ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OASIS รักชะโลมใจ CHANBAEK ft. KAIDO

    ลำดับตอนที่ #2 : OASIS ; คนแปลกหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 57


    BlackForest

    1
     

     

     

    บรรยากาศยามค่ำคืนของฤดูฝนคงไม่พ้นความหนาวเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างสองข้างทางดูเฉอะแฉะและถูกเคลือบด้วยเม็ดฝน โคลนสกปรกกระเด็นออกมาจากล้อรถยนต์ที่ขับอยู่บนถนนใกล้กันทำให้แบคฮยอนต้องคอยเบี่ยงตัวหลบ ความหนาวเน็บเริ่มเกาะกินมือเล็กที่กระชับด้ามร่มสีใสซึ่งเจ้าตัวกางอยู่ หยดน้ำร่วงลงมาเป็นสายจากท้องฟ้าที่มืดมิดไม่มีที่ท่าจะหยุดลงจนได้เสียงฝนหยดเปาะแปะกระทบร่มพลาสติกอยู่เหนือหัวตลอดเวลา

     

     

    ริมฝีปากเฉียบไร้สีเพราะความหนาวเร่งให้ต้องรีบก้าวเท้าเดินไปยังจุดหมายให้ไวขึ้น

     

     


    หลายปีแล้วที่ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังตัวคนเดียว ตั้งแต่พ่อแม่เสียไปสิ่งที่แบคฮยอนเหลืออยู่ก็คือร้านเบเกอรี่เล็กๆของพวกท่านที่เจ้าตัวหวงแหนยิ่งกว่าชีวิต แบคฮยอนเกิดและโตอยู่ที่ร้านนี่ความทรงจำทุกอย่างของเค้าล้วนผูกพันกับมัน ถึงจะเป็นร้านข้างถนนเล็กๆที่ไม่ได้มีลูกค้ามากมายแต่เจ้าของร้านตัวเล็กก็ไม่มีวันคิดจะปิดมัน

     

     

    ความมืดเริ่มโรยตัวลงจนแทบมองไม่เห็นทางเดินเมื่อฝีเท้าเล็กหยุดอยู่ที่หน้าบานประตูหน้าร้านที่ล็อคกุญแจไว้ แบคฮยอนใช้มือข้างที่ว่างควานหากุญแจก่อนจะปลดล็อคเพื่อเข้าไปหาความอบอุ่นภายในตัวบ้าน

     

     


    หลังจากวางข้าวของที่ซื้อมาสำหรับทำขนมในวันพรุ่งนี้ไว้ในส่วนของห้องครัวด้านหลังร้านแล้ว แบคฮยอนก็ตรวจดูหน้าต่างทุกบานให้ล็อคอย่างแน่นหนาแล้วสาวเท้าเล็กก้าวขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นส่วนของบ้านพักเพื่ออาบน้ำและทำธุระส่วนตัวก่อนจะเข้านอน

     

     


    ฝนยังโปรยปรายเป็นสายให้เห็นผ่านหน้าต่างห้องนอนเมื่อร่างเล็กเดินไปเช็ดผมที่โต๊ะเครื่องแป้งติดกับกระจกที่กั้นระหว่างห้องนอนกับระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปด้านนอก ต้นไม้หลายต้นที่แบคฮยอนปลูกไว้ในกระถางด้านนอกกำลังแผ่ใบรับความชุ่มฉ่ำของเม็ดฝนที่ช่วยให้มันเจริญเติบโต

     



    ผิดกับหัวใจของแบคฮยอน ถ้าเป็นต้นไม้มันคงจะเหี่ยวเฉาเหลือแต่กิ่งก้านโล้นๆ ความทรงจำในวันที่เค้าสูญเสียทุกอย่างในชีวิต ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย และบ้านหลังน้อยของครอบครัวที่ถูกยึดไป ภาพในอดีตที่หวนกำลับมาทำร้ายทุกครั้งที่นึกถึงเปรียบเสมือนยาพิษที่ทำให้ต้นไม้ใหญ่ในจิตใจของเด็กหนุ่มที่ควรจะผลิดอกออกผลสะพรั่งได้ยืนต้นตายไปนานแล้ว

     



