ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Monsta_X] Another Time

    ลำดับตอนที่ #11 : Another Time : C H A P T E R S 1 0

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 59


    © themy butter


    Chapters 10

     

                หลังผ่านวันนั้นไป ไม่มีอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิม ผมกับวอนโฮยังคงใช้ชีวิตไปกับการทำงานแล้วก็กลับมาทำงานที่บ้านต่อ ชีวิตมีแต่งาน งาน งาน มันก็มีข้อดีนะ เพราะอย่างน้อย งานก็ไม่ทำให้ผมคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย จนถึงวันนี้ผมก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ง่ายๆอยู่ดีนั่นแหละ ว่าคนที่อยู่บ้านเดียวกับผมทุกวันนี้คือคนที่ข้ามเวลามาจากอดีต


                แถมยังเป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในหน้าประวัติศาสตร์อีก


                ผมไม่ได้ทำงานสองวันเพราะพี่มินฮยอกสั่งให้ผมพักผ่อนอยู่บ้าน เมื่อผมกลับไปทำงานก็ได้ข่าวดี เมื่อนักข่าวทีมอาชญากรขอลาออก ตอนนี้เลยขาดนักข่าวสำคัญไป ผมเลยได้กลับมาทำหน้าที่เดิม โดยตำแหน่งผมในทีมข่าวบันเทิงก็ตกเป็นของวอนโฮไปโดยปริยาย


                เมื่อได้กลับมาทำข่าวเดิม ทำให้ผมอารมณ์ดีมากขึ้นเป็นพิเศษ ผมเบื่อเวลาที่ต้องไปเจอผู้คนใส่หน้ากากเข้าหากันเต็มทนแล้ว ได้กลับมา ผมจะได้กลับมาทำข่าวที่ผมค้างเอาไว้ให้มันจบๆไปซะที


                ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ เลทมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมถึงยังไม่มาสักทีนะ


                “เชิญด้านในเลยค่ะ”


                ผมยืดตัวตรงทันทีเมื่อได้ยินเสียงพนักงานต้อนรับ แสดงว่าบุคคลที่ผมนัดเจอมาถึงแล้ว อย่างที่รู้ผมทำข่าวอาชญากร ผมไม่ได้มีแค่หน้าที่หาข่าว การทำข่าวแบบนี้ทำให้ผมอยากเป็นตำรวจนะ ผมสนุกทุกครั้งที่ได้ออกสืบหาความจริง และข่าวของผมสามารถเปิดโปงคนทำผิดได้ด้วย


                “สวัสดีครับคุณ.. ทำไมถึงเป็นคุณ”ผมเอ่ยทักทายอย่างนอบน้อมในตอนแรกแล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเมื่อมองเห็นคนที่เข้ามาชัดๆ เขาไม่ใช่คนที่ผมนัดมา แล้วเขามาที่นี่ได้ยังไง


                “ตกใจที่เห็นผมมากเหรอครับคุณนักข่าว”


                “ผมคิดว่าคุณคงเข้าห้องผิด ที่นี่ไม่ใช่ห้องของคุณนะครับ”


                “ผมเข้าห้องถูกแล้วล่ะครับ ห้องไหนที่มีคุณอยู่ ผมก็ต้องเข้าห้องนั้นแหละ”จูฮอนพูดเสียงเรียบพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม “คิดว่าคนที่คุณนัดมาเขาจะมาเหรอ คนกระหายเงินแบบนั้น แค่จ่ายให้มากกว่า เขาก็ปิดปากเงียบไปตลอดชีวิตแล้ว”


                ผมกำมือแน่น เมื่อเสียพยานคนสำคัญให้กับพวกมันอีกจนได้


                “ถ้างั้นผมขอตัว”ผมลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกขัดเอาไว้


                “รีบไปไหนล่ะครับ ไหนๆก็มาแล้ว ทานข้าวก่อนค่อยกลับสิ”


                “เห๊อะ”ผมหัวเราะในลำคอ เหลือเชื่อจริงๆผู้ชายคนนี้ คิดว่าตัวเองเป็นใคร “ไม่ล่ะครับ อยู่ที่นี่กับคุณ ผมอึดอัดจนไม่เป็นอันทำอะไรหรอก”


                พูดจบผมก็เดินผ่านเขาไปที่ประตู แต่..


