ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta X] Twin Story

    ลำดับตอนที่ #21 : Twin Story 'CHOICES' : CHAPTERS 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 890
      7
      15 ส.ค. 59

    T
    B

     


    Chapters 4

     

                -HYUNGWON-


                ผมเดินออกไปตามทางที่มืดมิด หลังจากที่กลับมาบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและกินข้าวที่น้องชายเอามาให้เมื่อช่วงหัวค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ ยูกีฮยอน เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ ไม่พูดอะไร แค่โยนถุงข้าวนั้นใส่ผมแล้วก็ออกไปเงียบๆ ผมไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรหรอกนะ เพราะว่าผมเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี


                รู้ว่ากีฮยอนไม่ชอบผม ไม่เคยชอบ


                ..เราสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อของผมกับแม่ของกีฮยอนเป็นพี่น้องกัน และตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ของเราก็เสียกันไปแล้วทั้งคู่ พ่อแม่ของกีฮยอนเพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้ว เขาเลยอาศัยอยู่กับคุณตาซึ่งก็คือคุณปู่ของผมเอง


                ส่วนพ่อกับแม่ของผม.. ผมไม่เคยเห็นหน้าหรอก เคยเห็นก็แค่ในรูปเท่านั้น ปู่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก ผมกับกีฮยอนเราเคยวิ่งเล่นด้วยกัน สนิทกันเหมือนพี่น้องคู่อื่นๆ แต่จู่ๆวันหนึ่งก็มีคนมาพาตัวผมแยกออกไปจากปู่ จากกีฮยอน จากคุณอา หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยได้กลับมาเจอกับทุกคนอีกเลย จนกระทั่งตอนที่ผมย้ายมาที่นี่


                จะเรียกว่าย้ายก็ไม่ถูก ควรจะเรียกว่าหนีกลับมาเสียมากกว่า ..คนที่จับผมไป บอกว่าพ่อกับแม่ของผมสร้างหนี้สินเอาไว้มากมาย เลยเอาผมไปใช้งานแทนการใช้หนี้ ตอนแรกๆผมก็โอเคกับมันเพราะผมยังเด็ก งานที่พวกเขาให้ทำก็ไม่มีอะไรมากมาย แต่เมื่อเริ่มโต ผมก็เริ่มเข้าใกล้กับคำว่าผิดกฎหมายมากขึ้นเรื่อยๆ


                พวกนั้นคือแก๊งมาเฟีย


                แก๊งเดียวกับที่ซังอู คนที่เคยทำร้ายวอนโฮและจับตัวโฮซอกไปนั่นแหละ หมอนั่นก็อยู่ในแก๊ง แต่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้จักผม มาเฟียพวกนี้ พอเห็นว่าใครหมดผลประโยชน์ ก็ทิ้งอย่างไม่สนใจไยดี ยกเว้นในกรณีของผม


                ผมยังไม่หมดประโยชน์ ดังนั้นผมถึงถูกตามล่า แม้ว่าจะหนีมาไกลมากก็ตาม ผมมาที่นี่เพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนที่ช่วยผม ผมได้ยินว่าที่นี่จะปลอดภัยสำหรับผม ช่วงที่ผมยังไม่ย้ายมา ผมก็เลยเก็บข้อมูลมาเรื่อยๆ จนได้เจอข้อมูลของ เขาผมคิดว่าเขาน่าจะช่วยผมได้ แต่ตอนนี้ผมไม่คิดแบบนั้นแล้วล่ะ


                ผมถูกตามเจอแล้ว และถ้าผมยังอยู่ที่นี่ ทุกๆคนที่อยู่รอบข้างผมก็จะต้องเดือดร้อน ผมต้องรีบหนีไปก่อน ผมต้องทิ้งความเห็นแก่ตัวของผม แล้วไปจากที่นี่ซะ



     

                “ถ้าเริ่มหนีครั้งที่หนึ่ง มึงก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต”

     



