ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันนี่แหละคิมฮีชอล [CinHyuk] [WonKyu]

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 : รักแรก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 55


     »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

     

    ตอนที่ 8 : รักแรก

     

    สายวันอังคาร………….

     

    มหาวิทยาลัย….

     

     ฮีชอล!!!!! ” เยซองเรียกพร้อมเขย่าแขนของเพื่อนรักอย่างแรงเพราะคนที่นั่งข้างๆดูไม่สนใจบทสทนาของตนสักเท่าไร

    อะไรวะ ตกใจหมด เรียกเบาๆก็ได้

    นี่ขนาดฉันแหกปากขนาดนี้แกยังไม่ได้ยินเลย เหม่อไปถึงไหนวะ

    เหม่ออะไรเล่า ไม่มี๊

     ฉันว่า เดี๋ยวนี้แกแปลกๆไปว่ะ

    แปลกยังไง

    แกไม่ค่อยเพ้อเจ้าซีวอนอะไรนั่นเหมือนเก่า แถมกลับบ้านเร็ว ชวนไปไหนก็ไม่ค่อยไป หรือว่าแก……”

    อะอะไร ทำไมแกมองหน้าฉันอย่างนั้น

    แก ซ่อนผู้ชายไว้ในบ้านใช่มั้ย

    จะบ้าเรอะ ใครเขาจะทำแบบนั้นกัน คนสวยๆอยู่ในบ้านกับชายหนุ่ม อ๊าย!!!! ฮีไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรบ้าง

     นั่นไง!!! ฉันว่ามันแปลกมากที่แกมากรี๊กร๊าดแบบนี้ ปกติแกต้อง อ๊ายยยยยยย ของอย่างนี้ฮีชอบ ไม่ใช่เหรอ เยซองจีบปากจีบคำสาธยาย

    อย่ามารู้ดีหน่อยเลย หมดประโยชน์แล้วจะไปไหนก็ไปเลยปะ ฮีชอลยื่นสมุดคืนให้แก่เพื่อนชายหน้าซาลาเปา

     พอจดเสร็จก็ถีบหัวกูส่งเชียวนะ เยซองเหร่ตามองก่อนจะเดินกลับไปยังที่นั่งของตน

     

    หมอนั่นจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย ไม่ใช่ว่าไปเป็นลมต่อหน้าใครอีกนะ……ใช่สิ ไปแอบดูหน่อยดีกว่า

     

    แล้วทำไมฉันต้องไปแอบส่องหมอนั่นด้วย ช่างสิ จะเป็นอะไรก็ช่าง

     

    เฮ้อ!!!! แต่เดี๋ยวถ้าหมอนั่นป่วยหนักขึ้นมา ฉันอาจโดนคุณแม่ด่าเอาก็ได้  ไปดูสักหน่อยก็ดี บ่นเองเออเองจบก็รีบลุกออกจากกห้อง จนเพื่อนต้องตะโกนเรียก

    เฮ้ย ฮีชอลไปไหนวะ

    ไปกินผู้ชายแถวนี้แหละเดี๋ยวมา

    เออ กินให้หมดมหาลัยเลยนะเว้ย!!!!!

    .

    .

    .

     ฮยอกแจ……………..แม่ยอดยาหยีของคยูฮยอน  ไม่เจอกันตั้งหลายวัน ฉันคิดถึ๊ง คิดถึง

     

    หนอย ไอ้กระเหรี่ยงกล้ากอดลูกเจี๊ยบฉันขนาดนี้เลยเรอะ ร่างสูงที่แอบอยู่ตรงประตูแอบบ่นคนเดียว(อีกแล้ว) เมื่อเห็นภรรยากอดกับคนที่ตนไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุดในตอนนี้ เขาอยากจะเดินเข้าไปใกล้กว่านี้เพื่อฟังว่าคนทั้งสองกำลังคุยอะไรกันเพราะอยู่ไกลออกมาเขาจึงไม่ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่

     

    คยูฮยอน นายเป็นอะไร ปล่อยฉันได้แล้ว ไม่อายเพื่อนรึไง ดูสิ มองมาทางนี้เป็นตาเดียวแล้วนะ  

     ทำไมไม่ดันออกแล้วทำไมไม่หลบ ให้เขากอดอยู่ได้ โรคจิตรึไง

     

     จะไปอายทำไม คนเยอะแยะ อีกอย่างใช่ว่าเราจะไม่เคยสักหน่อย ….. ว่าแต่ทำไมนายดูซูบๆไปนะ แต่ถึงงั้น หน้าตานายกลับดูสดชื่นยังไงบอกไม่ถูก

    คุยอะไรกันนักหนาวะ ไม่เคยเจอกันมาก่อนรึไง

     

    มะ ไม่มีอะไรนี่ กลับจากทัศนศึกษาฉันก็แย่เลยล่ะ

     เมื่อไรจะออกมาจากอ้อมกอดของหมอนั่นสักทีนะ น่าหงุดหงิดชะมัด

     

     

    ดูสิ ตัวยังอุ่นๆอยู่ด้วยแฮะ

     เฮ้ย!!!! กอดไม่พอ ยังเนียนจับหน้าเมียฉันด้วยเรอะ ฮยอกแจ นายรีบเดินหนีมาเลยนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธนายจริงๆด้วย

     

    ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ^^

     ยิ้มอย่างนี้ แสดงว่าชอบสินะ ที่หมอนี่กอดแล้วก็คงชอบด้วยสินะที่หมอนั่นลูบหน้าอย่างนั้น หึ ปากก็บอกว่าเพื่อน ที่แท้ก็อ่อยไม่เลือกหน้า  ที่ว่ารักฉันน่ะก็โกหกสินะ ร่างสูงกำหมัดแน่นก่อนจะหันหลังเดินกลับห้องของตนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

    .

