คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : HAPPY BIRTHDAY HYUKJAE ♡
HAPPY BIRTHDAY HYUKJAE ♡
Note : รีบแต่งรีบพิมพ์มากๆ ไม่ทันสี่ทุ่มของเมื่อคืนด้วย แต่ก็ยังอยู่ในวันที่สี่น้า
ปล.ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องยาวนะคะ
ขอบคุณ รูปภาพ credit ในรูป
สองเท้าของอีทงเฮและชเวซีวอนสองเพื่อนสนิทก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียนอย่างเช่นทุกวันเป็นปกติ แขนที่พาดไหล่อีกฝ่ายไว้คงเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับคนทั้งสอง
ดวงตาคมของทงเฮไปสะดุดเข้ากับกลุ่มนักเรียนที่ยืนออกันอยู่หน้าตึกมัธยมปลาย..
อ่า...ประกาศผลสอบนี่่
"คนเยอะสัด มาดูวันอื่นก็ได้นะทงเฮ ระดับนี้แล้วไม่ตกหรอก" เสียงบ่นของเพื่อนสนิทดังแข่งกับเสียงคุยของบุคคลรอบข้าง ซีวอนก็เป็นแบบนี้ มั่นใจในตัวเองสูง จนบางทีทงเฮก็ว่ามึงมั่นใจไปนะ =_=
"กูได้ที่สามสิบเก้าของชั้น เหี้ยจริงๆ"
"กูอ่ะหนึ่งแน่ๆ"
"มึงได้ที่สอง"
"ห๊ะ! ใคร!? ใครมันได้ที่หนึ่ง!"
"อี ฮยอกแจ" เขาพูดพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ต่างจากซีวอนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจนคนรอบข้างเริ่มจะตีตัวออกห่างพวกเขาทั้งสองแล้ว
"อี ฮยอกแจ! อี ฮยอกแจอีกแล้วหรอ" ทงเฮไม่ได้ตอบอะไรนอกจากรอยยิ้มที่ยังคงมีอยู่ แล้วเดินออกมาจากที่ตรงนั้นตรงไปยังโต๊ะที่นั่งใต้ตึกเป็นประจำทุกวัน
ทำไมทงเฮจะไม่รู้สาเหตุที่เพื่อนของเขาหงุดหงิดขนาดนี้ ซีวอนน่ะคว้าลำดับที่หนึ่งมาตลอดตั้งแต่ม.ต้น แต่พอขึ้นม.ปลายเท่านั่นแหละ ลำดับที่นั้นก็โดนแย่งไปซะดื้อๆ โดยไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ฮยอกแจนั่นแหละ เด็กที่สอบเข้าม.ปลายมาด้วยคะแนนสูงที่สุดของโรงเรียน
ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิดนอกจากตัวบางๆกับหน้าหวานที่ซีดๆและเรียบนิ่งทุกครั้งที่เจอ เมื่อก่อนใส่แว่นตาที่มันกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหน้าแต่ตอนนี้ถอดออกแล้วเห็นว่าโดนแกล้ง ทำให้เดือนหนึ่งต้องเปลี่ยนไปหลายอัน
"กูจะไปกระทืบมันอีกทีดีไหม น่าหมั่นไส้"
หึ.. ซีวอนเคยมีเรื่องกับฮยอกแจ และแน่นอนว่าอี ฮยอกแจใช้ใบหน้าที่เรียบนิ่งเป็นอาวุธที่ทำให้เพื่อนเขาเจ็บใจมากๆ
'แพ้แล้วอย่าพาลสิ'
นั่นแหละ เพราะคำพูดสั้นๆนี่แหละทำเอาเพื่อนของเขายั้งมือไว้ไม่ไหว ปล่อยหมัดไปที่หน้าหวาน แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้และยังไม่เคยเจอคือ..
อี ฮยอกแจน่ะ หมัดหนักมาก!
วินาทีที่โดนต่อย คนตัวเล็กก็ไม่รีรอที่จะสวนกลับไปทันทีและนั่นมันทำให้ซีวอนสลบไปหนึ่งวันเต็มๆ...
โหดสัดมั้ยล่ะ
ถ้าเปรียบฮยอกแจเป็นโทรทัศน์ทงเฮมั่นใจแน่ว่ามันคือจอขาวดำไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าภาพในจอสี่เหลี่ยมนั่น ในขณะที่คนอื่นๆเป็นภาพสี ให้อารมณ์ที่หลากหลายน่าสนใจกว่า
แต่ภาพขาวดำที่อยู่ท่ามกลางภาพสี ใครล่ะที่แตกต่าง..
