ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[ CRAZY CUPID ]] __ Fic Eunhae ft . Kyumin >Yaoi<

    ลำดับตอนที่ #7 : CRAZY CUPID : Chapter 5 : พลาดพลั้ง ?............. 100%

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 54


      

           CHAPTER 6

    พลาดพลั้ง



                       เหมือนความหวาดหวั่นใจจะเริ่มเข้าครอบงำจิตใจคนที่กำลังเดินอย่างไร้จุดหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ...จากปากที่เคยบอกเพื่อนว่าจะมาห้องพยาบาล...แต่บัดนี้ร่างของคนที่เคยเอ่ยคำพูดนั้นกลับเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเรียนของตนเอง  ....  ห้องเรียนซึ่งไร้ผู้คน.....ซองมินพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ  ก่อนที่จะก้าวเท้าไปข้างหน้า  เข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะ  .

            ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนั้น... เสียงแหบพร่าของคนป่วยบ่นกับตัวเองอย่างปวดใจ .....ตอนนี้ร่างกายของเขามันเหมือนกำลังโดนฉีกด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาล ...แม้กายจะปราศจากแผลใดๆ แต่เขากลับรู้สึกว่ามันมีร่องรอยที่น่าขยะแขยงเต็มไปหมด  

             ฮึก.....ทำไม...   คนปวดใจทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตน

             ซองมินเฝ้าตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย ว่ามันเพราะอะไรที่ทำให้เขาต้องหวนกลับมาเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นอีกครั้ง .......ทั้งๆที่ตั้งใจจะลืม .. ตั้งใจจะไม่จดจำ..เพราะถือว่าสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นเพียงเพราะความผิดพลาด      เพียงเพราะนิสัยปฎิเสธคนไม่เป็น  ....  หรือแท้จริงแล้ว สวรรค์เบื้องบนกำลังคิดจะกลั่นแกล้งเขากันแน่

           ร่างกายอ่อนแอค่อยๆนอนฟุบไปกับโต๊ะ..แล้วปล่อยให้สายธารของความเสียใจหลั่งไหลออกมา

     

             กรึบ ....กรึบ.....กรึบ    จู่ๆเสียงก้าวเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้า  ของใครบางคนก็ดังขึ้น  ทำเอาหนุ่มน้อยเจ้าน้ำตาต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ......ดวงตาที่ชื้นแฉะไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เบิกโพลง  เมื่อเห็นบุคคลตรงหน้า

             คะ.คุณ... 

    ตกใจที่เห็นฉันขนาดนั้นเลยเหรอ...ซองมิน   หนุ่มร่างสูงว่าพรางก้มต่ำไปมองคนที่นั่งอยู่  ....บางทีการที่มีซองมินอยู่ที่นี่ มันก็สนุกดีเหมือนกัน..จากตอนแรกที่คิดจะมาเคลียร์ปัญหาให้เข้าใจ แต่พอได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของคนตัวอวบ เขากลับยิ่งรู้สึกชอบใจ .....นายช่างเป็นกระต่ายที่น่าแกล้งที่สุดในโลกเลยรู้ไหมซองมิน

    คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่.. น้ำเสียงสั่นเครือพยายามตะคอกบอก

    ต้องการ ?.....สิ่งที่ฉันต้องการก็คือร่างกายของนายไง   ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะเชยคางเรียวมนให้เชิดสูงขึ้นมา  คยูฮยอนก้มลงไปมองใบหน้าหวานให้ชัดๆ จนจมูกโด่งสันแนบชิดติดกัน  แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าขนลุก

    รวมถึง..ตอนนี้ด้วย......

    อื้ออ !! ……….” สิ้นคำจากมือแกร่งที่เพียงประคองใบหน้าไว้กลับบีบเข้าที่กรามเล็ก ...แล้วฉกจูบด้วยความไวแสง .....คนที่โดนรุกอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงปล่อยให้ให้ลิ้นร้อนๆแทรกผ่านเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว......

    .

            รสจูบอันหนักหน่วงที่ร่างสูงได้มอบให้..สร้างความหวาบหวามให้ซองมินได้อีกครั้ง..แต่ก็เพียงชั่วครู่..ตอนนี้สมองของคนป่วยไม่คิดอะไรทั้งนั้น ....แม้จะเกลียดคนตรงหน้าเพียงใด ... แม้จะรู้สึกขยาดขนาดไหน ....แต่ร่างกายที่เต็มไปด้วยพิษไข้ก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะปฏิเสธผู้ชายคนนั้นได้เลย  ...... 

     

            ลิ้นร้อนไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างสนุกปาก ...คยูฮยอนแอบแค่นยิ้มในใจเมื่อเห็นว่าซองมินไม่มีท่าทีปฏิเสธ  .... ปากก็พูดเหมือนไม่ชอบ..แต่เวลาทำจริงก็ไม่เคยปฏิเสธ ..... แบบนี้ฉันจะเรียกว่านายสมยอมแล้วกันนะลีซองมิน 

     

          ปะ...ปล่อยผม....   คนหน้าซีดเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ   ขณะที่คยูฮยอนถอนจูบออก ....ยามนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะมาต่อกรกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ...มันรู้สึกปวดหนึบไปทั่วหัว .... แค่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นเขายังมองไม่ชัดเลย

     

           ชอบไม่ใช่เหรอ ....  ชายหนุ่มลากเสียงกวน ก่อนจะเคลื่อนโต๊ะที่เกะกะอยู่นี่ออก.......ดวงตาปรือๆ ...ใบหน้าที่ผุดไปด้วยเหงื่อ มองยังไงมันก็ช่างดูเซกซี่ยั่วยวนใจ .....ร่างสูงโปร่งเดินตรงมาหาคนที่นั่งเอนอยู่กับเก้าอี้เหล็กด่วยท่าทางที่เหมือนจะหมดแรง ..แต่ถึงกระนั้นคยูฮยอนก็ไม่ได้สนใจ ..เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซองมินกำลังป่วยอยู่ ...โจคยุฮยอนคิดเพียงว่า ท่าทางที่ซองมินกำลังแสดงอยู่ตอนนี้ มันเป็นการยั่วยวนเขาชัดๆ 

          ปล่อยย.....

           ซองมิน.......อ่า...   คยูฮยอนจับซองมินให้ลุกขึ้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนั่งบนเก้าอี้เหล็กตัวนั้นแทน  หลังจากนั้นก็จับคนไร้เรี่ยวแรงที่ตนคิดว่าสมยอม มานั่งคร่อมบนตักของตัวเอง  .... ใบหน้าหวานแนบไปกับบ่าแกร่งทันทีที่ได้นั่งลง ..ใช่  .. เพราะตอนนี้ร่างกายของเขาไม่ไหวแล้ว ....มันไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา....ไม่คิดแล้วว่าเหตุการณ์ตรงหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ... ตอนนี้เขารู้สึกเพียงแค่อยากหลับเต็มที  .

           ส่วนคนจัดการทุกอย่างก็เอาแต่ดูดไล้โลมไปทั่วลำคอระหงส์ที่โชว์ตระหง่านอยู่ตรงหน้า ..ยิ่งเห็นว่าซองมินไม่ขัดขืนก็ยิ่งได้ใจ  .. ปาหยักกดจูบหนักๆที่ลำคอขาว  ไซร้ตามมาที่ซอกหู ขบกัดเข้าเบาๆตามอารมณ์ตน  มือแกร่งข้างนึงก็รั้งเอวบางไว้ไม่ให้เสียสมดุล อีกข้างก็ล้วงเข้าไปใต้เสื้อพละสีครีม   ขยี้เน้นแรงๆที่เม็ดติ่งไตของคนสมยอม

                ซองมิน.....อื้มม. ...... เปลือกตารูปงามหลับพริ้ม   รู้สึกผ่อนคลายที่ได้ลูบไล้ไปตามร่างกายน่ากินนี่ ....คยูฮยอนจับเข้าที่ท้ายทอยของซองมินก่อนจะดันให้ใบหน้าของทั้งสองเผชิญหน้าต่อกัน ...คยูฮยอนทำท่าจะเข้าไปช่วงชิงจูบอีกรอบ แต่ทว่า....