    .

    .

    เป็นอะไรวะ ขาไปดี๊ด๊า ขามาหน้าบูดเป็นตูดหมา เยซองแซว

    มึงเคยแหกตูดมันดูเรอะหมาน่ะ ถึงได้รู้ว่าตูดแม่งเป็นไง

     เหี้ยแล้วมั้ยล่ะ เมนส์มาอีกล่ะสิ

    เออ ตอบกลับด้วยความโมโหและนั่งนิ่งเงียบอยู่สักครู่ก่อนที่โทรศัพท์ของตนจะดังขึ้น

     

    RRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     จะโทรมาง้อฉันรึไง เมินซะเถอะ อีฮยอกแจ ชายหนุ่มก้มลงมองมือถือพร้อมกดรับ

     

    [“ พี่ฮีชอลครับ ”]

    ว่าไง โทรมาทำไม

    [“ เย็นนี้ผมกลับคนเดียวนะครับ ”]

    กลับคนเดียว? นายจะไปไหน

    [“ ผมจะไปดูหนังน่ะครับ ”]

     “ นายจะไปดูหนัง ฟังเพลง เล่นบทรักอะไรกับใคร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร มันก็เรื่องของนาย

    [“ อ่า งั้นพี่ทานข้าวคนเดียวนะครับ ”]

     เออ

    [“ เอ่อ…..พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมน้ำเสียงแบบนี้ล่ะ ”]

     คนอย่างคิมฮีชอลไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก อีกอย่างฉันก็พูดอย่างนี้ทุกวัน นายยังไม่ชินอีกรึไง

    [“ อะ ครับ งั้นแค่นี้นะครับ ผมไม่กวนใจพี่แล้ว ”] พูดจบคนตัวเล็กก็กดวางสาย ปล่อยให้ฮีชอลนั่งหน้าบูดอยู่ในห้องเรียนตลอดช่วงเช้า

     

     

    RRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     

    [“ ฮีนิม ”]

    ว่าไงซอลลี่

    [“  วันนี้พี่ว่างมั้ย ”]

     “ ทำไม มีอะไรหรือเปล่า

    [“ ฉันว่าจะชวนพี่ไปทำเล็บสักหน่อย ”]

    ก็ดี หาอะไรทำแก้เครียดดีกว่า

    [“ เป็นไร ทำไมเครียดอีกล่ะ เมียพี่ไม่ดูแลเลยรึไง ”]

    อย่าพูดถึงหมอนั่นเลย

    [“  ก็ได้ ไม่พูดก็ไม่พูด งั้นเจอกันเย็นนี้นะ”]

     “ OK

     

     

     

     

     

    »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

     

     

     

    เย็นวันอังคาร………….

     

     

     

    นี่คุณฮันเกิง เพื่อนของพี่ชายฉัน  คยูฮยอนแนะนำเพื่อนของตนให้รู้จักกับเพื่อนใหม่ หลังจากเจอกันที่หน้าโรงหนัง

    สวัสดีครับ

     นี่ทงเฮ ซองมิน แล้วหวานใจของผม ฮยอกแจ คยูฮยอนยิ้มแป้นแนะนำต่อ

     เพื่อนคุณคยูฮยอนนี่หน้าตาน่ารักกันทุกคนเลยนะครับ

     

    คยูฮยอน….. เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง

    เพื่อนหรือคะซีวอน

    เรียกทำไมมิทราบ ชเวซีวอน  คยูฮยอนเอ่ยเสียงเรียบเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกชื่อตนเดินคล้องแขนมากับหญิงสาวในวันนั้น เด็กหนุ่มเดินไปกระชับแขนของเพื่อนชาวจีนอย่างเสียไม่ได้

     นายมาดูหนังเหมือนกันเหรอ

    มาโรงหนัง ไม่ให้มาดูหนัง จะให้มาเลือกซื้อที่นอนหมอนมุ้งรึไง

     ทำไมเขาถึงพูดจาไม่สุภาพอย่างนี้ล่ะคะหญิงสาวกระซิบถามชายหนุ่มที่ตนเดินมาด้วย

    เขาก็น่ารักอย่างนี้แหละ ซีวอนกระซิบตอบ ทำให้หญิงสาวแปลกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาและนั่นทำให้คยูฮยอนขัดใจอยู่ไม่น้อย

     

    คุณฮันเกิงเราไปที่อื่นกันเถอะ แถวนี้บรรยากาศเริ่มเน่าแล้ว

    ไม่ดูหนังแล้วหรือครับ

    ไม่มีอารมณ์ดูแล้ว …..ไปเถอะ ซองมิน ทงเฮ อ๊ะ แล้วฮยอกหายไปไหนล่ะ ร่างโปร่งถามหาเพื่อนรักอีกคนที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหน

    พี่ฮีชอลลากไปแล้ว ฉันจะตามไป พี่แกก็ส่งสายตาพิฆาตมา เลยไม่กล้าตาม ทงเฮบอก

    งั้นเราออกไปให้พ้นจากที่นี่ก่อนดีกว่า คยูฮยอนมองหน้าร่างสูงเขม็งก่อนจะหันมาฉุดข้อมือหนุ่มจีนเพื่อที่จะเดินจากไป แต่ก็ถูกซีวอนคว้าแขนไว้ได้ทันท่วงที

    จะไปไหน

    ไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องทนอยู่กับนาย

    ทำไม???

