คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - Necessary #5
♦ Necessary #5
J u s t a n o t h e r b o y.
Note: ไม่ฟินแล้วนะ จะหน่วงแล้ว ;___; (รึเปล่า?)
*แก้คำผิด 08/03/58*
วันเวลาอาจจะผ่านไปไวราวกับโกหก..
“ทงเฮ! ผมกลับมาแล้วนะ”
สภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างเย็นกำลังดี ไอแดดอ่อนๆข้างนอกไม่ทำให้แสบผิวมากนัก บวกกับกลุ่มเมฆสีเทาครึ้มนั่นที่กำลังลอยตัวมา บ่งบอกได้ดีว่าในอีกไม่ช้าฝนกำลังจะตก
“ทงเฮ พี่ยุนโฮไม่อยู่หรอ ทำไมไม่มีคนเฝ้าเคาน์เตอร์”
กลิ่นหอมๆของกาแฟนี่มันดีชะมัดเลยคุณว่าไหม เวลาที่อยู่กับมันผมจะได้แรงบันดาลใจดีๆไปบรรยายมันลงในสมุดบันทึกของผมทุกครั้งไป อากาศเย็นๆของแอร์ในร้านบวกกับความอึมครึมของฝนที่กำลังจะตกลงมามันทำให้ผมอยากจะล้มตัวลงนอน
“ทงเฮ!!”
“ห้ะ อะ..อะไร”
อี ฮยอกแจ ก็เป็นเด็กขัดเวลาผมทุกทีสิหน่า..
“ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม?”
“ฟังอะไรล่ะ ก็มึงไม่ได้พูด”
“พูดไปสองประโยคแล้ว!” ฮยอกแจพูดแค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินปึงปังขึ้นไปด้านบน
ฮยอกแจอายุสิบสี่ปีแล้วในขณะที่ผมใกล้จะเลขสามเต็มที เด็กน้อยของผมยังไงก็ยังคงเป็นเด็กวันยังค่ำ นิสัยขี้งอนของเขาไม่เคยหายไปเลยตั้งแต่ยังเด็ก ฮยอกแจเป็นเด็กฉลาดแต่หัวรั้น อย่างตอนเขาสิบขวบผมก็สอนให้เขาเรียกผมว่าพี่ทงเฮแต่ฮยอกแจก็ยันจะเรียกทงเฮเหมือนเดิม ผมดุเขาที่ไม่ฟังที่ผมสอน แล้วก็เป็นเหมือนเดิม งอนจนในที่สุดผมก็ต้องง้อเขาอยู่ดี
ผมจบปริญญามาได้ปีนี้ก็เป็นปีที่เจ็ดแล้ว แต่ผมยังไม่มีงานทำที่ถาวร อย่างตอนนี้ผมมีงานหลักคือการเป็นนักเขียนอิสระ แต่เพราะผมยังมีฮยอกแจที่ต้องเลี้ยงดูอีก หากจะรับงานเขียนทั้งหมดก็จะกลายเป็นว่าผมจะไม่มีเวลาให้ฮยอกแจเลย งานเขียนต้องใช้เวลาและก็ต้องเร่งทำเวลาด้วยเช่นกัน ทำต้นฉบับส่งให้ทันเวลาที่กำหนดแม้ในวันนั้นจะไม่ได้นอนเลยก็ตาม
ส่วนงานรองก็เหมือนๆกับงานพาร์ทไทม์ของพวกเด็กวัยรุ่นนั่นแหละ ผมกลายมาเป็นอีกคนในการร่วมหุ้นของร้านเบเกอรี่ของพี่ยุนโฮและพี่จองซู และบ้านที่เคยเช่าอยู่ตอนฮยอกแจเรียนประถมก็ขายทิ้งไปแล้ว ผมกลับไปอยู่ที่บ้านในวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาผมก็อาศัยนอนที่ร้านนี่แหละ
อะไรคือสาเหตุที่จู่ๆพ่อก็เรียกผมให้กลับไปอยู่บ้านพร้อมกับฮยอกแจ..
