ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♦ Necessary ’ (HaeEun)

    ลำดับตอนที่ #8 : - Necessary #8 200%!

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 58


    Necessary #8

    G o o d L u c k .

    Note : เอาไปเลย200% เพราะเค้าคิดว่ามันยาวมาก .__. ถ้าลืมตอนนี้ไปแล้วก็อ่านใหม่ตั้งแต่ต้นน้าาา

     

     

     

     

    "แต่กูกำลังจะหมั้น.."

     

     

     

     

    เหมือนถูกฟาดแรงๆด้วยของแข็ง เพียงแค่ประโยคสั้นๆที่ออกมาจากปากของทงเฮทำเอาฮยอกแจแทบจะล้มทั้งยืน  กำลังจะหมั้นงั้นหรอ เป็นเขาคนเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกเจ็บแบบนี้

     

     

     

     

    "...หรอ.. ย..ยินดีด้วยนะ"ฮยอกแจรู้สึกว่าการบังคับเสียงไม่ให้สั่นในตอนนี้มันช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาฝืนยิ้มที่มองยังไงก็รู้ว่าไม่เต็มใจไปให้ก่อนจะเดินไปยังห้องนอน

     

     

     

     

    คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มขนาดคิงไซส์แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า เวลานี้ฮยอกแจต้องการหมอนใบโตๆซักใบให้เป็นที่รองรับน้ำใสๆในตาที่ทำท่าจะไหลอยู่รอมร่อ  แปลกดีเหมือนกัน ทำไมต้องเป็นเขาคนเดียวที่มานั่งเสียใจอยู่แบบนี้  ที่แย่ไปกว่านั้นคือฮยอกแจ..โง่เรื่องหัวใจ..

     

    เขาไม่แน่ใจว่าการที่ทงเฮคอยห่วงใย คอยทำนู่นนี่ให้มันเป็นการแสดงความรักในแบบที่พี่ชายเขาทำให้น้องชายหรือเปล่า  การแสดงที่บ่งบอกว่าห่วงว่าหวงนั่นมันก็แค่พี่ชายคนนึงที่กำลังหวงน้องชาย  เพราะกว่าค่อนชีวิตของทงเฮก็อยู่มากับเขาตลอดนี่  คงไม่แปลกอะไรถ้าทงเฮจะแสดงออกมาแบบนั้น

     

    ยิ่งคิดมาถึงตรงนี้ยิ่งรู้สึกเจ็บจนต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ อดคิดเข้าข้างตัวเองไปไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเขาเป็นที่หนึ่งของทงเฮเสมอ น่าขำที่วันนี้ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่เขาอีกแล้ว..

     

     

     

    "ฮยอกแจ..."

     

    "......."

     

    "ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ"

     

    ฮยอกแจเปิดผ้าห่มที่คลุมหน้าออกก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วฉีกยิ้มให้เหมือนไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องก่อนหน้านี้

     

     

     

    ทั้งที่ข้างในเขาอยากจะตะโกนถามดังๆไปว่ายกเลิกการหมั้นไม่ได้หรอ

     

     

     

     

     

    "หิวแล้วหรอ  ป่ะ.. ไปกินข้าวกัน" สองแขนเล็กสอดเข้าไปคล้องกับแขนของคนเป็นพี่ก่อนจะออกแรงดึงให้ไปด้วยกัน แต่ทงเฮกลับรั้งไว้

     

    "รู้มั้ยว่ามึงเป็นคนที่โกหกได้แย่สุดๆไปเลย"ทงเฮรั้งตัวของฮยอกแจเข้ามาจนใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง ไม่นานทงเฮก็รู้สึกถึงสัมผัสที่เปียกชื้นซึมเข้ามาในผิวที่อยู่ใต้เสื้อผ้า

     

     

    "......"

     

    "เจ็บมากมั้ยฮยอกแจ  กูก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ามึงเลยนะ"

     

    "ฮึก...ฮยอก..ดีใจกับทงเฮ ...ฮึก..ต่างหาก"น้ำเสียงอู้อี้ที่พูดบอกสลับกับเสียงสะอื้นเป็นตัวย้ำได้ดีว่าทงเฮทำเด็กน้อยของเขาร้องไห้อีกแล้ว..

