♦ Necessary ’ (HaeEun)
Update >> Chapter10 50% l ดองไว้นานนะยังไม่มีเวลาอัพจ้า
ผู้เข้าชมรวม
3,312
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ขอแค่เจ็ดเดือนที่คุณเลี้ยงเขาไว้ ส่วนหน้าที่อื่นผมจะเป็นคนทำมันเอง...”
“รวมถึงการเป็นพ่อและแม่ให้กับเขาด้วย.”
Welcome To ‘Fic Necessary‘
Open: 08.02.15 Close: x.x.x New Update: 08.05.15
Credit บทความดีๆ ♥
QueridoTheme. l The cat โค้ดแมว in wonderland. l Trick to Des. iDPLAZCTA Des. l ร้านวิจารณ์นิยายสไตล์ Flower Shop. l Ki Kiwi Label&Des. ร้านวิจารณ์นิยาย Critic Family. l Crystal Des. GTENT. l OWEN Theme. |
|
ผลงานอื่นๆ ของ Lanobless ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Lanobless
"ร้านรับวิจารณ์นิยายสไตล์ flower shop"
(แจ้งลบ)วิจารณ์นิยายเรื่อง Necessary (HaeEun) นามปากกา: _ลาโนเบลส สวัสดีคะไรต์ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสเมย์มาวิจารณ์นิยายของคุณถ้าหากผิดพลาดหรือทำให้ไรต์ไม่พอใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชื่อเรื่อง บอกอีกเช่นเคยว่าไม่ถนัด แต่ชื่อเรื่องที่ดีแค่มันสัมพันธ์กับเนื้อหาก็พอแล้วนะคะ การตกแต่ง ไม่โฟกัสคะแต่ถ้าจะตกแต่งจริงๆก็ไม่ต้องแต่งเยอะนะคะเดี๋ยวม ... อ่านเพิ่มเติม
วิจารณ์นิยายเรื่อง Necessary (HaeEun) นามปากกา: _ลาโนเบลส สวัสดีคะไรต์ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสเมย์มาวิจารณ์นิยายของคุณถ้าหากผิดพลาดหรือทำให้ไรต์ไม่พอใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชื่อเรื่อง บอกอีกเช่นเคยว่าไม่ถนัด แต่ชื่อเรื่องที่ดีแค่มันสัมพันธ์กับเนื้อหาก็พอแล้วนะคะ การตกแต่ง ไม่โฟกัสคะแต่ถ้าจะตกแต่งจริงๆก็ไม่ต้องแต่งเยอะนะคะเดี๋ยวมันจะรกซะเปล่าๆนะคะ ตัวละคร เมย์ว่าไรต์น่าจะบอกรายละเอียดหรือกล่าวแนะนำสักนิดนะคะว่าตัวละครในเรื่องมีใครบ้างเลือกแค่ตัวหลักมาก็พอนะคะ ในเรื่องชอบอีทงเฮที่สุดที่นางเลี้ยงลูกของนางเองโดยที่พยายามรบกวนครอบครัวให้น้อยที่สุด นอกนั้นผ่านจ้า เนื้อเรื่อง เรื่องราวแลดูดราม่านะคะเมย์ขอชมไรต์ตรงการบรรยายไรต์บรรยายได้ดีไหลลื่นไม่มีติดขัดแถมภาษาที่ใช้อ่านแล้วเข้าใจง่ายอ่านแล้วเห็นภาพน่าสงสารอีทงเฮนะคะที่ต้องมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่อายุสิบห้าจนปัจจุบันลูกชายสุดเลิฟก็สิบสี่แล้วแถมยังดูมีเสน่ห์ฮอตไม่เบาจนคุณพ่ออย่างเขาถึงกับหวงเอามากๆเรื่องราวดำเนินไปไม่ช้าไม่เร็วเกินไปเรื่องราวระหว่างพ่อลูกน่ารักน่าลุ้นทุกตอนเลยนะคะชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไรต่อไป ไรต์ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีมากโดยเฉพาะฮยอกแจนางน่ารักมากๆเลย นิยายเรื่องนี้สนุกมากๆจนไม่รู้จะติชมอะไรแล้วนอกจากคำผิดที่มีให้เห็นบ้างเล็กน้อยเท่านั้นเองคะ โดยรวมแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วนะคะปรับตามที่เมย์บอกก็พอแล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้ไรต์นะคะสู้ๆค่า คำผิด ขั้นบันได-ขั้นยันได ละแวก>>ระแวก เคาน์เตอร์>>เคาท์เตอร์ สมมติ>>สมมุต ประมาณ>>ปะมาณ อ่านน้อยลง
