ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { R O S E } JINHYE #bnior #therosebn

    ลำดับตอนที่ #3 : 0 3

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 58


    03

     

     

    หากแต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ในตอนที่รอยแดงตามตัวค่อยๆจางหายไป ใครหลายๆคนก็ได้แต่ชะงักและเก็บคำพูดด่าทอที่ชอบพูดไปเสียสนิท

     

    จินฮเยเริ่มดูเหมือนนายน้อยของบ้านเข้าทุกที ไม่ใช่เด็กข้างถนนสกปรกดังวันแรกของการพบเจอ

     

    อีกทั้งตากลมโตก็ทำให้หญิงคนใช้หลายๆคนอิจฉาเสียด้วย

     

    นายใหญ่จะกลับบ้านนานๆทีเพราะงานที่ทำต้องเดินทาง หากเขากลับมาอีกครั้ง เขาอาจจำจินฮเยไม่ได้ด้วยซ้ำ

     

    “จินฮเย” แต่เด็กชายคิดผิด

     

    อ้อมกอดอุ่นๆที่ได้รับทำเอาเด็กชายน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว

     

    “อยู่บ้านนี้ สบายดีไหม ?” คนเป็นพ่อพูดช้าๆเพราะรู้ว่าเด็กน้อยคงฟังเขาพูดเร็วๆไม่ออก จินฮเยนิ่งไปสักพักก่อนจะค่อยๆพยักหน้ารับ “แล้วที่คอนั่นไปโดนอะไรมาล่ะ ?”

     

    มันเป็นรอยแดงที่เขาถูกญาติคนหนึ่งแกล้งให้ตกต้นไม้

     

    จินฮเยส่ายหัวตอบ

     

    “ถูกใครแกล้งหรือเปล่า ? พวกเราดูแลลูกได้ดีไหม ?”

     

    จินฮเยไม่กล้าตอบตามความจริง พ่อเขาต้องออกจากบ้านบ่อยๆ หากพูดอะไรไปคงมิวายถูกแกล้งอีกยามพ่อไม่อยู่

     

    “ครับ”

     

    คนเป็นพ่อมองลูกชายอย่างรู้สึกผิด จินฮเยหน้าเหมือนแม่เหลือเกิน เขารู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลเธอคนนั้นกับลูกให้ดีกว่านี้

     

    “พ่อดูไม่เหมือนในรูปเลย” เด็กชายพูดขึ้นมาเบาๆ “แม่เก็บรูปพ่อไว้ในบ้าน เราไม่ได้เอาออกมาเพราะไม่คิดว่ามันจะร้ายแรง” จินฮเยกลืนน้ำลาย “มันพังหมดเลยใช่ไหมครับ ?”

     

    “อืม” คนเป็นพ่อพยักหน้ารับ “ไม่เหลือเลย”

     

    จินฮเยก้มหน้าลง นึกถึงความทรงจำเก่าๆระหว่างที่อยู่บ้านหลังนั้น

     

    มันเล็ก คับแคบและลำบากมากๆยามฝนตก แต่กลับอบอุ่นและมีความสุขกว่าบ้านหลังนี้เป็นไหนๆ

     

    “ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเศร้าสิ” คนเป็นพ่อขยี้หัวลูกชายเบาๆ “ไหน พาพ่อไปดูห้องของลูกหน่อย เขาจัดห้องไหนให้ลูกกันนะ ?”

     

    หากเมื่อจินฮเยพาเดินมาอย่างไม่มีทางเลือก ใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายวัยกลางคนก็ขรึมลงทันที “ทำไมอยู่ห้องนี้ ? ฉันบอกว่าห้องข้างๆฉันมิใช่รึ ?” ท้ายประโยคหันไปตะคอกถามคนใช้ที่เดินผ่านมาพอดี หล่อนสะดุ้งอย่างตกใจ

     

    “ผมเลือกห้องนี้เองครับ” จินฮเยรีบบอก “ผมไม่ชินกับห้องใหญ่ๆ ห้องนี้ยังกว้างกว่าบ้านผมกับแม่ด้วยซ้ำ”

     

    “แล้วห้องอาบน้ำล่ะ ? ลูกใช้ที่ไหน ?”

     

    “ข้างนอกครับ” ครั้งนี้จินฮเยต้องตอบอย่างไร้ทางโกหก มันไม่มีข้ออ้างให้เขาได้ใช้เลยสำหรับคำถามนี้

     

    “ถึงไม่ชินก็ต้องทำตัวให้ชิน ลูกจะใช้ห้องน้ำข้างนอกอย่างนั้นน่ะหรือ ? คนเขาได้พูดกันสิว่าพ่อไม่มีปัญญาดูแลลูกให้ดี” นายใหญ่หันไปสั่งคนรับใช้ที่ช่วยกันขนน้ำมาเติมในห้องต่างๆ “ขนเสร็จแล้วมาย้ายห้องลูกฉันไปห้องใหญ่ด้วย”

     

    “ผมไม่อยากอยู่ห้องใหญ่ครับ” จินฮเยยังจำท่าทีนายหญิงของบ้านได้ดี เธอไม่เคยพูดกับเขา ไม่เคยแม้แต่มองหน้า

     

    ที่ไหนในบ้านที่มีจินฮเย จะไม่มีร่างของนายหญิงย่างกรายเข้าไป

     

    “แต่ลูกเป็นลูกพ่อ” นายใหญ่พูดเสียงจริงจัง “คนใช้จะไม่เคารพลูก นึกว่าพ่อไม่รู้หรืออย่างไรที่ลูกถูกแกล้ง ?”