                คำพูดของวอนโฮดังก้องอยู่ในหัวของผม ที่เขาพูดมันคือความจริง เมื่อผมเริ่มหนีครั้งแรก ต่อไปผมก็จะต้องหนีไปตลอด และไม่มีทางได้หยุดหนีด้วย ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน พวกนั้นก็จะตามหาผมจนเจออย่างรวดเร็ว ผมหนีไม่พ้นจริงๆ


                “ฮยองวอน ออกมาทำไม ดึกแล้วไม่รีบนอนล่ะ พรุ่งนี้ต้องเรียนไม่ใช่เหรอ”


                “ผมมาช่วยครับปู่”ผมพูดกับปู่ที่หันมาถามอย่างใจดี มองเลยไปทางกีฮยอนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างหลัง “นายไปพักก็ได้ เดี๋ยวพี่ช่วยปู่เอง”


                “- - ช่วยอะไรเหรอ ช่วยเพิ่มปัญหาหรือเปล่า”


                “กีฮยอน”


                “อะไรอีกล่ะตา ก็ผมพูดความจริง เลิกเข้าข้างจนไม่ลืมหูลืมตาบ้างเถอะ ก่อนหน้าที่เขาจะมาชีวิตเราสองคนก็สงบสุขดี แล้วพอเขามาดูซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”


                “...”


                “พวกมันมาเก็บค่าคุ้มครองบ้าบออะไรนั่นกับตาอีกแล้ว”


                “ปู่เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”ผมถามอย่างร้อนใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ตอนที่กีฮยอนเอาข้าวไปให้ เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผม


                “ไม่เป็นอะไรหรอก อย่าไปสนใจที่กีฮยอนมันพูดเลยฮยองวอน ไอ้พวกนั้นมันก็มาเก็บค่าคุ้มครองทุกวันอยู่แล้ว เจ้ากีฮยอนน่ะมันเวอร์”


                “เห๊อะ”


                “อีกอย่าง ปู่ก็ไม่เป็นอะไรหรอก พวกมันไม่ได้ทำอะไร มีพ่อหนุ่มคนหนึ่งมาช่วยปู่ไว้ได้ทันน่ะ”


                “ช่วยเหรอครับ”


                “ใช่ เจ้ากีฮยอนบอกว่าน่าจะมาจากชองแรนะ”


                ผมเงียบ ที่ชองแรมีทั้งเด็กดีและไม่ดีปะปนกันไป พวกที่ตั้งใจเรียนก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนดี และพวกที่เกเรก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไม่ดีเช่นกัน และคนที่กล้าต่อกรกับพวกที่มาเรียกเก็บค่าคุ้มครองได้ ก็คงเป็นพวกที่ไม่กลัวใครแน่


                “หมอนั่นมาเดินตามเค้าแล้วก็ถามด้วย ว่าฮยองวอนน่ะ ใช่แชฮยองวอนหรือเปล่า คงรู้จักพี่นั่นแหละมั้ง”กีฮยอนพูดกับผมแล้วหันไปยกเก้าอี้ต่อ “โรงเรียนอันธพาลชัดๆ หน้าตาก็กวนๆ ท่าทางก็น่ากลัว  มาช่วยน่ะไม่รู้หวังผลอะไรด้วยหรือเปล่าเถอะ”


                ผมปล่อยให้กีฮยอนบ่นต่อไป แล้วก้มลงเก็บโต๊ะ ในหัวก็ครุ่นคิดไปด้วย ผู้ชายที่มีลักษณะกวนๆและน่ากลัวไปในตัวน่ะ ผมนึกออกอยู่ไม่กี่คนหรอก แต่ถ้าพูดถึงคนที่มีลักษณะแบบนี้ แล้วกล้าที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน ผมนึกออกอยู่แค่คนเดียว


                วอนโฮ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ผมมาโรงเรียนในเช้าอีกวันหลังจากที่นั่งรถไปส่งกีฮยอนถึงโรงเรียนเขาแล้ว จะเรียกว่านั่งรถไปส่งก็ไม่ถูกนัก ต้องบอกว่านั่งตามไปห่างๆต่างหาก กีฮยอนเกลียดผมจะตาย เขาไม่ชอบหรอกที่ผมอยู่ใกล้ๆ ผมก็อยากจะไปให้พ้นๆหน้าเขาเหมือนกัน


