ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SEVENTEEN] นายเด็กเนิร์ด♥ MINWON

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เด็กแว่นจะจีบ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 59


     





     






     

    เคยตกหลุมรักใครแบบไม่ทันตั้งตัวมั้ย มันรวดเร็ว และทำให้ใจสั่นแบบไม่มีสาเหตุเลยแหละ

     

     

     

         ร่างบางของวอนอูเดินเข้ามาในบ้านของตัวเองอย่างปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือหัวใจที่ยังเต้นแรงไม่หายหลังจากที่ได้สบตากับคิมมินกยู นักบาสและรุ่นน้องที่โรงเรียน  สาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้แดงขนาดนั้นมาก่อน เพราะหลังจากที่เวนดี้บอกชื่อของมินกยูให้เขารู้จัก หน้าก็ขึ้นสีแดงอย่างไม่รู้สาเหตุจึงรีบบอกลาซุนยองกับเวนดี้กลับบ้านอย่างรวดเร็ว มีหวังอยู่ต่อเขาต้องเป็นลมเพราะทนอาการแบบนี้ไม่ไหวแน่.......

     

     

           “วอนอูลูก กลับมาแล้วหรอ” เสียงทักขึ้นของปาร์คโบราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กของบ้านเดินเข้ามา วอนอูที่วางรองเท้าไว้บนชั้นวางรองเท้าของบ้านเสร็จก็เดินไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง

     

          “หืม เป็นอะไรครับคนเก่ง”

     

           “หม่าม๊าครับ ตอนที่หม่าม๊ากับปะป๊าปิ๊งกันตอนแรกเป็นยังไงหรอ” วอนอูถามโบราที่พาไปนั่งที่โซฟาในห้องโถงของบ้าน

     

            “คิดไงมาถามหม่าม๊าอย่างนี้ล่ะ แหนะ! อย่าบอกนะว่าวอนอูไปปิ๊งใครมา” เพียงแค่เอ่ยมา หน้าของวอนอูก็กลับมาแดงอีกครั้งพร้อมกับก้มหน้าเขิน

     





             “งื้ออออ หม่าม๊าอ่า-//////-”


            “ฮ่าๆๆๆ ใครกันน้าที่ทำให้วอนอูของหม่าม๊าหน้าแดงได้ขนาดนี้.........อ่า ตอนที่หม่าม๊าปิ๊งกับปะป๊าน่ะหรอ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ตอนนั้นเราทั้งสองยังเรียนมหาลัยกันอยู่เลย หม่าม๊าไม่รู้จักปะป๊าด้วยซ้ำ อยู่ดีๆปะป๊าก็เดินมาบอกหม่าม๊าว่าจะจีบ หม่าม๊าจำได้ว่าตอนนั้นหม่าม๊าอึ้งพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ”

     


         “แล้วปะป๊าทำไงต่ออ่ะ แล้วตอนนั้นหม่าม๊าตกใจมากมั้ย”

     

         “ก็ตกใจนะ เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นแหละที่อยู่ดีๆใครก็ไม่รู้เดินมาบอกว่าจะจีบเรา แต่หลังจากนั้นปะป๊าก็เดินหน้าจีบมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเป็นปีแหนะกว่าหมะม๊าจะใจอ่อน”

     

         “หูววว ทำไมนานจัง”

     

         “ความรักน่ะมันต้องใช้เวลาน่ะลูก ไม่ใช่เห็นแล้วรักเลย การที่หม่าม๊าใช้เวลานานก็เพื่อเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าปะป๊ารักหม่าม๊าจริงหรือเปล่า  เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนแล้วอีกอย่างนะ เรื่องความรักเนี่ยมีแค่เรานี่แหละที่รู้ว่ามันเป็นยังไง”

     



            ยิ่งฟังวอนอูก็ยิ่งงง อะไรคือเรื่องละเอียดอ่อน ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจเสียเลย โบราที่เห็นลูกชายทำหน้างงก็หัวเราะเล็กก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวอย่างรักใคร่

     

           “เดี๋ยววอนอูก็เข้าใจเองแหละครับ  หม่าม๊าว่าตอนนี้วอนอูขึ้นเปลี่ยนชุดแล้วก็ลงมากินข้าวเย็นเถอะ เดี๋ยวปะป๊ากับพี่ชานยอลก็จะกลับมาแล้วล่ะ” วอนอูพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นเดินบันไดไปห้องนอนของตัวเอง

