คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Another Time : C H A P T E R S 2 0
Chapters 20
ฮยองวอนนั่งทำงานเหมือนปกติของทุกวัน
แต่ที่ไม่ปกติก็คือกีฮยอนที่ไม่ค่อยจะอยู่เท่าไหร่วันนี้กลับอยู่ ยังไม่ทันได้คุยกันโทรศัพท์ของฮยองวอนก็มีคนโทรเข้ามาเสียก่อน
“สวัสดีครับ”
(คุณฮยองวอน
ผมจูฮอนนะครับ)
ฮยองวอนเงียบไปอึดใจแล้วตอบกลับไป
“ครับ ผมเมมชื่อไว้แล้ว”
ความจริงก็พูดไปงั้น
เพราะถ้าเมมเชื่อไว้ฮยองวอนจะไม่รับสายเขาเด็ดขาด ไม่รู้ว่าทำไม ก็ยังคงรู้สึกไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี
ถึงจะรู้ว่าที่ผ่านมาเขาทำไปเพราะเข้าไปสืบก็เถอะนะ แต่มันติดภาพนั้นไปแล้วนี่
(ตอนนี้พักเที่ยง
ว่างหรือเปล่าครับ ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย)
ฮยองวอนก้มมองนาฬิกา
“ว่างครับ แต่คงไม่นาน”
(แป็บเดียวก็ได้ครับ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
เจอกันที่ร้านอาหารใกล้ๆกับที่ทำงานคุณก็ได้ครับ ผมจะถึงแล้ว)
“ครับ”ฮยองวอนรับคำ
เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วมองเพื่อนสนิทที่ยืนจ้องหน้าอยู่ “อะไร”
“คุณจูฮอนเหรอ”
“อืม”
“เขาโทรมาทำไมอ่ะ”
“ไม่รู้
บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก”ผมตอบส่งๆ เก็บของแบบไม่สนใจอะไร
“สารภาพรักหรือเปล่า”
“- - ตลกมากไหม”
กีฮยอนย่นจมูกเมื่อถูกฮยองวอนมองด้วยสายตานิ่งๆ
“คุณจูฮอนเขาก็โอเคออก เหมือนเขาจะชอบนายด้วยนะ ทำไมไม่ลองเปิดใจดู
ลองคุยกันก็ไม่เสียหายนี่นา”
“ไม่ล่ะ
ก่อนนายจะห่วงฉัน นายห่วงตัวเองดีกว่าไหม”ฮยองวอนย้อนกลับ
“โห่
ฉันเลือกอยู่หรอก ไม่ใช่ไม่มีใครเข้ามาสักหน่อย”
“หึ”ร่างสูงหัวเราะในลำคอ
สะพายกระเป๋าเป้ “จะออกไปกินข้าว ไปด้วยกันไหม”
“ไปสิ
อยากรู้เหมือนกัน ว่าคุณจูฮอนเขาจะบอกอะไรนาย”
ใช้เวลาเดินเท้าเพียงแค่ไม่ถึงสิบนาที
ทั้งสองคนก็มาถึงร้านอาหารที่นัดกับจูฮอนเอาไว้ เขามาถึงก่อนแล้ว
น่าจะมาถึงก่อนสักพักแล้วด้วย เพราะเหมือนว่าจะสั่งอาหารไปเรียบร้อยแล้ว
“ขอโทษที่มาช้านะครับคุณจูฮอน”กีฮยอนพูด
“ผมมาด้วยได้ใช่ไหมครับ คุณไม่อึดอัดที่ผมอยู่ใช่ไหมครับ”
“ไม่หรอกครับ”จูฮอนตอบยิ้มๆ
มองฮยองวอนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “คุณโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“ครับ
..ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”ฮยองวอนเริ่มโยงเข้าประเด็นทันที
เพราะไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ ถึงจะไม่ได้เกลียดเขา
แต่ก็รู้สึกอึดอัดกับเขาอยู่ดีนั่นแหละ คนเกลียดมาตั้งนาน
