ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♦ Necessary ’ (HaeEun)

    ลำดับตอนที่ #11 : - Necessary #10 50%

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 58


    Necessary #10____50%
    R E A L
    Note : ไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ

     

     

     

    ถ้าไม่เป็นคนสำคัญ ก็เป็นคนอื่น

     

     

    หลังจากที่ทงเฮเอ่ยถามออกไป ร่างเล็กของเด็กวัยสิบสี่ย่างสิบห้าก็ขึ้นสีระเรื่อพร้อมๆกับหันหลังและวิ่งออกไปจากตรงนั้นมุ่งเข้าสู่ห้องน้ำอย่างไว  แอบส่ายหน้าเสียดายหน่อยๆที่ไม่ได้ฟังประโยคที่หวังไว้จากปากเล็กนั่นแต่เอาเถอะได้เห็นหน้าแดงๆนั่นก็เหมือนจะเห็นคำตอบอยู่รำไร

     

    ทงเฮนั่งรอฮยอกแจแต่งตัวจนเสร็จ ร่างเล็กออกมาในชุดนักเรียนเต็มแบบ  ทงเฮใช้เวลาที่ฮยอกแจจัดตารางสอนใส่กระเป๋านักเรียนมองอย่างสำรวจ  ส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนทำเอาทงเฮสะดุดเล็กน้อย   เมื่อก่อนยังตัวแค่เอวเขาอยู่เลย  มาตอนนี้สูงเท่าอกเขาซะแล้ว

     

     

    ป่ะ!” ร่างเล็กออกมายืนตรงหน้าพร้อมกับกระเป๋านักเรียน แต่พอเห็นว่าเขายังอยู่นิ่งและเอาแต่มองทำให้เจ้าตัวทำหน้าเลิกลั่กก่อนจะเป็นฝ่ายปลีกตัวลงไปยังด้านล่างของร้านก่อน

     

     

     

    ร่างหนาขับรถไปส่งฮยอกแจที่โรงเรียนในเวลาเก้าโมงเช้า  แต่ก็โดนฮยอกแจเบรกเอาไว้ก่อนว่าให้ส่งลงแค่หน้าโรงเรียนก็พอ ในตอนแรกทงเฮขัดใจอยู่ไม่น้อยแอบคิดไปแล้วนิดนึงว่าเด็กน้อยของเขาจะโดดเรียนไปแอบงีบที่ไหนสักแห่ง  แต่พอฟังคำอธิบายทงเฮก็จำใจยอมปล่อยส่งลงแค่หน้าโรงเรียน

     

     

     

    ยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาเลยนะ..เดี๋ยวไม่มีเลือดไปเลี้ยงสมอง ทีนี้ก็จะเรียนไม่รู้เรื่องถ้าเป็นแบบนั้นทงเฮพาฮยอกกลับบ้านดีกว่ายังไงความรู้ก็ไม่เข้าสมอง  แถมยังจะหลับในคาบ บลาๆ.....

     

     

     

     

    อี ทงเฮล่ะเซ็ง..เด็กน้อยของเขาพูดมากขึ้นทุกวันๆ เห็นอนาคตอยู่ลางๆแล้วล่ะว่าต้องโดนบ่นจนหูชาแน่ๆ  แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นฮยอกแจยังจะดูแลเขาอยู่มั้ยนะ ?

     

     

     

    N e c e s s a r y

     

     

    ฮยอกแจมองดูรถคันคุ้นตาที่แล่นลับตาไป  ก่อนจะเดินข้ามฝั่งไปยังร้านขายข้าวแถวนั้น  มือเรียวดึงเก้าอี้ออกก่อนจะนั่งลงไปแล้วเอากระเป๋าวางไว้บนเก้าอี้ตัวข้างๆ จัดการหันไปสั่งอาหารของตนและนั่งรอ..

     

     

     

    ..รอทั้งข้าว รอทั้งคน..

     

     

     

     

    ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกทงเฮเลย  เขาพูดความจริงออกไปเพียงแต่ว่าพูดมันไม่หมด..ทงเฮไม่ชอบมิโน  และก็ดูเหมือนมิโนก็ไม่ได้จะชอบอีกฝ่ายเหมือนกัน เลี่ยงหน้าแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว  อีกอย่าง  เหตุผลที่มานัดกินข้าวที่หน้าโรงเรียนนั่นก็เพราะเมื่อวันหยุดที่ทงเฮพากลับบ้านเกิดนั้นฮยอกแจไม่ได้พกการบ้านไปทำเลยแม้แต่น้อย

     

     

    ส่วนหนึ่งก็เพราะฮยอกแจบอกทงเฮไปว่าไม่มีการบ้าน

     

     

     

    ก็วันหยุดก็ต้องพักผ่อนสิ  ให้เอางานไปทำมันจะเป็นวันหยุดได้ไงเล่า..

