คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CRAZY CUPID : Chapter 10 : ความเจ็บปวด
Chapter 10
ผ่านไปจวนจะครบสองอาทิตย์แล้วสินะ...ทำไมเวลามันถึงผ่านไปเร็วแบบนี้ ....ไม่อยากรับรู้ถึงความเจ็บปวดแบบนั้นเลยจริงๆ ..ความรู้สึกที่ต้องพลัดพรากจากคนรัก ....ฮยอกแจ....ถ้าจู่ๆฉันหายไป...นายจะทำยังไง..นายจะเสียใจไหม...นายยังจะเข้มแข็งเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า . ?
“ฮยอกแจ...ฉันหิวไอติมจังเลย....” ออดอ้อนประหนึ่งเด็ก ...พลางก้าวเท้าเข้าไปหาชายคนรักที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ...ทงเฮกอดหมับเข้าที่กลางลำตัว ไม่วายยังฟุตฟิตไปยังลำคอแกร่งเพื่อสูดดมกลิ่นสบู่จางๆนั่นอีก
“ก็กินข้าวแล้วนี่...ยังไม่อิ่มอีกเหรอ...” อุตส่าพาไปทานข้าวเย็นข้างนอกมาแล้ว.. ก็ยังจะนึกถึงไอ้ไอศรีมกลิ่นเปรี้ยวๆนั่นอีกจนได้ ... ฮยอกแจส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมาแนบอก
“อ๊ะ...จะทำอะไร ?....” ถามอย่างตกใจ ที่จู่ๆก็ถูกอุ้มขึ้นมาลอยหวือแบบนี้ มือบางโอบรอบคอคนรักไว้มั่น “อุ้มขึ้นมาทำไม...?...”
“ไปเที่ยวข้างนอกกันไหม ?...”
“หื้ม... ?...”
...
.........
...............
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนมาเป็นชุดลำลองเสร็จ ร่างแกร่งก็พาร่างบางขับรถมุ่งมายัง สถานทีท่องเที่ยวยามราตรี..ที่ถึงแม้ตนจะไม่คุ้นเคยมากนัก แต่ก็อยากมาเปลี่ยนบรรยากาศกับคนรักบ้าง
“คนเยอะจังแฮะ...” หลุดปากออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ เมื่อครั้นมาถึงทางเข้าของซิตี้วอล์คกลางคืนที่ใหญ่แห่งหนึ่งของเกาหลี ...ฮยอกแจโอบเอวคนรักไว้แน่น ก่อนจะจุมพิตเข้าที่กระหม่อมบางอย่างคุ้นเคย
“คนเยอะก็เกาะฉันให้แน่นสิ จะได้ไม่หลง”
“ฉันโตแล้วนะ ไอ้บ้านี่!!....” ถึงจะเถียงข้างๆคูๆไปแบบนั้นแต่ก็ยอมเอื้อมมือไปโอบรอบเอวฮยอกแจกลับเหมือนกัน ....
“เฮ้ยนั่น......ฮยอกแจ!!....มีไอติมขายด้วย......” ทันทีที่เข้ามาด้านใน ร่างบางก็ตะโกนร้องบอกอย่างดีใจ ก่อนจะฉุดคนรักให้รีบตามเข้ามาภายในร้านขายไอศครีมเล็กๆด้วยกัน..
“ขอเชอร์เบท 1 กับรสกาแฟ อีกหนึ่งครับ...” สั่งพนักงานขายที่นั่งอยู่ภายในร้านอย่างเร่งรีบดั่งกลัวว่าจะมีคนสั่งมันหมดไปก่อน ทงเฮหันไปมองหน้าฮยอกแจทียืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะถูไถไปที่ไหล่แกร่งเบาๆ ฮยอกแจเองก็เอื้อมมือขึ้นมาขยี้หัวทุยอย่างเอ็นดู
“คงชอบมากเลยสินะ...”
“อ่าห๊ะ.....บนโลกมนุษย์ก็มีไอ้นี่นี่แหล่ะ ที่อร่อยอย่างเดียว”
“อื้มม...รู้แล้วว่าชอบ...”
หลังจากที่ได้ไอศกรีมกันมาคนละโคนแล้ว...คู่รักทั้ง 2 ก็พากันออกไปเดินดูของต่างๆมากมายที่วางขายอยู่ด้านนอก
เสียงผู้คนที่พากันเดินให้ขวักไขว่ในตอนแรก บัดนี้มันเริ่มบางตาบ้างแล้ว อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ดูจะย่ำแย่ลง ฮยอกแจเดินไปใกล้คนรักให้มากขึ้นก่อนจะโอบรอบเอวบางไว้แนบชิดกว่าเดิม
“ทงเฮ....นายว่าอากาศวันนี้มันหนาวกว่าทุกวันไหม” มองท้องฟ้าอย่างนึกสงสัยที่จู่ๆสภาพอากาศก็แปรเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ ถึงมันจะเป็นหน้าหนาว แต่ปกติมันก็ไม่น่าจะหนาวขนาดนี้
“คิดเหมือนกัน....เหมือนหิมะจะตกเลย....” ร่างบางว่าพรางกระชับอ้อมกอดให้ตัวเองอบอุ่นขึ้น
“งั้นเรากลับกันไหม.....”