มันเป็นคำถามที่ผมต้องการคำตอบ แต่เหมือนยิ่งอยากรู้ คำตอบก็ยิ่งหนีหายไป..
“ไงทงเฮ..” เสียงทุ้มใหญ่ของรุ่นพี่ที่ร่วมหุ้นด้วยกันทักขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มของรุ่นพี่อีกคนด้านหลัง
“พี่ไปไหนกันมา”
“ซื้อของเขาร้านน่ะ พวกน้ำตาล ครีมเทียม แป้ง อะไรพวกนี้มันใกล้จะหมดแล้ว” ผมฟังแล้วพยักหน้าให้เบาๆ
“ฮยอกแจล่ะ ยังไม่กลับอีกหรอ”
“กลับมาแล้วครับ อยู่ข้างบน”
“หึ ทำน้องงอนล่ะสิ”
“โห พี่ ผมก็แค่ไม่ได้ฟังสิ่งที่มันพูดแค่นั้นเอง”
“คนเรามีสิ่งให้คิดต่างกัน มึงอาจจะคิดแค่นี้ แต่น้องมันอาจจะไม่ได้คิดแค่นั้นน่ะสิ”
“งอนจนเคยตัว ปล่อยให้หายงอนเองนั่นแหละ”
“เบื่อจริงๆพวกฟอร์มเยอะเนี่ย” พี่จองซูพูดก่อนจะเดินเอาของไปเก็บที่หลังร้าน ทิ้งให้พี่ยุนโฮนั่งอ่านหนังสือพิมพ์แล้วยกยิ้มมุมปากอยู่แบบนั้น
ไม่เข้าใจพี่พวกนี้เลย ชอบพูดอะไรที่ผมเข้าใจยาก..
------------------------------------------------
Rrrrrrrr
แสงไฟสว่างวาบจากจอมือถือพร้อมกับแรงสั่นของมันทำเอาคนที่นั่งเหม่ออยู่สะดุ้งออกจากความคิด
Yesung Hyung , Calling…
พี่เยซอง.....
“ครับ” เสียงใสกรอกเสียงลงไปยังปลายสายที่โทรเข้ามา
“ถึงแล้วครับ”
“ยังครับ ผมยังไม่หิว”
“พี่ก็ด้วยนะครับ”
“ครับ... งั้นผมวางนะ” ฮยอกแจถอนหายใจออกมาเบาๆพี่เยซองเป็นเพื่อนสมัยเรียนของทงเฮ เพื่อนของทงเฮแต่มาติดต่อเขาเนี่ยนะ.. พี่เยซองได้เบอร์เขาไปจากไหนไม่รู้ รู้อีกทีตอนเย็นๆหรือช่วงเช้าๆก็จะมีสายเรียกเข้ามาจากเบอร์นี้ตลอด มันบ่อยจนเขาแอบอึดอัดอยู่เล็กๆ
เพื่อนของพี่กับน้องของเพื่อน..
โทรหาทุกวันมันปกติแล้วงั้นหรอ (?)
ฮยอกแจได้แต่ส่ายหน้าช้าๆกับสิ่งที่ตัวเองคิด อายุเขากับพี่เยซองห่างกันเกือบรอบนึง จะเป็นไปได้ยังไงที่เพื่อนสนิทของพี่ชายจะมาคิดอะไรแบบนั้น
ฮยอกแจตัดสินใจลุกเดินไปอาบน้ำเพราะยิ่งคิดอะไรก็ยิ่งทำให้เขาปวดหัว มันเหมือนมีใครเอาอะไรมาทุบตุบๆอยู่ในสมอง และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคิดแค่ว่าออกมาจะต้องทงเฮแน่ๆยิ่งทำให้ฮยอกแจหงุดหงิด จะหาว่างี่เง่าก็ได้แต่ฮยอกแจไม่ชอบเวลาที่ทงเฮไม่สนใจเขาเลยจริงๆ
ร่างโปร่งของผู้อาศัยร่วมห้องเปิดประตูห้องนอนเข้ามาเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเข้าไปในห้องน้ำแล้ว สองขาก้าวไปยังหัวเตียงนอนที่มีโทรศัพท์ของฮยอกแจที่ชาร์ทไว้อยู่ มือเลื่อนปลดล็อกและหาเบอร์โทรล่าสุดทันที
เยซอง...