     

     

     

    ได้แล้วจ้าเสียงแม่ค้าใจดีปลุกฮยอกแจให้ตื่นจากความคิดนั่น ร่างเล็กหยิบช้อนส้อมขึ้นมาตักกินไปพลางๆ  นาทีนี้ข้าวผัดไร้ผักตรงหน้านั้นน่าสนใจกว่าอะไรเป็นไหนๆ

     

     

     

     

    แฮ่กๆ เรา..เรามา..แล้วแฮ่กๆ.. ร่างสูงของเพื่อนสนิทคนเดียวที่ฮยอกแจไว้วางใจวิ่งมานั่งฝั่งตรงข้ามจนตัวหอบโยน  ฮยอกแจมองไปอย่างไม่เข้าใจ มิโนจะรีบวิ่งมาทำไมร้านข้าวมันไม่ขยับหนีไปไหนซะหน่อย

     

    น้ำมั้ย?”

     

    ขอบใจมาก หนุ่มผิวสีแทนรับแก้วน้ำมาไว้ในมือก่อนจะจัดการซัดลงคอไปจนหมด

     

    มิโนกินข้าวยังอะ นี่เรากินไปจนจะหมดแล้วเนี่ยฮยอกแจยิ้มแหยไปให้พลางใช้ช้อนเขี่ยข้าวเล่นไปด้วย  ถ้าอยู่กับทงเฮจะต้องโดนตีมือแล้วโดนบ่นว่าจะเขี่ยเล่นทำไม กินเข้าไปให้หมด

     

    ยังอะมิโนว่าแค่นั้นก่อนจะหันไปสั่งข้าวกับแม่ค้าแล้วจึงหันกลับมาสนใจคนตรงหน้าต่อ

     

    อ่ะ..นี่การบ้าน  ลอกหน้านี้หน้าเดียวส่งตอนพักเช้า ฮยอกแจพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเกิดความสงสัยเมื่อวิชานี้มันอยู่คาบบ่ายและปกติก็ส่งท้ายคาบ แต่ทำไมวันนี้ดันให้มาส่งตอนพักเช้า

     

    ทำไมส่งตอนเช้าล่ะ

     

    ก็วันนี้เลิกเรียนครึ่งวันนี่ ตอนบ่ายครูติดธุระอบรมเยอะน่ะ..เมื่อวันศุกร์ไม่ได้ฟังที่เขาประกาศหรือไงเนี่ยฮยอกแจ มิโนบ่นอย่างยิ้มๆก่อนจะลงมือจัดการอาหารตรงหน้าบ้าง ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งลอกการบ้านต่อไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงง

    12.00 น.

     

     

    ให้ไปส่งปะเนี่ย

     

    เห้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวทงเฮว่า ฮยอกแจตอบก่อนจะโบกมือให้กับคนที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นปั้นก่อนจะเดินออกไป 

     

     

     

    ออกห่างกันไป..

     

     

     

    คำพูดของฮยอกแจฟังดูไม่มีอะไร แต่ทว่าคนฟังกลับรู้สึกเจ็บลึกๆที่หัวใจ

     

     

     

     

    ไม่ว่ายังไงเหตุผลของฮยอกแจก็ยังคงเป็นทงเฮ..

     

     

     

     

    พี่ทงเฮคนนั้นเขามีดีอะไรให้ฮยอกแจรักมากขนาดนั้นหรอ? ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจนดูน่าอึดอัด  กับอายุที่ห่างกันจนแทบเป็นไปไม่ได้

     

     

     

     

    พี่ทงเฮเอาชนะใจฮยอกแจได้ยังไง ?