     

    "หรอ..งั้นถ้ากูหมั้นมึงก็จะมีความสุขใช่มั้ยฮยอกแจ"

     

    "ฮึก..ไม่เอา..ทงเฮ.."คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมามองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ  ใบหน้าหวานที่เขาชอบมองก็เลอะไปด้วยคราบน้ำตาจนทงเฮอดไม่ได้ที่จะส่งมือเข้าไปเช็ดให้เบาๆ

     

    "ไม่อยากให้ร้องไห้เลย ไม่ร้องนะเด็กโง่"

     

    "........." ฮยอกแจกัดริมฝีปากล่างจนมันแดงฝาด เสียงสะอื้นยังคงมีมาให้ได้ยินเรื่อยๆแต่ต่างจากน้ำตาที่มันหยุดไหลไปแล้ว

     

    "พ่อบังคับให้กูหมั้น ไม่ได้บังคับให้กูรักเขาซักหน่อย"

     

    "......."

     

    "หัวใจกูเนี่ยมีมึงอยู่เต็มไปหมดเลย.. ฝากไว้ที่มึงก่อนได้รึเปล่า"

     

    “…….”

     

     

    ฮยอกแจไม่รู้ว่าตอนนั้นเขายิ้มกว้างมากแค่ไหน รู้แค่ว่าในใจมันเต้นแรงมากๆ มากจนตัวเขาเองได้ยินเสียงเต้นของมันเลยล่ะ..

     

     

    "อือ!" คนตัวเล็กพยักหน้ารับแรงๆก่อนจะใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่มันคงเลอะอยู่ให้หมดไปจากใบหน้า

     

    "หัวใจกูสำคัญมากนะ อย่าทิ้งขว้างนะรู้มั้ย เดี๋ยวกูตาย.."ทงเฮพูดพร้อมกับส่งมือไปเกลี่ยแก้มใสนั้นเบาๆ

     

    "แลกกันมั้ย.."

     

    "หืม?" ร่างบางกำมือข้างหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับอีกข้างที่ยื่นไปจับมือของทงเฮขึ้นมาแบไว้ตรงหน้า ก่อนจะวางมือข้างที่กำลงบนมือของอีกฝ่าย

     

    "ห้ามทำมันเจ็บเลยนะ"ร่างหนายิ้มออกมา ก่อนจะส่งมือขึ้นไปยีหัวเล็กจนมันยุ่งเหยิง

     

    "ไม่สัญญาหรอก..แต่กูจะดูแลมันให้ดีที่สุด  ถ้าวันไหนกูทำมันเจ็บ ก็อยากให้รู้ไว้ว่ากูไม่ได้ตั้งใจ...กูจำเป็นต้องทำ"

     

    "วันไหนตั้งใจ ทงเฮตายแน่ๆ! ฮยอกจะเอาหัวใจทงเฮไปเผาทิ้ง"

     

    "เด็กโง่ รักกูแล้วหรือไง?"

     

    "ว่าแต่คนอื่นโง่ ทงเฮก็..."

     

     

     

     


     

     

     

    จุ๊บ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "เลิกบ่นซักทีกูหิวข้าว"

     

    "ทงเฮ!!"

    .

    .

    .

    .

     

    "อีกห้านาทีถ้ายังไม่ลงมา กูจะตามไปป้อนข้าวถึงที่เลยนะ"

     

    "งั้นดีเลย!"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ป้อนด้วยปากนะ"

     

     

     

     

     

     

     

    "คนหื่น!"ร่างหนาได้แต่ยิ้มรับ แล้วก้าวเดินลงบันไดไป พลางบอกเวลาแกล้งคนตัวเล็กไปด้วย

     

    "ฮยอกแจเหลืออีกหนึ่งนาที!"

     

    "รู้แล้วววววว!"สิ้นเสียงตอบรับก็มีร่างเล็กๆวิ่งตัวปลิวลงมาจากบันไดบ้านจนทงเฮหัวเราะออกมาเบาๆ  แม่บ้านที่เห็นก็อดจะยิ้มตามไม่ได้เช่นกันเมื่อตอนก่อนหน้านี้คุณหนูของบ้านมีอาการเซื่องซึมแปลกๆแต่พอมาเห็นยิ้มแบบนี้หล่อนเองก็สบายใจ

     

    อาหารมื้อนี้มีเพียงทงเฮและฮยอกแจสองคนเท่านั้นที่ทานส่วนพ่อและแม่ของเขานั้นออกไปทำธุระข้างนอกด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี ทงเฮไม่อยากจะเจอหน้าพ่อของเขาตอนนี้เดี๋ยวจะทะเลาะกันซะเปล่าๆ

