ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MONSTA_X SEVENTEEN] C U R S E ▲

    ลำดับตอนที่ #3 : C U R S E ▲ | C H A P T E R 2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 60


    B
    E
    R
    L
    I
    N
     



    Chapter 2

     

                  [พี่ฮยองวอน วันนี้กลับบ้านค่ำๆนะ มีรายงานต้องทำ อยู่บ้านซูยอน ไม่ต้องเป็นห่วง]


     

              ฮยองวอนอ่านโน้ตที่แปะอยู่บนตู้เย็นขณะที่รินน้ำใส่แก้วดื่มไปด้วย จองฮันน่าจะกลับมาที่บ้านก่อนแล้วก็ออกไป หลังจากโทรเช็คที่บ้านซูยอนแล้ว ก็ค่อยสบายใจว่าจองฮันไปทำรายงานอยู่ที่นั่นจริงๆ


                  ที่ต้องโทรเช็ค ทำเหมือนจองฮันเป็นเด็ก ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจ แต่ที่ทำก็แค่เป็นห่วง และฮยองวอนโชคดี ที่น้องชายของเขาเป็นเด็กดี และเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ


                  ก็เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้องนี่นา


                  ฮยองวอนเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านเพื่อเข้าไปสะสางงานของตัวเองต่อ จอโน้ตบุ๊คเปิดค้างเอาไว้ ร่างบางเดินตรงไปนั่งประจำที่ วางมือลงบนแป้นเพื่อเตรียมพร้อม


                  ผ่านไปสิบห้านาที ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย


                  “อ๊ากกกกกกก แชฮยองวอน เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย


                  นิ้วเรียวทึ้งไปที่หัวของตัวเองด้วยความหงุดหงิด หลังจากกระโจนลงไปนอนอยู่บนที่นอนแล้ว ให้ตายเถอะ ไม่มีสมาธิเลย เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ฮยองวอนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนสาบานได้


                  ทำไมถึงได้เห็นแต่แววตาคู่นั้น ทั้งเย็นชา ลึกลับ ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ แต่ทำไม..


                  สลัดยังไงก็ไม่หลุดเลย


                  …


                  กริ๊ง


                  ฮยองวอนสะดุ้ง ดีดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านเมื่อมีเสียงกริ่งดังขึ้น น้อยคนที่จะมาหากันที่บ้าน เพราะฮยองวอนไม่ค่อยมีเพื่อน ส่วนจองฮันก็ไม่ค่อยบอกเพื่อนว่าบ้านอยู่ที่ไหนเพราะไม่อยากให้เพื่อนมาบ้าน


                  อาจจะเป็นซึงชอลล่ะมั้ง


                  “ว่าไงซึง ..เอ่อ สวัสดีครับ


                  “พวกเราคือเจ้าหน้าที่..”พูดจบผู้ชายคนนี้ก็ชูป้ายขึ้นมาก่อนจะก้มหัวเล็กน้อย ขออนุญาติเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านของคุณ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วยนะครับ


                  “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ


                  “มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นภายในบ้านเลขที่ 8 มีการใช้อาวุธในประเภทเดียวกัน เราสันนิษฐานว่าจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ยังจับตัวไม่ได้


                  “ถ้างั้นเชิญเลยครับ


                  ฮยองวอนพยักหน้า ผายมือเป็นเชิงว่าอยุญาติ ก่อนจะเดินออกมานอกรั้วบ้าน ถ้าเป็นบ้านเลขที่ 8 ก็เท่ากับว่าถัดไปอีก 5 หลัง มีผู้คนกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ และด้วยความที่มันอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ ฮยองวอนเลยเดินไปใกล้เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่


                  รู้ไว้อย่างน้อยจะได้ป้องกันตัวเองไว้


                  “อ้าว ฮยองวอน


                  “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับคุณป้าฮยองวอนถามคุณป้าบ้านหลังข้างๆ แม้ไม่สนิทสนม แต่ก็มีไมตรีที่ดีต่อกัน ตำรวจเข้าไปขอค้นบ้านผม


                  “บ้านป้าก็ถูกค้น เจ้าหน้าที่เขาต้องการรวบรวมหลักฐานเอาไว้ให้มากที่สุดน่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แถวๆบ้านของเรา


                  “ฆาตกรต่อเนื่องเหรอครับ


                  “ป้าก็ไม่แน่ใจนะ แต่เห็นเขาว่าสภาพศพเป็นอย่างศพที่ผ่านๆมา มีรอยเหมือนโดนฟัน แล้วก็จับแขวนคอ


                  แค่ได้ยิน ฮยองวอนก็ขนลุกซู่ด้วยความกลัวแล้ว ไม่อยากจะจินตนาการถึงสภาพศพ คงจะน่ากลัวมากเลยทีเดียว ว่าแต่คนที่ตายคือ..”


