คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เด็กแว่นจะจีบ
เคยตกหลุมรักใครแบบไม่ทันตั้งตัวมั้ย มันรวดเร็ว และทำให้ใจสั่นแบบไม่มีสาเหตุเลยแหละ
ร่างบางของวอนอูเดินเข้ามาในบ้านของตัวเองอย่างปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือหัวใจที่ยังเต้นแรงไม่หายหลังจากที่ได้สบตากับคิมมินกยู นักบาสและรุ่นน้องที่โรงเรียน สาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้แดงขนาดนั้นมาก่อน เพราะหลังจากที่เวนดี้บอกชื่อของมินกยูให้เขารู้จัก หน้าก็ขึ้นสีแดงอย่างไม่รู้สาเหตุจึงรีบบอกลาซุนยองกับเวนดี้กลับบ้านอย่างรวดเร็ว มีหวังอยู่ต่อเขาต้องเป็นลมเพราะทนอาการแบบนี้ไม่ไหวแน่.......
“วอนอูลูก กลับมาแล้วหรอ” เสียงทักขึ้นของปาร์คโบราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กของบ้านเดินเข้ามา วอนอูที่วางรองเท้าไว้บนชั้นวางรองเท้าของบ้านเสร็จก็เดินไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง
“หืม เป็นอะไรครับคนเก่ง”
“หม่าม๊าครับ ตอนที่หม่าม๊ากับปะป๊าปิ๊งกันตอนแรกเป็นยังไงหรอ” วอนอูถามโบราที่พาไปนั่งที่โซฟาในห้องโถงของบ้าน
“คิดไงมาถามหม่าม๊าอย่างนี้ล่ะ แหนะ! อย่าบอกนะว่าวอนอูไปปิ๊งใครมา” เพียงแค่เอ่ยมา หน้าของวอนอูก็กลับมาแดงอีกครั้งพร้อมกับก้มหน้าเขิน
“งื้ออออ หม่าม๊าอ่า-//////-”
“ฮ่าๆๆๆ ใครกันน้าที่ทำให้วอนอูของหม่าม๊าหน้าแดงได้ขนาดนี้.........อ่า ตอนที่หม่าม๊าปิ๊งกับปะป๊าน่ะหรอ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ตอนนั้นเราทั้งสองยังเรียนมหาลัยกันอยู่เลย หม่าม๊าไม่รู้จักปะป๊าด้วยซ้ำ อยู่ดีๆปะป๊าก็เดินมาบอกหม่าม๊าว่าจะจีบ หม่าม๊าจำได้ว่าตอนนั้นหม่าม๊าอึ้งพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ”
“แล้วปะป๊าทำไงต่ออ่ะ แล้วตอนนั้นหม่าม๊าตกใจมากมั้ย”
“ก็ตกใจนะ เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นแหละที่อยู่ดีๆใครก็ไม่รู้เดินมาบอกว่าจะจีบเรา แต่หลังจากนั้นปะป๊าก็เดินหน้าจีบมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเป็นปีแหนะกว่าหมะม๊าจะใจอ่อน”
“หูววว ทำไมนานจัง”
“ความรักน่ะมันต้องใช้เวลาน่ะลูก ไม่ใช่เห็นแล้วรักเลย การที่หม่าม๊าใช้เวลานานก็เพื่อเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าปะป๊ารักหม่าม๊าจริงหรือเปล่า เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนแล้วอีกอย่างนะ เรื่องความรักเนี่ยมีแค่เรานี่แหละที่รู้ว่ามันเป็นยังไง”
ยิ่งฟังวอนอูก็ยิ่งงง อะไรคือเรื่องละเอียดอ่อน ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจเสียเลย โบราที่เห็นลูกชายทำหน้างงก็หัวเราะเล็กก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวอย่างรักใคร่