    ไม่มีเหตุผล ปล่อยได้แล้ว

    ไม่ปล่อย

    เอ่อ ผมว่าค่อยๆพูดกันดีมั้ยครับ ฮันเกิงแทรก

    ผมไม่อยากคุยดีๆกับหมอนี่ คุณฮันช่วยพาผมออกไปจากที่นี่ที

    เอางี้ ฉันว่านายเคลียร์กับรุ่นพี่ซีวอนก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวพวกฉันจะไปรออยู่ในรถ ซองมินเอ่ยพร้อมจูงมือทงเฮและหนุ่มชาวจีนเดินออกมา

    ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับหมอนี่

    คุยเหอะ นึกว่าขอร้องล่ะ แล้วก็คุยดีๆอย่าเอาแต่ใจนักนะคยูฮยอน ทงเฮพูดออกมาอย่างอดไม่ได้กับนิสัยดื้อรั้นของเพื่อนตนเอง

    นี่นายเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่าทงเฮ

    ก็เพื่อนไงถึงได้เตือน ถ้านายไม่ใช่เพื่อนฉัน ฉันคว้ารุ่นพี่ไว้เองแล้วล่ะ

    ย๊า!!!!

    ไม่ต้องมาตะคอกนะ คิดว่ากลัวรึไง คุยกันดีๆล่ะ พวกฉันไปก่อน แล้วเจอกัน

    ไหนว่าจะรออยู่ในรถไง

    เอาน่าเผื่อเคลียร์กันยาว คุณคนจีนพวกฉันจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องห่วง พูดจบก็หันไปยิ้มให้รุ่นพี่เล็กน้อยก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกไปอย่างเร็ว เพราะเกรงว่าถ้าขืนยังอยู่ตรงนั้น เพื่อนรักของตนคงเฉไฉไม่ยอมพูดอะไรออกไปตรงๆกับรุ่นพี่หน้าหล่อเป็นแน่

    .

    .

    .

    เมื่อไรจะปล่อย ร่างเพรียวบอกพร้อมจ้องดูข้อมือของตนที่ยังถูกจับไว้แม้จะไม่แน่นนัก แต่เขาก็ไม่สามารถแกะมันออกไปได้

    ถ้าปล่อยเดี๋ยวนายวิ่งตามเพื่อนไปน่ะสิ

    แฟนนายเขามองอยู่ ไม่อายบ้างรึไง คยูฮยอนมองไปยังหญิงสาวอีกคนที่กำลังยืนงงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้

    ฮยอนคยองไม่ใช่แฟนฉัน นายต่างหากที่เป็น

    มะ หมายความว่าไง???

    หมายความอย่างที่พูด

    ซีวอนคะ นี่มันเรื่องอะไรคะ ฉันงงไปหมดแล้ว

    อย่างที่เห็นนี่แหละขอโทษนะฮยอนคยองที่ฉันรับความปรารถนาดีจากเธอไม่ได้

    คะ คุณ…..หรือว่า คุณ…..

    ใช่ ฉันรักหมอนี่ ตลอดเวลาแปดปีที่ผ่านมา ฉันรักหมอนี่แค่คนเดียวเท่านั้น

    กะ โกหก นายกับฉันเพิ่งรู้จักกันแค่สองปีเท่านั้น อย่ามั่วหน่อยเลย

    นายต่างหากที่รู้จักฉันแค่สองปี แต่ฉันตกหลุมรักนายมาถึงแปดปีเต็มๆ

    ซีวอนคะ หรือว่าคนคนนี้จะเป็น…..

    อืม ใช่แล้วล่ะ หมอนี่นี่แหละ

    ต่อ จ้า!!!!!!

    »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

    ฮยอกแจ นั่นสามีนายนี่หน่า  ทงเฮกระซิบบอกฮยอกแจ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่กำลังเดินมายังโรงหนังแห่งนี้คือใคร

     ไหนเหรอ ฮยอกแจส่ายตามองก่อนจะพบว่าสามีของตนกำลังเดินมากับเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง

     

    พี่ฮีชอล….. คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบา

    ฮยอกแจ …. นายมาทำอะไรที่นี่???? ฮีชอลส่งเสียงเข้มขณะเดินมาหาผู้เป็นภรรยา

    นี่เหรอ คนที่พ่อของฮีนิมบังคับให้แต่งงานด้วยน่ะ เด็กสาวร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเย้ยหยันเล็กน้อยพร้อมๆกับที่เพื่อนรักร่างสูงเดินเข้ามาขวางเอาไว้

    เขามาดูหนังกับฉัน คยูฮยอนแทรกขึ้นก่อนจะหันไปสนใจกับรุ่นพี่หน้าหล่อที่เดินมาอีกทาง ปล่อยให้ฮยอกแจไปไม่ถูกกับสามีที่เดินหน้าบึ้งเข้ามา

    .

    .

    .

     พะ พี่ฮีชอล ปล่อยผมนะ จะพาผมไปไหน ร่างบางขืนตัวไม่ให้ไปตามแรงกระชากที่สร้างความเจ็บปวดบนแขนของตน หันหน้าไปขอความช่วยเหลือกับทงเฮและซองที่วิ่งตามมาแต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อฮีชอลหันไปตาขวางใส่นิดเดียวทั้งสองก็หยุดเดินเหมือนถูกสะกดไว้

    คนไม่สบายเขามาทำตัวระรื่นอยู่ในที่แบบนี้กันรึไง

    ผมโทรไปบอกพี่แล้วนี่ครับ

    มันก็จริง แต่ใครจะรู้ว่านายมามั่วสุมอยู่ที่นี่

    ผมเปล่านะ ปล่อยได้แล้ว ไม่อายคนอื่นรึไง คนมองกันเต็มแล้วนะครับ

    ช่างสิ จะไปสนทำไม

    พี่ฮีชอล ผมเจ็บ พี่เป็นอะไรของพี่!!!!