     

     

    แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเขายอมหมั้นตามที่พ่อบอก พ่อจะหยุดอยู่แค่นั้นหรือเปล่า เพราะถ้าไม่..ทงเฮรับรองว่าจะไม่ใช่แค่พ่อของเขาแน่ๆที่เสียหน้า

     

     

    อย่างน้อยอี คังซิกก็สั่งเขาได้แต่ตัว  ส่วนหัวใจน่ะบังคับกันไม่ได้หรอก.. ก็ตอนนี้หัวใจมันไม่ได้อยู่ที่เขานี่นะ

     

     

    Necessary #8 (ต่อ)

     

    ช่วงเย็นของวันหลังจากที่มื้อเที่ยงผ่านไปและหลายชั่วโมงกับการมองเด็กตัวขาวนี่หลับ ทงเฮลงมายังชั้นล่างของบ้านในขณะที่ปล่อยฮยอกแจให้ไปล้างหน้าล้างตาอยู่บนห้อง

     

     

    "ป้าควอนครับ รู้รึเปล่าครับว่าพ่อกับแม่ผมจะกลับมาเมื่อไหร่" ร่างหนาเอ่ยถามแม่บ้านคนสนิทที่อยู่รับใช้ ตระกูลอีมามากกว่าสิบปี ทงเฮเคารพป้าควอนเสมือนคนคนหนึ่งในครอบครัว

     

    "ไม่ทราบค่ะคุณหนู คุณท่านไม่ได้บอกเอาไว้  คุณหนูจะออกไปไหนหรอคะ?"

     

    "จะพาเด็กน้อยไปเที่ยวเล่นแถวๆนี้ล่ะครับ"ทงเฮเอ่ยอย่างยิ้มๆ แม่บ้านที่เห็นก็อดจะยิ้มให้กับความน่ารักของทงเฮไม่ได้  นับวันคุณหนูฮยอกแจยิ่งมีอิทธิพลต่อคุณหนูทงเฮเหลือเกิน

     

    "งั้นเดี๋ยวป้าไปบอกให้ยามไปเอากุญแจรถให้นะคะ"

     

    "เอางั้นก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับ ป้าควอน" คุณหนูคนโตของบ้านโค้งให้กับคนที่อายุมากกว่าก่อนจะเหลือบมองที่บันได เมื่อหางตารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหว

     

     

     

    อี ฮยอกแจ กำลังเกาะขอบราวบันไดเหมือนที่ทำตอนเด็กๆไม่มีผิด

     

     

     

    ตัวเล็กๆนั่นกำลังระวังเหมือนไม่ให้ผมรับรู้ถึงการลงมาของเขา  ถ้าสิงบันไดได้ผมว่าเขาคงทำไปแล้วล่ะ ฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องกำลังเข้าใกล้ทงเฮมากขึ้นในขณะที่ทงเฮแกล้งทำเป็นขยับไปให้ไกลกว่าเดิม

     

     

    นอกจากผิวขาวๆนั่นของฮยอกแจทงเฮก็คิดว่าไม่มีอะไรที่จะเนียนไปมากกว่านั้นอีกแล้ว

     

     

     

     

     

    เอาวะ.. เล่นกับเขาหน่อยแล้วกัน

     

     

     

    ฟึ่บ!

     

     

    ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าหายไปทันทีที่มือเล็กนั่นเอื้อมมาปิดไว้

     

     

    "ใครปิดเนี่ย มองไม่เห็น เอาออกไปเลยนะ"

     

    "......." ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แต่สิ่งที่ตามมาทีหลังคือแรงกระโดดขึ้นมาเกาะรอบคอเขาแน่น พร้อมๆกับขาเล็กที่เกี่ยวเอวหนาของเขาไว้

     

    "ฮยอกแจ.."

     

    "อื้อ ฮยอกเอง!" เด็กบนหลังยิ้มตาหยีจนแทบจะปิด ทงเฮเอียงหน้าไปหาเล็กน้อยก่อนจะพูดแกล้งไปเพื่อความสะใจ..

     

    "น้ำหนักขึ้นปะ  หนักขึ้นนะเนี่ย"

     

     

    เพี๊ยะ!

     

     

    เสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับแรงตีที่หัวไหล่และทงเฮคิดว่าไม่นานมันจะเป็นรอยแดงสามสี่นิ้วแน่ๆ

     

    "ว่าฮยอกอ้วนหรอ!?"

