คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My Love is maid : Chapter 2 ; โดนจับตัว
Chapter 2
โดนจับตัว
“อย่าจับนะ บอกว่าอย่าไงเล่า!” ร่างเล็กระเบิดเสียงใส่ชายหนุ่มอย่างระแวง เมื่อชายคนนั้นพยายามใช้มือเคล้นคลึงหน้าอกของตน ขณะที่อยู่บนรถ
“โธ่ หนุ่มน้อย จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว” ตอบกลับด้วยเสียงยียวน พรางเลื่อนมือลงมาลูบไล้ที่ต้นขาสวยแทน
“ผมบอกแล้วไง ว่าห้ามลวมลาม เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ” กระแทกเสียงใส่อีกครั้ง พรางปัดมือปลาหมึกนั่นออกไปจากขาของตน
“โธ่ๆ นายนะค่าตัวสูงกว่าโสเภณีชั้นสูงหลายเท่าเชียวนะ ขอพี่ชิมนิดชิมหน่อยไม่ได้รึไง”
ไม่ว่าเปล่าแต่หากเลี้ยวรถเข้าข้างทาง ร่างบางสั่นน้อยๆ กลัวเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเปิดประตูรถออกไปก็ไม่ได้เพราะดันถูกล็อคจากอีกฝั่ง
“อย่านะ” พูดอย่างสั่นๆขณะที่ชายโรคจิต ปลดเข็ดขัดนิรภัยออกก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้
“ผมบอกว่าอย่าไง!” สั่นเทิ้มอีกครั้งเมื่อใบหน้าโรคจิตนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ร่างบางถอยหลังหนีจนชิดประตู มือบางเองก็ยกขึ้นมาปิดปากตัวเอง ให้ตายเหอะ first kiss ผม ต้องไม่ใช่ไอ้หมอนี่เด็ดขาด
“ไม่ต้องกลัวนะเด็กน้อย นายมาสนุกกับพี่ดีกว่า” มือโรคจิตนั่นไล้ไปตามสาบเสื้อก่อนจะเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอก เม็ดทับทิมสีสดที่นูนโผล่ขึ้นมาจากเสื้อเชิตตัวขาว มันดูน่าลิ้มลองไม่หยอก
“พลั่ก!!!!!!!!!!!!!!!!!..........โอ๊ยยย” แต่ก่อนที่จะได้เกิดอะไรขึ้น ก้อนหินก้อนใหญ่ก็ถูกปาเข้ามาในรถที่ทั้ง 2 นั่งอยู่ และแน่นอนว่ามันถูกหัวของใครบางคนไปเต็มๆ
“แม่งเอ๊ย!!!! ใครขว้างมาว่ะ” หนุ่มโรคจิตสบถอย่างหยาบคายก่อนจะกุมหัวตัวเองที่มีแต่เลือดแดงข้นไหลออกมา
“ กล้าดีนะ ที่พวกมึงกล้ามาผลิตลูกในที่ของกูเนี่ย หึหึ” จู่ๆเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นอยู่ที่หน้ารถ เขาคนนั้นโยนก้อนหินในมือของตัวเองไปมา แล้วจ้องมองมาด้วยสายตากวนประสาท
“มึง ไอ้เวรนี่!!” หนุ่มโรคจิตเดือดจัด รีบเปิดประตูรถออกไปกระชากเสื้อ ผู้ชายเบื้องหน้าอย่างหาเรื่อง
“มึงเรียกใครว่าไอ้เวร” ตาคมช้อนต่ำลงมองดูมือที่จับคอเสื้อตัวเองอย่างรังเกียจ
“มึงไง ทำไม มึงจะทำอะไรกู ห๊ะ” สำเนียงกวนๆถูกถามออกไป คนที่รับฟังได้แต่แค่นยิ้ม
“ดูท่ามึงนี่ จะยังรู้จักกูไม่ดีพอนะ”
“พลั่ก !!! ตู้ม โพล่งง เฮือกกก!!!!!!!!!!!!!! ” เพียงไม่กี่วินาทีร่างของชายโรคจิตก็ลงไปนอนกับพื้นอย่างโอดครวญแล้ว
“ทีนี้มึงรู้จักกูดีพอรึยัง กูชื่อ ลีฮยอกแจ” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างหน้ากลัว ก่อนจะเตะเข้าไปที่กลางลำตัวอีกดอกใหญ่
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ร่างบางที่นั่งอยู่บนรถมองเหตุการณ์อย่างตกใจ ทำไมพวกผู้ชายเค้ารุนแรงกันแบบนี้นะ ( ทำยังกับตัวเองไม่ใช่ผู้ชายล่ะ ฮ่าๆๆๆ )
“นี่เธอ ทีหลังจะมีอะไรกับผัวตัวเองก็หัดดูสถานที่บ้างนะ ไม่ใช่หมาที่จะเอากันได้แบบไม่เลือกที่อย่างนี้” ฮยอกแจ ตะโกนเข้าไปในรถที่มีหนุ่มหน้าสวยนั่งอยู่ ทงเฮกัดปากตัวเองน้อยๆ ตอนแรกก็อยากขอบคุณอยู่หรอกที่เหมือนช่วยเค้าไว้ แต่พอมาพูดแบบนี้แล้ว ทงเฮขอกลับคำได้ไหม
“เค้าไม่ใช่แฟนผม!!”
