คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : - Necessary #8 200%!
Necessary #8
G o o d L u c k .
Note : เอาไปเลย200% เพราะเค้าคิดว่ามันยาวมาก .__. ถ้าลืมตอนนี้ไปแล้วก็อ่านใหม่ตั้งแต่ต้นน้าาา
"แต่กูกำลังจะหมั้น.."
เหมือนถูกฟาดแรงๆด้วยของแข็ง เพียงแค่ประโยคสั้นๆที่ออกมาจากปากของทงเฮทำเอาฮยอกแจแทบจะล้มทั้งยืน กำลังจะหมั้นงั้นหรอ เป็นเขาคนเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกเจ็บแบบนี้
"...หรอ.. ย..ยินดีด้วยนะ"ฮยอกแจรู้สึกว่าการบังคับเสียงไม่ให้สั่นในตอนนี้มันช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาฝืนยิ้มที่มองยังไงก็รู้ว่าไม่เต็มใจไปให้ก่อนจะเดินไปยังห้องนอน
คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มขนาดคิงไซส์แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า เวลานี้ฮยอกแจต้องการหมอนใบโตๆซักใบให้เป็นที่รองรับน้ำใสๆในตาที่ทำท่าจะไหลอยู่รอมร่อ แปลกดีเหมือนกัน ทำไมต้องเป็นเขาคนเดียวที่มานั่งเสียใจอยู่แบบนี้ ที่แย่ไปกว่านั้นคือฮยอกแจ..โง่เรื่องหัวใจ..
เขาไม่แน่ใจว่าการที่ทงเฮคอยห่วงใย คอยทำนู่นนี่ให้มันเป็นการแสดงความรักในแบบที่พี่ชายเขาทำให้น้องชายหรือเปล่า การแสดงที่บ่งบอกว่าห่วงว่าหวงนั่นมันก็แค่พี่ชายคนนึงที่กำลังหวงน้องชาย เพราะกว่าค่อนชีวิตของทงเฮก็อยู่มากับเขาตลอดนี่ คงไม่แปลกอะไรถ้าทงเฮจะแสดงออกมาแบบนั้น
ยิ่งคิดมาถึงตรงนี้ยิ่งรู้สึกเจ็บจนต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ อดคิดเข้าข้างตัวเองไปไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเขาเป็นที่หนึ่งของทงเฮเสมอ น่าขำที่วันนี้ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่เขาอีกแล้ว..
"ฮยอกแจ..."
"......."
"ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ"
ฮยอกแจเปิดผ้าห่มที่คลุมหน้าออกก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วฉีกยิ้มให้เหมือนไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องก่อนหน้านี้
ทั้งที่ข้างในเขาอยากจะตะโกนถามดังๆไปว่ายกเลิกการหมั้นไม่ได้หรอ
"หิวแล้วหรอ ป่ะ.. ไปกินข้าวกัน" สองแขนเล็กสอดเข้าไปคล้องกับแขนของคนเป็นพี่ก่อนจะออกแรงดึงให้ไปด้วยกัน แต่ทงเฮกลับรั้งไว้
"รู้มั้ยว่ามึงเป็นคนที่โกหกได้แย่สุดๆไปเลย"ทงเฮรั้งตัวของฮยอกแจเข้ามาจนใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง ไม่นานทงเฮก็รู้สึกถึงสัมผัสที่เปียกชื้นซึมเข้ามาในผิวที่อยู่ใต้เสื้อผ้า
"......"
"เจ็บมากมั้ยฮยอกแจ กูก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ามึงเลยนะ"
"ฮึก...ฮยอก..ดีใจกับทงเฮ ...ฮึก..ต่างหาก"น้ำเสียงอู้อี้ที่พูดบอกสลับกับเสียงสะอื้นเป็นตัวย้ำได้ดีว่าทงเฮทำเด็กน้อยของเขาร้องไห้อีกแล้ว..
