คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CRAZY CUPID : Chapter 1 : จุดเริ่มต้น
CHAPTER 1
เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นสร้างความรำคาญให้แก่คิวปิดตัวน้อยได้เป็นอย่างดี ..ทงเฮนอนเกลือกกลิ้งไปทั่วเตียง.......ก่อนจะใช้เท้านุ่มๆยันนาฬิกาปลุกที่ส่งเสียงน่ารำคาญนั่น...
“โป๊ะ !! แกร๊ก........” คงไม่ต้องบอกว่าสภาพนาฬิกาเรือนหรู ณ ตอนนี้มันเป็นอย่างไร
“ทงเฮ !!
เจ้านี่ ทำไมขี้เกียจอย่างนี้นะ...” จู่ๆเสียงของผู้เป็นบิดาก็ดังขึ้น แต่คนขี้เกียจก็ยังไม่ ขยับ ...มิหนำซ้ำยังเอาผ้าห่มมาคลุมร่างซะมิดอีก
“ข้าจะเรียกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ..หากว่าเจ้ายังไม่ตื่น ...ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่ที่อื่น ที่มันไม่สบายแบบนี้”
“อื้ออ.... ผมตื่นแล้วก็ได้........” ก็ผมยังอยากอยู่คอนโดแสนสบายนี่ต่อนี่ครับ ..ขืนพ่อส่งไปอยู่บ้านเก่าๆ ผมไม่เอาด้วยหรอก
“วันนี้หน้าที่ของเจ้าก็คือ.......”
“สอนความรักให้กับมนุษย์ชื่อ ลีฮยอกแจ” เมื่อวานก็ย้ำจนกระทั่งหัวเขาถึงหมอนแหน่ะ ........กลัวเขาลืมหรือไง
“ใช่....ข้ามีบางอย่างจะบอกกับเจ้า .....” ภูติชุดขาวในกระจกว่าก่อนจะจ้องมองร่างของลูกชายที่ค่อยๆหยัดตัวขึ้นมาอย่างอ้อยอิ่ง
“อะไรครับ............” ร่างเล็กเอนตัวพิงหัวเตียงถาม
“เจ้ามนุษย์ฮยอกแจอยู่สถานที่เดียวกันกับเจ้า”
“หื้ม..?....” คนง่วงครางถามอย่างไม่เข้าใจ
“อยู่ในวิหารแห่งนี้...”
“เขาเรียกว่าคอนโดตังหากล่ะ”
“นั่นแหล่ะ.....อยู่ชั้น 8 ห้อง 89”
“แล้วไงครับ........” ถึงจะรู้ไปแต่ทงเฮก็ยังไม่ใส่ใจมากนัก ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากนอนมากกว่า
“เจ้าจงไปมอบความรักให่แก่มนุษย์ตนนั้น เดี๋ยวนี้”
“คราบบบ.........”
“ทงเฮ !!
นี่เจ้ายังจะนอนต่ออีกเหรอ” เมื่อพบว่าลูกชายสุดที่รักดันมานั่งหลับคอพับแบบไม่เป็นท่าแบบนี้ ภูติผู้สูงศักดิ์ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้ ... เด็กคนนี้มันได้นิสัยขี้เกียจมาจากใครกัน
“ตะ..ตื่น ...........ตื่นแล้วก็ได้” ปากเล็กเบ้ออกอย่างขมขื่น ... อะไรหนักหนาเนี่ย นี่ผมเหนื่อยนะ
“ชำระร่างกายให้เรียบร้อยแล้วไปทำตามที่ข้าสั่ง”
“รับทราบแล้วครับพ่อ.....”
หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเครื่องแบบเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว เท้าเล็กก็ก้าวฉับเดินออกไปนอกห้อง และไม่ลืมที่จะทำตามคำสั่งที่ส่งตรงมาจากเบื้องบน ทงเฮกดลิฟท์ลงไปยังชั้น 8 เนื่องจากตนเองนั้นพักอาศัยอยู่ชั้น 9 รอเพียงสักครู่ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ........... ถึงมันจะอยู่ห่างกันแค่ชั้นเดียว แต่คนขี้เกียจอย่างลูกชายท่านกามเทพก็ไม่เคยคิดจะใช้บันไดอยู่แล้ว
“แล้วมันห้องไหนเนี่ย..........”
ร่างเล็กยืนนึกคิดอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก จำได้ว่าห้อง 8 อะไรนี่แหละ ถ้าจะให้เดินกลับไปถามพ่อก็ขี้เกียจ เอาเหอะ.. วัดดวงไปเลยแล้วกัน
“ 88 หรือว่า 89 อ่า ห้องไหนกันแน่.....”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ..” ร่างเล็กตัดสินใจเคาะประตูไปยังห้อง 88 ก่อน ยืนช่างใจอยู่นาน แต่ปฎิกิริยาตอบกลับที่ได้ก็ว่างเปล่า ร่างเล็กเลยตัดสินใจเคาะประตูไปอีกรอบ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!”