จู่ๆจะให้มารู้สึกดีด้วยง่ายๆมันก็คงไม่ได้หรอกมั้ง
“เรื่องสำคัญมากๆครับ”จูฮอนพูดอย่างจริงจัง
มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย “เมื่อวานเราได้ทำการย้ายผู้ต้องหาอิมไปที่อื่น
แต่เขาหนีไปได้”
“วะ
ว่าไงนะ”
“ครับ
เขาหนีการจับกุมไปได้”
“งั้นแบบนี้ก็แสดงว่าเขาลอยนวลอยู่ข้างนอกสิครับ”กีฮยอนสรุป
“แบบนี้ฮยองวอนจะเป็นอะไรไหม”
“เรื่องนี้แหละครับทำให้ผมต้องนัดคุณออกมาคุย”จูฮอนอธิบาย
“ทางการสั่งให้ผมคอยอารักขาคุณฮยองวอนจนกว่าจะจับกุมตัวคุณอิมได้ ตราบใดที่เขายังอยู่ข้างนอก
นั่นหมายความว่าเขาจะทำอันตรายคุณฮยองวอนเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะคุณเป็นพยานหลักในการฟ้องร้องเขา”
“แบบนี้มันน่ากลัวมากเลยนะฮยองวอน”กีฮยอนหันไปมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“นายกลับไปอยู่กับพี่มินฮยอกไหม”
“..ไม่ล่ะ”ฮยองวอนปฏิเสธ
“คงไม่มีอะไร”
“ไม่มีบ้าอะไรล่ะ
นายอย่าลืมนะ ว่าคนที่นายให้อยู่ด้วยตอนนี้น่ะเป็นลูกชายคนเดียวของเขา
ถ้าเกิดหมอนั่นทำร้ายนายขึ้นมาจะทำยังไง เลิกไว้ใจใครง่ายๆสักทีเถอะ”
“แต่ชางกยุนจะไม่ทำอะไรฉันหรอก
ฉันมั่นใจ”
“นายจะมั่นใจได้ไง
นายรู้จักเขาดีเหรอ”
“อย่าลืมสิกีฮยอน
ครั้งหนึ่งนายก็เคยฝากคนแปลกหน้าไว้กับฉันนะ เขาไม่เห็นจะทำร้ายฉันเลย
หนำซ้ำเขายังคอยช่วยปกป้องฉันอีก”
กีฮยอนอ้าปากเหวอๆ
“ฉันเคยฝากใครไว้กับนายด้วยหรือไง”
นั่นทำให้ฮยองวอนต้องเงียบไป
จริงสินะ ความทรงจำของทุกคนมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว จะมีก็แต่เขาที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย “..ช่างเถอะ”
“ไม่รู้ล่ะ
ยังไงนายก็ต้องไปไล่หมอนั่นออกจากบ้านนายซะ หรือไม่ก็กลับไปอยู่กับพี่มินฮยอก”
ฮยองวอนจ้องหน้าเพื่อนรักที่เอาแต่สั่ง
เขาไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่ากีฮยอนเป็นห่วงมากแค่ไหน
“ฉันขอโทษนะกีฮยอน
แต่ฉันทำตามที่นายบอกไม่ได้ ..ทั้งสองอย่าง”
“ฮยองวอน!!”
“ฉันจะไม่ไปอยู่กับพี่มินฮยอก”
เพราะเผื่อเขากลับมา
เดี๋ยวเขาจะไม่รู้ว่าฉันไปอยู่ที่ไหน
“และฉันก็จะไม่ไล่ชางกยุนไป”
เพราะชางกยุนเป็นคนเดียวที่รับฟังฉันมากที่สุด
จูฮอนนั่งมองเพื่อนรักทั้งสองคนที่เถียงกันไปมา
และถ้าขืนปล่อยให้เถียงกันต่อไปคงได้มีทะเลาะกันแน่ๆ
เขาจึงต้องหาบทสรุปให้กับเรื่องนี้
“ถ้างั้นให้ผมไปนอนที่บ้านคุณฮยองวอนด้วยอีกคนนะครับ”
“ทำไมคุณต้องไปนอนบ้านผมด้วย”
“เพราะยังไงตอนนี้ผมก็มีหน้าที่คอยดูแลคุณอยู่แล้ว
คุณไม่ต้องไปอยู่กับคุณมินฮยอกและไม่ต้องไล่คุณชางกยุนออกไปก็ได้