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทงเฮคอยมองฮยอกแจอยู่แบบนี้ไงล่ะ
"ไอ้เหี้ยกูเกลียดฮยอกแจโว้ย!"
"น่ารักดีออก"
"น่ารักกับผีดิ!"
_______________________
เหมือนวันนี้จะเป็นวันที่โชคร้ายสำหรับซีวอน หลังจากที่ครูฟิสิกส์ประกาศว่าติดธุระด่วน ก็จัดการฝากฝังเด็กห้องวิทย์คณิตไว้กับครูห้องโครงการฯ
ห้องที่ฮยอกแจอยู่น่ะ...
"เหี้ยยยยยยยย กูไม่อยากเจอหน้ามันโว้ย"
"เลิกหอนซักทีซีวอน กูรำคาญ ได้ยินแล้วคันหูมากๆเสียงมึงเนี่ย"
ระหว่างทางเดินเข้าไปยังห้องเรียนก็มีเสียงของซีวอนคอยบ่นงุ้งงิ้งเหมือนแมลงหวี่บินตอมหูอยู่ไม่ขาดเสียง คือทงเฮก็รำคาญไงแต่รีบๆเดินให้ถึงห้องดีกว่าเดี๋ยวมันก็เงียบไปเองแหละมั้ง
ปัง ปัง ปัง !
เสียงตบที่โต๊ะเรียกความสนใจจากเด็กในห้องได้ดีจากที่มีคนเยอะอยู่แล้วยิ่งเยอะเข้าไปอีกเมื่อเด็กนักเรียนสองห้องมาอัดกันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่นี้
"ประกาศคะแนนสอบของห้องสอง วิชาฟิสิกส์ของครูซอนมีนะคะ"
เหี้ย..
แบบนี้ก็อับอายไปยันจบมหาลัยเลยเถอะ คะแนนของเขาตกต่ำมากๆ ยิ่งวิชาฟิสิกส์ด้วยนะเป็นอะไรที่คะแนนต่ำเรี่ยราด รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น
"ครูจะบอกคะแนนเต็มยี่สิบ ของปรนัยก่อนนะคะ" ทงเฮหลับตาฟุบหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้นมา เพราะห้องสองมาอาศัยห้องหนึ่งอยู่ ที่นั่งที่พื้นจึงเป็นที่ของเขาล่ะ
ไม่ให้ฟุบได้ไง กูเลขที่หนึ่ง..
"อี ทงเฮ....แปด" ครูลดกระดาษลงเปรยตามองลอดแว่นมายังผมหน่อยๆ ก่อนจะพูดต่อ
"ตกมารอบที่สี่แล้วนะทงเฮ"
"เพิ่มมาตั้งสองนะครู" ได้ยินเสียงถอนหายใจกับเสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมๆกัน แต่ทงเฮก็ไม่ได้สนใจอะไร เกรดน้อยช่างมันเหอะเอาใบจบให้ได้ก่อน
แปดเต็มยี่สิบสำหรับเด็กสายวิทย์คณิตอย่างเขา นี่ยังน่าดีใจนิดๆนะครั้งที่แล้วทงเฮได้หกเต็มยี่สิบ โดนแม่ไล่ไปเลี้ยงควายแล้วอยู่กินกับมันไปเลย แต่ทงเฮก็ไม่ไป หน้าด้านอยู่ต่อให้แม่ถอนหายใจเล่น
.
.
.
.
.
.
.
"ชเว ซีวอน..สิบหก"
"กูว่าครูต้องตรวจผิดแน่ๆทงเฮ กูมั่นใจตอนสอบมากๆ"
"เงียบซะ ถ้ามึงผ่าน"
"ไอเหี้ย..."
หลังจากที่ครูประกาศคะแนนปรนัยเสร็จทงเฮก็แทบจะเข้าเฝ้าพระอินทร์ นอกจากจะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วจิตใจยังห่อเหี่ยวมากกว่าเดิมอีก เขาเห็นครูเรียกฮยอกแจไปคุยอะไรก็ไม่รู้ รู้แค่หัวกลมๆนั่นเอาแต่พยักหน้ารับและพูดว่าครับ ครับ ครับ
ก็น่ารักดี..
"อี ทงเฮ"
"หะ คะ...ครับ"
"ตามฮยอกแจไปที่ห้องคณิตศาสตร์"
"เอ่อ.."