ยืนรออยู่ซักพักก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม หรือว่าหมอนั่นจะไปโรงเรียนแล้ว ... บ้าน่า ที่มันเพิ่ง 6 โมงครึ่งอยู่เลย ใครเขาจะไปโรงเรียนเช้าแบบนี้
“อ่า..ห้องไม่ได้ลอคนี่นา....” เมื่อลองหมุนลูกบิดประตูดู ก็พบว่ากลอนประตูนั้นไม่ได้ถูกพันธนาการไว้แต่อย่างใด ทงเฮจึงถือวิสาสะค่อยๆแง้มบานประตูออกแล้วแทรกกายของตัวเองเข้าไปด้านใน
“อ้า...... นายอยู่ไหนนะ ลีฮยอกแจ” เท้าเล็กเดินเรียบไปตามทาง ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเจ้าของห้อง ที่เขามั่นใจว่ามันเป็นห้องนอนก็เพราะว่า คอนโดแห่งนี้ถูกจัดสรรพื้นที่ให้เหมือนกันทั้งหมด แน่นอนว่าในห้องของเขาก็เป็นแบบนี้ด้วย
“ยังไม่ตื่นสิท่า...” คนน่ารักทำเสียงทะเล้นก่อนจะ เปิดประตูเข้าไป ..... แต่ภาพแรกที่เห็นก็ทำเอาคนใจกล้ามองตาค้าง
“มึง.....มึงเป็นใคร!!!......” หนุ่มร่างใหญ่ผิวคล้ำรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะชี้กราดไปที่คนน่ารักที่ถือวิสาสะเข้ามา และก็คงจะถือวิสาสะมากๆที่เข้ามาตอนที่เขากำลังจะปลดปล่อยอารมณ์ใคร่ของตัวเองในช่วงเช้า
“เอ่อ.......” ทงเฮเงียบนิ่ง จะตอบยังไงดีว่ะเรา
“มึงเป็นผัวอินั่นใช่ไหม !!!......” ยังไม่ทันที่จะตอบอะไรหนุ่มร่างใหญ่กลับเดินตรงเข้ามาหาเขาพร้อมกับมีดเล่มเล็กที่ถืออยู่ในมือ
“จะบ้าเหรอ....ผมไม่ได้เป็นผ้วอะไรซักหน่อย!! ..” ถึงน้ำเสียงที่ตอบกลับจะดูไม่เกรงกลัว แต่ถึงกระนั้นเท้าเรียวก็ค่อยๆก้าวถด
“แล้วมึงเข้ามาทำไม..!!...” ชายน่ากลัวตะคอกเสียงดังอีกครั้ง
“ก็แค่เข้าผิดห้อง ..... ลุงใจเย็นก่อนนะ”
“มึงจะมาฆ่ากูใช่ไหม!!!....” ไม่ว่าเปล่า แต่มือข้างที่ว่างกลับเอื้อมไปหยิบแจกันขนาดพอเหมาะมาเสริมอีก แล้วปาเข้าไปที่ร่างของทงเฮเสียเต็มแรง
“อึก !!.............เพล้ง !!! “ ร่างเล็กกำท้องของตัวเองแน่นเพราะความเจ็บและจุก เมื่อเห็นเศษแจกันที่แตกเกลื่อนอยู่บนพื้น ทงเฮก็ค่อยๆหยิบมาชิ้นหนึ่งเพื่อเอามาเป็นเกราะป้องกันตัว แต่ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินต่อไปแล้ว ร่างบอบบางทรุดฮวบลงกับพื้นพร้อมกับกุมที่หน้าท้องของตัวเองไม่ปล่อย ร่างเล็กกัดเข้าที่ริมฝีปากของตัวเองจนมันห้อเลือด ..เมื่อพบว่าสภาพของตนตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาจนตรอก
“มึง!!........” หนุ่มโรคจิตพูดพร้อมกับถลึงตาใส่ มือหยาบคู่นั้นเองก็ง้างมีดขึ้นด้วยท่วงท่าที่ดูน่ากลัว
“จึก !!!.............” ด้วยความเร็วกว่าของตัวเอง ทงเฮจึงจิ้มปลายแหลมๆของขอบแจกันที่แตก บดลงไปบนหน้าเท้าของหนุ่มโรคจิต บดชนิดที่ว่าเหมือนกำลังบดพริกที่อยู่ในครกเลยล่ะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!.. “ เสียงหนุ่มใหญ่ร้องลั่นก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกับพื้น ร่างกำยำนั่นดีดดิ้นไปมาเหมือนปลาไหล แต่ทงเฮก็ไม่ได้สนใจ ร่างเล็กพยายามหยัดตัวขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินออกไป
“จะไปไหนน !!!!!..........” จู่ๆ คนผิวคล้ำก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้งพร้อมกับ คลานมาที่เขา สายตากราดกร้าวที่แสดงถึงความโกรธแค้น ทำเอาคนน่ารักต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เมื่อคิดได้ว่าตนเองคงเจอคนโรคจิตเข้าแล้ว คนใจกล้าก็ฝืนกายของตนแล้วรีบวิ่งฉิวเปิดประตูห้องออกไป และก็เหมือนว่าสมองมันได้ ประมวลผลทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว... ...ร่างเล็กจึงรีบเปิดประตูห้องที่อยู่ถัดออกไปอย่างไม่ลังเล
