ตอนที่ 14 : High School : CHAPTERS 12

Chapters 12
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ รู้สึกว่าเปลือกตามันหนักจนลืมแทบจะไม่ขึ้น แถมหัวก็ปวดเหมือนจะระเบิดออกมา พะอืดพะอม และที่สำคัญรู้สึกอึดอัดมาก มากถึงมากที่สุดเลย
หลังนอนนิ่งๆเรียกสติกลับคืนมาอยู่นั้น เพดานห้องที่ไม่ใช่สีขาวแต่เป็นสีดำทำให้รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องในหอของผม พอจะจำได้ลางๆว่าเมื่อคืนถูกวอนโฮมันลากมาที่นี่ หลังจากนั้นก็ดื่ม ผมดื่ม ดื่ม และดื่ม
“อือออออ”
เสียงครางในลำคอที่เข้าหูผม เพิ่งปลุกให้ผมรู้สึกตัวว่าตอนนี้ไม่ได้มีผมอยู่คนเดียว มากไปกว่านั้น ไอ้ที่มาของความอึดอัดก็คือท่อนแขนล่ำๆของวอนโฮ ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่ใช่แค่แขนของมันที่พาดอยู่ที่หน้าอกผม แต่ขาของมันก็เกี่ยวผมไว้ซะแน่น และมากกว่าอะไรทั้งหมด
ทำไมมันถึงไม่ใส่เสื้อ
“เชี่ย”ผมสบถดังลั่นแล้วเตะร่างที่นอนนิ่งเต็มแรง
ปึง
“โอ๊ยยยยยยยย”
เสียงโอดครวญของเจ้าของห้องดัง พร้อมกับใบหน้างัวเงีย งุนงงที่มองผม “อะไรวะเนี่ย ซาดิสม์แต่เช้าเลยเหรอ”
“แกทำบ้าอะไรวะ!!!”ผมโวยวายทันที “ทำไมฉันนอนที่นี่ แล้วทำไมแกกอดฉัน แล้วทำไม ไม่ใส่เสื้อ”
“เดี๋ยวๆใจเย็นก่อน ทีละคำถาม”วอนโฮทีเพิ่งตั้งตัวลุกขึ้นยืนได้พูด มองผมด้วยใบหน้าแปลกๆ
“รีบๆอธิบายมา ก่อนที่ฉันจะเตะแกอีกรอบ”
“โมโหจริงแฮะ สรรพนามเปลี่ยนเฉย”
“- -“
“เออๆๆๆ รู้แล้ว เมื่อวานนายเมาอ่ะ เรียกให้กลับไปนอนห้องก็เอาแต่ไล่ฉัน ฉันก็เลยให้ขึ้นไปนอนบนเตียงฉันแทน”
ผมหรี่ตาลงอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อเพราะน่าจะจริงแหละ ผมคงเมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เมื่ออารมณ์ที่ปะทุเริ่มสงบลงผมก็ถอนหายใจ
“แล้วทำไมต้องมานอนอยู่เตียงเดียวกัน เสื้อก็ไม่ใส่”
“ไอ้จูฮอนมันไม่ชอบให้ใครไปนอนเตียงมันนี่ อีกอย่าง ฉันก็ไม่ใส่เสื้อนอนเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนเรื่องกอด เมื่อคืนนายเอาแต่พูดว่าอย่าทิ้งฉันไป ฉันก็เลย.. เอ้อ ไม่รู้ว่ะ เมื่อคืนฉันก็เมาๆเหมือนกันอ่ะ”
ผมเงียบไปพักนึง นี่ผมละเมอออกมาด้วยเหรอ คิดว่าแค่ความฝันซะอีก
“เข้าใจตรงกันแล้วเน๊อะ ไม่โวยวายแล้วใช่ปะ”
“เออ”ผมตอบส่งๆ หันไปมองนาฬิกาก่อนจะตาถลนอีกรอบ “แปดโมง!!!!!! แย่แล้ว”
“อะไร นี่ ถ้าวันนี้ไปเรียนไม่ไหวไม่ต้องไปก็ได้”
“ไม่ได้ วันนี้ฉันมีสอบ ไปนะ”ผมพูดรัวๆแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูห้องทันที
“นี่ แชฮยองวอน”
“อะไร”
“บ๊าย บาย ไว้มาใหม่น้าาาาาาาาาาาาา”
ผมแยกเขี้ยวใส่วอนโฮอย่างหงุดหงิด คนยิ่งรีบยังจะมาทำหน้าตากะล่อนใส่อีก เอาไว้ค่อยคิดบัญชี ตอนนี้ให้ไวเลยฮยองวอน แกสายอีกแล้ววววววววว