               .!.....ซ..ซองมิน

              คนใจเด็ดกลับส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ  เมื่อคนที่เขากำลังคิดว่าสมยอมด้วยกับแน่นิ่งไปเสียดื้อๆ ...ใบหน้าขาวบัดนี้มันไม่มีแม้แต่เลือดฝาดขึ้นมาประดับ ...

              ซองมิน ซองมิน.....   ร่างสูงเขย่ากายบางเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่คนที่หลับตาพริ้มอยู่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะขยับเขยื้อน....มิหนำซ้ำร่างกายที่เขาสัมผัสอยู่นี่กลับร้อนขึ้นมาดั่งไฟที่กำลังร้อนลุ่มอยู่ 

            นาย...เป็นอะไรน่ะ ?”    หน้าย่นคิ้วขมวดเมื่อไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี 

            ซองมิน  ซองมิน..นี่นายอย่ามาแกล้งหลับนะ !...”  มีอย่างซะที่ไหนเล่นมาชิ่งหลับระหว่างการมีเซกส์กับคุณชายโจคยูฮยอน

           ลีซองมิน...ฉันสั่งให้นายตื่นเดี๋ยวนี้!”  เมื่อเห็นว่าไม่ตื่นก็เขย่าร่างอวบๆนี่ให้แรงขึ้นอีก

          “.... ซองมิน... เสียงที่เคยตะคอกกลับเบาหวิวลง  เมื่อรู้ว่าซองมินคงไม่สบายเข้าจริงๆ ...คยูฮยอนจับร่างของซองมินให้ลุกออกก่อน  ส่วนตัวเองจะลุกตามแล้วคอยพยุงคนป่วยไม่ห่าง ...แต่คนไข้ก็ดูท่าว่าจะเข่าอ่อนเหลือเกิน ... คยูฮยอนจึงเลือกแก้ไขปัญหาทุกอย่างโดยการอุ้มซองมินขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ...แล้วพาคนป่วยไปยังห้องพยาบาล  ที่ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหน

            

     

     

    .      หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ  3 เกลอ อย่าง ทงเฮ เรียวอุค และฮยอกแจ ก็ต้องไปรวมตัวกันที่โรงยิมอีกครั้ง ...... ทั้ง สามเดินมาเข้าแถวตามห้อง โดยแบ่งเป็นชายหญิง  และทันทีที่นั่งลงเสียงแหลมๆของคนที่ทงเฮไม่อยากจะได้ยินก็ดังขึ้น

            ฮยอกแจค่ะ...คุณรู้ไหมว่าภาคบ่ายเรามีกิจกรรมอะไร..?”   หญิงสาวนามว่าฮยอนจีซุกเข้ามาถามอย่างคลอเคลีย พรางคล้องแขนแสดงความเป็นเจ้าของไปด้วย  คนที่นั่งข้างหน้าผู้ซึ่งเป็นตัวจริง จึงอดไม่ได้รีบหันขวับมาหาทันที

                     ฮยอนจี...ปล่อยมือเธอออกจากแขนฮยอกแจนะ  ร่างเล็กเข่นเขี้ยวใส่

            ฮยอกแจเขายังไม่เห็นว่าฉันเลย...แล้วนายมีสิทธิ์อะไรห๊ะ   หญิงสาวสวนกลับ มิวายยังเอนศรีษะซบกับบ่ากว้างของคนข้างๆอีก

             ฮยอกแจ....งั้นนายเปลี่ยนที่กับฉันเดี๋ยวนี้เลย!”  ทงเฮดันหัวของหญิงเจ้าปัญหาออก ก่อนจะรีบดึงแขนฮยอกแจให้ขยับมานั่งในที่ของตน   ส่วนตัวเองก็นั่งคุมอยู่ด้านหลัง ... ทงเฮหันไปแลบลิ้นใส่ หญิงข้างกายอย่างซะใจ   คิคิ...เธอไม่รู้ซะแล้ว  ฮยอนจี๊... ว่าเธอกำลังเล่นกับใคร

           นาย....โอ๊ยย....  ฮยอนจีโวยวายอย่างไม่พอใจ..ดูก็รู้ว่าฮยอกแจเองก็ไม่ได้สนใจทงเฮซักนิด ..มีแต่ทงเฮนี่แหละที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจนน่าหมั่นไส้

           แบร่ๆๆ.........   แลบลิ้นให้อีกทีดั่งผู้มีชัย  ..ก่อนจะสอดมือนุ่มๆทั้งสองโอบรอบเอวคนร่างหนาตรงหน้า แล้วเอนกายซบเข้าที่แผ่นหลังกว้าง...ตาหวานหลับพริ้ม ทำท่าแลดูมีความสุขซะเหลือเกิน

          เด็กแสบกอดไว้ไม่ยอมปล่อย จนฮยอกแจต้องแกะมือนิ่มนี่ออก  แล้วหันมาพูดด้วยถ้อยคำที่ดูเหมือนจะเย็นชา แต่มันก็ไม่ใช่

         อยู่นิ่งๆได้ไหม..... ซนแหมือนลิงเลยนะนาย

          ก็ฉันหวงนายนิ  .... นายบอกฮยอนจีไปสิ ว่าเราเป็นแฟนกัน

           อืม....  ฮยอนจี....เธอเองก็เลิกยุ่งกับฉันซักทีได้ไหม...  คำพูดหน้าตายๆของชายหนุ่ม ทำเอาหญิงสาวไม่ไปถูก 

           ฮยอกแจค่ะ.........   ฮยอนจีครางยาวออกมา

           หวังว่าเธอคงจะฟังรู้เรื่องนะ   ตอกย้ำเข้าอีกรอบ....ทำเอาฮยอนจีหน้าชาเข้าไปใหญ่

            ได้ยินไหมฮยอนจี......ไปชิ่วๆเลยไป.....  ได้ทีเจ้าเด็กแสบก็ทับถมคืนบ้าง

           ฮยอกแจ นายมันบ้าจริงๆ.....แล้วนายจะรู้ว่าซักวัน ทงเฮมันจะต้องทิ้งนาย เหมือนที่มันทำกับคนอื่น!!! “   ฮยอนจีว่าใส่อย่างสุดอารมณ์ ก่อนจะหอบร่างของตัวเองเดินหนีไปต่อแถวด้านหลังใหม่  ....... ใช่ เพราะคนอย่างทงเฮ รู้กันดีว่าไม่เคยจริงใจกับใครซักคน คบคนนู้นคนนี้เป็นว่าเล่น                

                      

               ผ่านไปได้ซักระยะเมื่อทุกคนมารวบตัวกันหมดแล้ว  ....... เหล่าสตาฟผู้เป็นหัวหน้างานของกิจกรรมครั้งนี้ ก็เอ่ยปากพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน  ทุกคนพากันหัวเราะ เมื่อได้ยินอะไรตลกๆจากเรื่องที่รุ่นพี่เล่าให้ฟัง  แต่ก็คงจะมี 1 หนุ่มละมั้ง ที่ไม่สนุกด้วย  

            โอ๊ยยย  พี่เยซอง...ผมต้องทำกิจกรรมกับเพื่อนในโรงยิมนะ!!”  เรียวอุคส่งเสียงรำคาญออกมาอย่างสุดทนก่อนจะสะบัดมือของพี่ชายข้างบ้านที่ดันมาเป็นสตาฟของงานในวันนี้ออกเต็มแรง

           ก็เราน่ะ....เมื่อวานไปนอนที่ไหนมา... พี่ชายที่แสนหวงน้องไถ่ถามออกไปอย่างเป็นห่วง

    ผมจะไปนอนที่ไหนก็เรื่องของผม  พี่ไม่ต้องยุ่ง!”