    ในวัยสิบแปดปีควรจะเป็นวัยที่แบคฮยอนได้หัวเราะกับเพื่อน และกำลังก้าวสู่ประสบการณ์ใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่เจ้าตัวกำลังเผชิญคือการดิ้นรนเพื่อรักษาสิ่งสำคัญหนึ่งเดียวในชีวิต วิถีชีวิตของแบคฮยอนเมื่อไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วก็เหมือนบีบบังคับให้เจ้าตัวหันหลังให้เพื่อนฝูงที่เคยสนิทสนมด้วยสมัยมัธยม ช่วงแรกๆอาจมีบ้างที่เพื่อนแวะเวียนเข้ามาหาที่ร้านแต่นานๆเข้าก็เริ่มหายไป ต่างคนต่างต้องมีหน้าที่และชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป คงไม่มีใครมีเวลาจะสนใจเด็กหนุ่มตัวเล็กๆอย่างแบคฮยอนอีกแล้ว

     

     

     



    เมี๊ยววว …”

     

     

     



    ร่างเล็กดึงสติที่เหม่อหลุดลอยไปกกับสายฝนด้านนอกให้กลับมาสู่ความเป็นจริง เมื่อได้ยินเสียงเรียกเล็กๆจากแมวสีเทาที่ตนเองเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ตอนนี้ แบคฮยอนเกาคางให้เจ้าเหมียวจอมเอาแต่ใจก่อนจะอุ้มมันไปไว้ในตระกร้าข้างเตียงและก้าวต่อไปที่เตียงเล็กของตัวเอง ทิ้งตัวลงไปใต้ผ้านวมผืนเล็กที่ไม่ได้ช่วยให้ความอบอุ่นได้สักเท่าไหร่

     

     


    ก่อนที่จะหลับสนิทไป ร่างเล็กพลิกตัวไปมองกรอบรูปข้างเตียง รูปที่มีเค้า พี่ชาย และพ่อแม่ยิ้มอย่างเป็นสุข ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องมันจนเผลอยิ้มตาม มือเอื้อมไปหยิบกรอบรูปกอดไว้แนบกับตัวให้สัมผัสกับเสียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นนอกให้มากที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     





    ถัดไปจากร้านเบเกอร์รี่ไม่กี่ช่วงตึก …

     

     

     

     

     


    แฮ่ก… แฮ่ก

     

     

     



    เสียงหอบหายใจติดขัดของใครบางคนดังขึ้นในมุมมืดของซอยแคบข้างถนน เม็ดฝนที่โปรยปรายทำให้ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยเสียงเฉอะแฉะ รองเท้าหนังอย่างดีเปื้อนไปด้วยคราบโคลนแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจกลับเร่งฝีเท้าด้วยสองขาที่อ่อนแรง แสงจันทร์ที่ส่องผ่านม่านฝนพอทำให้เห็นว่ามือที่แตะพยุงกำแพงสกปรกนั้นเต็มไปด้วยหยดเลือด ร่างสูงใหญ่ประคับประคองตัวเองให้ก้าวเดินได้เพียงทีละนิด


    ความเจ็บปวดจากบาดแผลแล่นริ้วราวกับจะเฉือนร่างกายให้ฉีกขาดออกจากกัน หยดเลือดสีเข้มไหลลงมาจากข้างขมับและจมูกทำให้หายใจได้ไม่ถนัดต้องอาศัยการหอบหายใจทางริมฝีปากที่แตกช้ำ หนำซ้ำความเย็นของฝนยังไม่ปรานีสาดลงมาชะโลมความชาไปทั่วไปใบหน้าและเส้นผมสีดำที่เปียกลู่

     

     


    ริมฝีปากเริ่มซีดจางและสองตาที่มองภาพด้านหน้าเห็นเพียงแต่เลือนรางเพราะเลือดที่เสียไปกับบาดแผลทำให้ชายหนุ่มเริ่มเสียการควบคุมตัว มือสอดเข้าไปคลำจับดูแผลเหวอะเป็นรูกลมที่ได้มาจากกระสุนปืนบริเวณอกข้างซ้าย และขมับที่มีแผลถูกกระแทกจนเนื้อเปิด

     

     

     


    หึ”

     

     


    เค้นเสียงออกมาจากลำคอด้วยความสมเพชในสภาพของตัวเอง ดวงตาคมกริบปรือลงอย่างอ่อนแรงความเจ็บปวดเอาชนะความมีสติในที่สุดเมื่อร่างสูงใหญ่ทรุดตัวลงกับพื้นดินเปียกเปื้อนก่อนจะถลาทิ้งร่างลงนอนนิ่งข้างกองขยะไม่ไกลจากเสาไฟฟ้านักพร้อมความรู้สึกตัวที่ดับวูบ

     

     

     

     

     

     

     

     

     





    เมี้ยวววว เมี๊ยววว”

     

     


    แบคฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืดเมื่อได้ยินเสียงแมวร้องเรียก ฮันพยอลตะกุยประตูห้องนอนพร้อมกับส่งเสียงเรียกเจ้านายของตัวเองไปด้วย

     

     



    อืม… ยังไม่เช้าเลยฮันพยอล เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยออกไปเดินเล่นกันนะ”

     

     

     



    เมี๊ยววว หม๊าววววว!”

