ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♦ Necessary ’ (HaeEun)

    ลำดับตอนที่ #9 : HAPPY BIRTHDAY HYUKJAE ♡

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 58


    HAPPY BIRTHDAY HYUKJAE

    Note : รีบแต่งรีบพิมพ์มากๆ ไม่ทันสี่ทุ่มของเมื่อคืนด้วย แต่ก็ยังอยู่ในวันที่สี่น้า
                  ปล.ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องยาวนะคะ

     

     

     

     
    ขอบคุณ รูปภาพ credit ในรูป

     

     

     

     

     

    สองเท้าของอีทงเฮและชเวซีวอนสองเพื่อนสนิทก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียนอย่างเช่นทุกวันเป็นปกติ แขนที่พาดไหล่อีกฝ่ายไว้คงเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับคนทั้งสอง 

     

     

     

    ดวงตาคมของทงเฮไปสะดุดเข้ากับกลุ่มนักเรียนที่ยืนออกันอยู่หน้าตึกมัธยมปลาย..

     

     

     

     

     

     

     

    อ่า...ประกาศผลสอบนี่่

     

     

     

     


     

     

    "คนเยอะสัด มาดูวันอื่นก็ได้นะทงเฮ ระดับนี้แล้วไม่ตกหรอก" เสียงบ่นของเพื่อนสนิทดังแข่งกับเสียงคุยของบุคคลรอบข้าง ซีวอนก็เป็นแบบนี้ มั่นใจในตัวเองสูง จนบางทีทงเฮก็ว่ามึงมั่นใจไปนะ =_=

     

     

     

     

     

    "กูได้ที่สามสิบเก้าของชั้น  เหี้ยจริงๆ"

     

    "กูอ่ะหนึ่งแน่ๆ"

     

    "มึงได้ที่สอง"

     

    "ห๊ะ! ใคร!? ใครมันได้ที่หนึ่ง!"

     

     

     

     

    "อี ฮยอกแจ" เขาพูดพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ต่างจากซีวอนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจนคนรอบข้างเริ่มจะตีตัวออกห่างพวกเขาทั้งสองแล้ว

     

     

    "อี ฮยอกแจ! อี ฮยอกแจอีกแล้วหรอ" ทงเฮไม่ได้ตอบอะไรนอกจากรอยยิ้มที่ยังคงมีอยู่ แล้วเดินออกมาจากที่ตรงนั้นตรงไปยังโต๊ะที่นั่งใต้ตึกเป็นประจำทุกวัน

     

     

     

    ทำไมทงเฮจะไม่รู้สาเหตุที่เพื่อนของเขาหงุดหงิดขนาดนี้  ซีวอนน่ะคว้าลำดับที่หนึ่งมาตลอดตั้งแต่ม.ต้น แต่พอขึ้นม.ปลายเท่านั่นแหละ ลำดับที่นั้นก็โดนแย่งไปซะดื้อๆ โดยไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ฮยอกแจนั่นแหละ เด็กที่สอบเข้าม.ปลายมาด้วยคะแนนสูงที่สุดของโรงเรียน

     

     

     

    ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิดนอกจากตัวบางๆกับหน้าหวานที่ซีดๆและเรียบนิ่งทุกครั้งที่เจอ เมื่อก่อนใส่แว่นตาที่มันกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหน้าแต่ตอนนี้ถอดออกแล้วเห็นว่าโดนแกล้ง ทำให้เดือนหนึ่งต้องเปลี่ยนไปหลายอัน

     

     

     

     

    "กูจะไปกระทืบมันอีกทีดีไหม น่าหมั่นไส้"

     

     

     

    หึ.. ซีวอนเคยมีเรื่องกับฮยอกแจ  และแน่นอนว่าอี ฮยอกแจใช้ใบหน้าที่เรียบนิ่งเป็นอาวุธที่ทำให้เพื่อนเขาเจ็บใจมากๆ

     

     

     

    'แพ้แล้วอย่าพาลสิ'

     

     

     

    นั่นแหละ เพราะคำพูดสั้นๆนี่แหละทำเอาเพื่อนของเขายั้งมือไว้ไม่ไหว ปล่อยหมัดไปที่หน้าหวาน  แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้และยังไม่เคยเจอคือ..

