ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Blood of Moonlight ราชันย์แห่งแสงจันทร์สีเลือด

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 Hero

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 58


    5


    (เซโจ)

         ผมมองดูเธอเดินเข้าไปในบ้านอย่างเงียบๆและได้แต่ถอนใจกับตัวเองที่ไม่ยอมพูดในสิ่งที่คิดออกไป เพราะผมรู้จัก
    เธอดี และรู้ว่าจะเป็นยังไง ผมรู้จักเธอดี เธอเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่เคยยอมแพ้ ไม่ชอบเดินตามใครและใช้ชีวิตอยู่
    นอกเส้นได้ขีดไว้เพราะแบบนี้ล่ะมั้ง ผมถึงชอบเธอ แต่เราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว นานจนเกินกว่าจะเป็นมากกว่า
    เพื่อน ผมคงไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ นอกจาก...
    "โชคดีนะ เฌอเบล"

        เมื่อกลับถึงบ้าน ผมทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า ก่อนที่เจ้าเหมียวชิพเปอร์จะค่อยๆเดินมานอนข้างๆผม
    มันเป็นแมวเปอร์เซียสีขาวขนพองน่ารัก และเป็นแมวที่ฉลาดมาก แต่ถึงจะฉลาดยังไง มันก็พูดกับผมไม่ได้อยู่ดีล่ะนะ
    "วันนี้เหนื่อยจังเลยชิพ แกเป็นไงบ้าง?" เจ้าแมวน้อยทำหน้าหงอยๆ ก่อนจะเลียเท้าของตัวเองไปพราง 
    ดูเหมือนการคุยกับแมวจะกลายเป็นงานอดิเรกของผมไปซะแล้ว
    "แกรู้ไหม วันนี้มีคนมาช่วยเจ้าสาวของฉันด้วย หมอนั่นเป็นใครก็ไม่รู้สินะ แต่มาแย่งบทพระเอกของฉันไปเฉยเลย"
    เหมี๊ยวววว...วววว เจ้าแมวย่องเข้ามาคลอเคลียเหมือนจะปลอบใจ 
    "ขอบใจนะชิพ" ผมพูดพรางลูบหัวมันเบาๆ 

    วันก่อน

         ผมตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนด้วยรถซุปเปอร์โฟคันโปรดของผม ทุกวันผมจะขับอ้อมจากบ้านตัวเองเพื่อให้ไปผ่าน
    ป้ายรถเมล์ที่เฌอเบลขึ้นอยู่ประจำ ทุกวันเธอจะมารอรถช้ากว่าเวลาที่รถมาทุกทีและนั่นก็เป็นโอกาสของผม
    "นั่นคิดจะไปไหนน่ะ ?" ผมทักเธอ ขณะที่เธอกำลังหัวเสียกับรถที่เพิ่งออกไป
    "กลับบ้าน" เธอตอบห้วนๆ
    "คราวที่แล้วก็โดดซ้อม วันนี้ฉันไม่ยอมเธอแล้วนะ" ว่าแล้วผมก็คว้ามือของเธอเอาไว้
    "ขึนรถ!" เมื่อจนต่อสถานการณ์เธอจึงยอมซ้อนรถผมไปโดยดี

        นั่นเป็นเรื่องนึงที่ผมตั้งใจทำโดยที่เธอไม่รู้ตัว ผมชอบที่จะคอยดูแลเธอ แม้จะรู้ว่าเธอไม่ชอบให้คนมาจู้จี้ก็ตาม แต่ผม
    ก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ผมจะทำให้เธอยิ้มและมีความสุข และจะเป็นแบบนี้ไปตลอด