     เป็นผัวนายไง !!!!! แล้วก็เป็นคนที่ถูกนายสวมเขาอยู่นี่ไงล่ะ

    พี่พูดอะไรผมไม่เข้าใจ

    เลิกแกล้งอินโนเซ้นต์ต่อหน้าฉันได้แล้ว ฮีชอลผลักฮยอกแจไปกระแทกกับรถของตนที่จอดอยู่ชั้นใต้ดินอย่างจัง จนคนตัวเล็กน้ำตาคลอเบ้า

    ผมทำอะไรให้พี่โกรธ….

     นายโง่จนไม่รู้ตัวเองรึไงว่าทำให้ฉันโกรธยังไงบ้าง

     ก็ผมมันโง่ พี่อธิบายมาสิ พี่รู้ว่าผมโง่แล้วทำไมต้องปล่อยให้ผมคิดเองคนเดียวล่ะ คนตัวเล็กเสียงเครือ น้ำตาไหลอาบแก้ม เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนตรงหน้าถึงได้ใจร้ายใจดำกับเขาแบบนี้ ทั้งที่เมื่อเช้านี้ฮีชอลดูแลเอาใจใส่เขาอย่างดี

    หยุดเสียงสั่น ไม่ต้องแกล้งมาทำหน้าซื่อ หน้าตานองแบบนี้เลยนะ

    ฮึก แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมยังไม่รู้เลยว่าไปทำอะไรให้พี่โกรธ ฮยอกแจปาดน้ำตาบนใบหน้าออก พยายามฝืนไม่ให้สะอื้นออกมาเพราะเกรงว่าจะทำให้คนตรงหน้ารักเกลียดตนมากไปกว่านี้

     

    ฮีนิม เสียงเด็กสาวเรียกเสียงดัง แต่ก็ไม่ทำให้เจ้าของชื่อหันไปสนใจได้ ร่างสูงยังคงจ้องคนตัวเล็กเขม็งจนมือเรียวของเด็กสาวมาสัมผัสที่ต้นแขน ฮีชอลจึงได้หันไปตามแรงนั้น

     เป็นอะไรไปคะ ทำไมวิ่งออกมาแบบนี้ล่ะ ฉันนึกว่าพี่ทิ้งฉันไปแล้วซะอีก

    ขอโทษ ชายหนุ่มกุมมือเด็กสาวด้วยคำพูดที่อ่อนโยน ผิดกับถ้อยคำที่มอบให้กับเด็กหนุ่มที่ยืนกุมแขนของตนไว้ด้วยความเจ็บปวด หากแต่ความเจ็บที่แขนของฮยอกแจไหลรวมกันไปกองกันอยู่ที่หัวใจ เมื่อความอบอุ่นที่ตนได้รับในยามเช้าของวันไม่ได้มีไว้ให้ตนเพียงคนเดียว ร่างบางมองดูมือเรียวกุมมือเล็กไว้แน่น น้ำตาที่หยุดไหลก็เริ่มคลอขึ้นมาอีกหน

     

    นายใช่มั้ย ที่ทำให้ฮีนิมไม่สบายใจ แบบนี้ เด็กสาวมองหน้าคนที่ตัวติดรถอย่างคาดโทษ

     เปล่า

     ทำให้ฮีนิมโกรธ ยังจะมีหน้ามาตีหน้าซื่อแบบนี้อีกนะ  เด็กสาวยังคงระบายความอัดอั้นออกมาโดยที่ฮยอกแจเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรให้สมควรถูกด่าทั้งจากผู้เป็นสามีและผู้หญิงตรงหน้า

    หย่าเลยค่ะฮีนิม ถ้าไม่มีความสุขแบบนี้อยู่ด้วยกันก็ไม่มีประโยชน์  แต่งได้ก็หย่าได้เหมือนกัน

     ผมผิดที่ไม่กลับบ้านใช่มั้ยครับหรือผิดที่ออกมาเที่ยวแบบนี้เลยทำให้พี่ต้องเป็นห่วง ร่างบางมองไปทางสามีเพื่อรอฟังคำตอบแต่ก็ไม่ได้รับกลับมา หากแต่เพียงไม่ถึงครึ่งนาทีให้หลังที่ร่างสูงจูงมือเด็กสาวผ่านมายังร่างเล็ก อีกครั้งที่มือเรียวผลักคนตัวเล็กให้ถอยห่างจากตัวรถก่อนที่คนทั้งคู่จะเข้าไปในรถคันโต ฮยอกแจเซเล็กน้อยก่อนจะใช้มือจับประตูรถเอาไว้

     

     พี่ฮีชอล พี่จะไปไหนครับ

     นายกลับเองก็แล้วกัน

    พี่บอกผมมาสิ ว่าผมผิดอะไร ทำไมพี่ไม่บอกผม

    นี่ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันปิดประตูจริงๆด้วย พูดไม่ทันจบคำ เด็กสาวก็กระแทกประตูรถแน่นอนว่าไม่อาจจะปิดสนิทได้ เพราะมือเรียวของฮยอกแจยังคงกั้นเอาไว้

