ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LAST [HyunHyuk] [WonKyu] [CinTaem]

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 : ขอโทษนะคยู

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 54


    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา 


     
          บทที่ 5 : ขอโทษนะคยู
     
     
     
    Cin-Taem
     
     
    [“  แทมิน รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน!!!! ”]
    “  แม่ฮะ อย่าเป็นอะไรนะฮะแม่ ”  เด็กชายวิ่งกระหืดกระหอบไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลนับสิบกิโล วิ่งโดยไม่สนใจเสียงแตรรถที่ดังมาจากทางด้านหลัง เด็กชายที่วิ่งไป ภาวนาถึงผู้เป็นมารดาไป เพียงสักพักที่ข้อมือเรียวถูกฉุดเอาไว้ ใบหน้าที่เจิ่งนองด้วยน้ำตาหันไปหาคนที่รั้ง นายจ้างหนุ่มดึงข้อมือเข้ามาประชิดตนเอง ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มออกไป
    “  ขึ้นรถ!!!! ”
     
    “  ฮึก ฮึก แม่ฮะ อย่าเป็นอะไรนะฮะ ” ในรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง   เด็กชายนั่งก้มหน้าสะอื้นไห้ไปตลอดทาง ฮีชอลหันมาด้วยใบหน้าหม่น มือเรียวคิดจะเอื้อมไปลูบศีรษะปลอบใจคนข้างๆ แต่ก็ชะงักเอาไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะหันกลับไปสนใจเพียงเส้นทางข้างหน้าเท่านั้น
    รถหรูวิ่งมาไม่กี่นาทีก็ถึงที่หมาย ยังไม่ทันที่รถจะจอดสนิท เด็กชายรีบกระโจนออกนอกรถอย่างรวดเร็ว สองขารีบก้าวลงจากรถ หากแต่คนที่กำลังยืนมองยังตนอย่างไม่วางตาก็ทำเอาหัวใจเด็กชายสั่นไหวได้อย่างเหลือเชื่อ
    “ แทมิน ” เสียงเรียกที่แทบจะเป็นเสียงกระซิบ ทำให้ใบหน้าหวานเหลือบไปมองชายแปลกหน้า น้ำตาบนใบหน้าของอีกฝ่ายก็ทำเอาเขาอยากร้องไห้ไปด้วยเช่นกัน ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกผูกพันกับคนแปลกหน้าคนนั้น แต่เวลามีไม่มากนัก เด็กชายรีบวิ่งเข้าไปยังห้องพักของผู้เป็นมารดาทันที
    .
    .
    .
    “  แม่ฮะ....... ” แทมินนอนกอดร่างที่ไร้วิญญาณของมารดาอยู่เช่นนั้นนานกว่าชั่วโมง จนชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่นั้นเอ่ยขึ้นมาในความเงียบ
     “  นายน่ะ... ” ยังไม่ทันพูดจบแทมินก็หันมายังร่างสูงก่อนจะยกมือขึ้นมาจุ๊ปากเบาๆ
    “  ชู่ววววว อย่าเอ็ดสิฮะ แม่นอนหลับอยู่ เดี๋ยวแม่ก็ตื่นหรอก ” พูดจบคนตัวเล็กก็หันไปกอดร่างของมารดาตนเช่นเดิม การกระทำนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหนคิมฮีชอลเคยผ่านมันมาแล้ว เขารู้จักมันดี ขายาวก้าวไปยังร่างบาง มือเรียวยกไหล่ของแทมินให้ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับตน ใบหน้าที่ไร้คราบน้ำตาในตอนแรก บัดนี้รื้นขึ้นมาด้วยหยดน้ำใสๆเต็มใบหน้า ร่างบางสะอื้นไห้ท่ามกลางความเงียบ มีเพียงอกของคิมฮีชอลที่เป็นที่กรองเก็บหยาดน้ำตาเอาไว้
    “  ฮึก ฮึก คุณฮะ ”
    “ ร้องออกมาดังๆ เท่าที่นายต้องการเลยก็ได้ ”
    “  ฮืออออออออออออออออ ” แทมินสะอื้นฮักจนหมดสติไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนอยู่ในห้องห้องหนึ่ง ซึ่งไม่ยากต่อการคาดเดา เพราะเขาคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี....ห้องพยาบาล ดวงตากลมรีสอดส่ายไปมาเพื่อหาคนที่เป็นดังนายจ้างและเพียงคนที่เดียวที่พอจะยื่นมาช่วยเหลือเขาได้ในเวลาที่ไม่มีใคร แต่ห้องที่ว่างเปล่าก็ทำให้รู้ว่า ไม่มีใครสักคนที่จะอยู่เคียงข้างตนในยามนี้อีกต่อไปแล้ว คิดดังนั้นน้ำตาที่หยุดไหลยังไม่ทันจะแห้งดีก็เอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง
    “  ฮึก ฮึก นี่ฉันหวังอะไรอยู่เหรอแทมิน ไม่มีใครอีกแล้ว ฮือออออออ แม่ฮะ.... ”