“หึ นึกว่าชั้นเชื่อรึไง” ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเปิดประตูรถออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
“ผมพูดเรื่องจริง ผมถูกล่อลวงมา” พูดตรงๆตามที่ตนเองถูกกระทำ ก็ผมถูกล่อลวงมาจริงๆนี่
“เป็นทอมรึไง เรา” ฮยอกแจถาม ท่าทางเจ้าเปี๊ยกนี่คงเป็นทอมจริงๆนั่นแหล่ะ ตัวผอมบางยังกับผู้หญิง แต่แอ๊บมาพูด ครับๆ ผมๆ หน้าอกนี่ก็คงจะแต๊ปเอาไว้มั้งถึงได้แบนขนาดนี้
“ผมเป็นผู้ชาย!!!!” คำตอบนั่นทำเอาฮยอกแจไม่เชื่อหู
“อย่ามาตลกน่า”
“ผมไม่ตลกหรอกนะ คุณครับผมถูกล่อลวงมาจริงๆ คุณพาผมไปส่งบ้านได้ไหม” ทงเฮเริ่มพูดตัดบท อย่างน้อยคนๆนี้ก็น่าจะไว้ใจได้ ( มั้งนะ ) แล้วตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วย
“ชั้นไม่ใช่พ่อพระหรอกนะ มาเองได้ ก็กลับเองได้สิ” ไม่ทันที่ร่างเล็กจะได้ต่อรองต่อ ร่างหนาก็เดินจ้ำอ้าวไปยังรถสปอร์ตคันหรู แล้วเหยียบคันเร่งออกไปโดยไปสนใจผู้ชายตัวเล็กที่ยืนตาละห้อยมองตามอยู่เลย
“กลับมาแล้ว ซองมิน” เสียงเศร้าๆ เอ่ยเข้ามาขณะที่เปิดประตูห้อง อะไรกันเนี่ยเหนื่อยๆ เหนื่อย กว่าจะเดินออกมาถึงที่ถนนใหญ่แล้วหาแทกซี่กลับอพาร์ทเมนท์ได้ ก็ทำเอาน้ำแทบไหลหมดตัว เหนื่อยชะมัด เชอะ ไอ้คนใจร้าย
“ด๊อง........เมื่อกี้ไอ้พวกนั้นโทรเข้ามาเบอร์ห้องด้วยล่ะ” ซองมินทำหน้าจ๋อยๆ มืออีกข้างหนึ่งก็กำโทรศัพท์ไว้แน่น
“ มาเฟียนั่นน่ะ เหรอ มันว่าไง” ร่างเล็กรีบไปกระชากมือของซองมินให้มานั่งลงที่เตียง
“มันบอกว่า ....... ว่า ตอนนี้มันเอาตัวแม่ด๊องไปแล้ว มันกลัวว่าด๊องจะพาแม่ชิ่งหนีหนี้ ” ร่างเล็กหน้าถอดสีทันทีที่ฟังเพื่อนพูดจบ .
