ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LAST [HyunHyuk] [WonKyu] [CinTaem]

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 : อย่าให้ทุกอย่างสายเกินไป 100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 54


     LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     


     

          บทที่ 8 : อย่าให้ทุกอย่างสายเกินไป


     

     

    ขอโทษที่รู้ว่ารักคุณเมื่อสายเกินไป

    ถึงแม้ว่าจะอยู่กับคุณตรงนี้ ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากำลังมีความรัก

    จนเมื่อคุณจากผมไปแล้ว ผมยังก็ไม่รู้อยู่ดีว่าผมเคยมีความรัก

    แต่ตอนนี้ หัวใจของผมกำลังเจ็บเพราะคุณ

    ผมเสียใจจริงๆที่รู้ตัวว่ารักคุณ……ช้าเกินไป

                           

     

     

    Cin-Taem      

     

     

    [ “  อาจารย์กับแทมิน เอ่อ…. ” ]

     ฉันไม่มีอะไรเกินเลยกับเด็กนั่น นายไม่ต้องกังวล

    [ “  แต่แทมินเขา….. ” ]

     อย่าห่วง หมอนั่นก็ไม่คิดอะไรกับฉันหรอก ทำไม หวงน้องชายรึไง

    [ “  การที่ได้เจอแทมินอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่ก็ถือเป็นโชคชะตาของพวกเรา ผมไม่อยากเสียแทมินไปอีกครั้ง ผมไม่อยากเห็นน้องชายร้องไห้เสียใจทุกคืน ผม …. ” ]

    แล้วไง

    [ “  เอ่อ….ผมขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้กับอาจารย์ แต่ว่า….อย่าเจอแทมินอีกได้มั้ยครับ ” ]

     แล้วทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วยล่ะ

    เอ๋??????….

    ถ้าฉันบอกว่าสนใจน้องชายคนใหม่ของนาย นายจะห้ามฉันได้อย่างนั้น????

    [ “ อาจารย์สนใจแทมินหรือครับ จริงจังหรือแค่ชั่วคราวกัน อาจารย์จะรู้มั้ยว่าน้องชายผมเสียใจแค่ไหน ตั้งแต่ครั้งที่พวกเราออกจากบ้านหลังนั้น ไม่มีคืนไหนที่แทมินจะไม่นอนร้องไห้ น้องชายที่ร่าเริงของผมกลายเป็นคนหมกตัว ถึงจะยิ้มมันก็แค่การฝืนใจ น้ำตานั่น หรือแม้แต่เสียงสะอื้นนั่น ผมไม่อยากได้ยินอีกแล้ว ถ้าอาจารย์คิดแค่เล่นๆกับแทมินล่ะก็ หยุดเถอะนะครับ ผมขอร้อง ” ]

     แล้วนายคิดว่าฉันไม่รู้สึกอย่างนั้นหรือ นายคิดว่าฉันนอนหลับอย่างสบายใจในทุกๆคืน หัวเราะได้ในทุกๆวันหลังจากที่หมอนั่นจากไปใช่มั้ย

    [ “  แต่แทมิน…….” ]

    หยุดพูดเรื่องนี้สักทีเถอะ ฉันเองก็พยายามกันตัวเองให้ห่างจากเด็กนั่น แต่ยิ่งพยายามเท่าไร ก็ยิ่งล้มเหลวมากขึ้นเท่านั้น

    [ “  อาจารย์????? ” ]

     บางทีฉันอาจจะรักหมอนั่นขึ้นมาจริงๆแล้วก็ได้

    [ “  แต่แทมินคนนี้ ไม่ใช่คนเก่า เขาเป็นคนละคนกัน อาจารย์ไม่คิดหรือว่าทำแบบนี้มันเป็นการแทนที่ ” ]

    ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ ฉันถึงต้องเจ็บปวดอยู่อย่างนี้   

     …..

     ไม่ใช่แค่พวกเราหรอกนะที่เจ็บปวด ไม่ใช่แค่ฉัน ไม่ใช่แค่นาย แต่น้องชายของนายในหัวใจของฉันกำลังร้องไห้ เขาร้องไห้ทุกครั้งที่ฉันทำไม่ดีกับหมอนั่น เราทุกคนเจ็บปวด เจ็บปวดกับความรัก…..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหรือ????

    [ “  อาจารย์????? ” ]

    แต่ไม่ต้องห่วง จากนี้ไป ฉันจะพยายามไม่ไปเจอเด็กนั่นอีกแล้ว  

    [ “  อาจารย์????? ” ]

     ขอโทษนะ ฉันคงคุยกับนายได้เท่านี้

    ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

    สิ้นเสียงสัญญาณฮยอกแจมองโทรศัพท์ในมือสักครู่ พร้อมกับรำพึงในใจ

      ฉันคงไม่ได้ตัดสินใจอะไรผิดไปหรอกนะ

    .

    .

    .

    หนึ่งเดือนต่อมา

     

     ผมไปก่อนนะฮะพี่ชาย

    อื้ม….รีบกลับนะ

    ฮะ เด็กชายโค้งลาผู้เป็นพี่ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน งานแจกใบปลิวที่หลายคนคิดว่าหมูๆแต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนทางเส้นทางแห่งนี้แม้จะมีมากมายหากแต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะสนใจรับแจกใบปลิวร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัว หลายคนที่รับไปแต่ดูเพียงครู่แล้วยัดมันลงถังขยะ แทมินได้แต่ก้มหน้าเพราะไม่อาจไปต่อว่าได้

     สามพันใบ เอาให้หมดก่อนหกโมงเย็นนะ เสียงทุ้มของผู้จัดการสาขาที่เอ่ยก่อนหน้านั้นทำเอาแทมินหน้าเสีย เพราะขณะนี้ก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว เขายังแจกได้ไม่ถึงครึ่ง

     

      เฮ้อ!!!! ทำไมไม่มีคนรับเลยนะ คนตัวเล็กบ่นอุบพร้อมเอามือซับเหงื่อบนใบหน้า ก่อนจะตกใจอย่างหนักเมื่อแหงนขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดมิดด้วยเมฆหมอกอย่างรวดเร็วและไม่นานที่ลมพายุก็พัดมาโดยไม่ทันตั้งตัว แทมินรีบเก็บใบปลิวทั้งหมดเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันที่ฝนเทลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน มือเรียวหอบกระเป๋าไว้เป็นอย่างดีด้วยเกรงว่าใบปลิวจะเปียกและเสียหาย

    แย่แล้ว!!!! คุณยุนโฮฆ่าฉันตายแน่  สองเท้ารีบวิ่งเข้าไปหลบฝนยังคอนวีเนียนใกล้ๆแต่ที่ตรงนั้นก็ถูกหลายต่อหลายคนจับจอง จนเจ้าตัวต้องวิ่งไปหลบที่อื่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนฝั่งตรงข้าม ไม่รอช้าที่แทมินจะวิ่งข้ามไปโดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเช่นกัน……..