                  “เธออยู่ที่บ้านคนเดียวน่ะ สามีไปทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่รู้เรื่องแล้วก็คงรีบเดินทางกลับมานั่นแหละ โธ่เอ๊ยแม่คุณ ปกติก็ไม่ค่อยจะได้กลับบ้านอยู่แล้ว พอกลับบ้านดันเกิดเรื่องเข้า


                  “…”


                  “เธอเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองนู่นแหละ นานๆทีจะกลับ


                  “..ครับ


                  “ฮยองวอนกับจองฮันก็ระวังตัวไว้นะลูก มืดค่ำก็ล็อคประตูบ้านให้แน่นหนา แล้วดึกๆก็อย่าออกมาเดินข้างนอก ฆาตกรมันยังลอยนวลอยู่ ถึงเราจะเป็นผู้ชายแต่มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกบ้านป้าได้ตลอด


                  “ขอบคุณคุณป้ามากนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้ตลอดเลยนะครับ


                  “จ้ะ ดูแลตัวเองกันดีๆนะ


                  “ครับ คุณป้าก็เหมือนกัน


                  ยืนอยู่สักพัก ฮยองวอนก็ขอตัวกลับมาที่บ้าน พอดีกับที่เจ้าหน้าที่เดินออกมาจากบ้าน เจออะไรหรือเปล่าครับ


                  “ทุกอย่างเป็นปกติครับ ทางเข้าด้านหลัง รั้วบ้านไม่มีอะไรผิดปกติ ถ้าให้ดี ตอนกลางคืนล็อคประตูรั้วทั้งด้านหน้าด้านหลังเลยนะครับ มันอันตราย


                  “ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ


                  “ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ


                  ฮยองวอนก้มหัวเพื่อบอกลาเจ้าหน้าที่ เดินกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วต่อสายหาจองฮันทันที ซึ่งไม่นานนักปลายสายก็รับ


                  “จองฮันอ่า..”


                  (พี่ฮยองวอน ผมกลับสักสามทุ่มนะ งานมันเยอะมากเลย ต้องอยู่ช่วยกันก่อน พี่กินข้าวเย็นไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ)


                  “รีบกลับไม่ได้เหรอจองฮัน


                  (เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า)


                  ฮยองวอนถอนหายใจ ไม่ได้เล่าให้จองฮันฟัง เพราะกลัวว่าน้องจะกลัว เขารู้ดีกว่าใครว่าน้องชายของเขาเป็นคนขี้กลัว ขี้กังวลขนาดไหน เอาไว้สักพักค่อยบอกจองฮันก็แล้วกัน


                  “แถวบ้านมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ กลับดึกพี่เป็นห่วง


                  (อ๋อ ไม่ต้องห่วงนะ จะพยายามรีบกลับ)


                  “แล้วจะกลับยังไง ให้พี่ไปรอรับไหม


                  (ไม่ต้องหรอก เกรงใจพี่แย่เลย ไม่ต้องห่วงนะครับ กลับเองได้ เดี๋ยวโทรบอกนะ ผมไปทำงานต่อก่อน)


                  “แต่จอง.. ฮัลโหล จองฮันอ่า


                  ไม่ทัน วางสายไปซะแล้ว..