    แล้วรู้ไหมว่าแม่เราเป็นห่วงขนาดไหน   ก็เมื่อเช้าขณะที่เขากำลังขับรถออกจากบ้าน  จู่ๆก็พบกับแม่ของเรียวอุค  พอลงจากรถไปถามดู ก็พบว่าเมื่อคืนเรียวอุคไม่ได้กลับบ้าน แม่ติดต่อไปตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ยอมรับสาย

    อย่ามาจุ้นเรื่องของครอบครัวคนอื่นได้ไหมพี่เยซอง

    เรียวอุค...     เยซองกดเสียงต่ำดุ..... พรางจ้องหน้าน้องตัวแสบด้วยอารมณ์จริงจัง  งั้นหลังจบค่าย    นายต้องกลับบ้านกับพี่   ว่าต่ออีกครั้งเล่นเอาเด็กรักอิสระ ทำหน้าเหยเก อย่างไม่พอใจ

    พี่อย่ามายุ่งกับผมได้ไหม

    พี่ก็ไม่ได้อยากยุ่งกับนาย...แต่พี่เป็นห่วงแม่นายต่างหาก  

    แม่ไม่เป็นไรหรอก...

    ก็นิสัยแบบนี้ไง แม่ท่านถึงได้เป็นห่วง

    แล้วพี่รู้จักแม่ผมดีขนาดนั้นเลยเหรอ....เค้าไม่ได้เป็นห่วงผมหรอก   เรียวอุคค้อนเสียงถามอย่างไม่พอใจ   ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในโรงยิมเสียดื้อๆ ทิ้งไว้ให้ผู้เป็นพี่ได้แต่มองตามอย่างเหนื่อยหน่าย...เมื่อไหร่เด็กคนนี้จะรู้จักโตซักทีนะ 

     

     

             ทางด้านของฝั่งคนที่อยู่ในโรงยิม ที่ตอนนี้กำลังนั่งประดิษฐ์ เครื่องบินเล็กอยู่ โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่มละ 6 คน ทุกคนพากันง่วนอยู่กับการนั่งตัดกระดาษเพื่อประกอบเครื่องบินลำนี้ 

             ทงเฮ....แล้วซองมินไปไหนล่ะ ?...” เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนึงในกลุ่มสะกิดไหล่เพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งทากาวอยู่เพื่อไถ่ถาม   เมื่อพบว่าร่างอวบๆของคนน่ารักตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ทั้งๆที่ทุกคนต่างก็เข้ามารวมตัวกันที่โรงยิมแล้ว  ทงเฮหันไปมองอย่างงงๆ  แล้วก็หันมาสนใจกับเครื่องบินที่ตนเองกำลังประกอบต่อ แต่ปากเล็กก็ยังบอกเพื่อนหน้าตาดีคนนั้นไป 

            ซองมินไปห้องพยาบาลน่ะ....มีอะไรเหรอ ?”  

            ซองมินเป็นอะไร !! “

       อุ๊ยๆ...ตกใจเกินไปหรือเปล่า ฮันกยอง...เห็นไหมเครื่องบินมันจะพังแล้วเนี่ย.!!....  ทงเฮหันไปอารมณ์เสียใส่เพื่อนตัวดี ที่เกือบจะทำเครื่องบินที่คนในกลุ่มนั่งตัดมาเป็นชั่วโมงพัง

     ฉันขอโทษ.... เอ่อ แล้วซองมินเป็นอะไรล่ะ   ฮันกยองเริ่มใช่น้ำเสียงอ่อนโยนถาม

       ซองมินไม่สบาย ..ตอนนี้ไปพักอยู่ห้องพยาบาลแล้ว 

    เป็นมากหรือเปล่า ?? …”  เค้ารู้ว่าทงเฮคงเริ่มรำคาญเค้าแล้วล่ะ แต่ทำยังไงได้ ก็เค้าเป็นห่วงซองมินหนิ

    ไม่มากหรอก ..เดี๋ยวตอนเย็นก็มาแล้ว.  ตอบไปก็หยิบชิ้นส่วนอื่นมาประกอบเข้ากับตัวเครื่องบินต่อ

    ดูเหมือนว่าฮันกยองจะเป็นห่วงซองมินมากเลยนะเนี่ย  ฮ่าๆๆ ..  เพื่อนในกลุ่มต่างแซวยกใหญ่  คนโดนแซวเองก็หน้าแดงไปตามๆกัน  นี่เค้าแสดงออกมากขนาดนั้นเชียวเหรอ

    ก็..ก็ซองมินเป็นเพื่อนชั้น ชั้นก็ต้องห่วงสิ! “

     

    ทงเฮไม่สนใจกับกระแสฮันมินที่เพื่อนๆกำลังนั่งนินทาเลยซักนิด ร่างเล็กเอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับเครื่องบินที่ตนเองแสนภูมิใจ  เมื่อเห็นว่าจะประกอบกันยังไง มันก็ไม่ยอมติดซักที  สายตาเฉียบแหลมเลยไล่กวาดไปทั่วบริเวณเพื่อหากาวที่จะสามารถใช้ประกอบเครื่องบินลำนี้ได้ 

     

    ฮยอกแจ...มีกาวแบบอื่นอีกไหม  อันนี้มันต่อไม่อยู่เลย  

    หื้ม ?...... “ คนที่เกือบจะไปเฝ้าพระอินทร์ตั้งแต่บ่าย  ครางออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสะกิดที่มาจากหัวไหล่ 

    มันต่อไม่อยู่อ่ะ  มีกาวแบบอื่นอีกไหม  คราวนี้ทงเฮเล่นยื่นเครื่องบินให้คนเพิ่งตื่นดูพร้อมกับส่งเสียงเน้นย้ำอีกครั้ง 

    อื้ม....อยู่นี่ไง  ไม่เห็นเหรอ ? ….”  ฮยอกแจเปลี่ยนท่าจากที่เคยเอามือเท้าคางโดยใช้แขนชันกับต้นขาเปลี่ยนไปคลำหาถุงที่จำได้ว่าอาจารย์เคยเอามายื่นให้ แล้ววางไว้ใกล้ๆเค้า

    อ่า. ขอบใจนะ..นายหลับต่อเถอะ.. ร่างเล็กฉีกยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง  ทำไมเค้าดูมีความสุขกับการทำเครื่องบินขนาดนี้นะ  ทั้งๆที่คนอื่นส่วนมากสภาพไม่ต่างจากฮยอกแจเท่าไหร่เลย  ทำไมกัน  การทำเครื่องบินมันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ  ?

     

    อ่า..เครื่องบินจ๋า.... ใกล้จะเสร็จแล้วสินะ   ทงเฮว่าด้วยอารมณ์แสนสุข ก่อนจะบีบแท่งกาวลงบนฝ่ามือตัวเองเบาๆ แล้วแปะเข้าตามลำตัวเครื่องบินเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่หลุดจริงๆ    บีบเข้าที่ฝ่าตัวเองอีกครั้ง แล้วป้ายลงไปที่ปีกเครื่องบินต่อ    ร่างเล็กเหลือบไปเห็นฝ่ามือใหญ่ๆของคนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะลอบอมยิ้มออกมา   ทงเฮจับมือของฮยอกแจข้างนึงที่ชันแขนไปกับพื้น ขึ้นมา ก่อนจะ  ประกบเข้าเบาๆที่ลำตัวเครื่องบิน 

    เครื่องบิน ของ ฮยอกแจ กับ ทงเฮ..อิอิ ...   