“แฮ่กๆๆ................” เสียงหอบเหนื่อยดังออกมาแทบไม่เป็นจังหวะ พอรู้สึกว่าแผ่นหลังของตน บัดนี้มันแนบติดอยู่กับสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ก็ทำให้หัวใจของเขาชื้นขึ้นเยอะ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าห้องใครก็เถอะ
“บ้าชะมัด....มนุษย์พวกนี้บ้ากันไปแล้วจริงๆ” ร่างเล็กหลับตาลงเพื่อควบคุมสติที่เกือบจะกระเจิง พรางเอื้อมมือขึ้นมากุมก้อนเนื้อในอกซ้ายที่เต้นแรงดั่งว่าจะหลุดออกมา “ฮู้วว.... ใจเต้นแรงจังแฮะ”
“นาย !!!........ “ ยังไม่ทันจะได้หายตกใจ จู่ๆเสียงแข็งกร้าวของใครบางคนก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว... ทงเฮลืมตาโพลง ด้วยความตื่นตระหนก
“นาย..............เฮ้อ.........” ทงเฮพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เป็นฮยอกแจจริงๆด้วย ค่อยยังชั่วหน่อย
“นายเข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง!... “ คนในชุดนักเรียนเอ่ยถามเพื่อนด้วยสียงแข็งๆ ตามสไตล์
“ฮยอกแจ..... เป็นนายจริงๆด้วย”
“ฉันถามว่านายมาที่นี่ได้ยังไง !
.”
“ฉันก็หนีคนโรคจิตข้างๆห้องนายมาไง.....”
“โรคจิต ?.........” ฮยอกแจทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
“ปัง ปัง ปัง !!!!..........” จู่ๆประตูห้องของคนตัวสูงก็ถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่างจนมันเหมือนจะหักโค่นลง
“นี่นายไปยุ่งกับไอ้ผู้ชายข้างห้องฉันใช่ไหม !!.... “ ซวยแล้วไหมล่ะ เพราะคนทั้งชั้น 8 ล้วนรู้ดีว่าคนที่อาศัยอยู่ในห้อง 88 นั้น มีอาการจิตไม่ปกติ แต่ที่ทางคอนโดไม่ยอมไล่ออกไปนั้น ก็เพราะเขาคนนั้นเป็นลูกของนักการเมืองคนใหญ่คนโตของเกาหลีน่ะสิ
“ทำไมเหรอ ... ก็เมื่อกี้มันจะเอามีดแทงฉันอ่ะ ฉันก็เลยเอาเศษแจกันแทงเข้าไปที่เท้ามัน !!” ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ..จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน
“ทำบ้าอะไรของนายห๊ะ !!
. “
“แล้วฉันผิดเหรอที่ป้องกันตัวเอง!”
“นายได้โดนฆ่าหมกห้องแน่ .... ลีทงเฮ!”
“อะไรว่ะ !
. ก็เอาดิ.. คนอย่างฉันไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว” ร่างเล็กพูดอย่างมีน้ำโห ก่อนจะหมุนลูกบิดประตูออก เป็นยังไงก็เป็นกัน .. เพราะยังไงความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากลัว
“ทำบ้าอะไรอีก !
. “ ฮยอกแจพลักร่างของทงเฮออก พอดีกับที่ประตูห้องนั้นเปิดออกมาได้พอประมาณ ฮยอกแจถีบร่างของคนโรคจิตที่กำลังจะบุกเข้ามาเสียเต็มแรง จนร่างๆนั้นกระเด็นไปแทบจะติดฝา
เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นล้มลงไปแล้วฮยอกแจก็รีบดึงแขนของทงเฮให้ออกมาตาม ปลดลอคประตูห้องของตัวเองเสร็จสรรพ แล้วจึงพากันรีบวิ่งออกมาจากที่ตรงนั้น
“มีอะไรครับ คุณฮยอกแจ.....” นับว่าโชคดี ที่ตอนวิ่งไปขึ้นลิฟท์ก็พบเข้ากับยามของคอนโดพอดี สงสัยเสียงพังประตูเมื่อกี้มันคงดังไปถึงข้างล่าง
“ไปจัดการด่วน !
..”
เหมือนเป็นโคดลับที่บอกแค่นี้ยามคนนั้นก็รู้ได้
เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่โหมดสงบ ทั้งสองก็เข้ามาอยู่ในลิฟท์ด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่ามือที่จับกันอยู่นั้นมันจะไม่ได้คลายออกจากกันเลย
“เออ.. นายมีรถใช่ไหม ...ฉันขอนั่งไปด้วยคนดิ ? “ ร่างเล็กว่าพรางบีบเข้าเบาๆที่ฝ่ามือของคนตัวสูง แต่ฮยอกแจกลับปล่อยมือของเขาออก แล้วหันมาถามเสียงแข็งตามเคย
“นายมาที่นี่ได้ยังไง ! ..”