     

     

     

    N e c e s s a r y

     

     

     

    สองขาเล็กเดินนำพาร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ที่ทางม้าลายถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านเบเกอรี่ที่ตนอาศัยอยู่ ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นทงเฮที่นั่งคุยอยู่กับคนในร้าน  ฮยอกแจมองเห็นไม่ถนัดนักว่าเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่ามีผู้ชายหนึ่งคนที่สวมหมวกแก็ปกับผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่

     

    ด้วยความที่ไม่อยากรบกวนให้เสียมารยาทฮยอกแจจึงเดินอ้อมไปทางด้านหลังร้านเพื่อที่จะไปพักอยู่บนห้องนอนเป็นการชั่วคราว  เอาไว้ให้ทงเฮคุยกับแขกเสร็จเมื่อไหร่ค่อยลงมาช่วยงานก็ได้เพราะยังไงวันนี้ก็ไม่มีการบ้านอยู่แล้ว

     

     

     

     

     

     

    ?

     

     

     

     

     

    พี่เยซอง..?” ริมฝีปากเล็กเอ่ยพึมพำออกมาทันทีที่เดินเข้ามา  อยู่ในมุมนี้มองเห็นสองคนที่คุยกับทงเฮได้ชัดเจนเพราะนั่งหันหน้ามาทางหลังร้าน ถึงจะรู้ว่าเป็นเพื่อนของพี่แต่ฮยอกแจก็เลือกที่จะแอบฟังต่อไปเงียบๆ..

     

     

     

     

     

    กูไม่ได้ตั้งใจจะใช้คู่นอนร่วมกับมึงหรอกนะทงเฮ  มึงมั่นใจได้เลยว่าหลังจากที่กูนอนกับโซฮีไปแล้ว  เขาก็ไม่ได้จะไปนอนกับมึงอีกประโยคของเยซองทำเอาคนแอบฟังสะอึกเล็กน้อย เพราะความที่ไม่เคยรู้ว่าทงเฮมีคู่นอน

     

    กูไม่ได้มีปัญหาตรงนั้น เยซอง..ฟังนะ เมียมึงอุ้มท้องมาหากูตอนท้องได้สามเดือน  บอกกับกูว่าเขาท้องกับกูและเขาต้องการที่จะเอาออก  เขาไม่มีปัญญาหาเลี้ยงดูลูกในท้อง มึงรู้มั้ย..ความคิดของกูตอนอายุสิบห้ามันตันแค่ไหน  กูยอมรับผิดชอบเด็กในท้องของเขาแลกกับอิสระที่จะไม่ข้องเกี่ยวกันอีก เพราะกูคิดว่าแค่ทำเรื่องปิดข่าวก็น่าจะพอ พ่อกูทำได้อยู่แล้ว...

     

     

    ฮยอกแจกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  เวลานี้พี่ยุนโฮกับพี่จองซูออกไปไหนเขาไม่รู้  รู้แค่ว่าบรรยากาศในร้านนี้มันเงียบมาก  เงียบจนถึงแม้โต๊ะที่สามคนนั้นนั่งจะอยู่ห่างออกไปฮยอกแจเองก็ยังคงได้ยิน..เพียงแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ

     

     

    ตอนนั้นกูคิดว่าเด็กในท้องจะต้องมีอนาคตที่ดีต่อไป ทำสัญญาเจ็ดเดือนหลังจากนั้นว่ากูจะเป็นคนเลี้ยงเขาเองคนเดียว

     

    “……..”

     

    แล้วกูก็มารู้เอาตอนทีหลัง...ว่าตลอดเวลาครึ่งชีวิตของกู  กูเป็นแค่คุณพ่อจำเป็น..

     

    ....ทงเฮ กู..กูขอโทษ  กูอยากจะบอกมึงตั้งแต่ครั้งแรกที่กูรู้เรื่องจากโซฮี...แต่ตอนนั้นกูไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย  แม้แต่เงิน กูก็ใช้เงินของครอบครัว..

     

    กู....เห็นแก่ตัว  กูขอโทษ

     

    เท่านั้นมันยังไม่น่าโกรธเท่าวันที่มึงเข้ามาบอกพ่อกูว่ามึงเป็นพ่อตัวจริง

     

    “…………”

     

    มึงทิ้งเขามาตั้งเกือบสิบห้าปี แล้วมึงจะมาขอเขาคืนให้ได้อะไรวะ!?” สีหน้าทงเฮดูมีแต่คำถามไม่ต่างจากสีหน้าของคนแอบฟัง คิ้วหนาขมวดกันมุ่น ทงเฮถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะเสยผมระงับอารมณ์ของตนเอง

     

    มึงพูดเรื่องอะไรทงเฮ...กูไม่เคยขอให้ฮยอกแจมาอยู่กับกู  กูขอแค่ได้มาหา มาคุยกับเขาบ้างก็แค่นั้น

     

     

     

     

     

     

    !!!!!!!!!!!!!!