     

     

    ราวกับประท้วงแมวตัวเล็กกระโดดหยองแหย็งไปมาหน้าประตู เล็บคมตะกุยข่วนจนเกิดเสียงกุกกักไม่ยอมหยุด จนในที่สุดแบคฮยอนต้องตัดสินใจก้าวเท้าลงจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องนอนให้กับสัตว์เลี้ยง

     


    ทันทีที่ได้รับอิสระภาพแมวสีเทาก็วิ่งจี๋ลงบันไดไปชั้นล่างทำเอาเจ้านายตัวเล็กเร่งฝีเท้าตามไปแทบไม่ทัน

     

     

     

     


    ม๊าววว ม๊าวววววว…”

     

     

     


    เสียงร้องออดอ้อนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นเรื่อยๆสลับกับเสียงลับกรงเล็บคมๆกับประตูหน้าร้านอีกแต่คราวนี้แบคฮยอนส่ายหน้าหวือ

     

     

     


    ไม่ได้ฮันพยอล ไม่ได้ ยังไงก็ไม่เปิดให้หรอก”

     

     




    ม๊าวววววววววววววว…”

     

     




    ออกไปข้างนอกตอนนี้ไม่ได้ ฝนมันตกอยู่เห็นมั้ย ท้องฟ้าก็มืดตื๊ดตื๋อเลยนะ”

     

     


    คนตัวเล็กพยายามตวัดปลายเสียงให้ห้วนหวังจะดุสัตว์เลี้ยงของตัวเองแต่มันก็ไร้ผล แมวตัวเล็กตะกุยประตูอย่างร้อนใจเหมือนกับว่าสัญชาตญาณบางอย่างเรียกร้องให้มันพยายามออกจากบ้านหลังนี้ไปให้ได้ เสียงร้องของแมวที่ดังบาดหูขึ้นเรื่อยๆทำให้เจ้าของเริ่มกังวลว่าคนข้างบ้านจะว่าเอาได้ แบคฮยอนเม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจแล้วหันมองนาฬิกาแขวนผนัง ขณะนี้เป็นเวลาตีสี่ครึ่งแล้วแม้ท้องฟ้าจะกำมืดแต่ถ้าพาฮันพยอลไปเดินเล่นตอนนี้กลับมาก็คงรุ่งสางพอดี

     

     

     



    ก็ได้ ก็ได้… แต่ไปแปปเดียวนะรู้มั้ย”

     

     

     



    แบคฮยอนดึงกลอนประตูขึ้นและผลักบานประตูออก กำลังจะหันมาใส่ปลอกคอให้ฮันพยอลแต่แมวสีเทากลับวิ่งหนีหายไปทันทีที่เจ้าของเปิดประตูให้

     

     

     



    ฮันพยอล!!!!”

     

     

     



    เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจดิ่งวูบ มือคว้าร่มสีใสประจำตัวได้ก็รีบวิ่งฝ่าฝนออกไปทันทีลืมแม้กระทั่งสวมรองเท้าและล็อคประตูร้านด้วยซ้ำ สายตาสอดส่องมองหาแมวตัวเล็กแต่รอบตัวก็มีแต่ความมืดมิดที่น่ากลัว

     

     



    แบคฮยอนหอบหายใจออกมาเป็นควันขาว มือเร่งกางร่มคันเล็กออกเพื่อกั้นละอองฝนที่เริ่มทำให้ชุดนอนและเส้นผมชุ่มฉ่ำ สายตากวาดมองไปทั่วด้วยหัวใจที่เต้นรัว

     

     

     



    ฮันพยอล!! กลับมานะ.. ฮันพยอล!!!”

     

     

     





    เมี๊ยวว..”

     

     



    เมื่อหูแว่วเสียงแมวร้องแบคฮยอนก็เร่งฝีเท้าไปในทิศทางที่ได้ยินทันที เท้าเล็กที่เปลือยเปล่าไร้รองเท้าเพราะความรีบร้อนเปื้อนโคลนกระดำกระด่างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กหยุดวิ่ง แบคฮยอนวิ่งเลาะถังขยะที่ล้มระเนระนาดกลิ่นขยะเหม็นคลุ้งเข้าไปในซอกแคบๆที่ยังได้ยินเสียงร้องของฮันพยอลแผ่วเบา

     

     

     



    อ๊ะ!!.. อยู่นี่เองฮันพยอล!”

     

     



    ร่างเล็กทรุดลงนั่งกับพื้น คว้าเอาแมวสีเทาที่กำลังคุ้ยเขี่ยบางอย่างในกองขยะขึ้นมากอดไว้แนบอก ดวงหน้าเล็กค่อยผ่อนคลายจากความกังวลแม้ดวงตาสีน้ำตาลจะคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

     



    กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียเพื่อนที่เหลืออยู่ตัวเดียวในชีวิตไปซะแล้ว ตอนที่ฮันพยอลกระโจนหายไปในความมืดหัวใจของแบคฮยอนโหวงเหวงเหลือเกิน

     

     

     




    ที่หลัง..อย่าทำแบบนี้อีกนะฮันพยอล รู้มั้ยไม่มีฮันพยอลแบคฮยอนก็ไม่มีใครแล้วนะ ..อย่าทำเหมือนจะทิ้งแบคฮยอนแบบนี้”

     

     


    คนตัวเล็กนั่งพูดกับแมวที่ไม่ได้มีทีท่าจะรับรู้สึกความเดือดเนื้อร้อนใจของเจ้าของเลยแม้แต่นิด เจ้าตัวเล็กยังคงดิ้นรนเพื่อจะออกจากอ้อมแขนแต่คงไม่ได้อย่างใจหวังเมื่อแบคฮยอนจัดการรวบตัวมันขึ้นแล้วเตรียมหันหลังเดินกลับทางเดิม

     

     

    เสื้อผ้าสกปรกหมดแล้ว เห็นทีวันนี้ต้องจับฮันพยอลอาบน้ำด้วยคลุกโคลนซะเหม็นฉึ่งเชียว

     

     

     


    แบคฮยอนเดินทอดน่องกลับมาที่อาคารที่เป็นทั้งบ้านและร้านของตัวเอง แม้สภาพจะเปียกมอมไม่น่าดูแต่เจ้าตัวก็ยังอยากซึมซับบรรยากาศยามเช้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก เส้นสีทองเริ่มปรากฎรางๆที่ขอบฟ้าเป็นสัญญาณว่าพระอาทิตย์ของวันใหม่กำลังจะขึ้นท่ามกลางม่านละอองฝนดูแปลกตาไปอีกแบบ

     

     

     


    อ่ะ..”

     

     


    ยังไม่ทันเปิดลูกบิดบ้านออก เสียงซวบซาบจากกองขยะหน้าเสาไฟฟ้าที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็ดังขึ้น ฮันพยอลหูตั้งชันตาลุกวาวจมูกฟุดฟิดดมหากลิ่นหนูที่เป็นเหยื่อของโปรด แต่สายตาของแบคฮยอนกลับเบิกกว้างเพราะเค้าแน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมีมากกวานั้น

     

     

     


    อ่ะ.. อา..”

     

     

    คราวนี้ชัดเจน แบคฮยอนได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่ร้องครางในลำคอมาอย่างชัดเจน เป็นเสียงของคนแน่นอน.. แต่ใครกันเล่าจะมาอยู่กับกองขยะแบบนี้ซ้ำเป็นเวลาที่ฝนตกไม่ขาดสายแบบนี้

     

     

    ในใจของคนตัวเล็กนึกประหวั่นไม่น้อย สัญชาตญาณบางอย่างในตัวบอกให้เค้ารีบกลับเข้าไปในบ้าน สถานที่ที่อบอุ่นและปลอดภัยเสียดีกว่า

     

     

    แต่เชื่อเถอะ ลึกๆแล้วมนุษย์มีความสงสัยอยากรู้อยากเห็นในตัวกันแทบทุกคน แม้สิ่งนั้นอาจจะนำพามาซึ่งความอันตรายแต่มนุษย์ก็ไม่เคยหลาบจำในนิสัยนี้

     

     

     


    แบคฮยอนวางฮันพยอลไว้หลังบานประตู คราวนี้ปิดล็อคไว้แน่นหนาเพื่อกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงตัวแสบหายไปอีก ร่างเล็กหันกลับมายืนมองกองขยะที่น่าสงสัยอย่างลังเลใจอีกครั้ง ใจนึงก็ห้ามไม่ให้ก้าวเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร ส่วนอีกใจนั้นอยากรู้เหลือเกิน

     

     


    เมื่อใจที่สองชนะใจแรกแบคฮยอนจึงเคลื่อนตัวเข้าไปหากองขยะที่ล้นพูนนั้นช้าๆ

     

     

     


    ซวบ..