แต่ต้องให้ผมไปอยู่ด้วย เพราะผมก็เป็นอีกคนที่ไม่ไว้ใจเขา”
ฮยองวอนเม้มปาก
มองกีฮยอนที จูฮอนที สุดท้ายก็ต้องตกลง เพราะไม่อยากมีปัญหากับกีฮยอน “ถ้างั้นก็ได้ครับ
ตามใจคุณ”
“ครับ
ผมจะรีบกลับไปเก็บของ แล้วตอนเย็นๆจะไปรับคุณที่ทำงาน”
“ไม่ต้องครับ
เจอกันที่บ้านเลยดีกว่า ผมมีธุระต้องไปทำ”
“ให้ผมไปด้วยก็ได้ครับ”
“ผมไปคนเดียวสะดวกกว่าครับ
ผมดูแลตัวเองได้ คุณไม่ต้องห่วง เจอกันที่บ้านผมนั่นแหละครับ”
“ถ้างั้นก็ได้ครับ”จูฮอนจำต้องตกลงเพราะไม่อยากทำให้ฮยองวอนอึดอัดที่อยู่กับตัวเอง
ต้องทำยังไง
ถึงจะทำให้ฮยองวอนมองเขาใหม่บ้าง ในสายตาฮยองวอน
ยังไงซะจูฮอนก็ยังคงเป็นผู้ร้ายอยู่ดีใช่ไหม เคยบอกไปแล้วไงล่ะ
อยากเล่นบทพระเอกบ้างนะ
ฮยองวอนออกมาเดินเล่นคนเดียว
ในมือถือกล้องโพราลอยด์ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ถึงจะใช้ชีวิตปกติ แต่ฮยองวอนรู้ตัวดีว่าเขาไม่เคยปกติ
ในทุกๆรอยยิ้มซ่อนน้ำตาเอาไว้ เขาติดตามวอนโฮในทุกๆวัน อ่านประวัติศาสตร์วันละหน้า
ความจริงจะอ่านไปเลยก็ได้ แต่ฮยองวอนแค่กลัว
อาจจะถึงวันที่ไม่มีเรื่องของเขาในประวัติศาสตร์อีกแล้ว
ดังนั้นเลยเลือกอ่านแค่วันละหน้า ให้พอได้รู้ว่าเขามีชีวิตเป็นยังไงก็พอ
ตอนนี้เขากลับไปรับตำแหน่งตามเดิม
ดูเหมือนว่ามีแม่สื่อหลายคนพยายามจะจับคู่ให้เขา
แต่องครักษ์ชินเลือกที่จะใช้ชีวิตเพียงลำพัง
มันทำให้ฮยองวอนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาว่าเขาก็คงยังไม่ลืมฮยองวอนเหมือนกัน
“ที่ตรงนี้
พี่เคยอยู่มาก่อนสินะ”ฮยองวอนพึมพำเบาๆ มองพระราชวังตรงหน้า
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ฮยองวอนอยากจะมาเดินเล่นที่พระราชวังคยองบกแห่งนี้ ทั้งๆที่พ่อแม่ของเขาชอบเรื่องประวัติศาสตร์ก็เถอะ
แต่ตอนนี้ฮยองวอนกลับต้องมาที่นี่ทุกวัน เดินเล่นสักวันละหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ค่อยกลับบ้าน
คิดถึงอีกแล้วพี่วอนโฮ
ในขณะที่กำลังนั่งมองบรรยากาศรอบๆ
โทรศัพท์ของฮยองวอนก็มีสายจากมินฮยอกเข้ามา เขาเลยกดรับ “ครับ”
(กลับบ้านหรือยัง)
วันนี้มินฮยอกออกไปประชุมข้างนอก
ก็เลยไม่ได้เจอหน้ากันเลยทั้งวัน
“กำลังจะกลับแล้วครับ”
(อืม
พี่ก็กำลังจะกลับ อยากไปหาอะไรกินกันไหม)
“ไม่ดีกว่าครับ
ผมอิ่มแล้ว”
(..นั่นสินะ
พี่ก็กะเอาไว้แล้วล่ะว่านายจะต้องตอบพี่แบบนี้)
เสียงของมินฮยอกทำให้ฮยองวอนรู้สึกผิดเล็กน้อย
“วันหลังนะครับพี่มินฮยอก ผมไม่รู้ว่าพี่จะกลับมาตอนไหนก็เลยออกไปกินกับกีฮยอนมาแล้ว”
(งั้นก็ได้)
“พี่มินฮยอกรู้เรื่องนายอิมหรือยังครับ”
(มีอะไรเหรอ)
“ตอนนี้เขาหนีออกมาแล้วนะครับ”
(...)