                แต่ผมทำไม่ได้


                เมื่อคำพูดของวอนโฮทำให้ผมคิดทั้งคืน ว่าผมไม่ควรจะหนี ตอนนี้พวกนั้นรู้แล้วว่าผมอยู่ที่นี่ ถ้าหากผมหนีไปอีก คนที่จะเดือดร้อนก็คงไม่พ้นเป็นปู่กับกีฮยอน ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่รู้ก็เถอะ ว่าผมจะแก้ปัญหานี้ยังไง ก็ได้แต่หวังว่าคงมีสักทาง ให้ผมออกไปจากเรื่องบ้าๆพวกนี้ได้สักที


                “ฮยองวอนนนนนนนนนนนน”


                ผมหันไปมองตามเสียงใสๆที่เรียก ยิ้มบางๆด้วยความแปลกใจเล็กน้อยกับสีผมสว่างที่ดูแปลกตาของโฮซอก ก่อนหน้านี้ผมของเขามันเป็นสีน้ำตาลเข้มๆ แต่ตอนนี้เป็นสีบลอนท์ ซึ่งก็ต้องยอมรับล่ะนะว่ามันทำให้เขาดูน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก


                “มองแบบนี้ฉันดูแปลกๆไปใช่ไหมอ่ะ ไม่มั่นใจเลย”โฮซอกเอ่ยถามทันทีที่เดินมาอยู่ตรงหน้าผม


                “ไม่หรอก ฉันมองแค่คิดว่ามันเข้ากับนายดีน่ะ”ผมตอบ แล้วมองเลยไปข้างหลังร่างเล็กนี้ “หวัดดีฮยอนอู”


                “หวัดดี”ฮยอนอูตอบผมแค่นั้น ผมเลยมองไปข้างหลังของฮยอนอูอีกที


                “หวัดดีวอนฮะ..”


                “ฉันไปก่อนนะ”


                “...”


                “อะไรของเขาน่ะ เสียมารยาทจัง”โฮซอกบ่น


                ฮยอนอูเลยหันมายีผมของโฮซอกเบาๆ “งั้นฉันไปก่อนนะโฮซอก ตั้งใจเรียนนะ พักกลางวันจะไปรับที่ห้อง”


                “อื้อ”


                ผมยิ้มให้ฮยอนอูที่เดินตามวอนโฮไป เมื่อกี้เขาไม่สนใจที่ผมทักเขาแต่เมินแล้วทำเหมือนว่าผมไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนี้เสียด้วยซ้ำ เขาคงโกรธหรือไม่ก็เกลียดที่ผมบอกกับเขาว่าไม่ต้องเข้ามายุ่งกับเรื่องของผมน่ะ


                ..นี่ผมสำคัญตัวเองผิดเกินไปหรือเปล่านะ


                “ขอโทษแทนวอนโฮด้วยนะฮยองวอน”


                “ไม่เป็นไรหรอก”ผมหันไปพูดกับโฮซอก ก่อนที่เราสองคนจะเดินขึ้นห้องเรียนพร้อมกัน


                ถ้าถามว่าอะไรทำให้ผมสนิทกับโฮซอกได้ อาจเป็นเพราะว่าตอนก่อนจะเปิดเทอม ทางโรงเรียนให้นักเรียนใหม่มารวมตัวกันก่อนเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับโรงเรียน เราเลยเจอกันทุกวัน และเพราะมีแต่เด็กใหม่ โฮซอกที่รู้จักกับผมอยู่แค่คนเดียวก็เลยคุยแค่กับผม จนเริ่มสนิทกันมา


