ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS HYUNGWON & MONSTA_X

    ลำดับตอนที่ #10 : SF WONHO x HYUNGWON : ง้อแง้ งอแง 2 [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      14
      10 ก.ค. 59


    CR.SHL

     
     

    - ง้อแง้ งอแง 2 -

     

                “อย่าเพิ่งหลับๆ ถ่ายรูปก่อน จะอัพลงคาเฟ่แล้ว”


                เสียงของมินฮยอกปลุกให้ฮยองวอนที่นอนหลับหมดสภาพอยู่ภายในห้องรับรองของสนามบินปรือตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย จัดสภาพผมและหน้าเล็กน้อยเพื่อถ่ายรูปแทนการพูดขอบคุณแฟนๆจากประเทศไทยที่วันนี้สร้างความประทับใจให้กับทั้ง 7 คนเป็นอย่างมาก


                แช๊ะ


                เสียงชัตเตอร์ดัง หลังจากนั้นก็เป็นจูฮอนที่ไปจัดการโพสรูปลง ขณะที่คนอื่นๆก็หาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลาขึ้นเครื่อง คอนเสิร์ตจบลงไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว พวกเขาก็ต้องเดินทางกลับเกาหลีทันทีเพราะเดี๋ยวต้องมีตารางงานต่อ เหนื่อยแต่คุ้มสำหรับสิ่งที่เจอมาวันนี้นะ


                “ยังไม่เคลียร์กันอีกเหรอฮยอง”


                โฮซอกที่กำลังก้มหน้าเล่นไอพอดสุดรักนามเยจีเงยหน้ามองกีฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะเหลือบมองไปทางฮยองวอนที่ตอนนี้หลับไปแล้ว


                “ไม่รู้จะเคลียร์ยังไงอ่ะ”


                “หาทางแก้เลยฮยอง บางทีฮยองก็เล่นแรงเกินไปนะ”


                “ไม่แรงแล้วฮยองวอนจะโกรธเหรอ”โฮซอกพูดแล้วยกยิ้มมุมปาก “ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปก่อนสักพักแล้วกัน กลับหอค่อยง้อ”


                “แน่ะ.. จะง้อเง้ออะไรกันก็ไปห้องอื่นเลยนะ ผมเหนื่อยนะเว้ย อยากนอน”


                “เออน่า”


                โฮซอกยิ้มบางๆ แล้วก้มหน้าเล่นเกมต่อไป ในขณะเดียวกัน คนที่คิดว่าหลับไปแล้วอย่างฮยองวอนก็ลืมตาขึ้น แอบมองแฟนของตัวเองที่จนป่านนี้ก็ยังไม่สนใจกัน ก่อนที่ดวงตากลมโตจะมีน้ำตาเอ่อคลอแล้วหยดแหมะลงบนหลังมือ


                โฮซฮกฮยองใจร้าย

     

     

     

     

     

     

     

     

                -Hoseok Part-


                เรามาถึงเกาหลีแล้วด้วยสภาพแต่ละคนที่มึนๆเบลอๆกันทั้งนั้นเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง แม้ว่าจะใช้เวลาไม่ได้นานมากอะไร แต่เมื่อคืนก็เล่นคอนเสิร์ตกันเหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้เราอยู่บนรถ เพื่อเตรียมกลับหอ วันนี้เราไม่มีตารางงาน จะมีอีกทีคือวันพรุ่งนี้ เพราะงั้นแต่ละคนเลยวางแผนจะพักผ่อนในวิธีของตัวเอง


                อย่างฮยอนอูบอกว่าจะเข้าบริษัทเพื่อซ้อมสักสองสามชั่วโมงโดยมีกีฮยอนกับมินฮยอกตามไปด้วย ส่วนจูฮอนกับชางกยุนเห็นบอกว่านอนพักผ่อนอยู่ที่หอ และอีกคน..


                ผมรู้จักแฟนผมดีนะ เหนื่อยขนาดนี้ไม่กระดิกตัวไปไหนหรอก นอกจากนอนอยู่หอ ซึ่งเข้าทางผมพอดี


                “ฮยองจะเข้าบริษัทด้วยกันใช่ปะ รีบๆเลยนะ”มินฮยอกเดินมาหาผมเมื่อเรามาถึงหอแล้ว


                “ไม่ไป”


                “อ้าว ก็ไหน..”