"หรอ..งั้นถ้ากูหมั้นมึงก็จะมีความสุขใช่มั้ยฮยอกแจ"
"ฮึก..ไม่เอา..ทงเฮ.."คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมามองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ใบหน้าหวานที่เขาชอบมองก็เลอะไปด้วยคราบน้ำตาจนทงเฮอดไม่ได้ที่จะส่งมือเข้าไปเช็ดให้เบาๆ
"ไม่อยากให้ร้องไห้เลย ไม่ร้องนะเด็กโง่"
"........." ฮยอกแจกัดริมฝีปากล่างจนมันแดงฝาด เสียงสะอื้นยังคงมีมาให้ได้ยินเรื่อยๆแต่ต่างจากน้ำตาที่มันหยุดไหลไปแล้ว
"พ่อบังคับให้กูหมั้น ไม่ได้บังคับให้กูรักเขาซักหน่อย"
"......."
"หัวใจกูเนี่ยมีมึงอยู่เต็มไปหมดเลย.. ฝากไว้ที่มึงก่อนได้รึเปล่า"
“…….”
ฮยอกแจไม่รู้ว่าตอนนั้นเขายิ้มกว้างมากแค่ไหน รู้แค่ว่าในใจมันเต้นแรงมากๆ มากจนตัวเขาเองได้ยินเสียงเต้นของมันเลยล่ะ..
"อือ!" คนตัวเล็กพยักหน้ารับแรงๆก่อนจะใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่มันคงเลอะอยู่ให้หมดไปจากใบหน้า
"หัวใจกูสำคัญมากนะ อย่าทิ้งขว้างนะรู้มั้ย เดี๋ยวกูตาย.."ทงเฮพูดพร้อมกับส่งมือไปเกลี่ยแก้มใสนั้นเบาๆ
"แลกกันมั้ย.."
"หืม?" ร่างบางกำมือข้างหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับอีกข้างที่ยื่นไปจับมือของทงเฮขึ้นมาแบไว้ตรงหน้า ก่อนจะวางมือข้างที่กำลงบนมือของอีกฝ่าย
"ห้ามทำมันเจ็บเลยนะ"ร่างหนายิ้มออกมา ก่อนจะส่งมือขึ้นไปยีหัวเล็กจนมันยุ่งเหยิง
"ไม่สัญญาหรอก..แต่กูจะดูแลมันให้ดีที่สุด ถ้าวันไหนกูทำมันเจ็บ ก็อยากให้รู้ไว้ว่ากูไม่ได้ตั้งใจ...กูจำเป็นต้องทำ"
"วันไหนตั้งใจ ทงเฮตายแน่ๆ! ฮยอกจะเอาหัวใจทงเฮไปเผาทิ้ง"
"เด็กโง่ รักกูแล้วหรือไง?"
"ว่าแต่คนอื่นโง่ ทงเฮก็..."
จุ๊บ!
"เลิกบ่นซักทีกูหิวข้าว"
"ทงเฮ!!"
.
.
.
.
"อีกห้านาทีถ้ายังไม่ลงมา กูจะตามไปป้อนข้าวถึงที่เลยนะ"
"งั้นดีเลย!"
"ป้อนด้วยปากนะ"
"คนหื่น!"ร่างหนาได้แต่ยิ้มรับ แล้วก้าวเดินลงบันไดไป พลางบอกเวลาแกล้งคนตัวเล็กไปด้วย
"ฮยอกแจเหลืออีกหนึ่งนาที!"