     

     

     


    หะ... นะ.. นี่มัน !

     

     



    เมื่อแหวกพลาสติกสีดำออก สิ่งที่ปรากฏท่ามกลางกลิ่นเน่าเหม็นของขยะก็คือร่างสูงของชายหนุ่มที่แบคฮยอนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ถึงจะเคยเห้นก็คงจะจำไม่ได้เพราะทั่วทั้งใบหน้าของคนแปลกหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลบวมช้ำ เสื้อเชิร์ตสีกระดำกระด่างที่สวมอยู่ขาดวิ่นกระดุมเม็ดบนหลุดหายไปเผยให้เห็นลำคอที่มีแต่แผลขีดข่วน มุมปากมีแผลเหวอะ ข้างขมับมีแผลเปิด และคงจะมีแผลใหญ่ในตัวอีกแน่ๆเมื่อน้ำฝนที่ขังแอ่งรอบตัวชายคนนี้เป็นสีเลือด

     

     

     


    ..

     


     



    นี่คุณ คุณครับ.. ได้ยินผมรึเปล่า คุณ คุณจะมานอนตรงนี้ไม่ได้นะนี่มันหน้าร้านผม”

     


     

     


    สายตาพร่ามัวมองทุกอย่างเห็นแค่เพียงเงารางๆ ความเจ็บปวดแล่นทั่วอนูของร่างกายจนไม่อาจจะขยับเขยื้อน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั้งสัมผัสเปียกชื้นทำให้รู้ว่าฝนกำลังลงเม็ดอย่างไม่เห็นใจ


     



    เฮ้ย..! นี่มันเลือดนี่.. คุณ!! เป็นอะไรรึเปล่าคุณลืมตาขึ้นมาก่อนอย่าเพิ่งหลับไปนะ ผมจะเรียกรถพยาบาลให้”

     

     



    ..

     

     

     


    คุณอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ”

     

     

     



    คุณ!! ..”

     

     

     



    คุณ!!!”

     

     

     

     




     

     

     

     

     

     

    คนไข้ตอนนี้อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่นะครับเพราะร่างกายเสียเลือดมาก คุณพาคนไข้มาพบหมอช้ามากเลยครับช้ากว่านี้อาจจะอันตรายก็ได้”

     

     

    แบคฮยอนยืนนิ่งมองหน้าผู้เป็นแพทย์ที่เพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด ตั้งแต่ตอนที่เค้าพบชายแปลกหน้าจนเรียกรถพยาบาลก็เป็นเวลาเกือบเก้าโมงเช้าแล้ว ผู้คนที่ผ่านไปมาเหลือบมองร่างเล็กของแบคฮยอนด้วยสายตาแปลกๆ อาจเป็นเพราะความรีบร้อนทำให้เค้ามาถึงโรงพยาบาลด้วยชุดนอนที่มอมแมมชุดเดิม

     

     



    พอดี.. ผมเจอเค้านอนอยู่ข้างถนนน่ะครับเลยรีบพามาโรงพยาบาลก็ไม่รุ้ว่าเค้านอนอยู่ที่นั่นนานแล้วรึยัง”

     

     




    ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าโชคดีมากเลยนะครับ ตอนนี้หมอให้เลือดผู้ป่วยไปแล้วก็อยู่ที่ว่าเค้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่นั่นแหละนะครับ”

     

     

     


    คำพูดของหมอทำให้แบคฮยอนฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

     

     

     

    แล้วหมอพอจะทราบมั้ยครับว่าเค้าเป็นใคร .. พวกกระเป๋าตังค์ ระ..หรือว่าบัตรอะไรพวกนั้น”

     

     

     

     


    ไม่มีเลยครับ ทั้งเนื้อทั้งตัวของคนไข้ก็มีแต่เสื้อที่สวมอยู่กับนาฬิกาข้อมือเท่านั้นเองครับ”

     

     

     

     

     




     


    ตายแล้ว.. แบคฮยอนตายแน่แล้ว

     

     