                “หลอกเด็กงอแงอ่ะ”


                “โธ่เอ๊ย ระวังเถ้อ เล่นแรงขนาดนี้ ฮยองวอนมันจะทนไม่ไหวมาบอกเลิก”


                “ไม่มีทาง ฮยองวอนไม่เคยโกรธ ทำให้โกรธแค่ครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอกน่า”


                “แป็บเดียวก็จริงนะ แต่บางทีมันก็เกินไปอ่ะ คนไม่เคยโกรธเลยแล้วจู่ๆโกรธมันเก็บกดนะเว้ยฮยอง แถมกว่าฮยองจะง้อได้นี่ก็ทิ้งช่วงน๊านนาน ระวังเถ้ออออ จะหาว่าผมไม่เตือน”


                “เออน่า เชื่อดิ ที่จริงจะง้อตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะเว้ย แต่ก็น่าจะเห็น ขนาดอยู่บนเวทีนะ เดินชนกัน ฮยองวอนยังไม่ยอมหันมามองเลย”


                “ก็คนมันงอนนี่”มินฮยอกบอกแล้วหยิบหมวกมาใส่ “เอาเหอะ ง้อให้สำเร็จแล้วกัน ผมไปละ ฮยอนอูฮยองกับกีฮยอนลงไปรอนานแล้ว”


                “อืมๆ”


                “แล้วจะทำอะไรกันอ่ะ เกรงใจน้องนุ่งที่นอนอยู่อีกห้องด้วยนะ”


                “หึๆ”ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ยีหัวมินฮยอกเบาๆแล้วเดินย่องเข้าไปในห้องของตัวเอง ไม่ลืมที่จะกดล็อคประตูเพื่อป้องกันคนเข้ามาก่อกวนเวลาง้อของผม


                ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ และมีเตียงสองชั้นสองหลัง ผมนอนอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนของผมคือกีฮยอน และอีกเตียง ชั้นล่างคือฮยอนอู ส่วนข้างบนน่ะ.. เจ้าของเตียงนอนหลับปุ๋ยอยู่บนนั้นไง


                แฟนผมเองแหละ


                ที่จริงแล้ววันนี้วันหยุด เราควรต้องออกไปเที่ยว หรือไปสร้างความทรงจำดีๆด้วยกันนะ แต่เพราะมันมีเรื่องแบบนี้แหละ ช่างมัน ผมสร้างความทรงจำดีๆที่หอก็ได้ ทางสะดวกซะขนาดนี้


                เอาจริงๆนี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ฮยองวอนงอนผมหนักมากขนาดนี้ คือตั้งแต่คบกัน เขาไม่เคยงอนผมเลย จะมีก็แค่บ่นๆนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่คนที่ชอบงอนและเอาแต่ใจใส่บ่อยๆก็คือผมเอง มันเป็นนิสัยที่แก้ไม่ค่อยหายของผมน่ะ ผมชอบให้คนมาตามใจ แล้วในวงคนที่เออออไปกับผมและยอมผมได้มากที่สุดก็มีอยู่สองคนคือฮยอนอูกับฮยองวอน


                กับฮยอนอูน่ะ ยอมผมแค่ไหนมันก็เป็นได้แค่เพื่อนผมนั่นแหละ


                แต่กับฮยองวอน ยอมผมทุกอย่าง ผลสุดท้ายเลยได้เป็นเมียนี่ไง


                ผมชอบน้องนะ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย คือครั้งแรกที่ได้เจอกันน้องมันก็ดูธรรมดาๆอ่ะ แต่คือแม่งทำผมใจเต้นแรงได้อยู่ตลอดเวลาที่สบตาไง พอรู้ตัวว่าชอบ หลังจากนั้นผมก็เลยจีบ รุกหนักจนในที่สุดน้องก็ตกลงคบกับผม แล้วเราก็รักกันดีเรื่อยมา


