ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta X] Twin Story

    ลำดับตอนที่ #3 : Twin Story 'CHANGE' : CHAPTERS 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      16
      20 มิ.ย. 59


    ss© themy butter

    Chapters 2

     

                ผมถูกลากออกมาจากโรงเรียนตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าจูฮอนน่ะยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงได้ทำให้รปภ.เปิดประตูให้เราออกมาได้แม้ไม่ได้พูดอะไร เขาลากผมขึ้นไปนั่งบนรถเมล์ที่ผ่านมาพอดี ไม่พูดอะไรเลยสักคำก่อนที่เขาจะดึงให้ลุกขึ้นแล้วพาลงจากรถเมื่อ(คิดว่า)มาถึงที่หมายแล้ว


                “นี่ มันไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไหร่นี่


                “ใช่ นี่บ้านฉันเอง ถัดไปอีกสามซอยคือบ้านนาย”


                “อ่าฮะ


                “นั่งรออยู่ข้างล่างก่อนละกัน ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป็บนึง


                ผมพยักหน้า ปล่อยให้เขาเดินขึ้นไปข้างบน ระหว่างนี้ก็ลุกขึ้นเดินสำรวจบ้านของเขา บ้านจูฮอนเป็นบ้านหลังเล็ก รูปทรงก็คล้ายกับบ้านผมนั่นแหละ อันที่จริงต้องบอกว่าเป็นบ้านวอนโฮต่างหาก ผมแทบไม่มีความทรงจำอะไรกับบ้านหลังนั้นเลยด้วยซ้ำ


                บ้านของจูฮอนตกแต่งแบบเรียบง่ายมีเฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะมากนัก น่าจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวนั่นแหละ ผมเห็นรูปครอบครัวตั้งอยู่แล้วก็เห็นรูปจูฮอนกับวอนโฮด้วย


                อืม ดูเหมือนว่าสองคนจะสนิทกันมากพอตัวเลยนะ


                 “หลบหน่อย ขวางทางเดินฉัน


                ผมเงยหน้ามองเจ้าของบ้านที่ลงมาเมื่อไหร่ไม่รู้ กระเถิบตัวหลบให้เขาได้เดินลงมา จูฮอนเดินไปนั่งที่โซฟา พร้อมกับกวักมือให้ผมไปนั่งข้างเขา และทันทีที่นั่ง ผมก็ถูกสอบสวนทันที อย่างกับผมไปทำความผิดอะไรมางั้นแหละ


                “มาอยู่ที่นี่กับใคร


                “ก็อยู่ที่บ้านไง จะให้ฉันอยู่กับใครล่ะ


                “แล้วพ่อแม่นายรู้หรือเปล่า ว่านายอยู่ที่นี่


                “รู้สิ แต่ไม่รู้เหตุผลหรอกว่าฉันมาทำไม พวกท่านก็แค่เข้าใจว่าฉันมาเรียนแทนวอนโฮน่ะ


                “แล้วแบบนี้ โรงเรียนนายที่นั่นล่ะ”


                “เรื่องเรียนของฉันมันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ที่อเมริกาเขาเป็นระบบอิสระผมตอบ เมื่อเห็นสายตาของเขาที่ดูค่อนข้างจะเป็นห่วงกับเรื่องเรียนของผม


                 “แล้วตอนนี้ สรุปไอ้วอนโฮมันไปอยู่ไหนกันแน่ อเมริกาแทนนายเหรอ


                “ใช่ พอดีว่าพ่อ ฉันหมายถึงพ่อใหม่ของฉันน่ะ เขาเป็นหมอ แม่เลยอยากให้วอนโฮอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด


                “อืม ดีแล้ว


                “ว่าแต่ นายให้ฉันมาที่นี่ทำไมเหรอ มีอะไรจะบอกฉัน


                “ก็การเป็นไอ้วอนโฮ มันไม่ใช่แค่นายหน้าเหมือนแล้วนายจะเป็นได้หรอกนะ ฉันก็เลยอยากให้นายได้เรียนรู้ก่อน ไม่งั้นมีหวังความลับแตกแน่ พวกนายสองคนน่ะเป็นฝาแฝด ที่ เอิ่ม โคตรจะแตกต่างกันเลย