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  

    สิ้นเสียงเบรกรถและการปะทะกันเข้าอย่างจังของสิ่งสองสิ่ง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!! มีคนถูกรถชน

     

     อ๊า ~ ทำไมเสียงดังกันจังนะ  ร่างที่นอนแน่นิ่งได้แต่คิดในใจ เขาไม่ได้เจ็บปวดหากแต่ดวงตาเริ่มพร่าเลือน น้ำสีแดงข้นไหลออกมาจากศีรษะโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก ใบปลิวยังคงลอยละล่องก่อนจะร่วงลงมากระจัดกระจายเต็มพื้น  โลกทั้งใบเริ่มมืดลง แต่เสียงหนึ่งยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ

     

    แทมิน แทมิน  

     

     

    นายอย่าเป็นอะไรนะ

     

     

     

    ฉันไม่ให้นายเป็นอะไร ฟื้นสิ ฟื้น อย่าหลับนะ อย่าหลับ ห้ามหลับเด็ดขาด

     

     

     

    เสียงเหมือนคุณเลยนะฮะ คุณ……ฮะ

     




     

    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     

     

     

     

    Won-Kyu

     

     

      อะไร???? ”

    ไอศกรีมไง อยากกินไม่ใช่หรือ  

    ใครบอก  

    นายไง

    ฉันไม่เคยบอก

    นายละเมอคืนก่อน จำไม่ได้ล่ะสิ

    จำได้เขาจะเรียกละเมอมั้ยล่ะ

     แล้วไง จะกินมั้ย เดี๋ยวละลายหมดนะ

    ฉันเพิ่งหายไข้ นายจะให้ฉันกินไอ้นี่ จนไข้ขึ้นตายไปเลยใช่มั้ย

    ไม่ใช่สักหน่อย

    ไม่ใช่อะไร รอให้ฉันตายแล้วจะหาแฟนใหม่ล่ะสิ  

    ไปกันใหญ่แล้ว ตกลงไม่กินใช่มั้ย

    กิน

    .

    .

    .

     อะไรของนาย??? ” คยูฮยอนเหลือบตามองเมื่ออยู่ๆซีวอนก็ยื่นจอยสติ๊กให้แก่ตน

    ก็เกมไง นายอยากเล่นไม่ใช่รึไง  

    เมื่อก่อนน่ะอยาก แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

      ทำไมล่ะ

    แค่เห็นหน้านายมันก็เบื่อทุกสิ่งอย่างแล้วล่ะ

    หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง

    หยุดล้อเล่นได้แล้ว ชเวซีวอน เกิดอะไรขึ้น อยู่ๆมาทำดีกับฉันทำไมหรือจะแก้ตัวที่ทิ้งให้ฉันนอนหนาวปางตายอยู่กลางไร่ พอเจอฉันก็ดีแต่ด่าเอาๆ หยุดทำแบบนี้กับฉันได้แล้ว

    ล้อเล่นที่ไหน ฉันจริงจังนะ  

    ก็แบบนี้ไงล้อเล่น พาฉันไปหาพ่อกับแม่ ซื้อไอติมให้กิน แถมยังอนุญาตให้เล่นเกมทั้งๆที่นายเอาแต่สั่งห้าม

    ฉันแค่ทำตามสิ่งที่นายอยากได้ก็เท่านั้น

    ฉันไปบอกนายเมื่อไรว่าอยากได้

    ก็ตอนที่นายเป็นไข้แล้วละเมออกมาไง

     เชอะ!!!! ก็แล้วไง ให้ฉันหมดทุกอย่างรึยังล่ะ

    อื้ม….ให้แล้ว ทุกอย่าง ที่นายขอเลย ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่ภาพความทรงจำในคืนนั้นจะย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง ภาพที่เขามั่นใจว่าคนตัวเล็กคงจำไม่ได้เป็นแน่

     

      ละเมออกมาเป็นชุดเลยนะหมอนี่  ชายหนุ่มนั่งยิ้มอยู่ข้างๆเตียง

     ซีวอน

     คราวนี้อะไรอีกล่ะ

     ฉันหนาว

     หนาวหรือครับ   มือหนากระชับผ้าห่มให้แนบกับลำตัวมากขึ้นก่อนที่ประโยคต่อมาของคนที่กำลังนอนเพ้อด้วยพิษไข้จะทำให้หัวใจของร่างสูงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ

    ฉันหนาว…..กอดฉัน….ได้มั้ย ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะโต้ตอบ มือเรียวเล็กก็กุมมือของร่างสูงไว้แน่น ก่อนที่ซีวอนกุมมือตอบ แล้วโน้มตัวลงจุมพิตคนที่นอนละเมออย่างแผ่วเบา  ความร้อนจากกายคนป่วยทำให้ชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ จนเขาต้องผละตัวออกมา นี่ถ้าหากคยูฮยอนไม่นอนซมอยู่อย่างนี้ เขาคงอดใจไม่ไหวแน่ๆ  มือหนากระซับผ้าห่มของร่างเพรียวไว้แน่นโดยที่มืออีกข้างยังคงกุมอยู่ด้วยกันเช่นนั้น ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง พร้อมกับโอบกอดคนป่วยที่หันศีรษะมาซุกแผงอกแกร่งของตนเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆที่ไร้พิษสง ใบหน้าเปื้อนยิ้มของร่างบางที่ใกล้แค่ปลายนิ้ว ก็ทำเอาเขานอนไม่หลับตลอดคืนนั้นเลยก็ว่าได้

     

      นี่ ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว คยูฮยอนเหร่ตามอง

     ยิ้มเพราะกำลังคิดถึงนายไง

    อย่ามาเลี่ยน!!!!! จะไปไหนก็รีบไปเลยปะ

     วันนี้ฉันต้องไปทำธุระที่โซลอีกแล้ว นายอยู่คนเดียวได้มั้ย ฉันจะรีบไปรีบกลับ

     ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก จะไปหาใครก็ไปเถอะ แต่ถ้าอยากเจอกันทุกวันก็ไม่ลองชวนเขามาอยู่บ้านด้วยเลยล่ะ    คยูฮยอนเบ้ปาก