     

     

     

     

     

     
     

    อี ฮยอกแจน่ะ หมัดหนักมาก!

     

     

     

     

     

    วินาทีที่โดนต่อย คนตัวเล็กก็ไม่รีรอที่จะสวนกลับไปทันทีและนั่นมันทำให้ซีวอนสลบไปหนึ่งวันเต็มๆ...

     

     

     

     

     


     

    โหดสัดมั้ยล่ะ

     

     

     

     

     

    ถ้าเปรียบฮยอกแจเป็นโทรทัศน์ทงเฮมั่นใจแน่ว่ามันคือจอขาวดำไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าภาพในจอสี่เหลี่ยมนั่น ในขณะที่คนอื่นๆเป็นภาพสี ให้อารมณ์ที่หลากหลายน่าสนใจกว่า

     

     

     

     

     

    แต่ภาพขาวดำที่อยู่ท่ามกลางภาพสี ใครล่ะที่แตกต่าง..

     

     

     

     

     

    นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทงเฮคอยมองฮยอกแจอยู่แบบนี้ไงล่ะ

     

     

     

     

     

     

    "ไอ้เหี้ยกูเกลียดฮยอกแจโว้ย!"

     

    "น่ารักดีออก"

     

    "น่ารักกับผีดิ!"

     

     

    _______________________

     

     

     

    เหมือนวันนี้จะเป็นวันที่โชคร้ายสำหรับซีวอน หลังจากที่ครูฟิสิกส์ประกาศว่าติดธุระด่วน ก็จัดการฝากฝังเด็กห้องวิทย์คณิตไว้กับครูห้องโครงการฯ

     

     

     

     

     

    ห้องที่ฮยอกแจอยู่น่ะ...

     

     

     

     

    "เหี้ยยยยยยยย กูไม่อยากเจอหน้ามันโว้ย"

     

    "เลิกหอนซักทีซีวอน กูรำคาญ ได้ยินแล้วคันหูมากๆเสียงมึงเนี่ย"

     

     

    ระหว่างทางเดินเข้าไปยังห้องเรียนก็มีเสียงของซีวอนคอยบ่นงุ้งงิ้งเหมือนแมลงหวี่บินตอมหูอยู่ไม่ขาดเสียง คือทงเฮก็รำคาญไงแต่รีบๆเดินให้ถึงห้องดีกว่าเดี๋ยวมันก็เงียบไปเองแหละมั้ง

     

     

     

     

     

     

    ปัง ปัง ปัง !

     

     

    เสียงตบที่โต๊ะเรียกความสนใจจากเด็กในห้องได้ดีจากที่มีคนเยอะอยู่แล้วยิ่งเยอะเข้าไปอีกเมื่อเด็กนักเรียนสองห้องมาอัดกันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่นี้

     

     

     

    "ประกาศคะแนนสอบของห้องสอง วิชาฟิสิกส์ของครูซอนมีนะคะ"

     

     

     

     

     

     



     

    เหี้ย..

     

     

     




     

     

     

    แบบนี้ก็อับอายไปยันจบมหาลัยเลยเถอะ คะแนนของเขาตกต่ำมากๆ ยิ่งวิชาฟิสิกส์ด้วยนะเป็นอะไรที่คะแนนต่ำเรี่ยราด รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

     

     

     
     

    "ครูจะบอกคะแนนเต็มยี่สิบ ของปรนัยก่อนนะคะ" ทงเฮหลับตาฟุบหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้นมา เพราะห้องสองมาอาศัยห้องหนึ่งอยู่ ที่นั่งที่พื้นจึงเป็นที่ของเขาล่ะ

     

     

     

     

     

     



     

    ไม่ให้ฟุบได้ไง กูเลขที่หนึ่ง..

