ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ]...Conscience...[Kibum x Eunhyuk]

    ลำดับตอนที่ #2 : - Conscience - 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 52








    ......................................................................................................

    2

    ร่างเล็กๆ เดินเตะพื้นเตะหินไปเรื่อย จินตนาการว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากำลังทำร้ายมันอยู่เนี้ย เป็นเจ้าเพื่อนแก้มป่องหน้าตายที่ทำแกล้งไม่รู้ว่าเขากำลังงอน ไม่สิ! โกรธต่างหาก ว่าแต่ เขาโกรธหมอนั่นเรื่องอะไรกันนะ เว้ย!! ลีฮยอกแจอยากจะบ้าตาย ทำไมช่วงนี้มันถึงหงุดหงิดนักวะ

    “พะ...พี่ฮยอกแจ” เสียงเล็กใสดังขึ้นข้างหลังของฮยอกแจ เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกนั่น ก่อนจะอ้าปากเหวอไม่รู้จะทักทายคนตรงหน้าว่าอะไรดี

    “มะ...มินอา เอ่อ....พี่เสียใจดะ...”

    “พี่คิบอมเขาเปลี่ยนใจง่ายจังเลยนะคะ เพิ่งจะเลิกกับฉันเมื่อวานนี้เอง มาวันนี้ก็ควงผู้หญิงคนใหม่ซะแล้ว” เสียงเศร้าตัดพ้อเพื่อนสนิทของเขาอย่างน้อยใจ เขาไม่รู้จะแก้ตัวแทนพ่อคาสโนว่านั่นยังไงดี เพราะมันก็ถูกอย่างที่มินอาว่าจริงๆ

    “คือ...พี่ก็มีส่วนผิดที่แนะนำมินอาให้คิบอม พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษแทนคิบอมด้วย” มินอาส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะยิ้มเศร้าๆออกมา น้ำใสจากตาคู่ที่เคยร่าเริงไหลหยดลงมาอาบทั้งสองแก้ม ความรู้สึกผิดและสงสารกระแทกเข้ามากลางหน้าฮยอกแจ มินอาเป็นเด็กดี เป็นรุ่นน้องที่น่ารัก เขารู้สึกผิดที่ทำให้มินอาต้องเสียใจขนาดนี้ มือผอมบางของรุ่นพี่ค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้รุ่นน้อง มินอาทำให้เขานึกถึงมินแจ น้องสาวตัวเล็กของเขาก็ขี้แยอย่างนี้เหมือนกัน ร่างของมินอาโผเข้ากอดเขาไว้ ก่อนจะร้องไห้เสียงดัง ฮยอกแจไม่มีทางเลือกมากนัก เขาลูบหัวมินอาปลอบโยนให้เธอหยุดร้องไห้ คนตัวผอมนึกโกรธเพื่อนรักขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะหมอนั่นคนเดียวเลย จะมีสาวๆอีกกี่คนกันนะ ที่ต้องเสียใจเพราะเพื่อนเจ้าชู้ของเขา

    เป็นเวลานานทีเดียวกว่ามินอาจะหยุดร้องไห้ เล่นเอาเสื้อนักเรียนตัวนอกตรงช่วงไหล่เล็กเปี้ยกชื้นไปหมดเลย เขาเดินไปส่งมินอาที่ตึกเรียน แล้วสองขาเรียวค่อยก้าวเดินพาตัวเองไปที่จุดหมายแรกที่ตัวเองตั้งใจจะไป แต่ดูเหมือนความตั้งใจจะเป็นเด็กดีของเขามันจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่เลย

    “นี่นาย นายตัวขาวคนนั้นน่ะ” เสียงของผู้หญิงคนนึงเรียกเขาเอาไว้ ร่างเล็กหันซ้ายหันขวาให้แน่ใจว่าเสียงนั่นเรียกตนจริงๆ ฮยอกแจเข้าไปหาเธอคนที่เรียกเขา สองเท้าหยุดอยู่ตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้กำลังแบกหนังสือสูงท่วมหัว ร่างของเธอเซไปเซมา เขานึกสงสารจึงหวังดีจะช่วยแบ่งหนังสือจากมือเธอ แต่เธอก็หยุดเขาไว้ก่อน

    “ไม่ๆ ของนายน่ะอยู่ในห้องอาจารย์นู้น ช่วยฉันแบกอีกตั้งไปไว้ที่ห้องสมุดทีสิ”

    “เอ่อๆ ได้!!” คนตัวขาวเดินเข้าไปในห้องพักอาจารย์ตามคำบอกของเธอคนนั้น เขาเห็นหนังสือตั้งใหญ่วางอยู่ที่โต๊ะอาจารย์คนนึง เขายกมันขึ้นมาด้วยสองแขนเล็กของตัวเอง โอ้!! หนักเป็นบ้า ยัยนั่นแบกได้ยังไงกันนะ

    “ตามมาเร็วสิ” ผู้หญิงจอมทึกคนนั้นยังคงออกคำสั่งกับเขาไม่หยุดย่อน ร่างเล็กทำหน้างงๆแต่ก็ยอมเดินตามเธอไปอย่างว่าง่าย

    เราสองเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้องสมุด ตลอดทางฮยอกแจเป็นฝ่ายที่ต้องคอยเดินให้ทันผู้หญิงบึกบึนคนนี้ เธอเดินได้แบบสบายๆทั้งที่แบกหนังสือตั้งใหญ่พอๆกับเขา ในขณะที่เขาเดินเหมือนคนที่ดื่มมาอย่างหนัก

    “วางตรงนี้แหละ ขอบใจมาก” ฮยอกแจวางหนังสือเล่มสุดท้ายลงก่อนจะเงยหน้ามารับคำขอบคุณนั่น คนตาหวานมองหน้าหญิงจอมทึกก่อนจะรู้สึกคุ้นๆ ว่าเคยเจอเธอคนนี้ที่ไหนกันนะ แล้วเขาก็นึกออกจนได้

    “อ้าวเธอที่เจอที่ร้านหนังสือเมื่อวานนี่นา”

    “เอ๋?”