     

    "ถามว่าน้ำหนักขึ้นรึเปล่า ให้กูคิดว่ามึงผอมหรอ" ร่างหนายกยิ้มอย่างกวนๆรู้สึกดีที่แกล้งให้ร่างบางหงุดหงิดได้ 

     

    "งั้นฮยอกจะไม่ลง!"

     

    "หึ" ส่งเสียงในลำคอก่อนจะใช้แขนแกร่งรองข้อพับของฮยอกแจไว้แล้วเริ่มออกเดินไปยังหน้าบ้านที่มีรถที่น้ายามเตรียมมารอไว้อยู่แล้ว

     

     

     

     

    "เดี๋ยววววว จะไปไหน"

     

    "พาไปรับลม หางจะได้ไม่ตก"

     

    "ไม่ใช่หมานะ!"

     

    "หน้าย่นเหมือนปั๊กเลย"

     

    "ทงเฮ!" ทงเฮเอี้ยวตัวไปมองคนที่เกาะหลังอยู่ก่อนยิ้มออกมารอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน

     

    "อ๊ากกกกกก ฮยอกแจปล่อยเดี๋ยวนี้ เจ็บๆๆ" ทงเฮเกือบจะรับแรงฮยอกแจด้วยแขนข้างเดียวไม่ไหวอยู่แล้ว เล่นกัดซะจมเขี้ยวแบบนี้ นอกจากไหล่ที่จะแดงแล้ว เห็นจะเป็นคอเนี่ยล่ะทีคิดว่าจะมีรอยแดงจากฟันแน่นอน

     

     

     

    เผลอๆมันอาจจะช้ำเขียวจนม่วงเลยก็ได้!

     

     

     

    "เป็นหมาก็ต้องกัด"

     

    "อย่าลืมว่าเจ้าของมีสิทธิ์จะฟัดหมา!" ทงเฮว่าพลางใช้นิ้วมือหนีบจมูกเล็กไปด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    "ทงเฮ!"

     

    "เรียกอีกแล้ว ชอบหรือไงคำนี้อ่ะ" ร่างหนาจับคนตัวเล็กลงแล้วยัดเข้าไปในตัวรถ ยัดจริงๆเพราะฮยอกแจขืนรั้งตัวเอาไว้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงควายของเขาไม่ได้อยู่ดี

     

     

    ล้อเริ่มขยับหมุนออกสู่ตัวบ้านทันทีที่คนขับขึ้นไปประจำที่ ทงเฮขับช้าๆอย่างสบายอารมณ์ หลังคารถถูกเปิดออกเพื่อรับลมในตอนเย็นๆอย่างที่ได้บอกไว้ก่อนหน้า  แสงแดดสีส้มอ่อนๆของดวงอาทิตย์ที่กำลังทำหน้าที่ตกลงสู่พื้นดินไปเรื่อยๆนั้นสาดเข้ามากระทบกับใบหน้าหวานของตุ๊กตาหน้ารถ

     

    อ่า..ถ้าไม่กลัวว่ารถจะชน หรือจะไปชนใครเข้าทงเฮคิดว่าเขาไม่อยากละสายตาไปจากคนข้างๆตอนนี้เลย..

     

    ______________________

     
     

     

    "โห ที่นี่สวยอ่ะทงเฮ" ทงเฮเพียงแค่ขานรับในรับคอ ก่อนจะก้าวไปยังซุ้มจักรยานให้เช่าสำหรับปั่นเล่น ทิ้งให้ฮยอกแจได้ชื่นชมความสวยของทะเลตรงหน้าไปก่อน

     

     

     

     

    กริ๊งๆ

     

     

     

    "อ่ะ! ขะ..ขอโท..ษ... ทงเฮ!" ฮยอกแจคิดว่าเขาไปยืนขวางทางเกะกะทางรถซะแล้ว นึกว่าจะชนด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ ทงเฮคนบ้านี่แกล้งต่างหาก!

     

    "จะขึ้นรึเปล่า"

     

    "ขึ้นสิ!" ฮยอกแจเดินเข้ามาหาเขาตาเป็นประกายเหมือนเจอสิ่งที่ถูกใจ  แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อไปดวงตาใสก็เปลี่ยนเป็นสงสัยทันที

     

    "อยากขึ้นก็ต้องเรียกพี่ทงเฮก่อน"

     

    "อะไรอ่ะ!"