     

     

     

     



     

     

    "อี ทงเฮ....แปด" ครูลดกระดาษลงเปรยตามองลอดแว่นมายังผมหน่อยๆ ก่อนจะพูดต่อ

     

    "ตกมารอบที่สี่แล้วนะทงเฮ"

     

    "เพิ่มมาตั้งสองนะครู" ได้ยินเสียงถอนหายใจกับเสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมๆกัน แต่ทงเฮก็ไม่ได้สนใจอะไร  เกรดน้อยช่างมันเหอะเอาใบจบให้ได้ก่อน

     

     

    แปดเต็มยี่สิบสำหรับเด็กสายวิทย์คณิตอย่างเขา นี่ยังน่าดีใจนิดๆนะครั้งที่แล้วทงเฮได้หกเต็มยี่สิบ โดนแม่ไล่ไปเลี้ยงควายแล้วอยู่กินกับมันไปเลย แต่ทงเฮก็ไม่ไป หน้าด้านอยู่ต่อให้แม่ถอนหายใจเล่น

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    "ชเว ซีวอน..สิบหก"

     

     

    "กูว่าครูต้องตรวจผิดแน่ๆทงเฮ กูมั่นใจตอนสอบมากๆ"

     

    "เงียบซะ ถ้ามึงผ่าน"

     

    "ไอเหี้ย..."

     

     

     

     

    หลังจากที่ครูประกาศคะแนนปรนัยเสร็จทงเฮก็แทบจะเข้าเฝ้าพระอินทร์ นอกจากจะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วจิตใจยังห่อเหี่ยวมากกว่าเดิมอีก  เขาเห็นครูเรียกฮยอกแจไปคุยอะไรก็ไม่รู้ รู้แค่หัวกลมๆนั่นเอาแต่พยักหน้ารับและพูดว่าครับ  ครับ ครับ

     

     

     

     

     

    ก็น่ารักดี..

     

     

     

     

    "อี ทงเฮ"

     

    "หะ คะ...ครับ"

     

    "ตามฮยอกแจไปที่ห้องคณิตศาสตร์"

     

    "เอ่อ.."

     

    "ไปทำงานมาเพิ่มคะแนน" เพียงเท่านั้นทงเฮก็จำต้องเดินตามคนตัวเล็กออกมา โดยมีเสียงของมารอย่างซีวอนดังขึ้นมาตามหลัง

     

     

     

     

    "ขอให้รอดมือรอดตีนนะมึง!!"

     

     

    ______________________

     

     

     

    ทงเฮบอกเลยว่าการได้มาอยู่ในห้องเดียวกับคนที่ตัวเองชอบเพียงแค่สองคนตามลำพังแบบนี้แม่งโคตรอึดอัด

     

    .

     

    อี ทงเฮ ชอบ ฮยอกแจ..

     

     

     

    ไม่ใช่ไม่อยากอยู่ด้วยนะ แต่หน้าฮยอกแจแม่ งหน้าเดียวมากอ่ะ กลัวตีนกาขึ้นหรือไงทำไมไม่ยิ้มบ้าง ถ้าเปรียบเป็นอีโมฮยอกแจก็คงเป็นอีตัวนี้อะ .__.

     

    จะมองว่าน่ารักก็ใช่แต่แบบน่ากลัวมากกว่าไม่พูดไม่จามาถึงก็เปิดหนังสือแล้วก็ขีดๆไฮไลต์ไว้เต็มหนังสือ มีเขียนสูตรไปบ้างนิดหน่อย เสร็จแล้วก็...ปิด

     

     

     

     

    ปิดหนังสือแล้วยื่นให้..

     

     

     
     

     

    "เอาไปเขียนใส่สมุด เราจดให้แล้ว"

     

    "เขียนยังไงอะ"

     

    "ก็จากที่เราไฮไลต์ไว้ให้ ส่วนแบบฝึกหัดก็มีวิธีทำให้ดูแล้ว" ทงเฮอยากจะกรีดร้อง ฮยอกแจพูดกับเขาด้วยประโยคที่ยาวมากๆ โอ้ย ดีใจ ตั้งแต่แอบมองมานี่ยาวสุดๆเลยนะ

     

    "อ่อ ขอบใจ"ผมพยักหน้าพลางรับหนังสือมาไว้ที่ตัว พอดีกระเป๋าอยู่ในห้อง ที่หยิบติดมือมามีแค่ปากกาแดงล้วนๆ

     

     

     

    "อย่าบอกครูว่าเราทำให้นะ" เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับหน้าเดียวของฮยอกแจ ทงเฮขมวดคิ้วสงสัยและเหมือนว่าฮยอกแจจะรู้