        หลังจากเราไปถึงที่โรงเรียน ตอนเย็นที่เราซ้อมดนตรีกัน จู่ๆก็มีคนปาไข่ใส่เธอ ผมพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ผู้ชายผม
    สีเงินคนนั้นก็เข้ามาซะก่อน ผมจึงเก็บผ้าเช็ดหน้านั้นไว้ในกระเป๋าก่อนจะแอบไปรอเธอที่หลังเวที โดยมีเรนคนเดียว
    ที่สังเกตเห็นว่าผมหายไป ผมไปแอบนั่งรออยู่นาน สักพักก็ได้ยินเสียงคนเข้ามา
    "เฮ้ๆ อย่ามองข้าแบบนั้นสิ ข้าช่วยเจ้าไว้นะ" 
    "ยังจะมาพูดมากอีก นายมาที่นี่ได้ยังไงกัน?! ใครใช้ให้นายมาวุ่นวายกับฉันมิทราบ!"
    "ทำไมนายต้องมาช่วยฉันด้วย?"
    "เพราะต่อไป เจ้าจะต้องตอบแทนข้ายังไงล่ะ?" หลังจากประโยคนั้น เฌอเบลก็เงียบไปและเสียงผู้ชายคนนั้น
    ก็เงียบหายไปเช่นกัน ผมเดาว่าเขาคงจะออกไปแล้ว ผมจึงเดินเข้าไปหาเฌอเบลเป็นจังหวะเดียวกับทีคนอื่นๆกำลัง
    วิ่งตามเข้ามาเช่นกัน
    "ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ เธอนี่มันจริงๆเลย" 
    "พอได้แล้วน่ะ ทำเหมือนฉันเป็นเด็กไปได้" 
    "เอาผ้านี่ไปใช้ก่อนสิ" ผมยื่นผ้าที่เก็บไว้ในกระเป็าให้เธอ
    "..."
    "มันเปื้อนไข่เหม็นคาวจากหัวเธอนะ เอาไปซักแล้วมาคืนฉันด้วยล่ะ มันเป็นของแฟนคลับฉันน่ะ" ผมแกล้งพูดยั่ว
    ให้เธอหัวเราะ เพราะอย่างน้อยมุขฝืดของผมก็ทำให้เธอยิ้มได้

         หลังจากนั้น เธอก็ไปอาบน้ำเพื่อล้างกลิ่นคาว ผมเลยไปรอเธออยู่ข้างนอกแต่ตอนนั้นผมเห็นผู้ชายคนนึง ท่าทาง
    แปลกๆกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมจึงเดินตามเข้าไปแต่พอเข้าไปแล้วกลับไม่มีใครอยู่ที่นั่น นอกจากเฌอเบล
    "นี่มันยังไม่ทันข้ามวันเลยนะ อีกอย่าง...ฉันก็ไม่รู้ว่านายต้องการให้ฉันช่วยอะไร" เสียงเฌอเบลโวยวายดังออกมาจาก
    ห้องอาบน้ำ ผมได้แต่ยืนฟังโดยไม่ตอบอะไร จนกระทั่งเธออกมาและเห็นว่าเป็นผมยืนอยู่ตรงหน้า ผมรู้ได้ทันทีเลยว่า
    เธอไม่คิดว่าคนที่รออยู่จะเป็นผม 
    "เซโจ?"
    "นึกว่าแอบไปนั่งร้องไห้ที่ไหนซะอีก"
    "ฉันเนี่ยนะ ร้องไห้ อย่ามาพูดให้ขำนะ" 
    "เดี๋ยว รอด้วยสิ"

         ผมชวนเธอกลับบ้านด้วยกันระหว่างนั้น ผมเห็นท่าทางของเธอแปลกไป เธอดูเศร้าๆ และเย็นชากว่าที่เคย
    สายตาเธอเหม่อลอย เหมือนกำลังคิดเรื่องเศร้าๆอยู่ บางทีเธออาจจะกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ก็เป็นได้
    ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นอะไร ผมก็ยังอยากให้เธอยิ้ม
    "..."
    "โอเครึเปล่า?"
    "อืม แค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ"
    "เธอดูเหนื่อยๆนะ...เอางี้ไหม เธอเลี้ยงข้าวฉันสิ จะได้อารมณ์ดีขึ้นไง"
    "เฮอะๆ นายนี่มันจริงๆเลยนะ" เธอหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถ

         ความจริงผมก็อยากให้ทุกวันเป็นแบบนี้ ผมชอบเวลาที่ได้อยู่กับเธอ เหมือนผมได้เข้าไปในอีกโลกนึง
    โลกที่เป็นอิสระ มีคนมากมายสงสัยกันว่าทำไมผมถึงพาเธอมาร่วมวง ไม่ใช่เพราะผมชอบเธอหรอกนะ แต่เพราะสายตา
    ที่มุ่งมั่นของเธอ ตอนที่เข้ามาออดิชั่น ทำให้เราทุกคนเลือกเธอ และเธอก็ทำได้ดีเหมือนที่เราคาดไว้...เพราะงั้นมัน
    คงไม่ดีแน่ ถ้าผมจะทำลายทุกอย่างด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ ผมจึงตัดสินใจไม่บอกเธอ แต่ผมจะอยู่ข้างเธอตลอดไป

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×