คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : EunHae : Promise (약속) / Happy birthday My Love
Promise (약속)
Happy birthday My Love
“ เฮ้ย !!! แกสองคนเลิกทำสงครามเย็นใส่กันสักทีได้มั้ย ฉันเห็นแล้วรำคาญลูกตา” ผู้เป็นพี่ใหญ่ของบ้านพูดขึ้นด้วยความเหนื่อยใจ เพราะน้องชายที่สนิทที่สุดของเขา กับน้องชายที่สนิทที่สุดของคิมฮีชอลทำหน้าปั้นปึงใส่กันตั้งแต่วันที่ทงเฮกลับจากเมืองไทย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นตอนไปเที่ยวที่อิตาลีสองคนนี้ทำท่าว่าไปฮันนี่มูนไม่มีผิด แต่ไหงกลับเป็นแบบนี้ไปได้ ตัวเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน มื้อเช้าของวันนี้จึงเต็มไปด้วยความเงียบของผู้ที่อยากรู้เหตุการณ์ทั้งหลายที่คอยสังเกตฮยอกแจและทงเฮ
“ อ้าว ทึกกี้ แกจะว่าแบบนี้มันไม่ถูกนะ ไอ้ไก่น้องแกต่างหากที่มาทำหน้างอเป็นไก่แดดเดียวใส่น้องฉันก่อนน่ะ ” นางพญาของบ้านเอ่ยเสียงขัดใจ
“ โหย !!! น้องชายฉันมันมีเหตุผลแน่ อยู่ๆมันไม่เป็นแบบนี้หรอก ”
“ ชิ ~ น้องชายนายก็คงนิสัยเหมือนนายนั่นแหละ ” ร่างเพรียวเบ้ปาก
“ คิมฮีชอล !!! ” อีทึกมองตาขวาง
“ ปาร์ค จองซู !!!! ”
“ เอ่อ ขอโทษนะที่ขัดจังหวะการหนุงหนิงของพี่สองคนน่ะ ” ชายผู้เลี้ยงเต่าแทรกขึ้น
“ ใครหนุงใครหนิง !!! ” ทั้งสองคนตะโกนถามพร้อมกัน
“ อ่า ~ อย่าเขินน่า แค่สองคนนั่นเฉยชาใส่กันมันก็น่าอึดอัดเต็มทน แล้วทำไมพี่สองคนต้องมาทะเลาะกันด้วยล่ะ เราน่าจะมาหาทางแก้มากกว่านะ ”
“ พี่เยซอง นานๆทีจะพูดมีสาระเหมือนคนปกติทั่วไป เค้าดีใจจริงๆ ” เรียวอุคเอามือทาบทับบนหน้าอกด้วยความปลาบปลื้ม
“ งั้นสรุป แกสองคนเป็นอะไรกัน บอกฉันมาที ” ฮีชอลหันหน้ามาถามฮยอกแจที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ
“ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ฮีชอล ” ฮยอกแจส่ายหน้าปฏิเสธ
“ ไม่มีแล้วทำไมแกทำหน้าแบบนี้ล่ะ ” อีทึกที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาถามเช่นกัน
“ พี่ก็ลองถามทงเฮดูสิ ...ผมไปทำธุระก่อนนะ แล้วเจอกันที่สตูคืนนี้นะครับพี่ทึก ” พูดจบแล้วเดินยกจานข้าวเอาไปล้างและเดินออกนอกห้องไป ทิ้งให้คนที่หันเหลือมองไปตามๆกันก่อนจะค่อยๆหันมาสนใจร่างเล็กที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆฮีชอล
“ ว่าไงทงเฮ ” อีทึกถามเสียงแข็ง
“ อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้ใส่ทงเฮนะ ” ฮีชอลพูด
“ เลิกทำเหมือนหมอนี่เป็นเด็กๆได้แล้วน่า ”
“ อะไร ฉันแค่...... ” ไม่ทันที่เจ้าตัวจะพูดจบอีทึกก็ดักทางไว้ก่อน
“ นี่ฮีชอล ถ้านายยังขืนต่อล้อต่อเถียงกับฉันอีกล่ะก็คืนนี้นอนนอกห้องไปเลยนะ ” พี่ใหญ่ของบ้านพูดน้ำเสียงดุๆทำให้ฮีชอลถึงกับเงียบไปสักครู่ ก่อนจะชักสีหน้าแล้วหันไปหาน้องชายสุดที่รักของตนเอง
“ ว่าไงทงเฮ ”
“ ผมก็ไม่รู้ อยู่ๆหมอนั่นก็ไม่ยอมพูดกับผมสักคำ แถมเมื่อคืนยังไม่มาหาด้วย ”
“ เห ???? ” ผู้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นทั้งหมดทำท่ายิ้มกรุ้มกริ่ม
“ อ๊ะ... ปะ เปล่านะ นี่กำลังคิดอะไรกันอยู่ ผมแค่หมายถึงปกติหมอนั่นจะมาบอกราตรีสวัสดิ์ทุกคืน กะ....ก็เท่านั้น” เทเฮยกมือปฏิเสธพัลวัน
“ ก็ไม่มีใครว่าอะไรสักคำนี่ ” เยซองยิ้มตอบ
“ ไม่คุยด้วยแล้ว ผมไปอ่านบทต่อดีกว่า ” พูดจบก็ทำท่าจะลุกออกจากวงสนทนาแต่เสียงมีอำนาจก็ฉุดให้ร่างบางนั่งลงกับเก้าอี้ดังเดิม
“ อย่าเพิ่งไป....ฉันพอจะเดาได้แล้ว ” ฮีชอลยกยิ้มเหมือนผู้มีชัย
“ หือ ... ทำไม นายคิดอะไรออกอย่างนั้นเหรอ ” หัวหน้าวงถามด้วยความสนใจ
“ ก็หมู่นี้ทงเฮมันเอาแต่อ่านบทละคร เอะอะอะไรก็ท่องบทๆ ทวิตก็ไม่ค่อยเล่น ฮยอกมันเลยน้อยใจไง”
“ มันจะน้อยใจเรื่องอะไรล่ะพี่ ” เรียวอุคที่นั่งเป็นตัวประกอบถาม
“ แหม !!! หมอนี่ คิดตามหน่อยสิ ก็ละครที่มันจะเล่นเนี่ย เล่นคู่กับใคร ”
“ ซีวอนไง ...” เยซองโพร่งออกมา
“ เดี๋ยวแม่จับให้เต่ากิน กับไอ้ม้านั่น ปล่อยให้มันวอนคยูไป แต่เรื่องนี้มันต้องคู่กับยัยเอเรียลนั่นไง ไปไต้หวันกี่ครั้งก็มีข่าวด้วยกันทุกครั้งไม่ใช่รึไง ”
“ แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ ” ชายผู้มีลักยิ้มเอ่ยขึ้น
“
. ” ทุกคนพากันเงียบเพื่อฟังความคิดเห็นของพี่ชายคนโต
“ ถ้าฮยอกมันคิดแบบนั้นจริง มันน่าจะเป็นมาตั้งนานแล้ว แต่นี่มันเพิ่งมาแสดงอาการหลังจากที่ทงเฮกลับจากเมืองไทย เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าต้องมีอะไรเกี่ยวกับทงเฮที่ไทยแน่ๆ ”
“ ซูเปอร์ จูเนียร์ ลีดเดอร์ทึกกี้ ทึกกี้ พี่นี่สุดยอดจริงๆนะครับ ” กระรอกน้อยกลอยใจเอ่ยชื่นชมอีกครั้ง
“ หรือว่าจะเป็นเรื่องนั้น....” ทงเฮเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“ เรื่องอะไร????”