“แต่เราเพิ่งได้เดินดูของแปบเดียวเองนะ...”
“เอาน่า..พรุ่งนี้ฉันพานายมาใหม่ก็ได้....”
“หื้ม ?
แต่ฉันยังไม่อยากกลับนิ
” ว่าอย่างรั้นๆ แล้วเดินสะบัดก้นออกห่าง คนตัวสูงจึงต้องเดินเข้ามาประชิดอีกครั้งแล้วโอบกอดจากทางด้านหลังไว้หลวมๆ
“ไม่กลับก็ได้....อยู่นี่คงไม่เหนื่อยเท่า กลับคอนโด”
“ฮยอกแจ !....” วาจาที่ค่อนจะสื่อไปในแง่นั้น ทำเอาทงเฮต้องหันมามองค้อนขวั่บ...ปากบางยกยิ้มอย่างขวยเขินก่อนจะพาชายคนรักเดินผ่านฝูงชนเข้ามานั่งในสวนสาธารณะเงียบๆแห่งนึง
แสงไฟสลัวจากหลอดไฟเพียงไม่กี่ต้น..มันช่วยขับกล่อมบรรยากาศในตอนนี้ได้ดียิ่งนัก ..ร่างบางนั่งลงไปบนชิงช้าสีสด ซึ่งฮยอกแจเองก็นั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้า มือแกร่งจับเข้าที่ฝ่ามือบางไว้อย่างอบอุ่น 2 ร่างประสานสายตาเข้าหากันท่ามกลางความเงียบสงบ ดั่งมีแรงดึงดูดที่ช่วยพาให้ใบหน้าที่ดูโดดเด่นของคนทั้งสองนั้น เคลื่อนเข้าหากันเรื่อยๆ เรื่อยๆ
ริมฝีปากสีเชอร์รี่ถูกบดคลึงอย่างหอมหวาน...ใบหน้าสีระเรื่อเอียงศรีษะไปตามคำสั่งของหัวใจ มือบางเลื่อนไปวางที่ไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะพาตัวเองจมลงเข้าสู่ห้วงของความรัก
ฮยอกแจค่อยๆดูดเม้มทั้งกลีบปากบนและล่าง ถนอมรสจูบนี้ให้มันน่าประทับใจที่สุด มือแกร่งค่อยๆเลื่อนขึ้นไปประคองใบหน้าเรียวเอาไว้ ก่อนจะกดจูบต่อย่างดูดดื่ม
จากการเล้าโลมภายนอก แปรเปลี่ยนเป็นการรุกเร้าจากภายในบ้าง ลิ้นชื้นสอดเข้าไปในโพรงปากอันหอมหวาน กลิ่นไอศกรีมเปรี้ยวๆเมื่อกี้ยิ่งทำให้เขาอยากชิมมากขึ้นอีก ปลายลิ้นกระหวัดเกี่ยวพันกันจนมันแทบจะหลอมละลายเป็นสิ่งเดียว กวาดต้อนเอาความหอมหวานจากฟันซี่สวยทั้งหมด ลากวนดูดดุดจนน้ำเชื่อมไหลเยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงจ๊วบจ๊าบจากการกระทำของคนทั้งสอง ขับกล่อมให้บรรยากาศรอบๆนี้ดูไม่โดดเดี่ยวเหมือนเมื่อครู่
ลิ้นชื้นยังคงบดคลึงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งร่างบางทุบอกเป็นสัญญาณบอก
“แฮ่กๆ......” ทงเฮได้แต่หอบเหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อครู่....ทำไมเมื่อกี้เหมือนเราจูบกับฮยอกแจนานกว่าทุกครั้งเลยนะ ..แต่ร่างกายเราก็ไม่เห็นเป็นอะไร .... ไหนท่านพ่อบอกว่ากลั้นหายใจได้แค่ 20 วิไง เขาคิดว่าจูบเมื่อกี้ยังไงมันก็มากกว่า 20 วิแน่ๆ
“น้ำลายไหล ยังไม่ยอมเช็ดอีก...” คนจู่โจมเมื่อครู่กล่าวดุก่อนจะล้วงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาซับคราบน้ำหวานให้คนตัวเล็ก
“ฮยอกแจ......” ทงเฮมองสายตาของคนห่วงใยอย่างเศร้าสร้อย ยิ่งเห็นฮยอกแจทำท่าทีที่แสดงออกถึงความรัก ความเป็นห่วง..ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจเขาก็มีมากขึ้น ...กลัว กลัวว่าฮยอกแจจะต้องเจ็บ หากว่าเขาต้องจากไปจริงๆ เขาคงกลายเป็นคนบาปที่ทำร้ายจิตใจคนบริสุทธิ์แบบนี้
“เป็นไรไป....” ประคองใบหน้าหวานไว้ แล้วรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“นายรักฉันตั้งแต่ตอนไหนเหรอ....?...”
