ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta_X] Another Time

    ลำดับตอนที่ #14 : Another Time : C H A P T E R S 1 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 608
      13
      9 ม.ค. 59

    © themy butter


    Chapters 13

     

                -MINHYUK-


                “พี่ขอโทษแทนแม่ด้วยจริงๆนะ ท่านแค่เป็นห่วงพี่ ก็เลยโทษฮยองวอนแบบนั้น”


                (ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็เป็นตัวซวยจริงๆ)


                “อย่าพูดงั้นสิฮยองวอน พี่ไม่สบายใจนะ”


                (..ครับ)


                ผมถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่ลืมตาขึ้นมาก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะวุ่นวายกันไปหมด พ่อแม่ผมวิ่งวุ่นไปทั่วโรงพยาบาล คุณหมอเองก็ตรวจอาการของผมอย่างละเอียด แต่ผมแปลกใจที่ไม่เห็นฮยองวอน ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าทันทีที่ลืมตา ผมคงเห็นเขาเป็นคนแรกแน่ๆ


                พ่อเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านั้นฮยองวอนอยู่เฝ้าผมทั้งวันทั้งคืน จนเมื่อเล่าให้ตำรวจฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ผมก็ไล่ฮยองวอนไป ผมรู้ นี่ไม่เกี่ยวกับฮยองวอนเลย


                “ขอโทษด้วยนะ เลยไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันเลย”


                (...)


                “ฮยองวอน”ผมเรียกเมื่อปลายสายเงียบไป “ฮยองวอน”


                (ครับ ครับพี่มินฮยอก)


                “พี่บอกว่าขอโทษนะ เราไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันเลย”ผมพูดทั้งที่แอบสงสัย เพราะเหมือนฮยองวอนจะกำลังคิดอะไรอยู่ และอะไรที่ว่าก็ดูจะสำคัญกว่าผมซะด้วย


                (ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่นั่นแหละ ต้องฉลองวันเกิดในโรงพยาบาลเลย)


                “ถ้างั้นเอาไว้วันหลังเดี๋ยวเราไปฉลองกันอีกรอบนะ”


                (..แล้วแต่พี่เลยครับ)


                “แล้วกะ..”


                (พี่มินฮยอกครับ ขอโทษนะครับ ผมต้องวางสายก่อน ไว้เจอกันที่ทำงานนะครับ)


                แล้วสายก็ตัดไปอย่างเร็วโดยที่ผมไม่ทันได้บอกลา ผมเอาโทรศัพท์วางไว้ที่ข้างหมอน นอนลงพร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย


                ผมเคยสำคัญกับฮยองวอนเป็นอันดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีสิ่งที่สำคัญกับฮยองวอนมากกว่าผมแล้วสิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                -HYUNGWON-


                ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ก่อนจะลุกจากโต๊ะทำงานเพื่อตรงไปหาคนที่กำลังจะเดินออกไป ดีที่เขาหันมาเห็นผม ผมก็เลยไม่ต้องเสียฟอร์มเป็นคนทักเขาก่อน


                “จะไปไหนเหรอฮยองวอน”


                “อ่า.. นายล่ะ จะไปไหน”


                “ออกไปทำข่าวข้างนอกน่ะ”วอนโฮตอบ เอียงคอมองผม “มีอะไรเหรอ”


                “..เปล่า”


                “อ้าว”


                “อ๋อใช่ พี่มินฮยอกน่ะ ฟื้นแล้วนะ อีกไม่กี่วันก็กลับมาทำงานได้แล้ว”


                วอนโฮมองผมอย่างงงๆ นั่นทำให้ผมเกิดอยากตบปากตัวเอง เพราะดันลืมนึกไป ว่าเรื่องนี้เขาก็รู้กันทั้งทีมแล้วนี่หว่า ให้ตายเถอะ


                “แล้ว.. มีอะไรอีกไหม”


                “คือ”ผมเกาคางตัวเอง เอาไงดีวะ มีอะไรอีกดีอ่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะเดินมาหาเขาทำไมเนี่ย อะไรดีๆ


                “หึ”ผมได้ยินเสียงหัวเราะของวอนโฮนะ เขายิ้มแล้วเอื้อมมือมายีหัวผม “เดี๋ยวจะรีบกลับบ้านนะ”


                “-o-


                “ไปแล้วนะครับ”


                แล้วเขาก็เดินออกไป โดยปล่อยให้ผมยืนกระทืบเท้าอยู่คนเดียว ผมไม่เข้าใจตัวเอง


                นี่ผมเป็นบ้าอะไรของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

                เวลางานของผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เลิกงาน บังเอิญที่กีฮยอนโทรมา เราสองคนก็เลยนัดกันเพื่อออกไปหาอะไรกินกัน คุยกันไปด้วยเพราะไม่ได้เจอกันร่วมเดือนแล้ว เมื่อผมเข้าไปในร้าน เพื่อนนักข่าวตัวเล็กของผมก็โบกมือหย็อยๆ ผมเลยเดินเข้าไปหา แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา


                “ไง”


                “นายดูโอเคขึ้นแล้วนี่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังหงอยเหมือนหมาถูกทิ้งอยู่เลย”


                “ขอบใจที่เปรียบเทียบฉันกับหมา”ผมพูดเสียงเรียบ “นายสั่งอาหารยัง”


                “สั่งแล้ว เอ้อ ทำไมไม่ชวนคุณวอนโฮมาด้วยกันล่ะ”


                “ปะ ปล่อยหมอนั่นเถอะน่า จะมาทำไม มาให้ฉันอึดอัดเปล่าๆ”


                “วันนี้ก็เพิ่งไปทำงานกับเขามานะ คุณวอนโฮน่ะโคตรฮอท ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่รุมตอมให้พรึ่บ”


                “วอนโฮมันเป็นของบูดหรือไงเล่า ถึงได้มีแมลงวันตอมน่ะ”ผมขึ้นเสียงเล็กน้อย


                “เฮ้ย ยังไม่ได้บอกว่าแมลงวันเลย ฉันบอกว่าสาวน้อยสาวใหญ่เว้ย”


                “อ๋อ สงสัยฟังผิดมั้ง”ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์


                อาหารถูกยกมาเสิร์ฟพอดี เราสองคนเลยเริ่มกิน และคุยเกี่ยวกับเรื่องงานบ้าง ไม่ต้องแปลกใจหรอก ถึงตอนนี้ผมจะกลับมาทำข่าวอาชญากรรมแล้ว แต่สายข่าวของผมกับของกีฮยอนมันบังเอิญไปตรงกันน่ะสิ


                เรื่องผู้มีอิทธิพลคนนั้นน่ะ ผมสืบรู้มาว่าลูกชายของเขาทำงานอยู่ในวงการบันเทิง แน่นอนอยู่แล้วว่าเรื่องวงการบันเทิง กีฮยอนรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว


                “นี่กล้ามากเลยนะ รู้อยู่แกใจว่าอยู่กันละช่อง นายยังกล้ามาถามข่าวจากฉันอีก”


                “เอาน่า ถ้ามองฉันเป็นเพื่อนก็อย่าบ่น”ผมพูดพร้อมกับเปิดดูเอกสารเกี่ยวกับนายคนนี้ “อิมชางกยุนเหรอ”


                “ชื่อในวงการเขาชื่อไอเอ็ม เพิ่งกลับมาจากอเมริกาได้หกเดือนก็เข้าวงการบันเทิงเลย ตอนนี้น่ะยังไม่ได้เล่นเป็นพระเอกเต็มตัว แต่ต่อไปฉันว่าไม่น่าพลาด เพราะช่วงนี้เขาดัง ดังมากๆๆๆๆด้วย”


                ผมพยักหน้าส่งๆ จะดังไม่ดังผมไม่สนหรอก “ยังไงก็ขอบใจมากนะ สำหรับประวัติคร่าวๆ เอาไว้หลังจากนี้ฉันจะจัดการเอง”


                “นายคิดว่าไอเอ็มมีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวที่นายทำเหรอ”


                “ก็อาจจะ ฉันเองก็ยังไม่รู้ คงต้องใช้เวลาสืบอีกสักหน่อย”ผมเก็บเอกสารใส่กระเป๋า มองออกไปข้างนอกแล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้


                ตอนนี้ผมกับกีฮยอนเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสนิทมาก แต่ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว ผมน่าจะปรึกษากีฮยอนได้อยู่นะ เขาน่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับผม


                คิดว่านะ


                “ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษานายหน่อยน่ะกีฮยอน”


                “อืม ว่ามา”กีฮยอนพยักหน้าพร้อมฟังแม้ว่าในปากจะเต็มไปด้วยอาหาร เห็นตัวเล็กๆแบบนี้กินเก่งชะมัด


                “ถ้าสมมติว่านายรู้จักกับคนๆนึงมานาน นานมากๆเลยนะ เขาเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของนาย เป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตนาย และนายเองก็รักเขามาก เขาเองก็เหมือนจะรู้สึกแบบเดียวกับนาย แต่ในขณะเดียวกัน เขากลับไม่เคยพูด และเมื่อนายเริ่มพูด เริ่มถามถึงความสัมพันธ์ เขาก็จะบ่ายเบี่ยง และพูดแค่ว่า เราเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”


                “..อืม แล้วไงต่อ”


                “นายเจ็บนะ เจ็บมากๆ ทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดนั้น อยากจะตัดใจ แต่สุดท้ายพอนายได้เจอหน้าเขา มันก็เหมือนนายวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น วนไปวนมาอยู่แบบนั้นไม่มีที่สิ้นสุดสักที”


                “โอ๊ย เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉันหรอก สำหรับฉันน่ะ แค่โดนปฏิเสธครั้งแรกก็เกินพอแล้ว”


                “แต่นายรักเขามากนะเว้ย”


                “รักแล้วไง”กีฮยอนย้อนถาม มองผมอย่างจริงจัง “ฮยองวอน การที่เขาไม่ชัดเจนมันก็คือคำตอบที่ชัดเจนแล้วนะ”


                “...”


