ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS HYUNGWON & MONSTA_X

    ลำดับตอนที่ #3 : HYUNGWON x MINHYUK : TODAY 3 [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 926
      7
      27 ม.ค. 59

    CR.SHL
     

    ภาพลิงค์ที่แปะไว้


    TODAY 3



                หลังซื้อของเสร็จแล้วฮยองวอนก็ตรงกลับหอของตัวเอง ตอนแรกก็นึกว่ามินฮยอกมันจะกลับบ้าน แต่ที่ไหนได้ ดันติดสอยห้อยตามขอมาค้างที่หอด้วยอีก เพราะขี้เกียจจะห้าม จะบ่นแล้วไง


                เอาที่มันสบายใจเลยละกัน


                “มีไรให้ช่วยไหม”


                “...”


                “ไอ้แช มีไรให้กูช่วยไหม เห็นมึงทำคนเดียว เหนื่อยแย่เลย”


                “...”


                “ให้กูช่วยไหม”


                ฮยองวอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ กระแทกปืนกาวที่ถือลงกับโต๊ะแล้วกลอกตาไปมา “ช่วยไปไกลๆแล้วเลิกพูดมากสักทีได้ไหม กูเสียสมาธิเพราะมึงเนี่ย”


                “โห่ ไล่กูอีกละ”มินฮยอกย่นจมูก สุดท้ายก็ต้องถอยไปนั่งดูทีวีบนโซฟาต่อไป สายตาก็คอยเหล่มองเจ้าของห้องที่กำลังใจทำงานอย่างตั้งใจแล้วสุดท้ายตัวเองก็เผลอยิ้มออกมา


                เวลามันกำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่างนี่มันน่ารักจัง ไหนจะแว่นตาที่ปกติไม่ค่อยจะใส่แม้ว่าสายตาจะสั้นมากนั่นด้วย โอ๊ย หัวใจกูเต้นบีบอยได้อีกแล้วครับเพื่อน


                รู้จักกันมาก็ตั้งนาน ตอนนี้ก็สงสัยกับตัวเองอยู่ทุกที ว่าทำไมถึงไม่เคยใจเต้นแรงให้มันเลยสักครั้ง หรืออาจจะเคยแต่ไม่รู้ตัว รู้แค่ว่าวันนี้ ตอนนี้ หัวใจของลีมินฮยอกมีแต่แชฮยองวอนคนเดียวเท่านั้น ถึงจะเพิ่งอกหักมาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็เถอะ แต่ช่วงเวลานั้นมันถูกเยียวยาอย่างรวดเร็วด้วยยาใจที่ชื่อฮยองวอนเลยนะ


                แหวะ


              เน่าได้อีก


                แต่มันก็จริงแหละเน๊อะ


                “ไอ้มิน”


                “หือ”


                “มาช่วยกูหน่อยดิ”


                “โอ๊ย ด้วยความยินดียิ่งเลยครับผม”


                พูดจบร่างบางก็ถลาเข้าไปนั่งข้างร่างสูงที่กำลังจับสายไฟเอาไว้แน่น “ให้ช่วยไร บอกมา”


                “จับนี่ไว้หน่อย อย่าให้หลุดนะ”


                “เคๆ”


                ฮยองวอนเรียนวิศวะกรไฟฟ้า งานที่กำลังทำก็คือต่อแผงไฟฟ้าให้ติดทั้งหมด มันดูเหมือนง่าย แต่พอลองทำแล้วยากโคตรๆ ตอนแรกก็กะจะให้กีฮยอนมาช่วยหรอก แต่มินฮยอกกลับเสนอหน้ามานี่ไง เดี๋ยวกีฮยอนจะรำคาญไอ้พูดมากนี่ ก็เลยต้องมานั่งทำคนเดียว


                อยากจะช่วยนักหนา ก็สนองให้สักหน่อย เด็กนิเทศแบบมันคงทำอะไรให้ไม่ได้นอกจากจับสายไฟไว้นี่แหละ


                “เฮ้ยๆๆ มันจะช็อตกูปะเนี่ย”มินฮยอกเริ่มไม่ไว้ใจเมื่อเห็นประกายไฟจากสายที่ตัวเองจับอยู่