“ไม่รู้แฮะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนไหน รู้แต่ว่าตอนนี้รักจนหมดใจแล้ว” ทงเฮยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยิน มือบางเลื่อนขึ้นไปประคองแก้มสากๆไว้บ้าง ก่อนจะนวดคลึงด้วยฝ่ามือเบาๆ
“ฉันก็รักนายจนหมดใจเหมือนกัน......”
.......
...............
.........................
วันสุดท้ายแล้วที่ต้องอยู่บนโลก .....วันสุดท้ายแล้วที่จะไม่ได้เจอหน้าฮยอกแจอีก .... วันที่เขาต้องทำร้ายหัวใจของตัวเองและคนที่เขารัก วันนี้มันมาถึงแล้วเหรอ
“ทงเฮ....มายืนเหม่ออะไรอยู่ในห้องน้ำ...รีบๆอาบน้ำแล้วไปโรงเรียนได้แล้วนะคราบบ....” คนในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นที่เพิ่งย่างเท้าเข้ามาในห้องน้ำว่าขึ้นอย่างงัวเงีย มือแกร่งทำการโอบรอบเอวเล็กจากทางด้านหลัง ก่อนจะเกยคางไว้บนบ่าเล็ก
“บอกให้ฉันอาบน้ำ ตัวเองรีบตื่นก่อนเถอะ...” ทงเฮฝืนพูดเพื่อให้มันดูขบขันเหมือนปกติก่อนจะเอียงคอไปจุมพิตแก้มสากอย่างเต็มรัก
“ตื่นแล้วก็ได้...” บอกว่าตื่นแต่เปลือกตาก็ยังไม่เปิด ไอ้ที่ตื่นนี่สงสัยจะเป็นมือปลาหมึกของตัวเองมากกว่า ฮยอกแจล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงนอนลายทางสีอ่อน ก่อนจะตะปบเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของคนรัก
“เมื่อวานหิมะตกจริงๆด้วย ...ฉันบอกให้กลับแต่แรกก็ไม่ยอม ดูสิเนี่ย จะเป็นหวัดหรือเปล่าก็ไม่รู้” ปากก็พร่ำเพ้อบ่นไปเรื่อย...แต่มือก็ยังฉวยโอกาสไม่เลิก ..
“ไอ้บ้า
. หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ...” ทงเฮดิ้นเบาๆ แต่ฮยอกแจก็จับร่างเขาให้อยู่กับที่ แล้วทำตามใจตัวเองโดยการลวนลามทงเฮจูเนียร์ต่อ
“ฮยอกแจอ๊ะ !!.....”
“นะๆ....เดี๋ยววันนี้จะซื้อเชอร์เบทมาใส่ตู้เย็นให้เต็มตู้เลย...” ว่าอ้อนอย่างที่ไม่เคยเป็น ซึ่งกว่าจะพากันอาบน้ำจนเสร็จ โรงเรียนก็ใกล้เริ่มเรียนคาบแรกกันแล้วล่ะ
.......
.............
...................
“นักเรียนค่ะ
. วันนี้ครูนัดส่งงานศิลปะใช่ไหม ...เอามาส่งตอนนี้เลยนะ “ เสียงอาจารย์สาวจอมติสต์ว่าขึ้น ...นักเรียนที่นั่งอยู่ประจำที่จึงค่อยๆถือผลงานที่ตนเองภูมิใจบ้างไม่ภูมิใจบ้างมาอวดโฉมให้เพื่อนๆได้เห็น
“ฮยอกแจ.....ฉันว่าเราลืมเอางานมาส่งครูใช่ไหม....” ป้องปากบอกคนเงียบข้างกายเบาๆ ซึ่งฮยอกแจก็พยักหน้ารับ อาจเป็นเพราะเมื่อเช้าเร่งรีบไปหน่อย ก็เลยลืมงานสำคัญไว้ที่คอนโดเสียสนิท
“ลีทงเฮ....ลีฮยอกแจ.....ไหนงานของพวกเธอ 2 คนล่ะ ?....” เมื่อเชคตามรายชื่อดูแล้ว งานของทั้งสองคนนี้กลับไม่มีชื่ออยู่ ครูอารมณ์ศิลปะจึงเดินเข้ามาถามใกล้ๆ...ทงเฮขนลุกซู่ เพราะเขารู้ว่าครูคนนี้น่ากลัวมากแต่ไหน ร่างบางก้มหน้า
“ขอโทษครับ...ผมไม่ได้ทำส่ง..” ทงเฮเอ่ยออกมาเรียบๆ ถึงแม้ว่าแท้จริงมันจะเสร็จแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำเพราะครู....ภาพวาดรูปนั้นเขาตั้งใจจะมอบให้กับฮยอกแจมากกว่า และที่แสร้งพูดกับฮยอกแจแบบนั้นไปก็เพราะกลบเกลื่อนไม่ให้ฮยอกแจรู้ต่างหาก
“เธอนี่มันจริงๆ ..... แล้วเธอล่ะ..ลีฮยอกแจ...”