“เดี๋ยววอนอูก็เข้าใจเองแหละครับ หม่าม๊าว่าตอนนี้วอนอูขึ้นเปลี่ยนชุดแล้วก็ลงมากินข้าวเย็นเถอะ เดี๋ยวปะป๊ากับพี่ชานยอลก็จะกลับมาแล้วล่ะ” วอนอูพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นเดินบันไดไปห้องนอนของตัวเอง
ครอบครัวของวอนอูอยู่กันเพียงสี่คน จอนแทคยอนผู้เป็นพ่อ ปาร์คโบราผู้เป็นแม่ ปาร์คชานยอลลูกชายคนกลาง และจอนวอนอูลูกชายคนเล็ก และแม่บ้านอีกสองคน ส่วนปาร์คยูราพี่สาวคนโตของบ้านที่ตอนนี้ได้แต่งงานและย้ายไปอยู่เมืองนอกตามสามีเรียบร้อยแล้ว บ้านของวอนอูทำธุรกิจอัญมณีที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของเกาหลีใต้ และที่คนในครอบครัวใช้นามสกุลไม่เหมือนกันนั้นเป็นเพราะตระกูลทางฝั่งโบรานั้นมีแต่ลูกสาว กลัวว่าจะไม่มีใครสืบทอดตระกูลจึงให้โบราใช้นามสกุลเดิมรวมถึงให้ยูรากับชานยอลใช้ด้วยเหมือนกัน
หลังจากที่กินข้าวและคุยกันตามภาษาครอบครัวเสร็จวอนอูก็กลับขึ้นห้องมาเพื่อทำการบ้าน จนเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่มการบ้านทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย ร่างบางเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะเดินหยิบผ้าขนหนูเพื่อเข้าไปอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็อาบเสร็จ เดินไปปิดไฟให้เหลือแค่โคมไฟตรงหัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอนหลับตาในที่สุด
เช้าวันต่อมา วอนอูเดินเข้าโรงเรียนมาด้วยหน้าเรียบเฉยอย่างที่หลายคนเห็นเป็นประจำ การมาโรงเรียนเช้าเป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว บ้านเขาอยู่ไม่ไกลมาก หลังจากที่ชานยอลไปวิ่งออกกำลังกายเสร็จก็จะขี่Ducati1098 สีแดงเพลิงคันสวยมาส่งเขาที่โรงเรียนทุกวัน และนับเป็นเรื่องดีของเด็กนักเรียนหญิงที่จะได้ส่องดูกล้ามพี่ชายของเขาด้วย เพราะชานยอลสวมเพียงเสื้อกล้ามกางเกงกีฬามาส่งเขาก่อนจะกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานพร้อมปะป๊าอีกที
“วอนอู!! วันนี้ใครมาส่งอ่ะ พี่ชานยอลรึป่าว” เวนดี้ที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้เดินเข้ามาทักอย่างรวดเร็ว วอนอูเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยตามประสาคนพูดน้อย
“ฮืออออออออ พลาดกันแค่นิดเดียวเองอ่ะ อดส่องกล้ามโตๆของพี่ชานยอลเลย” วอนอูมองเพื่อนสาวของตัวเองอย่างขำๆ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสาวๆจะต้องชอบคนกล้ามโตด้วย มินกยูก็ไม่เห็นจะกล้ามโตเหมือนพี่ชายของเขาเลย แต่.....เมื่อกี๊เขาพูดถึงมินกยูงั้นหรอ
“มินกยู กูขอลอกการบ้านอังกฤษหน่อย!!” เสียงโวยวายดังขึ้นจากกลุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างสนามบอล เรียกให้วอนอูหันไปทันที
“ตลอดเลยนะพวกมึง มัวแต่ตีดอทจนลืมทำการบ้านตลอด”
“แหมๆๆ ใครจะไปเก่งทุกเรื่องอย่างมึงล่ะครับคุณเพื่อน ทั้งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องกีฬา”
“หึ....”