"รู้แล้วววววว!"สิ้นเสียงตอบรับก็มีร่างเล็กๆวิ่งตัวปลิวลงมาจากบันไดบ้านจนทงเฮหัวเราะออกมาเบาๆ แม่บ้านที่เห็นก็อดจะยิ้มตามไม่ได้เช่นกันเมื่อตอนก่อนหน้านี้คุณหนูของบ้านมีอาการเซื่องซึมแปลกๆแต่พอมาเห็นยิ้มแบบนี้หล่อนเองก็สบายใจ
อาหารมื้อนี้มีเพียงทงเฮและฮยอกแจสองคนเท่านั้นที่ทานส่วนพ่อและแม่ของเขานั้นออกไปทำธุระข้างนอกด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี ทงเฮไม่อยากจะเจอหน้าพ่อของเขาตอนนี้เดี๋ยวจะทะเลาะกันซะเปล่าๆ
แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเขายอมหมั้นตามที่พ่อบอก พ่อจะหยุดอยู่แค่นั้นหรือเปล่า เพราะถ้าไม่..ทงเฮรับรองว่าจะไม่ใช่แค่พ่อของเขาแน่ๆที่เสียหน้า
อย่างน้อยอี คังซิกก็สั่งเขาได้แต่ตัว ส่วนหัวใจน่ะบังคับกันไม่ได้หรอก.. ก็ตอนนี้หัวใจมันไม่ได้อยู่ที่เขานี่นะ
Necessary #8 (ต่อ)
ช่วงเย็นของวันหลังจากที่มื้อเที่ยงผ่านไปและหลายชั่วโมงกับการมองเด็กตัวขาวนี่หลับ ทงเฮลงมายังชั้นล่างของบ้านในขณะที่ปล่อยฮยอกแจให้ไปล้างหน้าล้างตาอยู่บนห้อง
"ป้าควอนครับ รู้รึเปล่าครับว่าพ่อกับแม่ผมจะกลับมาเมื่อไหร่" ร่างหนาเอ่ยถามแม่บ้านคนสนิทที่อยู่รับใช้ ตระกูลอีมามากกว่าสิบปี ทงเฮเคารพป้าควอนเสมือนคนคนหนึ่งในครอบครัว
"ไม่ทราบค่ะคุณหนู คุณท่านไม่ได้บอกเอาไว้ คุณหนูจะออกไปไหนหรอคะ?"
"จะพาเด็กน้อยไปเที่ยวเล่นแถวๆนี้ล่ะครับ"ทงเฮเอ่ยอย่างยิ้มๆ แม่บ้านที่เห็นก็อดจะยิ้มให้กับความน่ารักของทงเฮไม่ได้ นับวันคุณหนูฮยอกแจยิ่งมีอิทธิพลต่อคุณหนูทงเฮเหลือเกิน
"งั้นเดี๋ยวป้าไปบอกให้ยามไปเอากุญแจรถให้นะคะ"
"เอางั้นก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับ ป้าควอน" คุณหนูคนโตของบ้านโค้งให้กับคนที่อายุมากกว่าก่อนจะเหลือบมองที่บันได เมื่อหางตารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหว
อี ฮยอกแจ กำลังเกาะขอบราวบันไดเหมือนที่ทำตอนเด็กๆไม่มีผิด
ตัวเล็กๆนั่นกำลังระวังเหมือนไม่ให้ผมรับรู้ถึงการลงมาของเขา ถ้าสิงบันไดได้ผมว่าเขาคงทำไปแล้วล่ะ ฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องกำลังเข้าใกล้ทงเฮมากขึ้นในขณะที่ทงเฮแกล้งทำเป็นขยับไปให้ไกลกว่าเดิม
นอกจากผิวขาวๆนั่นของฮยอกแจทงเฮก็คิดว่าไม่มีอะไรที่จะเนียนไปมากกว่านั้นอีกแล้ว
เอาวะ.. เล่นกับเขาหน่อยแล้วกัน
ฟึ่บ!
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าหายไปทันทีที่มือเล็กนั่นเอื้อมมาปิดไว้
"ใครปิดเนี่ย มองไม่เห็น เอาออกไปเลยนะ"
"......." ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แต่สิ่งที่ตามมาทีหลังคือแรงกระโดดขึ้นมาเกาะรอบคอเขาแน่น พร้อมๆกับขาเล็กที่เกี่ยวเอวหนาของเขาไว้
"ฮยอกแจ.."
"อื้อ ฮยอกเอง!" เด็กบนหลังยิ้มตาหยีจนแทบจะปิด ทงเฮเอียงหน้าไปหาเล็กน้อยก่อนจะพูดแกล้งไปเพื่อความสะใจ..
"น้ำหนักขึ้นปะ หนักขึ้นนะเนี่ย"
เพี๊ยะ!
เสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับแรงตีที่หัวไหล่และทงเฮคิดว่าไม่นานมันจะเป็นรอยแดงสามสี่นิ้วแน่ๆ
"ว่าฮยอกอ้วนหรอ!?"
"ถามว่าน้ำหนักขึ้นรึเปล่า ให้กูคิดว่ามึงผอมหรอ" ร่างหนายกยิ้มอย่างกวนๆรู้สึกดีที่แกล้งให้ร่างบางหงุดหงิดได้
"งั้นฮยอกจะไม่ลง!"
"หึ" ส่งเสียงในลำคอก่อนจะใช้แขนแกร่งรองข้อพับของฮยอกแจไว้แล้วเริ่มออกเดินไปยังหน้าบ้านที่มีรถที่น้ายามเตรียมมารอไว้อยู่แล้ว
"เดี๋ยววววว จะไปไหน"
"พาไปรับลม หางจะได้ไม่ตก"
"ไม่ใช่หมานะ!"
"หน้าย่นเหมือนปั๊กเลย"
"ทงเฮ!" ทงเฮเอี้ยวตัวไปมองคนที่เกาะหลังอยู่ก่อนยิ้มออกมารอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน
"อ๊ากกกกกก ฮยอกแจปล่อยเดี๋ยวนี้ เจ็บๆๆ" ทงเฮเกือบจะรับแรงฮยอกแจด้วยแขนข้างเดียวไม่ไหวอยู่แล้ว เล่นกัดซะจมเขี้ยวแบบนี้ นอกจากไหล่ที่จะแดงแล้ว เห็นจะเป็นคอเนี่ยล่ะทีคิดว่าจะมีรอยแดงจากฟันแน่นอน
เผลอๆมันอาจจะช้ำเขียวจนม่วงเลยก็ได้!
"เป็นหมาก็ต้องกัด"
"อย่าลืมว่าเจ้าของมีสิทธิ์จะฟัดหมา!" ทงเฮว่าพลางใช้นิ้วมือหนีบจมูกเล็กไปด้วยความหมั่นเขี้ยว
"ทงเฮ!"
"เรียกอีกแล้ว ชอบหรือไงคำนี้อ่ะ" ร่างหนาจับคนตัวเล็กลงแล้วยัดเข้าไปในตัวรถ ยัดจริงๆเพราะฮยอกแจขืนรั้งตัวเอาไว้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงควายของเขาไม่ได้อยู่ดี
ล้อเริ่มขยับหมุนออกสู่ตัวบ้านทันทีที่คนขับขึ้นไปประจำที่ ทงเฮขับช้าๆอย่างสบายอารมณ์ หลังคารถถูกเปิดออกเพื่อรับลมในตอนเย็นๆอย่างที่ได้บอกไว้ก่อนหน้า แสงแดดสีส้มอ่อนๆของดวงอาทิตย์ที่กำลังทำหน้าที่ตกลงสู่พื้นดินไปเรื่อยๆนั้นสาดเข้ามากระทบกับใบหน้าหวานของตุ๊กตาหน้ารถ
อ่า..ถ้าไม่กลัวว่ารถจะชน หรือจะไปชนใครเข้าทงเฮคิดว่าเขาไม่อยากละสายตาไปจากคนข้างๆตอนนี้เลย..
______________________
"โห ที่นี่สวยอ่ะทงเฮ" ทงเฮเพียงแค่ขานรับในรับคอ ก่อนจะก้าวไปยังซุ้มจักรยานให้เช่าสำหรับปั่นเล่น ทิ้งให้ฮยอกแจได้ชื่นชมความสวยของทะเลตรงหน้าไปก่อน
กริ๊งๆ
"อ่ะ! ขะ..ขอโท..ษ... ทงเฮ!" ฮยอกแจคิดว่าเขาไปยืนขวางทางเกะกะทางรถซะแล้ว นึกว่าจะชนด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ ทงเฮคนบ้านี่แกล้งต่างหาก!