lonelyone | 7 มี.ค. 58
6
0
"Critic family รับวิจารณ์นิยาย"
(แจ้งลบ)Critic family รับวิจารณ์นิยาย นักวิจารณ์ : หวาน ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้หวานวิจารณ์นิยายให้นะคะ หากติชมแรงเกินหรือละลาบละล้วงมากเกินไปต้องขอโทษด้วยค่ะ 1. ชื่อเรื่อง : 10/10 ถึงแม้จะมาคำเดียวแต่มันก็เข้ากับธีมหลักของฟิคคุณข้าวฟ่างได้ดีมาก อีกทั้งยังน่าดึงดูดด้วยค่ะ เรียกได้ว่าทุกอย่างเป๊ะเว่อร์ ในส่วนนี้หวานให้เต็มเลยค่ะ 2. โครงเ ... อ่านเพิ่มเติม
Critic family รับวิจารณ์นิยาย นักวิจารณ์ : หวาน ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้หวานวิจารณ์นิยายให้นะคะ หากติชมแรงเกินหรือละลาบละล้วงมากเกินไปต้องขอโทษด้วยค่ะ 1. ชื่อเรื่อง : 10/10 ถึงแม้จะมาคำเดียวแต่มันก็เข้ากับธีมหลักของฟิคคุณข้าวฟ่างได้ดีมาก อีกทั้งยังน่าดึงดูดด้วยค่ะ เรียกได้ว่าทุกอย่างเป๊ะเว่อร์ ในส่วนนี้หวานให้เต็มเลยค่ะ 2. โครงเรื่อง : 30/30 //ชูป้ายไฟ หวานชอบ ชอบมาก ธีมรักต้องห้ามแบบนี้ พล็อตแหวกแนวมากค่ะ ปกติถ้าเป็นความรักระหว่างคนในครอบครัวจะเจอแต่พี่น้องเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเจอแนวพ่อลูกมันเลยทำให้หวานสนใจค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 3. การบรรยายและการใช้ภาษา : 22/30 หวานอยากชี้อะไรให้คุณข้าวฟ่างดูค่ะ หวานตัดส่วนนี้มาจากบทที่สามและสี่ตามลำดับนะคะ "กูบอกแล้วมันไม่อร่อย มึงถึงกับพุ่งออกมาเลยดูดิเนี่ย" ทงเฮเอ่ยว่าอย่างไม่จริงจังนัก "ไม่ใช่นะ ก็ทงเฮพูดมั่วอะ" ฮยอกแจเช็ดปากหลังจากที่ทงเฮยื่นทิชชูมาให้ "ก็มันจริง" "ไม่ใช่! มินโฮเป็นแฟนแทมินห้อง4ต่างหาก" ลูกชายของเขาเถียงหน้าตาจริงจัง ว่าแต่มินโฮเป็นแฟนแทมินแต่........... ผมส่งฮยอกแจไปเรียนโรงเรียนชายล้วนนะ.. จะรอดมั้ยเนี่ยลูกกู OTL.. "แต่มึงเรียนชายล้วน" "ใช่! ไม่มีกำลังใจเรียนเลย" แก่แดดจริงๆลูกใคร "ดีแล้ว กูส่งไปเรียน ไม่ใช่ไปส่องหญิง" แอบเจ็บนิดๆเหมือนด่าตัวเองด้วยยังไงก็ไม่รู้ "ทงเฮก็เคย" “อะไร" "ตอนทงเฮพาฮยอกไปซื้อขนม ทงเฮชอบมองพี่ผู้หญิงสวยๆ” "แล้วทำไมล่ะ? ก็เขาสวยนี่" ทงเฮยกยิ้มขึ้น เมื่อเด็กน้อยฝั่งตรงข้ามเริ่มทำหน้าบึ้งตึง หน้าทงเฮอาจจะกำลังแดงมากๆเพราะมันร้อนจนจะไหม้ เขาเงยหน้าขึ้นไปหาฮยอกแจแต่ก็เจอใบหน้าของลูกเขาที่ก้มลงมองอยู่จนมันแทบจะชิดกันอยู่แล้ว ฮยอกแจยังคงทำหน้าเฉยๆในขณะที่เขาเริ่มทำตัวไม่ถูก บางทีอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้เด็กน่ารัก.. “เอาไว้เดี๋ยวครั้งหน้าฮยอกจะหัดใส่เองนะทงเฮ” “อะ..