     

    “ผมไม่อยากอยู่ห้องใหญ่” จินฮเยยืนยันอีกครั้งโดยทำเป็นไม่ได้ยินประโยคก่อนหน้า

     

    “พ่อให้ลูกเลือกได้ แต่ต้องย้าย”

     

    จินฮเยไม่มีทางเลือก เขาเดินไปยังห้องใหญ่ที่อยู่ริมสุดทางเดินและไกลจากห้องของนายหญิงที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ห้องนี้แล้วกันครับ”

     

    “ย้ายของแล้วเติมน้ำกับทำความสะอาดห้องนี้ด้วย” นายใหญ่ตะโกนสั่งก่อนจะหันไปเห็นใครอีกคนที่ห้องรับแขก “อ้าว แจบอม

     

    “ครับ” แจบอมโค้งหัวให้พลางถอดหมวกออก เขาเป็นคนที่ทำการค้าร่วมกับตระกูลปาร์ค

     

    ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองมองเด็กชายวัยสิบสองนิ่งงัน

     

    “นี่ปาร์คจินยอง ลูกชายฉันเอง” เสาหลักตระกูลปาร์คแนะนำอย่างอารมณ์ดี “เธอน่าจะเคยเจอแล้วนี่ ?”

     

    “หรือครับ ?” แจบอมทวนคำเบาๆแต่ยังไม่ละสายตาไปจากจินฮเย “ยินดีที่ได้รู้จักครับ นายน้อย”

     

    เมื่อพินิจตากลมคู่นั้นดีๆแล้วแจบอมก็พบคำตอบ เจ้าเด็กน้อยตัวดำที่เดินทะเล่อทะล่าเข้ามาในห้องอาหารเมื่อหลายวันก่อนนี่เอง

     

    หากพอจับไปอาบน้ำดีๆแล้ว กลับดูราวกับองค์ชายน้อยในวังก็ไม่ปาน

     

    หรือจะองค์หญิง ?

     

    “แล้วนี่มาทำอะไรรึ ?” นายใหญ่ของบ้านถาม “มาหายองแจ ?”

     

    “เปล่าครับ ผมเอารถมารับท่าน เราต้องเดินทางไวขึ้นหนึ่งวัน”

     

    “อ่า. . . .ยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย ทำไมถึงเลื่อนเล่า ?”

     

    “ทางโน้นเร่งมาครับ เราเลยต้องรีบ”

     

    “เข้าใจแล้ว ฉันจะไปจัดกระเป๋าสักครู่ รออยู่นี่ก็แล้วกัน”

     

    เมื่อลับร่างเจ้าของบ้าน แจบอมมองเด็กชายอย่างไม่วางตา

     

    เด็กคนนี้ถือได้ว่าจับเอาส่วนของพ่อและแม่มารวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ แจบอมมองจมูกทรงรั้นนั่นอย่างสนใจ ไหนจะปากอิ่มและดวงตากลมใสนั่นอีก

     

    แต่หางตากลับโค้งตก มันทำให้หน้านิ่งของเด็กคนนี้ดูเศร้าอย่างน่าสงสาร

     

    “ชื่อจินยองหรอ ?”

     

    “ครับ

     

    “อายุเท่าไหร่ล่ะปีนี้ ?”

     

    “สิบสองครับ”

     

    “โตขึ้นอยากเป็นอะไรล่ะ ?”

     

    “ไม่รู้ครับ”

     

    “ ?? ”

     

    “ผมยังไม่รู้เลย ว่าจะอยากเป็นอะไรดีถ้าโตแล้ว” จินฮเยพูดเสียงเบา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าของตัวเองจะร่ำรวยขนาดนี้ เขาคิดไว้เพียงแค่อยู่กับแม่ อยู่กับอี้เอิ้นไปจนแก่ ก็เท่านั้นเอง

     

    “อยู่บ้านนี้ เธอเหงาไหม ?”

     

    “ครับ ?”

     

    “เหงาหรือเปล่า ?”

     

    “. . .” จินฮเยไม่ตอบแต่พยักหน้า ก้มหัวมองพื้นอย่างเศร้าๆ

     

    ตั้งแต่อยู่มา คงมีพ่อกับผู้ชายคนนี้แหละที่เขาพูดด้วยมากที่สุด

     

    “เธอชื่อจินยอง ? มันชื่อคนเกาหลีไม่ใช่หรือ ?” ไหนว่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น คำนี้แจบอมไม่ได้พูดออกไปด้วย

     

    “จินฮเย” เด็กชายแปลกใจกับการเปลี่ยนเรื่องที่แสนจะงุนงงแต่ก็ยอมตอบ “เรียกผมว่าจินฮเยก็ได้”

     

    “จินฮเย” แจบอมยิ้มบาง “ไว้จะมาเล่นด้วยบ่อยๆนะ”

     

    ที่ห้องใหญ่ซึ่งห่างไปไม่ไกล มีใครบางคนแอบมองอยู่

     

    ตาคู่นั้นมองรอยยิ้มของแจบอมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากในใจกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มคนนั้นมาบ้านไม่บ่อยและไม่เคยยิ้มให้ใคร

     

    แต่เด็กนั่นกลับทำให้เขายิ้มได้ง่ายๆ

     

    ไม่ชอบใจ และเริ่มหงุดหงิดทุกอย่างในตัวปาร์คจินยอง

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×