     

    ทำอะไรน่ะ ? ….”  คนที่เพิ่งหลับไปเมื่อครู่ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนมาจับมือตัวเองอยู่  แล้วก็พบว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ  

    ก็แค่อยากให้นายมีส่วนร่วมในการทำเครื่องบินเฉยๆ  เราอยู่กลุ่มเดียวกันนะ     ทงเฮว่าพลางดึงมือฮยอกแจออกจากตัวเครื่องบิน แต่ก็ยังจับมือฮยอกแจไว้แน่นอยู่ 

    อืม..จะทำอะไรก็ทำเถอะ   ฮยอกแจตอบพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ  ทำไมเค้ารู้สึกว่ากิจกรรมของทางโรงเรียนมันน่าเบื่อแบบนี้นะ สู้ไปนั่งเรียนในห้องยังดูสนุกกว่าอีก

     

    หลังจากที่นั่งจับมือฮยอกแจจนอิ่มใจแล้ว ร่างเล็กก็กวาดสายตามองไปรอบๆ พรางเอนหัวซบเข้าที่ไหล่ของคนนอนอยู่อย่างเนียนๆ    ทงเฮจ้องหน้าเพื่อนเสียงแหลมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม  ที่เอาแต่นั่งหน้าบูดมาทั้งชั่วโมง  ก่อนจะเอ่ยเรียกออกไป

    อุคกี้.... 

    เรียวอุค ....

    รยองกู !!” 

     

     ต้องเรียกถึง 3 ครั้งกว่าเพื่อนรักคนนี้จะมีสติ  เรียวอุคส่ายหน้าเบาๆก่อนจะมาทำตาโตใส่ทงเฮ   

    เรียกอะไรดังขนาดนั้น ชั้นได้ยินแล้วน่า! …” 

    ได้ยินเหรอ.ชั้นเรียกนายตั้ง 3 รอบเลยนะอุคกี้ ...มีอะไรหรือเปล่า ? ….”

    เปล่าหรอก....

    แน่นะ ? ….”

    นายไปจู๋จี๋กับแฟนนายเถอะน่า.... ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ

     

    เรียวอุคพูดออกไปส่งๆ ก่อนจะก้มหน้าลง นิ้วป้อมๆขีดเขียนไปมาบนพื้น  เพื่อคลายความเครียดที่คราคั่งอยู่ทั่วหัว  ทงเฮเห็นท่าไม่ดีจึงคิดจะคลานเข้าไปปลอบเพื่อน  แล้วพูดเคลียร์กันให้รู้เรื่องว่าเรียวอุคเป็นอะไรกันแน่ แต่ทว่า

     

     โอ๊ยย!!!... “ ร้องเสียงหลงทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบๆที่ฝ่ามือ   และมันก็เป็นมือข้างที่เค้าทาบทับอยู่บนหลังมือของฮยอกแจนั่นเอง ....... ทงเฮพยายามดึงมือของตัวเองออกจากคนที่หลับลึกอยู่ในภวังค์อีกรอบแต่มันก็ไม่ได้ผล  

    เฮ้ยยย.....เอาไม่ออกอ่ะ   คนน่ารักเบ้หน้าร้องบอกเพื่อนในกลุ่ม ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย  พรางยกมือข้างที่สมานกันกับชายร่างหนาขึ้นมาให้เพื่อนดู

    ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะทงเฮ... เพื่อนคนนึงในกลุ่มพูดขึ้น ก่อนจะคลานเข้ามาดูใกล้ๆ  แล้วลองจับมือของทงเฮขึ้นมา  แต่ก็เป็นอันว่ามือของฮยอกแจก็ลอยติดขึ้นมาด้วย  เพื่อนหนุ่มคนนั้นรีบถอยกรู เพราะกลัวว่าฮยอกแจจะตื่น   เค้าล่ะกลัวสายตาเย็นชาจากผู้ชายคนนั้นจริงๆ

    ติดกาวไอ้นี่แน่เลย ?....”  เรียวอุคพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะยกหลอดกาวที่มีสรรพคุณเหนียวหนึบยิ่งกว่าพลังช้างสารขึ้นมา  ทงเฮเริ่มหน้าจ๋อย  เพื่อนคนอื่นในกลุ่มก็เป็นเช่นกัน

    กาวอะไรอ่ะเรียวอุค .....แล้วทำไมมันติดหนึบขนาดนี้

    ฉันก็ไม่รู้จักยี่ห้อนี้เหมือนกัน แต่อ่านดูจากข้างหลอดมันเขียนว่า  เหนียวหนึบ ทนนาน  เรียวอุคว่าเสียงเรียบแต่นั่นมันกลับยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยของทงเฮเต้นตุ๊บๆไม่เป็นจังหวะ 

    ฉันว่านายปลุกฮยอกแจก่อนดีไหม    ฮันกยองเป็นฝ่ายเสนอ  ซึ่งทงเฮก็ยอมทำตาม

    ฮยอกแจ ...!!  ฮยอกแจจจ!!!”   ทงเฮเขย่าไหล่คนนอนเต็มแรง เล่นเอาคนที่อยู่แถวนั้นหวาดกลัวไปตามๆกัน ว่าเจ้าชายเย็นชาจะตื่นขึ้นมาในสภาพไหน  

    จิ๊...อะไรอีก !!......” จิ๊ปากเป็นเชิงเสียอารมณ์แต่ก็ยอมเปิดเปลือกตาขึ้นมารับรู้เหตุการณ์ภายนอก  ฮยอกแจใช้มือข้างที่ไม่ถูกพันธนาการยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าทงเฮด้วยสายตาที่ทุกๆคนต่างก็คาดเดากันถูก 

    ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นนะ ....ดูนี่ก่อน แล้วจะด่าอะไรก็ด่า 

            หื้ม ?........”  

     

    ทงเฮค่อยๆยกมือของตนเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อให้คนที่นั่งอยู่ข้างกายดู

     

            แล้วนายจะจับมือชั้นทำไมล่ะ   ก็ปล่อยสิ 

           ก็ไม่ได้จับซักหน่อย .. แต่เพราะว่ากาวมันนน.........            

     

    ฮยอกแจรู้สึกว่าเหมือนลางร้ายกำลังใกล้เข้ามา สายตาคมจ้องมองไปยังมือเรียวที่บัดนี้กำลังจับหลังมือเค้าไว้อยู่       เพ่งมองอย่างสงสัย ก่อนจะชำเลืองไปมองใบหน้าหวานของคนข้างๆ

    กาวอะไร...... ก็ปล่อยสิ  คราวนี้ไม่รอให้ทงเฮได้อธิบาย ชายหนุ่มกลับดึงมือของตนเองออก  แต่ทว่า มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด  เพราะมือของทงเฮกลับปลิวหวือมาตามแรงด้วย

     

    ก็บอกว่ากาวมันติด. มันเลยเอาออกไม่ได้....  ทงเฮพูดหน้าเจื๋อนๆ

    ห๊ะ ? อย่ามาตลก…”    ใช้มืออีกข้าง มาจับมือทงเฮออกอีกที แต่ยิ่งดึงเท่าไหร่มันก็ดึงไม่ออก ร่างสูงเริ่มเข่นเคี้ยวอย่างไม่พอใจ พลางหันไปค้อนมองคนหน้าหวานอีกครั้ง

