ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MONSTA_X] Just (sex) Friend

    ลำดับตอนที่ #11 : Just (sex) Friend | chapter 10

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      38
      30 เม.ย. 60


    © themy butter



    CHAPTER 10

     

                ­­-HOSEOK-


                ใช้เวลาเป็นวัน กว่าผมจะกลับมาตั้งหลักได้ แน่นอนว่าโดนกีฮยอนบ่นจนหูชา แม้แต่ไอ้พี่หมีที่ร้อยวันพันปีไม่ค่อยจะพูดอะไรก็ยังมาร่วมวงเทศน์ผมด้วยอีกคน ซึ่งถามว่าสำนึกไหม ผมก็สำนึกและรู้สึกผิดมากนะ เพราะการที่ผมเอาแต่เมาแบบนั้น มันทำเสียงานไป ดีที่ทางลูกค้ายังให้โอกาสผมได้แก้ตัว วันนี้ก็เลยต้องตื่นแต่เช้าแล้วมาที่สถานที่ที่ซึ่งลูกค้าอยากได้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานที่จะมีในเดือนหน้า


                ถ้าตามปกติ บริษัทของผมจะดิวงานกับพวกสถานที่ที่เราได้ทำสัญญาร่วมกันไว้ แต่นี่เป็นกรณีพิเศษที่ลูกค้าขอมา ซึ่งถ้ามันโอเค กีฮยอนก็บอกว่าให้ผมเจรจาตกลงทำสัญญาไปเลย ซึ่งดูภาพรวมแล้ว ผมว่ามันก็ดีนะ บรรยากาศดี สดชื่นเพราะอยู่ติดทะเลด้วยล่ะมั้ง


                “ขอโทษนะคะที่ต้องให้รอ ตอนนี้คุณมินฮยอกกำลังเดินทางกลับมาค่ะ จะรีบมาให้เร็วที่สุด”


                “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมผิดเองที่ผิดนัดก่อน บอกเขาว่าไม่ต้องรีบครับ วันนี้ผมว่าง”ผมตอบกับผู้จัดการรีสอร์ทแห่งนี้พร้อมกับยิ้มให้เธอไปที


                แก้มใสๆของเธอแดงระเรื่อขึ้นมา ผมรู้นะ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ มีหลายคนที่มีอาการแบบนี้เวลาที่ผมยิ้มให้ แหม ผมมันก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้เหร่นี่ กลับกันหล่อมากอีกต่างหาก


                ฮะๆ ขอตลกปลอบใจตัวเองหน่อยแล้วกัน


                “ถ้างั้นผมขออนุญาตเดินดูรอบๆหน่อยนะครับ”


                “ชะ เชิญเลยค่ะ .//////.


                “ครับ”


                ผมยิ้มให้เธออีกครั้งแล้วเดินออกจากด้านในเพื่อไปดูรอบๆ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวนะ แต่ก็มีบ้านคน เป็นชุมชนอยู่ใกล้ๆด้วย ผมว่าโดยรวมมันดีมากๆเลยล่ะ ผมชอบแบบนี้ ..เห็นที่นี่แล้วก็นึกถึง


                แชฮยองวอน..


                ..เขาชอบอะไรแบบนี้มากๆเลยนะ


                “เฮ้อ..”


                “มานี่เลยนะ จะหนีไปไหน”


                “ฮึก แง้”


                ผมหันไปตามที่ได้ยินเสียง จากเดิมก็เป็นคนไม่สนใจสิ่งรอบตัวสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมขาผมถึงก้าวไปทางนั้น ตรงที่มีผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กสองคน คนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นลูกของเธอ ส่วนอีกคน.. กำลังร้องไห้และถูกตีอยู่


                “คุณทำอะไรน่ะ!!


                ผมเข้าไปห้ามพร้อมกับดึงเด็กที่กำลังร้องไห้ออกมา “เด็กตัวเล็กแค่นี้เอง ทำไมต้องรุนแรงด้วย”


                “ก็ไอ้เด็กนี่มันแกล้งลูกฉัน”


                “แกล้ง?”ผมทวนคำของเธอ ซึ่งเธอก็พยักหน้าและยืนยันหนักแน่น ว่าลูกเธอโดนแกล้ง ซึ่งดูจากลักษณะแล้วมันไม่ใช่แน่ๆ ลูกเธอตัวใหญ่กว่าตั้งเยอะ


                “เกเรแบบนี้ ฉันต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก จะได้ไม่ต้องมาแกล้งลูกชายฉันอีก”


                “- -“ผมถอนหายใจก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แล้วมองเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่หลังแม่ของเธอ “เราน่ะ ตัวก็ใหญ่กว่า ทำไมถูกรังแกได้ล่ะ แผลถลอกนั่นก็ถูกน้องทำเหรอ ว้า ..ไม่เห็นเก่งเลย ปล่อยให้โดนแกล้งได้ยังไงนะ”


                “ใครบอกว่าไม่เก่ง!!!!