     อ๊ะ!!!!!!!!!! ” ถึงแม้จะเจ็บแต่ร่างบางก็ร้องออกมาเพลงแผ่วเบา มือที่พยายามฝืนเอาไว้ต้องละออกจากตัวรถเพราะแรงกระแทกที่มีมากกว่า รอยเขียวตรงฝ่ามือบีบน้ำตาของเจ้าของให้พรั่งพรูออกมา แต่ไม่มีวี่แววว่าผู้เป็นสามีจะห่วงใยตนแม้เพียงนิด ชายหนุ่มหันมามองเล็กน้อยก่อนที่จะสตาร์ทรถออกไป

     

     ฮึก ฮึก ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรให้พี่โกรธ ถ้าจะพูดเรื่องความผิด ผมคงผิดตั้งแต่เริ่มรักพี่แล้วล่ะ

     

     

     

     

    »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

     

     

    ใช่ ฉันรักหมอนี่ ตลอดเวลาแปดปีที่ผ่านมา ฉันรักหมอนี่แค่คนเดียวเท่านั้น

    กะ โกหก นายกับฉันเพิ่งรู้จักกันแค่สองปีเท่านั้น อย่ามั่วหน่อยเลย

    นายต่างหากที่รู้จักฉันแค่สองปี แต่ฉันตกหลุมรักนายมาถึงแปดปีเต็มๆ

    ซีวอนคะ หรือว่าคนคนนี้จะเป็น…..

    อืม ใช่แล้วล่ะ หมอนี่นี่แหละ

    .

    .

    .

     อะไรกัน หมอนั่นพูดเรื่องอะไร ทำไมคน IQ 130 อย่างฉันถึงได้ไม่เข้าใจกับไอ้เรื่องบ้าๆพวกนี้นะ

     

     หมอนั่น รักเรามาแปดปี? ตอนนั้นฉันอายุแค่ 14 เองไม่ใช่รึไง

     

    มันจะจริงเหรอ หรือว่านี่คือความฝันวะ    คยูฮยอนตบหน้าตัวเองเต็มแรง จนได้ร้องออกมาเสียงดัง

     

    โอ๊ย เจ็บ!!!!!

     นายไม่ได้ฝันไปหรอกน่า ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในเบาะรถประจำที่คนขับเอ่ยออกมาอย่างขำๆ

    เฮ้ย!!!! ละ แล้วฉันมาอยู่ในรถนี้ได้ไงเนี่ย  

     ฉันเดินจูงนายมาไง

    คนนะไม่ใช่หมาจะมาเดินจูง

    รู้สึกตัวก็ดีแล้ว ฉันเห็นนายอึ้งอยู่ตั้งนาน

     กะ ก็เพราะใครกันล่ะ ไม่ใช่เพราะนายรึไง

    เพราะฉันเหรอ ???  ซีวอนขมวดคิ้วสงสัย

     ก็ใช่น่ะสิ หายหัวไปหลายวัน โผล่มาก็มากับแฟน แล้วไหนจะเรื่องรักเมื่อแปดปีที่แล้วนั่นอีก

    อืม….ไม่มีอะไรหรอก ฉันกับผู้หญิงคนนั้นเราเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาเท่านั้น อย่าคิดมาก เธอกลับบ้านหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมานาน ฉันเลยพาเที่ยวก็เท่านั้น  ส่วนเรื่องแปดปีที่แล้วนั่นปล่อยมันไปเถอะ

    ไม่ได้นะ ฉันอยากรู้ เล่าให้ฟังหน่อยสิ มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อแปดปีที่แล้วเหรอ คยูฮยอนเขย่าแขนของอีกฝ่ายอย่างใคร่รู้

     ไม่มีอะไรหรอก

    ไม่จริง จะไม่มีอะไรได้ไง ในเมื่อนายบอกว่านั่นน่ะทำให้นายรักฉันมาจนถึงทุกวันนี้ไง เล่ามาเลยนะ

    ขับรถอยู่นี่ไง เล่าไม่ได้ ไม่มีสมาธิ

    อย่าเว่อร์น่า เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ

    ไม่ต้องสนใจมันหรอกน่า รู้แค่ว่าตอนนี้ฉันรักนายก็พอแล้ว

    ไม่ได้สิ ฉันอยากรู้นี่ว่าทำไม ทีผู้หญิงคนนั้นยังรู้เลย ฉันเป็นคนที่นายรักแท้ๆกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่างนี้มันไม่แฟร์นี่หว่า

    ฉันจะเล่าก็ต่อเมื่อฉันได้เป็นคนที่นายรักแล้วเท่านั้น ซึ่งมันคงยังไม่ใช่ตอนนี้

    ใครบอกล่ะ……..

    หืม???

    ปะ เปล่า ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า งั้นเชิญเก็บเรื่องนี้ไว้จนวันตายของนายได้เลย เมื่อง้อคนข้างๆไม่ได้ผล คยูฮยอนก็กลับมางอนเหมือนเดิม ร่างบางปล่อยมือจากแขนหนาก่อนจะหันหน้าไปยังกระจกรถโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

    โกรธเหรอ? ซีวอนเอ่ยปากถาม

    น่าให้โกรธมั้ยล่ะ

     “ โกรธจริงเหรอเนี่ย เรื่องนี้มันบอกไมได้จริงๆนะ

    ผู้หญิงคนนั้นยังรู้

    ก็แค่เธออยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็เท่านั้น

    คบกันมานานแล้วสินะ

    อะไรนะ

    กับผู้หญิงคนนั้นไง คบกันมานานแล้วสินะ

    ก็ตั้งแต่จำความได้ บ้านเราอยู่ใกล้กัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก

    ความสัมพันธ์คงแนบแฟ้นสินะ

    หึงเหรอ

    ไม่ได้หึงเฟ่ย

    เอาน่า เราไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้หรอก

    ก็บอกว่าไม่ได้หึงยังไงล่ะ

    น่ารักจริงนะนายน่ะ

    หล่อต่างหาก

    น่ารัก

    หล่อโว๊ย

    ดูยังไงก็น่ารัก

    หล่อ หล่อ หล่อ หล่อมากด้วย คยูฮยอนโวยวายอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่รู้ตัวว่ารถจอดสนิทตั้งแต่เมื่อไร รู้เพียงว่าหัวใจเริ่มเต้นระส่ำอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามาขโมยจูบของตน แม้จะตั้งท่ายกมือขึ้นดันร่างสูงแต่มือไม้ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ปล่อยให้ซีวอนควานหาความหวานในโพรงปากของตนจนแทบจะขาดอากาศหายใจ

    โดนจูบไปตั้งหลายครั้ง ยังไม่รู้วิธีหายใจอีกเหรอ

    กะ ก็นายเล่นโจมตีแบบนี้ ใครจะตั้งตัวทันล่ะ ดีนะฉันไม่ตายไปก่อนน่ะ ร่างบางหน้าขึ้นสีก่อนจะใช้มือดันร่างหนาให้ออกไปพ้นตัว

    เหลือแปดครั้งใช่มั้ย  

    เจ็ดโว๊ย อย่ามั่วสิ  

     ฉันจำได้นะว่าเหลือแปดครั้ง

    อย่าเนียนๆ ครั้งแรกที่หอสมุด ครั้งที่สองที่ลานจอดรถ ครั้งล่าสุดก็ไอ้ตะกี๊นี่แหละ สามครั้งจากสิบก็เหลือเจ็ดดิ จะมาแปดได้ไง อย่านะ ถึงเห็นแบบนี้ แต่ฉันความจำดีนะจะบอกให้

     อืม แม่นจริงๆด้วยสินะ ซีวอนอมยิ้ม

    นี่!!!! แกล้งลืมใช่มั้ย คนบ้าเอ๊ย!!!!! มือเรียบทุบลงไปที่อกแกร่งหนึ่งทีก่อนจะทำหน้าบึ้งเปิดประตูลงมาจากรถ

     

    ฮ่า ~ ฉันไม่เคยมาแม่น้ำฮันในเวลาแบบนี้เลย คนตัวเล็กเหยียดแขนพร้อมสูดอากาศเข้าเต็มปอด บรรยากาศรอบข้างทำให้คยูฮยอนใจเย็นขึ้นมาบ้าง?

     งั้นก็หมายความว่าฉันเป็นคนแรกของนายน่ะสิ

    อะไร คนแรกอะไร พูดให้มันดีๆหน่อย  

    ก็คนแรกที่มาที่นี่กับนายในตอนหัวค่ำแบบนี้ไง

    ชิส์ จะพูดก็พูดให้มันเต็มๆ อย่าเพ้อให้มันมากนัก

     นายนี่หงุดหงิดง่ายจังนะ

    ไม่ได้หงุดหงิดง่าย แต่อยู่กับนายแล้วมันหงุดหงิดตลอดเวลาเลยต่างหาก

    แต่ฉันก็รักที่นายเป็นแบบนี้นะ

     

    ตึ่ก ตัก ตึก ตัก

     

     อ่า อีกแล้ว หัวใจฉันมันเป็นแบบนี้อีกแล้ว หมอนี่คงไม่ได้ยินมันนะ

     

     

     

     

    »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

     

     

    หงุดหงิดงุ่นง่าน ฮีโมโห บอกได้คำเดียวว่าโมโห มันจะเกินไปแล้วนะ กลางวันก็ให้ไอ้กระเหรี่ยงนั่นกอดเอา กอดเอา ตกเย็นมาก็ผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลัง หน้าด้านไร้ยางอาย ฮีทนไม่ได้ ฮีรับไม่ได้!!!!!!!!!!!!  

     ฮีนิม เสียงเด็กสาวเรียกสติชายหนุ่มให้กลับมา

     หะ หืม ว่าไงซอลลี่

    ฉันไม่เคยเห็นพี่โกรธอย่างนี้มาก่อน หมอนั่นทำอะไรให้พี่โกรธงั้นหรือคะ

     

    ผมทำอะไรให้พี่โกรธ….

     

    อ่า ~ นั่นสินะ หมอนั่นทำอะไรให้ฉันโกรธ  

     ฉันไม่เคยเห็นพี่โกรธขนาดนี้มาก่อน ขนาดตอนถูกบังคับให้แต่งงานยังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย

     ซอลลี่ เธอเคยเลี้ยงแมวมั้ย

    ไม่อ่ะ ฉันไม่ชอบแมว มันขี้ประจบเกินไป พี่ถามทำไมเหรอ

    คืองี้นะ…. ชายหนุ่มจอดรถใกล้สวนสาธารณะแห่งหนึ่งก่อนจะหันไปถามน้องสาวที่นั่งมาด้วย

    ว่าไงล่ะฮีนิม

    คือ ฉันโมโหมากเลยที่ลูกแมวที่ฉันเลี้ยงไว้น่ะมันไม่ชอบอยู่กับที่ เดี๋ยวไปนั่นมานี่ ตอนที่มันไม่สบายฉันดูแลมันอย่างดีแล้วมันก็อ้อนจนฉันรักมัน แต่พอมันหายป่วย มันก็ไปอ้อนคนอื่นให้กอดมัน ให้เอาใจมันแล้วทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว เป็นเธอ เธอจะโกรธมันมั้ย

     หมายถึงเมียพี่น่ะเหรอ

    อืม เฮ้ย ไม่ใช่!!!!