                “ถ้าช็อตมึงก็ช็อตกูเหมือนกัน มึงจะกลัวอะไรวะ”


                มินฮยอกค่อยๆคลี่ยิ้ม นี่มึงให้คำสัญญาใช่ปะ ว่าจะไม่ให้ไฟช็อตกู คงเป็นห่วงกูมากสินะไอ้แช


                “กูไม่มีทางให้ไฟช็อตตัวเองหรอก ยังไม่อยากตาย”


                ไอ้เชี่ย เอาความซึ้งใจเมื่อกี้คืนมาเลย แม่งเอ๊ย


                มินฮยอกนั่งช่วยฮยองวอนอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าหมดประโยชน์แล้ว ก็ถูกฮยองวอนไล่กลับมานั่งดูทีวีต่อ เลยต้องมานั่งปากคว่ำด้วยความน้อยใจอยู่นี่ไง


                “หิวไหมมึง”


                ยังดีที่อุตส่าห์ถาม “อือ หิวแล้ว”


                “ทำเองแล้วกัน ในครัวมีทั้งไข่ ทั้งรามยอน เลือกเอาที่มึงชอบเลย”


                มินฮยอกแอบแยกเขี้ยวใส่ฮยองวอนที่ไม่ได้หันมามอง ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างเสียไม่ได้ “แล้วมึงอ่ะ เอาไรปะ”


                “ไม่เป็นไร กูยังไม่ค่อยหิว”


                มินฮยอกยักไหล่แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบซองรามยอนมาฉีกแล้วต้มน้ำ ปรุงรสที่ตัวเองชอบ ก่อนจะถือถ้วยมานั่งหน้าทีวีอีกครั้ง โดยไม่ลืมที่จะหยิบโค้กกระป๋องที่เจ้าของห้องมันอัดไว้เต็มตู้เย็นออกมาด้วย


                “อ่ะ..”


                “แต้งกิ้ว”ฮยองวอนรับโค้กมา แต่มินฮยอกกลับดึงกลับ “อะไรของมึง”


                “แป็บๆ”หนุ่ม(อยาก)เมะพูดแล้วเปิดโค้กก่อนจะส่งให้ “อ่ะ”


                “- -


                “อะไร อย่ามามองอย่างนั้น กูแค่อยากดูแลมึงโว้ยยยยยยยยยยยยยย”


                “เฮ้อ..”


                ฮยองวอนถอนหายใจ กระดกโค้กกระป๋องแล้วทำงานต่อ ส่วนมินฮยอกก็นั่งกินรามยอนไปดูหนังไป ก็ดีแล้วที่มันไม่ได้พูดมากอะไร ไม่งั้นงานคงไม่เสร็จสักทีน่ะนะ


                ใช้เวลาอีกร่วมชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว มินฮยอกเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนของฮยองวอน เอียงคอมองหนุ่มแว่นที่ยังตั้งใจทำงานอยู่ ก็เลยเดินไปนั่งข้างๆ


                “เสร็จยัง”


                “ใกล้แล้ว เหลือต่อตรงนี้”ฮยองวอนพูดเสียงเครียด


                ลองต่อมันหลายรอบแล้วไฟก็ไม่ติดหมดสักที ครั้งนี้ขอให้สำเร็จทีเถอะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย อยากนอนโว้ย


                ท่าทางลุ้นๆของฮยองวอนทำให้มินฮยอกที่นั่งอยู่ข้างๆลุ้นตามไปด้วย เมื่อมือหนาเสียบปล๊ก ไฟทั้งแผงก็สว่างพร้อมกัน คุ้มค่าเหนื่อยทั้งหมดของฮยองวอน


                ฮยองวอนกำมือแน่นก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความดีใจ หันไปยิ้มให้มินฮยอก ที่มองรอยยิ้มของอีกฝ่ายแล้วนิ่งไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังยิ้มกว้างด้วยแท้ๆ


                ฮยองวอนมีรอยยิ้มที่สดใสน่ารักเหมือนเด็ก ยิ่งเวลาที่มันดีใจ ดวงตามันจะเป็นประกาย หรือเวลาที่มันเขิน รอยยิ้มของมันก็ยังทำให้คนที่มองใจเต้นแรงได้ ตอนนี้ก็เช่นกัน