    “  ฟื้นมาก็ร้องไห้อีกแล้วรึนาย ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพยาบาลอีกครั้ง
    “  ฮึก ฮึก คุณฮะ ” แม้จะมีน้ำตา แต่เป็นน้ำตาของความดีใจที่คนที่คิดว่าจะพึ่งพาหวนคืนกลับมาให้พอมีแรงได้ต่อลมหายใจ
    “  คิดว่าฉันจะทิ้งไปแล้วล่ะสิ แค่ไปจัดการเรื่องแม่ของนายเท่านั้นเอง ” ฮีชอลเดินมานั่งข้างๆเตียงคนตัวเล็กที่สะอื้นหนักกว่าเดิมเพราะความอิ่มใจ ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงยึดติดกับผู้ชายคนนี้มากเกินกว่าที่ควรจะเป็น เขารู้สึกผูกพันทั้งๆที่ควรจะเกลียดแสนเกลียด แม้จะไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่แทมินรับรู้ได้นั่นคือ....หัวใจที่เต้นเร็วขึ้นทุกครั้งเมื่อได้อยู่เคียงข้างชายหนุ่มคนนี้
    “  ฮึก ฮึก คุณฮะ ฮืออออออออออออ ”
    .
    .
    .
    “  นายมีญาติที่ไหนอีกมั้ย ” ฮีชอลเอ่ยถาม เมื่อเห็นคนตัวเล็กหยุดสะอื้นได้สักพัก
    “ ไม่ฮะ อะ ไม่ครับ  ”
    “  พูดแบบที่นายถนัดเถอะ ”
    “ ผมไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว มีคุณตาคนนึงเคยแวะเวียนมาบ้าง แต่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร แล้วผมก็ไม่รู้จักบ้านเขาด้วย  ”
    “ นายจะเอาไงต่อไป  ”
    “  ผมคงต้องออกจากโรงเรียนแล้วจริงๆ ” คำว่าแล้วจริงๆของเด็กชายทำให้ฮีชอลติดใจอยู่ไม่น้อย
    “  ความจริงแล้วผมเรียนอยู่มัธยมปลายปีสามที่ชานเมือง แต่เพราะผู้อำนวยการจ้างวานมาผมเลยยอมออกจากที่เดิมมาเรียนที่นี่ ” แทมินชี้แจงเหมือนรู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไร
    “ มัธยมปลายปีสาม???? นายอายุ18 แล้วน่ะสิ ”
    “ ฮะ ขอโทษด้วยที่ผมโกหกคุณ ”
    “  นายไม่มีญาติที่ไหนแล้วจริงๆเหรอ ” อีกครั้งที่ชายหนุ่มย้ำถามคำถามเดิม
    “ ไม่ฮะ …. ”
    “ แล้วนาย.... ”
    “ ผมจะพาแม่กลับบ้านของเรา ”
    “ หลังจากนั้นล่ะ นายวางแผนไว้หรือเปล่า ”
    “ แผนหรือฮะ ผมวางไว้แล้ว แต่มัน แต่มันไม่เป็นอย่างที่ผมวาดฝันเอาไว้  ” เด็กหนุ่มก้มตาน้ำตาซึม
    “  นายจะกลับไปบ้าน ไม่เรียนต่อ แล้วจะทำงานอย่างนั้นล่ะสิ ”
    “ ก็คงแบบนั้นล่ะฮะ  ”
    “  แล้วจะกลับวันไหน ”
    “ คงเป็นพรุ่งนี้เช้าฮะ  ”
    “ งั้นเหรอ .... งั้นนายก็พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำอะไรอีกเยอะ ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกัน  ” พูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะหันหลังจากไป ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตาของเด็กชายที่จ้องมองจนแผ่นหลังลับจากไป
    “  ฮึก ฮึก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนอย่างฉัน  ”
    .
    .
    .
    “ เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน ” เสียงตะหวาดดังลั่นโรงพยาบาลเมื่อฮีชอลกลับมาที่โรงพยาบาลในรุ่งสางของวันต่อมา แต่ก็สายไปเสียแล้วเมื่อคนตัวเล็กได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน
    “ ออกไปแล้วค่ะ ” นางพยาบาลตัวงอเมื่อถูกชายหนุ่มโวยวายเสียงดังลั่น
    “ ผมบอกให้คุณดูแลเขาให้ดีๆ แล้วปล่อยให้หายไปอย่างนี้ได้ยังไง ”
    “ เป็นความต้องการของคนไข้ เรารั้งเขาไม่ได้ค่ะ เพราะเด็กนั่นอยากพาแม่กลับไปทำพิธีที่บ้านเกิด  ”
    “ แล้วหมอนั่นไปที่ไหน ”
    “ ซูวอนในเคียงกิโดค่ะ”
    .
    .
    .
    “ จากนี้และตลอดไป ผมจะอยู่คนเดียวให้ได้นะฮะแม่ ผมจะไม่ร้องไห้ แม่ต้องห่วงนะฮะ  ” มือเล็กวางดอกลิลลี่สีขาวที่ผู้เป็นแม่ชอบวางในหลุมดิน ก่อนที่หลุมจะถูกฝังกลบในเวลาต่อมา เด็กชายยืนถือรูปภาพของมารดาไว้แนบอกก่อนจะเดินกลับบ้านของตน
     