    “ฉันไง ฉันเดินชนเธอเมื่อวานน่ะ”

    “ใครกัน ไม่เห็นจำได้เลย”

    “หา เธอจำไม่ได้หรอ?

    “ก็ใช่น่ะสิ นายพูดเรื่องอะไรของนาย”

    “อ้อ งั้นก็ขอโทษที” คำจำกัดของผู้หญิงคนนี้ก็คือ สวย น่ารัก จอมพลัง แล้วก็ความจำสั้น

    “แฟนนายน่ารักจัง”

    “เอ๋? ใครกัน”

    “เห็นยืนกอดกันอยู่นี่”

    “อ๋อ มินอาหรอ? ไม่ใช่แฟนหรอก เธอเป็นรุ่นน้องน่ะ”

    “ชอบรุ่นน้องงั้นสิ”

    “ป่าวนะ เธอเป็นแฟนเก่าของเพื่อนฉัน เธอเสียใจที่เพิ่งเลิกกันก็เลยร้องไห้ ฉันแค่บังเอิญอยู่ตรงนั้นไม่ได้แล้งน้ำใจเลยช่วยปลอบเธอ แค่นั้นเอง”

    “…อืม ฉันนายอนนะ ปาร์คนายอน เป็นบรรณาลักษณ์ห้องสมุด อยู่ห้อง A ยินดีที่ได้รู้จัก” มือที่เล็กกว่ามือของเขาเพียงเล็กน้อยยื่นออกมาข้างหน้าฮยอกแจ เพื่อเป็นการผูกมิตร คนตัวบางรีบยื่นมือไปจับอย่างเงอะงะ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรจะทำ

    “เอ่อ...ฉันฮยอกแจ ลีฮยอกแจอยู่ห้อง B ยินดีที่ได้รู้จัก” บ้าจริง ฮยอกแจเกลียดตัวเองที่สุด เขามักจะทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาที่ต้องอยู่กับผู้หญิง แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ได้เชี่ยวเหมือนคิมคิบอมนี่

    “โอ้โห!! นายขาวจังเลยนะ เคยโดนแดดบ้างรึป่าวเนี่ย ดูสิ นายขาวกว่าฉันอีก” นายอนเพื่อนใหม่ที่เป็นบรรณาลักษณ์ เทียบสีผิวตัวเองกับผิวของเขาแล้วทำท่าตื่นเต้นเป็นการใหญ่ อันที่จริงเขาก็ไม่ชอบใจนักหรอกที่ตัวเองมีสีผิวที่ขาวผิดผู้ชาย เขานึกอยากจะมีผิวเข้มแบบเจ้าเพื่อนตัวดีบ้าง แต่คิบอมบอกเขาว่า นายคงเหมือนไก่รมควันนานเกินไปมากกว่า

    ฮยอกแจแอบมองใบหน้าของนายอนเหมือนที่เขาทำเมื่อวาน นายอนน่ารักมาก เขาชอบดวงตาของเธอ มันสดใสและดูใจดี เหมือนกับ ‘ลียุนฮี’ แม่ของเขา บรรณาลักษณ์จอมพลังลากเขาเข้าไปในเคาร์เตอร์ยืมหนังสือและพูดแกมบังคับให้ช่วยจัดหนังสือหน่อย ร่างเล็กที่ปกติไม่ค่อยปฏิเสธอะไรใครอยู่แล้วจึงนั่งลงข้างๆเธอแล้วช่วยเธอจัดหนังสืออย่างว่าง่าย นายอนเองก็ดูไม่ใช่คนช่างพูดอะไรนัก แต่เธอก็ยังใจดีเล่าเรื่องต่างๆในห้องสมุดให้เขาฟัง เขาตั้งใจฟังเธอเป็นอย่างดี เหมือนลูกน้อยที่ตั้งใจฟังแม่เล่านิทาน จนหมดเวลาพัก

    “ไว้เจอกันใหม่นะ ฮยอกแจห้อง B “

    “อื้ม ^^ ไว้เจอกันใหม่”

    “พูดว่า นายอนห้อง A สิ”

    “หา?”

    “ก็ฉันจะเรียกนายว่า ฮยอกห้อง B ส่วนนายก็เรียกฉันว่า นายอนห้อง A ไง”

    “อะ อ้อ...ได้ นายอนห้อง A “

    “ดีมาก บาย”

    บรรณาลักษณ์ห้อง A เดินแกมวิ่งไปที่ตึกเรียนของตัวเอง ส่วนฮยอกแจก็จะกลับเข้าห้องเรียนของตัวเองเหมือนกัน


    คนตัวเล็กเดินเข้ามาภายในห้องเรียน อาจารย์ประจำวิชายังไม่มา เขาหย่อนก้นลงตรงที่นั่งประจำของตัวเอง ที่โต๊ะข้างๆเขาก็ยังคงว่างเปล่า เพื่อนหน้าหล่อยังไม่มาอีกหรอ? ป่านนี้คงกำลังนั่งสวีทกับยัยทิฟฟี่จังอะไรนั่งอยู่แน่ๆ ทำไมหมอนี่ไม่เป็นคนรู้จักรักษาเวลาเลยนะ ให้ตายสิ!!

    ชั่วโมงเรียนผ่านไปแล้วหนึ่งวิชาแต่ไอ้คิบอมบ้านั่นก็ยังไม่กลับมานั่งที่ของตัวเองซักที ไปไหนของเขานะ ฮยอกแจนั่งเรียนแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น หัวเล็กๆจะพลาดท่าหม่งโต๊ะอยู่หลายครั้ง ในใจคอยแต่นึกถึงเพื่อนรักที่ไม่ยอมมาเข้าเรียน คิบอมกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบไปแล้วหรอ? ถึงจะเรียนเก่งยังไงแต่เพื่อนเขาก็ไม่เคยโดนเรียนเพื่อจะไปจี๊จ๊ากับผู้หญิงมาก่อน นี่ไอ้เพื่อนหน้าด้านของเขาชอบยัยยาแก้ปวดนั่นมากขนาดนั้นเลยรึไง?

