ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Blood of Moonlight ราชันย์แห่งแสงจันทร์สีเลือด

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 Silver Fox

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 60



    4

     

         หลังจากนายจิ้งจอกป่านั่นหายไป ฉันก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว ทุกอย่างรอบตัวดูแปลกไป และกลับสู่ความมืดอีกครั้ง ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นและพบว่าฉันยังคงนอนอยู่ที่เดิม ที่โต๊ะหนังสือในห้องของฉันเอง นี่ฉันฝันไปจริงๆเหรอ แค่ฝันเท่านั้นเองเหรอ
    ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆห้องที่ว่างเปล่า ก่อนจะถอนใจออกมา ฉันลุกจากเก้าอี้และเดินออกไปยืนมองที่นอกหน้าต่าง ฟ้าใกล้จะสางแล้ว แสงจันทร์กำลังจะลับหายไป หนังสือนั้นยังวางอยู่บนโต๊ะ และเต็มไปด้วยรอยขาดรุ่งริ่ง ยังไงซะ มันก็เป็นแค่หนังสือ ฉันคงแค่ฝันไปเท่านั้น ฉันปลอบใจตัวเอง

         เช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ ฉันสวมเสื้อนักเรียนแขนยาวตัวหลวมกับกระโปรงลายสก๊อตสีแดง และรองเท้าผ้าใบสีขาว ก่อนจะคว้าเป้ประจำตัวและเดินออกไปที่ป้ายรถเมล์
    "..." ผ่านไปเกือบสิบนาที ยังไม่มีวี่แววของรถประจำที่ฉันนั่งไปโรงเรียนจะผ่านมาสักคัน ฉันนั่งถอนใจอย่างเบื่อหน่าย
    และเริ่มคิดที่จะเดินกลับไปที่บ้าน
    "นั่นเธอคิดจะไปไหน น่ะ?"
    "กลับบ้าน" ฉันตอบห้วนๆ
    "คราวที่แล้วก็โดดซ้อม วันนี้ฉันไม่ยอมเธอแล้วนะ" ว่าแล้วเขาก็คว้ามือฉันไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
    "ขึ้นรถ!" เขาดึงให้ฉันไปนั่งซ้อนท้ายรถซุปเปอร์โฟสีน้ำเงินขาวของเขา ก่อนจะออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้จะซื่งไปทำไม
    โรงเรียนมันไม่หนีไปไหนหรอกนะ อีกอย่างยิ่งถึงช้าเท่าไรก็ยิ่งมีเวลาอยู่กับเรื่องน่าเบื่อน้อยลงเท่านั้น...

         เมื่อถึงที่หมายเรียบร้อย ฉันถึงกับถอนใจเฮือกเพราะนี่มันยังไม่ถึงเวลาเรียนวิชาแรกเลยด้วยซ้ำ คิดวาจะมาให้ช้าสักครึ่งชั่วโมง เพราะตาบ้านี่คนเดียวเลยจริงๆ น่ารำคาญ
    "ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ เย็นนี้เธอต้องอยู่ซ้อมร้องเพลงด้วย เข้าใจ๋?" เซโจพูดเสียงสูงเล็กๆก่อนจะเดินนำเข้าไปก่อน หนอยแน่ะ คิดว่าเป็นหัวหน้าวงแล้วฉันจะต้องยอมทำตามนายอย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะย่ะ...ในโลกเนี้ยไม่มีใครบังคับฉันได้หรอกน่ะ 

