ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta X] Twin Story

    ลำดับตอนที่ #9 : Twin Story 'CHANGE' : CHAPTERS 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 881
      18
      12 ก.ค. 59

    T
    B



    Chapters 8

     

                “หยุดนะมินจุน บอกให้หยุดไง”


                เสียงของผมเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรเลย ไม่รู้ด้วยว่ามินจุนได้ยินในสิ่งที่ผมพูดบ้างหรือเปล่า เพราะนอกจากเขาจะไม่หยุดแล้ว เขายังบีบข้อมือของผมแรงขึ้น แถมยังทำสิ่งที่อุกอาจมากกว่าเดิม เมื่อเขาพยายามจะปลดตะขอกางเกงของผมออก แต่ผมก็ดิ้นสุดชีวิต เท่าที่แรงผมจะมีมากพอ


                “ร้องไปก็เหนื่อยเปล่า มึงยอมกูดีๆเหอะน่า”


                “นายบ้าไปแล้วเหรอมินจุน”ผมพูดเสียงสั่น จู่ๆก็ร้องไห้ สมเพชตัวเองที่เป็นคนอ่อนแอ ยิ่งตอนนี้ข้อมือของผมซ้น ทำให้แรงมันลดไปกว่าครึ่ง มินจุนเป็นคนสูง ตัวเขาใหญ่กว่าผมเกือบเท่าตัว ไม่ต้องถามก็รู้ว่าผมเสียเปรียบ ไม่ว่ายังไงผมก็แพ้แรงเขา


                “คนที่บ้าคือมึงต่างหาก”


                “อึก”ผมสะอึกเมื่อมือหนาที่บีบข้อมือผมเปลี่ยนเป็นมาบีบที่คอของผม แม้ไม่แรงมากแต่มันก็พอจะทำให้ผมหายใจติดขัดได้เหมือนกัน


                “มึงช่วยกูทำไม”


                “มะ มินจุน”


                “ทำแบบนั้นทำไม!!! มึงต้องเกลียดกูเหมือนที่กูเกลียดมึงสิ ทำไมมึงไม่ทำเหมือนที่ผ่านๆมา มึงทำให้กู.. ทำให้กูคลั่งมึงทำไม”


                น้ำตาของผมถูกมินจุนเช็ดออกให้อย่างแผ่วเบา เขาคลายแรงที่บีบคอผมอยู่ก่อนจะเกลี่ยผมของผมเบาๆ ใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงมาก่อนที่ริมฝีปากหนาจะกดลงแรงๆที่ต้นคอของผม


                เมื่อเห็นว่าเขาเผลอเปิดช่องโหว่ให้ผมได้หนี ผมก็ออกแรงเฮือกสุดท้ายถีบเขาออก เมื่อเป็นอิสระผมก็รีบวิ่งไปที่ประตู แต่ก็ไม่ทันมินจุนที่ตามมากอดผมจากด้านหลังจนแน่น


                “จะไปไหน”


                “ฮึก อย่าทำแบบนี้มินจุน ไม่ว่านายจะอยากเป็นหรือไม่อยากเป็นพี่น้องกับฉัน แต่พ่อฉันกับแม่นายก็แต่งงานกันแล้ว เราเป็นพี่น้องกัน”


                “กูไม่สนหรอกนะเรื่องนั้น ถ้ากูไม่ได้มึง ก็อย่าหวังว่ามึงจะได้กับใครอีกเลย”


                “ปล่อย!!!!”ผมตะโกนเสียงดัง หันไปผลักเขาออก แล้วรีบเปิดประตูวิ่งออกไปนอกบ้าน พอดีกับบ้านรั้วเดียวกันกับผมที่เปิดประตูออกมา


                “เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!!


                “แม่..”


                มินจุนพึมพำเรียกแม่ของเขาด้วยความตกใจ ส่วนผมรีบติดกระดุมเสื้อนักเรียน แล้วเช็ดน้ำตาออกจากหน้า


                “มินจุน นี่แก..”