    ฮยอกแจไม่สามารถทนเก็บความสงสัยได้อีกต่อไป เขาลักลอบส่งข้อความไปหาคิบอมที่ใต้โต๊ะโดยไม่ให้อาจารย์จับได้ เขาถามอีกคนสั้นๆว่า อยู่ที่ไหน? ไม่นานข้อความจากอีกคนก็ตอบกลับมาทันที ....ดาดฟ้า....

    คนหน้าใสไม่รอช้าส่งข้อความกลับไปอีกรอบ ‘ขึ้นไปทำอะไร? ไม่เข้าเรียนรึไงวะ?’ อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาอีกแบบทันทีทันด่วนเช่นกัน ‘อยู่กับสาวร้านไอติม กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม’ ฮยอกแจนึกเถียงในใจ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แล้วเพื่อนรักมีปัญญาส่งข้อความคุยกับเขาได้ยังไงกัน นิ้วเรียวกำลังจะพิมพ์ข้อความไปด่าเพื่อนที่พูดโกหก แต่ก็ไม่ทันเพราะอีกฝ่ายนั้นส่งข้อความมาอีกฉบับ


    .....เย็นนี้ไปดูหนังกัน.......


    .................................................................................................................................

    “ทิฟฟานี่ครับ อยากดูเรื่องอะไรเลือกได้เลยนะ”

    “ไม่รู้สิคะ?  ฉันว่าให้ฮยอกแจเป็นคนเลือกดีกว่า” หญิงสาวหน้าตาสวยหันมายิ้มหวานให้คนตัวเบา ฮยอกแจส่ายหน้าเบาๆ แล้วบอกอีกฝ่ายว่าให้ผู้หญิงเป็นคนเลือกจะดีกว่า

    ไม่นานทิฟฟานี่ก็เลือกหนังที่อยากดูได้ มันเป็นหนังรักสุดแสนจะโรแมนติกเรื่องนึง แต่สำหรับคนที่เป็นส่วนเกินอย่างเขามันคงจะไม่โรแมนติกเท่าไหร่หรอก เขาอยากจะบอกกับคู่รักคู่นี้เหลือเกินว่าเขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ไก่ที่เลี้ยงไว้ป่วยจะรีบกลับไปดูแล แต่มันดูจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น

    ตอนแรกที่คิบอมบอกว่าเย็นนี้จะไปดูหนัง ไอ้เขาก็นึกดีใจว่าเพื่อนสนิทจะเลี้ยง แต่กลับกลายเป็นว่ามีแฟนสาวของคิบอมมาด้วยซะงั้น แล้วที่ชวนก็เพราะว่าทิฟฟานี่บอกให้ชวนฮยอกแจด้วย ไอ้เขาล่ะไม่เข้าใจเลยว่ายัยคนหน้าสวยนี่จะชวนเขามาเป็นก้างขว้างคอของตัวเองทำไม

    คิบอมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างแฟนของตัวเองกับเพื่อนรักในโรงหนัง หนังเริ่มฉายแล้ว เขาไม่ชอบดูหนังรักเท่าไหร่แต่เมื่อทิฟฟานี่จะอยากดูเขาก็ไม่ขัดคล่องอะไร แฟนหน้าสวยตั้งใจกับการดูหนังมาก สงสัยจะจริงที่ว่าอยากดูหนัง เขาก็นึกว่าแฟนเขาจะอยากมานั่งในโรงหนัง เลือกดูหนังผีแล้วก็สะดุ้งกอดเขา พูดว่ากลัวทั้งที่ตัวเองเป็นคนเลือกจะดูแท้ๆ แต่ทิฟฟานี่ก็ทำให้เขาผิดคาดอีกแล้ว เขาเอื้อมมือไปกุมที่มือของหญิงสาวหลวมๆ อีกคนหันมามองหน้าเขา เธอไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่ส่งรอยยิ้มเซ็กซี่มาให้เท่านั้น

    คนตัวสูงเหลือบมองไปที่อีกฝั่งนึงของตัวเองบ้าง เพื่อนหน้าใสของเขาตอนนี้นั่งทำหน้านิ่งเก็กแมนจนเขายังแอบเมื่อยแทน แล้วก็ไอ้ท่าทีเมินใส่ไม่ยอมมองเขานี่อีก ตอนนี้เขาเดาอารมณ์ของเพื่อนไม่ค่อยออกเลยจริงๆ เท่าที่รู้ดูเหมือนว่าฮยอกแจคงกำลังอึดอัดเพราะเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินของเขากับทิฟฟานี่ คนตัวเล็กนั่งดูดน้ำอัดลมในแก้วจนหมด ต่อด้วยแย่งป็อบคอร์นไปจากมือเขา จ้วงข้าวโพดกรอบเต็มกำมือแล้วยัดมันเข้าไปในปากของตัวเอง คิบอมมองอีกคนเคี้ยวตุ้ยๆ จนลืมดูหนัง ฮยอกแจแกล้งทำเป็นไม่สนใจว่าเขากำลังมองอยู่ เขาแอบยิ้มขำกับเพื่อนตัวเองที่เวลาโมโหหรือไม่พอใจก็ชอบระบายด้วยการกิน ยัดมันคำโตๆ มันจะช่วยให้หายโกรธรึไง จะทำให้อารมณ์เย็นลงหรอ เท่าที่เขาเห็น ถึงเพื่อนตัวบางทำแบบนี้แต่ก็ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟใส่เขาทุกที