“อ๊ะ...ก็ฉันอยู่ที่นี่...ไม่อยู่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ไหนว่ะ ถามโง่ๆ “ แค่พูดแค่นี้ทำไมค้อนสายตาแข็งๆมาให้ด้วยล่ะ เขาก็แค่พูดความจริง สาบานได้เลยว่าอีฮยอกแจ จะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียว ที่เขาคิดจะไม่ปิดนิสัยที่แท้จริง เพราะปกติแล้วการที่เขาสอนผู้คนต่างๆให้รู้จักความรักนั้น เขาต้องทำตัวน่ารักน่าถนุถนอมสารพัด ซึ่งบอกตามตรงเลยว่า มันไม่ใช่เขาเลย และแต่ต่อจากนี้ไป ลีฮยอกแจนี่แหละ จะเป็น ผู้ชายคนเดียวที่เขาจะใช้สันคานดิบๆ สอนให้รู้เองว่าความรักมันเป็นยังไง
“ถ้าเห็นว่าฉันโง่นัก ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน !”
“...ฉันก็แค่พูดเล่นน่า.....ขี้งอนเป็นตุ๊ดไปได้”
“...........................”
“งั้นให้ฉันไปด้วยนะ “
“..........................”
“โอ๊ย ... ผู้ชายเชี่ยไรว่ะ ขี้งอนแล้วยังขี้งกอีก”
“ไม่พอใจก็ไม่ต้องไป...ฉันไม่ได้บังคับนาย”
“ก็นายไม่ตอบ.!.”
“ไปก็ไป.....”
“ก็จบ !! ......” เหอะ พูดแค่นี้ก็หมดเรื่อง มัวอมน้ำลายไว้รดน้ำต้นไม้หรือไง ไอ้บ้า !! นี่ถ้าไม่ใช่คำสั่งจากพ่อ เขาก็ไม่อยากจะยุ่งกับผู้ชายคนนี้ซักเท่าไหร่หรอก ....
ดูจะเป็นเรื่องแปลกมากนักที่ได้เห็นหนุ่มสุดเย็นชาของโรงเรียนจากที่เคยไปไหนก็ไปคนเดียว ไม่มีแม้แต่เพื่อนเดินด้วย... แต่ตอนนี้กลับมีเด็กหนุ่มหน้าหวานที่ทุกคนในโรงเรียนรู้จักเป็นอย่างดีเดินเคียงคู่มาด้วย สายตาหลายคู่จ้องมองพวกเขาด้วยความแปลกใจแต่ก็แอบชื่นชมอยู่ลึกๆ ... มีหลายความคิดที่ผุดขึ้นมาจากเด็กนักเรียนในโรงเรียน .. และความคิดที่เห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันอย่างไม่ต้องบอกก็คือ “พวกเขาช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน”
“ไปไกลๆไป......” พอสายตาคมจับได้ว่าผู้คนในโรงเรียนกำลังคิดอะไร เสียงแข็งๆก็เอ่ยปากไล่เพื่อนตัวเล็ก
“อ้าว..... ห้องเรียนนายก็ห้องเรียนฉัน มันก็ต้องไปทางเดียวกันสิครับคุณ ..... เป็นบ้าหรือไง จะให้ฉันเดินไปไหนล่ะ”
“...งั้นก็เดินห่างๆ...”
“..หน้าฉันเหมือกขี้มูกมากเหรอ นายถึงรังเกียจฉันนัก!”
“รู้ตัวนิ....”
“ฮึ่ย......ไอ้บ้าเอ้ยย !!
..” ร่างเล็กฮึดฮัดก่อนจะยกเท้าขึ้นแล้ว ซัดเปรี้ยงไปที่ก้นของไอ้เพื่อนหน้าตายนั่นเต็มแรง ... แต่ฮยอกแจก็หลบได้ทันควัน นั่นยิ่งทำให้คนเจ้าอารมณ์โมโหหนักเข้าไปอีก
“แน่จริงก็อย่าหลบสิ!!...... “ ร่างเล็กทำท่าจะเตะอีกครั้งแต่เพื่อนตัวสูงจะวิ่งฉิวเข้าห้องไปแล้ว คนอารมณ์เสียรีบวิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิต “มาให้เตะดีๆเลย ไอ้บ้า !!!”
“ฮ่าๆ......................” เอ๊ะ นั่นเสียงหัวเราะของฮยอกแจเหรอ ... .... ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องต่างพากันหันไปมองคนหัวเราะเป็นตาเดียวกัน ....... เมื่อกี้ฝันหรือว่าเบลอกันแน่ ..ไอ้หน้าหล่อเย็นชานั่นหัวเราะเหรอว่ะ ....