“ฮึก ไอ้คนบ้า ไอ้บริษัทิอึนเปียวบ้า บ้า บ้า ฮึก ฮือๆๆๆ”
“ด๊อง นายอย่าร้องสิ นายร้องแล้วชั้นจะร้องตามนะ ฮึก” ซองมินผู้แสนเซนซิทีฟ มองเพื่อนที่โวยวายไปก็น้ำตาคลอก็ไป
“ซองมิน........ เค้า กลัว ฮึก..... เค้าไม่ให้พวกมันทำอะไรแม่เค้าหรอก ฮือๆๆ”
“ด๊อง แม่นายต้องไม่เป็นไรอยู่แล้ว ฮึก”
“ เค้าจะฆ่าพวกมันให้หมดเลย” ซองมินได้แต่โอบกอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น เป็นเชิงบอกว่าอย่างน้อย นายก็ยังมีชั้นอยู่ข้างๆ
“ด๊อง....”
“ฮึก แล้วเค้าจะเอาไฟไปเผาบริษัทมัน”
“ฮึก ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฮืออ” ลูบหลังเพื่อนไปมาอย่างอ่อนโยน
“ ทำไมกัน ทำไมเดี๋ยวนี้ คนถึงจิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้ เค้าไม่เข้าใจเลยซองมิน” แค่คิดว่าแม่ตัวเองโดนจับไป ก็วิตกต่างๆนาๆ พวกนั้นจะให้แม่เค้ากินข้าวรึเปล่า จะจับแม่เค้าขึงไว้กับเสาแล้วเอาแส้เขี่ยนตีเหมือนในหนังรึเปล่า
“เค้ารู้สึกได้ว่าแม่เค้าต้องกำลังเจ็บปวดอยู่แน่ๆ เค้าก็เจ็บปวดเหมือนกัน เค้าอยากไปช่วยแม่”
“ฮือๆๆ ด๊อง ต้องเข้มแข็งนะ”
“ฮือๆๆ เค้ารักแม่ แม่ก็รักเค้า คนพวกนั้นเค้าไม่รักแม่ของตัวเองบ้างรึไง ฮึก”
“ฮือๆๆๆๆ”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ 2 ร่างนี้ ร้องไห้จนกระทั่งผล็อยหลับไปทั้งคู่ ทั้งๆที่ตัวยังโอบกอดกันอยู่แบบนี้ ช่างเป็นมิตรภาพที่น่าประทับใจเสียจริงหากใครมาพบเห็น
“คนน่ารักรับโทรศัพท์ด้วยครับ คนน่ารักรับโทรศัพท์ด้วยครับ~~”
ร่างเล็กรีบสะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียง ในใจคิดแต่ว่าต้องเป็นพวกมาเฟียโทรมาแน่ แต่ก็ผิดคาด
“ ทงเฮ ยังไม่มาอีกเหรอครับ พี่เยซองรอมา 10 นาทีแล้วนะ” ชายหนุ่มที่น่าจะเป็นคู่ควงของเค้าวันนี้ ทำเสียงงอแงเหมือนกำลังอ้อนร่างเล็กอยู่ ว่าให้รีบมา
“ เอ๋ ......พี่เยซอง เอ่อ พอดีผมเพิ่งตื่นอ่ะฮ่ะ พี่เยซองรอผมหน่อยได้ไหม”
“พี่รอได้เสมอ”
“ ฮ่ะ”
ทันทีที่กดสายทิ้งร่างเล็กก็รีบอาบน้ำแต่งตัว แต่ก่อนที่จะได้ออกมาจากห้อง ทงเฮก็มองเพื่อนตัวอวบที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงอย่างนึกขอบคุณ
“ดูสิ ตาบวมเป่งเลย” ทงเฮยิ้มหวานพรางจ้องไปยังใบหน้าของเพื่อนรักที่ยังมีคราบน้ำตาเกาะอยู่ อย่างน้อยพระเจ้าก็ยังไม่โชคร้ายกับผม อย่างน้อยท่านก็ส่งเพื่อนแท้ที่ชื่อว่า ซองมิน มาให้ผม
“จู๊ฟ. .. เค้ารักซองมินนะ” ฝากจุมพิตไว้ที่แก้มนุ่มของเพื่อน ก่อนจะเดินออกมา พรางคำนวณเงินที่จะได้จากเยซองวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ พี่เยซองเหมา 12 ชั่วโมงเชียว แถมยังให้ตั้ง 2 หมื่นอีกตังหาก โว้ๆ เฮ้อ.... แต่มันจะไปพออะไรล่ะ เหลืออีก 8 วันแล้วนี่
“ทงเฮ ดูหนังเรื่องอะไรดีฮ่ะเรา”
“อยากได้อะไรรึเปล่า”