    “ คิดจะไปจะมาตอนไหนก็ได้อย่างนั้นใช่มั้ย ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้แทมินรีบหันกลับไปดูเพราะตนเองไม่สังเกตด้วยซ้ำว่ามีคนตามมา
    “  คุณ???? ” ดวงตารีฉายแววประหลาดใจเมื่อหันไปพบคนที่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีก และยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเมื่อพบว่าชายหนุ่มไม่ได้มาคนเดียว ดวงตาสีน้ำตาลมองชายร่างบางที่เดินมาข้างกายผู้เป็นนายจ้าง ถ้าเป็นในยามปกติแทมินต้องคิดว่านั่นคือคู่ควงของอาจารย์หนุ่ม แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้นกับชายผู้นี้
    “ ถ้าไม่ใช่ฉันนายคิดว่าเป็นใครล่ะ ” ฮีชอลตอบ
    “  ผมไม่คิดว่าคุณ.....”
    “  ฉันก็ไม่ได้คิดจะตามนายมาหรอก แต่ฉันพาคนมาพบนาย ”
    “  เห???? ”
    “ คุยกันเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะไปเดินดูรอบๆแถวนี้สักหน่อย  ” ฮีชอลหันไปบอกคนข้างๆแล้วเดินแยกตัวออกไป ร่างบางยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับแทมินอีกครั้ง แววตาคู่สวยรื้นด้วยน้ำตา ขาเรียวเดินมาพร้อมส่งสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือมายังมือคู่เล็กของแทมิน
    “  ชื่อแทมินใช่มั้ย .... พี่ชื่อฮยอกแจ ”
     
     
     
     
    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
     
     
     