“นายกล้าด่าฉันเหรอ ฮยอกแจ !!....” คนตัวเล็กวิ่งไล่ไอ้บ้าของตัวเองไปทั่วห้อง ไม่แคร์สายตาสงสัยของเพื่อนซักนิด
“นายจะวิ่งไล่ไปถึงไหนห๊ะ !
..อายุ 10 ขวบหรือไง !” คนเริ่มเหนื่อยตะโกนว่า
“เฮ่อๆ..แฮ่ก .. .... “ ในที่สุดคนเหนื่อยก็ยอมหยุด ฮยอกแจวิ่งเข้ามานั่งอย่างหมดแรงในที่นั่งของตัวเอง .. ร่างเล็กเองก็เดินเข้ามานั่งติดๆ
“ดูพวกนายดูสนิทกันจังเลยนะ....” หนุ่มเรียบร้อยในกลุ่มอย่างซองมินหันไปถาม ...พรางอมยิ้มเล็กๆ เขาดีใจจริงๆที่เห็นฮยอกแจสามารถเข้ากับคนอื่นได้ .. เอ๊ะ หรือบางที ทงเฮของเขาอาจจะมีมนุษยสัมพันธ์ดีเกินไปก็เป็นได้
“ไม่สนิทได้ไงล่ะ...ก็ฮยอกแจเป็นแฟนฉันนี่....”
“อ่อ..เป็นแฟนกัน ห๊า !!!!!!! นายว่ายังไงนะทงเฮ” เรียวอุคร้องแหวอย่างไม่เชื่อ .... มันจะคบกันได้ยังไง ในเมื่อนั่งเรียนด้วยกันมาเป็นอาทิตย์แล้วยังไม่ค่อยจะคุยกันเลย ก็เห็นจะมีแต่วันนี้แหละที่เล่นเดียวกัน ... แต่ก็แค่วันเดียว ..นี่มันวันเดียวจริงๆนะ
“อื้ม...ฉันคบกับฮยอกแจ
. ใช่ไหม?..” คำแรกหันไปบอกกับเพื่อนอย่างหนักแน่น ส่วนคำหลังก็เอียงหน้าไปถามแฟนจำเป็นที่นั่งเอ๋ออยู่ข้างๆ มิหนำซ้ำ มือเรียวเล็กยังคล้องเข้าไปใต้แขนใหญ่ แถมยังกระชับให้แน่น เพื่อบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อีก
“เล่นบ้าอะไรอีก !
. “
“ตกลงมันยังไงกันแน่ ?
. “ หนุ่มฟักทองน่ารักถามเสียงหวาน
“ก็ฉันรักฮยอกแจ......” ทงเฮพูดพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน เขาคิดเสมอว่าการบอกรักกันมันไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แถมเรื่องแสดงความรักต่อกันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายด้วย พวกมนุษย์ตังหากที่คิดมากไปเอง
“แต่ฉันไม่ได้รักนาย ....” แม้คำตตอบจะดูเฉือนหัวใจของคนที่ได้รับฟัง แต่มันก็ไม่ใช่กับทงเฮเลย
“เดี๋ยวนายก็รักฉัน” คนตัวเล็กตอบหนักแน่น
“แล้วคบกันจริงหรือเปล่าเนี่ย !!
. “ เสียงแหลมๆแย้งถาม
“คบเนอะ.....” คนหัวรั้นว่าพรางเขย่าแขนแกร่งให้เออออตามไปด้วย
“อยากเล่นก็เล่นไปคนเดียวเถอะ ...เรื่องแบบนี้ บอกไว้ก่อน ว่าฉันไม่เล่น!” ว่าจบก็แกะแขนขาวๆนั่นให้หลุดออกจากแขนแกร่งของตน จากนั้นก็หันไปหยิบสมุดแลคเชอร์ในการเรียนภาดเช้าขึ้นมา ..... ทงเฮมองคนข้างๆด้วยสายตางงๆ นายจะรู้ไหม นายฮยอกแจ ว่านายเป็นคนแรกที่ปฎิเสธความรักจากฉัน ..... คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้นายหลงรักฉันหัวปักหัวปำให้ได้เลย
อีกด้านหนึ่ง ณ ใจกลางกรุงโซล
“คยูฮยอน แล้วตกลงแกจะกลับเกาหลีเมื่อไหร่ .. ใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นจนจะสบายไปแล้วนะแก” ผู้เป็นบิดากล่าวดุลูกชายอย่างเหลืออด โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้ว ไม่คิดจะมาช่วยพ่อแม่ดูแลบริษัทบ้างหรือไง
“แล้วที่เกาหลีมันมีผู้หญิงดีเท่าญี่ปุ่นหรือเปล่าล่ะครับ ...ถ้ามันดีจริง ผมอาจจะกลับก็ได้.....” คยูฮยอนตอบพ่อเสียงทะเล้น
“เมื่อไหร่แกจะโตห๊ะ !!