                “ใครเป็นคนทำคุณเจ็บ”


                “...”


                “ได้ยินว่าคุณนอนโรงพยาบาลเพราะหัวแตก เกิดอะไรขึ้น”


                ผมเม้มปากแน่น หันไปมองคนที่ถามออกมาหน้าด้านๆ “คุณจะถามในเรื่องที่คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจทำไม ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมน่ะมันดวงแข็ง ฆ่าไม่ตายง่ายๆ”


                ทิ้งท้ายเอาไว้แล้วผมก็เดินออกมาด้วยความหงุดหงิดที่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ผมอยากทำข่าวนี้ให้เสร็จเร็วๆ ผมจะต้องเปิดโปงเรื่องชั่วๆที่หมอนั่นทำเอาไว้ให้ได้ ถ้าพี่มินฮยอกไม่ย้ายผมซะก่อน ผมคงทำเสร็จไปนานแล้ว ให้ตายเถอะ


                “ฮยองวอน”


                ผมหันไปทางคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน ก่อนจะถอนหายใจ “นายมาช้าไปละ”


                “ขอโทษที พอดีรถติดนิดหน่อย แล้วจะไปไหน”


                “กลับน่ะสิ”ผมตอบวอนโฮที่ทำหน้างงๆ “คนที่นัดไว้เขาไม่มาแล้ว”


                ผมลืมแฟ้มเอกสารก็เลยให้วอนโฮไปเอามาให้ แต่มันจะไปมีประโยชน์อะไร เสียเวลาจริงๆเลย


                “จะกลับไปทำงานหรือเปล่า หรือต้องออกไปทำงานข้างนอก”


                “ไม่มี”เขาตอบก่อนจะยิ้มหวาน “หิวไหม ไปหาอะไรกินกัน”


                “ก็ดี หงุดหงิดแบบนี้ต้องหาอะไรหวานๆเย็นๆมาดับ ไม่งั้นอกแตกตายแน่”


                วอนโฮหัวเราะก่อนที่เราสองคนจะเดินออกไปนอกร้านพร้อมกัน แต่ยังไม่ทันพ้นประตู คนที่ผมเพิ่งเจอก็เดินมายืนขวางหน้าเอาไว้


                “ผมไม่เคยอยากให้คุณตาย”เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไปจากร้าน


                ผมแค่นหัวเราะ “เห๊อะ ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ ยังจะมาทำพูดเอาดีเข้าตัวอีก”


                “...”


                “ไปเถอะ”ผมชวน แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อหันไปมองก็เห็นวอนโฮมองตามจูฮอนไปไม่ละสายตา ก็เลยสะกิดเขา “ย๊า เป็นอะไร”


                “จูมยอง”


                “ฮะ?”


                “ผู้ชายคนนั้น..”


                อะไรอีกล่ะเนี่ย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                -HOSEOK-


                หลังจากฮยองวอนพาผมไปหาของกิน เราก็กลับมาที่บริษัท ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองแต่หัวสมองของผมกลับไม่ได้คิดเรื่องงานเลย


                ผู้ชายคนนั้น ผมจำหน้าเขาได้ ไม่มีทางลืม จูมยอง.. ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและศัตรูในเวลาเดียวกัน


                ฮยองวอนบอกว่าคือจูฮอน ลีจูฮอนในชาตินี้ แต่ผมไม่ได้บอกฮยองวอนหรอกนะ ว่าจูฮอนก็คือจูมยองในอดีต ฮยองวอนเล่าให้ฟังมากมายว่าเขาคือคนไม่ดี คือต้นเหตุของการเจ็บตัวครั้งที่ผ่านมาของฮยองวอน