                  ฮยองวอนเม้มปากอย่างครุ่นคิด สุดท้ายก็ร้อนใจจนทนไม่ไหว ต่อสายหาอีกคน ซึ่งปลายสายก็รับแทบจะทันที


                  (ไฮเพื่อนเลิฟ คิดถึงเหรอ)


                  “ซึงชอล วันนี้ออกไปไหนหรือเปล่า


                  (หืม.. ไม่นะ)


                  “ถ้าไม่ได้ไปไหน วันนี้มานอนบ้านฉันไหม


                  (มีเรื่องอะไรปะเนี่ย)


                  “ไว้จะเล่าให้ฟังนะ แต่ว่า ช่วงสามทุ่ม ช่วยไปที่บ้านเพื่อนของจองฮัน แล้วรับน้องกลับมาพร้อมนายได้หรือเปล่า เดี๋ยวฉันแชร์โลเคชั่นไปให้


                  (อ่า ก็ได้อยู่นะ แต่น้องนายน่ะจะมากับฉันไหม)


                  “บอกว่าฉันสั่งก็ได้ นะ ยังไงก็รับจองฮันมาด้วย อย่าให้จองฮันกลับคนเดียวล่ะ


                  (โอเคๆ นายดูร้อนใจแปลกๆนะ เอาไว้เล่าให้ฉันฟังด้วย)


                  “อื้ม งั้น แค่นี้ก่อน


                  ฮยองวอนวางสาย อย่างน้อยก็โล่งใจไปได้หนึ่ง ให้ซึงชอลไปรับจองฮันมาคงไม่เกิดเรื่องอะไร ซึงชอลน่ะพึ่งพาได้ ถึงแม้จองฮันจะดื้อไปสักหน่อย แต่น่าจะเอาอยู่


                  คราวนี้ก็เหลือแต่ตรงตัวเองนี่แหละ


                  ตากลมมองสำรวจไปทั่วบ้าน เดินลงมาข้างล่าง ผ่านไปยังสวนหลังบ้านก่อนจะล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ปิดหน้าต่างหลังบ้านทุกบานแล้วล็อคประตูด้านในอีกชั้น ยังไงซะช่วงนี้ก็คงต้องอยู่อย่างหวาดระแวงไปก่อน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแถวบ้าน ใครจะสบายใจลงกันล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     





     

                  กังวลซะจนเผลอหลับไป ฮยองวอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที เมื่อเสียงนาฬิกาเตือนว่าตอนนี้สองทุ่มแล้ว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่เห็นว่าจองฮันจะโทรเข้า เลยเดินเข้าไปในครัว เพื่อเตรียมกับข้าวเผื่อซึงชอลผู้กินจุด้วย หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีนะ คืนนี้คงไม่เกิดเรื่องอะไรอีกล่ะมั้ง ถ้ามีเรื่องจริงๆ คนที่ทำก็คงจะกล้ามากเกินไปแล้วล่ะ


                  พรึ่บ


                  “!!!!!!”


                  ฮยองวอนหันกลับไปมองข้างหลัง เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผ่านไป แต่ก็มีเพียงแค่ความว่างเปล่า


                  “คะ ใครน่ะ


                  ไม่มีเสียงและการเคลื่อนไหวใดๆอีก แต่ฮยองวอนมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเองแน่ ดีที่กำลังทำกับข้าว ทำให้ตอนนี้มือกำมีดเอาไว้แน่น อย่างน้อยถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ฮยองวอนก็ยังมีอาวุธไว้ป้องกันตัวล่ะนะ


                  แม้มันจะไม่ค่อยช่วยอะไรก็เถอะ


                  “…”


                  เหมือนมีก้อนอะไรใหญ่ๆมาจุกอยู่ที่คอ ทำให้ตอนนี้แม้แต่จะหายใจยังลำบากเลยสำหรับฮยองวอน แม้จะปลอบใจตัวเองว่าไม่กลัว แต่ขากลับสั่นในทุกๆก้าวที่กำลังเดินไปข้างหน้า


                  ตึง!!


              เฮือก!!!!!”


                  ร่างบางสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากหน้าบ้าน จะให้เดินไปหยิบโทรศัพท์ก็ไม่ทันแล้ว ทางที่ดีขึ้นต้องหาทางออกจากบ้านให้เร็วที่สุด อย่างน้อยบ้านข้างๆก็น่าจะช่วยเหลือได้


                  คิดตื้นๆได้แบบนั้น ฮยองวอนก็รีบวิ่งไปที่หน้าประตู หายใจเข้าลึกๆแล้วตัดสินใจเปิดประตู


                  “อ๊ากกกกกกก


                  “…”


                  “นะ นาย!!!!!!!!”


