ตอนที่ 52 : High School : CHAPTERS 49

Chapters 49
นับถอยหลังในเวลาไม่ถึงสิบนาทีข้างหน้า ผมก็จะลงสู่สนามเพื่อแข่งชิงแชมป์ยูโดระดับโรงเรียน แม่หมาหาผมแต่เช้า และเพิ่งจะออกไปที่โรงยิมกับกีฮยอน ส่วนผมนั่งทำสมาธิอยู่ในห้องเก็บตัวนักกีฬา พี่ชยอนูก็อยู่ข้างๆ มันช่วยได้เยอะนะ ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และพร้อมแล้วล่ะ
“ไปกันเถอะครับพี่ชยอนู”
“อื้ม ไปสิ”
เราสองคนเดินออกไปที่โรงยิม ที่นี่ผมเห็นเซย์จิมารออยู่ก่อนแล้ว ผมเบือนหน้าไปทางอื่น ก่อนจะเห็นบรรดากองเชียร์เซทเดิมของผม ขาดก็แค่มินฮยอกกับซอกวอนเพราะทั้งสองคนนั้นต้องเตรียมตัวชิงแชมป์ฟุตบอลในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าเช่นกัน
ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ทำสมาธิกับสิ่งที่กำลังจะเกิดในไม่กี่นาทีข้างหน้า หันไปก็เห็นว่าแม่กับพี่ชยอนูโบกมือเชียร์ผมอยู่ แค่นี้กำลังใจก็เต็มเปี่ยมแล้วล่ะ
กรรมการเรียกนักกีฬาลงสนาม ผมเดินไปประจันหน้ากับเซย์จิ ผมยังกลัวที่จะสบตากับเขา เพราะมันทำให้ผมเห็นภาพเรียว แต่ถ้าผมยังกลัว ผมจะไม่มีทางชนะได้ ดังนั้นผมจึงต้องละทิ้งความกลัวออกไป แล้วจ้องเซย์จิกลับ
เราสองคนก้มหัวทำความเคารพให้กัน ก่อนที่การแข่งจะเริ่มขึ้น วันนี้เซย์จิเร็วมาก หรือเป็นเพราะวันนั้นผมไม่มีเรี่ยวแรงเองเลยไม่ทันสังเกตเลยว่าเซย์จิเก่งขนาดไหน แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ายังไง ผมก็จะต้องชนะให้ได้
“อย่าแพ้ล่ะ”
ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเซย์จิก็พูดตอนที่กำลังจับตัวผม แต่ยังไม่ทันตอบอะไรหมอนี่ก็จับผมทุ่มทันที ผมเบ้หน้าก่อนจะทรงตัวลุกขึ้นมาใหม่ แล้วพุ่งเข้าไปหาเซย์จิก่อนจะใช้ท่าเดียวกันจับหมอนี่ทุ่ม ซึ่งมันก็ได้ผลทำให้คะแนนเราขึ้นมาตีคู่กัน
เป็นอย่างนี้ต่อไปจนกระทั่งเกือบจะจบการแข่งขัน ผมเหลือบมองข้างสนาม คนดูต่างก็นั่งกันไม่ติดแล้ว และผมต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นผมที่ตามอยู่จะเป็นฝ่ายแพ้ และลบคำสบประมาทของเซย์จิไม่ได้ ผมหายใจเข้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดกลางลำตัวของเซย์จิจนเสียหลักก่อนที่จะใช้ท่ากะตะเมวาซา[1] ซึ่งเป็นท่าที่ผมไม่เคยใช้ได้มาก่อน และในที่สุด
เซย์จิเป็นฝ่ายยอมแพ้ และผมเป็นฝ่ายชนะ
ผมทำได้แล้ว ในที่สุดก็ทำได้แล้ว
เสร็จการแข่ง และรับถ้วยรางวัลไปเป็นที่เรียบร้อย แม่ก็ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องไปทำธุระต่อ ผมได้กอดล่ำลาแม่ไปแล้ว อีกแค่สองอาทิตย์ก็จะปิดเทอม คราวนี้ล่ะจะได้เจอหน้าแม่ทุกวันเลย
“เยี่ยมมากๆๆๆๆ”พี่ชยอนูตบบ่าก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด “ไอ้น้องชาย”
“ต้องขอบคุณพี่กับโค้ชนั่นแหละครับที่ฝึกให้ผม”ผมบอก แล้วหันไปก้มหัวให้โค้ชของผม “ขอบคุณมากนะครับ ผมชนะได้เพราะโค้ชแท้ๆเลย”
“ไม่หรอกน่า นั่นน่ะ ตอนที่เห็นนายใช้ท่านั้นฉันยังตกใจเลย”
“ผมก็แค่รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง”
“ดีแล้วล่ะ”เขาพูดกับผมแล้วก้มมองนาฬิกา “พวกนักกีฬาจากญี่ปุ่นเขาจะกลับกันเลยมั้ง จะไปส่งเขาหน่อยหรือเปล่า”
“...”