                แม่ของมินจุนมองมาทางพวกเราอย่างโกรธๆ ก่อนที่เธอจะเดินปรี่ไปทางมินจุน ผมคิดแบบนั้น แต่มันกลับไม่ใช่ เมื่อเธอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะฟาดมือลงบนแก้มผมอย่างแรง


                เพี๊ยะ


                “แม่!! แม่ทำอะไร”


                “แกทำอะไรลูกชายฉัน ไอ้เด็กเลว”


                ผมมองอย่างอึ้งๆ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่ผมจะตั้งรับทัน ทำไมเหตุการณ์ทั้งหมดกลับกลายเป็นว่าผมคือคนผิด ทำไมผมถึงกลายเป็นผู้กระทำ


                เพี๊ยะ


                “จะทำลายชีวิตลูกฉันไปถึงไหน ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน!!!!!


                ผมถูกตบสองครั้งไม่โกรธเท่ากับการมีคนมาด่าพ่อแม่ของผม ผมหันไปมองสบตากับเธอก่อนจะมองเลยไปทางมินจุนที่วิ่งมาห้ามแม่เขาไว้


                “ลูกชายคุณต่างหาก ที่เข้ามาหาผม”


                “แม่ คือว่า..”


                “ก็ถ้าคนอย่างแกมันไม่มาอ้าขาให้ลูกฉันเอา คิดว่าลูกฉันจะสนใจเหรอ”


                “ฮึก..”ผมสะอื้นและพยายามหยุดมัน เรื่องราวเริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อแม่ของมินจุนสะบัดตัวมินจุนออกแล้วเข้ามาทุบตีผม


                “แกมันตัวมารความสุขของฉัน เพราะแกคนเดียว มินจุนของฉันถึงได้ไม่ก้าวหน้าไปไหนสักที ก็เพราะแก เพราะแก”


                “แม่ พอได้แล้ว วอนโฮไม่เกี่ยว ผมผิดเอง ผมขาดสติ”


                “ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแกได้ยินไหมไอ้เด็กสารเลว”


                ผมสะอื้นจนตัวโยน ในขณะที่มินจุนรวบตัวแม่เขาแล้วพาเข้าไปในบ้าน แต่ก่อนไปเขาก็ยังมองมาทางผม สายตามองมาเหมือนว่าเป็นห่วงเสียมากมาย ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย


                ผมต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือไง


                ผมเดินกลับเข้าไปในบ้าน นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแบบนั้น ก่อนจะเดินไปข้างบน เก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋า รวมไปถึงเสื้อผ้าด้วย ผมอยู่ที่นี่ต่อไม่ไหวหรอก ผมไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนวอนโฮ ผมทำแบบนั้นไม่ได้


                เมื่อออกมานอกรั้วบ้านแล้ว ผมก็นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์อย่างไร้ที่ไป ตอนนี้ดึกมากแล้ว ไม่มีคนผ่านไปมา รถก็แทบจะไม่มี ผมไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหน จะโทรไปหาแม่ที่ต่างประเทศผมก็ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ เพื่อนที่เกาหลีผมก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน


                จูฮอนเหรอ.. ตอนนี้เขาก็น่าจะอยู่กับชางกยุน


                ...


                ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมกดโทรไปหาเขา เสียงสัญญาณดังอยู่สักพัก ปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ


                (..ว่าไง)


                “...”


                (ฮัลโหล)


                “ฮึก..”แค่ได้ยินเสียงของเขา น้ำตาที่หยุดไปแล้วก็ไหลลงมาอีกรอบอย่างกับเขื่อนแตก ผมปล่อยโฮออกมาโดยที่ไม่พูดอะไร “ฮือ”


                (เกิดอะไรขึ้นโฮซอก ฮัลโหล)


                “ฮือ”


                (นายอยู่ไหน บ้านเหรอ เดี๋ยวฉันไปหะ..)


                “ปะ เปล่า ฮึก”


                (อยู่ไหน)


                “...”