     

    "จริงๆแล้วครูแค่ให้เรามาสอนทงเฮน่ะ" คิ้วเข้มคลายออกเมื่อได้ยินคำตอบ ก่นจะตอบตกลงไป  ยังไงเขาก็ขี้เกียจต้องมานั่งเรียนอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้คนสอนจะน่ารักก็เถอะ

     

    "เหลือเวลาอีกชั่วโมง จะไปทำอะไรก็ไปนะ" ทงเฮอยากจะเข้าข้างตัวเองจริงๆเลยว่าฮยอกแจคุยกับเขาเยอะมากๆอ่ะ  #ง้อวววเขิน

     

     

     

     

    "ไปด้วยกันได้ปะ"

     

    "หืม?"

     

    "ไปโรงยิมเป็นเพื่อนหน่อยดิ" หลังจากพูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะคว้ามือขาวของคนที่นั่งเหวอให้ลุกตามไปด้วย

     

     

     

     

     

     

     

    โรงยิมที่ในตอนนี้ไม่มีแม้แต่เงาของนักเรียน คุณครู หรือ แม้กระทั่งภารโรงถูกเปิดขึ้นโดยทงเฮที่มาพร้อมกับฮยอกแจ   มือหนาออกแรงดันคนตัวบางให้เข้าไปข้างในก่อนจะปิดประตูเบาๆและเดินไปเปิดพัดลมแถวๆนั้น

     

     

     

     

     

    "..........." ทงเฮมองคนที่เข้ามาก่อน ด้วยความขันปนๆกับเอ็นดู ฮยอกแจตอนมองไปรอบๆโรงยิมที่มืดสลัวๆแล้วลูบแขนตัวเองเบาๆเพราะไอของความเย็นของแอร์ที่ยังคงมีอยู่นั้นน่ารักมากจริงๆ

     

     

     

     

    "มานั่งเถอะ แค่อยากพามาที่เงียบๆน่ะ" ฮยอกแจไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆทงเฮแค่นั้น

     

     

     

    ร่างหนายิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ก่อนจะหยิบไอโฟนเครื่องคู่ใจออกมาจากกระเป๋านักเรียนเสียบหูฟังยัดใส่หูข้างขวาส่วนอีกข้างก็ยื่นไปใส่ให้คนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ แอบขำตอนที่เห็นว่าฮยอกแจสะดุ้งด้วยแหละ

     

     

     

     

    "ฮยอกแจ.."

     

    "หือ"

     

    "ทำไมไม่ค่อยยิ้มเลยล่ะ"

     

    "ไม่รู้สิ"

     

    "แล้วเคยยิ้มบ้างมั้ยเนี่ย"

     

    "เคยสิ  แต่ตอนยิ้มก็ไม่รู้ตัวว่ายิ้มไปตั้งแต่เมื่อไหร่" ทงเฮลอบมองใบหน้าหวานที่เรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ สองขาเล็กแกว่งไปมาเบาๆ ดวงตาเรียวเอาแต่เหม่อมองออกไปข้างหน้าที่มีเพียงสแตนที่นั่งกับผนังสีฟ้าอ่อน

     

     

     

    "แล้วจะรู้ได้ไงอะ"

     

    "ตอนนั้นพ่อถ่ายรูปไว้น่ะ" ทงเฮพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะถามต่อไปอีก

     

     

     

    "แล้วรู้สึกยังไงเวลามีคนแกล้ง"

     

    "เราก็ไม่ใช่คนดีอะไรขนาดที่จะไม่คิดโกรธหรอกนะ" คำพูดนั้นทำเอาทงเฮยิ้มออกมาบางๆ

     

    "แล้วรู้มั้ยว่ามีคนที่ชอบด้วย.."

     

    "ก็... หะ เห้ย!"

     

     

     

     




     

     

    พลั่ก!

     

     

     






     

    ใบหน้าคมเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ โดยมีคนกระทำนั่งอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ ทงเฮก็แค่แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเองนะ!