     ฉันทำแบบนั้นได้จริงๆใช่มั้ย ชายหนุ่มยิ้มถาม

     นี่!!!!! ถ้าอยากนักจะทำอะไรก็เชิญ ที่นี่มันบ้านของนาย ฉันกลับไปอยู่บ้านฉันก็ได้  ร่างเพรียวตะคอกเสียงแข็งพร้อมลุกขึ้นยืนมองใบหน้าคมตรงหน้าด้วยความฉุนเฉียวก่อนจะตั้งท่าวิ่งหนีไป แต่ซีวอนก็ลุกขึ้นคว้าเอวบางมาสวมกอดไว้ทันท่วงที

    โกรธหรือ??? อย่าโกรธสิ แค่ล้อเล่นเองนะ

    ไม่ต้องมาพูดดี ปล่อยได้แล้ว คนที่ถูกกอดสะบัดเองไปมา

    ฉันมีธุระสำคัญ ไม่ได้จะไปพบผู้หญิงคนไหนสักหน่อย

    ธุระอะไรของนาย ทำไมเดี๋ยวนี้มีธุระเยอะเหลือเกิน เดี๋ยวไปเดี๋ยวไป

     เอ่อ….เรื่องงานนั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก

    ก็บอกแล้วไง นายจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอกฉัน ปล่อยได้แล้ว ฉันจะขึ้นห้อง

    ไม่บอกนายแล้วจะให้ฉันไปบอกใคร นายเป็นภรรยาฉันนะ

    ก็แล้วไง พ่อบังคับให้ฉันแต่ง ฉันไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด คยูฮยอนเอ่ยเสียงเรียบโดยที่ไม่ทันได้คิดว่าคำพูดนั้นจะทำร้ายอีกฝ่ายหรือไม่เพียงใด ซีวอนละออกจากเอวบางอย่างเชื่องช้า มองหน้าร่างบางนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา

     นาย….ขึ้นไปพักผ่อนเถอะนะ ร่างสูงเดินหันหลังออกไป คยูฮยอนมองด้วยความไม่เข้าใจ เขารู้สึกว่าไม่ควรพูดแบบนั้น ปากเรียวตั้งท่าจะเอ่ยขึ้น หากแต่ความทิฐิในใจก็ทำให้ร่างบางเดินกระแทกเท้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

     

     

     

    ทำไมต้องทำเหมือนว่าฉันเป็นคนผิด นายต่างหากที่ผิด……แค่ง้อฉันมันยากนักรึไง ฉันใกล้จะใจอ่อนอยู่แล้วนะ  

     

     

     ใช่ว่าฉันคนเดียวซะเมื่อไรที่ไม่เต็มใจที่เราต้องแต่งงานกัน  นายเองก็ไม่ชอบไม่ใช่รึไง …. แต่ไอ้นิสัยสุภาพบุรุษของนาย ทำให้นายไม่ปฏิเสธพ่อฉันใช่มั้ยล่ะ  

     

     

     แล้วทำไมต้องทำหน้าแย่ขนาดนั้นด้วย …. ทำแบบนี้กะจะโยนความผิดให้ฉันใช่มั้ยล่ะ เมินซะเถอะ ชเวซีวอน ฉันไม่ผิด นายต่างหากที่ผิด   คยูฮยอนนั่งบ่นอุบอยู่บนเตียงก่อนที่เสียงรถของผู้เป็นสามีจะสตาร์ทออกไป

     

    นี่ขนาดฉันกำลังงอนอยู่ นายก็ยังจะออกไปงั้นสิ ….. ใช่ซี่!!!! โซลมีอะไรหลายๆอย่างที่นายอยากเจอ อยากทำ อยากไปหา มันก็ไม่มีความจำเป็นที่นายจะต้องมาอยู่กับเด็กเอาแต่ใจอย่างฉันนี่ โอ๊ย!!!!!หงุดหงิดๆ น่าเบื่อชะมัด เฮ้อ!!!!  ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะล้มตัวลงกับเตียง และเพียงไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

    RRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     ลืมอะไรอีกล่ะทีนี้

     

    [ “ ซีวอน….. ” ] เสียงผู้เป็นมารดาของสามีดังขึ้นมาปลายสาย

     คะ ครับ สวัสดีครับคุณแม่

    [ “  คยูฮยอนหรือลูก ซีวอนมาโซลหรือยัง ” ]

    ครับ เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี่เอง  

    [ “  ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะผิดนัดอีกแล้ว ” ]

     ผิดนัด???? ผิดนัดอะไรครับ

    [ “ อะ เปล่าๆจ้ะ ไม่มีอะไร  แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ” ]

    ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     ผิดนัดเหรอ นัดอะไร เกี่ยวข้องกับที่หมอนั่นไปโซลบ่อยๆหรือเปล่านะ ….. หรือว่า หมอนั่น……….

     




    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     

     

     

     

    Hyun-Hyuk

     

     

     

    ถ้าเป็นไปได้…..” ฮยอนจุงเอ่ยเสียงเบา จนทำให้ร่างบางผิดสังเกต

    หืม????

    ถึงนายจะเป็นลูกจ้างที่ทั้งโหด ทั้งเค็ม เถียงฉันคำไม่ตกฟาก แต่ฉันดีใจที่มีนายมาอยู่ข้างๆนะ

    “ ….

    อย่าจากฉันไปไหน จนกว่าจะถึงตอนนั้นจะได้มั้ย  

     มะ หมายความว่ายังไง

    จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ฉันจะ…….

     ทะ ทำไมนายเป็นอะไรฮยอนจุง ฮยอกแจถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ร่างสูงหันมามองใบหน้าหวานเพียงครู่เดียวก่อนจะหันไปสนใจเส้นทางข้างหน้าดังเดิม

    มีอะไรบอกฉันมาสิ

    ไม่มีอะไรหรอก

    ไม่จริง ทั้งสีหน้า แววตาและน้ำเสียงของนายไม่ได้บอกเลยนะว่านายล้อเล่น จอดรถเดี๋ยวนี้นะ อธิบายมา ว่านายเป็นอะไร  ฮยอกแจเขย่าแขนหนาเป็นพัลวันจนชายหนุ่มต้องหยุดรถและหันมาจ้องใบหน้าหวานอีกครั้ง

    ฉันน่ะ….   ฮยอนจุงเอ่ยขึ้น

    “ ….

    ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันจนกว่า…. มือเรียวเอื้อมไปแตะไหล่คนตรงหน้า ไหล่บางที่สั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งชายหนุ่มมีใบหน้าหม่นหมองลงเท่าไร ฮยอกแจก็ยิ่งสั่นสะท้านมากขึ้นเท่านั้น ร่างบางตั้งใจฟังสิ่งที่จะหลุดออกจากปากของชายหนุ่มด้วยความตั้งใจ และภาวนาอยู่ในใจไม่ให้สิ่งที่กำลังจะได้ยินนั้นพรากใครต่อใครไปจากเขาอีกเลย

    “ ….  

     จนกว่าจะถึงวันนั้น….วันที่ฉันเบื่อนาย ฮ่าๆๆๆๆๆ พูดจบก็ก้มหน้าหัวเราะด้วยความพอใจที่หลอกให้อีกคนหน้าซีดเป็นไก่ต้มเช่นนั้นได้ ผิดกับอีกคนที่นั่งนิ่ง มือเรียวสั่นนิดๆก่อนจะค่อยๆเปิดประตูรถแล้วเดินออกไป

    ฮยอกแจ????    ร่างสูงเดินลงจากรถอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งมาคว้าข้อมือเรียวไว้แน่น

     สนุกมากมั้ย ???? ” คนตัวเล็กถามเสียงเรียบ

     นายโกรธหรือ???? ฉันแค่ล้อนายเล่นนิดเดียวเท่านั้นนะ

    ล้อเล่น??? นายคงชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นอย่างนี้เสมอสินะ

    ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่ไม่อยากให้นายเครียดก็เท่านั้น  

    แล้วตอนนี้ฉันดูเป็นไงบ้างล่ะ สนุกกับคำล้อเล่นของนายอย่างนั้นใช่มั้ย

    แล้วไง??? ฮยอนจุงกระชากฮยอกแจเข้ามาใกล้

    แล้วไง นายหมายความว่าไง แล้วไงอะไรของนาย

    นายอยากได้ยินคำว่า ฉันป่วย ใกล้ตาย ถ้าอย่างนั้นแล้ว นายจะมีความสุขมากกว่านี้ใช่มั้ย

     นายอย่าเปลี่ยนประเด็น เรื่องมันมีอยู่ว่า นายโกหกฉันเพราะความคะนองปากของนายต่างหาก

    ไม่จริง ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น หรือการที่นายทำท่าทางแบบนี้เพราะเป็นห่วงฉันอย่างนั้นน่ะสิ    ฮยอนจุงจ้องตาฮยอกแจเขม็ง

     มะ ไม่จริง ฉันไม่ได้เป็นห่วงนาย ร่างบางหลบตา

    จริง นายห่วงฉัน  

    ฉันเปล่า

    อย่าโกหกหน่อยเลย

    ไม่ได้โกหก ฉันไม่ได้ห่วงนาย ฉันแค่ห่วงตัวเอง ฉันแค่…..ฉันแค่ กลัว….. คนตัวเล็กเอ่ยเสียงสั่นนั่นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ฮยอนจุงใจเย็นลงมาได้บ้าง

     ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ทิ้งนายไปเหมือนหมอนั่นแน่ๆ มือหนาดึงลำตัวฮยอกแจมากอดไว้อย่างแผ่วเบาโดยที่เจ้าตัวเองก็มิได้ขัดขืน

     …… ”

     ฉันขอโทษ  ต่อไปฉันจะไม่แกล้งนายอย่างนี้อีกแล้ว

     ความจริง…..ฉันไม่อยากให้นายหรือคนที่อยู่กับฉันต้องมีใครเป็นอะไรไปอีกแล้ว ฉันเองถึงจะเคยเจอเรื่องราวของการสูญเสีย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เลย บ่อยครั้งที่ฉันพยายามเข้มแข็ง แต่ยิ่งทำ ใจฉันก็ยิ่งเจ็บ ฉัน….ไม่อยากอ่อนแอ อีกต่อไปแล้ว

     ฮยอกแจ…..” ฮยอนจุงดันร่างบางออกจากลำตัว

    หืม???

    ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่ดีสำหรับนาย แต่นาย…..นายไม่ต้องเข้มแข็ง นายอ่อนแอได้ นายร้องไห้ได้ ถึงตัวฉันจะดูเหมือนว่าไม่สามารถดูแลใครได้ แต่ฉัน ฉันจะคุ้มครองและโอบกอดในเวลาที่นายต้องการ  

     ฮยอนจุง ……”

    ฮยอกแจ…… ใบหน้าคมเอ่ยเสียงเบาก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาร่างบางตรงหน้า ฮยอกแจค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ

     

     พระเจ้า นี่ลูกกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเรื่องราวมันถึงลงเอยอย่างนี้ เมื่อกี๊เราทะเลาะกันอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วนี่ นี่ลูกกำลังจะถูกจูบอย่างนั้นหรือครับ

     

     

      

    ************* ต่อ 100 % *************

     

    Cin-Taem      

     

    ครั้งแรกที่ฉันชวน ดูเหมือนคุณไม่อยากมาทาน แต่ดูตอนนี้สิ มาทานทุกวันเลย นี่สี่วันแล้วนะคะ อร่อยล่ะสิ แต่ครั้งหน้าเราไปร้านอาหารฝรั่งเศสบ้างนะคะ  

    อืม ตอบออกมาเพียงสั้นๆ เพราะสายตาและความสนใจของคิมฮีชอลถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งตรึงเอาไว้ เด็กชายที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมเดือน แต่ด้วยความบังเอิญเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขามาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้และได้พบเด็กชายยืนแจกใบปลิวอยู่ฝั่งตรงข้าม เด็กชายที่ยังมีรอยยิ้มสวยงามและดวงตากลมโต แม้ในยามที่กำลังเหน็ดเหนื่อยก็ตาม

     ฮีชอลคะ คุณมองอะไรอยู่หรือเปล่าคะ อึมจองเห็นคุณเอาแต่มองไปข้างนอกบ่อยๆ หุ

     ฉันกำลังมองเด็กคนนั้นอยู่

    เด็ก? เด็กคนไหนคะ  หญิงสาวปรายตามอง ก็พบเด็กคนที่ฮีชอลเอ่ยถึง แม้อยากจะแสดงความไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้เพราะรู้ดีว่าถ้าหากโวยวายขึ้นมาเธอต้องถูกผู้ชายคนนี้ทิ้งได้อย่างง่ายดายแน่ๆ วิธีเดียวที่จะอยู่ข้างๆต่อไปได้ คือการเก็บความชิงชังไว้เพียงในใจ แต่ความอดทนก็ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเธอทั้งเอาอกเอาใจสารพัดแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย แววตาของคนตรงหน้ามีเพียงเด็กชายคนนั้นเท่านั้น

