ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta_X] Another Time

    ลำดับตอนที่ #6 : Another Time : C H A P T E R S 5

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 58


    © themy butter


    Chapters 5

     

                สองอาทิตย์แล้วที่ผมมีผู้ชายแปลกหน้ามาอยู่ร่วมบ้าน ในระยะเวลาที่ผ่านมา จากแปลกหน้าก็เลยเริ่มเป็นคนคุ้นเคย เอ่อ ผมไม่ได้ให้ความหมายที่ลึกซึ้งอะไรนะ ก็หมายถึงเป็นคนคุ้นเคยที่อยู่บ้านเดียวกัน เป็นคนรู้จัก เป็นเหมือนเพื่อนที่มีแค่เขาที่รู้จักผมอยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย


                ผมมีโอกาสได้เจอกับกีฮยอนอยู่บ้างในช่วงที่ออกไปทำข่าวนอกสถานที่ เราได้พูดคุยกันนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องวอนโฮ ตอนแรกเขาตกใจนะที่ผมให้วอนโฮมาอยู่ด้วย เขาแค่อยากจะให้ผมไปรับวอนโฮออกจากสถานีตำรวจแค่นั้น แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องทำแบบผม คงไม่มีใครใจร้ายใจดำได้ขนาดทิ้งคนสติไม่ดีไว้กลางทางหรอกใช่ไหมล่ะ


                อีกอย่าง คนสติไม่ดี ตอนนี้กลับกลายเป็นคนฉลาดได้อย่างเหลือเชื่อ อย่างที่บอกคือหมอนี่ปรับตัวได้เร็ว เร็วมากถึงมากที่สุด ตอนนี้ไอ้ท่าทางแปลกๆ คำพูดแปลกๆไม่มีอีกแล้วล่ะ แถมยังได้เข้าไปฝึกงานในสำนักข่าวเดียวกันกับผม แล้วพี่มินฮยอกก็ดูจะชอบความฉลาดของเขามากเลยทีเดียว ถึงกับออกปากว่าอีกอาทิตย์นึงจะแต่งตั้งให้เขาเป็นนักข่าวประจำ        


               “ย๊า ตื่นได้แล้ว มัวนอนขี้เซาอยู่ได้ จะไปทำไหม งานน่ะ”


                “...”


                ผมเดินเข้าไปข้างในห้องนอน มองร่างที่อยู่บนโซฟาอย่างขัดใจ ปกติแล้วผมไม่ได้เป็นคนตื่นเช้า วอนโฮก็เช่นกัน เราสองคนมักจะตื่นพร้อมกัน แล้วดูวันนี้สิ ผมอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปทำงานเสร็จแล้ว แต่ไอ้หมอนี่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่เลย คิดว่าทำงานเก่งแล้วจะทำอะไรก็ได้เร๊อะ


                “ย๊า”


                ผมตะโกนเสียงดังอีกครั้ง ก่อนจะชะงักเมื่อได้มองเห็นใบหน้าของวอนโฮชัดๆ เหงื่อผุดเต็มหน้าแม้ว่าอากาศจะไม่ได้ร้อนเลยสักนิด แถมยังท่าทางกระสับกระส่ายนี่อีก


                “วอนโฮ นายไม่สบายเหรอ”ผมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่แขนของอีกฝ่ายเบาๆ “นี่”


                “อินฮยอง!!!!!!!!!!!


                จู่ๆวอนโฮก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับตะโกนชื่อที่ผมได้ยินเป็นประจำในช่วงแรกๆที่ได้เจอเขา ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วตอนนี้กลับดูซีดไปเลย เมื่อเห็นผม วอนโฮก็ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง ก่อนจะยิ้มบางๆ


                “ขอโทษที.. พี่ ฝันน่ะ”


                “อืม”คงเป็นฝันที่ไม่ดีด้วยสินะ “โอเคไหม”


                “อืม”เขาพยักหน้าเบาๆ ปากบอกโอเคแต่เห็นอยู่ชัดๆว่าไม่โอเค


                ผมดันให้เขานอนลงไปตามเดิม ก่อนจะมองนาฬิกา “ฉันจะออกไปซื้อข้าว ซื้อยามาให้ วันนี้นายลาสักวันแล้วกัน”


                “แต่พี่”


                “บอกว่าไม่ก็คือไม่ ลางานวันเดียว พี่มินฮยอกเขาไม่ฉีกอกนายหรอกน่า”


                “...”