    Won-Kyu
     
    “  อ๊ะ.....ซะ ซีวอน ”
    “  คยูฮยอน..... ”
    “ อื้ออออออออ พะ พอเถอะ ฉันอ๊ะ!!!!!! ” คยูฮยอนสะดุ้งโหยง เมื่อมือแกร่งจับขาเรียวของตนให้แยกจากกัน ก่อนที่ลิ้นสากจะเคลื่อนที่เข้าครอบงำแกนกลางลำตัวอย่างถือวิสาสะ
    “ ซีวอน อื้อออออออออ อะ เอาออกไป มะไหว อื้อออออ ไม่ไหวแล้ว  
    “ ขอฉันได้มั้ย คยูฮยอน?????  ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นถาม หากแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาพบเพียงใบหน้าที่แสนเย้ายวนของผู้เป็นภรรยา ใบหน้านิ่วที่แดงระเรื่อ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นทั่วใบหน้าเนียน ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปกับดวงตาที่หลับพริ้ม ซีวอนหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วจะลุกขึ้นยืน คยูฮยอนมองหน้าสามีด้วยความรู้สึกตัดพ้อเพียงแค่คิดว่าชายหนุ่มจะผละออกไป แต่เพียงไม่นานที่ทั่วทั้งใบหน้าจะแดงจัดกว่าเดิม เมื่อชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดเผยให้เห็นรูปร่างความเป็นชายสมส่วนภายใต้ใบหน้าคม ร่างบางรีบหลบหน้าแทบไม่ทันเมื่อสายตารีเหลือบไปเห็นแท่งความเป็นชายที่ขยายใหญ่พร้อมหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของตนเอง
     
     
    ******* NC อนุบาล2 ทิ้งเมล์ไว้เบ่บี๋ *******
     
     “ ฝันดีนะครับเด็กดื้อ  ” ชายหนุ่มจุมพิตบนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่หลับตาพริ้ม หน้าอกหวานกระเพื่อมขึ้นลงคงเพราะความเหนื่อยล้า มือหนากระชับผ้าห่มขึ้นปกคลุมกายร่างบาง ปิดไฟหัวเตียงและก่อนที่จะล้มตัวลงไป สายตาคมพลันเห็นรูปคนรักในกรอบรูปใบงาม ภาพถ่ายที่มีแต่รอยยิ้มของโจวคยูฮยอน ซีวอนหยิบรูปขึ้นมา แล้วกระซิบเบาๆกับคนรักของตน
    “ ฉันไม่ลืมแน่นอนคยู…..ฉันรักนายและจะรักตลอดไป  ” แม้เสียงกระซิบจะแผ่วเบาแค่ไหน แต่คนที่นอนข้างๆก็ได้ยินอย่างแจ่มชัด สามีที่ไม่เคยลืมรักแรกได้ แม้ในยามที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคืนแรกของกันและกันชายหนุ่มก็ยังเฝ้าคิดถึงเพียงคนรักผู้นั้นเพียงคนเดียว คยูฮยอนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ได้ยินเสียงสะอื้นของตน ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแล่นลึกเข้าสู่หัวใจดวงน้อย แม้จะพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยได้ความรักกลับมา อยากหายตัวไปให้ไกลๆ เมื่อแอบคิดว่าที่ถูกกอดนั้นเป็นเพียงแค่ตัวแทน ไหล่บางสั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนที่กำแพงหัวใจที่ขุ่นมัวจะทลายลง เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มเอ่ยในความมืดอีกครั้ง เสียงกระซิบที่ทำให้ชเวคยูฮยอนนอนหลับนอนตาพริ้มยิ้มทั้งน้ำตา
     