“ ช่างมันเถอะพี่ แค่เรื่องไร้สาระ วันนี้วันเกิดผมนะ แทนที่ผมจะได้แฮปปี้ แต่กลับต้องมาคิดเรื่องของหมอนั่น ช่างสิ ผมไม่สนใจแล้ว ” ทงเฮลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินเข้าห้องไป โดยไม่สนใจพวกที่เหลือเลยแม้แต่น้อย
“ ว๊า...ไปแล้วเหรอเนี่ย งั้นผมไปแต่งเพลงต่อดีกว่า ”
“ ฉันต้องไปซ้อมละครเวที งั้นไปก่อนนะ ” พี่เย่ผู้หันไปเอาดีกับการแสดงละครเวทีก็ลุกขึ้นออกจากโต๊ะไปเช่นกัน
“ เดี๋ยวฉันจะไปงีบสักพัก ” ฮีชอลบอกขณะลุกขึ้นบิดขี้เกียจสองสามรอบ
“ กินแล้วก็นอน มิน่าลงพุง ... แล้วไม่ไปฟิตเนสเพาะกล้ามอีกแล้วรึไง ” อีทึกถาม
“ ฉันก็อยากอยู่หรอกนะ แต่กลีบดอกไม้ของฉันนี่สิ บอกว่า พี่คะ ไม่เอากล้ามค่ะ แล้วจะให้ฉันทำไงได้ล่ะ ”
“ แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะอยากกล้ามโตๆไปทำไม ”
“ นายนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยนะจองซู ”
“ ทำไม ฉันไม่รู้อะไร ” อีทึกขมวดคิ้วสงสัย
“ ก็เวลาฉันกล้ามโตๆ คนเค้าจะได้เข้าใจถูกสักทีว่าซินทึก ไม่ใช่ทึกซิน ”
“ หยุดเลยนะ ถ้านายคิดแค่นั้นน่ะ ดูทงเฮดิ กล้ามมันจะโตยังไง มันก็ยังเป็นฝ่ายถูกกด ”
“ กรณีนั้นมันไม่เหมือนกัน ทงเฮน่ะหน้าออกจะหวาน นิสัยก็เบ่บี๋ มองยังไงก็เคะ ส่วนฉันนี่สิเมะชัดๆแต่ดันเกิดมาสวย ใครๆก็พลอยจะเข้าใจผิด หันซ้าย แลขวาก็มีแต่ความงามที่แต่งแต้มตั้งแต่หัวจรดเท้า พระเจ้าลูกไม่ได้ยกยอตัวเองนะ แต่ทำไมท่านช่างประทานความงามมาให้ลูกอย่างเหลือล้นเช่นนี้ คิดหนัก คิดหนักจริงๆ ”
“ ก็เป็นซะแบบนี้ จะไม่ให้คนอื่นคิดยังไง...แล้วไหนว่าไม่นับถือพระเจ้าไง ชิ~ ไปล่ะ อยู่กับนายแล้วปวดหัว ” ทึกกี้ส่ายหัวช้าๆด้วยความเอือมระอาก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไปเช่นกัน
“ กลางวันไม่ต้องอยู่กับฉัน แต่ตอนกลางคืนอย่าลืมคิดถึงกันล่ะดาร์ลิง ” ฮีชอลกระพริบตา
ใส่อีกคนที่เดินหันหลังออกไป
“ หยุดได้แล้ว เรื่องนี้มันอึนเฮ ไม่ใช่ทึกซิน หยุดพล่ามสักที ”
“ เฮ้ !!! บอกว่าซินทึกๆ พูดไม่ฟัง คืนนี้จะจัดให้หนักเลยนะ ปาร์คจองซู ”
.
.
.