                “นอนพักไปก่อน พอตื่นขึ้นมาก็จัดการเอาเองเลย แล้วอย่าลืมกินยาด้วยล่ะ ..ไปนะ”


                ผมเดินออกมาจากห้อง แล้วปล่อยให้วอนโฮนอนต่ออีกสักหน่อย ก่อนที่จะรีบวิ่งลงไปหาซื้อข้าวต้มหรืออะไรก็ตามที่คนป่วยพอจะกินได้มาเตรียมไว้ พร้อมกับวางยาไว้ข้างๆ


                ตอนนี้ผมกล้าปล่อยให้เขาอยู่บ้านคนเดียวแล้วล่ะ คงไม่ลุกขึ้นมาสู้กับทีวี หรือทำอะไรเพี้ยนๆแล้วมั้ง


                แปลกจังแฮะ


                ...


                จู่ๆผมก็รู้สึกแย่


                มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ผมจะรู้สึกแย่ทำไม ตอนที่ได้เห็นสายตาหลังจากที่วอนโฮตื่นขึ้นมา ถ้ามองไม่ผิด เหมือนเขากำลังร้องไห้ ผมมองเห็นความเจ็บปวดผ่านดวงตาคู่นั้น และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ผมรู้สึกแย่ แย่จนเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ


              ชื่อนี้ยังคงคุ้นอยู่ในหัว ยิ่งเวลาที่ได้ยินมันออกมาจากปากของวอนโฮ ผมก็ยิ่งคุ้น แต่คิดเท่าไหร่ผมก็คิดไม่ออก


                อินฮยอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

              -HOSEOK-


                ผมตื่นขึ้นมาอีกทีหลังจากที่รู้สึกว่านอนพอแล้ว อาการเวียนหัวเมื่อตอนเช้าเหมือนจะหายไปเยอะ ผมเลยเดินออกมาข้างนอก ก็เจอกับถ้วยที่มีข้าวต้มใส่เอาไว้ เลยเดินไปนั่งแล้วเริ่มกินมันช้าๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตที่มีข้อความเขียนเอาไว้สั้นๆ


                อย่าลืมกินยาล่ะ หายเร็วๆนะ


              เป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากฮยองวอน ผมยิ้มแล้วเก็บกระดาษแผ่นนี้เอาไว้อย่างดี


                พักนี้ผมฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ เหตุการณ์เดิมตามหลอกหลอนจนผมไม่เคยหลับอย่างสบายใจได้เลยสักคืน ยิ่งอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ ที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักทีว่าทำไม ผมถึงมาอยู่ที่นี่


                เรื่องในอดีตหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้อะไรเลย


                หลังจากกินข้าวต้มและยาที่ฮยองวอนทิ้งไว้ให้แล้ว ผมก็กลับเข้ามาในห้อง นอนลงบนโซฟาซึ่งเป็นที่ของผม ก่อนจะค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งเพราะฤทธิ์ยา



     

                “องครักษ์ชิน ข้าให้เวลาเจ้าได้ไปพักผ่อนกับภรรยาของเจ้า ไม่ต้องห่วงข้า ที่นี่มีทหารมากมาย ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรกับข้าแน่”


              “องค์รัชทายาท การอารักขาพระองค์ถือเป็นหน้าที่สำคัญยิ่งกว่าความสุขส่วนตัวของกระหม่อม”


              “นี่เจ้าจะขัดคำสั่งเรางั้นเหรอ”


              “กระหม่อมมิกล้า”


              “งั้นก็ไปได้แล้ว หน้าที่อีกอย่างของเจ้า ก็คือต้องทำให้อินฮยองมีความสุขไม่ใช่หรือ”


              “...”