"จะขึ้นรึเปล่า"
"ขึ้นสิ!" ฮยอกแจเดินเข้ามาหาเขาตาเป็นประกายเหมือนเจอสิ่งที่ถูกใจ แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อไปดวงตาใสก็เปลี่ยนเป็นสงสัยทันที
"อยากขึ้นก็ต้องเรียกพี่ทงเฮก่อน"
"อะไรอ่ะ!"
"เร็วๆ เดี๋ยวหมดเวลาเช่านะ"
"ไม่เอา ทงเฮขี้โกง จะให้ฮยอกเรียกแบบนั้นทงเฮก็ต้องเรียกตัวเองว่าพี่สิ แล้วเรียกชื่อฮยอกด้วย"
ทงเฮนิ่งไปชั่วครู่ เหลือบตามองขึ้นด้านบนเหมือนกำลังคิดตามกับประโยคยาวๆของเด็กอย่างฮยอกแจอยู่ ก่อนจะยิ้มออกมา ชนิดที่ว่าต่อให้ฮยอกแจไม่ได้เป็นน้ำแข็งก็ละลายได้..
"ฮยอกแจ...ถึงตัวจะหนักแต่พี่ก็ปั่นไหวนะ"
ทงเฮเอ่ยยิ้มอย่างล้อๆ ส่วนคนฟังนั้นหน้าแดงไปแล้วไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่ แต่ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่อยู่ด้วยกันมา ทงเฮไม่เคยเรียกตัวเองว่าพี่เลยซักครั้ง ถึงจะกระดากปากอยู่บ้างเพราะไม่ชินแต่ถ้าได้เห็นหน้าเขินๆของคนตัวเล็กนี่ก็ยอมล่ะนะ
แต่ไม่สัญญาหรอกนะว่าจะเลิกพูดหยาบๆน่ะ มันติดเป็นสันดารแล้วนี่หว่า ทำใจนะ..
"ถึงตาเราแล้วนะ เรียกพี่เร็วๆ"
"..พี่...พี่ทงเฮ.."พูดจบก็ก้มหน้างุดแล้วรีบเดินขึ้นมาซ้อนเบาะหลังทันที
"ใครบอกว่าให้นั่งตรงนั้น"
"หือ?"
"ลุกเลยๆ" ทงเฮย้ายที่ของตัวเองลงไปยังเบาะหลังแทนฮยอกแจ ก่อนจะหันมามองหน้าคนที่ยืนงงอยู่
"มานั่งได้แล้ว"
"จะให้ปั่นก็ไม่บอก"ริมฝีปากบางเชิดขึ้นน้อยๆก่อนจะเดินมาขึ้นคร่อมบนจักรยาน เตรียมออกแรงปั่น แต่ติดที่ว่าทงเฮยังเอาขายันพื้นไว้อยู่..
"ไม่ใช่หน้าที่....เอาขาขึ้น"
"ห๊ะ!"
"เอาขาขึ้นไงฮยอกแจ วางๆไปเหอะ ให้มันไม่เมื่อยน่ะ" ถึงแม้จะงงอยู่บ้างแต่ฮยอกแจก็ยอมทำตามโดยดี สองขาเล็กยกขึ้นมาวางไว้บนส่วนที่เชื่อมระหว่างคอจักรยานกับเบาะนั่งในท่านั่งคล้ายๆกับขัดสมาธิ
ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นมาเมื่อแขนของคนข้างหลังเอื้อมมาจับแฮนด์ของจักรยานแล้วออกแรงปั่นให้เคลื่อนที่ ถึงจะตกใจกับการกระทำของทงเฮมากแค่ไหนแต่ลึกๆในใจแล้วฮยอกแจยอมรับว่ามัน.....รู้สึกดี
"ไม่เมื่อยหรอทงเฮ ให้ฮยอกปั่นมั้ย"
"หึ" ร่างหนาส่งเสียงหึในลำคอ ประมาณว่าไม่เมื่อยและปฏิเสธที่จะให้คนตัวเล็กมาปั่นแทน
"แล้วทำไมต้องปั่นแบบนี้ ให้ซ้อนดีๆก็ได้ คนมองหมด.."
.
.
.
.