     

    ฮีชอลคะ ที่คุณมาที่นี่เพราะเด็กคนนั้นใช่มั้ย

     อืม อีกครั้งที่ชายหนุ่มยังคงตอบกลับเสียงเรียบ

     มันเป็นอะไรกับคุณ บอกอึมจองมาเดี๋ยวนี้นะ

    เขาจะเป็นอะไรกับฉันมันไม่เกี่ยวกับเธอหรอกนะ  

     ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ แต่อึมจองเป็นแฟนคุณนะ

    แฟน? เธอก็น่าจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่  

    คุณฮีชอล!!!!!            

    ฉันไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงแบบนี้ ถ้าไม่พอใจก็ออกไปซะ

    คุณมัน….. หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านความรู้สึกไม่พอใจ ขาเรียวเดินไปยังรถของตน ความโมโหยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อเธอมองรถแล้วคิดว่าทั้งๆที่ฮีชอลออกรถให้เธอแต่เขาไม่เคยคิดจะแตะมันและเธอเองก็ไม่เคยได้ย่างกายขึ้นไปนั่งบนรถของชายหนุ่มได้เลยสักหน เธอขัยรถออกไปด้วยความเร็วสูง ความอิจฉาริษยาบังเกิดขึ้นในจิตใจ แม้เด็กชายตัวเล็กจะไม่ได้ทำอะไรให้เธอ แต่แค่คิมฮีชอลให้ความสนใจมันก็มากเกินพอที่เธอจะนิ่งเฉยอยู่ได้ ดังนั้นเธอจึงขับรถกลับมาเพื่อที่จะได้กลับไปหาเด็กชาย จะคุยเรื่องอะไรหล่อนยังไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้ห่างออกไปไม่ไกลนักเด็กคนที่ว่ากำลังจะวิ่งข้ามถนน เธอมองด้วยความรู้สึกโกรธเกรี้ยวในใจอย่างคนไร้สติ

    อยากตายรึไง วิ่งมาอย่างนั้นน่ะ หญิงสาวบ่นอุบ แต่เพียงแว้บเดียวที่ความคิดชั่วร้ายผ่านเข้ามาแทนที่จะชะลอรถเธอกลับเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นและกว่าที่เธอจะได้สติกลับคืนมา ร่างของเด็กชายก็นอนราบอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน

     

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  

     ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!! มีคนถูกรถชน

     

     

    สิ้นเสียงกรีดร้องฮีชอลรีบวิ่งออกมาดูเด็กชาย ชายหนุ่มมองคนขับรถด้วยใบหน้าโกรธแค้น ก่อนจะหันมาสนใจร่างที่นอนไร้สติต่อไป

     

    แทมิน แทมิน    ฮีชอลเรียกชื่อคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

     

    นายอย่าเป็นอะไรนะ

     

    ฉันไม่ให้นายเป็นอะไร ฟื้นสิ ฟื้น อย่าหลับนะ อย่าหลับ ห้ามหลับเด็ดขาด

     

    เสียงเหมือนคุณเลยนะฮะ คุณ……ฮะ

    .

    .

    .

    สามวันต่อมา ณ โรงพยาบาลโซล

     

    อาจารย์คิม ทำไมยังไม่กลับไปอีก ฮยอกแจเอ่ยถามอาจารย์หนุ่มหลังจากที่เขารู้ข่าวและรีบมายังโรงพยาบาลเพื่อดูแลน้องชาย ฮีชอลเองก็เช่นกันเขาเฝ้าแทมินมาโดยตลอดโดยไม่ยอมห่างไปไหน

    ฉันอยากเห็นว่าเขาเป็นปกติแล้ว

    อาจารย์คิดจะทำอะไรอีก แค่นี้แทมินยังเจ็บไม่พอใช่มั้ยครับ อยากให้เขาฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าอาจารย์อย่างนั้นเหรอ  ร่างบางแกล้งเอ่ยถามแม้ว่าเขาจะรู้ดีก็ตามว่าอาจารย์คนนี้รักน้องชายเขามากแค่ไหนหลังจากที่เห็นฮีชอลหลั่งน้ำตาให้กับแทมินเมื่อสามวันก่อน

    ฉันจำได้ว่าเคยบอกกับนาย ว่าจะไม่พบแทมินอีก แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันผิดคำสัญญา ฉันขอโทษ ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าและใบหน้าที่อ่อนแรง นั่นอาจจะเพราะว่าตลอดเวลาที่แทมินเข้าโรงพยาบาล ฮีชอลไม่ได้หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะต้องคอยเฝ้าเด็กชายที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ทั้งคืน

     อาจารย์คิม…..” น้ำเสียงของร่างบางค่อยๆสงบลง พร้อมกับหัวใจที่พร้อมจะเปิดรับอีกครั้ง

     ฉันขอโอกาสอีกสักครั้งจะได้มั้ยฮยอกแจ

    ทำไมอยู่ๆถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ

    ในตอนนั้น ที่ฉันเห็นแทมินนอนอยู่บนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยเลือด หัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้น แล้วคำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวใจ ฉันจะอยู่ได้มั้ยถ้าไม่มีเด็กคนนี้ คำตอบก็คือไม่ ฉันคงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว ฉันนอนหลับแต่ไม่เคยหลับสนิท ฉันกินทั้งๆที่ไม่รู้สึกว่ามันหิว ฉันหัวเราะทั้งๆที่อยากจะร้องไห้ ฉันมีคนรักแต่ไม่เคยมีความรัก ฉันปฏิเสธแทมินแต่หัวใจของฉันกลับเรียกหาเขาทุกวันคืน ฉัน…..รักแทมิน

      ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในการกระทำมากกว่าคำพูด

    หมายความว่า …. ”

    ครับ ผมจะให้โอกาสกับอาจารย์ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะครับ ต่อไปคงไม่มีแทมินให้อาจารย์ทำร้ายได้อีกต่อไปแล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของอาจารย์ ถ้าแทมินยังคงร้องไห้อีก แม้จะต้องไปสุดขอบโลก ผมก็จะพาแทมินไป