                ผมไม่ปักใจเชื่อ


                เคยบอกไปแล้วว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันมันสอดคล้องกับในอดีต แม้มันจะไม่ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้ผมค่อนข้างมั่นใจ


                สายตาของเขาไม่เคยเปลี่ยนเลยเวลาที่มองฮยองวอน


                จูมยองก็เคยใช้สายตาแบบนี้มองอินฮยอง นั่นทำให้ผมมั่นใจว่าต้องไม่ใช่เขาแน่ๆที่ทำร้ายฮยองวอน เขาไม่กล้าและจะไม่มีวันทำหรอก


                จูมยองชอบอินฮยองมาก และถ้าผมเดาไม่ผิด


                ลีจูฮอนก็ชอบฮยองวอนมากเช่นกัน


                เขาจะไม่ทำร้ายคนที่เขารักแน่นอน


                “คุณโฮซอก”


                “ครับ”ผมลุกขึ้นยืนก้มหัวให้ทันทีที่ถูกเรียก เห็นไหมล่ะ มันแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก ในอดีตเขาเป็นเจ้านายผม ตอนนี้เขาก็ยังเป็นเจ้านายของผมอยู่ดี “คุณมินฮยอกมีอะไรเหรอครับ”


                “อย่าลืมไปงานแถลงเปิดตัวละครเรื่องใหม่ของช่องนะครับ”


                “ครับ ผมกำลังเตรียมตัวจะออกไป”


                “ไม่ต้องรีบก็ได้ เหลือเวลาอีกเยอะ”เขาพูดอย่างใจดี “ตั้งใจทำงานนะครับ หวังว่าคงไม่ทำให้ผิดหวังที่เลือกคุณมา”


                “ผมจะตั้งใจเต็มที่เลยครับ”


                คุณมินฮยอกเดินออกไป ผมเลยเปิดคอมพิวเตอร์ตรงหน้าเพื่อหาอะไรอ่านฆ่าเวลา ขอบคุณตัวเองที่สามารถปรับตัวได้เร็ว ไม่งั้นชีวิตผมคงลำบากมากแน่ๆ


                ผมเปิดหน้าที่เคยเปิดอ่านค้างเอาไว้ ฮยองวอนบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องพกหนังสือไปตลอดเวลาเพราะสามารถหาอ่านได้จากสิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต แน่ล่ะ ผมจะอ่านอะไรได้นอกจากประวัติศาสตร์


                ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะกลายเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ไปซะแล้ว แต่ละที่ให้ข้อมูลของผมไม่เหมือนกันเลย บ้างก็บอกว่าผมคลั่งอำนาจ บ้างก็บอกว่าผมเป็นคนป่าเถื่อน และอีกสารพัดที่ล้วนแล้วไม่มีเรื่องดีๆรวมอยู่เลย


                สุดท้ายผมก็ต้องปิด เพราะถ้าอ่านต่อไปผมคงทนไม่ไหวแน่


                ผมล้วงเข้าไปในเสื้อ หยิบผ้ายันต์ที่ฮยองวอนคืนออกมาดู ผมไม่เคยได้สังเกตผ้ายันต์ผืนนี้อย่างละเอียด รู้สึกว่าสีมันซีดลงไปกว่าเดิมหรือเปล่านะ


                “เอ๊ะ..”


                ผมขยับผ้ายันต์ แล้วมองที่ส่วนท้ายของผ้า มีข้อความบางอย่างเขียนเอาไว้ ผมเตรียมจะเอาขึ้นมาอ่านแต่..