    เด็กเล็กๆ เมื่อกินเสร็จแล้วก็มักจะหลับมันเป็นเรื่องธรรมดา ลีฮยอกแจคนนี้อายุก็ปาเข้าไป 18 แล้ว แต่ทันทีเมื่อป็อบคอร์นในมือเข้าไปอยู่ในกระเพาะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนรักยังเด็กของเขาก็เริ่มตาปรือขึ้นมาซะอย่างนั้น หัวเล็กๆเอียงซ้ายทีขวาทีอย่างน่าสงสาร สุดท้ายหัวของเพื่อนรักก็เซไปซบไหล่ผู้ชายคนข้างๆ ผู้ชายคนนั้นมองฮยอกแจอย่างไม่พอใจแล้วพยายามกระทุ้งไหล่ตัวเองให้คนที่พิงอยู่รู้สึกตัวสักที คิบอมรีบดึงตัวเพื่อนสนิทออกมา เขาก้มหัวหน่อยๆเป็นการขอโทษชายโชคร้ายคนนั้น มือยาวจับหัวคนขี้เซ้าให้มาพิงที่ไหล่เขาแทน เพื่อนขี้เซาไม่ได้ขัดขืนอะไร ดวงตาทั้งคู่หลับพริ้มน่าเอ็นดู ลูกแมวน้อยของเขาเป็นคนหลับลึก หลับแล้วหลับเลย นอกเสียจากจะมีคนเอาน้ำถังใหญ่มาสาดหน้ากันนั้นแหละถึงจะสะดุ้งตื่นได้

    หนังรักที่เขาไม่ค่อยได้สนใจดูมันนักจบลงแล้ว เขาแอบขัดใจตอนจบนิดหน่อย เพราะไอ้พระเอกหน้าไม่หล่อที่ดันมีนางเอกแสนสวยมาหลงรักอยู่ๆก็ตายทิ้งเธอไปซะดื้อๆแบบนั้น เขาแอบเห็นว่าทิฟฟานี่เช็คน้ำตาอยู่แว๊บนึง มันน่าเศร้าหรอเนี่ย เขาว่ามันน่าจะต่อยไอ้บ้านั้นซักหมัดมากกว่า

    “อ้าว ฮยอกแจหลับตลอดเลยหรอคะเนี่ย?” ทิฟฟานี่ลุกขึ้นจากที่นั่งหลังจากที่โรงหนังเปิดไฟแล้ว เธอเห็นฮยอกแจหลับปุ๋ยเหมือนเด็กๆ โดยที่คิบอมแฟนของเธอกำลังพยายามจับหัวคนขี้เซาเขย่าเบาๆเพื่อเรียกให้ตื่น แต่ดูเหมือนคนหลับจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย แฟนของเธอจึงเพิ่มแรงที่มือยาวนั้นให้มากขึ้น จนเธอนึกสงสารฮยอกแจกลัวว่าเพื่อนแฟนเธอจะหัวหลุดออกจากคอบางนั้นซะก่อน

    “เบาๆสิคะ เดี๋ยวฮยอกแจก็เจ็บหรอก”

    “ไม่หรอก หมอนี่หลับแล้วตื่นยากจะตายไป”

    ใช้เวลาอยู่เป็นนานทีเดียวกว่าฮยอกแจจะยอมตื่นได้ คนตื่นยากยิ้มแหะๆแล้วบอกขอโทษทิฟฟานี่เรื่องที่หลับตลอดตอนดูหนัง แต่กลับหันมาทำหน้ายักษ์ใส่คิบอมซะนี่ ฮยอกแจขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาโดยปล่อยให้คู่รักนั่งรอที่เก้าอี้เลยหน้าห้องน้ำไปหน่อย

    คนตัวเล็กล้างมือล้างหน้าที่อ่างล้างมือ เขามองค้อนไปที่ประตูห้องน้ำหลายทีแล้วนึกด่าทอเพื่อนตัวเองในใจ เพราะหมอนั่นนั้นแหละที่ทำให้เขาหงุดหงิดแบบนี้ ชวนเขามาดูหนังเพื่อเป็นส่วนเกินระหว่างตัวเองกับแฟน ปล่อยให้เขาหลับต่อหน้าผู้หญิง ดีนะที่ไม่น้ำลายยืดไม่งั้นครั้งหน้าที่เจอทิฟฟานี่เขาคงต้องเอาปี๊บมาคลุมหัวคุยกับเธอแน่เลย แถมไอ้เพื่อนหน้าด้านยังใช้วิธีปลุกโดยการผลักจนเขากระเด็นตกจากเก้าอี้เลย โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด

    คนตัวผอมเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำอีกแป๊บนึง จากนั้นเขาก็เดินออกมาตรงจุดที่เพื่อนเขากับแฟนกำลังคอยอยู่แต่พื้นที่เมื่อกี้ไม่มีใครอยู่แล้ว ไปไหนกันนะ? อาจเพราะห้องน้ำของโรงหนังไม่ได้มีคนพลุกพล่ามมากนัก ตอนที่เขาเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ก็ไม่มีใครอื่นเลย เขาชักจะรู้สึกวังเวงขึ้นมาแล้วสิ คิมคิบอมไปอยู่ที่ไหนนะ ฮยอกแจเดินหาสองคนนั้นไปตามทางเดินใกล้ๆกับห้องน้ำ แล้วตอนที่เขาเดินเลี้ยวที่หัวมุมกำแพงนั้นเอง....


    .......คนกำลังจูบกัน.........คิบอม.....กำลังจูบทิฟฟานี่.........
    หนุ่มหล่อสาวสวยยืนเบียดกันอยู่ที่กำแพง ริมฝีปากทั้งคู่ประกบกัน ...แนบสนิท...

    นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนจูบกันจริงๆ ปกติเคยเห็นแต่ในหนัง เขาไม่เคยจูบใคร ไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ คิบอมเพื่อนเขาไม่เคยจูบใครต่อหน้าเขา ...นี่เป็นครั้งแรก...