                (โฮซอก)


                “ป้ายรถเมล์.. ฮึก”


                ผมไม่รู้ว่าเขาจะรู้เรื่องไหม แต่สายตัดไปแล้ว ส่วนผมก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น ทำไมผมจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย ผมมาที่นี่แค่เพราะอยากจะช่วยน้องชายของผม อยากรู้ว่าใครที่เป็นคนทำเรื่องใจร้ายแบบนั้น แต่ทำไมกลับกลายเป็นผมเองที่โดนอะไรแบบนี้


                ต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว


                เวลาผ่านไปนานแค่ไหนผมไม่ได้สนใจ เพราะผมเอาแต่ร้องไห้จนเริ่มจะหมดแรง วันนี้ผ่านเรื่องราวมาเยอะ ทั้งเจ็บมือ เจ็บใจ เหนื่อยจนแม้แต่จะลืมตาก็ทำแทบไม่ได้


                เสียงฝีเท้าหนักๆใกล้เข้ามา ผมค่อยๆหันไปมอง ภาพที่เห็นมันเบลอไปหมดเพราะน้ำตา ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร ร่างของผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดแน่น ก่อนที่มือหนาที่แสนอบอุ่นจะกดหัวของผมให้ซบอยู่กับไหล่กว้างของเขา


                “ฮึก..”


                “ไม่เป็นไรแล้ว”เสียงของเขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจ แต่กลับไม่ได้ช่วยให้ผมหยุดร้องไห้ได้ง่ายๆเลย


                “ฮึก ฮะ ฮยอนอู..”


                “อืม ฉันอยู่นี่แล้วนะโฮซอก”


                “ฮือออ”


                “ฉันอยู่กับนายแล้ว”


                เขาพูดคำเดิมซ้ำๆ กอดปลอบผมอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน


                เหมือนผมกำลังเดินอยู่ในความมืด แล้วหาทางออกไม่เจอ แต่เมื่อเจอเขาที่เป็นเหมือนแสงสว่างนำทางของผม เมื่อเขาอยู่ตรงนี้กับผม


                ผมก็รู้สึกได้ในทันทีว่าไม่มีอะไรที่ผมจะต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                -HYUNWOO-


                ผมนั่งอยู่บนโซฟาเพื่อรอให้โฮซอกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งไม่นานนักเขาก็อาบน้ำเสร็จแล้ว ถึงได้เดินออกมานั่งอยู่ข้างๆผมโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา


                เขาเล่าทุกอย่างให้ผมฟังหมดแล้ว ผมเลยพาเขามาที่คอนโดของผม เพราะถ้าจะปล่อยให้กลับไปอยู่ที่บ้าน ผมก็คงทำไม่ได้หรอก เห็นทีพรุ่งนี้ผมคงมีเรื่องให้ต้องสะสางกันเยอะกับกวักมินจุน


                “โอ๊ะ”โฮซอกร้องพร้อมกับสะดุ้งเบาๆเมื่อปลายนิ้วของผมที่ป้ายยาไปแตะอยู่ที่มุมปากของเขาที่แตก ผมไม่ได้พูดอะไร แต่ทายาให้เขา แล้วจับเขาพลิกไปพลิกมาเพื่อมองหาว่ามีแผลที่ไหนอีก เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วผมก็ปิดหลอดยาแล้วเอาไปเก็บที่ ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม


                “เจ็บมือไหม”


                “..ปวดนิดหน่อย”


                “พรุ่งนี้ก่อนไปเรียนไปหาหมออีกรอบ”


                “มะ ไม่ต้องก็ได้”


                “ไม่ได้ ยังไงก็ต้องไป”ผมพูดสวนกลับไปทันที และแน่นอนว่าเขาไม่กล้าปฏิเสธผมเหมือนเคย พอเห็นหน้าหงอๆผมก็ดุต่อไม่ลงเลยลุกขึ้นยืนแล้วชี้ประตูห้องนอนของผม “นายเข้าไปนอนห้องฉันก็ได้”


                “..แล้วนายล่ะ”


                “เดี๋ยวฉันนอนตรงนี้แหละ”