    หลังเลิกเรียน
         one two three...let's go ตึง ตึง ตึง! เสียงจังหวะกลองส่งสัญญาณเป็นจังหวะ ก่อนนักร้องจะเปล่งเสียงอันทรงพลังสะกดคนที่มาชมการซ้อมในวันนี้ เหล่าบรรดาสาวๆที่ยืนล้อมอยู่หน้าเวทีแทบจะละลายกองเป็นเถ้าธถรีอยู่ตรงนั้น เมื่อเซโจ เริ่มร้องเพลง ไม่มีใครคิดจะสนใจฉันเลยสักนิด ก็แหงล่ะ...ฉันมันไม่ใช่ผู้ชายนี่นา ชิ ฉันเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะตีกลองต่อไป ฉันเป็นมือกลองประจำวง 'Z-Screem' วงร๊อคชื่อดังของโรงเรียนแห่งนี้ สมาชิกในวงของเรามีสี่คน
         คนแรกคือ เซโจ หนุ่มผู้มากความสามารถ เขาทั้งเรียนเก่ง เป้นนักบาสของโรงเรียนและเป็นคนที่มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ เมื่อไรที่เขายิ้มให้ใครแล้ว คนๆนั้นจะเหมือนถูกมนต์สะกด แต่ฉันเป็นคนเดียวที่ไม่เคยหลงคารมหมอนั่นเลยสักครั้ง เพราะอย่างนั้นเราถึงเป็นเพื่อนกันได้ ต่อมาคือ ชิโรมิ คานาตะ เรามักเรียกเขาว่า ชิโร่ ซึ่งเหมือนชื่อสุนัขมากเพราะเขาก็ชอบทำตัวแบบนั้น เขาเป็นมือเบสที่คอยเรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้กัน และคนที่สาม นางามิ เรน ชายผู้มีบุคคลิกเปรียบดั่งเทพบุตร
    ทั้งใบหน้า รูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนกับเจ้าชายที่สง่างาม แต่ลึกๆแล้วเขาเป็นจอมวายร้ายและเจ้าชู้มาก และเขาก็เป็นมือกีต้าร์ของวงเรา ส่วนคนสุดท้ายฉันเอง ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งรูปร่าง หน้าตาล้วนแต่ธรรมดา ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ทำให้กลุ่มพวกผู้หญิงมักจะมองฉันด้วยสายตาอาฆาตและอิจฉาตาร้อนทุกทีที่เห็นฉันร่วมแสดงกับวง Z-Screem 
    "ดูยัยนั่นสิ คงจะระรื่นน่าดูได้ยืนใกล้ๆกับเรนของฉัน"
    "น่าหมันไส้"
    "ไม่รู้ทำไมรุ่นพี่ถึงเอาคนแบบนั้นไปร่วมวงนะ..."
         เสียงนินทาที่ฉันฟังไม่ได้ยินแต่จากการมองด้วยสายตาฉันก็รู้ได้ทันทีว่า ยัยกลุ่มแม่มดนั่นไม่ได้พูดถึงฉันในแง่ดีแน่ๆแต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะสนใจอยู่แล้ว ถึงใครจะทำอะไรฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะโลกนี้มันน่าเบื่อน่ะสิ...