    คนตัวเล็กเดินเลี่ยงกับไปทางเดิม ไม่อยากขัดจังหวะ อันที่จริงเขาไม่รู้จะทำหน้ายังไงด้วยซ้ำ แกล้งทำเป็นไม่เห็นดีกว่า มือขาวข้างขวายกขึ้นทาบที่อกข้างซ้าย ใจเต้นทำไม? หน้าแดงรึป่าวนะ? ก็แค่คนจูบกัน คิบอมจูบแฟนของเขาจะผิดตรงไหนล่ะ ความรู้สึกแปลกๆนี่มันอะไรกัน? บ้าไปแล้ว เขาต้องโกรธสิ หมอนั่นไม่รู้จักกาลเทศะเลย จูบกับแฟนในที่สาธารณะได้ยังไง ไม่ให้เกียติผู้หญิงเลย ถ้าอยากจะทำก็ไปทำในทีลับตาคนสิ น่าอายจริงๆ เขาไม่พอใจเลย ไม่พอใจ... ไม่สิ เขาจะไม่พอใจทำไม เขาไม่ต้องสนใจด้วยซ้ำ จะแคร์ทำไมหมอนั่นคงจูบคนมาเป็นร้อยแล้ว จะไปสนใจมันทำไม ลืมๆมันไปซะเถอะน่า

    ไม่นานเกินนาทีสองคนนั้นก็เดินออกมา คิบอมถามเขาว่ารอนานไหมพอดีไปเดินดูดอากาศมา เขาล่ะอยากจะถามกลับไปจริงๆ ว่าสูดซะจนปอดระเบิดเลยรึป่าว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ฮยอกแจเดินตามอีกสองคนต้อยๆ เขาแอบมองแผ่นหลังคิบอมอยู่หลายที เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนเขามีแฟนเป็นสาวน่ารักๆมาหลายต่อหลายคน แต่เขาไม่เคยล่วงเกินถามซอกแซกว่าได้จูบมั้ย? คนนี้ถึงขั้นไหน? เมื่อก่อนเขาไม่ได้อยากรู้ แล้วคิบอมก็ไม่เคยพูด แต่ตอนนี้เขาซักจะอยากรู้ขึ้นมานิดๆแล้ว โอ้ย!!!...ไม่ๆๆๆๆ จะตอนนี้ตอนไหนเขาก็ไม่อยากรู้ทั้งนั้นแหละ ไม่อยากรู้ว่าคิบอมจูบเก่งแค่ไหน ไม่อยากรู้ว่าคิบอมขึ้นเตียงกับผู้หญิงมากี่ครั้งแล้ว เขาไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น จะรู้ไปทำไม ไม่ได้ทำให้เขาจูบเก่งตามไปด้วยซะหน่อย บ้าจริงๆเลย 

    รถประจำทางจอดลงที่ปากซอยบ้านของทิฟฟานี่ คนตัวเล็กกับคิบอมต้องแวะมาส่งเธอก่อนแล้วเราก็จะต่อรถอีกคันกลับบ้าน เพื่อนรักตัวสูงยืนกระซิบอะไรกับทิฟฟานี่สักอย่างเธอหัวเราะคิกคักชอบใจ ฮยอกแจทำเป็นไม่สนใจคนทั้งคู่แล้วเงยหน้าดูฟ้ามองดาวที่ไม่มีสักดวงต่อไป เขาแอบเหลือบมองคู่รักที่คุยกันไม่เสร็จเสียทีอย่างขัดใจ จะคุยอะไรกันนักหนานะ เดี๋ยวก็เจอกันอีกอยู่ดี เพื่อนหน้าหล่อของเขาจูบที่แก้มของทิฟฟานี่เบาๆ เธอหน้าแดงใหญ่ ตีแฟนตัวเองที่แขนอย่างเขินอาย ฮยอกแจตาค้างอีกรอบแล้วรีบหันหน้าไปทางอื่นเมื่อคิบอมหันมาทางเขา เขาเริ่มจะสงสัยแล้วนะว่ากับคนก่อนๆอย่างมินอา เพื่อนรักก็ทำแบบนี้ด้วยรึป่าว หรือเพราะว่าเขาเพิ่งเคยมาเป็นติ่งห้อยเกินๆ ระหว่างเดทแสนหวานฉ้ำนี่เป็นครั้งแรกเลยเพิ่งจะเห็นกับตา

    คนตัวสูงส่งแฟนสาวของตัวเองเข้าบ้านแล้วโบกมือให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย คิบอมหันไปมองเพื่อนตัวเล็กที่ยืนแตะพื้นเขี่ยหญ้าอยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินไปลากมืออีกคนให้เดินไปที่ป้ายรถประจำทางด้วยกัน แต่ลูกแมวน้อยของเขากลับสะบัดมือออกจะงั้น เขามองหน้าเพื่อนถามๆว่าเป็นอะไร แต่เพื่อนตัวเล็กก็ชิงเดินตัดหน้าเขาไปไม่ยอมตอบ ร่างสูงโปร่งเร่งฝีเท้าให้ทันคนที่เริ่มหน้ามุ่ยไม่ยอมมองเขามาตั้งแต่อยู่ที่ห้างแล้ว โกรธอะไรกันอีกล่ะเนี่ย

    “ฮยอกแจเป็นอะไร หงุดหงิดอะไรรึไงฮะ”

    “เปล่านี่!! จะหงุดหงิดอะไรล่ะ”

    “โกรธเรื่องที่โดนเรียนหรอ?”

    “เปล่า จะโกรธทำไม นายไม่แคร์อยู่แล้วนี่”

    “แคร์สิ ถ้าโกรธเรื่องนั้นก็ขอโทษ จะไม่โดนเรียนอีกแล้วครับ” แกล้งยิ้มจนตาหยีหวังจะให้เพื่อนหัวเราะแต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่หวังเลย

    “.....นั้นมันชีวิตนายฉันไม่สนหรอก”

    “ไม่สนจริงอ่า ฉันเพื่อนนายนะฮยอกแจ”

    “เพื่อนหรอ? นายจะไปไหนทำอะไรก็ไม่บอกฉัน ยังจะมาอ้างว่าเพื่อนอีกหรอ?”