     แล้วพี่หมายถึงใคร

    ก็แมวฉันไง แมวที่เลี้ยงไว้น่ะ

    แมวอะไรอีก ฮีบอมอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ไม่ใช่เหรอ พี่หมายถึงเมียพี่แน่ๆอย่ามาหลอกฉันให้ยาก

    ก็แล้วทำไม ถ้าฉันจะหมายถึงหมอนั่นแล้วเธอมีปัญหาอะไรกับฉันรึไง

    ก็ไม่ได้จะมีปัญหาอะไรหรอกนะ แค่สงสัยว่าทำไมพี่ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ด้วย

    ก็อย่างที่บอก หมอนั่นชอบไปอี๋อ๋อกับคนอื่น

    แล้วไง?

    ก็จะให้แล้วไง อะไรอีกล่ะ

    พี่หึงเหรอ

    เปล่า

    ไม่หึงแล้วไปหงุดหงิดอะไรล่ะ ปกติฉันเห็นพี่เพ้อถึงแต่ชเวซีวอน วันนี้พี่ยังกะทักเขาสักคำ

    ซีวอนเหรอ ฉันจะไปทักเขาตอนไหนล่ะ

    เฮ้ๆๆๆ นี่พี่ไม่เห็นเหรอ คุณซีวอนเขาออกจะสูงหล่อล่ำปล้ำง่ายขนาดนั้น พี่มองไม่เห็นรึไง เขาอยู่ใกล้ๆเองนะ

    ไม่ยักกะเห็น

    มองแต่เมียอยู่ล่ะสิ หึงเหรอที่เขาอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น่ะ แต่พี่เล่นลากเขามาขนาดนั้น ต้องเจ็บแน่ๆ ไม่เห็นคุยกันให้รู้เรื่อง ปากบอกว่าไม่ได้รัก แต่ช่วงหลังๆมานี่ เวลาฉันโทรไป พี่ก็เอาแต่เล่าเรื่องของเมียพี่ให้ฉันฟัง นี่ยังไม่รักอีกเหรอ

     ฉันจะรักหมอนั่นได้ไง เธอก็รู้ว่าพี่ชอบเมะหล่อๆ ล่ำๆมากกว่า

     พี่ก็พูดแบบนี้ตลอดแหละ ฉันไม่เคยเห็นพี่เพ้อถึงใครนอกจากชเวซีวอน แต่มาวันนี้คนที่พี่บอกว่ารักเขาอยู่ใกล้ๆพี่ยังมองไม่เห็นเพราะมัวหึงเมียจนหน้ามืด เนี่ยนะรักชเวซีวอน นี่นะที่ว่าไม่รักเมีย

     เฮ้อ ทำไงดี ฉันทำหมอนั่นร้องไห้อีกแล้ว

    กลับไปง้อเลย เออ จริงดิ ฉันปิดประตูหนีบมือเมียพี่ด้วย

    ห๊า!!! นี่เธอทำอะไรกับคนของฉันเนี่ย

     ก็เพราะพี่นั่นแหละ ฉันเลยคิดว่าเขาทำให้พี่รำคาญเลยเผลอทำมารยาทแย่ๆใส่พี่สะใภ้น่ะสิ

    นี่ยัยไข่แดง เธอบังอาจมากนะ ตอนนี้หมอนั่นคงร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วแน่ๆเลย

     อะไร เพราะพี่นั่นแหละ เอาเป็นว่ากลับไปเคลียร์กันเลยนะ ฝากขอโทษพี่สะใภ้ด้วยล่ะ เด็กหญิงรีบเปิดประตูลงจากรถ

    แล้วเธอล่ะ  

    ฉันกลับเองได้ พี่รีบกลับไปง้อเมียพี่เหอะ

     แล้วฉันจะทำไงล่ะ

    ก็แค่ขอโทษ มันจะยากอะไรล่ะ

    แต่ว่า

    ตามใจพี่ก็แล้วกัน ฉันบอกได้แค่นี้แหละ แล้วจะโทรไปถามข่าวนะ บ๊าย บาย  เด็กหญิงร่างสูงพูดพร้อมปิดประตูรถลงก่อนจะกวักมือเรียกแท็กซี่กลับบ้านไป ทิ้งปัญหาไว้ให้ชายหนุ่มแก้เพียงลำพัง

    ไวกว่าที่สมองจะประมวลผลฮีชอลสตาร์ทรถแล้วกลับไปยังที่เดิม เผื่อว่าจะเจอคนตัวเล็กอีกครั้ง รถแล่นมาด้วยความเร็วสูง มือเรียวรีบกดมือถือไปหาคนที่ทำให้ใจเขาวุ่นวายก่อนที่จะพบกับปัญหาที่หนักกว่าหลายเท่า

     

    RRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     เฮ้ ทำไมรับสายช้าจริง ร่างสูงกรอกเสียงไปยังปลายสาย แต่เสียงที่ตอบกลับมาทำเอาร่างชาไปทั้งตัว

    [“  ฮึก ฮึก พี่ฮีชอล ช่วยด้วย!!!! ”]

    ฮยอกแจ นายเป็นอะไร ????? ”

    [“ พี่ฮีชอล!!!!.......... เฮ้ย!!! มันกำลังโทรศัพท์ไปแย่งมาให้ได้ ”]

     ฮยอกแจนายอยู่ไหน????

    [“ โอ๊ย!!!! อย่าทำอะไรผมเลย ”]

    ฮยอกแจ!!!!!!!!!!