ในห้องของนีโม
“ มีอะไรก็ไม่เคยจะถามฉันสักคำ ไอ้บ้า ” คนตัวเล็กโยนตุ๊กตาไก่เข้าหากำแพงก่อนจะเดินไปเก็บมันขึ้นมาแล้วกลับมานั่งรำพึงที่เตียงกว้างของตน
“ แค่ถามว่าจริงหรือเปล่า ฉันจะได้อธิบายให้ฟัง ไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็ทำหน้าบูดใส่ฉันแบบนี้ ” ทงเฮทิ้งตัวลงกับเตียงนุ่มก่อนจะหยิบมือถือของตนขึ้นมาดู
“ เรื่องอะไรฉันต้องโทรไปง้อมิทราบ ”
“ วันนี้มันวันเกิดฉันนะ ”
“ กับเอเรียลก็แค่เพื่อน นายก็เข้าใจแล้วนี่ ” ร่างบาง? ชูตุ๊กตารูปไก่ขึ้นมาบ่นต่อ
“ ทีนายกับคนอื่นฉันยังไม่ว่าอะไรเลยนะ ”
“ ใครนะบอกว่าจะรักฉัน จะเชื่อใจฉัน จะหนักแน่น ไม่หูเบา ”
“ แล้วใครกันที่บอกว่าจะมีแค่ฉันคนเดียว ”
“ ไอ้บ้า ตอนอยู่อิตาลียังกอดฉันอยู่ดีๆ แล้วไหงตอนนี้เป็นแบบนี้ล่ะ ”
“ ฮยอกแจ...นายทำเหมือนฉันจะรักคนอื่นได้ง่ายๆอย่างนั้นแหละ ” น้ำเสียงของทงเฮเริ่มสั่นเครือขึ้นมาทุกที
“ ที่ไทย ไม่มีอะไรเลยนะ ถ้านายติดใจคำว่าคิเฮ ฉันอธิบายให้ฟังได้นะ ”
“ งั้นก็อธิบายมาสิ ” เสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ยขึ้น
“ อ๊ะ... ฮยอกแจ นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร ” คนตัวเล็กรีบเด้งตัวเองขึ้นจากเตียงหนา
“ ก็มาทันตอนที่นายบ่นว่า ตอนอยู่อิตาลียังกอดฉันอยู่ดีๆนั่นแหละ ” ฮยอกแจยิ้ม
“ ออกไปเลยนะ เข้ามาทำไม ออกไปแล้วนี่ แล้วก็ไม่ต้องมายิ้มใส่เลย โกรธฉันไม่ใช่รึไง ”
“ ไม่ได้โกรธสักหน่อย แค่ไม่สบายใจนิดหน่อย ”
“ ไม่สบายใจ นายก็เอาแต่เก็บเอาไว้ ทำไมไม่ถามฉันล่ะ ”
“ แล้วนายคิดว่าฉันจะถามนายได้รึไง ” ฮยอกแจเอ่ยหน้าเศร้า
“ ทำไมล่ะ ถ้ายังคิดว่าฉันเป็นมีค่าสำหรับนาย ก็พูดออกมาสิ แสดงความเป็นเจ้าของให้คนอื่นเห็นสิ ทำไมต้องเอาแต่หนีๆๆๆๆ ฉันไม่ชอบเลยนะ”
“ ก็เรื่องนั้นมันโยงไปถึงคิบอมด้วยนี่ ฉันจะพูดอะไรกับใครได้ล่ะ ”
“ คิบอมก็ส่วนคิบอม ส่วนนายน่ะ นายน่ะ.... ” คนตัวเล็กส่งเสียงตะกุกตะกัก
“ หืม ... ฉันเป็นอะไร ” ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“ เป็นคนที่ล่องลอย ใครพูดอะไรก็เชื่อเค้าไปหมด ” ทงเฮหันหน้าออกนอกหน้าต่าง
“ ที่ทำไปน่ะก็เพราะหึงหรอกนะ ” ฮยอกแจนั่งลงใกล้ๆกับทงเฮ
“ หึงบ้าบออะไร ทำหน้าอย่างกับจะกินฉันยังไงยังงั้นไม่ใช่รึไงกัน ”
“ ขอโทษ ” มือเรียวคว้าตัวร่างบางเข้ามากอด
“ ไม่ต้องมาพูดดีเลยคนบ้า ” คนตัวเล็กยันตัวเองออกมา แต่ฮยอกแจก็ยังคงคว้าร่างบางกลับมากอดไว้เช่นเดิม
“ ทำยังไง อีทงเฮถึงจะยอมใจอ่อนกับฉันน๊า ~ ”
“ ไม่มีวันซะหรอก ”
“ ทำอย่างนี้แล้วจะหายงอนมั้ย ” พูดจบก็ขโมยจูบไปที่แก้มนวลของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ทำเอาทงเฮรีบเอามือขึ้นมาปิดหน้าไม่ทัน
“ นิสัยไม่ดี ” นีโมน้อยทำแก้มพองลมพร้อมกับเอามือเช็ดที่หน้าของตัวเอง
“ นิสัยฉันจะเสียยังไงแต่ก็รักนายคนเดียวนะ ”
“ อย่าเลย...ใครกันที่ไม่ยอมพูดกับฉันก่อนน่ะ ”
“ ก็มาพูดด้วยแล้วนี่ไง ”
“ ไม่ต้องทำปากดี แค่เรื่องที่เมืองไทยนายก็เก็บเอามาคิดมาก ”
“ ขอโทษ...”