                ผมรู้นะ ว่าช่วงที่ผ่านมาผมทำตัวไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ ชอบโผล่ไปตอนที่โฮซอกกำลังมีเรื่อง นั่นก็เพราะว่าผมคอยตามเขาอยู่ตลอดยังไงล่ะ ตอนแรกผมก็ไม่รู้เหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละว่าโฮซอกเป็นฝาแฝดของวอนโฮ ผมเข้าใจว่าเขาเป็นวอนโฮคนที่ผมตั้งใจจะมาหา แต่พอเห็นว่าเขาไม่เหมือนกับที่ผมได้ยินมา ผมก็เลยไปตามสืบมาใหม่ ถึงได้รู้ว่าที่จริงแล้วเขาคือโฮซอก


                มันก็ประมาณนั้นแหละ


                “สงสัยเมื่อคืนเจ้านั่นจะไม่ได้นอนอ่ะ”


                “หือ..”


                โฮซอกยิ้มแล้วส่งกระดาษเอสี่ที่กะจากสายตาประมาณสิบแผ่นมาให้ผม “เนี่ย ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน วอนโฮนั่งเสิร์ชข้อมูลให้จนเสร็จหมดเลย แถมยังทำในส่วนที่เป็นของนายมาด้วยนะ”


                “...”


                “เห็นบอกว่าเมื่อวานนี้นายมีเรื่อง พอได้มาเห็นแผลนายแล้วฉันก็ไม่แปลกใจแล้วแหละ เจ็บมากไหมเนี่ย”


                “..ไม่หรอกโฮซอก”ผมตอบเสียงแผ่ว


                หัวใจของผมเต้นรัวด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ได้ยินว่าวอนโฮทำงานเผื่อส่วนของผมด้วยจนตัวเขาไม่ได้นอน เพราะเขาเห็นว่าผมมีเรื่อง


                มันก็จริง เพราะเมื่อคืนผมรู้สึกระบมไปทั้งตัวจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร เรื่องงานไม่ต้องสงสัยเลย หลังจากช่วยปู่ผมก็กลับมาตั้งท่าเตรียมทำงานนั่นแหละ แต่สู้ความเจ็บปวดไม่ไหวเลยกินยาแล้วนอน กะว่าจะรีบมาทำวันนี้เพื่อให้ทันส่งอาจารย์


                วอนโฮน่ะ ถึงจะท่าทางน่ากลัวแบบที่กีฮยอนบอก


                แต่เขาใจดีมากเลยนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เลิกเรียน วันนี้โฮซอกกับผมจะต้องไปซื้อของเพื่อทำงานกัน เราไปกันแค่สองคนเพราะฮยอนอูเขาติดธุระกับที่บ้าน แต่เห็นบอกกับโฮซอกว่าจะมารับนั่นแหละ แบบนั้นก็ดีแล้ว ไม่งั้นผมต้องไปส่งโฮซอก คนที่บ้านเขาอาจจะไม่อยากเจอผมสักเท่าไหร่หรอกมั้ง


                “ครบแล้วใช่ไหม”


                “อื้ม”ผมพยักหน้าให้โฮซอกก่อนจะแบ่งของจากมือเขามาช่วยถือบ้าง


                แปลกนะ ทั้งที่เป็นฝาแฝดกัน แต่ขนาดตัวของพวกเขาต่างกันมากเลย วอนโฮจะสูงกว่าโฮซอกนิดหน่อย แต่ตัวจะหนากว่ามากๆๆๆ โฮซอกน่ะจะติดตัวเล็กๆ บางๆ ดูน่ารัก น่าปกป้องซะมากกว่า


                “เมื่อวานนี้วอนโฮไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใส่นายใช่ไหม”


                “ไม่มีนี่”


                “งั้นก็ดีแล้วล่ะ เราไม่ค่อยสบายใจเลย นัดกันไว้แต่เราก็ดันไม่ได้ไป ขอโทษนะที่ต้องให้วอนโฮไปแทน ฮยองวอนต้องลำบากแน่ๆเลย”


                “ลำบากอะไรกัน”ผมพูดยิ้มๆ ยกมือขึ้นลูบหัวโฮซอกเบาๆ “งานทั้งหมดที่เสร็จทันส่งอาจารย์ก็ฝีมือวอนโฮเขาทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ”