    “โอเคก็ได้ ฉันผิด ผิดที่ไม่บอกนายก่อนว่าจะไม่เข้าเรียนฉันขอโทษ” ฮยอกแจมองค้อนเขาแล้วทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ ที่แท้ก็เรื่องนี้สินะที่ทำให้แมวน้อยต้องอารมณ์เสีย คงอยากจะด่าเขาตั้งแต่ตอนที่อยู่หน้าโรงเรียนแต่กลายเป็นว่ามีทิฟฟานี่มาด้วยจึงด่าไม่ได้ เขากลั้นหัวเราะเอาไว้กลัวว่าเพื่อนรักจะโกรธหนักกว่าเดิม คนตัวบางคงนั่งด่าเขาในใจตลอดเลยสินะตอนที่อยู่ในห้าง

    รถเมล์จอดที่ตรงหน้าเขาและฮยอกแจ อีกคนก้าวขึ้นไปก่อน เลือกนั่งตรงที่ข้างหลังสุด เขาตามไปนั่งข้างๆ แต่คนหน้าใสก็ลุกขึ้นแล้วขยับไปนั่งอีกฝั่งนึงแทน อะไรวะ!! จะงอนกันไม่เลิกเลยรึไง ขอโทษก็แล้วยังไม่หายโกรธอีก แล้วจะให้เพื่อนคนนี้ทำอะไรล่ะถึงจะพอใจ คิบอมไม่ยอมแพ้ตามไปนั่งข้างๆอีกครั้ง เพื่อนรักทำท่าจะลุกหนีอีกรอบ แต่เขาก็คว้าแขนเอาไว้ไม่ให้ไปเป็นจังหวะเดียวกับที่รถเบรกกะทันหัน ทำให้เพื่อนตัวขาวเซลงมานั่งที่ตักเขา

    ดวงตาคมสีดำสนิทสบกับดวงตาใสสีน้ำตาลเข้มในระยะไม่ไกลนัก เพิ่งจะเคยสังเกตเพื่อนตัวเองใกล้ๆแบบนี้ ฮยอกแจเป็นคนขาวมาก แก้มใสๆนั่นชวนให้จินตนาการว่ามันจะหอมจะนิ่มแค่ไหน? สายตาซุกซนมองผิวขาวเนียนช่วงตั้งแต่คอจนถึงไหล่เล็กใต้เสื้อนักเรียนของเพื่อนสนิทที่เผยอออกโดยไม่ตั้งใจ......


    ...........เฮ้ย!!!!!!! ทำบ้าอะไรวะเนี่ย?!! นี่เขากำลังทำบ้าอะไร เพื่อนเขาเป็นผู้ชายนะ แล้วเขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน กำลังคิดเรื่องอะไรอยู่เนี้ย?!!!..........


    “มองอะไรวะ? ปล่อยดิ”

    เหมือนจะตั้งสติได้ ฮยอกแจดิ้นขลุกขลักลุกออกจากตักเขา ก่อนจะเดินไปนั่งอีกฝั่งนึงที่ตอนแรกตัวเองเพิ่งลุกหนีเขามา คนตัวใหญ่ลุกตามไปนั่งใกล้ๆ เขายกแขนวางพาดที่พนักพิงของอีกคน เพื่อนตัวบางหันมาทำหน้าไม่พอใจใส่ มือเล็กยกขึ้นมาพลักที่อก ออกแรงดันให้เขาถอยออกไป

    “ขยับไปสิ ที่นั่งมีตั้งเยอะจะมาเบียดทำไม?”

    “ก็อยากนั่งตรงนี้ ทำไม? นั่งใกล้ไม่ได้รึไง”

    “เอาแขนออกไปนะ มันอึดอัด” ฮยอกแจพยายามแกะแขนของเขาออกจากพนักพิงของตัวเอง แต่เพราะเขาแรงเยอะกว่าอีกคนเลยทำไม่สำเร็จ คิบอมจับมือเพื่อนรักที่เอาแต่ดันเขาให้หยุดแค่นั้น แต่เพื่อนจอมดื้อสะบัดมือเขาออกไม่ยอมให้จับ

    “จับไม่ได้เลยรึไง หวงนักหรอ?” ตอนนี้คิบอมเริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างแล้ว ยิ่งเห็นฮยอกแจทำท่ารังเกียจไม่ยอมให้จับเนื้อต้องตัว เขาก็ยิ่งแกล้งอีกคนโดยแย่งมือนั้นมาจากเจ้าของและบังคับจับให้แน่นขึ้น นิ้วยาวทั้งสิบสอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างนิ้วของเพื่อนรักหน้ามุ่ย เพื่อนขี้หงุดหงิดใช้มืออีกข้างช่วยงัดแงะแกะมือเขาออก ดวงตาไร้เดียงสาที่เขาเห็นบ่อยๆฉายแววโมโหออกมา คงกำลังด่าเขาในใจอยู่ล่ะสิ

    “ปล่อยสิวะ” เมื่อเริ่มรู้ว่าขัดใจคนที่แรงเยอะกว่าไม่ได้ ฮยอกแจจึงยอมแพ้ให้คิบอมจับมือจนกว่าจะพอใจ เขานึกต่อว่าตัวเองในใจ นี่กำลังโมโหเรื่องอะไรเนี่ย ขุ่นเคืองอีกคนเรื่องอะไรกัน มันไม่มีเหตุผลเลย เขารู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากำลังทั้งโกรธ โมโห หงุดหงิด ไม่พอใจ แต่เขาไม่รู้สาเหตุของมัน ไหนตอนแรกบอกว่าจะไม่สนใจไง แต่ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เมื่อกี้ตอนที่ล้มไปนั่งตักคิบอม แค่มองหน้าอีกคนภาพตอนที่คู่รักทั้งสองกำลังจูบกันก็ฉายเข้ามาในหัวเขาซ้ำไปซ้ำมา มันบ้าสิ้นดี ภาพเหล่านั้นทำให้เขาควบคุมตัวเองได้ยากเย็นนัก เขาคงดูไม่ต่างจากคนเจ้าอารมณ์มากนัก ลีฮยอกแจคนเจ้าอารมณ์

    เขามองหน้าคิบอมที่คงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าเขาเป็นอะไร คนตัวบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อระงับดับเพลิงอารมณ์ให้เบาบางลงก่อนจะเอ่ยถามอีกคนด้วยเสียงที่แผ่วเบา คำถามที่เขาเองก็ยังสงสัยอยู่


    “...ผู้ชายจับมือกันไม่แปลกหรอ?” คนถามกวาดตามองไปภายในรถทำให้คนฟังต้องมองตามบ้าง เพราะตอนนี้เริ่มดึกมากแล้วคนจึงมีไม่มากนัก คนตัวบางสังเกตเห็นสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมาทางเขาและคิบอม เขาไม่แปลกใจหรือนึกต่อว่าคนเหล่านั้น เขาเองยังว่ามันแปลกเลย ผู้ชายสองคนกำลังยื้อแย่งจับมือกันเหมือนแย่งของกิน ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ล้อเล่นกันมันคงจะน่ามองกว่านี้

    ฮยอกแจก้มลงมองมือของตัวเองที่ถูกเพื่อนสนิทจับเอาไว้ แล้วเงยหน้าสบตาเพื่อนตัวโตที่มองเขาอยู่เหมือนกัน

    “คิมคิบอม มันแปลกไม่ใช่หรอ? เราทั้งคู่เป็นผู้ชายนะ”

    “...ไม่เห็นจะแปลกเลย เมื่อก่อนก็จับ”

    “....”