เอาสิ๊.. แกต้องการแบบไหน ดารา นางแบบ เดี๋ยวชั้นจะหาให้แกเอง !!”
“อย่างนี้ค่อยน่าคุยหน่อยสิครับ....เอาเป็นว่าพ่อหาเตรียมไว้ให้ผมได้เลย ...อ๊ะๆ แต่ถ้ามันไม่ถูกใจ บางที........”
“ฉันรับรองว่าแกจะต้องถูกใจ ...” ท่านประธานบริษัทส่งออกรายใหญ่รีบตอบตกลง ขอเถอะ แค่ลูกชายคนนี้หันมาสนใจกิจการบ้าง จะให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม
หลังเลิกเรียนทงเฮก็ตามติดฮยอกแจอยู่ไม่ห่าง ..ปากบางก็พร่ำบอกว่า “ฉันรักนาย” ไม่หยุด สายตาของใครหลายๆคนล้วนมองด้วยความชื่นชม แต่ใครจะรู้เล่าว่ามีผู้ชายรูปร่างสง่าอีกคนที่กำลังเจ็บกับภาพที่เห็น
...นายเลิกกับพี่ เพราะไอ้ผู้ชายคนนั้นใช่ไหม ?....ทงเฮ
..
แสงแดดยามใกล้ค่ำที่ทอแสงสีส้มมันช่างดูสวยงามประหนึ่งแสงจากทองคำล้ำค่ายิ่งหนัก คนที่เงยหน้าไปมองเสียเต็มตาจึงต้องหยีตาแรงๆ เพื่อลดอาการเคืองตา
“จะมืดแล้วนะ ...เราจะกลับคอนโดกันได้ยัง !” คนที่เงยหน้าไปมองท้องฟ้าอยู่เมื่อครู่หันไปถามฮยอกแจปนตะคอก แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆว่ากลับมา ณ ตอนนี้ เขากับฮยอกแจยังอยู่โรงเรียนด้วยกันอยู่เลย ซองมินกับเรียวอุคก็กลับบ้านไปนานแล้ว .. ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้คนตัวสูงนี่มันรออะไร
“ใครใช้ให้รอ... นายอยากกลับก็กลับไปก่อนสิ” คนที่ยืนพิงหลังรถสปอตของตัวเองว่า
“ก็ฉันมากับนาย...ฉันก็ต้องกลับกับนาย ....” คนที่นั่งเขี่ยพื้นซีเมนต์ได้สักพักเงยหน้ามาตอบ
“นี่! .. ทำไมจะต้องมาตามฉันแบบนี้ด้วย... ฉันไม่สนุกกับนายด้วยหรอกนะ”
“ก็ฉันรักนาย....”
“เหอะ!!... รัก ... นายกล้าพูดคำนี้กับคนที่เพิ่งรู้จักน่ะเหรอ ?
“ ฮยอกแจส่ายศรีษะอย่างเอือมระอา ..นี่เห็นความรักเป็นอะไรกันว่ะ อยากจะพูดก็พูดงั้นเหรอ
“แล้วมันทำไมล่ะ!!... รู้สึกยังไงก็บอกกันไปตามตรง..จะมัวกั๊กๆไว้ทำซากอะไร ... เฮ้อ..พวกมนุษย์นี่ชอบคิดอะไรให้ยากอยู่เรื่อย..”
“พูดยังกับตัวเองไม่ใช่มนุษยน์ ...ว่างๆก็กลับไปเชคสมองตัวเองบ้างนะทงเฮ”
“ฮึ่ย!! ..ฉันน่ะปรกติดี..มีแต่นายนั่นแหล่ะ คนอะไรเข้าใจยากชิบเป๋ง”
“ฉันก็ไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจฉันอยู่แล้ว”
“แล้วเป็นฉันได้ไหม..”
“หืม....?..”
“เป็นฉันที่สามารถเข้าใจนายได้ไหม ?...” ทงเฮพูดพร้อมกับหยัดตัวขึ้นเต็มความสูง แล้วก้าวไปหาชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า “เพราะนายชอบปิดกั้นตัวเอง
. เป็นฉันได้ไหม ที่ไปทลายกำแพงนั่นให้มันพังลงออกจากหัวใจของนาย”
“
.” เหตุการ์ณเข้าสู่โหมดนิ่งสงบอีกครั้งเมื่อไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา ... กระทั่งท้องนภาเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีที่คล้ำลงจนมืดสนิท ....ต่างฝ่ายก็ยังนิ่งงันอยู่แบบนั้น
ฮยอกแจคิดว่าบางทีการที่ได้คบกับทงเฮมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าหัวใจของเขามันกลับบอกว่าเร็วเกินไป.........
ส่วนทงเฮ.....แน่นอนว่าที่พูดออกมาทั้งหมดหาความจริงใจไม่ได้ด้วยซ้ำ....ก็มันเป็นแค่หน้าที่นี่ครับ ....ยิ่งฮยอกแจตอบรับเร็วแค่ไหน เขาก็จะได้ไม่เจ็บไปมากกว่านี้ หากถึงตอนที่ต้องเลิกกัน
“กลับกันเถอะ....”