                “วอนโฮ จะออกไปทำข่าวข้างนอกหรือยัง ไปได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันนะ”


                เสียงเรียกของเพื่อนร่วมทีมทำให้ผมต้องเก็บผ้ายันต์ไว้ที่เดิมแล้วรวบของใส่กระเป๋า “ไปแล้วครับ”


                เอาล่ะ ตอนนี้ผมไม่ใช่องครักษ์ชินแล้ว ผมคือนักข่าวบันเทิงชินต่างหาก


                ได้เวลาเริ่มต้นใหม่แล้วนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                -HYUNGWON-


                พี่มินฮยอกมาส่งผมที่บ้านหลังจากที่พาผมไปหาของอร่อยกินแล้ว ตอนนี้วอนโฮน่าจะยังไม่กลับบ้าน งานเขาคงยังไม่เสร็จ เพราะถ้าเปิดตัวละครเรื่องใหม่ อย่างน้อยก็สองชั่วโมงนั่นแหละหว่าจะได้เริ่มทำข่าวจริง


                โถ น่าสงสาร


                แต่จะให้ผมกลับไปทำไหม บอกเลยว่า ไม่ เด็ด ขาด


                “วันอังคารตอนเย็นทำตัวให้ว่างด้วยนะ”


                “ครับ?”ผมหันไปมองพี่มินฮยอกอย่างแปลกใจ พลางปลดเข็มขัดนิรภัยออก “มีงานเหรอครับ”


                “หึๆ”


                “ทำไมผมต้องทำตัวให้ว่างด้วย”


                “นี่ลืมจริงๆเหรอ”พี่มินฮยอกถามพลางลูบหัวผมเบาๆ “ตัวแสบเอ๊ย วันที่สามไง”


                ผมนิ่งคิดทบทวนที่พี่มินฮยอกบอก ในที่สุดก็ถึงบางอ้อทันที “อ๋อออออออ วันเกิดพี่”


                “เสียใจนะที่นายลืมวันเกิดพี่”


                “ผมไม่ได้ลืม แค่เบลอไปชั่วขณะต่างหาก”ผมรีบแก้ “ได้เลยครับ วันนั้นผมจะเคลียร์คิวให้ว่างทั้งวันเพื่อพี่เลย”


                “พี่จะไปประชุมห้าวัน กว่าจะกลับก็วันอังคารตอนบ่ายๆ เดี๋ยวพี่จะมารับ โอเคไหม”


                “ครับ”


                พี่มินฮยอกยิ้มอบอุ่นให้ผมอีกครั้ง ผมเลยก้มหัวให้เขาแล้วเดินออกจากรถ “บ๊ายบาย”


                รถของพี่มินฮยอกออกตัวไปช้าๆ ผมเลยเดินไปตามทางเดิน วันสำคัญขนาดนี้ผมจะให้อะไรพี่มินฮยอกดีนะ แค่คิดก็ตื่นเต้นโดยไม่มีเหตุผลแล้ว


                ผมแวะร้านค้าระหว่างทางแล้วซื้อรามยอนไปสามห่อ เชื่อเถอะว่าพอกลับบ้าน วอนโฮได้หิวจนไส้จะขาดแน่นอน เพราะงั้น ผมจะกลับไปต้มรามยอนที่เขาชอบเพื่อรอเขากลับมาแล้วกัน


                กลับมาถึงบ้านผมก็โทรหาวอนโฮ เขาบอกว่ากำลังกลับ ผมเลยไปที่ห้องครัว เอาน้ำใส่หม้อมาต้มแล้วใส่เส้นรามยอนลงไป ปรุงรสเหมือนที่เคยทำ ก่อนจะยิ้ม


                “นายน่ะโชคดีแค่ไหน ที่ฉันทำอาหารให้กิน ถึงจะแค่รามยอนก็เถอะ”


                พอคิดมาถึงตรงนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ ..ถ้าเป็นอินฮยอง เธอทำอาหารให้เขาบ้างหรือเปล่า


                ก็คงทำแหละ เป็นผู้หญิงนี่


                แต่ผู้หญิงก็ใช่ว่าจะทำอาหารกันทุกคนซะหน่อย


                แล้วนี่ผมมาคิดบ้าอะไร จะไปสงสัยทำไมกับเรื่องอดีต


                บ้าไปแล้วสินะผมเนี่ย























































    เอาแล้วไง อีกคนพยายามปรับตัวเพื่อเริ่มชีวิตใหม่

    แต่อีกคนกลับเริ่มสงสัยในอดีต


    #องครักษ์ชิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×