    “จับมือเพื่อนจะผิดอะไร?” คนตัวยาวมองฮยอกแจนิ่งไม่หันหลบไปไหน เขาไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร แค่จับมือกัน คนพวกนั้นเห็นว่ามันแปลกมากหรือไง เพื่อนกันจับมือกันไม่ได้หรือ? จะต้องเป็นเกย์เสมอไปหรอ? ขอบเขตของมันอยู่ตรงไหนกัน เพื่อนกันทำได้แค่ไหน? ใครจะเป็นคนตอบคำถามเขาล่ะ?

    เมื่อถึงป้ายที่ต้องลงคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนแล้วพยายามดึงมือออกอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนตอนแรก แต่มันถึงเวลาที่ต้องปล่อยมือจริงๆแล้วไม่ใช่หรอ? คิบอมบอกว่าจะเดินเข้าไปส่ง แต่เขาก็ปฏิเสธไป รอยยิ้มบางๆมอบให้อีกคนเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้แกล้งประชด มือยาวยอมคลายปล่อยมือเขาออก ฮยอกแจลงจากรถและค่อยๆเดินหายเข้าซอยบ้านของตัวเองไป

    ...............................................................................................................................

    “กลับมาแล้วครับ!!”

    “อ้าวฮยอกแจ แม่กำลังจะโทรตามพอดีเลย กินอะไรมาหรือยัง?”

    “ยังเลยครับ หิวจะตายอยู่แล้ว”

    ฮยอกแจส่งเสียงร้องครวญคราง แกล้งเหวี่ยงกระเป๋าไปที่โซฟาที่น้องสาวตัวเล็กกำลังนั่งดูทีวีอยู่ ร้องใสโวยวายว่าพี่ชายอย่างเอาเป็นเอาตาย ร่างเล็กๆ วิ่งไล่กวดคนเป็นพี่ไปทั่วบ้าน ก่อนจะยอมสงบศึกเมื่อลียุนฮีไล่ให้เขาไปกินข้าวซะ ส่วนมินแจก็ขึ้นนอนได้แล้ว

    ข้าวคำโตถูดยัดใส่ในปากคำแล้วคำเล่าจนหมดลง ฮยอกแจกินน้ำตามอีกอึกใหญ่ คุณแม่ใจดีที่นั่งดูอยู่ถามเขาว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน คิบอมไม่ได้หาอะไรให้กินหรอกหรอ? เขาอยากจะโต้เถียงกลับไปว่าเขาไม่ใช่แมวใช่หมาของหมอนั่นนะ ถึงต้องคอยให้ไอ้เพื่อนบ้านั่นหาอะไรให้กิน แต่เขาก็ตัดรำคาญไม่เอ่ยอะไรออกมาแล้วเดินปึงปังขึ้นห้องนอนไป

    ฮยอกแจทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างแรง ร่างกายเล็กๆพลิกไปพลิกมาอยู่เป็นนาน เขาเป็นอะไรไปเนี่ย? ความสงสัยที่มีในตัวเองยังคงไม่จางหายไป เขาลบอาการหงุดหงิดคลั่นเนื้อคลั่นตัวออกไปไม่ได้ตราบใดที่เขายังสลัดฉากจูบดูดดื่มของคู่รักนั่นไม่ออกเช่นกัน เขาเริ่มสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่มันออกไป แต่ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยเลย เขาไม่ควรคิดแบบนี้ อันที่ขริงเขาไม่ควรคิดอะไรเลยด้วยซ้ำ มันก็แค่จูบแหละน่า หรือว่าเขากำลังอิจฉาที่ตัวเองไม่มีคนให้จูบแบบนั้นบ้าง ต้องใช่แน่ๆ อ้า!!! ที่แท้เขาก็แค่ไม่พอใจที่ตัวเองยังไม่มีแฟนนี่เอง ฮ่าๆๆๆๆ บ้าชะมัด จะไปเครียดเรื่องนี้ทำไม หล่อๆอย่างเขาสักวันก็มีเองล่ะ ตอนนี้เขาควรจะเข้านอนซะ แล้วก็ลืมเรื่องวันนี้ให้หมดไปจากสมองอันน้อยนิดของตัวเอง.....


    ………………………………………………………………………..


    ฮยอกแจเข้าห้องเรียนมาในตอนเช้าจนเกือบจะสายแต่อาจารย์ประจำวิชาก็ยังไม่มาเข้าสอน ผู้ชายคนที่นั่งโต๊ะข้างๆเขาจ้องมาที่เขาก่อนจะส่งยิ้มจนตาปิดพลอยให้เขาอมยิ้มตามไปด้วย คนตัวเล็กเดินไปนั่งที่โต๊ะข้างเพื่อนตัวใหญ่

    “หายงอนแล้วใช่มั้ย?”

    “ใครงอนนาย?”