                “ก็จริง นี่เราแปลกใจมากเลยรู้ปะ คนอย่างวอนโฮอ่ะนะ จะขยัน แถมยังขยันทำงานที่ไม่ใช่ของตัวเองอีก เหลือเชื่อมากกกกกกกกกกกก”


                ผมไม่ได้พูดอะไร ต้องบอกว่าไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปดีกว่า ตอนที่เรากำลังเดินไปยังจุดที่โฮซอกนัดเจอกับฮยอนอู เราพูดคุยกันไปเรื่อยๆ เนื่องจากว่าของที่เราจะต้องซื้อมันค่อนข้างเยอะ ก็เลยใช้เวลาค่อนข้างนาน ก่อนจะไปจุดนัดพบ ก็เลยแวะไปร้านส่งอุปกรณ์ แล้วจัดการให้อุปกรณ์ที่เราซื้อวันนี้จัดส่งไปที่โรงเรียนแทน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องถือไปให้ลำบาก


                “แล้วนี่ฮยองวอนกลับยังไงเหรอ ให้ฮยอนอูแวะส่งไหม”


                “ไม่เป็นไร บ้านเราอยู่แถวนี้ เดี๋ยวเรากลับเองก็ได้”


                “อ่า เอางั้นเหรอ”


                “อืม เดี๋ยวรอเป็นเพื่อนโฮซอกก่อนก็ได้”


                “ขอบใจนะ”


                ผมยิ้มแทนคำตอบ ก็บอกแล้วว่าโฮซอกน่ะตัวเล็กน่าปกป้อง จะให้ผมทิ้งเขาให้ยืนอยู่ตรงนี้คนเดียวมันก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย.. แต่เหมือนผมจะคิดผิด ผมไม่ควรมายืนอยู่กับโฮซอกเลย


                “ฮยองวอน.. พะ พวกนี้คือใครเหรอ”


                ผมดึงโฮซอกให้ไปยืนอยู่ข้างหลังผม คนตัวเล็กสั่นไปทันทีที่มีคนเข้ามาล้อมรอบเราเอาไว้ ผมเม้มปากแน่น จ้องคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว


                “โลกนี่มันแคบจริงๆเลยนะ ขนาดว่าฉันไม่ได้ตั้งใจมาเจอ แต่ก็ยังเจอ”


                “...”


                “นั่นไอ้ปากเก่งคนเมื่อวานนี่ ไง ทำไมวันนี้หงอไม่ปากเก่งเหมือนเมื่อวานแล้ววะ”


                “เขาไม่เกี่ยว อย่ามายุ่ง”ผมพูดเสียงเรียบแล้วปัดมือหนาให้พ้นก่อนจะถึงตัวโฮซอก


                “หึ! มันก็ไม่มีใครหน้าไหนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่”


                “...”


                “แต่นายก็ชอบดึงเข้ามาเกี่ยวอยู่เรื่อย.. จริงไหม แชฮยองวอน”


                “มินโฮ ผมขอร้อง เขาไม่ใช่คนที่คุณจะทำอะไรก็ได้นะ”ผมพูดย้ำอีกครั้ง หันไปมองโฮซอกแล้วพูดกับเขาเบาๆ “นายไปก่อนนะโฮซอก”


                “แต่ว่า..”


                “นี่เป็นปัญหาของเรา เดี๋ยวเราจัดการเอง รีบไปหาฮยอนอูเถอะ”


                โฮซอกพยักหน้าแล้วเดินเลี่ยงออกไปจากวงล้อมนี้ ก็ยังดีที่ไม่มีใครตามเขาไป มีแต่จะกระชับวงล้อมให้เข้ามาแคบมากขึ้น ก่อนที่มือที่หนากว่าจะกระชากแขนผมซะแทบปลิวไปติดกับร่างของเขา


                “นายมันอวดเก่ง คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนถึงได้กล้าทำแบบนั้น”