    ขอบใจมากฮยอกแจ

     

     พี่ชาย……ฮะ   น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นมา เรียกให้คนสองคนหันไปมองคนบนเตียงพยาบาลพร้อมๆกัน ก่อนที่ฮยอกแจจะหันไปยิ้มให้กับอาจารย์หนุ่ม

    โอกาสของอาจารย์มาแล้วนะครับ พูดจบก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆด้วยหัวใจที่หวังว่าน้องชายคงจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดได้ในสักวัน

     

     

     

    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     

                      

    Won-Kyu

     

     

     ผิดนัด??? หมอนั่นไม่ไปตามนัดอะไร แล้วไปนัดใครไว้อีก

     

     ผู้หญิงงั้นเหรอ???? ”

     

    ไม่น่าจะใช่ ในเมื่อคุณแม่โทรมาเองแบบนี้ แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ  

     

     เดี๋ยวนี้หมอนั่นไปโซลบ่อยๆด้วย

     

    พอถามก็ตอบไม่ตรงคำถามบ้างล่ะ ตะกุกตะกักบ้างล่ะ แอบมีกิ๊กรึไง ….แต่หมอนั่นไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ไม่นะ ฉันไม่ได้บอกว่าหมอนั่นเป็นคนดีสักหน่อย ฉันจำผู้หญิงคนนั้นได้ดี หนอย พามาเย้ยฉันถึงบ้าน แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องผิดนัดนี้แน่ๆ  หรือนายว่าไงโจวคยูฮยอน??? ”   คยูฮยอนถามรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือตลอดทั้งวัน

     

    คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก แต่ที่แน่ๆ  มันต้องสำคัญมากแน่ๆ คุณแม่ถึงได้โทรมาย้ำ แถมทำน้ำเสียงแบบนั้น หรือว่า…….

    .

    .

    .

    กลับมาแล้วหรือ????  เด็กหนุ่มวิ่งออกไปรับสามีถึงหน้าบ้าน ทันทีที่รถจอดลง ร่างโปร่งช่วยถือกระเป๋าเอกสารในมือสามีอย่างรวดเร็วทำเอาซีวอนถึงกับออกอาการงง

    มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆถึงได้ยิ้มแย้มแบบนี้  

    โหย!!! ฉันน้อยใจนะ นายพูดเหมือนกับว่าฉันหน้าบูดใส่นายอยู่ทุกวันไปได้

    เปล่า ฉันเห็นว่านายงอนฉันอยู่ไม่ใช่รึไง

    ไม่ได้งอนสักหน่อย

    ยังไม่หายป่วยดี ออกมาทำไมล่ะ

    ฉันหายแล้ว สบายดีมากๆเลย ดูสิ ร่างเพรียวยิ้มร่าก่อนจะกระโดดโหยงๆให้สามีดูถึงความแข็งแรงของตนซึ่งก็เรียกรอยยิ้มของซีวอนได้เป็นอย่างดี

    ฉันเชื่อนาย หยุดกระโดดสักทีเถอะ ฉันเริ่มเวียนหัวแล้ว

    นะ นายปวดหัวเหรอ งั้นเรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ ทันที่ที่ร่างสูงบ่น คยูฮยอนก็หยุดกระโดดแล้วรีบจูงมือสามีเข้าไปในบ้านทันที

     

    ดื่มนี่ก่อนนะ ฉันทำเองกับมือ นายจะได้หายเหนื่อยไง คยูฮยอนยกน้ำให้สามีดื่ม ซีวอนมองหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยๆยกน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะสำลักออกมาในสัมผัสแรกที่ได้ชิม

    แค่ก แค่ก นายเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย คิดจะแก้แค้นฉันใช่มั้ยคยูฮยอน

    กะ แก้แค้นอะไร น้ำมะนาวนี่ฉันตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ ทั้งๆที่ฉันตั้งใจทำ นายดื่มเข้าไปนิดเดียวแถมยังบ้วนทิ้งแล้วยังมาบอกว่าฉันแก้แค้น นี่ฉันไม่มีอะไรดีในสายตานายเลยใช่มั้ยเนี่ย   คยูฮยอนเริ่มหน้าบูดอีกครั้ง

    ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย แต่ไอ้น้ำมะนาวของนายมันทำไมหวานอย่างนี้ล่ะ

    ก็ตอนแรกใส่มะนาวลงไปแล้วมันเปรี้ยวมาก ฉันก็เลยใส่น้ำผึ้งลงไปด้วยเผื่อมันจะหวานขึ้นมาบ้าง

     นี่เขาไม่เรียกว่าบ้างนะ มันหวานมากกกกกกกก ซีวอนลากเสียงยาว

    แต่นายเป็นสามีนะ นายจะแกล้งชมสักนิดไม่ได้รึไง ว่ามันอร่อยน่ะ

    ถ้าบอกแบบนั้น นายก็จะไม่พัฒนาอะไรเลยน่ะสิ

    ใช่สิ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในเมืองหลวงของนายนี่ ที่จะได้ทำอะไรให้นายได้ทุกอย่างน่ะ พูดจบคยูฮยอนก็กระแทกก้นลงบนโซฟาหนา ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ ทั้งๆที่เขาคิดเอาไว้ว่าจะเอาใจซีวอนให้มากเพราะซีวอนคงไม่สบาย แม่สามีถึงโทรตามเรื่องนัด แต่ที่ไหนได้ซีวอนกลับขัดใจเขาสารพัด

    งอนอีกแล้ว

    เปล่า  

    เปล่า แล้วทำไมหน้าบูดอย่างนั้น

    แล้วจะให้ฉันนั่งยิ้มให้กับคนที่ตำหนิให้กับเครื่องดื่มที่ฉันทำรึไง ฉันไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้นหรอกนะ

    ที่พูดไปไม่ได้หมายความแบบนั้น   ร่างสูงก้าวมานั่งลงข้างๆเด็กเอาแต่ใจ มือหนากุมมือภรรยาเบาๆ

    ไม่ต้องมายุ่งด้วยเลย คยูฮยอนสะบัดมือหนี แต่ร่างสูงก็คว้าเอาไว้อีกครั้ง

    ทำยังไงถึงจะหายงอนนะเด็กดื้อของฉัน…..ถ้าดื่มจนหมดแก้ว นายจะหายงอนมั้ย ซีวอนหันไปหยิบแก้วน้ำมะนาวเชื่อมของภรรยาก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว  คยูฮยอนแอบยิ้มเล็กๆแต่ก็ต้องตีหน้าบึ้งเข้าไว้ เพื่อไม่ให้สามีเห็นว่าเขาพอใจมากแค่ไหน