     

    "เร็วๆ เดี๋ยวหมดเวลาเช่านะ"

     

    "ไม่เอา ทงเฮขี้โกง จะให้ฮยอกเรียกแบบนั้นทงเฮก็ต้องเรียกตัวเองว่าพี่สิ แล้วเรียกชื่อฮยอกด้วย"

     

     

    ทงเฮนิ่งไปชั่วครู่  เหลือบตามองขึ้นด้านบนเหมือนกำลังคิดตามกับประโยคยาวๆของเด็กอย่างฮยอกแจอยู่ ก่อนจะยิ้มออกมา ชนิดที่ว่าต่อให้ฮยอกแจไม่ได้เป็นน้ำแข็งก็ละลายได้..

     

     

    "ฮยอกแจ...ถึงตัวจะหนักแต่พี่ก็ปั่นไหวนะ"

     

    ทงเฮเอ่ยยิ้มอย่างล้อๆ ส่วนคนฟังนั้นหน้าแดงไปแล้วไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่  แต่ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่อยู่ด้วยกันมา ทงเฮไม่เคยเรียกตัวเองว่าพี่เลยซักครั้ง ถึงจะกระดากปากอยู่บ้างเพราะไม่ชินแต่ถ้าได้เห็นหน้าเขินๆของคนตัวเล็กนี่ก็ยอมล่ะนะ

     

     

     

    แต่ไม่สัญญาหรอกนะว่าจะเลิกพูดหยาบๆน่ะ  มันติดเป็นสันดารแล้วนี่หว่า  ทำใจนะ..

     

     

     

    "ถึงตาเราแล้วนะ เรียกพี่เร็วๆ"

     

    "..พี่...พี่ทงเฮ.."พูดจบก็ก้มหน้างุดแล้วรีบเดินขึ้นมาซ้อนเบาะหลังทันที

     

    "ใครบอกว่าให้นั่งตรงนั้น"

     

    "หือ?"

     

    "ลุกเลยๆ" ทงเฮย้ายที่ของตัวเองลงไปยังเบาะหลังแทนฮยอกแจ ก่อนจะหันมามองหน้าคนที่ยืนงงอยู่

     

    "มานั่งได้แล้ว"

     

    "จะให้ปั่นก็ไม่บอก"ริมฝีปากบางเชิดขึ้นน้อยๆก่อนจะเดินมาขึ้นคร่อมบนจักรยาน เตรียมออกแรงปั่น แต่ติดที่ว่าทงเฮยังเอาขายันพื้นไว้อยู่..

     

    "ไม่ใช่หน้าที่....เอาขาขึ้น"

     

    "ห๊ะ!"

     

    "เอาขาขึ้นไงฮยอกแจ วางๆไปเหอะ ให้มันไม่เมื่อยน่ะ" ถึงแม้จะงงอยู่บ้างแต่ฮยอกแจก็ยอมทำตามโดยดี สองขาเล็กยกขึ้นมาวางไว้บนส่วนที่เชื่อมระหว่างคอจักรยานกับเบาะนั่งในท่านั่งคล้ายๆกับขัดสมาธิ

     

     

    ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นมาเมื่อแขนของคนข้างหลังเอื้อมมาจับแฮนด์ของจักรยานแล้วออกแรงปั่นให้เคลื่อนที่  ถึงจะตกใจกับการกระทำของทงเฮมากแค่ไหนแต่ลึกๆในใจแล้วฮยอกแจยอมรับว่ามัน.....รู้สึกดี

     

     

     

    "ไม่เมื่อยหรอทงเฮ ให้ฮยอกปั่นมั้ย"

     

    "หึ" ร่างหนาส่งเสียงหึในลำคอ ประมาณว่าไม่เมื่อยและปฏิเสธที่จะให้คนตัวเล็กมาปั่นแทน

     

    "แล้วทำไมต้องปั่นแบบนี้  ให้ซ้อนดีๆก็ได้ คนมองหมด.."

    .

    .

    .

    .