“ นั่นน่ะ ฉันกำลังจะพูดชื่อนายด้วย แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรขึ้นมา เอลฟ์พวกนั้นก็ตะโกนซะลั่น จะให้ฉันทำยังไงล่ะ จะปฏิเสธมันก็ไม่ดี เพราะพวกนั้นก็เอาใจช่วยวงเราเหมือนกันนี่ ”
“ ฉันคงจะเห็นแก่ตัวมากไปล่ะมั้ง ที่อยากให้นายเป็นของฉันคนเดียวน่ะ ไม่อยากให้ใครเอานายไปคู่กับคนอื่นๆ ”
“ ชิ ~ นั่นมันก็แค่เหตุการณ์ภายนอกหรอก ชีวิตจริงอีทงเฮคนนี้เป็นของใคร ยังต้องให้ฉันพิสูจน์จนเหนื่อยตายไปก่อนรึไง ที่อิตาลีไม่พอใจใช่มั้ย ตอนที่ไปเมืองไทยถึงขนาดที่ฉันต้องเอาผ้าพันคอมาปิด อากาศก็ไม่ได้หนาวสักหน่อย ไม่คิดถึงใจกันเลยนะ ”
“ ก็ขอโทษอยู่นี่ไง ”
“ หึ...แล้วไหงกลับมาเร็วนักล่ะ นึกว่าจะออกจากบ้านไม่กลับมาเจอฉันอีกแล้วซะอีก ”
“ ลืมของน่ะ เลยกลับมาดู แล้วก็แวะมาห้องนี้นิดหน่อย ”
“ นี่มันก็หลายหน่อยแล้ว เชิญออกไปทำธุระของนายต่อได้แล้ว ” ทงเฮดันร่างของชายหนุ่มให้ลุกขึ้นไป
“ อืม...ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ ” ฮยอกแจยิ้มก่อนจะแสร้งลุกจากที่นอนนุ่ม และสาวเท้าเดินออกไปยังประตูห้อง แต่ความเงียบของคนที่นั่งอยู่บนเตียงทำให้เขาหันหลังกลับมามองก่อนภาพของคนตัวเล็กจะทำเอาเขาตาค้างไปเช่นกัน
“ ฮึก ฮึก คนบ้า ” ร่างบางทิ้งตัวลงเตียงหนา ซบหน้าเข้าหาหมอนใบโตสะอื้นไห้จนตัวสั่น
“ ทงเฮ....” ร่างสูงเขย่าไหล่บางเล็กน้อย
“ ฮืออออออ ไม่ต้องมาสนใจฉัน จะออกไปไหนก็ไปเลย ฮืออออออ ”
“ ฉันแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง ”
“ ฮืออออออออออ ”
“ ทงเฮอ่า ~ อย่าร้องไห้สิ วันนี้วันเกิดนายนะ ”
“ ฮือออออ ก็เพราะวันนี้วันเกิดฉัน ฮึก ฮึก ฉันเลยอยาก.... ฮืออออออออ ”
“ หืม นายอยากได้อะไร บอกฉันมาสิ ” ฮยอกแจฉุดร่างบางให้ลุกขึ้น
“ ฮึก ฮึก ฮยอกแจ ” ทงเฮซบอกหนา สะอื้นไห้ตัวโยน
“ ว่าไงครับคนดีของผม ” มือหนาลูบศีรษะนั้นแผ่วเบา
“ วันเกิดฉัน ฮึก ฮึก ฉันก็แค่อยากให้นายเอาใจ พูดกับฉันดีๆ อยู่กับฉันทั้งวัน แต่ดูสิ พอตื่นขึ้นมา นายก็ทำเย็นชาใส่ แถมยังทำท่าจะออกไปข้างนอก ฮึก ฮึก ฉันดีใจแค่ไหนที่นายหึงฉัน แต่ฉันก็กลุ้มใจที่นายไม่พูดอะไรออกมาเลย ไม่พูดด้วยซ้ำว่าสุขสันต์วันเกิด แถมเมื่อกี๊ นายยัง นายยัง ฮือออออออ ” พูดยังไม่ทันจบทงเฮก็ปล่อยโฮออมาอีกครั้ง ฮยอกแจสวมกอดร่างบางแนบแน่น ทิ้งให้ร่างบางทุบอกของตนอยู่อย่างนั้นสักพัก แล้วค่อยๆดันคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอดอย่างช้าๆ