"ก็กูอยากกอดมึงนี่"
อ่า...ทงเฮนี่อันตรายและเสี่ยวสุดๆเลยคุณว่ามั้ย
"หึหึ หน้าแดงนะเด็กโง่" ฮยอกแจหุบยิ้มและหันไปแยกเขี้ยวใส่คนที่รับหน้าที่เป็นคนปั่นที่ยิ้มได้แบบน่าหมั่นไส้ที่สุดในโลก
ปริ๊น! ปริ๊นนนนน!~
เสียงบีบแตรที่ดังค้างอยู่ข้างหลัง ทำให้ทงเฮต้องเบรกจักรยานไว้ข้างทางบนฟุตบาทก่อนจะหันไปหาเสียงต้นเหตุ
รถลีมูซีนสีดำคันใหญ่ที่ติดฟิล์มดำ..ไม่ต้องเดาให้เสียเวลากระจกรถด้านหลังก็เลื่อนลงเผยให้เห็นหน้าของผู้เป็นพ่อและแม่ที่นั่งอยู่ในนั้น
คุณนายอี ส่งสายตาที่เห็นใจมายังเขาและนั่นทำให้ทงเฮมั่นใจว่าการมาของพ่อครั้งนี้คงไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องดีแน่ๆ
"....ไปรับหนูซึลกิที่อยู่ที่นั่นและพาเธอกลับบ้าน"
"........."
"ถ้าแกไม่ทำทุกอย่างที่ตกลงกันไว้ถือเป็นโมฆะ" ร่างหนากัดฟันสงบอารมณ์จนกรามขึ้นมาเด่นชัด ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นหนึ่งมาไว้แล้วถือไว้ข้างลำตัว ไม่สิ..เรียกว่าขยำไว้ดีกว่า
เด็กน้อยของทงเฮได้แต่นั่งมองผู้ใหญ่ทั้งสามสลับกันไปมาอย่างสงสัยในบทสนทนาที่พูด เพียงแต่ไม่ถามออกไปก็แค่นั้น..
"แค่นี้ใช่มั้ยครับ"
"ถ้าแกเบี้ยวไม่ไปส่งล่ะก็ แกได้เห็นดีแน่ทงเฮ"
"ตั้งแต่พ่อยื่นเรื่องบ้าๆนี่มา ผมก็ไม่คิดว่าการเจอหน้าพ่อจะมีอะไรที่ดีแล้วล่ะครับ" ร่างหนาพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะเอ่ยลาออกมา มองเศษกระดาษในมือที่มีตัวอักษรเขียนไว้อยู่ ถอนหายใจแรงๆกับความซวย แล้วออกแรงปั่นจักรยานวนไปยังร้านที่เช่า
' หน้าห้าง xxx ร้านกาแฟx ชุดเดรสสั้นสีขาวดำ สะพายกระเป๋าสีแดง ผมยาวลอนสีน้ำตาลอ่อน '
ทำอย่างกับเขาเป็นพวกนักทวงหนี้..
______________________________
ระหว่างทางบนถนน ไม่มีใครเอ่ยพูดใดๆหลังจากออกมาจากที่นั่น ทงเฮต้องขับรถออกมาเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว ไม่อยากให้การที่ไปส่งบ้านมืดๆค่ำๆจะเป็นช่องว่างเปิดโอกาสให้ทางครอบครัวนั้นเชิญให้ร่วมโต๊ะกินข้าว
จะว่าไร้มารยาทก็ได้ แต่ทงเฮไม่ชอบจริงๆ ถึงแม้จะไม่เคยเจอหน้ากันก็ตาม..
"ต้องไปรับ'เขา'หรอทงเฮ.."
"อืม.."
และนั่นเป็นบทสนทนาแรกและสุดท้ายบนรถ ก่อนที่ฮยอกแจจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย
"ฮยอกแจ..ตื่น จะถึงแล้วนะ" ทงเฮหันมากระตุกชายเสื้อของคนข้างกายเบาๆ เมื่อตนใกล้จะถึงห้างสรรพสินค้าที่ว่าที่คู่หมั้นของตนรออยู่
"อือ..." ถึงแม้สถานการณ์ตรงหน้าจะทำให้เขาเบื่อหรือเซ็งมากแค่ไหน แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่ทำให้เขายิ้มได้ ก็ยังคงเป็น อี ฮยอกแจ อยู่ดี...