    นายเล่นบ้าอะไรอีก !! …..”  เสียงตะวาดที่ถึงจะไม่ดังมากนัก กลับพาให้เพื่อนๆในกลุ่มต้องเกาะรวมกันอยู่เพราะกลัวว่าตัวเองจะซวยไปด้วย   ทุกคนต่างก็พากันสอดส่องสายตาว่า เด็กใหม่คนนี้จะทำอย่างไรต่อไป      ร่าเงล็กชักสีหน้าไม่พอใจเช่นกันเมื่อถูกตวาดใส่  ก่อนจะเอ่ยเรียบๆออกมา

    ขอโทษ....ก็ไม่นึกว่ามันจะติดหนึบขนาดนี้นี่ 

    นายนี่จริงๆเลย....  ฮยอกแจลดแขนลงวางกับพื้นก่อนจะมองหน้าทงเฮอีกครั้ง เพื่อถามเป็นในๆว่าจะทำอย่างไร หลังจากนี้

            อย่ามามองหน้าแบบนี้นะ....งั้นไปเข้าห้องน้ำกัน เอาน้ำถูๆมันอาจจะออกมั้ง

            ออกบ้านอากงนายสิ  ..... ไอ้กาวแบบนี้มันต้องใช้สารเคมีจากโรงพยาบาลเท่านั้นแหล่ะ ถึงจะออก   ว่าใส่อีกครั้งก่อนจะขว้างไอ้กาวที่เค้าเพิ่งหยิบมาพิจราณาเมื่อครู่ ปาลงกับพื้น ...

            งั้นพวกนายก็ไปโรงพยาบาลเถอะ....เดี๋ยวฉันบอกอาจารย์ให้เอง   ฮันกยองพูดเพื่อให้บรรยากาศรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ....... ไม่นาน 2 ร่างที่ทุกคนต่างจับตามก็เดินหายออกไป

     

     

         แล้วฉันจะขับรถยังไงเนี่ย.....  ก็ในเมื่อมือข้างซ้ายของเขาดันมาติดกับมือข้างขวาของทงเฮ   แล้วรถฝั่งคนขับก็ดันมาอยู่ด้านซ้ายซะด้วย นี่ถ้ามันติดฝั่งมือขวาเค้าก็จะไม่บ่นซักคำหรอก  แต่แบบนี้  จะให้เขาขับรถยังไง  แล้วจะขับท่าไหนล่ะ

        คือถ้าเป็นแบบนี้ ชั้นต้องขับแทนนายใช่ไหม....  ร่างเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ  ขณะที่อยู่หน้ารถเก๋งสีดำคันหรู

         แล้วนายขับได้ไหมล่ะ

         เอ่อ....ขับได้ แต่ขับไม่เป็น.....  ทงเฮก้มหน้าหงุดๆ ดูก็รู้ว่าตอนนี้ฮยอกแจกำลังอารมณ์เสียสุดๆ ....... ง่า เค้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ซะหน่อย

                  อื้ม...ให้มันได้แบบนี้สิ ..งั้นนายมานี่!!....”  ฮยอกแจรีบเดินมาฝั่งที่นั่งคนขับก่อนจะกระชากประตูรถออกแล้วทรุดตัวเข้าไปนั่งเต็มเบาะ   ส่วนคนที่ยืนอยู่นอกรถข้างๆก็เอาแต่มองงงๆ   แล้วมันมีที่ให้เค้านั่งตรงไหนกัน ..นี่คงไม่หวังลากเค้าไปตามพื้นถนนเหมือนหนังซีรีย์ฝรั่งโหดๆหรอกนะ

                   แล้วฉันจะนั่งตรงไหน ?...”

                   เมื่อก่อนฉลาดนักไม่ใช่เหรอไง  เรื่องแค่นี้ต้องให้บอก  ฮยอกแจว่าเสียงกร้าวก่อนจะ ใช้มืออีกข้าง ดึงร่างของคนน่ารักให้เข้ามาในตัวรถ  ทงเฮเองก็ยังมึนงงอยู่ว่าฮยอกแจจะทำอะไร  จนในที่สุดเมื่อภาคปฎิบัติจบลงเสร็จสรรพ ทงเฮถึงได้รู้ว่า  แท้จริงแล้ว เค้าต้องนั่งบนตักของฮยอกแจแบบนี้นี่เอง 

                นั่งแบบนี้แล้วนายจะขับรถยังไง มองทางเห็นเหรอ....  ก็ใช่น่ะสิ  ถึงตัวเค้าจะเล็ก แต่ถ้าให้มานั่งบนตักแบบนี้ รับรองว่าบังทิวทัศน์การมองเห็นของฮยอกแจไปเต็มๆ

                เอนตัวลงแล้วซบที่ไหล่ซ้ายชั้น.....   ทงเฮรีบทำตามที่ฮยอกแจบอก    แต่ก็แอบคิดไม่ดีอยู่ในใจ  อิอิ..แบบนี้มันโรแมนติกเกินไปแล้วนะ  แต่ทำไมใจเราถึงต้องเต้นแปลกๆด้วยล่ะ  แค่ซบไหล่ผู้ชายแค่นี้   ขนาดจูบคนอื่นหัวใจยังเต้นไม่แรงเท่านี้เลย  อ๊ากก ทงเฮนี่นายเป็นอะไรเนี่ยยย

               อยู่แบบนี้จนถึงโรงพยาบาลเลยแล้วกัน.....    ร่างสูงใช้มือข้างที่มีมือทงเฮติดอยู่ด้วยเสียบกุญแจเข้าไปในช่องก่อนจะบิด แล้วเหยียบคันเร่งเพื่อสตาร์ทรถ  ไม่นาน เขม่าควันสีขาวก็พุ่งออกมา เป็นสัญญาณว่ารถคันนี้เตรียมพร้อมที่จะออกสู่ถนนแล้ว   

     

    ณ โรงพยาบาลชื่อดัง ใจกลางกรุงโซล

     

    ฮยอกแจจ....อย่าเพิ่งไปหาหมออ    ชั้นปวดฉี่ ไม่ไหวแล้ววววววววว !!!!!”

     



    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------









           ทงเฮ..นายนี่มัน.........  ร่างสูงมองใบหน้าของคนข้างกายอย่างเซ็งแซ่  หลังจากที่พาคนๆนี้เข้ามาในห้องน้ำของโรงพยาบาลแล้ว 

                  เงียบหน่อยซี่  ทำไมตะขอกางเกงมันปลดยากจังเนี่ย !....  เมื่อมาถึงโถฉี่ ก็ทำการปลดตะขอกางเกงออกด้วยมือเพียงข้างเดียว ... อาจเป็นเพราะความไม่ถนัดทงเฮจึงไม่สามารถปลดมันออกได้ซักที  

    จะทำอะไรก็รีบทำ.....