“..พี่มินฮยอกต้องระวังตัวด้วยนะครับ
ตอนนี้อันตรายมาก แต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ คุณจูฮอนจะคอยดูแลผม”
(งั้นก็ดีแล้วล่ะ
..เดี๋ยวพี่ขับรถก่อนนะฮยองวอน ไว้คุยกัน)
“ครับ
ระวังตัวนะครับ”
(อื้ม
ไม่ต้องห่วงนะ)
หลังจากวางสาย
ฮยองวอนก็เก็บโทรศัพท์ แล้วหยิบกล้องมากดชัตเตอร์ตรงหน้า
ระหว่างที่ดึงรูปออกมาก็มีลมแรงพัดเอารูปในมือปลิวไป
ฮยองวอนเลยตามเก็บแต่รูปกลับปลิวไปอยู่ข้างใต้ของบ้านหรืออะไรสักอย่างของคนสมัยก่อน
แขนยาวเอื้อมไปจนสุดแขนเพื่อหยิบเอารูปออกมา
แต่ทว่าสิ่งที่หยิบกลับออกมาได้ไม่ได้มีแค่รูป แต่มีโหลแก้วใบหนึ่งติดออกมาด้วย
ไหนๆก็เป็นคนเจอ ขอถือวิสาสะเปิดมันเลยแล้วกันนะ
ฮยองวอนเปิดโหลแล้วหยิบเอากระดาษในนั้นออกมาคลี่ออกอย่างเบามือ
เพราะดูเหมือนว่ากระดาษจะเก่ามากๆ ถ้าจับแรงคงขาดติดมือได้
“สวัสดีฮยองวอน..”
แค่เพียงบรรทัดแรกที่อ่าน
น้ำตาก็เอ่อขึ้นมาทันที
ฮยองวอนยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมเพื่ออ่านสิ่งนี้อย่างตั้งใจ
เขาจำลายมือนี้ได้ จำได้เป็นอย่างดี
สวัสดีฮยองวอน
ถ้าฮยองวอนได้อ่านหรือรับรู้ในสิ่งที่พี่เขียน
อาจมีอยู่ 3 ความเป็นไปได้
คือหนึ่ง
ตอนนี้เราสองคนอยู่ด้วยกัน และพี่เป็นคนพาฮยองวอนมาที่นี่ เพื่อนำมันมา
สอง
อาจมีใครสักคนพบเจอ แล้วช่วยกระจายข่าวจนถึงฮยองวอนของพี่
หรือสาม
ฮยองวอนอาจเป็นคนเจอมันด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม
พี่อยากบอกให้ฮยองวอนได้รับรู้
ไม่มีวันไหนที่ในใจของพี่ไม่มีใบหน้าและรอยยิ้มของฮยองวอน
พี่ยังคงรักและคิดถึงน้องอยู่เสมอ
ในทุกๆช่วงเวลาที่พี่หายใจ
ชายหนุ่มแหงนหน้ามองฟ้าแล้วใช้มือข้างที่ว่างพัดเบาๆที่หน้าพร้อมกับเป่าลมออก
แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลย เมื่อน้ำตามันไหลอาบแก้มไปหมดแล้ว ดีที่ตรงนี้ไม่มีใคร
ไม่งั้นคงมีคนมองว่าเขาบ้าเพิ่มอีกแน่ๆ
ไม่ผิดแน่ๆ
นี่คงเป็นจดหมายที่เขียนเอาไว้หลายร้อยปีที่แล้ว
จากวอนโฮถึงตัวเขา
พี่คิดว่าพี่คิดถึงเป็นอยู่คนเดียวงั้นเหรอ
“ผมก็คิดถึงพี่
ฮึก แทบบ้าอยู่แล้ว”
ขอบคุณอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เราทั้งสองคนได้เป็นคนรู้จัก
เป็นคู่ครองของกันและกัน
พี่อยากให้ฮยองวอนรู้ว่าแม้เราสองคนอาจไม่มีโอกาสได้พบเจอกันในชาตินี้อีกแล้ว
นั่นหมายความว่าเวลาของเราสองคนยังมาไม่ถึง
แต่พี่สัญญา
ไม่ว่าจะชาติไหน
พี่จะขอเจอฮยองวอน และรักฮยองวอนแต่เพียงผู้เดียว
ช่วยรอพี่นะ
แล้วสักวัน เราสองคนจะพบกัน เมื่อถึงวันนั้น เราจะมีกันและกันตลอดไป
“ตอนนี้.. มาเจอกันตอนนี้”ฮยองวอนพูดเสียงเครือ
เอาจดหมายมาแนบอกแล้วร้องไห้อยู่คนเดียว “ผมไม่อยากรอ.. เจอกันตอนนี้ไม่ได้เหรอ”
อยู่ด้วยกันตลอดไปตั้งแต่ตอนนี้..
ไม่ได้เหรอ
#องครักษ์ชิน
ความคิดเห็น