                ริมฝีปากอิ่มที่กำลังยิ้มกว้าง กำลังดึงดูดมินฮยอกเป็นอย่างมาก โดยที่ไม่รู้ตัว มินฮยอกโผเข้าไปประทับริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอิ่มจนแนบสนิทไม่เหลือช่องว่างใดๆ


                ฮยองวอนที่ไม่ทันตั้งตัวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แผ่นหลังถูกดันไปพิงกับโซฟา ก่อนที่จะถูกลิ้นร้อนเข้ามาช่วงชิม และแลกเปลี่ยนความรู้สึกอย่างเร่าร้อน


                มินฮยอกคร่อมอยู่บนขาที่เหยียดยาวของฮยองวอน กดจูบลงไปย้ำๆบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ตอกย้ำให้รู้ว่าตอนนี้มินฮยอกต้องการฮยองวอนมากแค่ไหน


                มือเล็กสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดที่ฮยองวอนมักจะชอบใส่อยู่เสมอ ก่อนที่มืออีกข้างจะยกขึ้นแล้วปลดกระดุมเสื้อนั้นออกทีละเม็ด


                ดวงตาเรียวกำลังสั่นระริก แต่ก็ไม่ได้ละริมฝีปากออกแม้แต่น้อย มินฮยอกแค่กำลังตื่นเต้น เพราะเขาทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน มินฮยอกไม่เคยเป็นฝ่ายรุกใครหนักขนาดนี้ ฮยองวอนเป็นคนแรกและคงเป็นคนเดียว


                ริมฝีปากที่ทาบทับอยู่ค่อยๆผละออกก่อนจะย้ายตำแหน่งลงที่ต้นคอ กดจูบลงไปแผ่วเบา ก่อนที่สุดท้ายแล้ว..


                “พอเถอะ”


                ...


                เสียงของฮยองวอนหยุดทุกๆการกระทำของมินฮยอก ใบหน้าหวานละออกมามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ


                ฮยองวอนดูจริงจังกว่าครั้งไหนๆ และสายตาที่มองมินฮยอกกำลังบอกเป็นนัยๆว่าไม่ชอบในสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้จริงๆ


                “เลิกทำอะไรแบบนี้สักทีเถอะมินฮยอก มึงเลิกพยายามได้แล้ว”


                “...”


                “..กูว่ามันไม่เวิร์คว่ะ”


                เหมือนมีมีดที่มองไม่เห็นพุ่งปักกลางใจนับสิบเล่ม มินฮยอกน้ำตาคลอมองคนตรงหน้าที่เบนสายตามองไปทางอื่น ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน หันไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้ววิ่งออกไปจากห้องโดยไร้ซึ่งคำกล่าวลา


                ฮยองวอนกำมือแน่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่


                มินฮยอกไม่ควรทำอย่างนี้เลยจริงๆ


     

     

     






















     

     



     

     

     

     

     

     

     

                ผ่านไปสามวัน สี่วัน จนหนึ่งอาทิตย์ ที่มินฮยอกคนร่าเริงและพูดไม่หยุดกลายร่างเป็นอีกคนซึ่งตรงข้ามสุดขั้ว เพราะหนุ่มผมบลอนด์ที่มักจะร่าเริงเสมอ กลับนั่งซึมไม่พูดไม่จากับใครเลย เหมือนว่ามีแต่ร่าง แต่ไม่มีวิญญาณมาเรียนด้วย ทำเอาเพื่อนร่วมคณะอย่างจูฮอนต้องมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง


                “เมื่อไหร่จะเลิกเป็นแบบนี้วะมึง กูไม่สบายใจเลย”


                “...”


                “ไอ้มินฮยอก ขอร้องล่ะ มึงตอบกูหน่อย ใครทำอะไรมึงเนี่ย ไอ้ฮยองวอนเหรอ”


                “...”