     

    "ก็กูอยากกอดมึงนี่"

     

     

     

     

    อ่า...ทงเฮนี่อันตรายและเสี่ยวสุดๆเลยคุณว่ามั้ย

     

     

     

    "หึหึ  หน้าแดงนะเด็กโง่" ฮยอกแจหุบยิ้มและหันไปแยกเขี้ยวใส่คนที่รับหน้าที่เป็นคนปั่นที่ยิ้มได้แบบน่าหมั่นไส้ที่สุดในโลก

     

     

     

     

     









     

     

    ปริ๊น!  ปริ๊นนนนน!~

     

     

     

     

     

    เสียงบีบแตรที่ดังค้างอยู่ข้างหลัง ทำให้ทงเฮต้องเบรกจักรยานไว้ข้างทางบนฟุตบาทก่อนจะหันไปหาเสียงต้นเหตุ

     

    รถลีมูซีนสีดำคันใหญ่ที่ติดฟิล์มดำ..ไม่ต้องเดาให้เสียเวลากระจกรถด้านหลังก็เลื่อนลงเผยให้เห็นหน้าของผู้เป็นพ่อและแม่ที่นั่งอยู่ในนั้น

     

    คุณนายอี  ส่งสายตาที่เห็นใจมายังเขาและนั่นทำให้ทงเฮมั่นใจว่าการมาของพ่อครั้งนี้คงไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องดีแน่ๆ

     

     

    "....ไปรับหนูซึลกิที่อยู่ที่นั่นและพาเธอกลับบ้าน"

     

    "........."

     

    "ถ้าแกไม่ทำทุกอย่างที่ตกลงกันไว้ถือเป็นโมฆะ" ร่างหนากัดฟันสงบอารมณ์จนกรามขึ้นมาเด่นชัด ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นหนึ่งมาไว้แล้วถือไว้ข้างลำตัว  ไม่สิ..เรียกว่าขยำไว้ดีกว่า  

     

     

    เด็กน้อยของทงเฮได้แต่นั่งมองผู้ใหญ่ทั้งสามสลับกันไปมาอย่างสงสัยในบทสนทนาที่พูด เพียงแต่ไม่ถามออกไปก็แค่นั้น..

     

     

    "แค่นี้ใช่มั้ยครับ"

     

    "ถ้าแกเบี้ยวไม่ไปส่งล่ะก็ แกได้เห็นดีแน่ทงเฮ"

     

    "ตั้งแต่พ่อยื่นเรื่องบ้าๆนี่มา  ผมก็ไม่คิดว่าการเจอหน้าพ่อจะมีอะไรที่ดีแล้วล่ะครับ" ร่างหนาพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะเอ่ยลาออกมา  มองเศษกระดาษในมือที่มีตัวอักษรเขียนไว้อยู่ ถอนหายใจแรงๆกับความซวย แล้วออกแรงปั่นจักรยานวนไปยังร้านที่เช่า

     

     

     

     

    ' หน้าห้าง xxx ร้านกาแฟx ชุดเดรสสั้นสีขาวดำ สะพายกระเป๋าสีแดง ผมยาวลอนสีน้ำตาลอ่อน  '

     

     

     

     

    ทำอย่างกับเขาเป็นพวกนักทวงหนี้..

     

    ______________________________

     

     

     

    ระหว่างทางบนถนน ไม่มีใครเอ่ยพูดใดๆหลังจากออกมาจากที่นั่น ทงเฮต้องขับรถออกมาเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว  ไม่อยากให้การที่ไปส่งบ้านมืดๆค่ำๆจะเป็นช่องว่างเปิดโอกาสให้ทางครอบครัวนั้นเชิญให้ร่วมโต๊ะกินข้าว

     

     

     

    จะว่าไร้มารยาทก็ได้  แต่ทงเฮไม่ชอบจริงๆ ถึงแม้จะไม่เคยเจอหน้ากันก็ตาม..

     

     

     

    "ต้องไปรับ'เขา'หรอทงเฮ.."

     

    "อืม.."

     

     

    และนั่นเป็นบทสนทนาแรกและสุดท้ายบนรถ ก่อนที่ฮยอกแจจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย

     

     

     

     

     

    "ฮยอกแจ..ตื่น จะถึงแล้วนะ" ทงเฮหันมากระตุกชายเสื้อของคนข้างกายเบาๆ เมื่อตนใกล้จะถึงห้างสรรพสินค้าที่ว่าที่คู่หมั้นของตนรออยู่

     

    "อือ..." ถึงแม้สถานการณ์ตรงหน้าจะทำให้เขาเบื่อหรือเซ็งมากแค่ไหน  แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่ทำให้เขายิ้มได้  ก็ยังคงเป็น อี ฮยอกแจ อยู่ดี...