                ผมพูด ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบหมอนออกมา โยนบนโซฟา แต่โฮซอกกลับคว้าหมอนใบนั้นไปถือ ไม่สิ คว้าไปกอดไว้ซะแน่นอย่างกับกลัวว่ามันจะหายงั้นแหละ


                “อะไร”


                “ถ้าฉันจะนอนตรงนี้เองนายคงไม่ยอมใช่ไหม”


                ผมยักไหล่ “ฉันนอนเอง นายเข้าไปนอนเหอะ พรุ่งนี้ไปเรียน”


                “ไม่เอา”


                “อะไรอีก”


                “..ปะ ไปนอน.. ดะ ด้วยกันในห้องก็ได้”


                “หือ..”


                “.////. ฉันกับนายก็ผู้ชายเหมือนกัน คะ คือว่า..”


                “กลัว?”


                “...”


                “ว่าไง”


                “งะ งื้อ”


                ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วแอบหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเขา สุดท้ายผมก็เลยต้องลุกแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับเขา ดึงหมอนมาแล้วโยนลงบนเตียงก่อนจะลงไปนอน โฮซอกยืนอยู่ข้างเตียง เหมือนคนทำอะไรไม่ถูกผมเลยหรี่ตามองเขา


                “นอนสิ”


                “อื้อ”เขาพยักหน้าแล้วค่อยๆลงมานอนเหมือนกลัวเตียงจะพังถ้าลงมานอนแรงๆ ผมเลยแกล้งดึงให้เขาลงมานอน จนคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียหลักลงมานอนทับแขนผมอย่างจัง “ขะ ขอโทษ”


                “นอนได้แล้ว”ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่พูดแค่นั้นแล้วหลับตา ไม่ได้ดึงแขนตัวเองออกมา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้โฮซอกนอนหนุนแขนของผมอยู่


                “ขะ แขน..”


                “นอนได้แล้ว ถ้าพูดมากฉันไม่ให้นอนที่นี่นะ”


                เมื่อผมขู่ เขาก็รีบหลับตาทันที ผมยิ้มก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบรีโมทแล้วกดปิดไฟในห้องจนมืด ผ่านไปไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ คนข้างกายผมก็เหมือนว่าจะหลับลึกไปแล้ว ซึ่งผมเข้าใจ


                วันนี้เขาเจอเรื่องเหนื่อยๆมาเยอะ คงหมดแรงนั่นแหละ


                “อื้อ”


                โฮซอกครางในลำคอแล้วพลิกตัวนอนหันหน้ามาทางผม ใบหน้าของเขาคลอเคลียอยู่กับหน้าอกของผมเบาๆ


                ตึกตัก


                และถ้าเขามีสติรับรู้คงรู้ว่าหัวใจของผมเต้นแรงมากแค่ไหน ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันไปทางเขาบ้าง วาดแขนอีกข้างโอบรอบลำตัวที่เล็กกว่าผมมาก รั้งให้เข้ามาใกล้ก่อนจะกดจมูกลงไปบนหน้าผากของเขาอีกครั้ง


                “ฝันดีนะโฮซอก”


                ผมนอนไม่หลับ เพราะมัวแต่นอนมองใบหน้าของเขา.. โฮซอกกับวอนโฮคือฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันมาก ถ้ามองผิวเผินคงดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่ถ้าได้รู้จัก จะรู้ว่าโฮซอกมีใบหน้าที่ติดไปทางน่ารักมากกว่า อาจจะเป็นที่แววตาของทั้งสองคนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง


                โฮซอกจะเป็นคนที่แววตาสดใส เพราะเขาเป็นคนคิดบวก ในขณะที่วอนโฮ เป็นคนที่แววตานิ่งสนิท เหมือนเป็นคนที่ปกป้องตัวเองด้วยการไม่ให้ใครรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผมกับวอนโฮไม่เคยคุยกัน แม้ว่าเราจะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ก็แค่รับรู้ว่าอีกฝ่ายมีตัวตน จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งเข้ามา เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดไปเมื่อไม่นาน ภาพทุกภาพผมยังจำมันได้ดี