                “ปล่อยผม”ผมพูด บิดแขนตัวเองออกมา แต่เพราะคนตรงหน้ามีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าผม เขาฝึกฝนและออกกำลังกายมาอย่างหนัก แรงที่มีถึงได้เยอะกว่าผม คนๆนี้ทั้งฉลาดในเรื่องวางแผน และเก่งในเรื่องการต่อสู้ จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นถึงหัวหน้าของคนมากมาย พูดกันง่ายๆก็คือเขานี่แหละ หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ผมหนีมา เขาอายุมากกว่าผม 9 ปี ถึงจะอายุยังน้อย แต่เขาก็ปกครองคนมามาย    


                โจมินโฮ คือคนที่ผมไม่เคยสู้ได้เลยสักครั้ง


                เป็นอีกครั้งที่ผมถูกลากมาทำร้ายอย่างไร้ทางสู้ มันก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ ต่อให้ผมจะหนีไปไกลสักแค่ไหน ด้วยอิทธิพลของเขา สามารถตามหาผมได้ง่ายๆ ความจริงเขาสามารถเจอผมได้ภายในหนึ่งวันเลยด้วยซ้ำ แต่คงมีเหตุผลอะไรบางอย่างถึงได้ปล่อยให้ผมใช้ชีวิตอิสระมาเป็นเดือนๆแบบนี้


                “แฮ่ก..”


                ผมหอบอย่างเหนื่อย เพราะถึงแม้จะถูกรุมแต่ผมก็สู้สุดชีวิตของผม แม้ว่าตอนนี้ร่างผมจะค่อนข้างสะบักสะบอมจนแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่แล้วก็ตาม


                “..เลิกพยศแล้วกลับไปด้วยกันดีๆไม่ดีกว่าเหรอฮยองวอน”


                “ผม..ไม่มีทางกลับ”ผมพูดปนหอบ ยกยิ้มมุมปาก “ถ้าอยากให้กลับนัก.. ฆะ ฆ่าผมสิ แล้วก็เอาไปแต่ร่าง”


                “นายก็รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไม่ได้”มินโฮพูดก่อนที่มือหนาจะลูบที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบาคล้ายกับว่ากำลังจะปลอบโยน เขาก็เป็นแบบนี้แหละ ตบหัวแล้วลูบหลังมาเสมอ “ฉันฆ่านายไม่ได้ ถ้าทำได้ ฉันทำไปนานแล้ว”


                “...”


                “กลับไปกับฉัน เลิกดื้อ แล้วกลับไปเป็นแบบเดิม”


                “..ไม่”ผมยังคงยืนยันคำเดิมก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อถูกบีบที่คางอย่างแรง “โอ๊ย”


                “นายทำไมถึงได้ชอบดื้อแบบนี้นะ”


                ผมกัดฟันแน่นก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบมินโฮที่โน้มลงมาทำให้ปลายจมูกของเขาเฉียดที่แก้มของผมไปเท่านั้น ผมจ้องมองแววตาคมคู่นี้กลับ จากความแข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นการอ้อนวอน


                “ปล่อยผมไปเถอะนะมินโฮ”


                “...”


                “ผมไม่อยากกลับไปเจออะไรแบบเดิมๆ ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ เห็นแก่มิตรภาพของเรา คุณให้ผมไม่ได้เลยเหรอ”


                “หึ! ฉันไม่เคยให้คำว่ามิตรภาพกับนาย”


                “...”