     

     

     

     

     

    เจ็บสัด ดาวลอยอยู่เต็มไปหมดเลยตอนนี้

     

     

     

     

     

    เข้าใจหัวอกซีวอนมากๆ ดีนะที่หนังหน้าของเขาทนแรงกระแทกได้ดีและขอบคุณสติที่ยังไม่วูบดับไปเหมือนไอ้ซีวอนด้วย

     

     



     

     

    จึ้กๆ..

     



     

     

    "เจ็บมากมั้ยอะ" แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้ทงเฮต้องหันไปมองทั้งๆที่มือยังกุมแก้มข้างที่โดยต่อยไปหมาดๆ

     

    "เจ็บมากด้วย รับผิดชอบเลย"

     

    "ขอโทษ~ เราตกใจนี่" อยากจะก้มกราบขอร้องให้เปลี่ยนหน้าบ้างก็ได้ แม้แต่สีหน้ารู้สึกผิดก็ยังคงเรียบนิ่ง ถ้าไม่สังเกตแววตาใสๆนั่นที่เหมือนจะกำลังเอ่ยบอกว่าขอโทษอยู่

     

    ดูแลเราเลยนะ เพียงเท่านั้นริมฝีปากเล็กก็ยู่งอนอย่างเอาแต่ใจ และมันยิ่งน่ารักมากๆในสายตาของทงเฮเมื่อมันเป็นฮยอกแจ

     

     

     

     

    แต่เดี๋ยวนะ..

     

     

     

     

     

    ยู่ปาก!!

     

     

     

     

    ฮยอกแจทำหน้างอนใส่ทงเฮ!!

     

     

     


     

     

    น่าเสียดายที่เขาไม่ได้กดชัตเตอร์เก็บไว้ดู โอ๊ย ฮยอกแจทำไมน่ารักแบบนี้ TT

     

     

     

     

    ทำหน้าแบบอื่นก็น่ารักดีนี่

     

    อืมมมมม รู้

     

    รู้ได้ไง

     

    ก็นายเพิ่งบอกเมื่อกี้นี่ไง

     

     

     

     

    ไปทำแผลดีกว่านะทงเฮฮยอกแจลุกขึ้นคว้าแขนทงเฮให้ลุกตามออกมา  ร่างหนายิ้มออกมาเล็กๆเมื่อเห็นมือขาวที่กำลังจับแขนเขาไว้แน่น และเพราะมัวแต่มองมือที่จับแขนนั่นจนไม่ได้มองอื่นๆ ทำให้ไม่ทันได้มองเสียงโหวกเหวกของนักเรียนที่กำลังเล่นบอลในสนามจน..

     

    เห้ย ทงเฮ!”

     

     

     

     


     

     

    พลั่ก!!

     

     

     

     



     

    ลูกหนังสีขาวลายดำลอยมายังเขาและเป็นฮยอกแจที่เห็นและผลักเขาออกจนคนรับเคราะห์นั่นกลายเป็นฮยอกแจซะเอง

     

    จมูกรั้นมีเลือดไหลออกมาจนคนมองตกใจ รีบพาทั้งตัวเองและคนตัวเล็กไปยังห้องพยาบาล ส่วนพวกเตะบอลก็ช่างแม่ งก่อนเถอะ เวลานี้จะเอาอะไรไปหาเรื่องมันเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่แบบนี้

     

     

     

     



     

    ห้องพยาบาลเงียบสงบ ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตคนอื่นนอกจากพวกเขาสองคน  ป้ายที่ติดอยู่ตรงตู้กระจกยาเขียนเอาไว้ว่าห้ามหยิบยาใช้เองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เวลานี้คนให้อนุญาตไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เพราะฉะนั้นสรุปว่าอี ทงเฮคนนี้จะทำแผลให้ฮยอกแจเอง

     

     

    เจ็บมั้ยเนี่ย ทำไมเอาหน้ารับแบบนั้นล่ะ

     

    เปล่าซะหน่อย  แค่หลบไม่ทัน

     

    ทีหลังไม่เอาแล้วนะ มันจะโดนเราก็ช่างมัน ทงเฮพูดพลางใช้ทิชชู่ซับเลือดให้ร่างบาง ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำแข็งในตู้เย็นของห้องพยาบาลมาใส่ผ้าและประคบให้เบาๆ