                มันไม่ควรเป็นแบบนี้หรอก ผมไม่ควรทำแบบนี้ แต่เพราะผมอยากให้น้องได้แสดงตัวตนออกมาบ้าง เพราะตลอดเวลาที่เราคบกัน ถึงน้องจะเปิดใจให้ผมมากแค่ไหนแต่เหมือนเขาก็ยังปิดกั้นผมอยู่เป็นบางเรื่อง ซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ผมอยากให้น้องแสดงตัวตนตัวเองออกมาเต็มที่


                ชอบก็บอกชอบ ดีใจกับก็แสดงออก ไม่ชอบก็บอกกันตรง หรืออยากจะโกรธ ก็โกรธผมได้เลย


                ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ยอมผมตลอดแบบที่ผ่านๆมา


                นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของแผนการของผมซึ่งเมมเบอร์ต่างรู้ดี ตอนแรกไม่มีใครเห้นด้วยกับผมหรอกนะ แต่ผมไม่สนใจไง สุดท้ายทุกคนเลยเออออไม่มีใครมาขัดขวาง


                ใช้เวลานานมากเลยนะ กว่าจะหาเรื่องให้น้องงอนผมได้ แต่จนแล้วจนรอดน้องก็ไม่งอน แถมยังยิ้มรับแม้ว่าผมจะทำตัวงี่เง่าใส่แค่ไหน จนสุดท้ายผมก็ต้องใช้ไม้ตายแบบนี้แหละ


                แกล้งทำเป็นไม่สนใจ


                แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นคือน้องงอนผมจนได้ ผมรู้นะว่าน้องแม่งโคตรนอยด์ แล้วก็เสียใจมาก ผมเห็นตลอดนั่นแหละ ไม่ว่าจะที่โรงแรมที่น้องแอบร้องไห้ หลังเวทีคอนเสิร์ตที่น้องดูไม่ค่อยมีสมาธิแล้วก็หงอยๆ หรือแม้แต่ที่ห้องรับรองในสนามบินที่ทำเหมือนหลับแต่ที่จริงกำลังแอบร้องไห้อยู่


                ผมแม่งโคตรอยากดึงเอาร่างบางๆเข้ามากอดปลอบแน่นๆ ถ้าไม่ติดว่าผมต้องดำเนินตามแผนให้ถึงที่สุดก่อน และตอนนี้ผมก็ทนไม่ไหวแล้ว ยังไงวันนี้ผมก็ต้องง้อให้ได้


                ผมค่อยแอบปีนขึ้นไปบนเตียงชั้นสอง ฮยองวอนหลับลึกมาก เห็นแบบนั้นผมก็เลยพุ่งไปแล้วเอาขาก่ายร่างบางไว้แน่น


                “อื้อ”ได้ยินเสียงครางในลำคอเหมือนคนรำคาญ ก่อนที่คนถูกกอดจะหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นผม ก็ผลักผมออกอย่างแรงจนผมกระแทกกับขอบเตียง


                “โอ๊ยๆๆๆ ฮยองเจ็บนะที่รัก”


                “ไปไกลๆตีนเลยไป”


                เอ่อ อย่าตกใจนะ.. ปกติแฟนผมเป็นคนเรียบร้อย พูดสุภาพ มารยาทงาม แต่คือตอนนี้น้องงอนอยู่ไง แถมผมยังไปกวนตอนน้องนอนอีก ผลก็เลยเป็นแบบนี้แหละ


                “ไม่ไป”ผมพูดอย่างหน้าด้านแล้วกอดเขาอีกครั้ง คราวนี้แน่นกว่าเก่า แน่นชนิดที่ว่าต่อให้ถีบก็ไม่หลุด พอเหนื่อย ขายาวๆก็หยุดถีบผมไปเอง ผมเลยซุกหน้าลงกับไหล่นุ่มนิ่มอย่างอ้อนๆ “ง่วงจัง”


                “...”


                “นอนกันนะ”


                “..ฮยองทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ”


                “...”