เยซองอีกแล้ว เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เยซองยังคงติดต่อฮยอกแจอยู่หลังจากที่ซีวอนบอกเขาว่าให้เบอร์ฮยอกแจไป ตอนนั้นโกรธมากๆเยซองจะเอาเบอร์ฮยอกแจไปทำไม จะบอกว่าเอาไว้ติดต่อเขางั้นหรอ เหตุผลคงเบาไปในเมื่อเวลารับงานเขียนผมก็ต้องพกโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดอยู่แล้ว หมดปัญหาโทรมาแล้วจะไม่รับไปได้เลย
Ting! , You have 1 message.
จู่ๆก็มีข้อความเข้ามา แม้เขาจะตกใจแต่ก็ยังดีที่ฮยอกแจตั้งสั่นไว้ ทงเฮไม่รอช้าถือวิสาสะกดเข้าไปดูข้อความนั้นอย่างไม่รีรอ
S.Mino_ : ทำไรอะ กินข้าวยัง?
คิ้วเข้มของทงเฮขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ยังไม่ทันได้นึกอะไรไปมากกว่านี้มือก็ไปกดไอค่อนถังขยะลบไปเสียแล้ว
คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งถ้าจะใช้สิทธิ์ความเป็นพ่อ หวงลูกของตัวเอง...
“ทงเฮ ทำอะไรอะ!?” ทงเฮสะดุ้งรีบกดปุ่มโฮมทันทีที่ได้ยินเสียงฮยอกแจ ร่างเล็กใส่ชุดนอนพร้อมกับผ้าที่วางไว้บนผมเปียกๆเดินตรงมายังเขาพร้อมกับแบมือขอโทรศัพท์คืน
“ขอยืมหน่อยไม่ได้ไง?”
“ก็ยังไม่ได้ขอนี่”
“กูเป็นคนซื้อให้มึงนะ”
“แต่ผมเป็นเจ้าของ”
“มิโนคือใคร” ผมไม่ได้เถียงต่อแต่กลับเปลี่ยนเป็นถามเขาแทน
มีเยซองมาให้ปวดหัวแล้ว ยังมีมินงมิโนมาให้เป็นไมเกรนอีก บ้าจริงๆ ทำไมผมต้องมานั่งจับผิดด้วย
“คือเพื่อน....” ผมยังรอให้เขาพูดให้จบ เพราะนัยน์ตาสองข้างนั้นมันกำลังหลบที่จะสบกับดวงตาของผมอยู่
“เพื่อนสนิทที่โรงเรียน”
“สนิทกันแค่ไหน” เขาส่ายหัวหน่อยๆ จนผมที่เปียกน้ำอยู่กระเด็นไปคนละทิศละทาง
“ไม่รู้สิ”
“ถ้าวันนี้กูให้เลือกว่าจะมีคนพามึงไปแม่น้ำฮัน ระหว่างกูกับมันมึงจะไปกับใคร”
“มัน คือมิโนงั้นหรอ?” ผมถอนหายใจเอื่อยๆแล้วพยักหน้ารับ
ฮยอกแจจะรู้บ้างไหมว่าผมไม่ชอบมิโนบ้าบ้ออะไรนั่นเลยถึงจะไม่เคยเห็นก็เถอะ
“ก็คง..........ไปกับทงเฮล่ะมั้ง” ชั่ววูบนึงผมเผลอยิ้มออกมา ไม่รู้สิถึงเขาจะไม่ค่อยมั่นใจ แต่คนที่เลือกก็คือผมล่ะนะ
“ทำไมต้องมั้งล่ะ?”