“เอ๊ะ ร้านนั้นน่าทานนะ เราไปทานกันเถอะ”
“เรานี่น่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะทงเฮ”
"ใกล้เปิดเทอมแล้ว ขยันเรียนด้วยล่ะ”
วันนี้การเป็นเพื่อนเที่ยวของหนุ่มเยซอง ทำเอาทงเฮอารมณ์ดีได้ทั้งวัน อาจเพราะเคยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้มั้ง ก็เลยไม่ต้องเกร็งหรือกังวลอะไร ตอนนี้เยซองกำลังมาส่งทงเฮที่อพาร์ทเมนท์ ร่างเล็กของทงเฮก็เอาแต่ชวนคุยเจื้อยแจ้ว ทั้ง 2 พากันหัวเราะมาตลอดทาง
จนเยซองอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมทงเฮถึงต้องหาเงินด้วยวิธีนี้ จากที่เคยเห็นมา ทงเฮบ้านก็รวยนี่นาถึงพ่อจะตายไปแล้วแต่ก็ทิ้งมรดกไว้มากมาย ไม่จำเป็นเลยซักนิดที่จะต้องมาเป็นของเล่นสาธารณะให้เหล่าเมะได้ควงเล่นแบบนี้ บ้านเค้าเองก็มีหน้ามีตาในสังคม เมื่อก่อนครอบครัวของทงเฮเองก็เป็นเช่นนั้น เรา 2 คนมักจะเจอกันตามงานสังคมทั่วๆไป แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้หลังจากที่เสียพ่อไป ก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตาตามงานสังคมอีกเลย แล้วอันที่จริงการที่เขาซื้อชั่วโมงจากทงเฮในวันนี้ เพราะเมื่อ 2 วันที่แล้ว เจอฟอร์เวิร์ดเมลล์ที่เพื่อนส่งมาให้ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นการประกาศเป็นของเล่นเดินควงของทงเฮ เค้าเองก็ไม่ได้รักไม่ได้ชอบทงเฮเหมือนคนรักหรอก เพียงเห็นว่าเป็นน้องที่เคยรู้จักกันมาตอนสมัยเด็กๆเท่านั้นเอง บอกตามตรงว่านึกเอ็นดูเด็กคนนี้อยู่เหมือนกัน ทั้งน่ารัก ทั้งนิสัยดี แต่ไม่นึกว่าจะมาหาเงินด้วยวิธีนี้
“ทงเฮ พี่ถามอะไรหน่อยสิ”
“ฮ่ะ”
“ทำไมถึงย้ายมาอยู่อพาร์ทเมนท์ล่ะ เมื่อก่อนอยู่บ้านไม่ใช่รึไง” เยซองไม่กล้าที่จะถามออกไปตรงๆเลยขอถามอ้อมๆออกไปก่อน
“ผมว่ามันใกล้โรงเรียนดีอ่ะฮ่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไกล” ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ตอบออกไปอย่างไม่ให้อีกฝ่ายจับผิด
“แต่ มันปิดเทอมอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วคุณป้าท่านอยู่บ้านคนเดียวก็เหงาแย่สิ”
“อ่อ .......เอิ่ม พอดีผม ผมไม่ค่อยอยากอยู่บ้านอ่ะฮ่ะ อยากอยู่กับเพื่อนมากกว่า ชีวิตวัยรุ่นก็อย่างนี้ล่ะฮ่ะ ฮ่าๆๆๆ” ทงเฮหัวเราะกลบเกลื่อน ในใจก็แอบเศร้าอยู่เหมือนกัน บ้านหลังใหญ่ที่เคยอบอุ่นที่พี่เยซองพูดถึง มันโดนธนาคารยึดไปแล้วละฮ่ะ ส่วนแม่ตั้งแต่ที่โดนยึดบ้านไปเพราะติดหนี้ธนาคารก็ไปอาศัยอยู่กับน้องสาว แต่น้องสาวคนนั้นของแม่ก็ไม่ค่อยดูแลท่านเท่าไหร่เลย ประมาณว่าจะอยู่หรือจะตายก็ไม่สนใจด้วยซ้ำมั้ง ส่วนผม ก็ต้องมาขอซองมินนอนด้วยกันที่อพาร์ทเมนท์
“ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ พี่เป็นห่วงเรานะรู้ไหม”
“ขอบคุณนะฮ่ะ ..”
