ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ขาวและดำ
เสียงระฆังดังขึ้นมาจากยอดวิหาร ประกาศยามเที่ยงคืนรับวันใหม่ เมื่อสิ้นเสียงระฆังทั้งเมืองก็กลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง แต่ยังคงมีหนึ่งบุรุษในชุดสีดำ สวมหมวกปีกแคบสีดำผ้ากำมะหยี่ เดินล้วงกระเป๋า ไปในตรอกที่มีแสงไฟสลัวๆจากเสาไฟข้างทาง และเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปจากถนนราวกับค่อยๆถูกความมืดลบเลือนตัวตนให้หายไปทิ้งไว้ก็เพียงซากศพที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น
......วาติกันต์......
เช้าที่ดูไม่แตกต่างไปจากทุกๆวันของผมท้องฟ้าดูจะสดใสเหมาะแก่การนอนต่อ แต่ผมต้องกลับลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้กับครอบครัว อันที่จริงจะเรียกว่าพวกญาติก็คงไม่ได้ก็เรามันเด็กกำพร้านี้นา ผมละชักจะเซ็งกับสถานที่แห่งนี้ซะแล้ว ตึกอิฐเก่าๆไม่ได้ดูหรูหรา เฟร์อนิเจอร์เก่าๆ กับพวกเด็กกำพร้าอีก เจ็ดแปดคน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี้มันทำเนียมอะไร ทำไม่มาเฟียอย่างเราถึงต้องมารับเลี้ยงเด็กกำพร้า อันที่จริงผมก็ถูกเก็บมาเลี้ยงโดยบอสเหมือนกัน แต่ก็นะ สิ่งที่มันชวนไม่สบอารมณ์มันไม่ใช่เด็กๆพวกนี้หรอก แต่มันคือสภาพความเป็นอยู่ของพวกเราต่างหาก ทำไมกันบอสเคยบอกว่าครั้งหนึ่งเราเคยยิ่งใหญ่ที่สุดในอิตาลีไม่เคยมีใครกล้าหือกลับเราแต่ดูสภาพเราตอนนี้สิต้องมาขออาศัยพึงใบบุญของโบสถ์ นี้เราเป็นนักฆ่านะ แต่กลับต้องมาอาศัยอยู่ในโบสถ์เก่าๆ พร้อมกับรอรับอาหารจะจากคนของศาสนจักร สภาพเราไม่ต่างอะไรกับขอทาน...หรือนี้เป็นประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
“นี้ๆพี่โคแตน หนูหิวแล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ“
“เออๆๆ ใกล้แล้วๆแปปนึง”
โคสแตน นั้นชี่อของผม ที่จริงชื่อเต็มๆของผมเคย”โคสแตนโล่” ที่แปลว่ามีดในภาษาอิตาลี บอสเป็นคนตั้งให้ผมเพราะเขาอยากให้ผมใช้มีดเก่งๆเหมือนกับเขาและผมก็ชอบชื่อนี้มากแต่ทุกวันนี้มาเฟียที่ยิ่งใหญ่อย่างบอสของเราหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อสามปีก่อน หลังจากนั้นองค์กรของเราเริ่มระส่ำระสาย เริมเกิดการแก่งแย่งกับการขึ้นเป็นผู้นำขององค์กร เมื่อองค์กรใหญ่เริ่มวุ่นวาย องค์กรในสังกัตก็ต่างพากันตีตัวออกห่างและคิดจะตั้งตนเป็นใหญ่ จึงไม่แปลกที่ตอนนั้นจะมีเสียงปืนและกลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วเมือง มาเฟียกับมาเฟีย ก่อสงครามขนาดย่อมๆขึ้น ทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อนบ้านเมืองเสียหาย ทางวาติกันต์จึงตัดสินใจที่ลบเลือนสิ่งที่เรียกว่ามาเฟีย และมาเฟียอยากเราจึงกลายเป็นพวกนอกกฎหมาย ต้องถูกตามล่า และจำจัดทิ้งให้สิ้นซาก แต่เพียงแค่ตำรวจธรรมดามีหรือจะมาสู้นักฆ่ามืออาชีพอย่างพวกเรา ทางวาติกันจึงส่งทีม บอดี้การ์ด องครักษ์ ของศาสนจักรที่ถูกเรียกว่า เทมพล่า ออกมาตามล่าพวกเรา พวกนี้ฝีมือยากนักที่จะสู้ด้วย ด้วยความห้าวหาญที่เขาอ้างว่าได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า แล้วจะยังการรบที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ไม่เหมือนกับเราที่ไม่ได้ค่อยถนัดการสู้เป็นแบบแผนเท่าไหร่สิ่งที่เราทำคือการลุย ลุยแล้วก็ลุยหวังเพียงดับชีพของศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า