หลังจากที่ฮยอกแจชวนกลับแล้ว บทสนทนาบนรถ ก็แทบไม่มีเลย มันเงียบมากจนเหมือนไม่มีใครอยู่ในรถ ซึ่งผิดจากตอนมาลิบลับ
.. ทั้งสองขึ้นลิฟท์มาด้วยกัน ฮยอกแจรีบเดินจากไปทันทีเมื่อมันมาหยุดอยู่ที่ชั้น 8 ที่ตนกดไว้ ไม่ฟังแม้แต่เสียงบอก “ราตรีสวัสดิ์”ของเพื่อนตัวเล็ก ..... เมื่อพอมาถึงชั้น 9 ทงเฮก็เดินออกมาจากลิฟท์อย่างเหงาหงอย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกเศร้าๆด้วย
“นายเศร้า...ที่ฮยอกแจไม่รับรักเหรอทงเฮ ?” ร่างเล็กสะบัดความคิดที่ตนเผลอพูดขึ้น บ้าน่า...จะไปแคร์ทำไม แล้วก็ไม่ต้องเศร้าด้วย เราก็แค่หงุดหงิดที่มันไม่เป็นไปตามแผนแค่นั้นเอง อ่าสงสัยวันนี้เราคงรุกเร็วเกินไป วันพรุ่งนี้เอาใหม่ก็ได้น่า ...ยังไงซะ...เหยื่อชื่อลีฮยอกแจก็หนีรอดเงื้อมือของลีทงเฮผู้นี้ไปไม่พ้นหรอก
เมื่อเข้ามาในห้องร่างเล็กก็รีบตรงไปยังหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งอย่างรวดเร็ว
“พ่อ !!!!.......ออกมาหาผมหน่อย !!!!..” คนหงุดหงิดเคาะกระจกรัวจนมันแทบร้าว รอได้ซักพักร่างของพ่อก็ปรากฏขึ้น
“เจ้านี่!.... หัดทำตัวน่ารักเหมือนลูกท่านภูติตนอื่นบ้างไม่ได้เหรอ ?”
“ก็ผมเป็นแบบนี้นี่ครับ ..... แต่พ่อช่วยดูให้หน่อยว่าฮยอกแจมีเปอร์เซ็นต์ความรักเพิ่มขึ้นบ้างไหม ?...”
“แหม... ทำเป็นอยากรู้ ปกติวันแรกของคนอื่นที่ผ่านมา เจ้าก็ทำได้ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นตลอดนี่..แล้วคนนี้เจ้าไม่แน่ใจหรือไง”
“รีบดูเถอะครับ !!.....” ทงเฮสั่งพ่อด้วยน้ำเสียงร้อนรน .... ในใจเองก็หวังเล็กๆว่ามันคงเป็นแบบที่พ่อบอก ....
กามเทพสูงอายุเสกหนังสือออกมา ก่อนจะกวาดสายตาจ้องมองไปยังหนังสือเล่มใหญ่ที่ตนถืออยู่
“เอ่... ทำไมมนุษย์ตนนี้มันถึงไม่เพิ่มขึ้นซักนิดเลยเล่า .....เอ่อ เดี๋ยวข้าขอดูใหม่นะ”
“หือ..........ไม่เพิ่มเลย ?....” ยอมรับว่าใจของตัวเองแอบแกว่งอยู่เล็กน้อย
“อืม.....จริงๆด้วย...............บัดนี้ก็ยัง 0 เปอร์เซ็นต์มิเปลี่ยนแปลง”
“อ่า.........” คนใจแกว่งหงายตัวนอนลงกับเตียงกว้าง แต่สายตาก็จ้องผู้เป็นพ่ออยู่ไม่ไปไหน
“นี่เจ้าไม่ได้ไปทำตามที่ข้าสั่งหรือ ?”
“ทำแล้วครับ....แต่หมอนี่คงขุดยากจริงๆ”
“ไม่ว่ายังไงก็ช่าง...แต่เจ้าต้องช่วยเหลือมนุษย์ตนนี้ให้หลุดพ้นจากพิษสงค์ของความรักให้ได้”
“เซกส์ เผด็จศึก.......”