     

     

     

     

     

    Rrrrrrr

     

    เสียงร้องของโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างหนาเหลือบไปมองโทรศัพท์ของตนแต่หน้าจอกลับมืดสนิทก่อนจะหันไปหาคนตัวเล็กที่จ้องหน้าจอมือถือสลับกับหน้าของเขา  สีหน้าไม่มั่นใจแบบนั้นหมายความว่าไง?..

     

     

     

    "คือ...พี่เยซองเขา.." ไม่ต้องรอให้พูดจบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางก็ถูกทงเฮแย่งมาไว้กับตัว   กดรับและรีบกรอกเสียงลงไปตามสายและกดวางอย่างรวดเร็ว

     

    "ไม่ว่าง!" มือถือของฮยอกแจถูกปิดเครื่องและเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงของทงเฮทันที

     

     

     

     

     

    วันนี้มันจะมีเรื่องขัดจังหวะอะไรนักหนา!

     

     

     

     

    "อยู่กับกูก็ต้องคุยกับกูดิ ห้ามคุยกับคนอื่น" ร่างหนาว่าน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

     

    "แล้วถ้าอยู่คนเดียว.."

     

    "คุยกับรูปกูก็ได้ หล่อเหมือนตัวจริงนั่นแหละ" ทงเฮได้ยินเสียงหัวเราะดังเล็ดลอดออกมานิดๆก่อนจะหยุดไป เมื่อรถเคลื่อนตัวมาถึงหน้าห้าง..

     

     

     

     

    สายตาคมสอดส่องตามข้างถนนทันทีที่มาถึง แล้วก็ไปสะดุดกับผู้หญิงที่มีลักษณะตามที่กระดาษใบนั้นบอก เท้าเหยียบคันเร่งไปยังที่ตรงนั้นทันทีพลางหยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นมาสวมไว้ด้วย

     

     

    กระจกรถด้านคนนั่งเลื่อนลงพร้อมกับใบหน้าของคนขับที่ยังเรียบนิ่ง หางตาเหลือบไปมองผู้หญิงคนนั้นที่ดูจะสงสัยไม่น้อย

     

     

     

    "ใช่ซึลกิหรือเปล่า"

     

    "ชะ..ใช่ค่ะ! พี่ทงเฮใช่มั้ยคะ" หญิงสาวยิ้มกว้างไม่ปกปิดความดีใจใดๆ แต่เมื่อเธอเปิดประตูเตรียมจะขึ้นรถก็ต้องหุบยิ้มทันที

     

     

     

    "เอ่อ..น้องพี่ทงเฮหรอคะ"

     

    "ไม่ใช่"

     

    "งั้นหลานแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ"

     

    "ไม่ใช่"

     

    "งั้นก็คงเป็นลูกของเพื่อนพี่" ทงเฮตวัดสายตาที่อยู่ภายใต้แว่นตาไปมองทันทีที่ได้ยิน

     

    "หยุดเดาได้แล้ว" สีหน้าของซึลกิเจื่อนลงไปเล็กน้อย  แต่สายตายังคงจ้องเด็กผู้ชายผิวขาวที่ยังนั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว  หน้าตาใสซื่อนั่นทำเธอหมั่นไส้ขึ้นมาจนอดไม่อยู่

     

     

     

    "ฮยอกแจ..ข้ามมานั่งนี่"

     

    "...?..."

     

    "อะไรนะคะพี่ทงเฮ!!"

     

    "ฉันบอกให้ฮยอกแจมานั่งที่ตรงนี้" ทงเฮตั้งใจเน้นสองพยางค์หลังและนิ้วที่ชี้บอกที่นั่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก

     

     

     

     

    ที่นั่งของคนขับ เด็กฮยอกแจนั่นมีสิทธิ์ได้นั่ง!!