                หึ.. ติดกับกันอย่างง่ายดาย ก็เด็กนี่นะ..


                “แผลนี่น่ะ ผมล้มเองเพราะจะผลักแต่มันหลบได้ต่างหากล่ะ คนที่แกล้งเป็นผมต่างหาก คนที่ไม่เก่งน่ะคือไอ้เด็กนั่น”


                “อะ เอ่อ..”


                “ลูกชายคุณพูดออกมาเองเลยนะครับ”ผมพูด สีหน้าของเธอถอดสีไปเลย ผมเห็นว่าเธอแอบหยิกลูกชายเธอด้วยนะ “จะกล่าวหาอะไร อิงหลักความเป็นจริงหน่อยครับคุณ โตจนเป็นแม่คนได้แล้ว ควรสอนลูกให้ดีๆ ไม่ใช่ปกป้องลูกจนหน้ามืดตามัว โตไปเป็นอันธพาลแล้วจะหาว่าผมไม่เตือนนะครับ”


                “ละ แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย!!!! ลูกฉัน มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ”


                “ไม่เกี่ยวกับผมตรงไหนล่ะครับ”ผมย้อนถามเธอ แล้วหันไปอุ้มเด็กตัวเล็ก “ก็ที่คุณเพิ่งจะตีไปน่ะ ลูกชายผม


                “วะ ว่าไงนะ”


                “น่าจะได้ยินชัดแล้วนี่ครับ ต้องให้ผมพูดซ้ำอีกเหรอ”


                “...”


                “ลูกชายของผม ไม่ใช่เด็กเกเรที่จะไปแกล้งใคร แต่เขาเพิ่งถูกผู้ใหญ่ใจร้ายไม่มีเหตุผลรังแกมา แบบนี้ผมควรทำยังไงดีครับ”


                “หมะ แหม ก็แค่เด็กเล่นกันเองคุณ”


                พอผมพูดแบบนั้น เธอก็รีบเปลี่ยนน้ำเสียงในทันที ผมมองหน้าเด็กที่อยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะหันกลับไปมองเธอ ไม่ยิ้มเลยแม้แต่นิดเดียว


                “ลูกผมคงไม่อยากเล่นหรอกครับ”


                “ฉะ ฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะ”


                เมื่อเห็นว่าผมไม่เออออ เธอก็รีบหันไปคว้ามือลูกชายของเธอแล้วพาเดินออกไป แต่ผมไม่จบแค่นี้หรอกนะ


                “เดี๋ยวสิครับ”


                “อะไรอีกล่ะคะคุณ ฉันรีบนะ มีธุระ”


                “เป็นผู้ใหญ่ ไม่น่าลืมนะครับ ว่าสิ่งสำคัญหลังจากที่เราทำผิด ก็คือการขอโทษ”


                “นี่คุณจะให้ฉัน..”


                “ทั้งคุณทั้งลูกชายคุณนั่นแหละครับ ที่ควรขอโทษ”


                “นี่!!!!


                “หรือว่าจะให้ผมเอาเรื่องดี รับรองว่ามันไม่จบง่ายๆแน่นอนนะครับ พอดีผมน่ะมันเป็นพวกคนมีเส้นสายซะด้วยสิ คุณคงไม่อยากทำให้เรื่อง แค่เด็กเล่นกัน เป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงต้องขึ้นศาลใช่ไหมครับ”


                จูฮอนน่ะ ขนาดเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน แต่เวลาเห็นผมทำหน้านิ่งๆ เอาจริงเอาจังขึ้นมามันยังกลัวจนต้องยอมทำทุกอย่างที่ผมบอก แล้วมีเหรอ กับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน


                “ฉะ ฉันขอโทษก็ได้ ..ขอโทษนะหนู”


                “แม่..”