    ถ้าใครบังเอิญได้ไปโรงพยาบาลในวันนั้นคงจะเห็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ตัวเล็ก ผิวพรรณสะอาดสะอาดแต่อยู่ในชุดสกปรก เดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าห้องน้ำของโรงพยาบาล เรียวคิ้วมุ่มขมวดเหมือนกำลังขบคิดปัญหาหนักใจ ริมฝีปากเม้มแน่นจนเกือบจะเป็นเส้นตรง

     

     

     


    ทำยังไงดี คนที่เค้าช่วยมาเป็นใครก็ไม่รู้

    แล้วจะต้องทำยังไง ไหนจะค่าหมอค่ายา แล้วถ้าเค้าฟื้นขึ้นมาล่ะ จะตามหาญาติเค้าเจอรึเปล่า

     

     

     


    นานาปัญหาประดังเข้ามาในความคิดของแบคฮยอน เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นเป็นระยะอย่างคิดไม่ตก เรื่องค่าใช้จ่ายคงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมาก้ค่อยให้จัดการไปตามเรื่อง แต่เค้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่นี่สิ แล้วระยะเวลาระหว่างนี้ใครจะเป็นคนดูแล

     

     


    เฮ้อ.. ช่วยใครแล้วคงต้องช่วยให้ถึงที่สุดล่ะมั้งแบคฮยอน

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    หลังจากจัดการธุระที่โรงพยาบาลเสร็จแบคฮยอนก็กลับมาเปิดร้าน คงเพราะสายกว่าทุกทีเลยมีลูกค้าบางคนมายืนรออยู่หน้าร้านบ้างแล้ว

     

     

     

    แบคฮยอน พี่กำลังสงสัยอยู่พอดีว่าทำไมวันนี้ไม่เปิดร้าน”

     

     

     

     


    พี่ลู่หานสวัสดีครับ”

     

     




    แบคฮยอนกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองกับชายหนุ่มตรงหน้า ลูหานเป็นลูกค้าประจำที่มักจะมาซื้อขนมที่ร้านแทบทุกวัน จากที่เป็นแค่ลูกค้าทั่วไปเลยสนิทสนมกันขึ้นมาบ้างในระดับหนึ่ง ลู่หานถอดสายหูฟังที่ฟังเพลงฆ่าเวลารอคนตัวเล็กมาเปิดร้านออกก่อนจะยิ้มสดใสแต่แล้วรอยยิ้มก็เจื่อนจางลงเมื่อมองเห็นสภาพของแบคฮยอนได้ถนัดตา

     

     

     


    เกิดอะไรขึ้นน่ะแบคฮยอน.. ทำไมเนื้อตัวเราเป็นแบบนี้ล่ะ มีอะไรรึเปล่า?? เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

     

     

     

     

    แบคฮยอนระบายยิ้มอ่อนๆให้คนถาม ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ

     

     

     

     


    ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ลู่หาน.. เดี๋ยวรออีกแปปนึงแบคฮยอนมาเปิดร้านให้นะ ขอตัวไปอาบน้ำก่อน สกปรกๆแบบนี้คงจะหยิบขนมขายไม่ได้แน่ๆ”

     

     

     

     


    แต่ว่า..”

     

     

     

     


    ไม่มีอะไรจริงๆครับ”

     

     

     


    แบคฮยอนพูดพลางแทรกตัวเข้าไปในร้าน ไม่รอให้ลูหานได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม แบคฮยอนเป็นแบบนี้เสมอด้วยความที่อยู่ตัวคนเดียวมายาวนานทำให้คนตัวเล็กปฏิเสธที่จะให้ใครเข้ามารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเค้า แม้แต่ความคิดความอ่านแบคฮยอนก็ไม่ไว้ใจใครมากพอที่จะเล่าระบายออกมา

     

     

     

    แต่ใครเลยจะรู้ ว่าผู้ชายที่ไม่ชอบกินของหวานแต่กลับมาที่ร้านขายขนมทุกวันคนนี้อยากรู้เรื่องราวของคนตัวเล็กมากขนาดไหน

     

     


    ลู่หานถอนหายใจให้กับความหวังที่แม้จะเนิ่นนานแค่ไหนก็ยังคงหริบหรี่ของตัวเองก่อนจะก้าวตามคนตัวเล็กเข้าไปรอด้านไหนที่เก้าอี้ประจำที่มานั่งแทบทุกวัน

     

     

     

     






     


    -------------------------------------------------------100%-----------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×