    “ ฉันขอโทษนะคยู……ที่ตอนนี้นอกจากนายแล้ว ในใจของฉันก็มีหมอนี่เข้ามาอยู่ด้วย ไม่ได้หมายความว่าจะมีใครแทนที่ใคร แต่นายคือคนที่ฉันจะรักตลอดไป และหมอนี่….ก็เช่นกัน  ”
    .
    .
    .
                                   “ อื้มมมมม คยูฮยอน….. ” ชายหนุ่มส่งเสียงครางในลำคอก่อนจะส่งมือหนาไปคว้าคนรักข้างกายมากอด แต่พบเพียงความว่างเปล่า ร่างสูงรีบดันตัวเองขึ้นมาหันซ้ายแลขวา ตะโกนร้องเรียกหา พอดีกับที่ที่กลิ่นไหม้เข้ามาถึงในห้องนอน ขายาวรีบสาวลงไปยังห้องต้นกลิ่นก็พบว่าคนตัวเล็กกำลังทอดอะไรบางอย่าง ภาพเบื้องหน้าที่คนตัวเล็กกำลังทำอาหาร แม้จะดูงุ่นง่านแต่ก็น่ารักในสายตาของซีวอน ชายหนุ่มลอบมองร่างบางที่ทำหน้ายู่ขัดใจกับอาหารในกระทะก่อนจะรีบวิ่งไปหาเมื่อคนตัวเล็กสะดุ้งโหยงจากการถูกน้ำมันกระเด็นใส่
    “ อ๊ะ…..เจ็บนะ ”
    “ เป็นอะไรมากมั้ย  ” ถามพร้อมยกมือเรียวขึ้นมาเป่าเบาๆ
    “ ซะ ซีวอน ” ร่างเพรียวมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี เพราะภาพเมื่อคืนแล่นเข้ามาใสห้วงความทรงจำอีกครั้ง
    “  ทำอะไรของนาย ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบเพราะคิดว่าคนตัวเล็กคงกำลังเขินอายอยู่เป็นแน่ แต่เสียงราบเรียบนั้นก็ทำเอาคยูฮยอนอึ้งขึ้นมาดื้อๆ
    “  ทำกับข้าวให้นายไง ”
    “ แล้วแฮมเขาทอดกันทั้งก้อนอย่างนั้นเมื่อไรล่ะ ทำไม่เป็นก็อยู่เฉยๆเถอะน่า  ”
    “ อยากทำให้นายกินบ้าง มันผิดรึไง ” เด็กหนุ่มหน้าบึ้ง แม้ซีวอนอยากจะหลุดขำแต่จำต้องนิ่งเฉยเข้าไว้เพื่อไม่ให้คยูฮยอนอายไปกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา
    “ ไม่ผิดหรอก แต่บ้านจะไหม้ไปก่อนน่ะสิ ” พูดพร้อมนำแฮมในกระทะออกมากับปิดไฟที่เตาแก๊สทันที
    “ ถ้ารู้มันยากขนาดนี้ จะไม่ทำอีกแล้วก็ได้  ” พูดจบก็เดินปึงปังออกจากห้องครัว ชายหนุ่มลอบยิ้มก่อนจะค่อยๆเดินตามหลังภรรยาออกมา เพราะรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กคงงอนเขาเข้าแล้ว
    “ งอนหรือครับ ” ชายหนุ่มโอบกอดจากทางด้านหลัง
    “ งอนแล้วเคยง้อมั้ยล่ะ ” คยูฮยอนย้อนถาม
    “ ก็ง้ออยู่นี่ไง ”
    “ แต่เมื่อกี๊พูดไม่ดีกับฉันนี่ ”
    “ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย  ”
    “ ไม่ต้องมาพูดเลย ”
    “ ไม่อยากให้พูด หรืออยากให้ทำอย่างอื่นกันนะ ” ชายหนุ่มไซ้ริมฝีปากลงบนต้นคอหอมของร่างเพรียวที่ตอนนี้อุ่นขึ้นมาเหมือนคนเป็นไข้
    “ อื้อ ไม่นะ อย่าฉวยโอกาสสิ  ”
    “ โอกาสอยู่แค่เอื้อม ถ้าไม่ฉวยเอาไว้ก็เสียดายแย่สิครับ  ”
    “ คนลามก….. ”
    “ แล้วชอบมั้ย คนลามกอย่างฉันน่ะ ” พูดจบก็เลื่อนมือขึ้นครอบครองอกอุ่นของอีกฝ่ายอย่างเบามือ
    “ อ๊ะ….. ยะ อย่าสิ ทำไมซนจริงนะนาย  ”
    “ นิดเดียวก็ไม่ได้หรือครับ ”
    “ คนบ้า….ไม่เล่นนะ ”
    “ ใครว่าเล่นล่ะ เอาจริงๆต่างหาก ”
    “ อื้อออออ ซะ ซีวอน ยะ อย่าสิ ยังไม่หายเจ็บเลยนะ ” มือเรียวจับมือหนาที่กำลังล้วงเข้าไปในขอบกางเกงของตนเอาไว้ ก่อนที่ร่างทั้งคู่จะผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงของหญิงสาวผู้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญย่างกายเข้ามา
     
     
    “ สวัสดีค่ะซีวอน…. ” หญิงผู้มาใหม่ทักทาย แต่สายตาจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้เจ้าของชื่อไม่วางตา
    “ กาฮี….. ”
     
     
     
     
    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
     
     
     