“อ้าววอนอูจะเดินไปไหนน่ะ!!” เวนดี้รีบตะโกนเรียกเพื่อนตัวเองที่กำลังเดินไปยังกลุ่มของมินกยูที่นั่งรวมกันอยู่
“นายชื่อมินกยูใช่มั้ย อ่า.....เราชื่อจอนวอนอูนะ อยู่เกรดสิบเอ็ด เราสายตาไม่ดี เรามีพี่ชายกับพี่สาว เราชอบกินต๊อกโบกีมากๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”วอนอูพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงและมินกยูหันมาทางเขาพอดี
“เอ่อ..........” มินกยูที่กำลังงงอยู่ก็หันหน้าไปมองกับเพื่อน
“และเราจะจีบมินกยูด้วยนะ”
“ฮะ!!” คราวนี้หันกันมาทั้งกลุ่มรวมถึงเด็กนักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นด้วย ลีซอกมินเพื่อนสนิทของมินกยูได้สติก่อนจะถาม
“อะ...เอ่อ เมื่อกี๊พี่พูดว่าอะไรนะครับ”
“เราจะจีบมินกยู”
เอาล่ะเป็นว่ารู้เรื่อง รุ่นพี่คนนี้จะจีบมินกยูเพื่อนของเขา
“ขอโทษนะคะน้อง สงสัยเพื่อนพี่นอนน้อยเลยพูดอะไรเพ้อเจ้อ” เวนดี้รีบวิ่งเข้ามาก่อนจะดึงแขนวอนอูให้เดินออกไปจากตรงนี้
“เราไม่ได้เพ้อเจ้อ เราจะจีบมินกยูจริงๆ”
“มึงได้ยินเหมือนกูป่ะซองจุน” ซอกมินหันไปถามเพื่อนในกลุ่มเพื่อความแน่ใจ
“ได้ยินชัดยิ่งกว่าเสียงกริ่งเข้าเรียนอีกครับมึง”
มินกยูไม่พูดอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงเหมือนเดิม คนบ้าอะไร อยู่ดีๆก็มาบอกประวัติตัวเองพร้อมกับบอกว่าจะจีบเขา ดูจากท่าทางคงจะเป็นเด็กเรียนเพราะใส่แว่นซะหนาเตอะ สงสัยคงเรียนมากจนเพี้ยนไปแล้วล่ะมั้ง
“โหยยยยยย มึงแม่งโครตเทพ อยู่ดีๆเด็กเรียนที่ไม่สนใจอะไรก็มาบอกว่าจะจีบมึงเนี่ย” ซองจุนพูดอย่างทึ่งๆจนมินกยูต้องหันไปถาม
“เด็กเรียนหรอ”
“ก็เออสิวะ! ใครๆก็รู้ว่าพี่วอนอูน่ะเป็นเด็กเรียน หรือว่าจะเรียกเด็กเนิร์ดก็ได้ วันๆนะกูเห็นแต่พี่เขาทำแต่หน้าเดียวอ่ะ เรียบเฉยมาก นี่กูยังงงอยู่เลยที่พี่เขาเดินมาบอกว่าจะจีบมึงเนี่ย” ซองจุนพูดแค่นั้นก่อนจะหันไปลอกการบ้านต่อ มินกยูฟังก็ไม่สนใจอะไรมากก่อนที่สายตาจะหันไปเจอใครคนนึงที่กำลังจะเดินขึ้นอาคารเรียนไป ใบหน้าที่หวานราวกับผู้หญิง ผมที่ยาวจนต้องรวบไว้อย่างหลวมๆ ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็ยังคงไม่ลืม
“มึงยังไม่ลืมรุ่นพี่จองฮันอีกหรอวะมินกยู” ซอกมินหันมาพูดกับมินกยูเบาๆไม่ให้คนอื่นบนโต๊ะได้ยิน เรื่องนี้มีเพียงแค่มินกยูกับเขาเท่านั้นที่รู้ ร่างสูงพยักหน้าช้าๆก่อนจะพูดออกมาเสียงไม่ดังมาก
“มึงก็รู้ ว่ากูลืมเขาไม่ได้ เขา....เป็นรักแรกของกู”
#เด็กแว่นวอนอู
100%
อ๊ากกกกกกกกกกก วอนอูของเราไปบอกชอบแล้วนะ
เรื่องราวจะเป็นไงต่อไปฝากติดตามด้วยนะคะ
เมนท์กับสกรีมในทวิตให้ด้วยนะฮับ บายยยยยยยยยยยย
ป.ล. อยากได้ลูกชายคนชายคนกลางบ้านนี้มากค่ะ /เช็ดน้ำลาย
ความคิดเห็น