     ฮยอกแจ..... ..  ใบหน้าหวานเอียงมองไปหาคนข้างๆ ด้วยสีหน้าที่ดูน่าสงสาร... ก่อนจะเอ่ยต่อ.. แบบว่ามันปลดตะขอไม่ถนัด   ชั้นขอใช้อีกมือแล้วกันนะ 

    ทำอะไรก็ทำเถอะน่า....ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ ไม่มีใครเห็นหรอก

    ทงเฮเลื่อนมือที่ติดอยู่กับฮยอกแจมายังบริเวณขอบกางเกง..... ทำท่าครุ่นคิดเพราะความเขินอายอยู่สักพักก็ต้องก้มลงไปปลดตะขอกางเกงตัวเองออก   ...... จะไม่ให้เขินได้ยังไง  ก็มืออีกข้างที่ช่วยแกะน่ะมันเป็นมือของฮยอกแจชัดๆ ...ก็มือเค้าติดอยู่ด้านบน มันจะแกะได้ยังไงล่ะ  

     

       ร่างเล็กทิ้งอวัยวะที่ถูกพันธนการไว้ข้างกาย  ก่อนจะใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปในซับในสีอ่อนของตัวเอง

            หลับตาดิว่ะ..... เสียงเล็กๆออกปากสั่ง  เล่นจ้องเค้าแบบนี่  มีหวังฉี่มันคงรดหดในแน่ๆ

            จะหลับทำไม... ฉี่ไปเถอะน่า..ของๆนายอันแค่ไหน ฉันก็เห็นมาแล้ว  ..ทำไม....เกิดอายขึ้นมาเหรอ..ทีตอนไปทำอะไรในห้องครัวชั้นล่ะ  ไม่นึกอาย....  คนที่จู่ๆกลับพูดมากยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ เพื่อเป็นการเย้ยหยันเล็กๆ

           เออๆ..... ก็ได้ๆ.....  ทงเฮไม่สนใจเสียงนกเสียงกา เขยิบร่างให้เข้าไปชิดโถฉี่มากขึ้น แล้วล้วงทงเฮน้อยของตนออกมา   ...ดวงตากลมโตค่อยๆหลับพริ้มลง เนื่องจากรู้สึกผ่อนคลาย

     

    ฉ่า..............   เมื่อเสียงกิจวัตรของคนหน้าหวานสิ้นลง   ทงเฮก็รีบจัดการกับอาภรณ์ช่วงล่างทันที   .แต่มันก็คงจะมีแต่ปัญหาเดิมๆนั่นแหละ  ก็คือตะขอของกางเกงตัวหรู 

           รู้อย่างนี้   ชั้นเปลี่ยนไปใส่กางเกงพละตั้งนานแล้ว     พร่ำบ่นไปก็ก้มหน้าหงุดๆอยู่กับการใส่ตะขอ ..ด้วยความสามารถมือเดียวของตัวเองต่อ

          เวลาผ่านไปเริ่มนานเข้า ..จนร่างหนาเริ่มนึกรำคาญอยู่ในใจถึงความเงอะงะ เฟอะฟ่ะของคนอวดเก่ง   ฮยอกแจจับเอวบางทั้งสองข้างก่อนจะออกแรงเพื่อจับร่างบางให้หันมาประจันหน้า   

           เอ๋....นายจะทำอะไร

            ก็แค่ใส่ตะขอแค่นี้มันนานอะไรนักหนา........  จบคำสองมือแกร่งก็ตรงเข้าไปใส่ตะขอกางเกงให้เสร็จสรรพ ...... มันรวดเร็วซะจนทงเฮตั้งตัวไม่อยู่ว่าเหตุการณ์เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น ..ใบหน้าขาวรู้สึกร้อนวูบวาบ  เลือดในกายสูบฉีดเสียเต็มที   ภายในหัวไม่คิดอะไรทั้งนั้น  มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยเรียกซะแล้ว 

            จะหน้าแดงทำไม.....ไปหาหมอได้แล้ว ..........

             อ่ะ....อื้ออออ........

      

     

     

     

    อีกฝากหนึ่ง ณ บริเวณเดียวกัน 

     

             หมอครับ...เพื่อนผมเป็นยังไงบ้าง! …..”  หลังจากที่พาร่างอวบๆของเพื่อน? ส่งเข้าห้องตรวจได้ซักพัก   หมอหนุ่มในชุดกราวน์สีขาวก็ออกมา  คยูฮยอนรีบปรี่ไปจับที่ต้นแขนของหมอ ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างร้อนรน

            ตอนนี้คนไข้ ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ..เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายอ่อนแอมาก รวมถึงยังมีไข้ขึ้นสูง  ยังไงวันนี้คงต้องนอนที่โรงพยาบาลไปก่อนเพื่อดูอาการนะครับ   หมอหนุ่มพูดจาอย่างสุภาพพลางจับที่บ่าของหนุ่มรูปงามไว้   

          ครับ........งั้นช่วยย้ายไปที่ห้องพิเศษด้วยนะครับ..ผมจะเฝ้าเค้าเอง

         ได้ครับ....

    หลังจากที่คุณหมอก้าวเดินจากไปแล้ว คยูฮยอนก็ทิ้งตัวนั่งกับเก้าอี้  ปล่อยร่างกายให้เป็นไปตามสภาพกายของตัวเอง  ใบหน้าคมเงยมองผนังฝ้าสีขาวสะอาดตา   ... รู้สึกว่าก้อนเนื้อในอกซ้ายมันบีบรัดแปลกๆ .....  เพราะอะไรกัน... ทำไมผมต้องรู้สึกผิดแบบนี้ด้วย 

     

    หลังจากที่เดินหาห้องพยาบาลในโรงเรียนอยู่นาน.....อนึ่งอาจเป็นเพราะโรงเรียนแห่งนี้มันกว้างเกินไปละมั้งเค้าถึงหามันไม่พบ  ......คยูฮยอนเลยตัดสินใจพาซองมินมาที่โรงพยาบาลแทน  ...ในชีวิตจริง เค้าไม่จำเป็นต้องแคร์ด้วยซ้ำว่าคนๆนี้จะเป็นหรือตาย ..แต่มันเพราะอะไรล่ะที่ทำให้เค้าเป็นห่วงซองมินได้ถึงขนาดนี้ .....เพราะซองมินเป็นเพื่อนทงเฮงั้นเหรอ    ...เหตุผลข้อนี้มันอาจจะใช่ ....แต่มันก็คงไม่ทั้งหมด ...ซึ่งตัวเค้าเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

    มือแกร่งล้วงเข้าไปในกางเกงแสลคสีเข้มของตัวเอง แล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา  นิ้วยาวเรียวกดไปยังหน้าจอมือถืออยู่หลายทีก่อนจะยกขึ้นมาแนบหู

     

    ครูใหญ่ครับ....วันนี้ผมกับลีซองมิน ขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายสัมพันธ์ของโรงเรียนนะครับ

    โอเคครับ...ขอบคุณมากครับครูใหญ่  

     

             แน่นอนว่าเรื่องแค่นี้สำหรับเค้ามันเล็กน้อยมาก... อำนาจของพ่อเค้ามันใหญ่ล้นประเทศขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็ตามแต่   ก็คงไม่กล้าหือ 

     

     

     

     

      เฮ้ออ............นายนี่ไม่อายหมอเค้าบ้างเหรอไง เล่นแหกปากลั่นโรงพยาบาลซะขนาดนั้น   หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว  ฮยอกแจก็เอ่ยปากดุ  ก็ตอนที่หมอเค้าเทน้ำยาอะไรซักอย่างใส่ ไอ้คนอวดดีนี่ก็ร้องครวญครางจะเป็นจะตายให้ได้  ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้เจ็บซักนิด 

    นายไม่เจ็บแต่ชั้นเจ็บนี่นา...ของนายน่ะมันแค่หลังมือ  แต่ของชั้นน่ะมันทั้งฝ่ามือเลยนะโว้ยย!!!”  ไม่ว่าเปล่ายังโชว์ฝ่ามือขวาของตัวเองให้คนขับรถดูเป็นขวัญตา

    ก็แค่เป็นรอยลอกนิดเดียวเอง....เดี๋ยวมันก็หาย..

    ถ้ามันไม่หาย เดี๋ยวชั้นจะกระโดดเตะตูดนายเลยคอยดู

    ทีอย่างนี้ล่ะเก่ง .....