     

     

     

    ร่างบางขยับเปลี่ยนที่นั่งด้วยความทุลักทุเลจนทงเฮต้องจับมือเอาไว้  โชคดีที่ฮยอกแจตัวเล็ก พื้นที่นั่งระหว่างขาของเขานั้นฮยอกแจจึงนั่งได้สบายๆ

     

     

    "ส่วนเธอก็ขึ้นมาได้แล้ว"

     

    "พี่ทงเฮไม่เสียสมาธิแย่หรอคะ ให้นั่งแบบนั้น" ทันทีที่รถเคลื่อนตัวเธอก็เปิดประเด็นทันที  ทงเฮแอบลอบถอนหายใจเบาๆแต่เหมือนคนตัวเล็กข้างหน้านี่จะรู้ ฮยอกแจสะดุ้งนิดๆก่อนจะเลื่อนแขนข้างหนึ่งมาวางไว้บนหน้าขาของเขา

     

    "แล้วจะให้ฉันทำยังไง  ให้เธอมาขับแทนแล้วให้ฉันกับฮยอกแจไปนั่งที่ตรงนั้นดีมั้ย"

     

    "พี่ทงเฮ!" หญิงสาวจิ๊ปากอย่างขัดใจ เด็กนั่นมันเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมากกว่าเขาที่เป็นถึงคู่หมั้น!

     

    "บอกทางไปบ้านเธอด้วย" ซึลกิถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่กลัวจะเสียภาพพจน์ก่อนจะบอกทางทงเฮไปคร่าวๆ ซึ่งร่างหนาก็พยักหน้ารับเพราะทางไปบ้านของเธอก็ไปทางเดียวกันกับบ้านของเขา เพียงแต่เลยไปอีกหน่อยเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

    ใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพราะถนนที่รถติด ก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของคัง ซึลกิ ทงเฮยืนยันที่จะส่งเธอเพียงหน้าบ้านเท่านั้นแม้ว่าเธอจะตื๊อเพียงใด

     

     

     

    ดูหน้าฮยอกแจด้วย  ง่วงจะแย่อยู่แล้ว จะเข้าไปทำไมให้เสียเวลา  รู้จักกันมั้ย..ก็ไม่

     

     

     

    ทงเฮถือว่าไม่จำเป็นต้องทำตัวดีหรือเรียกง่ายๆก็สร้างภาพนั่นแหละ กับคนไม่รู้จัก ให้มาปั้นหน้ายิ้มอยู่ก็เมื่อยซะเปล่าๆ..

     

     

     

    "เอ่อ...งั้น  ขับรถดีๆนะคะพี่ทงเฮ"

     

    "อืม"

     

    คำพูดสั้นๆเป็นการตัดบทสนทนาทำเอาหญิงสาวชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้ามาทงเฮจนคนมองตกใจไปนิดๆ

     

     

     

     

    ถ้าทงเฮไม่เคลื่อนหน้าหนีป่านนี้คงโดนใบหน้าที่มีแต่เครื่องสำอางนั่นฝังลงมาแน่ๆ

     

     

     

     

    "ทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อย  เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น"

     

    "!!!" เธอเบิกตากว้างก่อนจะหันหน้าหนีและเปิดประตูกระแทกเท้าเดินปึงปังออกไป

     

     

     

    ทงเฮไม่จำเป็นจะต้องสนใจ   การกระทำเมื่อครู่ทำเอาภาพที่ทงเฮมองกับผู้หญิงคนนี้ยิ่งติดลบเข้าไปอีก

     

     

     

    อาจจะมัวแต่คิดเรื่องนั้นนานไปจนไม่ทันสังเกตว่าหัวกลมๆนี่เอนมาพิงกับอกเขาซะแล้ว..

     

     

     

    "หลับซะแล้วหรอเด็กโง่"

     

     

     

     

    "รู้มั้ยพี่เกือบโดนผู้หญิงจูบแล้วนะ.."

     

     

     










     

     

    "รู้.."

     

     

     

     

     

     

     

    "!!!"

     

     

     

     

     

     

    คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมามองหน้าคนที่เหวอไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วหลับตาลงอีกครั้ง

     

     

     

     








     

    "กลิ่นเครื่องสำอางแพงๆมันจะหอมสู้แป้งเด็กกระป๋องละไม่กี่บาทได้ไง"

     

     

     

     

     

    ทงเฮยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงไปกดจมูกลงกับแก้มใสของคนที่หลับตาอยู่

     

     

     

     

     

     

    "เนอะ.."

     

     

     

    N e c e s s a r y 2 0 0 %
    TO BE CON.

     

     

    TALK: ขอส่งความเลี่ยนให้คนอ่านเอาให้แหวะไปเลย!~~ อ่านให้สนุกไปกับมันน้าาา ถึงแม้ภาษาจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เราจะพยายามเขียนให้ดีขึ้น ^^ ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกการติดตามเลยยยย

     

      

    THANK YOU FOR YOUR COMMENT
    ENJOY READING

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×