ผมหันมองพี่ชยอนู ซึ่งพี่ชยอนูก็มองผมอยู่เช่นกัน เขาพยักหน้าให้ผมเล็กน้อย ผมเลยขอตัว แล้วรีบวิ่งไปยังห้องพักนักกีฬา เป็นอย่างที่คิด เซย์จิยังอยู่ที่นี่
“นายจะกลับเลยหรือเปล่า”ผมรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไป
เซย์จิที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าหันมามองผม ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วยิ้มให้ และรอยยิ้มนี้ทำให้ผมเกือบจะหมดแรงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นอีกแล้ว
เป็นไปไม่ได้
“กลับเลยสิ มีอีกตั้งเยอะที่ต้องไปทำ”
“..ระ เรียว”
“นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว”เขาพูด ริมฝีปากคลี่ยิ้มที่ผมคิดถึง “สวัสดีฮยองวอน”
ผมส่ายหน้าเบาๆ หรือว่าตอนนี้มันจะเป็นความฝัน ไม่หรอก ไม่มีทาง ถ้ามันเป็นความจริง แสดงว่าผมไม่ได้รู้สึกไปเอง ไม่ได้รู้สึกว่าวันนี้ผมแข่งกับคนที่ไม่ใช่เซย์จิ เพราะทักษะ และสไตล์การเล่นมันเฉพาะตัว ผมจำได้ดีว่ามันเป็นลักษณะของเรียว แต่ทำไม..
“นะ นาย มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อวานน่ะ”เขาตอบผมสบายๆ ทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเม้มปากแน่น ก่อนจะโผเข้ากอดร่างที่สูงพอๆกันพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “เรียว ฉันขอโทษ ฮึก ฉันขอโทษ”
“รู้แล้วๆ”เขาตอบผม น้ำเสียงยังขี้เล่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ฉันรู้แล้ว ว่านายน่ะรู้สึกผิด อีกอย่างนะ นายไม่ได้เป็นคนผลักฉันตกสักหน่อย ฉันตกลงไปเอง”
“แต่..”
“ที่ฉันเคือง คือการที่นายหนีฉันมาต่างหาก”
“...”
“ทำไมถึงทิ้งฉันไว้แบบนั้นล่ะ รู้ไหมว่าพอตื่นขึ้นมา ฉันอยากจะเจอนายมากแค่ไหน”น้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนเป็นสั่นเครือ ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ว่าเรียวกอดตอบผมแน่น “นายไม่รู้เหรอว่าฉันห่วงนายแค่ไหน พอรู้ว่านายหนีมาที่เกาหลี ฉันกลัวแค่ไหน ว่านายจะเหงา นายจะโดดเดี่ยว”
“ฉันไม่ ไม่เลยเรียว ฉันมีความสุขดี”
“เซย์จิบอกแล้วล่ะ ว่านายมีเพื่อนที่ดี ซึ่งฉันดีใจมากจริงๆที่รู้ว่าเป็นแบบนั้น”
ผมผละออก และเพิ่งสังเกต จริงสอนะ เมื่อวานเซย์จิถูกมินฮยอกชกจนเลือดออกขนาดนั้น แต่ตอนนี้ใบหน้าของคนตรงหน้าผมกลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย
“โทษฐานที่ทิ้งฉันมาน่ะ เซย์จิจัดการให้ฉันแล้วล่ะ เจ้านั่นทำนายเสียศูนย์ไปเลยสินะ”
ผมพยักหน้า “เซย์จิบอกว่านายยังหลับอยู่”
“ฉันหลับไปแค่สามอาทิตย์เท่านั้นแหละ แต่ยังเล่นกีฬาหนักๆมากไม่ได้ แถมยังต้องอยู่แต่ในบ้านอีก เป็นเดือนๆเลยนะ กว่าฉันจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้”
“แล้วทำไมมาเล่นยูโด”จู่ๆผมก็รู้สึกผิดอีกแล้ว เล่นกีฬาหนักๆไม่ได้ แต่กลับมาแข่งยูโดเนี่ยนะ
“ก็ถ้าฉันไม่มาแข่ง นายคิดว่าใครจะมาล่ะ คิดว่าเซย์จิมันเล่นกีฬาเก่งขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ได้ยินนะเว้ย”
ผมหันไปมองตามเสียง ร่างสูงที่มาพร้อมกับใบหน้ายุ่งๆของเซย์จิมองมาทางเราสองคน
“จนแล้วจนรอด ก็ทำให้พวกแกเลิกคบกันไม่ได้สักที”
“เปล่าประโยชน์น่าเซย์จิ”เรียวหันไปพูดกับน้องชายแล้วโอบไหล่ผม “ไม่มีอะไรทำลายความเป็นเพื่อนของเราสองคนได้หรอก แม้แต่นายน่ะ”
“ชิ”
ผมยิ้ม พร้อมกับที่น้ำตาคลอไปด้วย “ขอบคุณนะเรียว ที่ไม่โกรธฉัน แล้วก็ขอโทษด้วย ที่ฉัน..”
“เลิกขอโทษได้แล้วน่า”เรียวพูด หันมามองหน้าผมตรงๆ “แต่ฉันขออะไรอย่างนึง นายทำให้ฉันได้ไหมฮยองวอน ถือซะว่าเป็นการไถ่โทษก็ได้”
“อื้ม ได้สิ ฉันทำได้หมดทุกอย่าง”
“นายจำเอาไว้นะ ว่าตอนนี้นายเอาชนะฉันได้ ด้วยตัวของนายเองแล้ว”
“...”
“นายไม่ได้ชนะเพราะพ่อของนาย นายทำมันด้วยความสามารถของนายเอง เพราะงั้น..”เรียวยิ้มใจดีแล้วแตะที่หน้าอกผมเบาๆ “สัญญากับฉันว่านายจะไม่รู้สึกผิด แล้วเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุขจริงๆสักที”
“...”
“ทำได้ไหม”
ผมน้ำตารื้นอีกแล้ว กลายเป็นคนขี้แงบ่อยชะมัดเลย “อะ อื้ม”
“ขอบคุณนะ ฉันสบายใจแล้วล่ะที่นายมีความสุข”เรียวลูบหัวผมเบาๆแล้วหันไปมองเซย์จิที่ยังทำหน้าเบื่ออยู่ที่เดิม “เราจะกลับแล้วนะ ไม่มีอะไรจะบอกฮยองวอนเหรอเซย์จิ”
“ไม่มี ฉันเกลียดมัน”
“ไอ้คำว่าเกลียดมันก็แค่คำพูดของคนขี้อาย รู้อะไรไหมฮยองวอน เซย์จิน่ะไม่ได้เกลียดนายอย่างที่ปากพูดหรอกนะ กลับกัน เจ้านั่นน่ะ..”
“ไอ้เรียว หุบปากถ้าแกไม่อยากโดนฉันเตะ”
“หึๆ”
ผมมองเรียวกับเซย์จิสลับกันอย่างงงๆ แต่สุดท้ายสมองผมก็เริ่มประมวลผมออกมา “นี่นายชอบฉันเหรอเซย์จิ”
“-///////////- ใครเขาชอบนายวะ!!!!!!!!”