Rrrrrrr
เสียงร้องของโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างหนาเหลือบไปมองโทรศัพท์ของตนแต่หน้าจอกลับมืดสนิทก่อนจะหันไปหาคนตัวเล็กที่จ้องหน้าจอมือถือสลับกับหน้าของเขา สีหน้าไม่มั่นใจแบบนั้นหมายความว่าไง?..
"คือ...พี่เยซองเขา.." ไม่ต้องรอให้พูดจบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางก็ถูกทงเฮแย่งมาไว้กับตัว กดรับและรีบกรอกเสียงลงไปตามสายและกดวางอย่างรวดเร็ว
"ไม่ว่าง!" มือถือของฮยอกแจถูกปิดเครื่องและเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงของทงเฮทันที
วันนี้มันจะมีเรื่องขัดจังหวะอะไรนักหนา!
"อยู่กับกูก็ต้องคุยกับกูดิ ห้ามคุยกับคนอื่น" ร่างหนาว่าน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
"แล้วถ้าอยู่คนเดียว.."
"คุยกับรูปกูก็ได้ หล่อเหมือนตัวจริงนั่นแหละ" ทงเฮได้ยินเสียงหัวเราะดังเล็ดลอดออกมานิดๆก่อนจะหยุดไป เมื่อรถเคลื่อนตัวมาถึงหน้าห้าง..
สายตาคมสอดส่องตามข้างถนนทันทีที่มาถึง แล้วก็ไปสะดุดกับผู้หญิงที่มีลักษณะตามที่กระดาษใบนั้นบอก เท้าเหยียบคันเร่งไปยังที่ตรงนั้นทันทีพลางหยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นมาสวมไว้ด้วย
กระจกรถด้านคนนั่งเลื่อนลงพร้อมกับใบหน้าของคนขับที่ยังเรียบนิ่ง หางตาเหลือบไปมองผู้หญิงคนนั้นที่ดูจะสงสัยไม่น้อย
"ใช่ซึลกิหรือเปล่า"
"ชะ..ใช่ค่ะ! พี่ทงเฮใช่มั้ยคะ" หญิงสาวยิ้มกว้างไม่ปกปิดความดีใจใดๆ แต่เมื่อเธอเปิดประตูเตรียมจะขึ้นรถก็ต้องหุบยิ้มทันที
"เอ่อ..น้องพี่ทงเฮหรอคะ"
"ไม่ใช่"
"งั้นหลานแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ"
"ไม่ใช่"
"งั้นก็คงเป็นลูกของเพื่อนพี่" ทงเฮตวัดสายตาที่อยู่ภายใต้แว่นตาไปมองทันทีที่ได้ยิน
"หยุดเดาได้แล้ว" สีหน้าของซึลกิเจื่อนลงไปเล็กน้อย แต่สายตายังคงจ้องเด็กผู้ชายผิวขาวที่ยังนั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว หน้าตาใสซื่อนั่นทำเธอหมั่นไส้ขึ้นมาจนอดไม่อยู่
"ฮยอกแจ..ข้ามมานั่งนี่"
"...?..."
"อะไรนะคะพี่ทงเฮ!!"
"ฉันบอกให้ฮยอกแจมานั่งที่ตรงนี้" ทงเฮตั้งใจเน้นสองพยางค์หลังและนิ้วที่ชี้บอกที่นั่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก
ที่นั่งของคนขับ เด็กฮยอกแจนั่นมีสิทธิ์ได้นั่ง!!