    อ๊ะ!!!! อื้อออออออออออ   ร่างโปร่งร้องเสียงหลงก่อนจะครางเบาๆในลำคอ เมื่ออยู่ๆสามีหนุ่มก็จับใบหน้าหวานหันกลับมาแล้วมอบจูบอันแสนดูดดื่มให้ยาวนาน ก่อนจะค่อยๆผละตัวออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะขาดลมหายใจ

    เป็นไงบ้าง….หวานมั้ยน้ำมะนาวของนาย ร่างสูงถาม

    ถามมาได้ ไม่รู้ รู้แค่หายใจไม่ออก ทำอะไรไม่บอกล่วงหน้าเลยนะ

    หืมหมายความว่าต่อไปถ้าจะจูบนาย ต้องขอนายก่อนใช่มั้ย

    ใช่ อ๊ะ!!!! ไม่ใช่ เอ้ย ใช่ เฮ้อ!!! ไม่รู้ด้วยแล้ว รู้แค่ว่านายไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลยคนผีทะเล

     ถ้าไม่ให้ยุ่งกับเมียแล้วจะให้ไปยุ่งกับใครครับ

    จะไปรู้เหรอ มีตั้งเยอะแยะนี่ เลือกเอาสักคนสิ

     เยอะแยะที่ไหน มีนายคนเดียวนะ พูดพร้อมรั้งร่างบางเข้ามาโอบกอดอีกครั้ง จมูกโด่งเป็นสันได้รูปโน้มลงสัมผัสซอกคอหอมกรุ่นหากแต่ว่าคยูฮยอนก็ดันร่างสูงเอาไว้

     เหม็น!!!! ไปอาบน้ำได้แล้ว อย่ามาเกาะแกะน่า

     ถ้าอาบน้ำแล้ว นายจะให้ใช่มั้ย

    อย่ามาโมเม อาบน้ำเสร็จก็มากินข้าวไง มั่วแล้วนะนาย

    โอเคๆ มั่วก็มั่ว งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนจะเซเล็กน้อย จนทำให้คยูฮยอนรีบลุกขึ้นมาประคองด้วยความตกใจ

    ซีวอน !!!!!  ร่างโปร่งอุทาน มือเรียวรับร่างของสามีไว้ด้วยมือไม้สันเท่า ใบหน้าซีดยิ่งกว่าชายหนุ่มหลายเท่า

    คยูฮยอน นายเป็นอะไร

    ฉะ ฉันไม่เป็นไร แล้วนายล่ะ นายเป็นอะไรไปรึเปล่า  

    ฉันไม่เป็นอะไร แค่หน้ามืดนิดหน่อยเท่านั้น

    ไม่จริง นายบ่นว่าเวียนหัว นายเซแบบนี้ แถมตอนเช้าคุณแม่ก็โทรมาถามว่านายไปตามนัดหรือเปล่า …. ซีวอน โรคนายกำเริบใช่มั้ย แล้วนายก็ต้องไปพบหมอที่โซลใช่มั้ย

    คยูฮยอน…..

    ซีวอน อย่าเป็นอะไรไปนะ ร่างบางซบลงบนอกแกร่ง ซีวอนยิ้มเล็กน้อย เขาไม่รู้จะพูดยังไงกับคนตัวเล็กที่ชอบคิดเองเออเองคนนี้ดี คนตัวเล็กที่อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าคลื่นในทะเล คนตัวเล็กที่กำลังกอดเขามือไม้สั่นเกรงว่าโรคเก่าเขาจะกำเริบ ซีวอนกำลังจะอ้าปากบอกความจริงที่ว่าเขาแค่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาไปตรวจสุขภาพประจำปี คุณแม่เลยโทรมาเร่ง ทั้งๆที่ตั้งใจอย่างนั้น แต่ซีวอนก็ลบความคิดนั้นทิ้ง ก่อนที่ความคิดใหม่ๆจะแทรกเข้ามา ความคิดที่จะสามารถพิสูจน์ความรักที่คยูฮยอนมีต่อเขาว่ามากน้อยเพียงใด

     

     

     

    LAST   รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา

     

     

     

    Hyun-Hyuk

     

     

     

    ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่ดีสำหรับนาย แต่นาย…..นายไม่ต้องเข้มแข็ง นายอ่อนแอได้ นายร้องไห้ได้ ถึงตัวฉันจะดูเหมือนว่าไม่สามารถดูแลใครได้ แต่ฉัน ฉันจะคุ้มครองและโอบกอดในเวลาที่นายต้องการ  

     ฮยอนจุง ……”

    ฮยอกแจ…… ใบหน้าคมเอ่ยเสียงเบาก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาร่างบางตรงหน้า ฮยอกแจค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ

    อื้มมมมมมมมม   คนตัวเล็กครางในลำคออย่างลืมตัว รสจูบแสนอ่อนโยนที่เขาไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานจนลืมไปแล้วว่ามันเป็นเช่นไร หากแต่วันนี้ฮยอนจุงกลับเป็นผู้มอบจูบที่เขาคิดถึงให้หวนคืนกลับมา

     

    ย็อกแจ รับทอระฉับด้วย ~  ย็อกแจรับทอระฉับด้วย  ~ รับทอระฉับซองมินด้วยน้า ~~~~

     

    เด็กเปรต โทรมาได้จังหวะจริงๆเลยนะนาย ฮยอนจุงบ่นพึมพำหลังจำใจผละจากริมฝีปากนุ่ม ฮยอกแจใบหน้าแดงจนถึงใบหูก่อนเดินปลีกตัวออกไปและหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดรับ

     

    [ “  ย็อกแจ ” ] เสียงเล็กๆเอ่ยทักทายอย่างสดใส

    ว่าไงครับกระต่ายอวบของพี่

    [ “ กลับช้าจังเลย ซองมินรอกินข้าวอยู่นะ ” ]

     เห???? ทำไมไม่กินก่อนล่ะครับ ออกจากโรงพยาบาลไม่ทันไร เดี๋ยวได้กลับเข้าไปอีกนะ

    [ “ กลัวที่ไหนกัน ซองมินนะเก่งที่สุดในโรงบานเลย คุณหมอยังชมว่าซองมินเก่งไม่กลัวเข็ม ” ]

    ครับ ซองมินน่ะเก่งที่สุด แต่ว่าทานข้าวก่อนพี่เลยนะครับ

    [ “  ย็อกแจยังทำงานไม่เสร็จหยอ ” ]

    เสร็จแล้วครับ

    [ “ งั้นก็รีบกลับมาจิ …..หรือว่ามีใครรั้งตัวเอาไว้ ” ]

     เปล่านะ

    [ “ เน่!!!! น้ำเสียงงี้มีแน่เลย พี่ชายขี้เก๊กคนนั้นป่าวฮับ ” ]

     ….”