“อ้าว แล้วทำไมจู่ๆมาหาเงินด้วยวิธีนี้ล่ะ” เหมือนเยซองถามก็ยิ่งซ้ำเติมจิตใจที่บอบช้ำของทงเฮให้เจ็บขึ้นกว่าเดิม ร่างเล็กพอนึกถึงเรื่องเงินก็นึกแม่ พอนึกถึงแม่ ก็คิดไม่ตกไปต่างๆนานา ว่าตอนนี้แม่ที่ตนรักจะเป็นยังไงบ้าง
“ก็มาหาประสบการณ์ชีวิตไงล่ะฮ่ะ” ถึงน้ำเสียงจะดูร่าเริง แต่ถ้าไม่สังเกตให้ดีคงไม่เห็นน้ำตาเม็ดใสๆที่ไหลออกมาจากใบหน้าที่ก้มต่ำนั่นหรอก
“ทงเฮ ร้องไห้อยู่รึเปล่าน่ะ” แต่เยซองก็สังเกตุได้เมื่อเห็นเม็ดน้ำตาที่กำลังร่วงลงไปบนกางเกงยีนส์สีอ่อนที่น้องใส่อยู่
“ปะ... เปล่าฮ่ะพี่เยซอง ฝุ่นมันเข้าตา” ดูท่าพี่ชายคนนี้จะจับผิดน้องตัวเล็กได้แล้วล่ะ
“นี่มันบนรถนะทงเฮ จะมีฝุ่นได้ยังไง” เยซองถามพรางมองหน้าทงเฮเป็นระยะ
และแล้ว บรรยากาศในรถก็เริ่มดูจะอึดอัด ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดจาออกมาจนมาถึงอพาร์ทเมนท์ที่ทงเฮอาศัยอยู่
“ทงเฮ รางวัลสำหรับที่ทำให้พี่มีความสุขในวันนี้นะ ” ว่าแล้วเยซองก็ยื่นเงินมาปึกหนึ่งโดยที่แทบไม่ได้นับด้วยซ้ำ
“ฮ่ะ” ร่างเล็กยื่นมือออกไปรับด้วยความตกใจนิดๆ นั่นมันเยอะเกินกว่าที่ตกลงรึเปล่านะ ถึงใจอยากจะปฏิเสธน้ำใจของพี่เยซองมากแค่ไหน แต่ตอนนี้มันคงทำไม่ได้จริงๆ
“กำลังมีปัญหาอยู่ใช่ไหม ทงเฮ” เยซองได้แต่เอ่ยออกมาเงียบๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินเข้าไปในอพาร์ทเมนท์จนลับตาแล้ว
“เก้าหมื่นแปด เก้าหมื่นเก้า หนึ่งแสน O_O ” 1 แสนบาท พี่เยซองให้เกินมาตั้ง 8 หมื่นแหน่ะ โอ้วว พระเจ้า++++ วันเดียวได้เงินมา 1 แสน ในวันนี้ทงเฮคงเป็นคนที่ได้เงินมาฟรีๆเยอะที่สุดในเกาหลีเลยมั้งเนี่ย
“แม่ฮ่ะ ยังไงผมก็จะช่วยแม่ให้ได้ฮ่ะ ถึงมันจะเหลืออยู่ 6 ล้านหน่อยๆก็เถอะ อย่างน้อยก็น่าจะพอต่อรองกับพวกนั้นได้”
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนเพิ่งมาอ่าน ตอนนี้ อึนเฮเจอกันแล้ว แต่ด๊องไม่รู้ว่าคนที่เจอ
นั่นแหล่ะ กำลังจะฆ่าแม่แก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แอบมีพี่เยซอง อิอิ
ความคิดเห็น