              “ไปเถอะ

     

     

     

     




     

                “ท่านพี่ ข้าขอโทษ ข้ารักท่านพี่สุดหัวใจ รักเหลือเกิน”


                ...


                “ลาก่อน”

     

     

     

     

     

     

     




              “อินฮยอง!!!!!!!!


                “ย๊า ตกใจหมด”


                ผมหอบหายใจถี่ หลังจากเห็นภาพเดิมซ้ำอีกครั้ง และเมื่อลืมตาขึ้นมาก็เจอกับฮยองวอน ผู้ซึ่งไม่ใบหน้าเหมือนกับอินฮยองอย่างมาก


                “พะ พี่ ขอโทษ


                “นี่นายฝันเรื่องเดียวกับเมื่อเช้าหรือไง ทำไมถึงเป็นแบบเดิมเลยล่ะ”


                “...”


                “ออกไปนั่งรับลมข้างนอกไหม เผื่ออาการจะดีขึ้น”


                ผมพยักหน้า ก่อนจะลุกตามฮยองวอนออกไป เพราะบ้านของฮยองวอนอยู่บนดาดฟ้า ก็เลยมีพื้นที่หน้าบ้านแบบนี้ ลมเย็นๆช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริงอย่างที่ฮยองวอนบอก


                “ไม่สบายน่ะ หายหรือยัง”


                “น่าจะหายแล้ว พี่ไม่ได้ปวดหัวแล้วล่ะ”ผมตอบเพื่อให้อีกคนคลายความกังวล “ขอโทษนะ ที่ทำให้เป็นห่วง”


                “ก็ไม่ได้ห่วงเท่าไหร่หรอกน่า”ฮยองวอนตอบแล้วมองออกไปข้างหน้า “..อินฮยองน่ะ”


                “...”ชื่อของอินฮยองที่ออกมาจากปากฮยองวอนเรียกความสนใจจากผมได้เป็นอย่างดี “อินฮยอง ทะ ทำไมเหรอ”


                “เธอเป็นใครเหรอ”


                “...”


                “ได้ยินชื่ออยู่บ่อยๆ แถมทุกครั้งที่ชื่อนี้หลุดออกมาจากปากนาย นายก็ดูเศร้าทุกทีเลย”


                ผมยิ้มบางๆ ก้มมองต่ำ “อินฮยองเป็น.. คนรักของพี่”


                “คนรักงั้นเหรอ ถ้างั้นตอนนี้ เธออยู่ไหนล่ะ”


                “เธอตายแล้ว”


                “...”


                “ตายต่อหน้าพี่”


                “ขอโทษที่ถามนะ แล้วก็.. เสียใจด้วย”


                ผมยิ้ม เงยหน้ามองฮยองวอนที่กำลังมองผมอยู่เช่นกัน “ไม่ต้องขอโทษหรอก ไม่เป็นไร เรื่องมันนานมาแล้ว”


                จะว่าไปก็คงผ่านมาสองร้อยกว่าปีแล้วใช่ไหม


                “ทุกครั้งที่มองหน้าฮยองวอน ก็เหมือนว่าพี่เห็นอินฮยองอยู่ทุกครั้ง”


                “หน้าเราคงเหมือนกันมากสินะ”ฮยองวอนพูด ยิ้มบางๆให้ผม “ขอโทษนะ แต่ฉันไม่ใช่อินฮยอง”


                “อืม”


                ผมรู้ ว่าคนตรงหน้าผมตอนนี้ไม่ใช่อินฮยอง ตอนนี้เขาคือฮยองวอน แต่ผมมั่นใจว่าก่อนหน้านั้นเขาคืออินฮยอง ผมจำรอยที่หลังหูนั้นได้ดี อินฮยองก็มีเหมือนกัน รอยนั่นเกิดขึ้นตอนที่อินฮยองเดินทางเข้าป่าไปพร้อมกับพ่อของเธอ รอยที่ได้มาจากการปกป้ององค์รัชทายาท