         เมื่อจบการแสดง เซโจ เรนและชิโร่ต่างเดินไปที่หน้าเวทีเพื่อรับดอกไม้จากสาวๆที่มารอดูพวกเขา ฉันได้แต่ยืนมองอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะคิดที่จะหันหลังเดินกลับไปหลังเวที แต่จู่ๆก็มีเสียงของใครคนนึงหยุดฉันเอาไว้
    "คุณเฌอเบล...กรุณามารับดอกไม้จากผมด้วยครับ"
    "...?" ฉันถึงกับยืนอึ้ง เพราะผู้ชายคนนึงกำลังถือช่อดอกลิลลี่สีขาวปีนขึ้นมาจากหน้าเวทีแล้วมาหยุดยืนที่ฉัน เส้นผมสีเงินถูกปิดไว้ใต้หมวกแก๊บฟร้อมกับสวมแว่นตาดำ เหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการให้ใครเห็นหน้าตาของเขา แต่ยังไงฉันก็ยังรู้สึกคุ้นตากับรอยยิ้มนั่น 
    "ให้คุณครับ" เขายื่นดอกไม้ให้ฉัน พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ฉัน
    "ขะ ขอบใจ" ฉันรับดอกไม้นั่นมาอย่างเกร็งๆ ท่ามกลางสายตาของบรรดาแม่ยกที่ส่งสายตาร้อนวูบวาบมาให้ฉัน พร้อมกับส่งเสียงซุบซิบนินทาไม่หยุดปาก
    "ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน?"
    "ดูท่าทางจะหน้าตาดีนะเธอ"
    "รู้จักกับยัยเป็ดขี้เหร่นั่นด้วยเหรอ?"
    "น่าเสียดายเนอะ..."
         ไม่เว้นแม้แต่พวกเซโจ ก็ยังยืนงงอยู่เพราะไม่เคยมีใครเอาดอกไม้ให้ฉันเลยสักครั้ง โดยเฉพาะผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้แล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากๆเลยทีเดียว 
    "ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องดนตรีสักเท่าไร แต่เธอทำได้ดีมาก ทำต่อไปนะ" หมอนั่นยิ้มและเดินหันหลังใหห้ฉันและตอนนั้นเอง ที่ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังลอยเข้ามาปะทะที่ใบหน้าของฉัน
    แปะ!!! กลิ่นคาวของไข่ฟุ้งทั่วใบหน้าของฉัน ฉันค่อยๆปล่อยมือจากดอกไม้และปาดเศษไข่ดิบนั้นออกจากหัวของตัวเอง ทว่าหลังจากนั้นยังมีคนปาข้าวของมากมายใส่ฉันแต่นายคนนั้นก็เข้ามาขวางไว้และรับสิ่งเหล่านั้นแทนฉัน
    "นะ นี่นาย"
    "คอยหลบหลังฉันไว้นะ" เขาพูดก่อจะเดินฝ่าไปหากลุ่มคนที่ปาข้าวของใส่ฉัน
    "พวกเธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงทำกับเขาแบบนั้น มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายผู้หญิงคนนี้ด้วย เพราะอิจฉาริษยาที่ตัวเองเป็นไม่ได้อย่างเขางั้นเหรอ ลองมองดูตัวเองบ้างนะ ว่ามันน่าสมเพสแค่ไหน!"
    "อะไรวะ อยากทำตัวเป็นพระเอกนักรึไง?" ชายคนหนึ่งเดินแหวกกลุ่มพวกผู้หญิงออกมา ท่าทางเขาคิดจะหาเรื่องนายคนสวมแว่นดำนั่น
    "ตาบอดรึไง สวมแว่นตาทำไมไอ้หน้าจืด"
    "..." หมอนั่นไม่พูดอะไร แต่กลับถอดแว่นออก และมองกลับไปยังชายคนั้นด้วยสายตาเอาเรื่อง
    "มองหน้า อยากมีเรื่องรึไงวะ?!!!"
    "กำลังอยากเล่นสนุกอยู่พอดีเลย หึหึ" 
    "วอนหาเรื่องเองนะแก!!!"  ทันทีที่ชายจิ๊กโก๋คนนั้นจะซัดหมัดเข้าหน้าของนายหัวเงินคนนั้น เขาก็หลบได้อย่างฉิวเฉียดและสกัดขาจนหมอนั่นล้มหน้าคะมำ แต่เพราะกลัวจะเสียฟอร์มทำให้เขาลุกขึ้นมาอีกครั้ง และวิ่งตรงเข้าหาชายผมสีเงินคนนั้นในทันที แต่ผลก็เหมือนเดิม เขาหลบได้เหมือนกับรู้ตัวอยู่ก่อนแล้วอย่างนั้นล่ะ นายขาโจ๋นั้นถูกชกกลับจนล้มหงายไม่เป็นท่า คราวนี้ถึงกับสลบไปเลย
    "ลุกขึ้นมาก่อนสิ เหงื่อฉันยังไม่ออกเลยนะ" เขาพูดพรางแค่นหัวเราะ และมองคนที่สลบอยู่ตรงนั้นก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน
    "..." 
    "มีใครอยากลองดีอีกไหม?" ไม่มีเสียงตอบใดๆ ทุกคนต่างพากันมองหน้ากันแล้วมองกลับไปที่นายคนนั้นเหมือนกับเขาเป็นตัวประหลาด ก่อนจะทำท่าหวาดกลัว
    "ต่อไปนี้...ใครที่คิดจะทำร้ายเธอ คือเป็นศัตรูกับฉันและคนที่เป็นศัตรูกับฉัน ก็จะต้องถูกลงโทษแบบหมอนี่ เข้าใจไหม?!!!!"
    พวกนั้นพากันพยักหน้า หงึกๆ ด้วยความกลัว ก่อนจะสลายตัวกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และระหว่างที่ทุกคนกำลังสลายตัวไป ฉันก็รีบเข้าไปคว้าตัวนายนั่นและแอบไปหลบที่หลังเวที
    "..." 
    "..." หมอนั่นทำหน้ายิ้มระรื่น ในขณะที่ฉันจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
    "เฮ้ๆ อย่ามองข้าแบบนั้นสิ ข้าช่วยเจ้าไว้นะ" 
    "ยังจะมาพูดมากอีก นายมาที่นี่ได้ยังไงกัน?! ใครใช้ให้นายมาวุ่นวายกับฉันมิทราบ!" ฉันโวยวายใส่นายจิ้งจอกหน้าทะเล้นนั่นอย่างไม่เกรงกลัว และหมอนั่นก็ไม่มีท่าทีจะเถียงฉันเลยสักคำ 
    "ทำไมนายต้องมาช่วยฉันด้วย?"
    "เพราะต่อไป เจ้าจะต้องตอบแทนข้ายังไงล่ะ?" เขาพูดพรางทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ ก่อนร่างเขาจะหายไปในกลีบเมฆ
    "..."
         บางทีฉันก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังคิดเลยสักนิด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเรื่องประหลาดนี่ต้องเกิดขึ้นกับฉัน
    ทั้งความฝันนั่นด้วย แต่ทุกอย่างมันต้องมีสาเหตุและฉันจะหาคำตอบนั้น มันคงจะน่าสนุกกว่าการใช้ชีวิตทีต้องทำตามคนอื่นและเจอแต่เรื่องเดิมๆซ้ำกันทุกวัน บางทีเรื่องนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตฉันไปเลยก็เป็นได้