                เมื่อก่อนผมไม่ได้เป็นแบบนี้


                ผมก็เป็นแค่ไอ้คนอ่อนแอ และขี้แพ้เท่านั้น


     



                “ถ้าแกยังเป็นแบบนี้ อย่าคิดเลยว่าแกจะเอาตัวรอดอยู่ในสังคมเส็งเคร็งแบบนี้ได้”



     

                ผมไม่เคยเข้าใจวอนโฮ ผู้ชายที่เอาแต่ต่อว่าสังคมรอบๆตัวของเขา จนกระทั่งมาเจอกับตัว ถึงได้รู้ว่าสังคมเส็งเคร็งที่เขาพูดถึงมันคืออะไร



     

                “ถ้าหากมึงเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เราได้เห็นดีกันแน่”


                “...”


                “มึงอย่าคิดว่ากูไม่กล้านะ คนอย่างมึง ถ้ากูเอาจริง มึงตายห่าแน่ไอ้ฮยอนอู”


               



                ผมหลับตา น้ำตาไหลลงมาช้าๆ เมื่อภาพวันนั้นชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง


                ภาพที่วอนโฮถูกไม้หน้าสามฟาดอย่างแรงที่หัวของเขา ภาพที่รถพยาบาลมารับเขา ภาพที่เขามีแต่เลือดเต็มตัวไปหมด ในขณะที่ผมได้แต่ยืนตัวสั่นไม่กล้าทำอะไร


                ตั้งแต่วันนั้น ผมเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมเรียนการต่อสู้เพื่อจะเอาตัวรอดตามที่วอนโฮบอก ผมอยากที่จะตอบแทนเขาบ้าง แต่เหมือนว่ามันจะทัน เพราะตั้งแต่วันนั้น วอนโฮหายไป..


                เขาไม่ได้อยู่ให้ผมตอบแทนเขา


                จนกระทั่งวันหนึ่ง..


                ฟ้าก็ส่งผู้ชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนวอนโฮมาให้ผม ท่าทางใสซื่อ และความสดใสของเขาละลายใจผมไปทีละนิด โฮซอกเป็นเหมือนความสดใสที่ผมไม่เคยได้พบเจอ เหมือนเป็นอีกครึ่งหนึ่งที่ผมกำลังตามหา


                ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นมากขึ้น กอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป


                ถึงผมจะตอบแทนวอนโฮไม่ได้ แต่ผมจะปกป้องโฮซอกให้ดีที่สุด


                แม้ว่าตอนนี้ผมจะยังกลัว..


                ...


                ถ้าหากวันหนึ่งโฮซอกรู้ความจริงว่าวันที่น้องชายฝาแฝดของเขาโดนทำร้าย ผมเองก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่ผมกลับไม่ช่วยอะไร ซ้ำยังเอาแต่กลัว และเห็นแก่ตัวที่ปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป ทั้งที่ผมรู้ดีอยู่แกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาจะยังอยู่ข้างๆผมอยู่ไหม


                เขาจะเกลียดผมหรือเปล่า


                ผมกลัว























































    ไม่มีอะไรทอล์คกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าโฮซอกไม่เสร็จมินจุนเน๊าะ แม้จะมีคนกบฏแอบเชียร์เบาๆ ><

    พลิกยิ่งกว่าคือ ซนฮยอนอู รู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับวอนโฮ แต่ไม่กล้าพูด โอ้วววว

    เจอกันวันศุกร์ คราวนี้วอนโฮมาจริงๆละ แต่จะมาแค่ไหน ไรท์ขอให้รออ่านกันเองเน๊าะ เดินทางมาถึงครึ่งเรื่องของพาร์ทแล้ว

    อีกไม่นานเรื่องราวจะคลี่คลาย แล้วอย่าเพิ่งหนีกันไปไหน ความแฝดน้องจอมบู๊ ก็มีความ อรรถรสไม่แพ้กันนะเออ

    รักๆค่ะ


    #วอนโฮซอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×