                “ไม่รู้สินะ”ผมเกาคางตัวเองเบาๆ ฟังจากเท่าที่จูฮอนเล่า ผมก็คิดแบบนั้นแหละ ว่าเราสองคนนี่มันเป็นฝาแฝดที่โคตรจะไม่มีความเหมือนกันเลยสักนิด นอกจากหน้าตาที่เหมือนอย่างกับแกะของเราน่ะ


                “ว่าแต่นายไปอยู่บ้านนั้น เจอแม่เลี้ยงนายหรือยัง”


                “ไม่เจอใครเลยอ่ะ”ผมส่ายหน้า “เห็นมีกระดาษแปะไว้ว่าไม่มีคนอยู่”


                “อืม สองคนนั้นคงกำลังไปเที่ยวกัน และคงยังไม่มีใครรู้ไอ้วอนโฮแน่ๆ”


                ผมพยักหน้าเบาๆ “จูฮอน วอนโฮไม่ถูกกับแม่เลี้ยงเหรอ”


                “ใช่ ทั้งแม่เลี้ยง ทั้งลูกติดแม่เลี้ยงมันนั่นแหละ”


                “...”


                “นายเห็นบ้านอีกหลังที่อยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านนายไหม”


                “อื้ม ว่าจะถามอยู่พอดีว่านั่นบ้านใคร”


                จูฮอนพยักหน้า มองผมเหมือนไม่แน่ใจอีกครั้ง “นายอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”


                “ฮะ”


                “ฉันหมายถึง ไอ้วอนโฮมันไม่ถูกกับแม่ลูกคู่นั้น ก็เลยขอแยกออกไปอยู่คนเดียว แต่ว่าพ่อนายน่ะไม่อนุญาต ท่านก็เลยปลูกบ้านหลังเล็กๆในรั้วเดียวกันให้มันอยู่ ซึ่งหลังจากนี้ฉันว่านายคงต้องไปอยู่ที่นั่นแหละ”


                “อ๋อ ไม่มีปัญหาหรอก ฉันอยู่ได้”


                “นายอย่ามองว่าทุกอย่างมันง่ายไปซะหมดได้ไหมโฮซอก”


                “อ้าว -o-


                “ชเวจินฮยอกน่ะ ไอ้เวรนั่นเป็นลูกติดแม่เลี้ยงนาย มันเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเรานี่แหละ อายุเท่าเรา และมันก็หาเรื่องไอ้วอนโฮตลอด เพราะงั้น นายต้องเป็นวอนโฮเวลาอยู่ต่อหน้ามันนะ”


                “ฮะ”ผมมองเขาอย่างงงๆ


                จูฮอนเอื้อมมือมาบีบไหล่ทั้งสองข้างของผม ตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงที่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจอยู่ไม่น้อย “นายห้ามแสดงด้านที่เป็นนายออกมาเด็ดขาด ไม่งั้นไอ้จินฮยอกมันจะได้ใจ ไม่สิ นายห้ามแสดงด้านโฮซอกออกมาให้ใครเห็นทั้งนั้นนอกจากฉัน โอเคไหม”


                “อะ โอเค”


                ทำไมผมรู้สึกว่ามันชักจะดูน่ากลัวขึ้นยังไงก็ไม่รู้


                นอกจากศัตรูรอบโรงเรียนแล้ว กลับบ้านวอนโฮก็ยังมีศัตรูอีกเหรอ หมอนั่นจะไม่พักรบบ้างเลยหรือไงนะ


                “ฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่คงต้องพูด เพื่อให้นายระวังตัวเอาไว้”


                “อะ อะไรอ่ะ”


                “ไอ้จินฮยอกน่ะ ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งเลย”