         ตอนนั้นเอง พวกเซโจที่กำลังตามหาฉันอยู่ก็วิ่งพรวดเข้ามาด้วความเป็นห่วง สีหน้าพวกเขาดูร้อนรนมาก เซโจวิ่งเข้ามาเขย่าตัวฉันและใช้ผ้าเช็ดหน้าที่เขาพกติดตัวอยู่ ชุบน้ำแล้วเช็ดคราบไข่ที่คาวอยู่เต็มหัวของฉัน    
    "ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ เธอนี่มันจริงๆเลย" ฉันแอบเหลือบมองหน้าของเขาที่ดูโมโหอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ยิ่งเห็นสายตาเขาดูเศร้าที่เห็นฉัน ฉันก็ยิ่งรู้สึกแปลก ฉันจึงตัดสินใจผละเขาออก
    "พอได้แล้วน่ะ ทำเหมือนฉันเป็นเด็กไปได้" ฉันเบ้ปากใส่ ก่อนจะเอามือรูดเศษเปลือกไข่ออกจากหัว
    "เอาผ้านี่ไปใช้ก่อนสิ" เซโจยื่นผ้าของเขาให้ฉัน
    "..."
    "มันเปื้อนไข่เหม็นคาวจากหัวเธอนะ เอาไปซักแล้วมาคืนฉันด้วยล่ะ มันเป็นของแฟนคลับฉันน่ะ" พูดจบ เขาก็ยักไหล่ทำหน้ากวนๆก่อนจะเดินออกไปที่ห้องแต่งตัวโดยมีชิโร่เดินตามไปด้วย
    "ไม่เป็นไรใช่ไหม" เรนถาม
    "อืม ไม่เป็นไร" 
    "..."
    "..."
    "หมอนั่น เป็นห่วงเธอจริงๆนะ" 
    "หืม?" ฉันกำลังจะถามย้ำ แต่เรนกลับไม่สนใจจะตอบฉันเลยสักนิด เซโจ เป็นห่วงฉันเหรอ? ใช่สิ...หมอนั่นน่ะ ชอบจุ้นจ้านวุ่นวายชีวิตฉันเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว ใครจะมองแบบนั้นมันก็ไม่แปลกหรอก...แต่ว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่นในวงเขาก็คงจะทำแบบเดียวกันนั่นล่ะ

         ฉันก็ลุกจากเก้าอีหลังเวทีและไปอาบน้ำล้างตัวที่ห้องอาบน้ำของชมรม จะว่าไปแล้วโรงเรียนที่นี่ก็ไม่เลวนะ มีการจัดสรร
    การทำกิจกรรมของนักเรียนเป็นส่วนๆแถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ประมาณว่าจะหอบเสื้อผ้าหนีพ่อแม่มานอนค้างกันที่นี่เลยก็ยังได้ 