“ ทงเฮ เมื่อคืนนายหลับสบายดีมั้ย ”
“ ใครจะไปหลับลง ”
“ เวลานอน นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไง ”
“ ระ รู้สึกอะไรล่ะ ”
“ ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ใต้หมอนบ้างรึไง ”
“ เห ???? ” ไม่ทันจะสิ้นความสงสัย มือเรียวก็รีบพลิกหมอนใบโตขึ้น ข้างใต้หมอนสีชาพบกล่องเล็กๆใบหนึ่ง ทงเฮรีบหยิบขึ้นมาดูทันที
“
”
“ นี่มัน...” ร่างบางเอ่ยขึ้น
“ ของที่ฉันจะให้นายไง ไม่เซอร์ไพรส์เลยเนอะ คนเรารึก็อุตส่าห์เอามาซ่อนไว้ คิดว่าพอนายนอนลงก็คงจะรู้สึกตัวบ้าง นี่ไม่สังเกตอะไรเลยใช่มั้ย....” ชายหนุ่มเอามือบีบจมูกรั้นๆของอีกคนไปมา
“ อื้ออออ ใครจะไปรู้ล่ะ ” ทงเฮปัดมือของฮยอกแจออก พร้อมส่งยิ้มไปที่กล่องใบจิ๋ว
“ เปิดดูสิ ” ร่างสูงเอ่ย
“ อื้อ ” ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยๆแกะกล่องนั้นออก มือเล็กหยิบเอาสร้อยคอเล็กๆเส้นหนึ่งออกมาจากกล่อง รอยยิ้มหวานถูกแต่งเติมบนใบเนียนสวยทันทีที่เห็นข้อความบนกระดาษที่แนบมากับสร้อยเส้นงาม
당신은 마음이 정말 나쁜 사람이라고 하고 싶어요.
그런데 저는 당산을 사랑해요.
“ ชอบมั้ย ”
“ .... ” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก หากแต่หยาดน้ำตาใสๆไหลอาบแก้มนวลอีกครั้ง
“ เฮ้ !!! นายไม่ชอบมันหรอกเหรอ ”
“ ปะ เปล่า ” ทงเฮเช็ดน้ำตา
“ แล้วร้องไห้อีกทำไม ”
“ ก็คนมันดีใจนี่ ฉันคิดว่านายลืมวันเกิดฉันอีกแล้ว ”
“ ฉันจะลืมวันเกิดของคนที่ฉันรักได้ยังไงล่ะ ”
“ ฮยอกแจ ”
“ หืม....”
“ สัญญานะ ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก นายต้องสัญญาว่าจะเชื่อใจฉัน ”
“ อืม....”
“ ฮยอกแจ ”
“ หืม....”
“ 날 사랑한다고 말할 줄 몰라 ”
“ 사랑해줘.”
“ 영원히 사랑해요. ”
จบแบบมึนๆ
.
.
.
.
.
.
ข้อความในกระดาษที่ฮยอกเขียนให้เฮ
당신은 마음이 정말 나쁜 사람이라고 하고 싶어요. อยากบอกว่านายใจร้ายจริงๆ
그런데 저는 당산을 사랑해요. แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รักนาย
.
.
.