ร่างบางขยับเปลี่ยนที่นั่งด้วยความทุลักทุเลจนทงเฮต้องจับมือเอาไว้ โชคดีที่ฮยอกแจตัวเล็ก พื้นที่นั่งระหว่างขาของเขานั้นฮยอกแจจึงนั่งได้สบายๆ
"ส่วนเธอก็ขึ้นมาได้แล้ว"
"พี่ทงเฮไม่เสียสมาธิแย่หรอคะ ให้นั่งแบบนั้น" ทันทีที่รถเคลื่อนตัวเธอก็เปิดประเด็นทันที ทงเฮแอบลอบถอนหายใจเบาๆแต่เหมือนคนตัวเล็กข้างหน้านี่จะรู้ ฮยอกแจสะดุ้งนิดๆก่อนจะเลื่อนแขนข้างหนึ่งมาวางไว้บนหน้าขาของเขา
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง ให้เธอมาขับแทนแล้วให้ฉันกับฮยอกแจไปนั่งที่ตรงนั้นดีมั้ย"
"พี่ทงเฮ!" หญิงสาวจิ๊ปากอย่างขัดใจ เด็กนั่นมันเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมากกว่าเขาที่เป็นถึงคู่หมั้น!
"บอกทางไปบ้านเธอด้วย" ซึลกิถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่กลัวจะเสียภาพพจน์ก่อนจะบอกทางทงเฮไปคร่าวๆ ซึ่งร่างหนาก็พยักหน้ารับเพราะทางไปบ้านของเธอก็ไปทางเดียวกันกับบ้านของเขา เพียงแต่เลยไปอีกหน่อยเท่านั้น
ใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพราะถนนที่รถติด ก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของคัง ซึลกิ ทงเฮยืนยันที่จะส่งเธอเพียงหน้าบ้านเท่านั้นแม้ว่าเธอจะตื๊อเพียงใด
ดูหน้าฮยอกแจด้วย ง่วงจะแย่อยู่แล้ว จะเข้าไปทำไมให้เสียเวลา รู้จักกันมั้ย..ก็ไม่
ทงเฮถือว่าไม่จำเป็นต้องทำตัวดีหรือเรียกง่ายๆก็สร้างภาพนั่นแหละ กับคนไม่รู้จัก ให้มาปั้นหน้ายิ้มอยู่ก็เมื่อยซะเปล่าๆ..
"เอ่อ...งั้น ขับรถดีๆนะคะพี่ทงเฮ"
"อืม"
คำพูดสั้นๆเป็นการตัดบทสนทนาทำเอาหญิงสาวชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้ามาทงเฮจนคนมองตกใจไปนิดๆ
ถ้าทงเฮไม่เคลื่อนหน้าหนีป่านนี้คงโดนใบหน้าที่มีแต่เครื่องสำอางนั่นฝังลงมาแน่ๆ
"ทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อย เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น"
"!!!" เธอเบิกตากว้างก่อนจะหันหน้าหนีและเปิดประตูกระแทกเท้าเดินปึงปังออกไป
ทงเฮไม่จำเป็นจะต้องสนใจ การกระทำเมื่อครู่ทำเอาภาพที่ทงเฮมองกับผู้หญิงคนนี้ยิ่งติดลบเข้าไปอีก
อาจจะมัวแต่คิดเรื่องนั้นนานไปจนไม่ทันสังเกตว่าหัวกลมๆนี่เอนมาพิงกับอกเขาซะแล้ว..
"หลับซะแล้วหรอเด็กโง่"
"รู้มั้ยพี่เกือบโดนผู้หญิงจูบแล้วนะ.."
"รู้.."
"!!!"
คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมามองหน้าคนที่เหวอไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
"กลิ่นเครื่องสำอางแพงๆมันจะหอมสู้แป้งเด็กกระป๋องละไม่กี่บาทได้ไง"
ทงเฮยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงไปกดจมูกลงกับแก้มใสของคนที่หลับตาอยู่
"เนอะ..♡"
N e c e s s a r y 2 0 0 %
TO BE CON.
TALK: ขอส่งความเลี่ยนให้คนอ่านเอาให้แหวะไปเลย!~~ อ่านให้สนุกไปกับมันน้าาา ถึงแม้ภาษาจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เราจะพยายามเขียนให้ดีขึ้น ^^ ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกการติดตามเลยยยย♥
THANK YOU FOR YOUR COMMENT
ENJOY READING ♥
ความคิดเห็น