ผมเข้าสอบได้อย่างหวุดหวิด จำได้ว่าตอนเข้าไปทุกสายตามองมาที่ผม โดยเฉพาะลีมินฮยอกที่จ้องผมจนตามันแทบจะออกมานอกเบ้า แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ เดินไปนั่งข้างหน้ามันแล้วก็สอบตามปกติ ท่าทางผมจะแฮงค์แฮะ จนป่านนี้ยังมึนหัวไม่หายเลยเนี่ย
“โอ้โห เมื่อคืนไปทำอะไรมา สภาพโคตรแย่”
“ก็ นิดหน่อยว่ะ”ผมตอบมินฮยอกแล้วสะอึกอึกใหญ่
“หืมมมม กลิ่นนี่มัน ไปแอบดื่มมาหรือไงแชฮยองวอน”
“ไม่ได้แอบดื่มซะหน่อย”ผมปฏิเสธ “พอดีเจอเพื่อน ก็เลยไปดื่มด้วยกันนิดหน่อย อึก”
“แบบนี้ไม่หน่อยแล้วมั้ง”มินฮยอกมองผมแล้วส่ายหน้าไปมา “รอแป็บ เดี๋ยวไปซื้อน้ำมาให้ กินข้าวไปก่อนเลย”
“อืมๆๆๆ”ผมพยักหน้า ปล่อยให้มินฮยอกวิ่งไปซื้อน้ำมา
ตอนนี้เราอยู่ที่โรงอาหารกันแล้ว ผมกินอะไรไม่ค่อยลงหรอก แถมยังสะอึกไม่หยุด โอ๊ย โคตรทรมานเลยเนี่ย
กึก
เสียงจานข้าวกระทบกับโต๊ะดัง ผมเลยหันไปมองข้างๆ เจ้าของจานข้าวมองผมด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะนั่งลงข้างผม
“ที่มันเต็ม”เขาพูดสั้นๆแค่นั้น
ผมเลยหันไปมองรอบๆก่อนจะยิ้มมุมปาก “ที่จริงไม่เต็มนะ ตรงกอนฮีก็เหลืออยู่อีกที่”
“อยากให้ต่อยกันกลางโรงอาหารหรือไง”ชางกยุนพูดนิ่งๆ “ไม่ให้นั่งใช่ไหม จะได้ไป”
“เฮ้ยเดี๋ยวดิ อึก ใจร้อนจัง”ผมพูดพลางดึงแขนชางกยุนที่จะลุกออกไปไว้ “นั่งได้ นั่งเหอะ อึก”
เด็กนี่ไม่ได้ตอบอะไร แต่นั่งกินข้าวเงียบๆ ในขณะที่ผมยังไม่สามารถตักข้างเข้าปากได้เลย เพราะเอาแต่สะอึกไม่หยุด
“น่ารำคาญจัง”
“ฮะ?”
ผมมองชางกยุนอย่างงงๆ เมื่อกี้ได้ยินอะไรนะ น่ารำคาญเหรอ ไอ้หมอนี่ - -*
“อะไร”
ชางกยุนไม่ได้พูดอะไร แต่เปิดฝาขวดน้ำแล้ววางตรงหน้าผม
“อึก อะไร อึก”
“- - คนสะอึกเขาไม่ได้ต้องดื่มน้ำให้หายหรือไง”
เท่านั้นแหละ ผมก็ยิ้มกว้าง แล้วมองชางกยุนที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่สนใจ แต่ผมเห็นอยู่นะ หูเขาแดงอ่ะ เด็กนี่นี่มันน่ารักดีแฮะ
“ขอบใจนะ”ผมพูดแล้วยกน้ำดื่มอึกใหญ่ “ว่าแต่ เมื่อวานทำได้ดีมากเลยนะ”
“...”
“ต้องเป็นเพราะน้ำเกลือแร่พี่แหงๆ”
“..ก็แล้วแต่จะคิด”
ผมหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปยีหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู แต่ไอ้เด็กน้อยนี่มันไม่เล่นด้วย เพราะหันมาจ้องผมตาเขม็งเลย
“โอเคๆ หยุดก็ได้”ผมพูดกลั้วหัวเราะ “เฮ้ย หายสะอึกแล้วอ่ะ”
“หึ”
ได้ยินนะเว้ยว่าหัวเราะน่ะ
“มาแล้วววววววววววววว อ้าว”
ผมหันไปมองมินฮยอกที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับขวดน้ำ ผมเลยชูขวดน้ำขึ้น “ได้แล้วอ่ะ หายสะอึกแล้วด้วย”
“ฉันมาช้าไปเน๊อะ”มินฮยอกพูดยิ้มๆแล้วนั่งลงที่เดิม “หวัดดี”
“...”
ชางกยุนไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองมินฮยอกมันด้วยซ้ำ ผมเลยมองมินฮยอกแทน ซึ่งเพื่อนผมก็เพียงแค่ยักไหล่แบบไม่ได้ใส่ใจอะไร
“พี่ฮยองวอน พี่มินฮยอกกกกกกกกกกกก”
คราวนี้เป็นอีกสองเสียงที่ประสานกันมาแต่ไกล “หวัดดียุนโฮ หวัดดีซอกวอน”
“หวัดดีฮะพี่ อ้าว ไอเอ็ม”
“ไอเอ็ม?”ผมทวนคำยุนโฮอย่างงงๆ “ไอเอ็มคือใครอ่ะ”
“หึ”
แน่ะ ผมได้ยินชางกยุนหัวเราะอีกแล้ว
“อ้าวพี่ฮยองวอน พี่ไม่รู้จักไอเอ็มเหรอ มันก็นั่งอยู่ข้างพี่ปะ”
ผมมองชางกยุนตามที่ยุนโฮบอกแล้วเกาหัว “นายชื่อไอเอ็มเหรอ”
แน่นอนว่าผมไม่ได้คำตอบ สงสัยชางกยุนคงกลัวว่าถ้าพูดแล้วดอกพิกุลมันจะร่วงลงมามั้ง เฮ้อ หัดพูดให้มากเหมือนมินฮยอกหน่อยก็ไม่ได้
“แค่กๆๆๆๆ”
“อ้าวเฮ้ย”ผมโวยวายเมื่อจู่ๆมินฮยอกก็สำลัก “อะไรของนายเนี่ย”
“รู้สึกเหมือนโดนนินทาอ่ะ”มินฮยอกตอบ
นั่นทำให้ผมเสมองไปทางอื่น นินทาในใจมันยังมีญาณทิพย์รู้ได้อีก
“เดี๋ยวพวกผมไปซื้อข้าวก่อนนะ แล้วจะมานั่งด้วย”
“อืมๆๆๆ”ผมพยักหน้าให้ยุนโฮและซอกวอน ก่อนจะคว้าแขนชางกยุนที่ทำท่าว่าจะลุกอีกแล้ว “จะไปไหนอ่ะ อิ่มแล้วเหรอ”
“..คนเยอะน่ะ”
“ไปที่ไหนก็เยอะอยู่ดีแหละน่า”ผมบอกแล้วดึงให้เขานั่งลง “หัดมีเพื่อนบ้างสิชางกยุน”
“...”
“นั่นดิ ไอ้ยุนโฮกับไอ้ซอกวอนคบได้นะ”มินฮยอกเสริมผมแล้วเขกหัวผมเบาๆ “ข้าวน่ะจะกินไหม มันเย็นหมดและ”
“เออ รู้น่า”ผมบ่นอุบ แยกเขี้ยวใส่มินฮยอกที่กำลังหัวเราะอยู่แล้วตักข้าวเข้าปากอย่างอึนๆ
“ยังไงซะ มีเพื่อนก็ดีกว่าอยู่คนเดียวแน่ๆ”ผมพูด ยิ้มให้เขาที่หันมามองผม ก่อนจะยักคิ้ว “กอนฮีน่ะ ที่จริงมันอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ”
“อยากเป็นเพื่อน ..เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องมีเรื่องตลอดน่ะเหรอ”
“มันเป็นวิธีหาเพื่อนของเขาน่ะ”ผมเกาต้นคอตัวเองอีกครั้ง “มันอาจจะฟังแล้วแปลกๆไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะ กอนฮีบอกพี่เอง ว่าอยากเป็นเพื่อนกับนาย”
“...”
“เชื่อพี่นะชางกยุน”
“..อืม”
ผมยิ้มด้วยความพอใจ ไม่นานนักยุนโฮกับซอกวอนก็มานั่ง ขางกยุนดูจะอึดอัดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหน ผมขยิบตาให้ยุนโฮซึ่งเหมือนรู้งาน พยายามชวนชางกยุนคุย ซึ่งแม้จะได้คำตอบบ้างไม่ได้บ้าง แต่ผมก็ดีใจนะ
อย่างน้อยชางกยุนก็เริ่มเปิดใจให้ผมบ้างแล้วแหละ
...