“ก็มันไม่ได้เป็นจริงนี่ มันก็เป็นแค่เรื่องสมมติ”
เฮ้อ... เขาเป็นเด็กที่ฉลาดในการใช้คำพูดจริงๆ..
“มึงชอบแม่น้ำฮันมากแค่ไหน?”
“แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว”
“แล้วทำไมมึงถึงชอบมากขนาดนั้น”
“มันก็เหมือนกับที่ทงเฮชอบบรรยายสิ่งที่ชอบลงในงานเขียนนั่นแหละ”
ฮยอกแจนั่งลงบนเตียงเดียวกันกับที่ผมนั่งอยู่เขาวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงและกลับมาเช็ดหัวเพื่อให้มันแห้ง ซึ่งมองดูแล้วมันก็เหมือนจะยุ่งยากในสายตาของผม
“มานั่งนี่เดี๋ยวเช็ดให้”
เขาไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ลุกขยับที่นั่งจากบนเตียงมาเป็นพื้นด้านล่างแทน สองมือของผมค่อยๆเช็ดผมให้เขาเบาๆ ในหัวก็พลางคิดเรื่องต่างๆไปด้วย
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มสงสัยเยซอง..
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มหงุดหงิดเวลาฮยอกแจคุยกับคนอื่น
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มหวงฮยอกแจ...
ถ้าอาการแบบนี้มันเรียกว่าความรัก ผมก็คงต้องเข้าพบจิตแพทย์เข้าสักวัน..
มันไม่ใช่ความรักที่เกิดขึ้นแบบพ่อ ลูก
ผมรักเขาเหมือนที่คนรักเขารักกัน
“ทงเฮหยุดทำไมอะ”
“หืม เปล่ากูแค่เหม่อ”
“ช่วงนี้เหม่อบ่อยจัง งานเยอะหรอ”
เพราะมึงนั่นแหละ เด็กโง่..
“ห่วงกูหรือไง”
“อืม ห่วง”
ตึกตึกตึกตึกตึก
ถ้าในห้องมันเงียบกว่านี้ผมว่าเขาคงได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นแรงเกินไปของผมแล้วล่ะ
บางทีคนเราก็อยู่ในโลกของจินตนาการจนลืมนึกถึงความจริง..
ความรักเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่สำหรับผม.......
ความรักนั้นมันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะมัน ไม่มีวันเป็นไปได้...
“ผมแห้งแล้ว ไปนอนได้แล้ว”
“เพิ่งสองทุ่มเอง”
“อืม งั้นกูไปอาบน้ำนะ”
“ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ”
“ยังไง?”
“ไม่ค่อยสนใจผมเลย” หลุดออกมาแล้ว สาเหตุการงอนของเขา ผมยิ้มให้เขาแล้วยีหัวเขาจนมันยุ่ง
“กูขอโทษ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมก็เลือกที่จะยิ้มให้
“ไม่เอาคำขอโทษ”
“…………”
“กอดได้รึเปล่า ?”
เขาไม่รอให้ผมได้ตอบหรือตกใจกับคำถามนั้น ร่างทั้งร่างก็ลุกขึ้นมากอดผมแน่น ฮยอกแจตัวเล็กมากๆถึงจะโตมากว่าเดิมแต่มันก็แค่นิดหน่อย ผมยังกอดเขาจมอกอยู่เลย ตัวเล็กๆของเขาทำให้ผมกลัวว่าถ้ากอดแน่นไปฮยอกแจจะหายใจไม่ออกเอาได้
“ยังไม่อนุญาตให้กอดได้เลย”
“แต่ก็กอดตอบผมแล้วนี่”
“ขี้แยจังร้องไห้ทำไม” น้ำเสียงอู้อี้ของเขาบวกกับน้ำอุ่นๆที่เริ่มซึมเข้ามาในเสื้อของผมนั่นทำให้ผมมั่นใจ ผมเริ่มโยกตัวเบาๆเหมือนตอนเด็กๆที่เขาร้องไห้แล้วผมก็ต้องปลอบเขา
“อารมณ์แปรปรวนจัง เป็นผู้หญิงหรือไง”
“สวยกว่าผู้หญิงบางคนอีก”
“เด็กหลงตัวเอง”
“เหมือนทงเฮเลย”
“โอ๊ย! หยิกแก้มทำไมเจ็บนะ!”