                นั่นคือสิ่งที่ย้ำให้ผมได้รู้ว่าทั้งสองคนคือคนๆเดียวกันแน่นอน


                “เอ้อ จะว่าไปวันนี้ฉันแวะไปโรงพยาบาลมา พี่หมอเขาฝากนี่มาให้น่ะ บอกว่าวันที่นายเข้าโรงพยาบาล ตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้ามีไอ้นี่อยู่ด้วย”


                ผมมองของที่ฮยองวอนยื่นมาให้ ก่อนจะเผลอกำสิ่งนี้แน่น


                “เขาเกือบจะทิ้งไปพร้อมกับชุดฮันบกแล้วนะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสำคัญกับนายมากๆเลยยังไม่ได้ทิ้ง”


                “ใช่ มันเป็นสิ่งที่สำคัญ”    


                ผมก้มมองของที่อยู่ในมือ จู่ๆน้ำตาก็รื้นขึ้นมา


                “เฮ้ เป็นอะไรของนายน่ะ”


                ผมไม่ได้ตอบ แต่หยดน้ำตากลับหยดลงบนผ้าที่กำอยู่ ผ้ายันต์ผืนนี้อินฮยองเป็นคนให้ผมพกไว้กับตัว


                “วอนโฮ”


                “...”


                “เฮ้อ นายนี่มันจริงๆเลย”


                ผมได้ยินฮยองวอนบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ร่างของผมจะถูกดึงเข้าไปใกล้ พร้อมกับรู้สึกอุ่นๆที่รอบตัว


                “ปกติไม่กอดใครง่ายๆนะ แต่ให้วันนึงก็ได้ เลิกเจ็บปวดสักทีได้ไหม เห็นแล้วฉันรู้สึกแย่ไปด้วยนะ”


                “...”


                “วันนี้ฉันก็รู้สึกแย่มาทั้งวันเพราะนายเมื่อเช้า แล้วพอกลับบ้านนายก็ทำให้ฉันรู้สึกแย่ไปด้วยอีกแล้ว”


                “...”


                “ขอร้องล่ะ เลิกเจ็บปวดสักที นายควรจะต้องมีความสุขสิ”


                ผมยิ้ม ปล่อยให้น้ำตาไหลแบบนั้น ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วกอดตอบฮยองวอน


                “ขอบใจ ขอบใจนะ”



               

     

     

                “ท่านพี่ยังมีข้าอยู่เสมอ อย่ารู้สึกแย่อีกเลย”


              “อินฮยอง”


              “ท่านพี่จะต้องมีความสุข เลิกเจ็บปวดเสียที”


              “ได้ พี่สัญญา”


              “ยันต์นี้ จะช่วยคุ้มครองท่านพี่ให้พ้นจากทุกๆอันตราย ได้โปรดเก็บไว้กับตัวท่าน”


              “ขอบใจเจ้ามาก ดวงใจของพี่”

     















     

     

              ตอนนี้ผมว่าผมรู้แล้วล่ะ


                ผมคงมาที่นี่ เพราะยันต์ผืนนี้ ยันต์ที่ช่วยปกป้องผมจากอันตราย


                ยันต์ที่พาผมกลับมาหาเจ้าของมันอีกครั้ง














































    ปริศนาการมาของอครักษ์ชิน จะใช่อย่างที่คิดจริงๆหรือเปล่าน้ออออออ

    อีกไม่นานเราจะมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน แต่ตอนนี้มาช่วยไรท์หาคำตอบก่อน..

    คอมเม้นท์หายไปไหน??

    ฟิคทุกเรื่องเลย รู้สึกเหมือนคนหายไป หรือว่าไรท์แต่งฟิคไม่สนุกแล้ว

    หรือว่าเป็นช่วงสอบ หรือมีเหตุผลอะไร ยังไงก็ช่วยเติมพลังอัพฟิคให้ไรท์หน่อยนะ

    พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสส


    #องครักษ์ชิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×