อืม” ผมตอบพลางหันหลังเดินออกไปหน้าบ้าน ฮยอกแจก็เดินตามมาโดยไม่ลืมที่จะเอาหนังสือเมนูอาหารมาด้วย ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่วันที่ผมทำกับข้าวให้ ฮยอกแจก็เอาแต่สั่งนู่นสั่งนี่ให้ทำให้กินอยู่ตลอด จากที่ทำอาหารไม่เป็นตอนนี้กลายเป็นทำเป็นจนจะเปิดร้านขายได้อยู่แล้ว เห็นมั๊ยเอ่ยว่าจู่ๆ เราเปลี่ยนมุมมองการเล่าจากสามไปหนึ่งแล้วกลับไปสามใหม่? การเขียนแบบนี้ช่วยให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกตัวละครแบบ real-time ก็จริง แต่มันจะทำให้ผู้อ่านงงได้ค่ะถ้าคุณข้าวฟ่าง อยากบรรยายถึงความคิดเห็นของทงเฮให้ชัดเจน แนะนำให้ทำเป็นspecial part ประมาณบทสัมภาษณ์พิเศษเรื่องความในใจอยกอีกต่างหากไปเลยค่ะ เช่นเดียวกับบทที่ห้านะคะ ที่คุณลาฟเปลี่ยนมุมมองการเล่าเรื่องไปมา โดยเริ่มจาก ทงเฮไปมุมมองบุคคลที่สามไปทงเฮไปมุมมองบุคคลที่สามไปทงเฮ สับไปสับมาตั้งแต่ต้นบทยันจบเลยล่ะค่ะ เหมือนกันกับบทที่หกที่เปิดเรื่องด้วยมุมมองบุคคลที่สาม แล้วเปลี่ยนเป็นฮยอกแจ (ตรง ‘แต่สำหรับเพื่อนๆผมว่าผมเป็นคนที่นิ่งๆออกจะเข้ากับคนอื่นได้ยากไปนิดนึงเลยทำให้พวกเขาคิดว่าผมหยิ่ง อะไรแบบนั้น แต่ถึงแบบนั้นอี ฮยอกแจก็ไม่ได้แคร์เลยสักนิด มีเพื่อนสนิทไว้คนสองคนก็พอแล้ว..’) พอกลับไปเป็นมุมมองบุคคลที่สามได้ซักพักก็สลับไปเป็นความคิดทงเฮ ( ตั้งแต่ตรง “ฮยอก...อุ๊บ!” ยังไม่ทันที่จะได้อ้อนก็มีมือของคนที่ทั้งผมและคุณก็รู้ว่าใครจัดการจับยายัดใส่ปากเข้ามาทั้งแบบนั้นก่อนจะยื่นแก้วน้ำมาให้ผมรับและดื่มตามเข้าไป) แล้วกลับไปเป็นบุคคลที่สามใหม่ (ตรง อี ทงเฮในเสื้อโค้ชตัวหนาที่ตอนนี้ได้เคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งด้านล่างของร้านเบเกอรี่เป็นที่เรียบร้อยหลังจากนอนเปื่อยเป็นผักต้มอยู่บนห้องกินเวลามากกว่าครึ่งค่อนวันกำลังนั่งจ้องมองเด็กตัวขาวที่ทำหน้าที่เป็นเด็กพาร์ทไทม์ให้กับร้านที่มีเขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย) แล้วไปเป็นเล่าเรื่องในสายตาทงเฮอีกรอบ สักพักก็เปลี่ยนไปเป็นบุคคลที่สามใหม่ (ตรง ร่างโปร่งของเจ้าของร้านเดินไปยังโต๊ะที่เพื่อนของฮยอกแจนั่งอยู่ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงฝั่งตรงข้าม จนคนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมามอง..) ปิดท้ายบทด้วยการกลับไปเล่าจากมุมมองทงเฮอีกครั้ง (ผมยื่นโทรศัพท์ที่เข้าแอพกล้องถ่ายรูปพร้อมเปิดกล้องหน้าก่อนจะยื่นมันให้กับฮยอกแจ เขารับและเอามาเพื่อดูสิ่งที่ผมเขียน ผมยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อเห็นแก้มที่โดนโพสอิทแปะนั่นมันขึ้นสีแดงระเรื่อ) ในส่วนนี้แนะนำให้ลองอ่านทวนแล้วสังเกตว่าคำว่า ‘ผม’ เริ่มโผล่มาหรือหายไปเมื่อไหร่ค่ะ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้คุณข้าวฟ่างว่าเริ่มสับตรงไหน เรื่องอื่นๆ ที่พบในฟิคของคุณข้าวฟ่างก็มีในส่วนของบทบรรยาย ที่บางจุดเหมือนอธิบาย ‘ไม่สุด’ อ่าค่ะ แบบว่าสามารถพูดถึงเกี่ยวกับตรงนั้นเพิ่มได้ โดยเฉพาะพวกอารมณ์ความรู้สึกตัวละครที่น่าจะลงรายละเอียดได้มากกว่านี้ (เช่นจากบทที่หก ตรง มีเยซองมาให้ปวดหัวแล้ว ยังมีมินงมิโนมาให้เป็นไมเกรนอีก บ้าจริงๆ ทำไมผมต้องมานั่งจับผิดด้วย ควรอธิบายตรง ‘จับผิด’ เพิ่มค่ะ เพราะหวานคิดว่าตรงนี้คุณข้าวฟ่างต้องการบอกผู้อ่านว่าทงเฮกำลังเริ่มสงสัยตัวเองว่าอาจรักฮยอกแจแบบมากกว่าคำว่า ‘พ่อลูก’ ซึ่งจะเชื่อมกับปมหลักของเรื่อง จึงควรบรรยายความรู้สึดทงเฮให้ชัดเจนไปเลยค่ะ) เหมือนกับตรงบทสนทนาที่สามารถใส่ท่าทางซึ่งสะท้อนคำพูดของตัวละครในขณะนั้นๆ หวานจะลองเขียนเป็นตัวอย่างให้ดูเพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะคะ (จากบทที่ห้า เวอร์ชั่นต้นฉบับของคุณข้าวฟ่าง) “ทำไมต้องมั้งล่ะ?” “ก็มันไม่ได้เป็นจริงนี่ มันก็เป็นแค่เรื่องสมมติ” เฮ้อ... เขาเป็นเด็กที่ฉลาดในการใช้คำพูดจริงๆ.. “มึงชอบแม่น้ำฮันมากแค่ไหน?” “แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” “แล้วทำไมมึงถึงชอบมากขนาดนั้น” “มันก็เหมือนกับที่ทงเฮชอบบรรยายสิ่งที่ชอบลงในงานเขียนนั่นแหละ” (ปรับแต่งโดยการเพิ่มบทบรรยาย) “ทำไมต้องมั้งล่ะ?” “ก็มันไม่ได้เป็นจริงนี่ มันก็เป็นแค่เรื่องสมมติ” เฮ้อ... เขาเป็นเด็กที่ฉลาดในการใช้คำพูดจริงๆ.. ทงเฮยิ้มุมปาก ประจักษ์แล้วว่าความสามารถในการตอบคำถามอย่างกำกวมของฮยอกแจมันเหนือชั้นขนาดไหน ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตั้งต้นอีกครั้งด้วยการถามคำถามข้อใหม่ “มึงชอบแม่น้ำฮันมากแค่ไหน?” “แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” ดวงตาของฮยอกแจเต็มไปด้วยประกาย ภาพทิวทัศน์แม่นํ้าฮันยามกลางคืนช่วงงานเทศกาลต่างๆ ยังติดตา เขารู้สึกว่าสายนํ้าเชี่ยวกรากในคืนเดือนดับที่ตัดกับเหล่าดอกไม้ไฟหลากสีสันนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ ที่ก่อเกิดจากการผสมผสานของคุณลักษณะสุดขั้วสองข้าง...ราวกับเป็นร่างจำแลงของทงเฮผู้ดูเหมือนจะโหดแต่ลึกๆ แล้วจิตใจอ่อนโยนอย่างไรอย่างนั้น “แล้วทำไมมึงถึงชอบมากขนาดนั้น” ทงเฮถามอย่างไม่เข้าใจ “มันก็เหมือนกับที่ทงเฮชอบบรรยายสิ่งที่ชอบลงในงานเขียนนั่นแหละ” เป็นแค่ตัวอย่างนะคะ ไม่ต้องปรับตามทุกบรรทัดค่ะ มันอาจออกมาไม่ถูกกับอรรถรสของคุณข้าวฟ่างเพราะเป็นสไตล์การเขียนของหวาน 5555 สิ่งที่หวานต้องการจะสื่อให้เห็นคือประเด็นที่ว่าคุณข้าวฟ่างสามารถเพิ่มจำนวนหน้านิยายที่เขียนจากการใส่คำอธิบายต่างๆ ได้อย่างเยอะเลยค่ะ อาจมากได้ถึงสองเท่าของออริจินัลด้วยซํ้า เท่าที่หวานลองอ่านดู เจอคำผิดไม่กี่คำเอง ในส่วนนี้แทบไม่เหลืออะไรให้หวานหักคะแนนเลยค่ะ บทที่สี่ ยื้ม = ยืม บทที่ห้า ชาร์ท = ชาร์จ 4. ตัวละคร : 15/20 ตัวละครมีมิติค่อนข้างชัดเจนนะคะ สาเหตุที่ไม่ได้เต็มก็เป็นผลพวงจากการบรรยายไม่ชัดเจนที่ส่งผลให้บุคลิกดูแข็งๆ รวบรัดไปหน่อย ซึ่งจะส่งผลมากต่อการสร้างปมรักหลายเส้าค่ะ เพราะผู้อ่านต้องการรายละเอียดว่าทำไมคนนั้นถึงเริ่มที่จะชอบคนนี้ (ในกรณีของมิโน กับเยซองเป็นต้น ที่คุณข้าวฟ่างไม่ค่อยเกริ่นว่าทำไมเริ่มชอบฮยอก) 5. ความสวยงาม : 10/10 ตัว เค้าชอบโปสเตอร์นิยายหน้าแรกของตัวมากอ่ะ 55555 ให้ใครทำให้อ่ะ หวานอยากได้บ้าง 5555//โดนตบ เอาล่ะ เข้าเรื่อง! ธีมเข้ากับภาพโดยรวมของเนื้อเรื่องค่ะ ตัวอักษรไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป จัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย เอาเป็นว่าในส่วนของความสวยงามนั้น ทุกอย่างเริดค่ะ! รวมคะแนน : 87/100 อ่านน้อยลง