                  ฮยองวอนมองมือของตัวเองที่ถูกตรึงเอาไว้ มีดที่ถืออยู่หล่นลงพื้นเพราะถูกแรงบีบจากข้อมือบังคับให้ต้องปล่อย ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว


                  “ฮยองวอน ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ แต่พวกเราเอง


                  “มะ มินฮยอก


                  “เฮ้ โฮซอก ทำแบบนั้นฮยองวอนก็กลัวหมดสิ


                  “…”


                  ฮยองวอนละสายตาจากมินฮยอกหันมามองดวงตาที่ฝังอยู่ในความทรงจำมาทั้งวัน ก่อนที่มือจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ พะ พวกนาย มาทำอะไรที่บ้านฉัน


                  “ขอโทษทีนะที่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า จะมาคุยเรื่องรายงานน่ะ ซึงชอลก็เลยบอกให้เรามาที่นี่เพราะเขาก็จะมาเหมือนกัน


                  “หระ เหรอ..”


                  “แล้วนี่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ นายดูกลัวๆ


                  ฮยองวอนพยักหน้า แอบปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด พอดีแถวบ้านเกิดเรื่องน่ะ


                  “อ๋อ ฉันได้ยินมาเหมือนกัน ไอ้เรื่องฆาตกรต่อเนื่องอะไรนั่นใช่ไหม


                  “อืม ใช่ ฉันก็เลย..”


                  “ปัญญาอ่อน


                  “ฮะ


                  ฮยองวอนมองโฮซอกที่จู่ๆก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ว่านะ เขาด่าใคร ด่าฮยองวอนเหรอ


                  “นายว่าฉันเหรอ


                  “คิดว่าว่าใครล่ะโฮซอกตอบเสียงเรียบ ถ้าเกิดเป็นฆาตกรจริงๆ วิ่งออกมาแบบนี้ คงถูกมันฆ่าตายง่ายๆ


                  “-o-“


                  “แทนที่จะอยู่ในบ้าน โทรหาตำรวจ หรือไม่ก็ขึ้นไปอยู่ในห้องแล้วล็อคให้แน่นหนา รอจนกว่าจะมีคนมา ไม่ปัญญาอ่อนก็โง่แล้วล่ะ ที่วิ่งทะเล่อทะล่าออกมา


                  สาบานได้ว่ามันเป็นประโยคที่ยาวสุดๆแล้ว ที่ฮยองวอนได้ยินจากโฮซอก แต่มันคงจะดีกว่านี้นะ ถ้าไม่ใช่คำด่า


                  ให้ตายเถอะหมอนี่..


                  “ถ้าเกิดการกระทำของฉันมันปัญญาอ่อนเกินจะทนได้ก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน วินาทีที่กลัว ฉันก็คิดได้แค่นี้แหละ


                  “หึ..”


                  “เอ่อ เอาน่าๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันมินฮยอกที่เห็นท่าไม่ดีรีบมาห้ามทัพ ก่อนจะฉีกยิ้มให้เจ้าของบ้าน ยังไงพวกเราก็ขอโทษอีกครั้งนะ ที่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า


                  “ไม่เป็นไร


                  มินฮยอกกับโฮซอกนี่ต่างกันคนละขั้วเลย เป็นเพื่อนกันได้ไงก็ไม่รู้..


                  “แต่นายก็ไม่ต้องกลัวแล้วนะฮยองวอน


                  “หืม..”


                  ฮยองวอนหันไปมองมินฮยอก แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างโฮซอกกลับเป็นคนเอ่ยปาก


                  ฉันอยู่นี่แล้ว


                  …


                  แปลก ..เขาแปลกจัง


                  ฮยองวอนเองก็แปลก


                  ใจเต้นแรงทำไมนักหนาเนี่ย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                  “พวกพี่ทำไมถึงเพิ่งย้ายมาล่ะ นี่มันกลางเทอมไม่ใช่เหรอ เกิดเรื่องอะไร หรือไปสร้างปัญหาอะไรจากที่เก่าใช่ไหม