ผมไม่อยากให้เขาต้องเป็นเหมือนผมเลย
“เออนี่ เรื่องทีมฟุตบอลอ่ะ ไปหาพี่ดงจุนมาแล้วนะ เขาบอกว่าฉันมีชื่ออยู่ในทีมแล้วว่ะ”
ผมมองมินฮยอกที่พูดเรื่องทีมฟุตบอลขึ้นมา ซอกวอนเองก็ยิ้มมุมปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะผมสั่งห้ามไว้ว่าไม่ให้บอก
“ไอ้เราเหรอก็กังวลไปตั้งนาน สุดท้ายก็มีชื่ออยู่แล้วอ่ะ”
“เลิกพูดเหอะ”ผมห้าม
“อะไร จะไม่ยินดีกับเพื่อนหน่อยหรือไง”
“ก็อยากจะยินดีนะ แต่ได้ยินเรื่องฟุตบอลแล้วจะอ้วกว่ะ”ผมพูด ทำท่าพะอืดพะอม มินฮยอกเลยเขกหัวผมอีกรอบ
“เขากำลังกินข้าวอยู่ ไอ้นี่”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
“ผมเห็นด้วย พี่เลิกพูดเรื่องบอลเถอะ ผมก็เป็น”ซอกวอนสนับสนุนผม
เราสองคนเข้าใจกันดีน่า แค่คิดก็จะอ้วกละ
เหนื่อยจะอ้วกน่ะ
“เย็นนี้เลิกเรียนไปเล่นบาสกันปะ”ยุนโฮชวน
“เอาดิๆๆๆ”แล้วมินฮยอกกับซอกวอนก็ตอบรับ
“ฉันขอบายว่ะ วันนี้มีเวรทำความสะอาดสระว่ายน้ำด้วย”
“โห่ ทำความสะอาดแป็บเดียวเอง พี่จะรีบกลับไปนอนก็บอก”
“อย่ามารู้ทัน”
มินฮยอกหัวเราะก่อนจะยีผมผม “นี่ยุนโฮ พี่ฮยองวอนของแกไปเป็นไอ้ขี้เมามาอ่ะดิ เมื่อเช้าก็เกือบเข้าสอบไม่ทัน ลองเข้าไปใกล้ๆดู กลิ่นนี่ แรงมาก อย่างกับคนไม่ได้อาบน้ำ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
เออดี หัวเราะกันเข้าไป มีความสุขกันมากสิ ผมเตรียมจะอ้าปากด่า แต่เมื่อเห็นว่าคนข้างๆผมก็แอบหัวเราะด้วย ผมเลยเปลี่ยนใจ
“ชางกยุน นายก็เป็นเล่นบาสกับพวกนี้สิ”
“เออใช่ ไปเล่นด้วยกัน”ซอกวอนชวน
ชางกยุนนิ่งไปพักนึง มองหน้าผมก่อนจะหันไปมองคนอื่น “อืม”
“โอเค ห้าโมงเจอกันสนามบาสนะครับ”ยุนโฮสรุป “พี่ฮยองวอน ถ้าอยากเล่นก็ตามไปนะ”
“เออ”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปก่อน”
“จะไปไหน”ผมถามมินฮยอกที่เตรียมลุกออกไป
“คือมีธุระนิดหน่อยน่ะ”
“ไปซื้อช็อค..”
“โนยุนโฮ”
“โอเค”
ผมมองมินฮยอกกับยุนโฮสลับกันอย่างงงๆ แต่มินฮยอกกลับยิ้ม แล้วชกไหล่ผมเบาๆ “เจอกันในห้องนะ”
“อืมๆๆๆ”
เป็นงี้ทุกวัน หลังจากกินข้าวเสร็จ เตรียมจะไปเรียนบ่าย ผมไม่เคยได้ขึ้นห้องพร้อมมินฮยอกหรอกนะ ชอบหายไปอยู่เรื่อย ไปไหนของมันก็ไม่รู้ ผมไม่ได้ถามด้วย เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวน่ะ
ก็สงสัยนะ
...
แต่ช่างมันเถอะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เริ่มมีเพื่อนแล้วนะดีจริงๆ
แ
เอ๊ะๆกี้ไปซื้ออะไรนะ อิอิ
ว่าแต่ ชีอคโกแล็ต ของมินฮยอกหรอ
ขออภัยแต่อยากบอกอีกรอบว่าชอบชางกยุนมากๆๆๆๆ โอ้ยย บทพูดมีแค่ "หึ" กับ "อืม" แค่เนี้ยะ พูดน้อยแอทแทครุนแรงมาก แงง สู้ไม่ได้ค่ะใจพัง ; - ; พี่แชใจดีจัง ทำให้กยุนยอมเปิดใจรับคนอื่นได้บ้างแล้ว
ไอเอ็มเปิดใจนิดๆแระ
ไอเอ็มจะมีเพื่อนแล้วซินะ ????????????