love358 | 15 มี.ค. 58
3
0
ดูทั้งหมด
"Critic family รับวิจารณ์นิยาย"
(แจ้งลบ)Critic family รับวิจารณ์นิยาย นักวิจารณ์ : หวาน ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้หวานวิจารณ์นิยายให้นะคะ หากติชมแรงเกินหรือละลาบละล้วงมากเกินไปต้องขอโทษด้วยค่ะ 1. ชื่อเรื่อง : 10/10 ถึงแม้จะมาคำเดียวแต่มันก็เข้ากับธีมหลักของฟิคคุณข้าวฟ่างได้ดีมาก อีกทั้งยังน่าดึงดูดด้วยค่ะ เรียกได้ว่าทุกอย่างเป๊ะเว่อร์ ในส่วนนี้หวานให้เต็มเลยค่ะ 2. โครงเ ... อ่านเพิ่มเติม
Critic family รับวิจารณ์นิยาย นักวิจารณ์ : หวาน ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไว้ใจให้หวานวิจารณ์นิยายให้นะคะ หากติชมแรงเกินหรือละลาบละล้วงมากเกินไปต้องขอโทษด้วยค่ะ 1. ชื่อเรื่อง : 10/10 ถึงแม้จะมาคำเดียวแต่มันก็เข้ากับธีมหลักของฟิคคุณข้าวฟ่างได้ดีมาก อีกทั้งยังน่าดึงดูดด้วยค่ะ เรียกได้ว่าทุกอย่างเป๊ะเว่อร์ ในส่วนนี้หวานให้เต็มเลยค่ะ 2. โครงเรื่อง : 30/30 //ชูป้ายไฟ หวานชอบ ชอบมาก ธีมรักต้องห้ามแบบนี้ พล็อตแหวกแนวมากค่ะ ปกติถ้าเป็นความรักระหว่างคนในครอบครัวจะเจอแต่พี่น้องเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเจอแนวพ่อลูกมันเลยทำให้หวานสนใจค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป 3. การบรรยายและการใช้ภาษา : 22/30 หวานอยากชี้อะไรให้คุณข้าวฟ่างดูค่ะ หวานตัดส่วนนี้มาจากบทที่สามและสี่ตามลำดับนะคะ "กูบอกแล้วมันไม่อร่อย มึงถึงกับพุ่งออกมาเลยดูดิเนี่ย" ทงเฮเอ่ยว่าอย่างไม่จริงจังนัก "ไม่ใช่นะ ก็ทงเฮพูดมั่วอะ" ฮยอกแจเช็ดปากหลังจากที่ทงเฮยื่นทิชชูมาให้ "ก็มันจริง" "ไม่ใช่! มินโฮเป็นแฟนแทมินห้อง4ต่างหาก" ลูกชายของเขาเถียงหน้าตาจริงจัง ว่าแต่มินโฮเป็นแฟนแทมินแต่........... ผมส่งฮยอกแจไปเรียนโรงเรียนชายล้วนนะ.. จะรอดมั้ยเนี่ยลูกกู OTL.. "แต่มึงเรียนชายล้วน" "ใช่! ไม่มีกำลังใจเรียนเลย" แก่แดดจริงๆลูกใคร "ดีแล้ว กูส่งไปเรียน ไม่ใช่ไปส่องหญิง" แอบเจ็บนิดๆเหมือนด่าตัวเองด้วยยังไงก็ไม่รู้ "ทงเฮก็เคย" “อะไร" "ตอนทงเฮพาฮยอกไปซื้อขนม ทงเฮชอบมองพี่ผู้หญิงสวยๆ” "แล้วทำไมล่ะ? ก็เขาสวยนี่" ทงเฮยกยิ้มขึ้น เมื่อเด็กน้อยฝั่งตรงข้ามเริ่มทำหน้าบึ้งตึง หน้าทงเฮอาจจะกำลังแดงมากๆเพราะมันร้อนจนจะไหม้ เขาเงยหน้าขึ้นไปหาฮยอกแจแต่ก็เจอใบหน้าของลูกเขาที่ก้มลงมองอยู่จนมันแทบจะชิดกันอยู่แล้ว ฮยอกแจยังคงทำหน้าเฉยๆในขณะที่เขาเริ่มทำตัวไม่ถูก บางทีอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้เด็กน่ารัก.. “เอาไว้เดี๋ยวครั้งหน้าฮยอกจะหัดใส่เองนะทงเฮ” “อะ..