    ชิ.....แล้วไอ้เพื่อนตัวดีของนาย หายหัวไปไหนซะแล้ว  คงไม่ได้ตามไปนอนห้องพยาบาลกับซองมินหรอกนะ  เพราะคำพูดของทงเฮ ทำให้ฮยอกแจต้องฉุดคิดว่าเค้าเผลอลืมเพื่อนตัวแสบไว้แล้วจริงๆ   ร่างแกร่งรีบสวมใส่บลูทูธที่หู  ก่อนจะกดโทรออก    ไม่นานเสียงสัญญาณ ตื้ดๆๆ...ก็แปรเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ดูร้อนรนของคนปลายสาย 

    เฮ้ยมึง..ซองมินไม่สบายว่ะ

    กูรู้แล้ว....แล้วนี่มึงอยู่ไหน...... ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคยูฮยอนต้องทำน้ำเสียงร้อนใจแบบนี้ด้วย ใครๆก็รู้ว่าซองมินกำลังป่วย   แล้วตอนนี้ก็คงนอนอยู่ที่ห้องพยาบาล

    กูอยู่โรงพยาบาลคังเซ ...กูพาซองมินมาโรงพยาบาล

    เฮ้ยย..แล้วซองมินเป็นอะไร!!”

    เอ่อ.คือ.....กูไม่รู้ว่ะ  ตอนกูเดินตามเค้าออกไปจะเข้าห้องน้ำ กูเห็นเค้าเป็นลม  แต่กูหาห้องพยาบาลไม่เจอ กูเลยพาเค้ามาส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนี้หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว ให้นอนโรงพยาบาลไปก่อน   เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าพูดออกมา ล้วนแล้วแต่เป็นคำโกหก  เพราะเค้าเองไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายกันไปใหญ่ .....รู้ว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว ....แต่จะทำยังไงได้  ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ...บางทีซองมินก็คงคิดเหมือนกับเค้า

    แล้วทำไมมึงไม่พาซองมินมาหากูก่อน!”

    ก็กูกลัวซองมินเป็นอะไรนี่หว่า..อีกอย่างห้องน้ำกับโรงอาหารมันก็ห่างกันคนละโยชน์

    แล้วนี่มึงจะเอายังไง

    กูจะนอนเฝ้าซองมินที่นี่......ส่วนเรื่องโรงเรียน ช่างแม่งเหอะ กูเคลียร์กับครูใหญ่เรียบร้อยแล้ว

    เออแม่ง...กูก็เบื่อโรงเรียนเหมือนกัน

    ก็ไม่ออกมาว่ะ อยู่ทำซากอะไร ... พ่อมึงก็ใหญ่ไม่ใช่เหรอ...หรือเค้าไม่รู้ว่ามึงเป็นลูกใคร

    เออ...บอกไปเดี๋ยวก็แม่งมาประจบสอพอกูอีก กูรำคาญ  งั้นมึงช่วยบอกแทนกูกับทงเฮด้วย  กูจะได้ไม่เข้าโรงเรียน  

    ได้ๆ ...... แต่มึงกับทงเฮนี่ไวไฟดีนะ .....กูไม่ได้เห็นมึงรักคนมานานแล้วนะฮยอกแจ.....ท่าทางทงเฮสุดสวยคงต้องมีอะไรเด็ดๆแน่

    เงียบปากไปเลยไอ้เวร....เดี๋ยวกูจะแวะไปเยี่ยมซองมินนะ  แล้วมึงน่ะ ..อย่าไปทำอะไรเค้าล่ะ  ซองมินเค้าสะอาด ไม่สมควรกับมึงหรอก.!!!...”

    โอ๊ยย กูรู้น่า..... หวงๆจริงนะซองมินเนี่ย  แฟนมึงน่ะทงเฮไม่ใช่เหรออ...

    กูขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว ....แค่นี้นะเว้ย!!! “

     

    ฮยอกแจบ่นอย่างอารมณ์เสียก่อนจะกระชากบลูธูทออกจากหู  ตาคมหันไปจ้องคนน่ารักที่อยู่ด้านข้าง ก่อนจะเอยเสียงเรียบออกมา

    ไม่ต้องไปเข้าไอ้ค่ายบ้าๆนั้นแล้วนะ ...เดี๋ยวชั้นจะพานายไปหาซองมิน

    ซองมินเป็นอะไร !!....  ทงเฮพูดหน้าตื่นๆ  ยิ่งได้ฟังสิ่งที่ฮยอกแจพูดคุยกับคยุฮยอนเมื่อครู่ก็พอจะเดาออกอยู่บ้างว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับซองมิน 

    คงไม่สบายหนัก ...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลคังเซ

    นายรีบพาชั้นไปหาซองมินเลยนะ !..”

     

     

     

    ร่างกายซีดเซียวของคนไร้สติที่นอนซมอยู่บนเตียงคนไข้มานาน  จู่ๆกลับรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่กำลังรินรดอยู่บริเวณหน้าผากของตัวเอง  ซองมินค่อยๆปรือตาขึ้นมา  มืออวบอิ่มค่อยๆยกขึ้นไปสัมผัสหน้าผากที่เปียกชื้นของตน  ดั่งกับว่ามีคนมาเช็ดหน้าผากให้เค้าด้วยน้ำอุ่นๆอย่างนั้นแหละ   แต่ทว่า เมื่อมองดูซ้ายขวา กลับไม่มีแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิต คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม  กับสิ่งที่ตนกำลังสงสัย  ซองมินกระพริบตาปริบๆอีกที ก็เพิ่งมานึกได้ว่า สถานที่ที่ตนเองกำลังนอนอยู่นี้  มันคือโรงพยาบาลนั่นเอง  คนไข้น่ารักก้มต่ำไปสำรวจเสื้อผ้าของตนก็พบว่ากำลังใส่ชุดคนไข้อยู่จริงๆ   ขณะที่กำลังก้มลงมองอยู่นั้น ดวงตาหวานดันพบเข้ากับร่องรอยแปลกๆที่โผล่ขึ้นมาบริเวณคอเสื้อ...... ..... รอยแดงๆนั่นมัน ....... ซองมินได้แต่นึกคิดในใจ    แล้วภาพที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายก็เริ่มไหลเข้ามาในหัวของตัวเองเป็นฉากๆ   

     

     อึก........คยูฮยอน....

    เสียงแหบพร่าว่าพร้อมกับมีน้ำใสๆเริ่มคลออยู่ที่หน่วงตา.........พลันคิดในใจว่า  ผู้ชายเลวๆแบบนั้น เค้าจะไม่มีวันญาติดีด้วยเป็นอันขาด ผู้ชายที่ทำให้เค้าต้องแปดเปื้อน  ผู้ชายที่ทำให้เค้าต้องนึกรังเกียจร่างกายอันแสนสกปรกของตนเอง        

     

    แกร๊ก แอดดด...............อ้าว  !   ตื่นแล้วเหรอครับ........ซองมิน

     

    ซองมินหันควับไปตามแหล่งกำเนิดเสียงทันที  ผู้ชายที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพชุดนอนลายทางแสนหรู ...... คนป่วยเริ่มกัดปากตัวเองจนมันห้อเลือด ก่อนจะเอ่ยปากไล่ด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแหบลงทุกที 

     

    ออกไปเดี๋ยวนี้!!!......”

    อะไรกัน ซองมิน  นี่ฉันเป็นห่วงนายนะ   ร่างสูงพูดจาอย่างสุภาพ   แล้วก้าวเดินเข้ามาใกล้คนป่วยเรื่อยๆ

    ออกไปเลย... ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ!!” ซองมินเอ่ยไล่ด้วยสรรพนามที่ดูห่างเหิน  พรางเริ่มถดตัวเอง ให้หนีห่างจากคนตรงหน้า   น้ำตาแห่งความกลัวว่าคยุฮยอนจะทำอะไรอีกก็ไหลแหมะออกมาไม่หยุด  ..... คยูฮยอนยืนนิ่ง  เมื่อเห็นสภาพของคนน่ารัก   แววตาสวยหวานสั่นระริกเพราะความกลัว ร่างกายอวบอิ่มน่ากินเองก็สั่นเทาแรงขึ้นเรื่อยๆ      นี่ซองมินกลัวเขาขนาดนั้นเลยหรือไง ?