    ดวงตาเรียวของเจ้าของชื่อที่เยซองเอ่ยเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจผสมไปกับความสงสัย

     

     

     

     

    เกือบสิบห้าปี ?

    อีกไม่กี่เดือนฮยอกแจจะอายุครบสิบห้า

     

     

     

     

    ตลอดครึ่งชีวิตของทงเฮ  เป็นได้แค่คุณพ่อจำเป็น ?

    ครึ่งชีวิตของทงเฮที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด

     

     

     

     

    เยซองเป็นพ่อตัวจริง ?

    ทงเฮ..พ่อจำเป็น

     

     

     

    มึงไม่ใช่หรอที่ไปขอฮยอกแจกับพ่อกู จนเขาตั้งข้อแลกเปลี่ยนบ้าๆนี่มา!? ถ้ากูไม่ให้ฮยอกแจไปกับมึง กูจะต้องหมั้น   อีกไม่กี่เดือนกูจะต้องหมั้น..

     

    มึงจะไม่เชื่อกูก็ได้ แต่กูไม่ได้ไปขอจริงๆ  กูแค่ไปบอกให้เขาสบายใจว่ามึงไม่ได้ทำเรื่องให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลอย่างที่เคยมีข่าวออกมา  กูพร้อมให้พ่อมึงออกมาแก้ข่าว

     

    “……….”

     

    มึงคิดว่ากูจะหน้าด้านไปขอลูกที่ตัวเองทิ้งไว้มาอยู่กับตัวเองหรอวะ หึ..มีสิทธิ์แค่ได้คุยก็ดีแค่ไหนแล้ว..

     

    เชี่ย!! ต่อมสำนึกด้านดีของมึงมันทำงานผิดเวลาไปนะไอ้เหี้ย!”

     

     

     

     

    บรรยากาศในร้านที่เคยอึมครึม ตอนนี้กลับดีขึ้นแต่ก็เพียงเล็กน้อย ต่างจากคนที่แอบอยู่ที่หลังร้านนี้ต่างหาก...ที่ความรู้สึกของเขา..กลับแย่ลง  และแย่ลง..

     

     

     

    ไม่รู้ว่าพาตัวเองถ่อสังขารขึ้นมาบนห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าน้ำตาที่พยายามปาดให้มันหยุดไหลตอนนี้กลับแห้งเหือดไปแล้ว..

     

     

     

     

    ฮึก

     

     

     

    ก้อนสะอึกมาติดอยู่ตรงคอจนเขาแทบจะร้องไม่ออก  ฮยอกแจปวดคอไปหมดกับการกลั้นเสียงสะอื้น

     

     

     

     

    เสียงที่ย้ำว่าเขา  เกิดมาจากความไม่ตั้งใจจากคนให้กำเนิด..

     

     

     

     

     

     

    แต่ในความคิดด้านดีกลับเถียงไปอย่างไม่ยอมกัน

     

     

     

     

    อย่างน้อยพ่อกับแม่ของเขาก็ยังสำนึกไม่ใช่หรอ..

     

     

     

     

    อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยถามตัวเองอีกแล้วว่าที่ทิ้งเขาไปน่ะ..ไม่รักกันแล้วหรอ ?

     

     

     

     

     

    อย่างน้อย..ก็ทำให้ฮยอกแจรู้ว่าเขายังมีครอบครัวอยู่..เหมือนกับคนอื่นๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าทงเฮ..ไม่เคยคิดจะทิ้งเขาไปแม้แต่นิดเดียว..

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่โกรธทงเฮเลยที่ไม่ยอมบอก ไม่ยอมเล่าเรื่องของพ่อแม่ให้เขาฟัง  เพราะถ้าบอกไปก็คงเป็นอย่างนี้.. ฮยอกแจจะได้แต่รู้สึกแย่แบบนี้  ร้องไห้อยู่แบบนี้..

     

     

     

     

     

     

     

    ..ก็เพราะทงเฮชอบเห็นฮยอกแจมีความสุขไม่ใช่หรอ..

     

     

     

    N e c e s s a r y 50 %

     

    TALK : ที่มาของคำว่า Necessary ………........……… #จุดมากมายแทนความรู้สึก

    ทำโครงงานเสร็จเมื่อไหร่จะมาต่อให้นะคะ เหนื่อยมากT/////////////T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×