                ผมพยักหน้า เว้นช่วงอยู่นานค่อยพูดต่อ “แต่มันยังไม่จบแค่นั้นน่ะสิ”


                “ว่ามา รอฟังอยู่”


                “หลังจากนั้นก็มีอีกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตนาย แต่นายน่ะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาหรอก แม้ว่าเขาจะทำดีกับนายมากๆ ดูแลห่วงใยนายเสมอ และถึงจะรู้ว่านายไม่ได้รักเขา แต่เขาก็ยังยินดีที่จะรอและพยายามทำให้นายรัก เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่ารู้สึกยังไง เวลาที่เขาอยู่ใกล้นายรู้สึกอบอุ่น หัวใจเต้นแรง แล้วก็มวนท้อง แล้ว..”


                “ฉันว่านายอาจจะรู้สึกหวั่นไหวกับอีกคนก็ได้”


                “แต่ฉันมีอีกคนอยู่แล้วนะ”


                “แต่อีกคนที่ว่าเขาไม่ได้มีนายอยู่สักหน่อย จริงอยู่ นายรักเขามานาน รักเขาคนเดียวมาตลอด แต่ตอนนี้หัวใจของนายมันเปลี่ยนไปแล้วนะ ที่จริงนายถามฉันไม่ได้หรอก นายต้องถามใจของนายเอง”


                “...”


                “คนเรามันเริ่มต้นใหม่ได้ตลอด ใช่ นายอาจจะเริ่มต้นรักใหม่ แต่มันไม่ได้หมายความว่านายต้องไปเริ่มที่จุดเริ่มต้นเดิมสักหน่อย”


                ผมคิดตามที่กีฮยอนบอก มันจะเป็นไปได้เหรอ ผมน่ะนะที่หวั่นไหวกับหมอนั่น ต้องเป็นพี่มินฮยอกสิ พี่มินฮยอกคือรักแรก และรักเดียวของผมนะ


                “ของอย่างนี้นายใช้สมองคิดไม่ได้นะ นายต้องใช้ใจคิดต่างหาก”กีฮยอนพูดย้ำอีกครั้ง “ฉันไม่รู้หรอก ว่าคนแรกน่ะเป็นใคร แต่คนที่เพิ่งมา ..คุณวอนโฮใช่ไหมล่ะ”


                “ยะ ย๊า.. จะไปใช่ได้ไง”


                “ฮยองวอน ฉันคือยูกีฮยอน ตัวพ่อของวงการบันเทิงเลยนะเว้ย ฉันน่ะเจอดาราใส่หน้ากากมาหลายแบบ และพวกที่ใส่หน้ากากปกปิดความจริงทุกคนน่ะ ทำหน้าเหมือนนายตอนนี้เป๊ะ”


                “นั่นมันก็..”


                “อีกอย่าง ทุกครั้งที่ฉันเจอคุณวอนโฮ ไม่มีครั้งไหนเลยนะที่เขาไม่ถามถึงนาย ทั้งๆที่เขาอยู่บ้านเดียวกับนาย แต่ก็ชอบมาถามฉันเกี่ยวกับนาย เขาดูรีบร้อนทุกครั้งเวลาเลิกงาน ชวนไปไหนก็ไม่ไปบอกว่าจะรีบกลับบ้านเพราะไม่อยากทิ้งนายไว้คนเดียว”


                “...”


                “คุณวอนโฮเขารักนายมากๆเลยนะฮยองวอน”


                “..ฉัน ฉันรู้”


                “ฉันจะบอกอีกอย่างเผื่อนายยังไม่รู้”


                ผมมองกีฮยอน รอว่าเขาจะบอกอะไรที่ผมไม่รู้


                “นายเองก็รักเขาแล้วเหมือนกัน”












































    เอาแล้ววววววววววววววว

    รักไม่รักถามใจตัวเองดูนะแชนะ ตอนหน้าไรท์มีอะไรจะบอกล่วงหน้า

    อยากให้ทุกคนเตรียมกระดาษทิชชู่รอเอาไว้ (ไซโคให้เวอร์วังไว้ก่อนนนนน ฮาาาาาา)


    #องครักษ์ชิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×