     

    ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ฮยอกแจ  ฮยอกแจ !!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

    »-(¯`v´¯)-»×º°”˜`”°º×`°.•°•.*  ฉันนี่แหละ คิมฮีชอล  `°.•°•.*׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)-»

     

     

     

     

     นี่ซีวอน ไม่ยอมบอกจริงๆเหรอว่าเรื่องเมื่อแปดปีก่อนน่ะมันเกิดอะไรขึ้น อีกครั้งที่คยูฮยอนเอ่ยปากถามในสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุดตอนนี้

     เฮ้อ นี่นายจำไม่ได้สักนิดเลยรึไงนะ

    โห ใครจะจำได้ วันนึงวันนึงฉันเจอคนล้านแปดจะจำได้หมดทุกเรื่องหรือเปล่าล่ะ

    แต่คนหล่อๆอย่างฉันมีไม่กี่คนหรอกนะ นายน่าจะจำได้สิ

    ยิ่งแบบนี้นะฉันยิ่งไม่สนใจ ฉันจะจำเฉพาะคนตัวเล็กๆน่ารักๆเท่านั้นแหละ ปากก็ว่าส่วนมือก็ลูบต้นแขนตัวเองเบาๆเพราะรู้สึกถึงไอหนาวที่เข้ามาปะทะร่างกาย

    หนาวเหรอ ซีวอนถามพร้อมกับถอดเสื้อนอกออกมาคลุมให้คนตัวเล็กกว่า

     ไม่หนาวหรอกน่า ร่างบางทำท่าจะสลัดเสื้อออกแต่มือหนาก็ยังกระชับไว้เหมือนเดิม

     ใส่ไว้เถอะ  เดี๋ยวนายไม่สบายขึ้นมาจะแย่

     แล้วนายล่ะ? ”

    เป็นห่วงเหรอ

    ไม่ได้ห่วง แค่กลัวว่าถ้าหนาวตายขึ้นมา ฉันจะจัดการกับศพนายยังไงต่างหาก

    ไม่ต้องห่วง ฉันแข็งแรงพอ ดูกล้ามสิ ซีวอนเอียงแขนให้อีกฝ่ายดู

     แหวะ ฉันก็มี นี่ดูเลยๆ คยูฮยอนเมื่อเห็นดังนั้นจึงคิดจะโชว์กล้ามของตนบ้าง มือเรียวหยิบเสื้อคลุมออกก่อนจะถลกแขนเสื้อให้ซีวอนได้เห็นกล้ามเนื้อของตน ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็อดที่จะยิ้มในความอยากเอาชนะของคนตรงหน้าไม่ได้

    แต่ฉันมีซิกส์แพ็ค  ร่างสูงถลกชายเสื้อจนเห็นกล้ามที่หน้าท้องเป็นมัดๆ แน่นอนว่าคยูฮยอนก็ยังไม่ยอมแพ้เช่นกัน

    โด่ กระจอก คิดว่ามีคนเดียวรึไง ฉันก็มี นี่ดูซะ!!!!   คนตัวเล็กได้ทีเปิดเสื้อของตนขึ้นเช่นกัน แต่เพียงแค่ชั่วระยะเท่านั้น ใบหน้าหวานก็แดงด้วยสีเลือดขึ้นมาเมื่อพบว่าตนถูกลหลอกให้โชว์หน้าท้องขาวๆเข้าให้แล้ว

     

     หลอกดูหน้าอกฉันรึไง คยูฮยอนโวย

     ฉันหลอกอะไรนายอีกล่ะ

    ไม่ต้องเลย หลอกให้ฉันถลกเสื้อโชว์กล้ามไง  

    ฉันบอกให้นายทำเหรอ นายทำเองต่างหาก

    ชเวซีวอน!!!! ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุด พูดจบก็โยนเสื้อคลุมของชายหนุ่มทิ้งแล้วรีบเดินหนีไป

     คยู รอก่อนสิ

    ไม่ต้องมาเรียก โกรธแล้วด้วย คนโกหก

     ขอโทษก็ได้ นะๆๆๆ อย่าโกรธสิ

     ไปโดดแม่น้ำฮันตายซะแล้วฉันจะยกโทษให้ คยูฮยอนหันมามองตาเขียวก่อนจะหันกลับไปเดินต่อไปโดยไม่สนใจคำขอโทษของซีวอนสักนิด

    ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เวลาผ่านไปได้ไม่นานที่ร่างบางได้ยินเสียงวัตถุกระทบผิวน้ำจนทำให้เกิดเสียงดังน่ากลัว ร่างบางหันหลังกลับไปหาชายหนุ่มอีกครั้ง ภาวนาในใจไม่ให้เป็นอย่างที่ตนคิดเอาไว้

    ซีวอน …..

     

    ชเวซีวอน ไม่เล่นนะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว รีบมาสิ

     

     ซีวอน!!!!!!!!!!!!! ”

     

     

     

     

     

    …………………………..โปรดติดตามตอนต่อไป

     

     

     

    แม่ยกฮยอกชวนคุย

    มาจัดให้เต็มๆ ช่วงนี้อยากทำตัวว่าง

    จะอัพเรื่องนี้ทุกอาทิตย์ จะลงNCตอนหน้า

    #สุขสันต์วันโกหก ^^

    ปล้ำลิง.ขอบคุณน้อง
    midnight ที่บอกช่วงเวลานะคะ 
    ตกลงว่าแปดปีเท่าที่อึนรักฮีนั่นแหละค่ะ
    เดาได้ง่ายๆเลยว่าคงเป็นสถานการณ์เดียวกัน ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×