                  “จองฮัน อย่าเสียมารยาทสิ


                  คนถูกพี่ดุเบ้ปาก ก่อนจะอ้าปากเถียง ใครที่มาใกล้พี่ ก็ต้องสัมภาษณ์ก่อนสิ ไม่งั้นเดี๋ยวก็เป็นแบบไอ้บ้านี่กันหมดอ่ะ


                  “อ้าวๆ พูดให้ดีๆหน่อยครับคุณน้อง ไอ้บ้าอะไร ออกจากหล่อ นิสัยดี และรวยมาก


                  “แหวะ


                  “ดูน้องนายนะฮยองวอน ฉันอุตส่าห์ไปรับ ขอบคุณสักคำยังไม่มี เนี่ยเหรอ เด็กดีของนาย


                  “ก็จะมีมารยาทแค่กับคนที่อยากจะมีเท่านั้นแหละ กับคนบางคนนะ พูดด้วยยังไม่อยากจะพูดเล้ย


                  “พอๆๆๆฮยองวอนรีบห้าม เพราะกลัวจะไปกันใหญ่ จะทะเลาะกันก็เกรงใจโฮซอกกับมินฮยอกหน่อยได้ไหม


                  มินฮยอกหัวเราะ โบกมือรัวๆ ไม่ต้องเกรงใจ ตามสบายเลย


                  “ชิจองฮันเบ้ปากแล้วแอบแลบลิ้นใส่ซึงชอล ก่อนจะหันไปเท้าคางมองเพื่อนใหม่ของพี่ชายทั้งสองคนอีกที ตกลงว่าไง ตอบคำถามด้วยครับ


                  “อ่า..”มินฮยอกเกาคางอย่างใช้ความคิด คือพวกเราแค่ย้ายบ้านน่ะ บ้านเก่ามันเก่ามากแล้ว เลยย้ายมหาลัยด้วย แค่นี้แหละ


                  “อ๋อ โอเค แล้วพวกพี่สองคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วเหรอ


                  “ไม่เชิงมินฮยอกตอบ หันไปมองโฮซอกที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ “..เหมือนญาติ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะ


                  “หูย ดีจัง พวกพี่ดูเป็นเพื่อนที่ดีนะ ไม่เหมือนใครบางคน


                  “นี่ไอ้หนู จะแขวะอะไรนักหนาเนี่ยซึงชอลแหว เมื่อถูกจองฮันแซะ หล่อเกินไปเลยหมั่นไส้กันใช่ปะ


                  “หลงตัวเอง ไปดีกว่า เหนื่อยจะตาย ยังต้องมาปะทะฝีปากกับคนบ้าอีก ..ไปนอนก่อนนะพี่ฮยองวอน


                  “อื้มฮยองวอนพยักหน้า รับร่างของน้องที่เข้ามากอดเหมือนอย่างทุกวัน ล็อคหน้าต่างดีๆนะ ประตูด้วย ถ้ามีอะไรเดี๋ยวพี่ไขกุญแจเข้าไปเอง


                  “อื้อ ฝันดีนะ ไปก่อนนะครับ พี่มินฮยอก พี่โฮซอก


                  “เฮ้ยๆ ลืมลาใครไปอีกคนปะ นั่งหัวโด่อยู่นี่เนี่ย


                  “แบร่!!!”


                  “เอ้าซึงชอลขมวดคิ้ว หันไปมองฮยองวอน ดูน้องนายดิ ไม่เคยจะเคารพกันเล้ยยยยยยยยยยยย


                  “เอาน่าฮยองวอนปลอบขำๆ ก็เป็นแบบนี้กันมาตั้งนานแล้ว ชินๆไปซะเถอะ


                  “เฮ้อ ..เออ ว่าแต่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ถึงให้ฉันมานอนด้วย


                  “แค่อยากให้ไปรับจองฮันมาส่งน่ะ แต่ว่าไม่อยากให้ขับรถกลับตอนดึกๆ มันอันตรายฮยองวอนบอก ซึงชอล ..แถวบ้านเพิ่งเกิดเรื่อง มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นน่ะ


                  “เฮ้ย จริงดิ


                  “อื้ม ฉันเป็นห่วงน้อง ยังไงก็อาจจะต้องรบกวนนายบ่อยๆนะ ถ้าวันไหนที่มันมืดมากแล้วนายนอนค้างที่นี่เลยก็ได้