                ผู้ต้องสงสัย ..อันดับหนึ่งงั้นเหรอ


                ชักอยากเห็นหน้าชเวจินฮยอกซะแล้วสิ           

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                หลังจากใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการเรียนรู้เป็นวอนโฮอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง การพูด การแสดงสีหน้า และบุคคลรอบๆตัวที่ผมจำเป็นจะต้องรู้จักเอาไว้ จูฮอนก็บอกให้ผมกลับบ้านได้ รึ้กเหมือนกำลังเรียนการแสดงอยู่ ถึงมันจะดูน่ากลัวนิดๆ แต่ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันแฮะ


                ผมไม่ได้กลับบ้านในทันที แต่เดินมาที่มาร์เก็ตซึ่งอยู่แถวบ้าน ดูแล้วมันไม่ไกลจากทั้งบ้านผมและบ้านจูฮอนเลยนี่นา ก็ดีเหมือนกัน เพราะดูเหมือนที่นี่จะมีแทบทุกอย่างที่ผมต้องการ เลือกซื้อของอยู่พักใหญ่ๆก็ได้ของที่ต้องการมาครบแล้ว หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย แต่เมื่อถือของเตรียมจะกลับบ้านผมกลับรู้สึกว่าผมน่าจะชวนจูฮอนมาด้วย


                ไม่น่ามาคนเดียวเลยจริงๆ


                นี่ผมลืมไปได้ยังไงว่าน้องชายฝาแฝดของผมไม่ใช่เด็กนักเรียนม.ปลายธรรมดาๆ แต่หมอนั่นเป็นนักเลง แถมยังมีศัตรูเป็นร้อยเลย


                “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ


                ผมมองคนตรงหน้าที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มไม่คุ้นตา ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา บ้าชะมัด ทำไมแถวนี้ไม่มีคน T^T


                “จะหนีไปไหนเล่า กูกับมึงยังมีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยนะ


                “ตะ แต่ฉัน เอ่อ แต่ กะ กู แต่กูไม่มี จำไม่เห็นได้ว่าเรารู้จักกันด้วยผมพูด พยายามไม่ให้เสียงสั่น และพูดแบบที่วอนโฮพูด โธ่ ทำไมหยาบคายจังนะวอนโฮ


                “เฮ้ย จะไม่รู้จักกันได้ไงวะ ก็มึงเพิ่งทำน้องกูเข้าโรงบาลเมื่อเดือนที่แล้วนี่ไง”


                คนแปลกหน้าตะโกนใส่หน้าผมก่อนจะสั่งให้พรรคพวกมาหิ้วปีกผมออกไป ผมพยายามดิ้น แต่ก็ดิ้นไม่หลุด จะแหกปากขอให้คนช่วยก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ เพราะแถวนี้มีแต่คนแก่กับเด็กทั้งนั้น


                “ใครแจ้งตำรวจพ่อจะจับกระทืบให้ม้ามแตกเลยคอยดู!!!


                บวกกับคำขู่ของไอ้หน้าเหียกนี่อีก แล้วใครจะกล้ามาช่วยผมล่ะ


              พลั่ก


                “โอ๊ยผมเผลอร้องออกมาเมื่อถูกเหวี่ยงใส่เสาในลานจอดรถที่เงียบยิ่งกว่าในมาร์เก็ตสิบเท่า


                “หึๆ หายไปนาน กลับมาครั้งนี้ไหงดูนุ่มนิ่ม ปวกเปียกแบบนี้วะ ไอ้เวร


                “ก็ฉัน.. ฉันไม่ใช่คนที่พวกนายตามหาสักหน่อย”


                ฮือออออ ผมไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้เลยนะ เคยดูแต่ในหนังอ่ะ ผมต้องทำไง หนีได้ไหม


                ไม่ได้สินะ


                พลั่ก


                ใบหน้าของผมหันไปอีกทางเมื่อถูกเหวี่ยงหมัดใส่อย่างแรง รู้สึกชา แถมยังรับรู้รสฝาดๆของเลือดอีกต่างหาก


                “มึงอย่ามาแอ๊บนะโว๊ย ถ้าดูยังไม่ได้จัดการคนที่กล้าทำกับน้องกูไม่ได้ล่ะก็ กูจะไม่ยอมตายเด็ดขาด