    [ “ เงียบงี้ ใช่แน่เลย ย็อกแจนอกใจซองมินอ่ะ ” ]

    ไม่ใช่สักหน่อย พี่รักกระต่ายอวบคนเดียวนะ…..อ๊ะ ฮยอกแจร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆชายหนุ่มก็ฉวยเอาโทรศัพท์ในมือของเขาออกไปและคุยกับซองมินด้วยใบหน้าไม่พอใจ

    นี่เด็กเปรต คุยอะไรนานนักห๊ะ ฮยอกแจเป็นแฟนฉัน อย่าคุยนานฉันหึง เข้าใจมั้ย

    [ “ โหย ขี้เก๊กจริงด้วย มายุ่งไรกะมือถือย็อกแจ  ” ]

     นายต่างหากที่โทรมารบกวน

    ฮยอนจุง เอาโทรศัพท์คืนมานะ นายนี่ไม่มีมารยาทเลยรึไง !!!!

    [ “ นั่นไง ย็อกแจดุแล้ว ฉมน้ำหน้า ” ]

     เดี๋ยวเจอกันไอ้เตี้ย พูดจบฮยอนจุงก็กดวางสาย ก่อนจะกดมือถือของฮยอกแจในโหมดถ่ายรูป แล้วหันมาหาฮยอกแจที่ยืนงงอยู่ไม่ห่าง ร่างสูงรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ปลายจมูกสัมผัสลงบนแก้มของฮยอกแจเต็มแรง

    ทำอะไรของนายเนี่ย

    รอก่อนแป๊บนึง ชายหนุ่มตอบก่อนจะส่งรูปที่ถ่ายไปให้สายเรียกเข้าเมื่อสักครู่ แล้วหันมายิ้มหวานให้คนตัวเล็กข้างๆ

    อ๊ะ!!! นายส่งไปให้ใครน่ะ

    อ้วนกลมของนายไง

    อย่ามาว่าน้องชายฉันนะ

    น้องชายอะไร เด็กนั่นกะจะจีบนายชัดๆ

    จีบ??? บ้าไปแล้ว ซองมินแค่ห้าขวบเองนะ

    อีกหน่อยก็โตทันนายแล้วน่า

    กว่าซองมินจะโต ฉันก็แก่พอดีเหมือนกันแหละน่า

    ไม่รู้ล่ะ ฉันหึง  

    หึงอะไรของนาย

    ก็นายเป็นแฟนฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์หึงหรือ

    อย่ามั่วน่า ฉันเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไรกัน

    ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

     บ้าเหรอ !!!!”

     

    ย็อกแจ รับทอระฉับด้วย ~  ย็อกแจรับทอระฉับด้วย  ~ รับทอระฉับซองมินด้วยน้า ~~~~

     

     ซองมิน

    [ “ ย็อกแจ นี่มันไรกัน ทำไมให้พี่ชายขี้เก๊กหอมแก้มได้อ่ะ” ]

     เอ่อ คือว่า……”

    [ “ ไม่รู้ล่ะ รีบมาบ้านเลย นับหนึ่งถึงสามถ้ามาไม่ทันซองมินโป้ง แล้วซองมินก็จะไม่กินนมด้วย ” ]  ไม่ทันที่จะรอคำตอบเด็กชายตัวเล็กก็รีบกดมือถือลงทันที ทิ้งให้ฮยอกแจทำหน้ากลุ้มใจ ก่อนจะหันไปจ้องหน้าฮยอนจุงตาเขม็ง

    นี่นาย!!!! หาเรื่องให้ฉันอีกจนได้นะ ซองมินงอนแล้วนะ

    เด็กงอนแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย

    แป๊บที่ไหนล่ะ ซองมินลองได้เกเรขึ้นมาแล้วล่ะก็ ง้อเป็นอาทิตย์ๆเลยนะ

    งั้นรีบไปกันเลย ฮยอนจุงคว้ามือฮยอกแจเดินกลับขึ้นรถโดยทันทีทันใด

    อะไรของนาย

     ไปหาซื้อชองมาง้ออ้วนกลมไง

    ชิ ~ คิดว่าง่ายเหรอ

    งั้นนายก็ต้องช่วยคิดสิ …. เด็กนั่นชอบกินอะไร

    ขนม ของหวาน ไอศกรีม

    แต่ละอย่าง มีแต่ของที่ฉันไม่ชอบทั้งนั้นเลย

    นั่นมันเรื่องของนาย

    แต่ฮยอกแจ…..

    หืม????

    ฉันเคยแกล้งเดินไปซื้อไอติมเพราะคนคนหนึ่ง หลอกล่อเด็กคนนึงให้อ้อนพี่ชายซื้อไอติมให้  แล้วก็แกล้งทำเป็นลืมหมวกไว้กับรถขายไอติม เพื่อที่คนที่อยู่ข้างหลังฉันเขาเรียกฉันให้หันกลับไปเอาหมวก ทั้งๆที่คิดแผนเอาไว้อย่างดี พอหันกลับไปเขาคนนั้นก็หายไปซะแล้ว

    ฮยอนจุง………..

     

     

    ……………………………………………โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    แม่ยกฮยอกชวนคุย

    กลับมาแล้วค่ะ หลังจากหาย(หัว)ไปนาน

    ใกล้ปิดเทอมแล้ว คงได้อัพบ่อยขึ้น

    และเรื่องราวหลังจากนี้ก็จะมีแต่หวานกับหวานมากเท่านั้น

    โยนดราม่าทิ้งไปกับกระแสน้ำ

    หวังว่าผู้อ่านคงไม่ทิ้งกันไปไหนนะคะ

    ตอนหน้าจะตอบเม้น มีเรื่องอะไรอยากถาม

    หรือมีเรื่องอยากแนะนำ ติชม ก็ยินดีเสมอนะคะ

    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

    รักคนอ่าน ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×