                “เฮ้ย กูพูดกับมึงอยู่นะ หูตึงแล้วเหรอ มินฮยอกโว้ยยยยยยยยยยยยยยย”


                “- - จะเสียงดังทำไมวะ”มินฮยอกพูด เหล่มองจูฮอนด้วยความรำคาญ “กูไม่ได้เป็นอะไร”


                “คิดว่ากูเชื่อไหม”


                “..ก็แล้วแต่”


                มินฮยอกพูด ไม่สนใจจูฮอนที่นั่งทำหน้าหมาหงอยอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหวานฟุบลงกับต้นแขนของตัวเองแล้วถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า


                หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอฮยองวอนเลย ..ไม่ได้พูด ไม่เจอหน้า เหมือนว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทุกครั้งที่เจอฮยองวอน มินฮยอกก็หลบแล้วหนีไป หรือแม้แต่ตอนที่ฮยองวอนไปหาที่บ้าน ก็ให้แม่ไปบอกว่าไม่อยู่


                เขายังไม่พร้อม


                ให้ตายยังไงตอนนี้ก็ยังไม่พร้อม


                ...


                จะมาเจอมารู้จักกันอีกทำไม ในเมื่อมันเกลียดเขาซะขนาดนั้น


                “กูกลับก่อนนะ”


                “อ้าวเฮ้ย ไปดื้อๆงี้เลยเหรอ”จูฮอนตะโกนตามเสียงหลง แต่ก็ไม่ทันมินฮยอกที่เดินเร็วๆออกไปแล้ว เมื่อมองเลยไปข้างหลัง ก็รู้สาเหตที่มินฮยอกต้องรีบออกไปแบบนั้น


                “จูฮอน”


                “ไงฮยองวอน”


                เขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เพื่อนรักสองคนนี้มันทะเลาะอะไรกัน แต่มินฮยอกเอาแต่หลบหน้าฮยองวอน อีหรอบนี้คงมีเรื่องทะเลาะกันมาแหงๆ


                “ไอ้มินล่ะ”


                “มันกลับบ้านแล้ว”


                “งั้นเหรอ”ฮยองวอนพึมพำเบาๆ ก่อนจะพูดกับจูฮอน “กูกลับก่อนนะ”


                “อ้าว -o-


                แล้วฮยองวอนก็เดินเร็วๆออกไปเหมือนมินฮยอก แม้แต่คำพูดมันยังพูดเหมือนกันเด๊ะเลย นี่พวกมันเป็นอะไรกันวะครับ


                จูฮอนงงนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     














     

                มินฮยอกยกแก้วที่เพิ่งถูกผสมขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้วอีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าภายในสามอาทิตย์จะต้องกลับมานั่งที่นี่อีก แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน คือเขามาคนเดียว


                เวลาเศร้ามันก็ต้องแดกเหล้าเพื่อให้หายช้ำใจนี่แหละ ถึงแม่งจะไม่ช่วยอะไรเลยก็เถอะ


                เพราะมึงเลยเหล้า วันนั้นกูถึงได้ตาลายไปมองเพื่อนสวย แล้วหลงชอบตามจีบมันน่ะ


                สุดท้ายกูก็แห้วอีกแล้วไง


                เพลงนี้ แม่งก็จะบิ้วท์ไปไหน แค่นี้ก็เจ็บจะตายอยู่แล้วโว้ย


                “กูกะแล้วว่ามึงต้องอยู่นี่”


                “...”เสียงที่โคตรจะคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคนที่หลีกเลี่ยงมาตลอดอาทิตย์ มินฮยอกเม้มปากแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ถูกฮยองวอนดึงข้อมือไว้ก่อน “ปล่อยกู”


                “จะรีบกลับไปไหนล่ะ กูเพิ่งมาเองนะ”


                “...”


                “นั่งแดกเหล้าเป็นเพื่อนกูก่อนดิ”


                เพราะงั้น มินฮยอกเลยจำต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ ฮยองวอนหันไปขอแก้วจากเด็กเสิร์ฟ ก่อนจะผสมเหล้าเอง มินฮยอกเคยเหล่มอง เพราะปกติฮยองวอนดื่มแค่ครึ่งแก้ว แต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่ เพราะร่างสูงปักหลักกะว่าคืนนี้จะจัดเต็มแน่นอน


                “..เดี๋ยวมึงก็เมาหรอก”