                “ถ้าจะไม่สนใจกัน ก็แค่ทำต่อไปดิ จู่ๆมาทำแบบนี้ทำไม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อ? เห็นผมไม่มีหัวใจหรือไง ผมมีนะเว้ย แล้วตอนนี้มันก็เจ็บมากด้วย”


                “ฮยองวอน..”ผมเรียกชื่อน้องเสียงแผ่ว เพราะรู้สึกได้ว่าตัวน้องสั่น บวกกับน้ำอุ่นๆที่หยดลงบนหลังมือผมด้วยแล้ว คราวนี้ไม่ต้องสงสัยเลย “ขอโทษ”


                “ฮึก ไม่ต้องมาขอโทษ”


                “ฮยองวอน คือว่าฮยองแค่อยากให้ฮะ..”


                “ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นแหละ แล้วก็ปล่อยมือได้แล้ว”


                น้ำเสียงนิ่งเรียบที่ผมไม่เคยได้ยินจากปากของอีกฝ่ายมาก่อนทำให้ผมคลายมือออกโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นอิสระแล้ว ฮยองวอนก็ขยับตัวแล้วลงจากเตียง


                “ต่อไปอย่ามายุ่งกับผมอีก”


                “...”


                “เลิกกันเหอะ”


                คำพูดที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินมันกลายเป็นมีดปลายแหลมที่กรีดหัวใจผมช้าๆ ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม นี่ผมโดนน้องบอกเลิกเหรอ ทั้งๆที่เรารักกันมากน่ะนะ


                ใครยอมเลิกแม่งก็โง่แล้ว


                ผมรีบกระโดดลงจากชั้นสองแล้วคว้าแขนเล็กที่กำลังจะหนีออกไปไว้ แล้วกระชากเข้ามากอดแน่น


                “ไม่เลิก”


                “ปล่อย”


                “ไม่อ่ะ ไม่ปล่อย อย่าทำแบบนี้ฮยองวอน”ผมกระชับอ้อมแขนเมื่อคนที่ผมกอดอยู่ดิ้นไม่หยุด “ฮยองขอโทษ ได้ยินไหม ขอโทษ อย่าเลิกนะ ขะ ขอร้อง อย่าทิ้งฮยองไป”


                “ฮึก..”


                “ฮยองไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้จริงๆ”


                “..ถ้าความรู้สึกฮยองเปลี่ยนไปแล้ว ก็ไม่ต้องมายื้อให้เสียเวลา”


                “ไม่ๆ ความรู้สึกฮยองไม่เคยเปลี่ยนเลย ที่เปลี่ยนคงเป็นเพราะรักเรามากกว่าเดิมต่างหาก”


                “ไม่จริง ฮึก ถ้ารักกัน ทำไมไม่สนใจกันบ้าง รู้ตัวไหมว่าฮยองเปลี่ยนไปมากแค่ไหน”


                “ขอโทษ”


                ผมพร่ำพูดคำเดิมซ้ำๆอยู่แบบนั้น น้องร้องไห้หนักมากๆอยู่ในอ้อมแขนของผม จากตอนแรกที่ดิ้นก็เลิกดิ้นแล้วสะอื้นตัวโยน ผมไม่เคยเห็นน้องร้องไห้หนักมากขนาดนี้มาก่อนจริงๆ ใจผมจะขาด


                “ขอโทษนะที่ทำแบบนั้น.. ฮยองก็แค่อยากทำให้เราแสดงสิ่งที่เรากำลังคิดออกมาบ้าง”


                “...”


                “เปิดใจให้ฮยองเต็มร้อยสักทีสิฮยองวอน คิดอะไรอยู่ก็แสดงมันออกมาไม่ได้หเรอ จะกั๊กความรู้สึกตัวเองทำไม แบบนั้นมันทรมานนะ”


                “...”


                “อยากโกรธ อยากเหวี่ยง อยากจะงอแงกับฮยองก็ทำสิ จะเก็บทำไม”


                “ฮึก กะ ก็ผมกลัว..”


                “...”