                “แกจะยืนเฉยทำไมล่ะ ขอโทษน้องเขาไปสิ แล้วคราวหลังก็อย่าแกล้งน้องอีก เข้าใจไหม”


                “ก็ได้ ..ขอโทษ”


                ผมยักไหล่ ก่อนจะหันไปมองสบกับดวงตาแป๋วๆที่กำลังจ้องผมเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง “พี่กับป้าเขาขอโทษแล้ว ให้อภัยไหมลูก”


                “ฮะ คุณยายสอนว่าต้องให้อาภัย”


                ผมหัวเราะด้วยความเอ็นดู แล้วเดินหนีมาอีกทาง ก่อนจะวางเด็กน้อยให้ยืนบนพื้น ย่อตัวลงไปนั่งยองๆเพื่อมองสำรวจตามผิวขาวๆที่มีรอยแดงเล็กน้อยจากการถูกตีเมื่อกี้ แค่นิดหน่อย แต่เห็นแล้วโมโหชะมัด หัวร้อนเลยเนี่ย


                “เจ็บหรือเปล่าครับ”


                “..ไม่เจ็บแย้วฮะ”


                “ทำไมเก่งจัง”ผมยิ้มกว้าง หยิกแก้มเขาไปเบาๆ


                เด็กคนนี้หน้าตาน่าเอ็นดูมากเลยนะ น่าฟัดจัง ตากลมๆติดปรือหน่อยๆมันทำให้ผมนึกถึงฮยองวอนอีกแล้ว ก็นะ ..ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็ทำให้ผมนึกถึงมันทั้งนั้นแหละ คงมีแต่ผมที่นึกถึง


                “คุงอาฮะ”


                “หืม มีอะไรเหรอครับ”


                “คุงอาคือคุงพ่อของชีอูเหรอฮะ”


                “...”ผมเงียบ อึ้งไปเล็กน้อยกับคำถามแบบนี้ แต่ที่อึ้งมากกว่าคือเด็กตัวเล็กเดินเข้ามาแล้วใช้อ้อมแขนของเขากอดผมเอาไว้ “..ชีอู”


                ชื่อนี้ เฮ้อ แค่ชื่อของชีอูก็ทำให้ผมนึกถึงฮยองวอนอีกแล้วเนี่ย


                “ชีอูอยากเจอคุงพ่อมากๆเยย ตอนนี้ดีใจมากๆเลยฮะ!!


                ไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมผมถึงได้ยิ้มกว้างและรู้สึกว่าหัวใจมันพองโตได้ขนาดนี้นะ ยิ่งเมื่อได้ยกแขนกอดเด็กน้อยแล้วผมกลับรู้สึกอบอุ่น เหมือนว่านี่คือสิ่งที่ผมรอคอยอยู่


                เพิ่งรู้ว่าตัวเองจะรักเด็กขนาดนี้


                “อาไม่ใช่พ่อของชีอูหรอกนะครับ”


                “อ้าว”ได้ยินแบบนั้น ชีอูก็ผละออกมา มองหน้าผม สีหน้าจ๋อยไปเล็กน้อย “ว้า แบบนี้ชีอูก็ยังไม่เจอคุงพ่อน่ะฉิ”


                “ชีอู..”ผมยกมือลูบหัวกลมเบาๆ จับแก้มยุ้ยๆของเขาด้วยความเบามือที่สุด “ชีอูไม่เคยเจอคุณพ่อเหรอครับ”


                “ใช่ฮะ ชีอูอยู่กับคุงยายแล้วก็หม่าม๊า คุงอาฮะ!! หม่าม๊าของชีอูน่ะ เป็นปู้ชะ..”


                “ชีอู!!!!!!












    50%








     

     

     

                “ชีอู อยู่นี่เอง น้าตามหาแทบแย่ ไปไหนมาคะ แล้วเป็นอะไร หนูร้องไห้ทำไมลูก”


                “งื้ออออ น้าฮยอนจองค่อยๆถามฉิ ชีอูตอบไม่ทัน”


                ฮยอนจองยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขน และทำให้เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนอยู่ตรงนี้กับหลานของเธอด้วย


                “คุณหมอ”


                “อ้าว คุณโฮซอก”


                บังเอิญว่าเป็นคนที่รู้จักและค่อนข้างจะคุ้นเคยซะด้วยสิ “มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”


                “ผมมาติดต่องานน่ะครับ ว่าแต่ ชีอูเป็น..”


                “ชีอู!!


                “อ๊ะ”เมื่อได้ยินเสียงที่แสนคุ้นเคย ชีอูก็ดิ้นลงจากอ้อมแขนของฮยอนจองแล้ววิ่งไปยังร่างบางของผู้เป็นแม่ทันที “มา..”


