ทุกคนยังทำงานของตนเองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการร้อง การเต้น การแสดง สมบูรณ์แบบเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

     

     

    ใช่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่หน้ากล้อง

     

     

    แต่เมื่ออยู่หลังกล้องแบมแบมยังคงรู้สึกโดดเดี่ยวเช่นเดิม มันเป็นแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ วันนี้ยังไม่มีใครมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเอาแต่วนถามตัวเองซ้ำๆว่าเขาทำอะไร แต่ก็ยังไร้ซึ่งคำตอบให้ตนเองเช่นเคย

     

     

    ตามตารางตอนบ่ายพวกเขามีซ้อมที่ตึก แบมแบมเองก็เตรียมพร้อมรออยู่ในห้องซ้อมเรียบร้อยแล้ว ร่างโปร่งนั่งพิงโซฟาใส่หูฟังเล่นมือถือของตนไป สมาชิกคนอื่นๆที่เริ่มทยอยเข้ามาในห้องซ้อม แทนที่จะเดินมานั่งรอเวลาเริ่มซ้อมที่โซฟา แต่กลับยืนรวมกลุ่มคุยกันอยู่อีกฝั่ง ทิ้งสมาชิกชาวไทยให้นั่งอยู่เพียงลำพัง

     

     

     แบมแบมที่ตอนแรกพยายามจะเข้าไปชวนคุยด้วยแต่ไร้ปฎิกิริยาตอบสนอง จึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่กับตัวเองไปคนเดียว พยายามเล่นเน็ตเล่นโซเชียลไม่ให้ตนฟุ้งซ่าน ใจอยากจะหาที่ระบายแต่กลัวว่าหากตนบ่นอะไรลงโซเชียลไป แฟนคลับและทุกคนจะตกใจและเป็นห่วงเอาได้ เขาเลยได้แต่เก็บเอาไว้ หวังแค่ว่าเรื่องนี้จะจบลงโดยเร็วก่อนที่ความรู้สึกของเขาจะถึงขีดจำกัด

     

     

    การซ้อมเริ่มจากเย็นไปจนดึกดื่น ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนจะเที่ยงคืนแล้ว พวกเขายังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดซ้อมเลย

     

     

    “แบมแบม สเต็ปนายผิดอีกแล้วนะ!!”จินยองฮยองตะโกนขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย นี่แหละ เหตุผลที่พวกเราไม่ได้เลิกซ้อมเสียที เพราะแบมแบมคนนี้ทำอะไรก็ผิด ตอนแรกผมว่าก็เต้นถูกสเต๊ปตลอดนะ แต่พอโดนว่าว่าเต้นผิดสเต๊ป มันเลยกลายเป็นผิดสเต๊ปจริงๆไปเสียอย่างนั้น ผมก้มหัวกล่าวขอโทษ ก่อนจะตั้งท่าเตรียมเริ่มใหม่ รู้สึกได้ถึงกระเพราะที่มันร้องครืดคราด

     

     

    อา จริงสิ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงเลยนี่นา

     

     

    ผมมองดูสมาชิกคนอื่นที่ไม่ได้มีท่าทีหิวจัดแบบผมเลยสักคน คงเพราะทานกันมาเรียบร้อยแล้ว รู้ได้ยังไงน่ะเหรอ ก็เมื่อช่วงหัวค่ำมันจะมีเวลาพักให้ทุกคน แต่สมาชิกทุกคนกลับบอกปฎิเสธเวลาพักนี้ แล้วบอกว่าพวกเขาทานกันมาเรียบร้อยแล้ว คำถามที่เกิดขึ้นคือ ไปกินกันเมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้เรื่อง

     

     

    หิวอ่ะ

     

     

    ถึงหิว แต่ก็ไม่กล้าจะขอหยุดพัก เดี๋ยวจะกลายเป็นโดนว่าไปอีก

     

     

    เลยได้แต่ต้องทนซ้อมจนเต้นเสร็จแล้วค่อยไปหาอะไรกินที่หอพักเอา

     

     

    ซ้อมเต้นกันไปสักพัก ผมก็ไม่พ้นโดนว่าตลอด ผมยอมรับครับ ผมผิดจริง ผมเต้นไม่ได้เรื่อง ทั้งความกดดันจากทุกคนที่พักนี้ทำตัวเหินห่างกับผม ทั้งความหิวที่มันคอยร้องเตือนตลอดเวลา ทำให้ผมเผลอเต้นผิดๆถูกๆไปบ้าง เลยทำให้โดนว่า พอยิ่งโดนว่าก็ยิ่งกดดัน กดดันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเต้นผิดมากเท่านั้น