     








         ครอบครัวของวอนอูอยู่กันเพียงสี่คน จอนแทคยอนผู้เป็นพ่อ ปาร์คโบราผู้เป็นแม่ ปาร์คชานยอลลูกชายคนกลาง และจอนวอนอูลูกชายคนเล็ก และแม่บ้านอีกสองคน ส่วนปาร์คยูราพี่สาวคนโตของบ้านที่ตอนนี้ได้แต่งงานและย้ายไปอยู่เมืองนอกตามสามีเรียบร้อยแล้ว บ้านของวอนอูทำธุรกิจอัญมณีที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของเกาหลีใต้ และที่คนในครอบครัวใช้นามสกุลไม่เหมือนกันนั้นเป็นเพราะตระกูลทางฝั่งโบรานั้นมีแต่ลูกสาว กลัวว่าจะไม่มีใครสืบทอดตระกูลจึงให้โบราใช้นามสกุลเดิมรวมถึงให้ยูรากับชานยอลใช้ด้วยเหมือนกัน

     

     

          หลังจากที่กินข้าวและคุยกันตามภาษาครอบครัวเสร็จวอนอูก็กลับขึ้นห้องมาเพื่อทำการบ้าน จนเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่มการบ้านทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย ร่างบางเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะเดินหยิบผ้าขนหนูเพื่อเข้าไปอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็อาบเสร็จ เดินไปปิดไฟให้เหลือแค่โคมไฟตรงหัวเตียงก่อนจะล้มตัวนอนหลับตาในที่สุด

     

     

     

     

         เช้าวันต่อมา วอนอูเดินเข้าโรงเรียนมาด้วยหน้าเรียบเฉยอย่างที่หลายคนเห็นเป็นประจำ การมาโรงเรียนเช้าเป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว  บ้านเขาอยู่ไม่ไกลมาก หลังจากที่ชานยอลไปวิ่งออกกำลังกายเสร็จก็จะขี่Ducati1098 สีแดงเพลิงคันสวยมาส่งเขาที่โรงเรียนทุกวัน และนับเป็นเรื่องดีของเด็กนักเรียนหญิงที่จะได้ส่องดูกล้ามพี่ชายของเขาด้วย เพราะชานยอลสวมเพียงเสื้อกล้ามกางเกงกีฬามาส่งเขาก่อนจะกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานพร้อมปะป๊าอีกที

     



          “วอนอู!! วันนี้ใครมาส่งอ่ะ พี่ชานยอลรึป่าว” เวนดี้ที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้เดินเข้ามาทักอย่างรวดเร็ว วอนอูเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยตามประสาคนพูดน้อย

     

         “ฮืออออออออ พลาดกันแค่นิดเดียวเองอ่ะ อดส่องกล้ามโตๆของพี่ชานยอลเลย” วอนอูมองเพื่อนสาวของตัวเองอย่างขำๆ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสาวๆจะต้องชอบคนกล้ามโตด้วย มินกยูก็ไม่เห็นจะกล้ามโตเหมือนพี่ชายของเขาเลย  แต่.....เมื่อกี๊เขาพูดถึงมินกยูงั้นหรอ

     

     



          “มินกยู กูขอลอกการบ้านอังกฤษหน่อย!!” เสียงโวยวายดังขึ้นจากกลุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างสนามบอล เรียกให้วอนอูหันไปทันที

     

         “ตลอดเลยนะพวกมึง มัวแต่ตีดอทจนลืมทำการบ้านตลอด”

     

         “แหมๆๆ ใครจะไปเก่งทุกเรื่องอย่างมึงล่ะครับคุณเพื่อน ทั้งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องกีฬา”

     

         “หึ....”

     

     

     

         “อ้าววอนอูจะเดินไปไหนน่ะ!!” เวนดี้รีบตะโกนเรียกเพื่อนตัวเองที่กำลังเดินไปยังกลุ่มของมินกยูที่นั่งรวมกันอยู่

     

     

     




            “นายชื่อมินกยูใช่มั้ย อ่า.....เราชื่อจอนวอนอูนะ อยู่เกรดสิบเอ็ด เราสายตาไม่ดี เรามีพี่ชายกับพี่สาว เราชอบกินต๊อกโบกีมากๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”วอนอูพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงและมินกยูหันมาทางเขาพอดี

     

         “เอ่อ..........” มินกยูที่กำลังงงอยู่ก็หันหน้าไปมองกับเพื่อน

     