     
    Hyun-Hyuk
     
     
    “ แทมิน….  ”   ฮยอกแจเอ่ยเสียงแผ่วเบา เขาไม่ได้ตาฝาด นั่นคือน้องชายของเขา ร่างบางหันหน้าตามเด็กชายที่วิ่งผ่านไป ขาเรียวสั่นระริก หัวใจแทบจะหยุดเต้น คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ.....อีกครั้ง ก็กลับเข้ามาในชีวิตเหมือนดั่งสรรค์แกล้ง
     
    “  ฮยอกแจ ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก พร้อมกับใบหน้าที่นองด้วยน้ำตา
     
    “  คุณหนูใหญ่...... ”
     
     “  นายมาทำอะไรที่นี่  ” ฮีชอลถาม แต่ฮยอกแจกลับเลือกที่จะตั้งคำถามใหม่ซะเอง
    “ เมื่อกีนี้ ผมตาไม่ฝาดไปใช่มั้ยครับ  ”
     “  ไม่ฝาด แต่นั่นไม่ใช่น้องนาย  ”
    “ แล้วทำไม…. ”
    “ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้มั้ง ”
    “ เหมือนมาก ราวกับเป็นคนเดียวกัน ” ฮยอกแจเอ่ยเสียงสั่น
    “ ไม่คิดว่าจะได้พบนายอีก....นายไปอยู่ที่ไหน ”
    “ ผม....อยู่ไม่ไกลจากนี้หรอกครับ ” ร่างบางตอบคำถามเลี่ยงๆ ฮีชอลเองก็ไม่คิดที่จะซักถามมากไปกว่านี้เพราะคิดว่าฮยอกแจคงไม่อยากเจอกับครอบครัวของตนอีกแล้ว ถึงแม้เขาคิดเสมอว่าไม่สนิทสนมกับคนตรงหน้ามากนัก แต่คงจะเพราะสายใยบางอย่างทำให้เขาคิดถึงคนตรงหน้าอยู่เสมอๆ....เช่นเดียวกับแทมินที่เขาอยากจะทำลายด้วยมือของเขา แต่ใจที่อยากปกป้องก็มีมากเกินกว่าที่เขาจะทำร้ายเด็กคนนั้นมากไปกว่านี้ได้
    “ สบายดีใช่มั้ย ”
    “ ครับ....แล้วคุณหนูเอ่อ อาจารย์คิมล่ะครับ ”
    “ ฉันสบายดี ”
    “ เด็กคนนั้น.... ”
    “ เขาเป็นลูกจ้างของฉัน ”
    “ อ่า ... อย่างนั้นหรือครับ เด็กคนนั้นคงโชคดีมากที่มีนายจ้างดีๆอย่างอาจารย์คิม ”
    “ อาจจะโชคร้ายเสียมากกว่า ”
    “ หมายความว่า????  ” ฮยอกแจทำหน้าสงสัย แต่ฮีชอลก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
    “ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่ ”
    “ ผมพาหลานชายเจ้าของหอมาส่งโรงพยายาบาลครับ อ่า จริงด้วยสิ....ผมต้องรีบกลับหอนี่หน่า  ”
    “ ให้ฉันไปส่งมั้ย ”
    “ ไม่เป็นไรครับ  ”
    “ รับรองฉันไม่บอกใครหรอกว่านายอยู่ที่ไหน ”
    “ แต่อาจารย์มากับเด็กคนนั้นนี่ครับ ”
    “ แทมินน่ะเหรอ  ”
    “ แทมิน????....เด็กคนนั้นก็ชื่อเหมือนน้องชายผมด้วยหรือครับ  ”
    “ อืม ”
    “ ดีจังนะ รูปร่างหน้าตาแบบนั้น เหมาะกับชื่อแทมินที่สุดแล้วล่ะครับ.....แล้วอาจารย์คิมพาแทมินมาที่นี่ทำไมครับ ”
    “ เด็กนั่นมาดูแม่  ”
    “ อาจารย์ไม่ตามไปล่ะครับ ”
    “ เขาคงอยากใช้เวลาส่วนตัวน่ะ  ”
    “ นั่นสินะ ” ฮยอกแจทำท่าคิด
    “ ให้ฉันไปส่งนายเถอะ ”
    “ แต่ว่า.... ”
    “ เร็วสิ ฉันจะได้กลับมาดูน้องนาย เอ่อ...กลับมาดูเด็กนั่น ”
    “ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนด้วยครับ ” ร่างบางตอบตกลงก่อนจะเดินตามชายหนุ่มขึ้นรถไป ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นฮยอกแจคงปฏิเสธไปแล้ว แต่ในตอนนี้เขาก็หลอกตัวเองไม่ได้ว่าอยากติดต่อกับอาจารย์หนุ่มขึ้นมา ไม่ใช่เพราะจิตพิสวาทแต่เป็นเพราะเด็กคนนั้น .... แทมิน
    .
    .
    .
    “  ขอบคุณมากนะครับอาจารย์คิมที่มาส่ง ” ฮยอกแจก้มศีรษะขอบคุณ
    “ ไม่เป็นไร ”
    “ เอ่อ....ถ้าไม่รังเกียจ อาจารย์พอจะทราบเบอร์มือถือของแทมินหรือเปล่าครับ  ”
    “  หมอนั่นไม่ใช้มือถือหรอก ”
    “ คือผม.... ”
    “ อยากติดต่อกับเด็กนั่นหรือ ”
    “ ครับ ”
    “ งั้นเอาเบอร์นายมาสิ....ฉันจะจัดการให้ ”
    “ จริงหรือครับ ขอบคุณอาจารย์คิมมากนะครับ  ” ดวงตารีฉายแววดีใจ ก่อนจะบอกเบอร์มือถือของตนให้อีกฝ่ายอย่างยินดี โดยหารู้ไม่ว่าข้างๆหอพักของตนขณะนั้นมีคนหนึ่งที่ยืนที่เฝ้ามองดูด้วยอาการไม่เป็นมิตรสักเท่าไร