    “นายนั่นแหละ แมวดื้อ”

    “ฉันไม่ใช่แมวนะ”

    ลูกแมวน้อยอมลมจนแก้มป่อง เขาหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น เลยหนีไม่พ้นโดนกำปั้นเล็กๆต่อยที่ต้นแขนอย่างแรง เขาไม่คิดจะถามเซ้าซี้อีกคนว่าเมื่อวานโกรธเคืองกันเรื่องอะไร แค่วันนี้หายโกรธหายงอนเขาก็พอแล้ว


    สามคาบแรกผ่านไปอย่างไม่ยากเย็นนักสำหรับเขา แต่สำหรับฮยอกแจดูเหมือนจะตรงกันข้าม เพื่อนหน้าใสหลับบ้างตื่นบ้างจนเขายังเหนื่อยแทน มือเล็กคอยเช็คที่มุมปากตัวเองเป็นระยะๆ ก็แน่ล่ะ หลับอ้าปากหวอขนาดนั้นน้ำลายไม่ไหลก็ให้มันรู้กันไปสิ

    ...........................................................................................................................


    “ฮยอกแจค่ะ ไปซื้อน้ำเป็นเพื่อนทิฟฟานี่หน่อยสิค่ะ”

    “อะ...เอ่อ..ครับ” คนถูกขอร้องรับคำแบบกึ่งตกใจ เขาไม่ได้รังเกียจที่จะไปเป็นเพื่อนหญิงสาว เพียงแต่ไม่คิดว่าเธอจะชวนเขาเท่านั้นเอง

    คิบอมมองแฟนสาวของตัวเองเดินออกจากโต๊ะไปพร้อมกับเพื่อนรักตัวเล็ก ฮยอกแจตัวสูงกว่าทิฟฟานี่ไม่มากนัก หรือบางที่ขนาดตัวอาจจะเท่าๆกันเลย เขาไม่ได้คิดมาก หรือนึกหึงหวงที่ทิฟฟานี่ชวนเพื่อนรักของเขาแทนที่จะเป็นเขา เพราะเมื่อวานทิฟฟานี่บอกว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับฮยอกแจด้วย ไม่อยากให้ฮยอกแจเกลียดหรือว่าไม่ชอบหน้าเธอ เขาบอกว่าเธอคิดมากไป ฮยอกแจไม่เคยไม่ชอบใคร เพื่อนสนิทเขาพร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกคนเพียงแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงมากนัก

    ไม่นานสองคนนั้นก็กลับมาที่โต๊ะ ฮยอกแจวางน้ำลงแล้วเริ่มนั่งกินข้าวต่อ วันนี้ทิฟฟานี่ไม่ได้นั่งข้างเขาเหมือนเมื่อวานแต่เธอเลือกนั่งข้างฮยอกแจ เธอคอยชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องนู้นเรื่องนี่เพื่อให้ฮยอกแจผ่อนคายขึ้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล เพื่อนตัวเล็กของเขาเริ่มจะเกร็งน้อยลงแล้ว ติดที่ยังเก้ๆกังๆอยู่บ้าง


    …………………………………………………………………………..


    โต๊ะม้าหินที่ข้างตึกเรียนดูจะเป็นที่ๆเหมาะแก่การนั่งเล่นในเวลากลางวันมากพอตัว เพราะอากาศที่ไม่ร้อนจัดจะนั่งรับแสงแดดสักนิดก็คงไม่เป็นอะไร ชายหนุ่มร่างผอมเลือกนั่งที่โต๊ะตัวนึง เขากำลังนั่งลอกการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องส่งตอนเย็นนี้อยู่ ฮยอกแจแอบเหลือบมองไปที่โต๊ะข้างๆอยู่แว๊บนึง คิบอมกับทิฟฟานี่กำลังทำอะไรสักอย่างกับมือถือ ถ้าเขาเดาไม่ผิดทั้งคู่คงกำลังเล่นเกมอยู่เป็นแน่

    ทิฟฟานี่ใจดีกับเขามาก เธอดีกว่าที่เขาคาดไว้มาก ตอนแรกนึกว่าเธอจะเป็นพวกผู้หญิงสวย หัวสูงและเหย่อหยิ่ง แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว เธอเป็นมิตรและมีรอยยิ้มที่น่ารัก เธอคงอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา  เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ถ้าคิบอมคิดจะจริงจังกับใครสักคน เป็นทิฟฟานี่ก็ไม่เลวเลย

    ฮยอกแจไล่ความคิดเรื่อยเปื่อยออกจากหัว หันมาตั้งอกตั้งใจลอกการบ้านอีกครั้ง ไม่นานการบ้านที่ลอกเขามาก็เสร็จเรียบร้อย ร่างบางชูแขนทั้งสองขึ้นไปบนฟ้าบิดขี้เกียจ คู่รักทั้งสองยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขากวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดกับร่างของสาวคนนึง เธอกำลังเดินอยู่ที่ถนน แขนทั้งสองข้างแบกหนังสือเล่มใหญ่สูงท่วมหัวเอาไว้เหมือนเมื่อวานไม่มีผิด

    ยิ้มบางๆผุดขึ้นที่มุมปาก เขารีบเก็บข้าวของๆตัวเองลงกระเป๋า ลุกจากเก้าอี้แล้วก้าวเดินไปหาผู้หญิงคนนั้น คงไม่ต้องบอกคิบอมหรอกมั้ง เขาไม่จำเป็นต้องรายงานหมอนั่นทุกเรื่องหรอก อีกอย่างเพื่อนตัวโตก็คงไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่หรอก


    “ให้ช่วยมั้ยครับ?” หญิงสาวตรงหน้าหันมามองฮยอกแจ คิ้วที่ตอนแรกขมวดเป็นปรมเริ่มคายออกจนกลายเป็นยิ้มสดใสในที่สุด

    “ฮยอกแจห้อง B!!! ดีเลย ฉันหนักจะตาย” คนตัวบางแบ่งหนังสือมาจากมือเธอครึ่งนึง แล้วรีบก้าวตามบรรณาลักษณ์จอมพลังให้ทัน

    ...............................................................................


    ...........

    .........

    ........

    .......

    ......

    .....

    ....

    ...

    ..

    .


    To Be con...



    ตัวหนังสือมันเล็กไปหรอ?
    เราว่ามันไม่เล็กนะ หรือเป็นที่คอมเราก็ไม่รู้ ขอโทษด้วยนะคะ
    เราไม่เคยเล่นอะไรพวกนี้เลยปรับขนาดทำอะไรไม่ค่อยเป็น
    ขอบคุณที่เม้นนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×