                “ผมกลัวว่าถ้าผมทำแบบนั้นฮยองจะเบื่อ จะรำคาญ แล้วก็ทิ้งผมไป”


                ได้ยินคำตอบผมถึงกับต้องฉีกยิ้มออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นยีผมนุ่มเบาๆ “เด็กโง่เอ๊ย ฮยองไม่มีทางเบื่อหรือรำคาญเราหรอก ยิ่งความคิดที่จะทิ้งนะ ไม่มีเด็ดขาด”


                “ฮือ..”


                “ไม่ต้องกังวล ฮยองจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนเอ่ยปากไล่ฮยองเอง”


                เราสองคนผละออกจากกัน นั่นทำให้ผมเองว่าใบหน้าหวานของน้องเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตามากมาย ผมเลยยกมือขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาออกให้เบาๆ ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอิ่มอย่างนุ่มนวล รู้สึกขอบคุณที่น้องไม่ถีบผม แม้จะไม่ได้จูบตอบก็เหอะ


                “ฮยองขอโทษนะที่รัก”


                “..ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ”


                “ไม่ทำแล้ว ไม่อยากโดนบอกเลิก”


                ผมพูดยิ้มๆ ใช้ความมากประสบการณ์ของตัวเองหลอกล่อจนผลสุดท้ายก็สามารถต้อนให้น้องไปนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเตียงของผมได้สำเร็จ ผมเลยตามไปแล้วคร่อมร่างบางเอาไว้เพื่อกันหนี


                “จะ จะทำอะไรฮยอง”


                “ทำอะไรดีล่ะ เพิ่งดีกันกับแฟนเนี่ย หืม..”


                “งั้นไม่ดี ไม่เอาแล้ว”ฮยองวอนพูด ส่ายหน้ารัวๆ


                ผมยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มลงไปจนหน้าผากเราชนกันเบาๆ “ดีกันนะครับ”


                “...”


                “นะ”


                “งื้อ ฮยองอ่ะ.. ผมเหนื่อยแล้วนะ อยากนอน”


                “ก่อนนอนก่อนเหนื่อยอีกรอบไง คราวนี้หลับสบาย”


                “บ้า .////.


                “ไม่บ้านะ นี่พูดจริงๆ”ผมพูดย้ำแล้วดันให้ร่างบางนอนราบลงไป “ทำจริงด้วย”


                “แต่ว่า..”


                “ทำไมมีข้อแม้จัง”


                “ก็..”


                “ความจริงเราต้องไปฮันนีมูนกันที่ประเทศไทยด้วยซ้ำนะเนี่ย”


                “ก็เพราะใครล่ะ”


                “นี่ไง ถึงได้มาชดเชยให้ที่นี่”


                “.////. ตะ แต่จูฮอนกับชางกยุนมันนอนกันอยู่นะครับฮยอง”


                ผมยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่น


                “จูฮอน!!!!!! ชางกยุน!!!!!!!


                “ฮยอง เสียงดังทำไม”


                “นี่ไง เห็นไหม ฮยองเสียงดังขนาดนี้สองคนนั้นมันยังไม่ตื่นเลย น่านะ.. นะครับที่รักของฮยอง”


                “แต่..”


                “โอ๊ย ไม่รู้ไม่ฟังแล้ว”พูดจบผมก็โน้มตัวลงไป


                และคงไม่ต้องบอกว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้นนะ ให้มันเป็นเรื่องของผมกับแฟนผมก็พอ หึๆ แล้วอย่าไปบอกฮยองวอนเชียว ว่าที่จริงสองมักเน่มันไม่ได้หลับ


                แต่ผมกำชับเอาไว้แล้วว่าถ้าผมเรียก ต่อให้จะเรียกดังแค่ไหนก็ห้ามตอบรับเด็ดขาด


                ผมไม่อยากให้ใครมาขัดจังหวะน่ะ


                เอาล่ะ ตอนนี้ผมขอตัวก่อน เพราะผมมีเรื่องสำคัญต้องทำกับแฟน


                อย่าลืมนะ ห้ามไปบอกฮยองวอนเชียว ถ้าหากพวกคุณยังอยากให้ ฮยองวอนโฮ อยู่กับพวกคุณตลอดไปน่ะ


                ไปนะครับ อันยองงงงงงงง

     














































    -END-
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×