"ไปทำงานมาเพิ่มคะแนน" เพียงเท่านั้นทงเฮก็จำต้องเดินตามคนตัวเล็กออกมา โดยมีเสียงของมารอย่างซีวอนดังขึ้นมาตามหลัง
"ขอให้รอดมือรอดตีนนะมึง!!"
______________________
ทงเฮบอกเลยว่าการได้มาอยู่ในห้องเดียวกับคนที่ตัวเองชอบเพียงแค่สองคนตามลำพังแบบนี้แม่งโคตรอึดอัด
.
อี ทงเฮ ชอบ ฮยอกแจ..
ไม่ใช่ไม่อยากอยู่ด้วยนะ แต่หน้าฮยอกแจแม่ งหน้าเดียวมากอ่ะ กลัวตีนกาขึ้นหรือไงทำไมไม่ยิ้มบ้าง ถ้าเปรียบเป็นอีโมฮยอกแจก็คงเป็นอีตัวนี้อะ .__.
จะมองว่าน่ารักก็ใช่แต่แบบน่ากลัวมากกว่าไม่พูดไม่จามาถึงก็เปิดหนังสือแล้วก็ขีดๆไฮไลต์ไว้เต็มหนังสือ มีเขียนสูตรไปบ้างนิดหน่อย เสร็จแล้วก็...ปิด
ปิดหนังสือแล้วยื่นให้..
"เอาไปเขียนใส่สมุด เราจดให้แล้ว"
"เขียนยังไงอะ"
"ก็จากที่เราไฮไลต์ไว้ให้ ส่วนแบบฝึกหัดก็มีวิธีทำให้ดูแล้ว" ทงเฮอยากจะกรีดร้อง ฮยอกแจพูดกับเขาด้วยประโยคที่ยาวมากๆ โอ้ย ดีใจ ตั้งแต่แอบมองมานี่ยาวสุดๆเลยนะ
"อ่อ ขอบใจ"ผมพยักหน้าพลางรับหนังสือมาไว้ที่ตัว พอดีกระเป๋าอยู่ในห้อง ที่หยิบติดมือมามีแค่ปากกาแดงล้วนๆ
"อย่าบอกครูว่าเราทำให้นะ" เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับหน้าเดียวของฮยอกแจ ทงเฮขมวดคิ้วสงสัยและเหมือนว่าฮยอกแจจะรู้
"จริงๆแล้วครูแค่ให้เรามาสอนทงเฮน่ะ" คิ้วเข้มคลายออกเมื่อได้ยินคำตอบ ก่นจะตอบตกลงไป ยังไงเขาก็ขี้เกียจต้องมานั่งเรียนอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้คนสอนจะน่ารักก็เถอะ
"เหลือเวลาอีกชั่วโมง จะไปทำอะไรก็ไปนะ" ทงเฮอยากจะเข้าข้างตัวเองจริงๆเลยว่าฮยอกแจคุยกับเขาเยอะมากๆอ่ะ #ง้อวววเขิน
"ไปด้วยกันได้ปะ"
"หืม?"
"ไปโรงยิมเป็นเพื่อนหน่อยดิ" หลังจากพูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะคว้ามือขาวของคนที่นั่งเหวอให้ลุกตามไปด้วย
โรงยิมที่ในตอนนี้ไม่มีแม้แต่เงาของนักเรียน คุณครู หรือ แม้กระทั่งภารโรงถูกเปิดขึ้นโดยทงเฮที่มาพร้อมกับฮยอกแจ มือหนาออกแรงดันคนตัวบางให้เข้าไปข้างในก่อนจะปิดประตูเบาๆและเดินไปเปิดพัดลมแถวๆนั้น
"..........." ทงเฮมองคนที่เข้ามาก่อน ด้วยความขันปนๆกับเอ็นดู ฮยอกแจตอนมองไปรอบๆโรงยิมที่มืดสลัวๆแล้วลูบแขนตัวเองเบาๆเพราะไอของความเย็นของแอร์ที่ยังคงมีอยู่นั้นน่ารักมากจริงๆ
"มานั่งเถอะ แค่อยากพามาที่เงียบๆน่ะ" ฮยอกแจไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าเบาๆแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆทงเฮแค่นั้น
ร่างหนายิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ก่อนจะหยิบไอโฟนเครื่องคู่ใจออกมาจากกระเป๋านักเรียนเสียบหูฟังยัดใส่หูข้างขวาส่วนอีกข้างก็ยื่นไปใส่ให้คนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ แอบขำตอนที่เห็นว่าฮยอกแจสะดุ้งด้วยแหละ
"ฮยอกแจ.."