“หมั่นเขี้ยว”
“นิสัยไม่ดี”
“แล้วรักเปล่าล่ะ?”
ตึกตึกตึกตึกตึกตึก
ก็ถ้าทงเฮหูไม่ได้แว่วไป เมื่อกี้เสียงหัวใจของฮยอกแจมันเต้นดังพอๆกับของเขาเมื่อก่อนหน้านี้เลย
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อจู่ๆฮยอกแจก็เอามือทั้งสองข้างมาปิดหูของผมพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้ชนิดที่ว่าถ้าเขาสังเกตมากพอก็จะเห็นว่าหน้าผมแดงเหมือนกับสีปากของเขาจะแย่แล้ว!
เขาชี้มาที่ปากตัวเองประมาณว่าดูดีๆนะ ผมพยักหน้าให้ จนเขาบอกว่าโอเค มือทั้งสองข้างของเขาเลื่อนมาปิดหูของผมเหมือนเดิม
ก่อนที่ผมจะอ่านปากเขาได้ว่า
‘ รั ก ท ง เ ฮ ♥ ‘
ไม่มีสติมากพอที่จะรู้ว่าตอนนั้นทำหน้ายังไงออกไป รู้แค่ว่าตอนนี้อุณหภูมิในห้องนี้มันร้อนเกินไป อยากจะเอาน้ำเย็นๆมาลูบหน้าถ้าไม่กลัวว่าสิวจะขึ้นผมคงทำไปแล้ว
ส่วนตัวการที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้นอนเอาผ้าคลุมโปงไปเรียบร้อยแล้ว
มาทำให้ใจคนอื่นเต้นแรงแบบนี้ถ้าเกิดถอนตัวไม่ขึ้น รับผิดชอบด้วยนะฮยอกแจ..
สงสัยผมคงจะได้เข้าคุกเร็วๆนี้อย่างที่พี่ยุนโฮเคยบอกแล้วล่ะ..
เวลานี้ขอข้ามเรื่องศีลธรรมไปก่อน อยู่กับความสัมพันธ์แบบนี้ผมก็มีความสุขดี J
ความสุขของผมคือฮยอกแจ ความทุกข์ของผมก็คือฮยอกแจเช่นกัน.....
N e c e s s a r y
TALK: ภาษาเราดูแปลกๆว่าไหม แง้งงง ถ้าไม่สนุกขอโทษนะคะ ;___;
ขออยู่แบบหน่วงๆแบบนี้ไปก่อนแล้วอีกไม่กี่ตอนความวุ่นวายก็จะตามมา
อย่าทิ้งเราน้าาาา มาเอาใจช่วยสองคนนี้กัน^^
PS. ขอไม่ใส่ธีมลงในตอนแล้วนะ เวลามาแก้คำผิดมองยากมาก.
*เรื่องพรล.ที่เราอยากแจกเรายังอยากแจกอยู่นะ สุ่มแจกเอาจากคนเม้นนี่แหละ
จบคอมเม้นที่ตอนนี้ ถ้าเราลงตอนที่6เมื่อไหร่จะประกาศคนที่ได้ในตอนนั้นเลยนะคะ ^^
*เอาเม้นมาเดี๋ยวนี้ *ปล้นนน*
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกการติดตามน้า ♥
TO BE CON . . .
ความคิดเห็น