    .
    .
    .
    “ กับฉันล่ะผลักไสไล่ส่ง แต่กับคนอื่นหัวร่อต่อกระซิกดีจริงนะอีฮยอกแจ ” เสียงทุ้มดังผ่านมาในเงามืด ร่างบางตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะมีใครมาพบตนในยามวิกาลเช่นนี้
    “  คุณ???? ”
    “ ฉันน่ะสิ นายคิดว่าใครล่ะ  ”
    “ มีธุระอะไร ”
    “ ต้องมีธุระก่อนใช่มั้ยถึงจะมาหาได้น่ะ ”
    “ คุณรีบพูดธุระของคุณมาดีกว่า ผมมีธุระต้องทำต่อ ”
    “ ทำไมต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นด้วย  ” มือหนากระชากข้อมือเล็กเข้ามาประชิดตัว
    “ ทำไมถึงชอบใช้ความรุนแรงนักนะ....หรือเป็นนิสัยติดตัวของพวกคนรวย  ” ฮยอกแจมองตาเขม็ง ก่อนจะใช้มืออีกข้างปลดพันธนาการจากมือแกร่งออก
    “  แล้วทำไมพูดจาดีๆกับฉันบ้างไม่ได้ ทีกับไอ้คนเมื่อกี๊ยังทำท่าออดอ้อนมันอยู่เลย ”
    “ ก็เพราะคุณพูดแบบนี้ไงล่ะ อยากจะให้คนอื่นพูดดีกับตัวเอง คุณก็ต้องหัดพูดจาให้มันสุภาพกับคนอื่นเขาด้วย  ”
    “  นี่นาย!!!! ”
    “ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วผมขอตัว  ” พูดจบก็เดินหันหลังให้ ขาเรียวเดินขึ้นไปยังห้องของป้าเจ้าของบ้านพัก จัดการปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนจะกลับห้องตัวเอง แต่เพียงแค่กุญแจถูกไขออกมา ร่างบางต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมือหนาผลักให้ตนเข้ามาในห้องก่อนจะก้าวตามมาพร้อมล็อคประตูอย่างแน่นหนา
    “ คะ คุณ เข้ามาทำไม ”
    “ ก็มาทำธุระของฉันไง ” พูดพร้อมก้าวเดินเข้ามาประชิดตัวอีกฝ่าย
    “ ออกไป อย่าเข้ามานะ ”
    “ ห้ามได้ก็ห้ามไปดิ  ”
    “  บอกว่าอย่าเข้ามาไงล่ะ .... ” ฮยอกแจถอยหลังจนติดผนังห้อง ร่างบางสั่นด้วยความหวาดกลัว ฝืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เพราะไม่อยากดูสมเพชรในสายตาของคนตรงหน้า แต่ยิ่งหนี ฮยอนจุงก็ยิ่งเข้ามาใกล้ทุกทีๆ จนกระทั่งคนตัวโตล็อคตัวของฮยอกแจไว้ได้
    “ ดูซิ จะเก่งแต่ปากหรือเปล่า ”
    “ อื้อออออออ ” ฮยอกแจเบิกตากว้าง เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะวู่วามถึงเพียงนี้ มือเรียวดันอกหนาให้ออกจากตัว แต่เรี่ยวแรงทั้งหมดก็ไม่สามารถผลักฮยอนจุงให้ออกไปได้ จนเมื่อผ่านไปได้สักระยะ ชายหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกมา เพราะฮยอกแจไม่ได้ผลักไสกลับยืนแข็งเป็นหินเหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ ปล่อยให้ชายหนุ่มกระทำตามใจชอบ
    “  นาย???? ”
    “ ผมเจ็บ จนไม่รู้จะเจ็บอะไรอีกต่อไปแล้ว อยากจะทำอะไรก็เชิญ คนอย่างผมมันไม่มีค่าอยู่แล้วนี่  ” ร่างบางตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย
    “  คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรใช่มั้ย ”
    “ ผมไม่คิดหรอก...เพราะคนอย่างคุณมันทำได้ทุกอย่างที่อยากจะทำไม่ใช่รึไง  ”
    “ รู้อย่างนี้ ก็คงเตรียมใจไว้พร้อมสินะว่าตัวเองต้องเจออะไรบ้างน่ะ  ”  ไม่ทันที่จะให้ร่างบางได้ตอบอะไรกลับมา ชายหนุ่มกระชากคนตัวเล็กไปยังเตียงกว้าง ก่อนจะไซ้ใบหน้าคมลงบนซอกคอระหงส์ มือไม้ซุกซนไปทั่วร่างที่นอนแน่นิ่ง ฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความปวดร้าวไว้ภายใน แม้จะทำแกร่งเช่นนั้น แต่ทุกครั้งที่มือหนาเคลื่อนผ่านหน้าอกอิ่ม ร่างบางก็สั่นน้อยๆทุกครั้งไป
    “ อ๊ะ!!!!  ” คนตัวเล็กร้องเสียงหลง เมื่อมือเรียวกำลังจะเคลื่อนตัวไปยังขอบกางเกงของตน
    “  แน่จริงก็อดทนให้ถึงที่สุดสิฮยอกแจ”
    “ อ๊ะ.........  พะ พอเถอะ อื้ออออออออ  ” 
     