    ซองมิน.......ฉันไม่ได้ตั้งใจ .  ร่างสูงพูดเสียงเบาหวิว

    ฮึก ฮือๆ.......อย่าเข้ามานะ  ฮือๆๆ  ได้โปรด  อย่าทำอะไรผม......  ซองมินร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง    ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้แน่น แล้วซุกหน้าลงไปทั้งอย่างนั้น   แต่สายตาที่หวาดกลัวก็ยังเฝ้ามองคนใจร้ายคนนั้นอยู่

    ฉันไม่ได้ทำอะไรนาย...ฉันแค่มาดูแลนาย...ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทำอะไรนายอีกแล้ว..โอเคไหม ?”  ว่าให้คนป่วยคล้อยตาม พลางก้าวเดินเข้ามาชิดเตียงคนไข้อีกครั้ง  คยูฮยอนหย่อนก้นนั่ง   ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปลูบศรีษะคนน่ารัก แต่ซองมินกลับสะดุ้งโหยงไปทั้งกาย  พร้อมกับเขยิบหนี ทำตัวลีบตัวแบนกว่าเดิมซะอีก 

    อย่ามาแตะต้องผม  ฮึก..ฮือๆ..... ร้างทั้งร่างสั่นจนไม่รู้จะยังไงแล้ว  ทำไมเค้าถึงรู้สึกกลัวคนตรงหน้าเหลือเกิน

    เลิกร้องได้แล้วซองมิน.......พักผ่อนเถอะนะ  คยูฮยอนมองคนป่วยอย่างแสนห่วง

    ฮือๆ....ออกไป...... 

    ฉันขอโทษ........   ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูงแต่ก็ยังไม่ออกไปจากห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้  เค้ายังคงเฝ้ามองคนป่วยที่นั่งตัวสั่นอยู่อย่างไม่คลาดสายตา 

     

    .....

    ............

    ....................

    ............................

             ซองมิน  เป็นยังไงบ้าง !!............”  เสียงพรวดพราดของคนนอกที่บุกเข้ามา ทำเอาคยุฮยอนและซองมินต้องหันไปมอง........... และก็ไม่ต้องนึกให้นานว่าเป็นใคร

     ทงเฮ !!.........”   เพื่อนรักทั้งสอง โผกอดเข้าหากันแน่น   ซองมินซุกหน้าลงกับไหล่เล็กของเพื่อน ก่อนจะปล่อยให้น้ำตามากมายไหลออกมามากกว่าเดิม   ทงเฮลูบแผ่นหลังที่สั่นเทิ้มของคนป่วยเพื่อปลอมปละโลม  ถึงแม้ว่าเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น

    นายเป็นอะไร  ?...”

    ฮึกๆ....ฉันกลัว....ฉันกลัวจังเลยทงเฮ .ฮือๆ..... 

     

            คยูฮยอน...มึงออกมาคุยกับกูหน่อย !!..”  ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากถามต่อ จู่ๆเสียงของฮยอกแจก็ดังขัดขึ้น พร้อมทั้งกระชากคอของคยูฮยอนออกไปนอกห้อง   แต่ถึงกระนั้นทงเฮก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ก็ในเมื่อเค้าเป็นห่วงซองมินที่สุด

     

     ซองมินกลัวอะไร....ฉันอยู่นี่ทั้งคน....ไม่ต้องกลัวอะไรนะ

    กลัว....ฮึก.....กลัว.........  ซองมินเอาแต่พร่ำเพ้อว่ากลัวจนทงเฮนึกแปลกใจ....อะไรกันที่ทำให้ซองมินต้องกลัวขนาดนั้น

    กลัวอะไรซองมิน......  ทงเฮผละซองมินออกจากไหล่  ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เพื่อน พร้อมทั้งจับไหล่อันสั่นเทาของซองมินไว้ทั้งสองข้าง  ทงเฮมองตรงไปที่ดวงตาอันสั่นระริกของคนป่วย  แววตาที่แสนเจ็บปวดแบบนั้น   มันคืออะไร  นี่ซองมินที่น่ารักของเค้าเป็นอะไรกันแน่

    กลัวๆ.....ฮึก....ฉันกลัว.....  คนป่วยยังไม่ยอมบอกว่ากลัวอะไร  ใช่  แม้มันอยากจะบอก แต่ว่าก็แสนอายตัวเอง ถ้าคนอื่นได้รู้ว่าร่างกายของเค้ามันไม่บริสุทธิ์แล้ว  ...แม้นทงเฮจะเป็นเพื่อนรัก  เค้าก็ยังอายอยู่ดี  เค้าไม่อยากให้ใครรับรู้ทั้งนั้นว่าบัดนี้ร่างกายของเค้ามันแปดเปื้อนแล้ว

    งั้นเดี๋ยวค่อยบอกฉันทีหลังก็ได้ ถ้านายพร้อม....แต่ตอนนี้นายป่วยอยู่นะ  พักผ่อนซะเถอะ

    ทงเฮอยู่กับฉันนะ......อยู่เป็นเพื่อนซองมินนะ  ฮือๆ  แม้จะเอนตัวนอนราบไปกับเตียงแล้ว แต่ซองมินก็ยังจับมือทงเฮไว้แน่น ยามเมื่ออยู่กับทงเฮ เค้ารู้สึกว่าเค้าปลอดภัยที่สุดแล้ว 

    อ่า...ได้สิ........นี่คยูฮยอนก็กะจะนอนเฝ้านายเหมือนกันนะ 

    ไม่เอา.....ฮือๆ.....ไม่ได้นะ..... คนป่วยส่ายหัวรัว พร้อมกับท่าทีปฏิเสธเต็มที

    ทำไมล่ะ.ก็ตอนนายเป็นลม คยูฮยอนเค้าพานายมาส่งโรงพยาบาลเลยนะซองมิน ..... ก็หลังจากที่ฮยอกแจเล่าให้เค้าฟัง  เค้าก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ช่างเป็นคนดีจริงๆ แม้นิสัยภายนอกจะดูเจ้าชู้ประตูดินเกินไปก็เถอะ

    ยังไงก็ไม่.....ฉันอยากให้ทงเฮ นอนเฝ้าฉันแค่คนเดียว ฮือๆๆ

     อ่าก็ได้.......แต่เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำที่คอนโด ก่อนได้ไหม... อาบเสร็จเดี๋ยวรีบมานอนเป็นเพื่อนเลย

    เอางั้นก็ได้..แล้วเรียวอุคล่ะ..ฮึก..เรียวอุคไปไหน ?...”

    เรียวอุคติดอยู่ที่โรงเรียนน่ะ..พี่เยซองไม่ให้ออกมา...ส่วนฉันกับฮยอกแจที่ออกมาได้เพราะคยูฮยอนไปขอร้องครูใหญ่ไว้

    งั้นทงเฮรีบไปอาบน้ำเถอะ..แล้วรีบมาหาซองมินนะ ซองมินจะรอ   คนป่วยที่อาการค่อยยังชั่วเอ่ยกับเพื่อนรักก่อนจะปล่อยมือออก..ทงเฮส่งยิ้มให้บางๆ แล้วก้าวเดินออกไป

    แล้วฉันจะรีบมานะ!!”

     







    โอ๊ยย โดนโกรธแน่ๆเลยย  ขอโทษนะค่ะ ㅆㅆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×