                ถึงชีอูจะยังเด็กและไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเวลาที่เราอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ หม่าม๊าต้องห้ามไม่ให้ชีอูเรียกว่าหม่าม๊าก็เถอะ แต่เป็นเด็กดีก็ต้องเชื่อฟังที่พ่อแม่สอน ชีอูยอมเรียกก็ได้ แม้ว่าอยากจะอวดใครๆว่าหม่าม๊าของชีอูน่ะเป็นคนพิเศษแค่ไหนก็ตาม


                “คิดถึงจังเลย”ฮยองวอนยิ้มกว้าง อ้าแขนรับร่างของลูกชายมากอดไว้แน่น ลุกยืนขึ้นเต็มความสูง “ทำไมตาแดงจังล่ะครับ ร้องไห้มาเหรอ ใครแกล้งชีอูของแชเนี่ย”


                “มีคนมาแกล้งชีอู แต่ว่าไม่เป็นยัยแย้ว เพราะว่ามีคุงอาใจดีมาช่วยชีอูไว้ฮะ”


                “หืม ใครกันนะ คนใจดีคนนั้นน่ะ”


                “นั่นไง คนนั้นง่ะ”มือป้อมๆยกขึ้นชี้ไปยังทิศทางที่คุณอาใจดียืนอยู่ ฮยองวอนเลยมองตามไป กะว่าจะต้องเข้าไปขอบคุณ แต่เมื่อได้สบตากัน รอยยิ้มก็ค่อยๆเลือนหายไป แต่ในเสี้ยววินาทีก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม แต่เป็นยิ้มเจื่อนๆ


                “โฮซอก”


                “อ้าว นี่รู้จักกันด้วยเหรอ”ฮยอนจองที่ยืนอยู่ตรงกลางถาม “บังเอิญจัง”


                “อื้ม ..เคยเรียนมาด้วยกันน่ะ”


                ได้ยินอย่างนั้น โฮซอกเลยทำได้เพียงยิ้มตอบไปเท่านั้น “ครับ ตามนั้น”


                “คุงอาน่ะมาช่วยชีอูเอาไว้ฮะ คุงอาเท่มากๆเลยด้วย คุงอาบอกว่าชีอูเป็นลูก”


                “!!!!!!!!!


                “ตอนนั้นชีอูโดนคุงป้าใจร้ายตี คุงอาก็รีบเข้ามาช่วยเลยฮะ คุงป้าโดนดุด้วยแหละ”


                “ใครกันนะที่มาตีชีอูของลุง ลุงจะไปจัดการให้เองดีไหม”


                “ลุงมินย้อก!! ไม่ต้องแย้วฮะ เพราะว่าคุงอาคนนั้นน่ะ จัดการให้ชีอูแย้ววววววว”


                เสียงใสๆยังคงเจื้อยแจ้วไปเรื่อยๆตามประสาเด็กกำลังอยากพูด แต่ผู้ใหญ่ทั้งสามคนกลับมองหน้ากันด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างอึดอัด


                เหมือนว่าฮยอนจองจะรู้จักโฮซอกมาก่อน ไม่แปลกที่เจอกันมาแล้วตั้งสองครั้งถึงไม่ทักทาย เพราะโฮซอกไม่ได้มองเห็นหน้าฮยอนจอง ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันยังไง แต่ตอนนี้ฮยองวอนอยากจะหายตัวออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน


                ฮยอนจองมองโฮซอกกับฮยองวอนสลับกัน ถึงแม้จะไม่ต้องพูด แต่แววตาและท่าทางของทั้งคู่ที่แสดงต่อกัน มันก็ทำให้เธอพอจะเดาอะไรได้ไม่ยาก ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เธออยากรู้จักมาตลอด จะเป็นคนใกล้ตัวที่เธอรู้จักอยู่แล้ว


                โฮซอกมองฮยองวอนเลยไปยังชีอูที่ตอนนี้ไปอยู่ในอ้อมแขนของมินฮยอกแล้ว ได้แต่สงสัยอยู่ในใจว่าชีอูมีความสัมพันธ์ยังไง


                ลูกของฮยองวอนงั้นเหรอ.. ก็ชีอูเรียกฮยอนจองว่าน้า ส่วนมินฮยอกก็เรียกว่าลุง คงเหลือแค่ฮยองวอนคนเดียว ถ้าหากเป็นแบบนั้น ความหวังอันน้อยนิดที่อยากจะทำทุกอย่างให้กลับไปเป็นแบบเดิมของโฮซอกก็ยิ่งเลือนรางมากขึ้นไปอีก


                “เอ่อ มินฮยอก คุณโฮซอกเขามารอคุยกับนายตั้งนานแล้วนะ”


                “ขอโทษด้วยนะครับคุณโฮซอก พอดีว่าผมไปทำธุระที่โซลมา ไม่คิดว่าคุณจะมาวันนี้”