"หือ"
"ทำไมไม่ค่อยยิ้มเลยล่ะ"
"ไม่รู้สิ"
"แล้วเคยยิ้มบ้างมั้ยเนี่ย"
"เคยสิ แต่ตอนยิ้มก็ไม่รู้ตัวว่ายิ้มไปตั้งแต่เมื่อไหร่" ทงเฮลอบมองใบหน้าหวานที่เรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ สองขาเล็กแกว่งไปมาเบาๆ ดวงตาเรียวเอาแต่เหม่อมองออกไปข้างหน้าที่มีเพียงสแตนที่นั่งกับผนังสีฟ้าอ่อน
"แล้วจะรู้ได้ไงอะ"
"ตอนนั้นพ่อถ่ายรูปไว้น่ะ" ทงเฮพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะถามต่อไปอีก
"แล้วรู้สึกยังไงเวลามีคนแกล้ง"
"เราก็ไม่ใช่คนดีอะไรขนาดที่จะไม่คิดโกรธหรอกนะ" คำพูดนั้นทำเอาทงเฮยิ้มออกมาบางๆ
"แล้วรู้มั้ยว่ามีคนที่ชอบด้วย.."
"ก็... หะ เห้ย!"
พลั่ก!
ใบหน้าคมเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ โดยมีคนกระทำนั่งอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ ทงเฮก็แค่แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเองนะ!
เจ็บสัด ดาวลอยอยู่เต็มไปหมดเลยตอนนี้
เข้าใจหัวอกซีวอนมากๆ ดีนะที่หนังหน้าของเขาทนแรงกระแทกได้ดีและขอบคุณสติที่ยังไม่วูบดับไปเหมือนไอ้ซีวอนด้วย
จึ้กๆ..
"เจ็บมากมั้ยอะ" แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้ทงเฮต้องหันไปมองทั้งๆที่มือยังกุมแก้มข้างที่โดยต่อยไปหมาดๆ
"เจ็บมากด้วย รับผิดชอบเลย"
"ขอโทษ~ เราตกใจนี่" อยากจะก้มกราบขอร้องให้เปลี่ยนหน้าบ้างก็ได้ แม้แต่สีหน้ารู้สึกผิดก็ยังคงเรียบนิ่ง ถ้าไม่สังเกตแววตาใสๆนั่นที่เหมือนจะกำลังเอ่ยบอกว่าขอโทษอยู่
“ดูแลเราเลยนะ” เพียงเท่านั้นริมฝีปากเล็กก็ยู่งอนอย่างเอาแต่ใจ และมันยิ่งน่ารักมากๆในสายตาของทงเฮเมื่อมันเป็นฮยอกแจ
แต่เดี๋ยวนะ..
ยู่ปาก!!
ฮยอกแจทำหน้างอนใส่ทงเฮ!!
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้กดชัตเตอร์เก็บไว้ดู โอ๊ย ฮยอกแจทำไมน่ารักแบบนี้ TT
“ทำหน้าแบบอื่นก็น่ารักดีนี่”
“อืมมมมม รู้”
“รู้ได้ไง”
“ก็นายเพิ่งบอกเมื่อกี้นี่ไง”
“ไปทำแผลดีกว่านะทงเฮ”ฮยอกแจลุกขึ้นคว้าแขนทงเฮให้ลุกตามออกมา ร่างหนายิ้มออกมาเล็กๆเมื่อเห็นมือขาวที่กำลังจับแขนเขาไว้แน่น และเพราะมัวแต่มองมือที่จับแขนนั่นจนไม่ได้มองอื่นๆ ทำให้ไม่ทันได้มองเสียงโหวกเหวกของนักเรียนที่กำลังเล่นบอลในสนามจน..
“เห้ย ทงเฮ!”
พลั่ก!!