                “ก็บอกว่าไม่รู้เรื่องไง ฉันไปทำอะไรให้นายตั้งแต่เมื่อไหร่ผมพูดด้วยความลำบาก รู้สึกปวดแก้มหนึบเลย


                “ก็บอกแล้วไงว่าเมื่อเดือนก่อน แต่ถ้าจำไม่ได้จะเตือนความจำให้ น้องกูแค่เข้าไปไถตังค์เด็กในโรงเรียนมึง แต่มึงกลับกระทืบมันซะขาหักนอนอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้มันยังเดี้ยงอยู่เลย”


                เฮือก วอนโฮ  ทะ ทำไมโหดร้ายขนาดนี้


                “มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง น้อง น้องนายไม่มีเงินเหรอ ถึงต้องไปไถชาวบ้านเขานะ ถ้าไม่มีก็ออกไปหางานทำสิ หัดเป็นขโมยแต่เด็กแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน”ผมพูดไปตามความจริง แต่กลับถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ


                จริงสินะ ผมคือวอนโฮนี่นา


                “มึงไม่ต้องมาสอนกู อย่ามากวนตีน คราวนี้มึงโดนแน่”


                “อ่อก


                ผมไอค่อกแค่กออกมาทันทีเมื่อมือใหญ่ๆของนายหน้าเหียกจับที่คอแถมยังยกผมขึ้นจนเท้าลอยจากพื้นอีก ก่อนที่ผมจะขาดอากาศหายใจตายไปเสียก่อน ผมก็ถูกปล่อยให้หล่นลงมากับพื้น โดยที่นายหน้าเหียกกระเด็นไปข้างหลังด้วยฝีมือของ


                “ซวยแล้วไงมึง


                เพื่อนๆของนายนี่พูดก่อนที่จะพากันวิ่งกระเจิงไปกันคนละทาง ส่วนนายหน้าเหียกก็ลุกขึ้นยืน ตัวสั่นงันงกอย่างกับลูกนกหลงทาง


                แล้วไอ้โหดๆที่บีบคอผมเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วววววววว


                “แค่ก แค่กๆ”ผมไอก่อนจะยกมือขึ้นมาจับที่คอ ตอนนี้มันต้องขึ้นเป็นรอยแดงๆแน่ ผมนึกว่าผมจะไม่รอดแล้วเชียว


                “ฮะ ฮยอนอู ฉัน ฉัน”


                “- -


                ผมมองร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังนายหน้าเหียก ใบหน้านิ่งๆที่ดูไม่สบอารมณ์มองผมแค่เพียงเสี้ยววินาทีแล้วก็หันกลับไปมองที่เดิม ฮยอนอูย่อตัวลงก่อนจะพูดด้วยเสียงราบเรียบ แต่ผมกลับขนลุกซู่


                นะ น่ากลัวจัง


                “ไปซะ วันนี้ยังไม่มีอารมณ์มีเรื่อง


                ผ่านไปไม่ถึงสิบวิด้วยซ้ำ นายนั่นก็หายไปกับสายลม ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่ปกคลุมบริเวณนี้ มันน่ากลัวกว่าเดิมซะอีก น่ากลัวกว่าเมื่อกี้เยอะเลย ผมมองเห็นรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากใบหน้าหล่อๆนั่นนะ


                แค่กๆ


                “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”


                “ฮะ อะ อะไรเหรอ”ผมถามเขา ลูบคอตัวเองเบาๆ


                ฮยอนอูหันกลับมามองหน้าผม ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้ ไล่ต้อนผมจนไปชิดกับเสา เขาวางมือลงบนเสาที่ผมพิงอยู่ ก่อนจะก้มลงมาใกล้


                “ฉันช่วยนายครั้งนี้แค่ครั้งเดียว”


                “...”


                “วอนโฮมันไม่อยู่เฉยรอให้ใครมาด่าหรอกนะ แค่ฝ่ายตรงข้ามอ้าปาก มันก็ซัดแล้ว”


                “-o-


                เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินจากไป ส่วนผมก็ได้แต่มองตามร่างสูงที่เดินหายไป ก่อนจะยกมือขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้าย


                ตึกตัก ตึกตัก


                หะ หัวใจ


                ...