     

     

    เฮ้อ เกิดอะไรขึ้นกับผมนะ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับทุกคน ผมทำอะไรผิด บอกผมมาตรงๆไม่ได้หรือไงวะ

     

     

    “ย๊าห์!! นายยังมีความตั้งใจอยู่บ้างไหมวะแบมแบม เต้นห่วยชะมัด”แจ๊คสันฮยองเบรกการเต้นโดยการหันมาชี้นิ้วว่าผม ท่าทางโมโหจัด

     

     

    “ผมขอโทษ”

     

     

    “ขอโทษอะไรนักหนา ฉันได้ยินนายพูดคำนี้กี่รอบแล้ว ถ้าขอโทษแล้วไม่ดีขึ้นก็เลิกขอโทษซะ งี่เง่าชะมัด!”คำกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังถูกส่งตรงมาจากรุ่นพี่ชาวอเมริกา ผมใจกระตุกเล็กน้อย แม้กระทั่งมาร์คฮยอง

     

     

    ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้ารับความผิด

     

     

    “เมื่อไหร่นายจะทำให้ดีขึ้นวะแบมแบม ฉันอยากกลับแล้วนะ”ยูคยอมแม้จะไม่ขึ้นเสียงใส่เหมือนคนอื่นๆ แต่ก็มีท่าทีหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    “นายซ้อมไปคนเดียวก่อน จนกว่าจะดีขึ้น นี่ ใครจะออกไปหาอะไรกินกับฉันบ้าง”แจบอมฮยองหันมาบอกผมก่อนจะหันไปถามสมาชิกคนที่เหลือ ซึ่งก้ได้รับเสียงตอบรับจากทุกคน ทุกคนพากันเดินพูดคุยออกไปจากห้องซ้อมอย่างสนุกสนาน

     

     

    เฮ้ ผมก็หิวนะ ไม่คิดจะถามผมหน่อยเหรอ ฮ่ะๆ แย่จริงๆนะเนี่ย

     

     

    ผมแค่นยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะเดินไปกดเปิดเพลงแล้วเตรียมซ้อมเต้นต่อ แต่ก็พลาดอีกครั้ง สเต็ปผมรวนไปหมดเลย จนรู้สึกว่าตัวเองเต้นไม่ไหวแล้ว ผมทรุดตัวนั่งลงกับพื้น คิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น คงเพราะผมทำผิดจริงๆนั่นแหละ คงเล่นมากไป ทุกคนเลยระอากับผม ฮ่ะๆ บ้าชะมัด ผมขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิดใจน้อยๆ รู้สึกร้อนที่ขอบตายังไงชอบกล ลำคอก็รู้สึกตีบตันไปหมด อยากจะร้องออกมาแต่ก็ต้องอดกลั้นไว้

     

     

    เห้ย ผมผู้ชายอกสามสอกนะ จะร้องง่ายๆได้ไง




     

    คุยกันหน่อยน้า

                
    เปิดตอนแรกมาเป็นbromanceเบาๆ แบมแบมถูกทำร้ายมากอ่ะบอกเลย 5555

    ต้องบอกก่อนว่าแรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากคอมเม้นในยูทูปค่ะ มีแฟนคลับคนนึงมาเม้นว่า นางรู้สึกแย่เพราะนางมีความรู้สึกว่าแบมแบมมักจะถูกกันออกตลอด ไม่ค่อยเป็นที่สนใจสำหรับเพื่อนๆในวงสักเท่าไหร่ เวลาแบมแบมจะทำอะไรก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ

    เอาตรงๆนะ เราก็แอบคิดนิดนึง 555555 แต่ก็มีโมเม้นต์หลายๆอันมาลบข้อกล่าวหานี้ไป ทำให้เราไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้ แต่พอมาเจอนางเม้นแบบนี้เลย ไหนๆก็ไหนๆละ ก็จับมาแต่งเลยแล้วกัน 55555

    สนุกหรือไม่สนุกก็บอกหน่อยน้า หรือเวลาจะมุ้งมิ้งลงทวิตก็อย่าลืมติดแท็ก #ฟิคgetgot7 น้าาา

     
    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×