     

     

    ดูดิ แดงหมดเลย ดั้งจะหักป้ะเนี่ย

     

     

    ตัวก็เล็กชนนิดนึงก็ปลิวแล้วมั้ง กินข้าวให้มันเยอะๆหน่อย

     

     

    ผิวขาวๆนี่แดงง่ายเนอะ อย่างนี้เมื่อไหร่จะหาย

     

     


     

    คนตัวเล็กได้แต่นอนมองทงเฮที่ทำหน้าที่เป็นคนทำแผลให้ตาแป๋ว ทงเฮเอาแต่บ่นๆๆซึ่งฟังๆไปมันก็เพลินดีเหมือนกัน  เพลินมากจนจะหลับ..

     

    ดวงตาเล็กปรืออย่างคนที่จะยื้อความง่วงไว้สุดชีวิต นี่ทงเฮบ่นให้หลับหรอ ง่วงมากอะบอกตรงๆ ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้เปลือกตาบางก็ทำหน้าที่ปิดลงไปช้าๆ พร้อมกับภาพสุดท้ายที่ฮยอกแจเห็นก่อนจะมืดสนิท

     

     

     

     

    อี ทงเฮที่ยิ้มอยู่..

     

     

     

     

     

     

     

     

    แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะฮยอกแจ..

     

     

     

    ริมฝีปากจรดลงกับหน้าผากมนที่มีปรอยผมอยู่เล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆผละออก ก่อนจะไปจัดการกับแผลของตัวเองบ้าง

     


     

     

     

    หมับ!

     

     

     
     

    แรงจับที่ข้อมือทำเอาทงเฮตกใจไปนิดนึงก่อนจะหันไป แต่ก็ต้องยกมือที่ไม่ได้ถูกจับกุมขึ้นมาบังหน้าหล่อๆที่มีรอยแดงอยู่ก่อนหน้าแล้ว

     

     

     

     

     


     

    โอ้ย T^T ฮยอกแจจะต่อยกันอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

    แปะๆ

     

     

     

     

     

     

     

    มาจูบหน้าผากเราแบบนี้ชอบเราหรือไง แขนเล็กที่ตอนแรกง้างทำท่าเหมือนพร้อมจะฮุกมายังเขา เปลี่ยนมาเป็นตบเบาๆที่ไหล่  ทงเฮรู้สึกเหมือนโดนฮยอกแจโอบเลยอ่ะ ฮืออออ เขิน

     

    แล้วถ้าบอกว่าใช่อ่ะ

     

    แล้วต้องทำยังไงไม่รู้หรอ

     

     

     

     

     

     

     








     

     

    เป็นแฟนกันนะ!”

     

     

     

    เป็นแฟนกันๆๆๆ

     

     

    เราชอบฮยอกแจ ชอบมานานแล้วด้วย ชอบมากๆ ชอบที่สุดในโลกเลย!”

     

     

     

     

     

    อืม..

     

     

     

     

    วันเกิดปีนี้เราก็ขอให้ทงเฮทำให้เรายิ้มบ่อยๆด้วย

     

     

     

     

     

    ไม่คิดว่าจะเป็นจริงแฮะ

     

     

     

     

     




     

    เราก็.......ชอบทงเฮนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

    END.

     

     

    TALK : #HappyEunhyukDay !!! สามสิบแล้วอึนน้อย มีความสุขมากๆน้า อยู่เป็นกระสอบทรายให้พี่ทงเฮไปเรื่อยๆ อย่าได้เจ็บป่วย ขอให้น่ารักแบบนี้ตลอดไป อายุวัณโณ สุขัง พลัง นะฮยอกเอ๋ย

    TALK2: ถึงคนอ่านที่รักของเราทุกคน ขอบคุณที่ยังติดตามและเม้นกันอยู่น้า ขอบคุณมากๆ
    ถึงแม้เราจะไม่ได้อัพบ่อยก็ตาม
    T^T ขอบคุณมากจริงๆ หวังว่าSFนี้จะอ่านแก้ขัดฟิคเรื่องยาวไปก่อนน้า แล้วจะรีบมาต่อให้นะคะ <3

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×