                         “และเราจะจีบมินกยูด้วยนะ”

     

          “ฮะ!!” คราวนี้หันกันมาทั้งกลุ่มรวมถึงเด็กนักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นด้วย ลีซอกมินเพื่อนสนิทของมินกยูได้สติก่อนจะถาม

     

            “อะ...เอ่อ เมื่อกี๊พี่พูดว่าอะไรนะครับ”

     

            “เราจะจีบมินกยู”

     


                            เอาล่ะเป็นว่ารู้เรื่อง  รุ่นพี่คนนี้จะจีบมินกยูเพื่อนของเขา

     

     




            “ขอโทษนะคะน้อง สงสัยเพื่อนพี่นอนน้อยเลยพูดอะไรเพ้อเจ้อ” เวนดี้รีบวิ่งเข้ามาก่อนจะดึงแขนวอนอูให้เดินออกไปจากตรงนี้


           “เราไม่ได้เพ้อเจ้อ เราจะจีบมินกยูจริงๆ”

          “ย่าส์!! วอนอูไปได้แล้ว ขอโทษอีกครั้งนะน้อง” ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ เวนดี้ก็ลากวอนอูออกไปแล้ว  ส่วยมินกยูและเพื่อนที่เหลือก็ยังอึ้งไม่หาย

     




           “มึงได้ยินเหมือนกูป่ะซองจุน” ซอกมินหันไปถามเพื่อนในกลุ่มเพื่อความแน่ใจ

     

           “ได้ยินชัดยิ่งกว่าเสียงกริ่งเข้าเรียนอีกครับมึง”


           มินกยูไม่พูดอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงเหมือนเดิม  คนบ้าอะไร อยู่ดีๆก็มาบอกประวัติตัวเองพร้อมกับบอกว่าจะจีบเขา  ดูจากท่าทางคงจะเป็นเด็กเรียนเพราะใส่แว่นซะหนาเตอะ สงสัยคงเรียนมากจนเพี้ยนไปแล้วล่ะมั้ง

     

          “โหยยยยยย มึงแม่งโครตเทพ อยู่ดีๆเด็กเรียนที่ไม่สนใจอะไรก็มาบอกว่าจะจีบมึงเนี่ย” ซองจุนพูดอย่างทึ่งๆจนมินกยูต้องหันไปถาม

     

          “เด็กเรียนหรอ”

     

          “ก็เออสิวะ! ใครๆก็รู้ว่าพี่วอนอูน่ะเป็นเด็กเรียน หรือว่าจะเรียกเด็กเนิร์ดก็ได้ วันๆนะกูเห็นแต่พี่เขาทำแต่หน้าเดียวอ่ะ เรียบเฉยมาก นี่กูยังงงอยู่เลยที่พี่เขาเดินมาบอกว่าจะจีบมึงเนี่ย” ซองจุนพูดแค่นั้นก่อนจะหันไปลอกการบ้านต่อ  มินกยูฟังก็ไม่สนใจอะไรมากก่อนที่สายตาจะหันไปเจอใครคนนึงที่กำลังจะเดินขึ้นอาคารเรียนไป  ใบหน้าที่หวานราวกับผู้หญิง ผมที่ยาวจนต้องรวบไว้อย่างหลวมๆ ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็ยังคงไม่ลืม

     




            “มึงยังไม่ลืมรุ่นพี่จองฮันอีกหรอวะมินกยู” ซอกมินหันมาพูดกับมินกยูเบาๆไม่ให้คนอื่นบนโต๊ะได้ยิน  เรื่องนี้มีเพียงแค่มินกยูกับเขาเท่านั้นที่รู้ ร่างสูงพยักหน้าช้าๆก่อนจะพูดออกมาเสียงไม่ดังมาก

     

     

            “มึงก็รู้ ว่ากูลืมเขาไม่ได้ เขา....เป็นรักแรกของกู”

     















     

    #เด็กแว่นวอนอู


     








     

    100%

     

    อ๊ากกกกกกกกกกก วอนอูของเราไปบอกชอบแล้วนะ

    เรื่องราวจะเป็นไงต่อไปฝากติดตามด้วยนะคะ

    เมนท์กับสกรีมในทวิตให้ด้วยนะฮับ บายยยยยยยยยยยย

    ป.ล. อยากได้ลูกชายคนชายคนกลางบ้านนี้มากค่ะ /เช็ดน้ำลาย

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×