แต่กับเทมพล่าที่วางแผนมาเป็นอย่างดีเราจึงต้องผ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิญ เมื่อเราเพรี่ยงพร้ำก็จะถูกเหล่ามาเฟียกลุ่มอื่นคอยตามเก็บ เราไม่อาจต้านทั้งศึกภายนอกและภายใน ไปได้พร้อมๆกับจึงตัดสิ้นใจหนีเอาตัวเรา และเมื่อกลุ่มใหญ่แตก กลุ่มย่อยก็ถูกเก็บโดยเทมพล่าอย่างง่ายดาย กระสุนของพวกเราไม่อาจยิงทะลุเกราะแห่งความศรัทธาของพวกนั้นไปได้ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างสูญสิ้น มาเฟียที่เหลือก็ต้องแอบต้องหนี้ อย่างไร้ซึ้งเกียรติที่เคยดำรงไว้ บ้างก็ไปเป็น กรรมกร บ้างก็ไปเป็นพ่อค้าแม่ค้า ทุกคนต่างไม่มีใครเคยลืมเหตุการณ์นั้น แต่เราก็ไม่อาจทำอะไรได้ มาเฟียกำลังจะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่ถูกเล่าขานเท่านั้น พวกเราคงเป็นเพียงแค่ปีศาจร้ายในตำนาน
“โคสแตน เสร็จยังเราหิวแล้วนะ”
“เสร็จแล้วโว้ยใจเย็นสิ กำลังจะยกไปให้”
“พี่โคสแตนวันนี้พี่ต้องเข้าไปทำงานในโบสถ์ หรอเปล่า”
เด็กชายคนหนึ่งเอ่อยขึ้นในระหว่างตักอาหารเข้าปาก
“ไปสิถ้าพี่ไม่ได้แล้วเราจะกินอะไรกันล่ะ” โคสแตนยิ้มให้เด็กๆ
“พี่ฮะแล้วข้าวกลางวันเราต้องกินฝีมือยัยป้า เรรุซ่า อีกแล้วหรอ”
“ฮ่าๆๆๆ แน่นอนสิเมื่อตอนฉันอายุเท่าพวกแกฉันก็ต้องกินเหมือนกันละ แต่ถึงฝีมือการทำอาหารของป้าแกจะไม่ได้เรื่อง แต่ฝีมือการใช้ระเบิดมือของแกไม่เคยเป็นรองใครในแก้งเลยนะ แกเลยได้ฉายาว่า อินฟินิตี้บอร์มเบอร์ หนึ่งในสี่สุดยอมมือสังหารของแก้งเชียวนะ”
ในระหว่างที่เด็กๆทั้งหลายกำลังนั่งฟังเรื่องราวจากโคสแตนอย่างใจจดใจจ่อ ก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นจากด้านนอก
“เสียงอะไรฮะพี่โคสแตน”
“เดียวฉันออกไปดูก่อนนะพวกแกก็อยู่ในความสงบด้วยละไม่งั่นฉันจะเชือดให้”
เสียงดังอึกกระทึกครึกโครมจากด้านอกดั่งไปทั่วทั่งบริเวณชาวบ้านต่างพากันออกไปมุ่งดู อะไรบ้างอย่าง
“โทษนะครับๆ ขอทางหน่อยครับ” โคสแตนกล่าวคำขอโทษพลางค่อยๆเบียดเสียดผู้คนจำนวนมากเพื่อเขาไปหาคำตอบว่าชาวบ้านกำลังมุงดูอะไร
แต่เมื่อถึงจุดหมายโคสแตนก็ได้พบกับกองเลือดที่แห้งกรั้งอยู่กับพื้นถนน
“โทษนะครับไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรอครับ” โคสแตนเอ่ยถามกับชาวบ้านที่กำลังยืนมุงอยู่แถวนั้น
“ก็คนนั้นไงที่เป็นคนเดินเอกสารให้กับศาสนจักรที่แกชอบเมาอยู่บ่อยๆ โดนใครก็ไม่รู้แทงเอานะสิ แกคงเมาแล้วดันไปกวนโอ้ยพวกวัยรุ่นเขาแน่ๆเลยเลยโดนฆ่าเอาแบบนี้ไม่น่าเลย” สาววัยกลางคนเอ่ยตอบคำถามให้กับโคสแตน
แต่แล้วก็มีเสียงลุงคนหนึ่งกล่าวแทรกขึ้นมาว่า
แต่แล้วก็มีเสียงลุงคนหนึ่งกล่าวแทรกขึ้นมาว่า
“ไม่ใช่หรอกไม่ใช่พวกวัยรุ่นหรอกเขากำลังจะกลับมา มันจุราชสีดำกำลังจะกลับมาเขาจะกลับมาแก้แค้นศาสนจักร ศาสนจักรหักหลังพวกเขาเขาจะกลับมาเอาคืน!”
“โถ่! ลุงเมาแล้วเลอะเลือนไปกันใหญ่ ไปๆกลับบ้านไปเลี้ยงหลายเถอะลุง” เสียงหนึ่งตะคอกไล่ลุงคนนั้นออกไป ชายแก่จับปกเสื่อโคสหนังสีน้ำตาลขึ้นมาเช็ดปาก ปากที่ที่ปกคลุมไปด้วยหนวดและเคราสีขาว ก่อนที่แกจะเดินถือขวดเหล้าแล้วเดินโซซัดโซเซออกไป
คำพูดของชายชราสร้างความสงสัยในใจให้กับโคสแตนเป็นอย่างมาก ใครคือผู้ล้างแค้นและใครถูกศาสนจักรหักหลังเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ และใครคือผู้สังหารคนของศาสนจักร มีเพียงชายชราผู้นั้นที่จะตอบข้อสงสัยเหล่านี้ได้...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น