     
     
    ............................................ โปรดติดตามตอนต่อไป
     
     
    แม่ยกฮยอกชวนคุย
    ทั้งสามคู่ ไม่ดราม่าค่ะ รับรองจริงๆ
    มันจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแล้วนะคะ
    แม้ตอนนี้จะแอบมี CinHyuk เล็กๆ
    และวอนกี้ก็ขยี้กันน้อยๆ 55+
    ใครสนใจNC อนุบาลสองของวอนกี้ ก็ทิ้งเมล์ไว้
    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า
    รักคนเม้นทุกคนค่ะ
     
    ปล้ำลิง.ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะ
    ช่วงนี้งานยุ่งนิดหน่อยค่ะ เลยหายไปนาน
    ยังไงก็ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอนค่ะ
    แล้วก็ขอฝากฟิค CinHyuk WonKyu ไว้อีกเรื่องนะคะ
    เรื่องนี้ไร้ดราม่าแน่นอน

     
    HyukHolic




    โบนัสสึ





    เพราะอย่างนี้ ชเวถึงอดใจไม่ไหว....ก็กี้มันยั่ว




     

    เพิ่มเติมค่ะ

    วันนี้ส่งNC ให้ถึงเม้นที่ 32 ของตอนนี้แล้วนะคะ

    แต่เมล์นี้มีปัญหา เด้งกลับค่ะ

    รบกวนแจ้งใหมม่ด้วย ขอบคุณค่ะ

    kolli_devilgirl@hotmail.com
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×