                ฮยองวอนอมยิ้ม เหล่มองไอ้ขี้เก๊กที่ทำฟอร์มไม่สนใจเขาอยู่ตั้งนาน แต่สุดท้ายก็เป็นห่วงเขาอยู่ดี “เมาสิดี”


                “มีเรื่องไม่สบายใจหรือไง”


                “..กูอกหักว่ะ”


                มินฮยอกถึงกับต้องวางแก้วเหล้าในมือแล้วหันไปจ้องหน้าฮยองวอนด้วยความสนใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้เลยยืดตัวตรงแล้วกระแอมสองสามครั้ง “..ไม่เห็นรู้ว่ามึงเคยมีคนที่ชอบ”


                “ก็กูไม่เคยบอก มึงจะรู้ได้ไง”ฮยองวอนพูด ยิ้มบางๆแล้วดื่มแบบที่มินฮยอกดื่ม คือรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะไอเพราะสำลัก


                ปกติเขาไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว เวลามาร้านเหล้าทีไร หน้าที่หลักคือการมานั่งเฝ้ามินฮยอก พอมันเมาก็ต้องแบกมันกลับไปส่งบ้าน ก็เลยไม่เคยดื่มจนตัวเองต้องเมาสักที แต่ครั้งนี้กลับอยากเมาขึ้นมา


                “ตลกดีไหม กูอกหักจากคนเดิมเป็นครั้งที่สองแล้ว”


                “...”มินฮยอกเงียบ รู้สึกเหมือนถูกทุบหัวก็ไม่ปาน สาเหตุที่ฮยองวอนไม่รับรักเขาสักทีก็เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้วสินะ


                “กูอกหักครั้งแรกเมื่อสามปีที่แล้ว เขาพาแฟนมาเปิดตัว ตอนนั้นกูก็น่าจะตัดใจแล้วนะ เพราะดูแล้วสองคนนั้นเขาก็รักกันมากเลย แต่แม่งเจอกันอยู่แทบทุกวัน พอกูเหมือนจะตัดใจได้ มันก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขาอ่ะ”


                “โห แบบนี้มึงคงเจ็บแย่เลย”


                “ก็ไม่เท่าไหร่หรอก กูคงชินชาไปแล้ว ..ครั้งที่สองที่กูอกหักจากเขา สามอาทิตย์ก่อนเขาเลิกกับแฟนแล้วนะ”


                “อ้าว แล้วมันเรียกอกหักตรงไหนวะ”มินฮยอกรีบถามอย่างสนใจ ก่อนจะยักไหล่ “กูไม่ได้อยากรู้เล้ยยย แค่ถาม”


                “เหรออออออออออ”ฮยองวอนลากเสียงยาว เอื้อมมือไปยีผมอีกฝ่ายแล้วเล่าต่อ “เขาหันมาสนใจกูนะ แต่กูกลับรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่ ก็เลยเผลอไปทำให้เขาเสียใจ ตอนนี้คงโกรธกูมาก แล้วก็คงเกลียดกูไปแล้วมั้ง”


                มินฮยอกรับฟัง ทบทวนสิ่งที่ได้ยิน เริ่มรู้สึกหวิวๆ ใจเต้นแรงขึ้นมาซะดื้อๆ


                สามปีที่แล้ว.. เขาเคยพาพี่โฮซอกไปเปิดตัวกับฮยองวอน ไอ้เพื่อนเวรก็แค่พยักหน้าส่งๆแล้วเดินจากไป สามอาทิตย์ที่แล้วเขาเลิกกับพี่โฮซอก แล้วก็เริ่มหันไปสนใจฮยองวอน ไม่กี่วันก็ถูกมันปฏิเสธ ยอมรับว่าโคตรจะเสียใจ


                เดี๋ยวนะ..


                เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ หรือว่า


                “มึงว่ากูจะอกหักครั้งที่สามปะวะ เพราะวันนี้กูว่ากูจะสารภาพรักกับเขาอีกครั้งว่ะ จะว่าอีกครั้งก็ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมากูไม่เคยบอก”


                “มะ มึงมาถามกูได้ไง มึงก็ต้องลองดูดิวะ ลองบอกเองเลย”


                “แป็บนะ ขออีกแก้ว กูยังไม่กล้า”พูดจบฮยองวอนก็กระดกแก้วรวดเดียวอีกครั้ง “ก่อนจะบอกรัก กูมีบางอย่างอยากบอกเขาก่อนว่ะ”


                “..อะ อืม”


                มือมินฮยอกกำแน่น เล็บจิกขาจนเจ็บ แต่ก็ยอมเจ็บเพราะตอนนี้เขินมากกว่า


                “กูอยากจะบอกเขาว่า แค่ที่เขาเป็นอย่างที่ผ่านมากูก็รักเขามากอยู่แล้วเว้ย ไม่จำเป็นต้องปรับต้องเปลี่ยนอะไรเลย เขาไม่จำเป็นต้องทำเข้มแข็ง ต่อหน้ากูเขาสามารถร้องไห้ และอ่อนแอได้เลยตามสบาย ไม่ต้องพยายามทำตัวแมน เพราะมันไม่คือเลยสักนิด กูรักเขาในแบบที่เขาเป็น ยิ้มสดใส เวลามองก็ทำให้ยิ้มตาม อยู่ด้วยแล้วก็สบายใจชิบหาย กูชอบ ที่กูได้เป็นฝ่ายดูแลเขา ไม่ใช่ให้เขาต้องมาดูแลกู กูอยากเป็นคนปกป้อง และถะนุถนอมเขา”


                “...”มินฮยอกกัดริมฝีปากแน่น แต่สุดท้ายก็คลี่ยิ้ม นั่งบิดไปมาด้วยความเขิน “มะ มึงก็ไปบอกดิวะ จะได้รู้ไง ว่าจะอกหักอีกครั้งหรือเปล่า”


                “ชัดๆอีกครั้งนะ”ฮยองวอนพูด จ้องเข้าไปในดวงตาเป็นประกายของมินฮยอก คลี่ยิ้มบางๆ “ให้กูเป็นคนดูแล ปกป้อง และถะนุถนอมมึงได้หรือเปล่ามินฮยอก”


                “.//////.


                “กูไม่เคยรังเกียจมึง ไม่เคยเลยสักนิด แต่กูแค่คิดว่ามึงอยู่ผิดตำแหน่งไปหน่อย”


                “..กู..”


                “กูรักมึงนะ ..รับกูได้หรือเปล่า”


                มินฮยอกหน้าร้อนผ่าว เมื่อเจอคำสารภาพแบบสายฟ้าแลบของฮยองวอน มือไม้มันพากันพันมั่วไปไม่เป็น ที่ปฏิเสธก็เพราะไม่อยากเป็นเคะของเขาหรอกเหรอ ก็แล้วทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียเวลา มัวไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ตั้งนาน


                “ไอ้บ้า”


                “ที่ด่านี่คือตกลงไหม”


                “เออดิ มึงอย่ามาโง่ คิดว่ากูจะปฏิเสธหรือไงวะ >///< เชี่ย กูเขิน”


                มินฮยอกมองฮยองวอนที่ตอนนี้หน้าตามันโคตรจะเจ้าเล่ห์ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนแชผู้เรียบร้อยของเขาจะเป็นคนแบบนี้


                “ทะ ทำไมมองกูแบบนั้นวะ มึงจะกินกูหรือไง”


                “แล้วกินได้ไหมล่ะ”


                มินฮยอกกัดริมฝีปาก ก่อนจะหันไปเรียกเด็กเสิร์ฟมาแล้วสั่งคิดเงิน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เลื่อนขั้นให้เป็นคนรักเรียบร้อยแล้ว


                “กลับดิ”


                “อ้าว รีบกลับไปไหน”


                มินฮยอกจิ๊ปาก ก้มลงไปกระซิบ “มึงไม่อยากกินกูหรือไงไอ้แช”


                ขอจบแต่เพียงเท่านี้ เพราะเราสองคน..


                จะไปกินกันแล้วครับ J































































    ภาพลิงค์ที่แปะไว้



    จบลงไปแล้วหนึ่งเรื่อง

    สรุปมินมุงไม่สามารถมิชชั่นคอมพลีส ไม่สามารถเมะให้พี่แชได้จริงๆ

    เป็นเคะนั่นแหละดีแล้วเน๊อะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×