“...ลืม......” น้ำเสียงกึ่งห้วนว่าออกมาคำเดียวง่ายๆ ครูสาวเลยได้แต่กลืนน้ำลายอย่างติดขัด
“..ง..งั้นครูจะให้โอกาส อาทิตย์หน้าอย่าลืมเอามาส่งล่ะ.. “
....
.........
..................
“ทำไม....คยูฮยอนทำแบบนี้..ฮึกๆ.....” ร่างอวบสะอื้นไห้ไม่หยุด หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงว่า คยูฮยอนนั้น ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว ...แผ่นหลังเล็กทรุดลงไปกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอย่างคนหมดแรง ..
“ที่รัก...ผมขอโทษนะ....อย่าร้องไห้สิครับ....” ว่าปลอบประโลมคนที่เสียใจยกใหญ่ เขาไม่น่าเผลอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะทานข้าวแบบนั้นเลย ... ซองมินคงเห็นรูปวอลเปเปอร์ที่เขาได้ถ่ายกับเจสสิก้า ...ก็เลยวิ่งหนีเข้ามาที่สวนหลังโรงเรียนแบบนี้....คยูฮยอนย่อตัวลงไปนั่ง จับมือบางที่ปิดบังใบหน้าตัวเองอยู่ออก....ดวงตาที่บวมก่ำเพราะการร้องไห้อย่างหนัก ทำเอาหัวใจของเขาแทบกระตุก
“ฮึกๆ....ก็..ฉันมันจน..ฮือๆ...คยูฮยอน คง ม....ไม่คิด ฮึก...จะรักฉันจริงๆ ห..หรอก ฮือๆ “ ว่าแทบไม่เป็นภาษา ดั่งดอกไม้ที่เคยผลิบานแต่กลับถูกเหยียบย้ำอย่างไม่ใยดี ..มันเจ็บไปทั่วทั้งร่าง ...ทั้งๆที่มอบทั้งกายและใจให้ขนาดนี้แล้ว แต่ก็ได้เพียงความทรยศกลับมา..
“ไม่ๆ....ผมรักที่รักจริงๆนะ...ซองมิน...ให้โอกาสผมได้ไหม..?..” คยูฮยอนกล่าวอย่างจริงใจ..แม้ความคิดแรก เขาอาจจะแค่อยากจะเก็บซองมินไว้เป็นเพียงของเล่น แต่ความรู้สึกตอนนี้มันกลับบอกว่าไม่ใช่แล้ว ....ซองมินมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด...ผู้ชายคนนี้บริสุทธิ์และบอบบางเกินกว่าที่เขาจะทำร้ายลง
“ฮึก...ฮือๆ...พอเถอะคยูฮยอน...ฮึก...อย่าทำร้ายฉัน ฮึก..อีกเลย...แค่นี้..ฉันก็เจ็บแล้ว ฮือๆ...” หยาดน้ำแห่งความเศร้าพรั่งพรูออกมาเป็นทางยาว.. ซองมินซุกหน้ากอดเข่าตัวเองไว้แน่น..เขาไม่อยากมองสายตาแบบนั้นของคยูฮยอนอีกแล้ว...คนไม่จริงใจ
“ผมไม่มีวันเลิกยุ่งกับที่รักเด็ดขาด.....เพราะผมรักที่รักมากนะ...ผมสัญญาว่าผมจะไม่มีคนอื่นอีกแล้ว...ผมจะมีที่รักคนเดียว.. ได้โปรด..ให้โอกาสผมซักครั้ง” เฉกเช่นหัวใจมันกำลังบีบรัดตัวเองจนเจ็บปวดไปหมด ....มันต้องไม่เป็นแบบนี้ซิ...
“ฮึกๆ...ไม่.....”
“ซองมิน.........”
......
...........
TBC
ความคิดเห็น