                  “ได้ๆ ให้ฉันมานอนที่นี่เลยไหมล่ะ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยได้


                  “อย่าเลย ฉันเกรงใจ แค่วันที่จองฮันต้องกลับมืดๆก็พอฮยองวอนบอก มองเพื่อนใหม่ทั้งสองคน เอ่อ คะ คืนนี้ถ้าพวกนายไม่อึดอัด จะนอนที่นี่ก็ได้นะ มันดึกมากแล้ว


                  “ไม่ล่ะโฮซอกปฏิเสธทันที


                  “อ่า ไม่ต้องห่วงพวกเรานะฮยองวอน ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอกมินฮยอกพูดยิ้มๆ ว่าแต่ เรื่องงานเป็นไงบ้าง


                  “โห่ นี่งานมันก็ไม่ได้เร่งขนาดนั้นนะ ใช้เวลาแค่วันสองวันเอง พวกนายรวบรวมข้อมูลกันได้เยอะขนาดนี้เชียวเหรอ


                  ฮยองวอนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะข้อมูลที่ได้มามันค่อนข้างเยอะเกินกว่าที่คิดเอาไว้ ก่อนจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ลุกไปหยิบผลไม้ที่ปอกใส่ตู้เย็นไว้ออกมาให้แขก


                  “แต่มันจริงเหรอ ที่บอกว่าพวกมันอยู่รวมกันเป็นฝูงมีอัลฟ่า เบต้า แล้วก็โอเมก้าอะไรเนี่ย จริงเหรอวะ ที่เบต้า โอเมก้าจะกลัวอัลฟ่า ถ้าเป็นมนุษย์หมาป่าจริง มันก็เหมือนกันหมดปะ


                  “เอ่อ นี่ผลไม้ฮยองวอนยื่นจานไปตรงหน้าของมินฮยอก ยิ้มอย่างใจดี กินสิ หวานนะ


                  “ขอบใจนะฮยองวอนมินฮยอกยิ้มตอบ หยิบแอปเปิ้ลในจานขึ้นมา ไม่ได้กินเองแต่กลับส่งให้โฮซอก อ่ะ นายกินสิ


                  “อืม


                  ฮยองวอนขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก บางทีมินฮยอกคงเป็นพวกชอบดูแลคนอื่นล่ะมั้ง อีกอย่าง โฮซอกก็ดูเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะขยับตัวด้วย เขาดู..


                  “…”


                  ให้ตายเถอะ ดันสบตาพอดีอีกแล้ว แบบนี้ก็ยิ่งลบสายตาของเขาออกจากหัวไม่ได้เข้าไปใหญ่เลยสิ


                  “เออ แล้วที่บอกว่าพลังเยอะนี่จะเยอะสักแค่ไหนเชียว เดี๋ยวถ้าเจอ ฉันจะเตะโชว์ให้ดูซึงชอลพูดขำๆ


                  มินฮยอกเลยหัวเราะตามไปด้วย ได้ๆ พอเจอแล้วช่วยโชว์ให้ดูหน่อยนะ


                  “แน่นอนเพื่อน


                  ทั้งห้องอาหาร ได้ยินแต่เสียงของซึงชอลและมินฮยอกที่พูดคุยกัน ในขณะที่ฮยองวอนก้มหน้ากินผลไม้งุดๆ ไม่กล้าเงยขึ้นมา รู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ตลอดเวลา


                  แววตาของโฮซอกมันคุ้น แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปเคยเห็นมาจากที่ไหน


                  แววตาที่ดูเย็นชา ลึกลับ น่าค้นหา แต่ทว่า..


                  กลับอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อคู่นี้























    ช่วงนี้นิยายหรือฟิคฆาตกรรมกำลังมาแรง ขอตามกระแสซะโหน่ย

    แต่รับรองเรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆแน่นอน จะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

    อาจจะมาอัพบ่อยๆ ถ้าฟีดแบ็คดีๆ ยังมีอะไรลึกลับ ซับซ้อนให้ค้นหาอีกเพียบเลย ฝากด้วยนะคะ

    รักค่ะ


    #คำสาปชินแช

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×