“ข้าสอนเจ้ากี่ครั้งแล้ว !!!!.... เซกส์มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน...เจ้าก็จงรักษาความบริสุทธิ์ของเจ้าไว้ ...เพื่อมอบให้กับคู่แท้ของเจ้าจริงๆ”
“แล้วมันอยู่ไหนล่ะครับเนื้อคู่ของผม ...คงไม่ใช่ไอ้ลูกชายของภูติแห่งพื้นป่าคนนั้นนะครับ”
“หยาบคายอีกแล้ว !....... เนื้อคู่ของเจ้าบัดนี้นั้นยังไม่จุติ..เจ้ารอไปก่อนเถอะ”
“พ่ออย่ามาพูดเล่นนะ .. “ พูดมาได้ว่ายังไม่เกิด .... งั้นตอนเขาอายุซัก 30 เนื้อคู่ของเขาคงเป็นวุ้นอยู่งั้นสิ .เหอะ
“ข้าเป็นภูตินะ...ข้าไม่รู้จักคำว่าโกหกหรอก ...เจ้าจงไปหาของสกปรกพวกนั้นใส่ท้องได้แล้ว”
“ก็พ่อนั้นแหละ ทำไมต้องส่งผมมาแบบเหมือนมนุษย์ทุกอย่างก็ไม่รู้ ... อาหารพวกนี้ไม่ถูกปากผมเลย สู้อยู่บนสวรรค์ก็ไม่ได้ อิ่มทิพย์ นึกอะไรก็ได้กินอย่างนั้น....”
“เจ้าจะได้กลมกลืนกับพวกมนุษย์ไง ...งั้นก็จงรีบนำของสกปรกพวกนั้นใส่ท้องได้แล้ว...ข้าไปก่อนล่ะ”
ทันทีที่ถึงห้องฮยอกแจก็จัดการชำระล้างตัวเสร็จสรรพ เดินไปเอาข้าวกล่องที่เพิ่งไปเวฟออกมากิน ... แม้ภายนอกมองดูแล้วอาจจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ภายในใจที่แข็งแกร่งนี่สิ มันกลับรู้สึกหวั่นไหวอยู่ลึกๆ
กริ๊ง...กรี๊ง..กริ๊ง ~~~~~~~
จู่ๆเสียงริงโทนแสนคุ้นหูก็ดังขึ้น ... ฮยอกแจตั้งสติก่อนจะหยิบ มือถือของตนออกมาดู ปากหยักกดยิ้มเล็กๆ เมื่อพบว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน หลังจากที่มันย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น
“ว่าไง...... กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วเหรอมึง”
[ เครื่องลงเมื่อกี้เนี่ย ... มึงออกมารับกูหน่อยได้ไหม...] น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดของเพื่อนว่า
“ก็คนบ้านมึงล่ะว่ะ.....”
[..กูไม่อยากกลับบ้าน.....กูกลับก่อนด้วยที่จริง...กูบอกพ่อว่ากูกลับวันอาทิตย์..กูไปนอนคอนโดมึงได้ไหม..]
“เออ.... เดี๋ยวกูไปรับ...พอดีกูย้ายคอนโดใหม่ด้วย”
[ จริงเหรอ !!...แล้วแถวนั้นมีหญิงเด็ดๆบ้างป่ะวะ ..]
“นิสัยไม่เปลี่ยนเลยนะ.....มึงนี่.....”
[ กูเป็นแบบนี้ตั้งแต่ ป.4 แล้ว มึงก็รู้ ]
“ไม่บอกกูก็รู้ ว่ามึงเสียซิงตั้งแต่ ป.4”
[ ช่างเหอะ... ความสุขกู..มึงรีบออกมารับกูเร็วๆดิ่..กูหนาวแล้ว ]
“เออๆ..”
.....................................CRAZY
..CUPID..........................................
GIFT’S TALK
ตอนที่ 1 มาแล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างเอ่ย ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะค่ะ...
กิ๊ฟก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอ่านพอใจหรือเปล่า ... แต่รู้สึกขอบคุณจริงๆค่ะ ทุกคอนเมนท์
ช่วงนี้กิ๊ฟว๊างๆ ค่ะ บ้านน้ำท่วม โรงเรียนเลื่อนเปิดออกไปอย่างไม่มีกำหนด 555+
ว่างๆก็เลยอยากเป็นไรต์เตอร์ที่ดีตอบคำเมนท์ของรีดเดอร์เหมือนฟิคเรื่องอื่นเค้าบ้าง 555+ ( เรื่องที่แล้วมันไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ
| ||||
| ||||
Name : Soul Saranghaeyo**< My.iD > [ IP : 223.206.101.240 ] |
| ||||
| ||||
Name : rude girl< My.iD > [ IP : 182.52.216.128 ] |
| ||||
| ||||
Name : hitonami< My.iD > [ IP : 182.93.222.111 ] |
| ||||
| ||||
Name : 89-GYPSO-98< My.iD > [ IP : 223.206.245.99 ] |
| ||||
| ||||
Name : jaen< My.iD > [ IP : 113.53.47.48 ] |
| ||||
| ||||
Name : Aor*haehyuk*< My.iD > [ IP : 27.55.204.122 ] |
| ||||
| ||||
Name : EHJmylove< My.iD > [ IP : 1.46.20.240 ] |
| ||||
| ||||
Name : pinznana [ IP : 111.84.128.220 ] |
| ||||
| ||||
Name : GolFiSHfOn vs WoLfKyU< My.iD > [ IP : 124.120.97.158 ] |
| ||||
| ||||
Name : < My.iD > [ IP : 125.25.85.112 ] |
ความคิดเห็น