                “ไม่เคยเลย”เขาพูดแล้วผลักผมไปชิดกับกำแพง ก่อนจะถอนหายใจ “อยากหนีก็หนีไป ฉันจะตามเกมนายไปเรื่อยๆก็ได้ แต่ถ้าฉันเบื่อเมื่อไหร่.. ไม่ว่าจะต้องทำอะไร ฉันก็จะเอานายกลับไปกับฉันให้ได้”


                ผมเม้มปากแน่น พยายามตะเบี่ยงตัวหลบแล้วแต่เพราะหมดแรงจะขัดขืนก็เลยปล่อยให้เขาก้มลงมาแล้วฝังจมูกลงบนแก้มของผมแรงๆ แล้วเขาก็เดินจากไป พร้อมกับคนอื่นๆ ส่วนผมนั่งกองอยู่กับพื้น ปล่อยให้น้ำตามันไหลลงมาอย่างไม่อาจห้ามได้


                ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะตั้งใจว่าจะหนี และหวังว่าจะมีใครสักคนช่วยผมได้ และที่ผมเลือกวอนโฮ ก็เพราะว่าผมสืบรู้มาว่าเขาก็กำลังตามสืบเรื่องเกี่ยวกับแก๊งมาเฟียแก๊งนี้ ถึงเขาจะเป็นแค่เด็กมอปลาย ผมมาเพราะคิดว่าเขาจะมีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดมินโฮแล้วกำจัดแก๊งนี้ไปได้ หลังจากนั้นผมก็จะเป็นอิสระ


                แต่เมื่อได้มาเจอกันจริงๆ ถึงได้รู้ว่าเขาน่าจะเลิกสนใจเรื่องพวกนี้ไปแล้ว ดังนั้นผมถึงไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะผมอีก


                “ก็นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องรักๆใคร่ๆ”


                ผมหันไปมองตามเสียงที่คุ้นหูนี้ ร่างที่เดินผ่านความมืดตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม เขาแค่ปรายตามองผมเท่านั้น “ที่มึงพูดก็ถูก กูไม่ควรเข้าไปยุ่งจริงๆนั่นแหละ”


                “วอน..โฮ”


                “แฟนมาตามก็กลับไปดีๆเหอะ อย่ามาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเลย ทั้งน้องชายมึง ทั้งคุณลุงคนนั้นน่ะ อย่าให้เขาต้องเดือดร้อน เพราะตัวปัญหาเลย”


                ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขามาตอนไหน ได้เห็นและได้ยินอะไรไปบ้าง เขาถึงได้เข้าใจผิดหนักมากขนาดนี้ ผมอยากจะแก้ตัวออกไปเหมือนกัน แต่แค่จะลืมตาตอนนี้ผมยังแทบไม่มีแรงเลย


                “วอนโฮ..”


                ผมเปล่งเสียงออกไปได้แค่นี้ หลังจากนั้นโลกของผมก็ตกอยู่ในความมืด ผมรู้ ผมมันตัวปัญหา


                ไม่มีใครอยากจะอยู่กับตัวปัญหาแบบผมหรอก


                ...


                ไม่มี..
































    โจ มินโฮ



    อย่างที่เคยบอกไปแล้วนะเออ ว่าพาร์ทนี้จะได้ทุกรสชาติกันเลยทีเดียว

    มีทั้งฟิน ทั้งอิน ทั้งขำ ทั้งเศร้า โอ๊ย ครบจริงๆ แชฮยองวอนผู้น่าสงสาร

    ผมมันยังเผยออกมาไม่หมดเน๊อะ เพราะนี่มันเพิ่งตอนที่ 4 ของพาร์ทเอง ยังเหลืออีกตั้ง 11 ตอน

    กว่าพาร์ทนี้จะจบ คนที่ร่วมเล่นกิจกรรมกับไรท์ รอหน่อยนะ ไรท์กะว่าจะจัดส่งไปพร้อมตอนจัดส่งฟิคเลยทีเดียว

    อาจจะนานหน่อย แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังค่าาาาาา


    เปิดให้โอนเงินค่าฟิคแล้วนะคะ 7 คนแรกที่โอนมาจะได้รับของแถมพิเศษกว่าคนอื่นนะ

    ส่วนใครที่ยังไม่ได้สั่ง ห้ามพลาดจริงๆนะ ในเว็บเข้มข้นแค่ไหน ในเล่มเข้มข้นกว่าแน่นอน

    กดสั่ง คลิ๊ก ได้เลยค่าาาา รักๆนะคะ


    #วอนโฮซอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×