ลูกหนังสีขาวลายดำลอยมายังเขาและเป็นฮยอกแจที่เห็นและผลักเขาออกจนคนรับเคราะห์นั่นกลายเป็นฮยอกแจซะเอง
จมูกรั้นมีเลือดไหลออกมาจนคนมองตกใจ รีบพาทั้งตัวเองและคนตัวเล็กไปยังห้องพยาบาล ส่วนพวกเตะบอลก็ช่างแม่ งก่อนเถอะ เวลานี้จะเอาอะไรไปหาเรื่องมันเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่แบบนี้
ห้องพยาบาลเงียบสงบ ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตคนอื่นนอกจากพวกเขาสองคน ป้ายที่ติดอยู่ตรงตู้กระจกยาเขียนเอาไว้ว่าห้ามหยิบยาใช้เองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เวลานี้คนให้อนุญาตไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เพราะฉะนั้นสรุปว่าอี ทงเฮคนนี้จะทำแผลให้ฮยอกแจเอง
“เจ็บมั้ยเนี่ย ทำไมเอาหน้ารับแบบนั้นล่ะ”
“เปล่าซะหน่อย แค่หลบไม่ทัน”
“ทีหลังไม่เอาแล้วนะ มันจะโดนเราก็ช่างมัน” ทงเฮพูดพลางใช้ทิชชู่ซับเลือดให้ร่างบาง ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำแข็งในตู้เย็นของห้องพยาบาลมาใส่ผ้าและประคบให้เบาๆ
“ดูดิ แดงหมดเลย ดั้งจะหักป้ะเนี่ย”
“ตัวก็เล็กชนนิดนึงก็ปลิวแล้วมั้ง กินข้าวให้มันเยอะๆหน่อย”
“ผิวขาวๆนี่แดงง่ายเนอะ อย่างนี้เมื่อไหร่จะหาย”
คนตัวเล็กได้แต่นอนมองทงเฮที่ทำหน้าที่เป็นคนทำแผลให้ตาแป๋ว ทงเฮเอาแต่บ่นๆๆซึ่งฟังๆไปมันก็เพลินดีเหมือนกัน เพลินมากจนจะหลับ..
ดวงตาเล็กปรืออย่างคนที่จะยื้อความง่วงไว้สุดชีวิต นี่ทงเฮบ่นให้หลับหรอ ง่วงมากอะบอกตรงๆ ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้เปลือกตาบางก็ทำหน้าที่ปิดลงไปช้าๆ พร้อมกับภาพสุดท้ายที่ฮยอกแจเห็นก่อนจะมืดสนิท
อี ทงเฮที่ยิ้มอยู่..
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะฮยอกแจ..”
ริมฝีปากจรดลงกับหน้าผากมนที่มีปรอยผมอยู่เล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆผละออก ก่อนจะไปจัดการกับแผลของตัวเองบ้าง
หมับ!
แรงจับที่ข้อมือทำเอาทงเฮตกใจไปนิดนึงก่อนจะหันไป แต่ก็ต้องยกมือที่ไม่ได้ถูกจับกุมขึ้นมาบังหน้าหล่อๆที่มีรอยแดงอยู่ก่อนหน้าแล้ว
โอ้ย T^T ฮยอกแจจะต่อยกันอีกแล้ว
แปะๆ
“มาจูบหน้าผากเราแบบนี้ชอบเราหรือไง” แขนเล็กที่ตอนแรกง้างทำท่าเหมือนพร้อมจะฮุกมายังเขา เปลี่ยนมาเป็นตบเบาๆที่ไหล่ ทงเฮรู้สึกเหมือนโดนฮยอกแจโอบเลยอ่ะ ฮืออออ เขิน
“แล้วถ้าบอกว่าใช่อ่ะ”
“แล้วต้องทำยังไงไม่รู้หรอ”
“เป็นแฟนกันนะ!”
“เป็นแฟนกันๆๆๆ”
“เราชอบฮยอกแจ ชอบมานานแล้วด้วย ชอบมากๆ ชอบที่สุดในโลกเลย!”
“อืม..”
“วันเกิดปีนี้เราก็ขอให้ทงเฮทำให้เรายิ้มบ่อยๆด้วย”
“ไม่คิดว่าจะเป็นจริงแฮะ”
“เราก็.......ชอบทงเฮนะ”
♥
END.
TALK : #HappyEunhyukDay !!! สามสิบแล้วอึนน้อย มีความสุขมากๆน้า อยู่เป็นกระสอบทรายให้พี่ทงเฮไปเรื่อยๆ อย่าได้เจ็บป่วย ขอให้น่ารักแบบนี้ตลอดไป อายุวัณโณ สุขัง พลัง นะฮยอกเอ๋ย♥
TALK2: ถึงคนอ่านที่รักของเราทุกคน ขอบคุณที่ยังติดตามและเม้นกันอยู่น้า ขอบคุณมากๆ
ถึงแม้เราจะไม่ได้อัพบ่อยก็ตาม T^T ขอบคุณมากจริงๆ หวังว่าSFนี้จะอ่านแก้ขัดฟิคเรื่องยาวไปก่อนน้า แล้วจะรีบมาต่อให้นะคะ <3
ความคิดเห็น