ผมมองเรียวที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ ก่อนจะหัวเราะบ้าง “ชอบแล้วทำไมไม่บอก ไม่รู้เหรอว่าฉันก็ชอบนาย”
“จริงดิ”
“ไม่จริงอ่ะ”
“ฉันเกลียดแก”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”เรียวระเบิดหัวเราะทันที ก่อนจะหันมามองผม “ต้องรีบกลับแล้วล่ะ เดี๋ยวจะตกเครื่อง”
“ดูแลตัวเองดีๆนะเรียว ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้กลับไปกับนาย แต่ฉันไปจากที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ”
“เพราะผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า”
“คะ คนไหน”
“ก็ที่ตะโกนเชียร์นายเสียงดังลั่นสนามไงล่ะ”
ผมเงียบ ตอบไม่ได้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงตอบออกไปไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นที่เรียวหมายถึงคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก.. ไอ้เตี้ยนั่นน่ะ
“เอาล่ะ ยังไงฉันจะติดต่อกลับมาหานายนะฮยองวอน อย่าลืมที่สัญญาไว้ล่ะ”
“อื้ม รักษาตัวด้วย”ผมบอก มองเลยไปยังเซย์จิ “นายเองก็ด้วยนะ”
“เออ”
“เออ”
“ถ้าแกเจ็บป่วย ฉันจะตามมาหัวเราะเยาะ ถ้าแกต้องเสียใจ ฉันจะซ้ำเติมแกให้ถึงที่สุดเลย เข้าใจไหม”
“เข้าใจความหายของมันไหมล่ะ”เรียวหันมากระซิบกับผม
ผมเลยหัวเราะเบาๆ “เข้าใจแล้วน่า”
ผมเข้าใจที่เซย์จิบอกนะ
ความหมายของคำพูดเจ้านั่นน่ะ ก็แค่..
“ห้ามเจ็บป่วย และเสียใจอีกนะ”
ไม่รู้ว่าจะพูดออกมาทำไมซะยืดยาว
ผมกอดเรียวอีกครั้ง กอดที่เต็มไปด้วยมิตรภาพของเราสองคน
ผมไม่มีเรื่องอะไรค้างคาในใจอีกต่อไปแล้วล่ะ
ขอบคุณเรียว.. ขอบคุณเซย์จิ ขอบคุณ
[1]กะตะเมวาซา (Katamawaza) เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการกอดรัดเพื่อให้หายใจไม่ ออก การจับยึดและการล็อกข้อต่อ เป็นเทคนิคที่ใช้ขณะอยู่กับพื้นเบาะ (tatami)เพื่อให้คู่ต้อสู้ยอมจำนน
ในที่สุดปัญหาอีกหนึ่งอย่างของเทพแชก็คลี่คลายยยยยยยยย
และในที่สุด ความฝันที่จะได้รวมเล่มก็เป็นจริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เดี๋ยวไรท์จะอธิบายรายละเอียดเนื้อหาทั้งหมดในเล่มและเปิดให้โอนเงินเร็วๆนี้ คนที่ยังไม่ได้สั่งจองก็ยังสั่งกันได้อยู่เรื่อยๆนะ
และ!! เนื้อหาในเว็บ ไรท์จะเอาลงอีกแค่ 2 ตอนเท่านั้น ขออภัยที่มาบอกปุบปับ
แถมมีข่าวดีมาบอกอีกด้วย
หลังจบเรื่องนี้ ฟิค High School จะมี High School Season 2 ให้ติดตามกันแน่นอนนนนนนนน
#ฟิคเทพแช
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หมดปัยหาแล้วนะฮยองวอน ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
ฮยองวอนน จะติดตามซีซั่น2 น้าค่า ดีใจๆ ><
รอซีซั่น 2 นะไรท์ สู้ๆ
ทำไมเราฟินเซย์จิคนซึน 555555
แล้วฮยองวอนเมื่อไหร่จะใจอ่อนนน
เรียวเป็นคนดีมาก ดีโคตรๆ TwT มิตรภาพช่างงดงาม ฮือออออ ดีใจกับฮยองวอนด้วย?
ปล. รอรวมเล่มและรอภาคสองค่ะ อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเลย TvT ไรท์ทำเราติดนะเนี่ยทุกวันต้องมาเช็คถ้าอัพก็อ่านถ้าไม่อัพก็..อ่านซ้ำ 55555555555
ปล2. เหลืออีกแค่สองตอนเองหรอ.. จะจบแล้วสินะ Y-Y รู้สึกใจหายจัง แง
ปล.เห็นคุณ hyungho เปิดเรื่องใหม่ด้วย (แล้วเราก็เฟบไว้เรียบร้อย) รอนะคะ ^-^