อืม” ผมตอบพลางหันหลังเดินออกไปหน้าบ้าน ฮยอกแจก็เดินตามมาโดยไม่ลืมที่จะเอาหนังสือเมนูอาหารมาด้วย ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่วันที่ผมทำกับข้าวให้ ฮยอกแจก็เอาแต่สั่งนู่นสั่งนี่ให้ทำให้กินอยู่ตลอด จากที่ทำอาหารไม่เป็นตอนนี้กลายเป็นทำเป็นจนจะเปิดร้านขายได้อยู่แล้ว เห็นมั๊ยเอ่ยว่าจู่ๆ เราเปลี่ยนมุมมองการเล่าจากสามไปหนึ่งแล้วกลับไปสามใหม่? การเขียนแบบนี้ช่วยให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกตัวละครแบบ real-time ก็จริง แต่มันจะทำให้ผู้อ่านงงได้ค่ะถ้าคุณข้าวฟ่าง อยากบรรยายถึงความคิดเห็นของทงเฮให้ชัดเจน แนะนำให้ทำเป็นspecial part ประมาณบทสัมภาษณ์พิเศษเรื่องความในใจอยกอีกต่างหากไปเลยค่ะ เช่นเดียวกับบทที่ห้านะคะ ที่คุณลาฟเปลี่ยนมุมมองการเล่าเรื่องไปมา โดยเริ่มจาก ทงเฮไปมุมมองบุคคลที่สามไปทงเฮไปมุมมองบุคคลที่สามไปทงเฮ สับไปสับมาตั้งแต่ต้นบทยันจบเลยล่ะค่ะ เหมือนกันกับบทที่หกที่เปิดเรื่องด้วยมุมมองบุคคลที่สาม แล้วเปลี่ยนเป็นฮยอกแจ (ตรง ‘แต่สำหรับเพื่อนๆผมว่าผมเป็นคนที่นิ่งๆออกจะเข้ากับคนอื่นได้ยากไปนิดนึงเลยทำให้พวกเขาคิดว่าผมหยิ่ง อะไรแบบนั้น แต่ถึงแบบนั้นอี ฮยอกแจก็ไม่ได้แคร์เลยสักนิด มีเพื่อนสนิทไว้คนสองคนก็พอแล้ว..’) พอกลับไปเป็นมุมมองบุคคลที่สามได้ซักพักก็สลับไปเป็นความคิดทงเฮ ( ตั้งแต่ตรง “ฮยอก...อุ๊บ!” ยังไม่ทันที่จะได้อ้อนก็มีมือของคนที่ทั้งผมและคุณก็รู้ว่าใครจัดการจับยายัดใส่ปากเข้ามาทั้งแบบนั้นก่อนจะยื่นแก้วน้ำมาให้ผมรับและดื่มตามเข้าไป) แล้วกลับไปเป็นบุคคลที่สามใหม่ (ตรง อี ทงเฮในเสื้อโค้ชตัวหนาที่ตอนนี้ได้เคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งด้านล่างของร้านเบเกอรี่เป็นที่เรียบร้อยหลังจากนอนเปื่อยเป็นผักต้มอยู่บนห้องกินเวลามากกว่าครึ่งค่อนวันกำลังนั่งจ้องมองเด็กตัวขาวที่ทำหน้าที่เป็นเด็กพาร์ทไทม์ให้กับร้านที่มีเขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย) แล้วไปเป็นเล่าเรื่องในสายตาทงเฮอีกรอบ สักพักก็เปลี่ยนไปเป็นบุคคลที่สามใหม่ (ตรง ร่างโปร่งของเจ้าของร้านเดินไปยังโต๊ะที่เพื่อนของฮยอกแจนั่งอยู่ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงฝั่งตรงข้าม จนคนที่นั่งอยู่ก่อนเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมามอง..) ปิดท้ายบทด้วยการกลับไปเล่าจากมุมมองทงเฮอีกครั้ง (ผมยื่นโทรศัพท์ที่เข้าแอพกล้องถ่ายรูปพร้อมเปิดกล้องหน้าก่อนจะยื่นมันให้กับฮยอกแจ เขารับและเอามาเพื่อดูสิ่งที่ผมเขียน ผมยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อเห็นแก้มที่โดนโพสอิทแปะนั่นมันขึ้นสีแดงระเรื่อ) ในส่วนนี้แนะนำให้ลองอ่านทวนแล้วสังเกตว่าคำว่า ‘ผม’ เริ่มโผล่มาหรือหายไปเมื่อไหร่ค่ะ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้คุณข้าวฟ่างว่าเริ่มสับตรงไหน เรื่องอื่นๆ ที่พบในฟิคของคุณข้าวฟ่างก็มีในส่วนของบทบรรยาย ที่บางจุดเหมือนอธิบาย ‘ไม่สุด’ อ่าค่ะ แบบว่าสามารถพูดถึงเกี่ยวกับตรงนั้นเพิ่มได้ โดยเฉพาะพวกอารมณ์ความรู้สึกตัวละครที่น่าจะลงรายละเอียดได้มากกว่านี้ (เช่นจากบทที่หก ตรง มีเยซองมาให้ปวดหัวแล้ว ยังมีมินงมิโนมาให้เป็นไมเกรนอีก บ้าจริงๆ ทำไมผมต้องมานั่งจับผิดด้วย ควรอธิบายตรง ‘จับผิด’ เพิ่มค่ะ เพราะหวานคิดว่าตรงนี้คุณข้าวฟ่างต้องการบอกผู้อ่านว่าทงเฮกำลังเริ่มสงสัยตัวเองว่าอาจรักฮยอกแจแบบมากกว่าคำว่า ‘พ่อลูก’ ซึ่งจะเชื่อมกับปมหลักของเรื่อง จึงควรบรรยายความรู้สึดทงเฮให้ชัดเจนไปเลยค่ะ) เหมือนกับตรงบทสนทนาที่สามารถใส่ท่าทางซึ่งสะท้อนคำพูดของตัวละครในขณะนั้นๆ หวานจะลองเขียนเป็นตัวอย่างให้ดูเพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะคะ (จากบทที่ห้า เวอร์ชั่นต้นฉบับของคุณข้าวฟ่าง) “ทำไมต้องมั้งล่ะ?” “ก็มันไม่ได้เป็นจริงนี่ มันก็เป็นแค่เรื่องสมมติ” เฮ้อ... เขาเป็นเด็กที่ฉลาดในการใช้คำพูดจริงๆ.. “มึงชอบแม่น้ำฮันมากแค่ไหน?” “แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” “แล้วทำไมมึงถึงชอบมากขนาดนั้น” “มันก็เหมือนกับที่ทงเฮชอบบรรยายสิ่งที่ชอบลงในงานเขียนนั่นแหละ” (ปรับแต่งโดยการเพิ่มบทบรรยาย) “ทำไมต้องมั้งล่ะ?” “ก็มันไม่ได้เป็นจริงนี่ มันก็เป็นแค่เรื่องสมมติ” เฮ้อ... เขาเป็นเด็กที่ฉลาดในการใช้คำพูดจริงๆ.. ทงเฮยิ้มุมปาก ประจักษ์แล้วว่าความสามารถในการตอบคำถามอย่างกำกวมของฮยอกแจมันเหนือชั้นขนาดไหน ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตั้งต้นอีกครั้งด้วยการถามคำถามข้อใหม่ “มึงชอบแม่น้ำฮันมากแค่ไหน?” “แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว” ดวงตาของฮยอกแจเต็มไปด้วยประกาย ภาพทิวทัศน์แม่นํ้าฮันยามกลางคืนช่วงงานเทศกาลต่างๆ ยังติดตา เขารู้สึกว่าสายนํ้าเชี่ยวกรากในคืนเดือนดับที่ตัดกับเหล่าดอกไม้ไฟหลากสีสันนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ ที่ก่อเกิดจากการผสมผสานของคุณลักษณะสุดขั้วสองข้าง...ราวกับเป็นร่างจำแลงของทงเฮผู้ดูเหมือนจะโหดแต่ลึกๆ แล้วจิตใจอ่อนโยนอย่างไรอย่างนั้น “แล้วทำไมมึงถึงชอบมากขนาดนั้น” ทงเฮถามอย่างไม่เข้าใจ “มันก็เหมือนกับที่ทงเฮชอบบรรยายสิ่งที่ชอบลงในงานเขียนนั่นแหละ” เป็นแค่ตัวอย่างนะคะ ไม่ต้องปรับตามทุกบรรทัดค่ะ มันอาจออกมาไม่ถูกกับอรรถรสของคุณข้าวฟ่างเพราะเป็นสไตล์การเขียนของหวาน 5555 สิ่งที่หวานต้องการจะสื่อให้เห็นคือประเด็นที่ว่าคุณข้าวฟ่างสามารถเพิ่มจำนวนหน้านิยายที่เขียนจากการใส่คำอธิบายต่างๆ ได้อย่างเยอะเลยค่ะ อาจมากได้ถึงสองเท่าของออริจินัลด้วยซํ้า เท่าที่หวานลองอ่านดู เจอคำผิดไม่กี่คำเอง ในส่วนนี้แทบไม่เหลืออะไรให้หวานหักคะแนนเลยค่ะ บทที่สี่ ยื้ม = ยืม บทที่ห้า ชาร์ท = ชาร์จ 4. ตัวละคร : 15/20 ตัวละครมีมิติค่อนข้างชัดเจนนะคะ สาเหตุที่ไม่ได้เต็มก็เป็นผลพวงจากการบรรยายไม่ชัดเจนที่ส่งผลให้บุคลิกดูแข็งๆ รวบรัดไปหน่อย ซึ่งจะส่งผลมากต่อการสร้างปมรักหลายเส้าค่ะ เพราะผู้อ่านต้องการรายละเอียดว่าทำไมคนนั้นถึงเริ่มที่จะชอบคนนี้ (ในกรณีของมิโน กับเยซองเป็นต้น