ทงเฮ : 날 사랑한다고 말할 줄 몰라. ฉันไม่รู้จะบอกกับนายยังไงว่ารักนาย
ฮยอกแจ : 사랑해줘. ก็รักฉันสิ
ทงเฮ : 영원히 사랑해요. ฉันจะรักนายตลอดไป
ต่ออีกนิด
“ ว่าแต่ ฮยอกแจ นายรู้ข่าวที่เมืองไทยได้ยังไง ”
“ พี่ฮีชอลเขาเอาทวิตที่เอลฟ์ไทยส่งมาให้ดู ”
“ ภาษาไทยเนี่ยนะ ”
“ แปลเป็นภาษาอังกฤษให้เสร็จสรรพ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ”
ทางด้านของซินทึก
“ จองซูอ่า ~ เปิดประตูหน่อยสิ ”
“ ห้องนายก็มีไปนอนห้องตัวเองสิ ”
“ไม่เอา ฉันจะนอนห้องนี้ ”
“ ไปโวยที่อื่นเลยไป๊ ถ้านายไม่เอาทวิตนั่นมาให้ฮยอกดูสองคนนั่นคงเป็นแบบนั้นหรอก”
“ แต่ตอนนี้ก็แหววเหมือนเดิมแล้วนี่ เปิดประตูให้ฉันหน่อยน๊า ~ ”
약속 / 이홍기 (Hong Ki)
ฉันจะให้สัญญากับเธอว่าฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอแด่เพียงผู้เดียว
ฉันจะให้สัญญากับเธอว่าฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อโอบกอดแต่เธอ
ตั้งแต่ตื่นนอนช่วงเช้าตรู่จนกระทั่งฉันเข้านอน ฉันก็คิดถึงแต่เธอ
อย่าลืมคำว่า ‘รัก’ นะ ฉันจะรักเธอตลอดไป
ในวันที่แสงแดดร้อนแรง ฉันจะเป็นร่มเงาให้กับเธอ
ในวันที่ฝนโปรยปราย ฉันจะคอยเป็นร่มกันฝนให้กับเธอ
เมื่อใดที่เธอรู้สึกเหนื่อยล้า ฉันจะเป็นเก้าอี้เล็กๆให้เธอได้นั่งพัก
ฉันจะให้สัญญากับเธอว่าฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอแด่เพียงผู้เดียว
ฉันจะให้สัญญากับเธอว่าฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อโอบกอดแต่เธอ
ตั้งแต่ตื่นนอนช่วงเช้าตรู่จนกระทั่งฉันเข้านอน ฉันก็คิดถึงแต่เธอ
อย่าลืมคำว่า ‘รัก’ นะ ฉันจะรักเธอตลอดไป
พวกเราก็เปรียบเสมือนกาแฟและโดนัทที่คู่กัน
เธอที่คอยมอบความสุขที่แสนพิเศษให้กับฉัน
ทุกๆวัน ถ้าพลังงานได้หมดลงแสดงว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน
เธอคือสายลมของความสุขที่แสนอ่อนหวานที่เข้ามาในชีวิตฉัน
ฉันจะเก็บสะสมความรักวันล่ะนิดๆทุกๆวัน
เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกัน ฉันจะมอบมันทั้งหมดให้กับเธอ
ฉันจะให้สัญญากับเธอ ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันจะจดจำเพียงแค่เธอคนเดียว
ฉันจะให้สัญญากับเธอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันจะจดจำเพียงแค่เธอคนเดียว
ฉันจะโอบกอดเธอในอ้อมแขนฉันตลอดไป
อย่าลืมคำว่า ‘รัก’ นะ ฉันจะรักเธอตลอดไป
ใช่แล้ว A.N. JELL ทำไมฉันถึงสัญญากับเธอตรงนี้
ความรักมันไม่ใช่การแสดงมันเป็นคำที่สำคัญมาก
หัวใจของฉันที่เต้นอยู่อกข้างซ้ายมันกำลังจะบอกเธอ
ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 และขั้นที่ 4 ฉันจะค่อยๆเข้าไปเพื่ออยู่เคียงข้างเธอ
คำว่า “รอฉันนะ” ฉันไม่สามารถบอกออกไปให้เธอรับรู้ได้
ฉันจะให้สัญญากับเธอ ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันจะจดจำเพียงแค่เธอคนเดียว
ฉันจะให้สัญญากับเธอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันจะจดจำเพียงแค่เธอคนเดียว
ฉันจะโอบกอดเธอในอ้อมแขนฉันตลอดไป
อย่าลืมคำว่า ‘รัก’ นะ ฉันจะรักเธอตลอดไป
คำร้องไทย 플러이민
แปลไทยโดย Sora’s Power by http://deksearch.com
ความคิดเห็น