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ให้ตายสิ ฉันขอเวลาอาบน้ำล้างหัวที่เหม็นคาวนี่ก่อนจะได้ไหม นี่ห้องน้ำหญิงนะยะ ฉันโวยวายอยู่ในใจ
    "นั่นใครน่ะ?"
    "ฉันเอง แฟนคลับของเธอไง" น้ำเสียงที่ฟังคุ้นหูพูดขึ้น 
    "นะ นายต้องการอะไร?"
    "ฉันมาทวงสัญญา"
    "นี่มันยังไม่ทันข้ามวันเลยนะ อีกอย่าง...ฉันก็ไม่รู้ว่านายต้องการให้ฉันช่วยอะไร" ทำไมต้องมาคุยเรื่องแบบนี้ ตอนที่ฉันอาบน้ำอยู่ด้วยนะ ฉันรีบอาบน้ำ แต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมาจากห้องน้ำ แต่ว่า...คนที่ยืนรอฉันอยู่นั้นกลับไม่ใช่นายจิ้งจอกป่านั่น 
    "เซโจ?"
    "นึกว่าแอบไปนั่งร้องไห้ที่ไหนซะอีก"
    "ฉันเนี่ยนะ ร้องไห้ อย่ามาพูดให้ขำนะ" ฉันพูดพรางมองเขาก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไป
    "เดี๋ยว รอด้วยสิ"



           หมอนั่นพูดพร้อมกับคว้าตัวฉันแล้วดึงเข้าไปกอดไว้แน่น ตอนนั้นใ
    ฉันเต้นวูบวาบ ทั้งตกใ
    ทั้งรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดนั้น 
    "อยากร้องก็ร้องกับฉันได้นะ ต่อหน้าฉันเธอไม่จำเป็นต้องซ่อนเเล้ว"

    ฉันไม่เคยร้องไห้อีกเลย ตั้งแต่...ตอนที่พ่อแม่ส่งฉันมาที่นี่ ก่อนที่จะเกิดเรื่องบ้าๆนั่นขึ้น ฉันก็เคยเป็น เฌอเบล ผู้หญิงที่น่ารัก สดใสและมีความสุข จนกระทั่งความตายได้พรากเขาไปจากฉัน เขาชื่อ แมท เขาเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่สมัยเด็ก เราโตมาด้วยกันและสนิทกันมาก จนตอนเข้าชั้นมัธยมต้น ฉันกับเขาก็เริ่มชอบพลอกัน เราคบกันได้แค่ปีกว่า จนกระทั่งเกิดเรื่อง
    มีโจรบุกเข้าไปในบ้านของเขา มันฆ่าทุกคนในนั้นและจุดไฟเผาบ้านอย่างเหี้ยมโหด นั่นเป็นข่าวดังที่สุดในปารีส เมื่อนานมาแล้ว แต่ฉันยังจำได้ ภาพที่ฉันเห็นบ้านของแมท มีไฟลุกท่วม นักดับเพลิงพยายามช่วยชีวิตเขาออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่สุดท้ายเขาก็สิ้นใจก่อนจะถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล ฉันเฝ้าคร่ำครวญร้องไห้ด้วยความเสียใจเหมือนคนบ้า เพราะเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดคนนึงในชีวิตฉัน เป็นคนที่เข้าใจ ห่วงใยและคอยดูแลฉันด้วยความจริงใจ เขาเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ และจะรักตลอดไป...
    "T.,T"
    "โอเครึเปล่า?
    "
    "อืม แค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ"
    "เธอดูเหนื่อยๆนะ...เอางี้ไหม เธอเลี้ยงข้าวฉันสิ จะได้อารมณ์ดีขึ้นไง"
    "เฮอะๆ นายนี่มันจริงๆเลยนะ" ฉันปาดน้ำตาพรางมองหน้าเขาที่กำลังยิ้มแป้นก่อนที่ฉันจะเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่ฉันไม่สบายใจ เซโจ จะทำให้ฉันยิ้มได้เสมอ

         สุดท้ายฉันก็ตอบตกลง เราไปทานข้าวเย็นกันที่ร้านประจำ ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ เรากินข้าวกัน คุยกันเรื่องการแต่งเพลงและเรื่องทั่วไป จนเสร็จเขาก็พาฉันไปส่งที่บ้าน
    "ขอบใจนะ" ฉันพูดพรางส่งหมวกคืนให้เซโจ
    "อืม เราเพื่อนกันไม่ใช่รึไง"
    "อืม โชคดีนะ"
    "..." เซโจพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ฉัน ฉันยิ้มตอบก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านไป

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×