ที่คุณข้าวฟ่างไม่ค่อยเกริ่นว่าทำไมเริ่มชอบฮยอก) 5. ความสวยงาม : 10/10 ตัว เค้าชอบโปสเตอร์นิยายหน้าแรกของตัวมากอ่ะ 55555 ให้ใครทำให้อ่ะ หวานอยากได้บ้าง 5555//โดนตบ เอาล่ะ เข้าเรื่อง! ธีมเข้ากับภาพโดยรวมของเนื้อเรื่องค่ะ ตัวอักษรไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป จัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย เอาเป็นว่าในส่วนของความสวยงามนั้น ทุกอย่างเริดค่ะ! รวมคะแนน : 87/100 อ่านน้อยลง
love358 | 15 มี.ค. 58
3
0
"ร้านรับวิจารณ์นิยายสไตล์ flower shop"
(แจ้งลบ)วิจารณ์นิยายเรื่อง Necessary (HaeEun) นามปากกา: _ลาโนเบลส สวัสดีคะไรต์ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสเมย์มาวิจารณ์นิยายของคุณถ้าหากผิดพลาดหรือทำให้ไรต์ไม่พอใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชื่อเรื่อง บอกอีกเช่นเคยว่าไม่ถนัด แต่ชื่อเรื่องที่ดีแค่มันสัมพันธ์กับเนื้อหาก็พอแล้วนะคะ การตกแต่ง ไม่โฟกัสคะแต่ถ้าจะตกแต่งจริงๆก็ไม่ต้องแต่งเยอะนะคะเดี๋ยวม ... อ่านเพิ่มเติม
วิจารณ์นิยายเรื่อง Necessary (HaeEun) นามปากกา: _ลาโนเบลส สวัสดีคะไรต์ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสเมย์มาวิจารณ์นิยายของคุณถ้าหากผิดพลาดหรือทำให้ไรต์ไม่พอใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชื่อเรื่อง บอกอีกเช่นเคยว่าไม่ถนัด แต่ชื่อเรื่องที่ดีแค่มันสัมพันธ์กับเนื้อหาก็พอแล้วนะคะ การตกแต่ง ไม่โฟกัสคะแต่ถ้าจะตกแต่งจริงๆก็ไม่ต้องแต่งเยอะนะคะเดี๋ยวมันจะรกซะเปล่าๆนะคะ ตัวละคร เมย์ว่าไรต์น่าจะบอกรายละเอียดหรือกล่าวแนะนำสักนิดนะคะว่าตัวละครในเรื่องมีใครบ้างเลือกแค่ตัวหลักมาก็พอนะคะ ในเรื่องชอบอีทงเฮที่สุดที่นางเลี้ยงลูกของนางเองโดยที่พยายามรบกวนครอบครัวให้น้อยที่สุด นอกนั้นผ่านจ้า เนื้อเรื่อง เรื่องราวแลดูดราม่านะคะเมย์ขอชมไรต์ตรงการบรรยายไรต์บรรยายได้ดีไหลลื่นไม่มีติดขัดแถมภาษาที่ใช้อ่านแล้วเข้าใจง่ายอ่านแล้วเห็นภาพน่าสงสารอีทงเฮนะคะที่ต้องมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่อายุสิบห้าจนปัจจุบันลูกชายสุดเลิฟก็สิบสี่แล้วแถมยังดูมีเสน่ห์ฮอตไม่เบาจนคุณพ่ออย่างเขาถึงกับหวงเอามากๆเรื่องราวดำเนินไปไม่ช้าไม่เร็วเกินไปเรื่องราวระหว่างพ่อลูกน่ารักน่าลุ้นทุกตอนเลยนะคะชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไรต่อไป ไรต์ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีมากโดยเฉพาะฮยอกแจนางน่ารักมากๆเลย นิยายเรื่องนี้สนุกมากๆจนไม่รู้จะติชมอะไรแล้วนอกจากคำผิดที่มีให้เห็นบ้างเล็กน้อยเท่านั้นเองคะ โดยรวมแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วนะคะปรับตามที่เมย์บอกก็พอแล้วนะคะ เป็นกำลังใจให้ไรต์นะคะสู้ๆค่า คำผิด ขั้นบันได-ขั้นยันได ละแวก>>ระแวก เคาน์เตอร์>>เคาท์เตอร์ สมมติ>>สมมุต ประมาณ>>ปะมาณ อ่านน้อยลง
lonelyone | 7 มี.ค. 58
6
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น