                “..ไม่เป็นไรหรอกครับ ความผิดของผมด้วยที่ผิดนัดครั้งก่อนแล้วก็ไม่ได้โทรนัดล่วงหน้า”


                “เอาเป็นว่าหายกันแล้วกันนะครับ”มินฮยอกพูดอย่างอารมณ์ดี หันไปหาฮยองวอน “นี่ไงฮยองวอน คนที่ฉันบอกว่าเขาอยากจะมาติดต่อขอสถานที่จัดงานแต่งงานที่รีสอร์ทเรา ออแกไนซ์ชื่อดังเลยนะรู้ไหม”


                “อะ อืม”ฮยองวอนยิ้มเจื่อนๆ รับชีอูกลับมาสู่อ้อมแขนของตัวเองอีกครั้ง “ถ้างั้นก็คุยธุระกันไปเถอะนะ”


                “อ้าว ไม่อยู่คุยด้วยล่ะ ไหนๆนายก็มาแล้ว”


                “ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ นายจัดการไปเลย”


                “เอางั้นก็ได้ ถ้างั้นเดี๋ยวเสร็จงานแล้วไปกินข้าวด้วยนะ”


                “อื้ม”


                “...”โฮซอกหรี่ตามองภาพที่เห็นตรงหน้าก่อนที่สุดท้ายจะทนไม่ไหวต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น


                ทุกอย่างมันดูสับสนไปหมดเลยในตอนนี้ เหมือนมาอยู่ในที่ที่โฮซอกไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ฮยองวอนกับมินฮยอกเป็นอะไรกัน เพื่อนเหรอ ..เพื่อนสนิทที่ลูบหัวลูบแก้มกันแบบเมื่อกี้อ่ะเหรอ


                เพื่อนในรูปแบบที่โฮซอกกับฮยองวอนเคยเป็นหรือเปล่า


                จู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจและหงุดหงิดขึ้นมาทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย จนกระทั่ง


                หมับ


                “คุงอา”


                “ชีอู”ฮยองวอนเรียกลูกชายด้วยความตกใจ เพราะเมื่อปล่อยชีอูให้ยืนเอง เจ้าตัวเล็กก็วิ่งไปกอดขาของโฮซอกแน่น “ชีอูครับ”


                “คุงอาฮะ ชีอูกลับบ้านก่อนนะฮะ ไว้วันหลัง คุงอามาเล่นกับชีอูอีกนะฮะ!!


                โฮซอกย่อตัวลงจนอยู่ในระดับสายตาเดียวกัน ลูบหัวเด็กตัวน้อยน่ารักคนนี้ไปเบาๆด้วยความเอ็นดู “แน่นอนครับ อาจะมาเล่นกับชีอูบ่อยๆนะ”


                “เย้ ดีใจจัง ชีอูชอบอยู่กับคุงอาที่สุดเยยยยยยยยยย”


                “อะ เอ่อ เราไปกันดีกว่าเน๊อะชีอู ป่านนี้คุณยายรอชีอูแล้วมั้งเนี่ย”ฮยอนจองที่เห็นท่าไม่ดีรีบพูดแล้วจูงมือเล็กให้เดินออกมา “ฮยองวอน ไปกันเถอะ”


                “อืม..”ฮยองวอนพยักหน้า “ไปก่อนนะโฮซอก”


                “อืม ไว้เจอกันอีก”


                “..อื้ม ไว้เจอกัน”


                อยากจะหัวเราะให้กับความบังเอิญเหล่านี้ แต่มันกลับหัวเราะไม่ออก ฮยองวอนมองด้านหลังของลูกชายที่เดินออกไปพร้อมกับฮยอนจอง แอบหันกลับไปมองที่โฮซอกอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา


                ได้เจอกันแล้ว.. ได้เจอกันครบหมดแล้ว อยากจะบอกโฮซอกออกไปว่านี่ไง นี่ไงล่ะลูกของเรา แต่ก็ไม่กล้าพอ


                ฮยองวอนเอาชนะความกลัวในใจตัวเองไม่ได้เลย



























    ฮืออออออออออออออ คุงพ่อ คุงลูกเขาเจอกันแล้วนะ เค้าคุยกันตั้งเยอะอ่ะ
    เอ็นดูตาหนูชีอูจังเลยลูก น่าฟัดจริงๆด้วย น้องชีอู(ในเรื่อง) อายุ 2 ขวบ 3  เดือนนะคะ 
    เดี๋ยวสงสัย ไมพูดเก่งจัง เด็กฉลาดค่ะ 5555 ลูกคุณแชเค้าาาาาา


    รักค่ะ

    #แชไม่น่าสงสาร
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×