                เต้นแรงเป็นบ้าเลย


                อีกหนึ่งฉากที่ผมเห็นในละครก็เป็นฉากนี้ล่ะนะ


                ฉากที่พระเอกเข้ามาช่วยนางเอก


                ฮยอนอูน่ะ.. เขาเท่มากเลย


                “แค่กๆ อะ โอ๊ย เจ็บง่ะ”ผมโอดครวญ เมื่อรู้สึกแสบแผลที่ปาก อาการใจเต้นแรงค่อยๆหายไป เมื่อผมรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าผมยังต้องเจออะไรอีกในวันต่อๆไป


                วันที่ผมต้องเป็นวอนโฮจอมหาเรื่อง


                ...


                ถอนตัวทันไหมนะ ฮือออออ มันไม่ทันแล้วไง โธ่เอ๊ย


                นายเป็นคนพูดเองนะว่าเราไม่สนิทกันเหมือนพี่น้องคู่อื่น เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องมายุ่งวุ่นวายอะไรกัน แล้วนี่..


              ฉันจะยอมมาสับสน วุ่นวาย แถมยังเจ็บตัวแทนนายทำไมกันล่ะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยย ชินวอนโฮ TT




















































    โธ่ โฮซอกนุ่มนิ่ม เป็นวอนโฮวันแรกก็เจอดีเข้าเลยเน๊อะ

    พี่นูออกโรง แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะจ๊ะที่พี่เขาจะช่วย หึๆ จริงเหรอ มาดูกัน

    ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงไรท์ไหมล่ะ ที่จริงไรท์ก็อัพฟิคทุกวันนะ แต่คนละเรื่องเฉยๆ เรื่องในสต็อคมีเยอะมาก

    นี่พล็อตมาอีกแล้ว แต่ยังไม่กล้าเปิด กลัวจะดองหลายเรื่องเกิน แฮ่ๆ

    ความจริงไรท์อยากเพิ่มวันอัพมากเลยนะ เพราะฟิคเรื่องนี้มันมีความตะมุตะมิอยู่อ่ะ พิมพ์ไปแล้วมันก็เขินไปอยู่เรื่อย

    เอางี้แล้วกัน ถ้าเกิดคอมเมนท์ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป มีถึง 15+ ไรท์จะเพิ่มวันอัพแล้วกัน

    เชื่อเถอะว่าถ้าคนที่อ่านเม้นท์กันทุกคนอ่ะ ถึงแน่นอน เผลอๆเกินด้วยซ้ำแหละ ดูจากยอมเฟบและยอดวิวแล้วอ่ะนะ

    แต่คือไรท์ห้ามไม่ได้ไง ไรท์ไม่สามารถบังคับให้ใครมาคอมเม้นท์ให้ไรท์ได้ เพราะงั้นไรท์จะใช้คำว่าขอร้องแทนแล้วกันเน๊อะ

    ลองคิดดู เสียเวลาอ่านกันมาขนาดนี้ ถ้ามาถึงบรรทัดนี้ได้ก็ต้องรู้แหละ ว่าไรท์กำลังขอร้องอยู่

    เสียเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเม้นท์ให้ไรท์ เพื่อแลกกับหลายนาทีที่ไรท์พิมพ์ฟิคให้อ่านหน่อยเถอะนะคะ มันเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ

    ไม่ใช่แค่ไรท์หรอกนะ เชื่อว่าไรท์เตอร์ท่านอื่นๆคิดเหมือนกัน คอมเม้นท์เป็นเหมือนกำลังใจที่มีค่ามากๆ

    สกรีมแท๊กก็ได้ มีค่าเท่ากัน แค่พิมพ์คำว่า ติดตามค่ะ มาแค่นี้ไรท์ก็ดีใจจะตายแล้วค่ะ  ขอร้องนะ ขอร้อง พลีสสสสสสส

    รักๆค่ะ เจอกันจันทร์หน้า(ยกเว้นว่าจะเป็นไปตามข้อตกลงแล้วกัน)นะคะ


    #วอนโฮซอก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×