Forsythia
ดู Blog ทั้งหมด

ความฝัน

เขียนโดย Forsythia
สวัสดีค่ะ ชาวโลก
วันนี้ไม่รู้สิ ....ฉันอยากเล่าให้ใครฟังน่ะ มันเป็นความฝันของฉันเองแหละ
เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เองค่ะ

เมื่อคืนวันพฤหัสที่แล้ว ก่อนวันศุกร์ ซึ่งวันศุกร์เป็นวันที่ฉันมีสอบกลางภาควันสุดท้ายพอดี
คืนนั้นฉันนอนอยู่ดี ๆ ฉันก็ฝันว่าตัวเองอยู่ในโรงเรียน
ในห้องสมุดของโรงเรียน อยู่กับเพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งหมดก็ประมาณ 10 คนได้
แล้วก็มีกลุ่มเพื่อนผู้ชายที่ฉันไม่ค่อยชอบหน้าพวกเขาเท่าไหร่อยู่ในห้องสมุดด้วย

ผ่านไปไม่นาน เราทุกคนก็ได้ยินเสียงระเบิดเบา ๆ จากข้างนอก
ฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าคงเป็นพวกเพื่อน ๆ ที่เล่นกันตรงสนามบาส
หรือไม่ก็ที่สนามฟุตบอล (ซักที่นั่นแหละ)

ฉันก็เลยไม่สนใจอะไรเอาหนังสือไปเก็บหน้าตาเฉย
แต่จู่ ๆ ก็มีอุกกาบาตตกเข้ามาในหน้าต่างห้องสมุดโรงเรียน
มันระเบิด ตูม!!!!!!!!!!!!!!!!
จนเพื่อน ๆ รวมไปทั้งฉัน อาจารย์วิ่งกันจ้าหล่ะหวั่นเลย
ถึงมันจะอยู่ในความวุ่นวาย แต่ฉันกลับมองเห็นเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ชอบหน้ามาก ๆ ได้ชัดเลย
เขาถูกสะเก็ตระเบิด ลงไปนอนอยู่บนพื้น ฉันกับเพื่อน ความรู้สึกตอนนั้ ใจหนึ่งก็รู้สึกสมน้ำหน้าสุด ๆ
แต่อีกใจก็อยากช่วยมาก แต่เหมือนมันจะไม่ทันแล้ว ไม่รู้ระเบิดมาจากไหน
มันถูกขว้างเข้ามาที่ห้องสมุดโรงเรียนอีกรอบ คราวนี้แหละที่แย่ของจริงเลย

สุดท้ายทั้งหมดก็ลงไปรวมกันอยู่ที่ถนนหน้าโรงเรียน เพราะข้าง ๆ มันไหม้เกรียมไปหมดแล้ว
ไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันกับเพื่อนเดินไปเรื่อย ๆ จนไปเจอกับเพื่อนคนอื่น ๆ แล้วก็อาจารย์
ตอนนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันตาฝาดไปรึเปล่า ที่นั่นที่ไหนฉันเองยังจำไม่ได้เลย
ฉันรู้แต่ว่าตัวเองเห็นเครื่องบินหลายลำบินไปบินมาเหนือน่านฟ้าที่ฉันกับเพื่อนยืนอยู่

รอบ ๆ ตัวเหมือนเพิ่งเกิดสมรภูมิรบไปแล้วอย่างนั้นแหละ
มันมีแต่ซากปรักหักพังของอาคาร บ้านเรือนที่เหมือนฉันจะรู้จัก แต่ฉันไม่มีทางได้เห็นมันอีก
ห่างจากที่พวกฉันอยู่ไปไม่ไกล ฉันเห็นเครื่องบินลำหนึงจอดอยู่

อาจารย์เรียกพวกฉันไปรวมกลุ่มกันตรงที่ท่านยืนอยู่
ท่านบอกว่า คนจากทวีปอเมริกาเหนือ อยากได้คนจากพวกเรา
พวกเราสามารถเอาพวกเราไปได้แค่ 8 คนเท่านั้น และแน่นอนคนที่พวกเขาเลือกไม่ใช่ฉัน
ฉันกับเพื่อน ๆ รู้สึกแย่เหมือนกันที่เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเราทุกคนในนี้รู้ได้ทันที
ว่ามันต้องเกิดอะไรร้ายแรงกับโลกใบนี้แน่นอน

ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองสิ้นหวังมา แต่ฉันไม่มีทางยอมแพ้
ในเมื่อพวกเขาไม่ให้ไป เราก็ไปเองก็ได้ ไม่เห็นต้องง้อพวกเขาเลย

แต่ก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง สักพัก อุกกาบาตลูกใหญ่ก็ตกลงตรงใจกลางที่พวกเรากำลังยืนอยู่
ทุกคนแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าเหมือนตัวเองถูกไฟไหม้
และคิดว่าตัวเองคงตายแน่ แต่กลับมีคนมาสะกิดตัวฉัน
ฉันลืมตาขึ้นมา นั่นคือเพื่อนของฉันนั่นเอง พวกเขาสะกิดเรียกให้ฉันรีบวิ่ง ฉันก็วิ่ง
ที่จริงแล้วฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่เป็ฯความรู้สึกกลัวมากเท่านั้น
พอไปได้สักพักฉันชวนเพื่อ ซึ่งตอนนั้นจาก 10 คน กลับเหลือแค่ 4 คน (รวมฉันด้วย)

พวกเราที่เหลืออยู่ นำโดยฉัน แอบเข้าไปในเครื่องบินที่จอดอยู่ไม่ไกลมาก
แต่โชคร้ายที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นพอดี เหมือนเธอจะเนแอร์ของครื่องบินลำนี้
และดูเหมือนฟ้ายังเข้าข้างเราอยู่บ้าง ที่เสื้อหนาวที่ฉันผูกไว้ที่เอวตลอดเวลา
มันดันมีสีและลักษณะเหมือนเครื่องแบบที่ผู้หญิงคนนั้นสวมอยู่
ฉันเลยรีบปลดมันมาใส่ทันที ถึงแม้มันจะร้อนมากเลยก็ตามที

ฉันให้เพื่อน ๆ ซ่อนตัว แล้วตัวเองก็รับหน้าไปพลาง ๆ
จนสุดท้าย ฉันก็พาเพื่อน ๆ อีก 3 คนของฉันเข้ามาในห้องอะไรไม่รู้ แต่ที่นั่นมีเครื่องแบบดี ๆ อยู่ด้วย
พวกฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเข้าไปแอบอยู่ในเครื่องบิน และพยายามหาเพื่อนที่เหลือ
แต่มันไม่ได้ผล พวกเราติดต่อใครไม่ได้เลย นั่นแปลความหมายได้ว่าถ้าแยกกันเราอาจไม่ได้เจอกันอีก

สุดท้าย เหมือนพระเจ้าลงโทษ ทั้งเรากับเพื่อนถูกจับได้ และถูกโยนออกมาจากเครื่องบินทันที
ไม่รู้สินะ ความรู้สึกนั้น มันเหมือนมีอะไรไม่รู้ว่ากดทับหัวแข็ง ๆ ของฉันไว้ อย่างไรอย่างนั้น

สุดท้ายพวกเราทั้งหมดถูกจับมารวมกันในลานกว้างที่ไหนสักแห่ง ที่นั่นฉันได้เจอกับเพื่อนด้วย
ฉันดีใจจริง ๆ ที่พวกเขายังอยู่ จนแทบจะวิ่งเข้าไปกอด
ถึงจะอย่างนั้น ใบหน้าของพวกเขาดูเรือนรางในความทรงจำของฉัน
เหมือนพวกเขาแค่มาส่งฉันเท่านั้น

ที่นั้นเหมือนจะเป็นที่ที่ดี แต่มันไม่ใช่ สถานที่ที่เหมือนจะคุ้นตาในความทรงจำของฉันเหลือเกิน
ฉันกลับจำมันไม่ได้ มันเรือนรางเหลือเกิน

แต่สุดท้าย ถ้าพวกเธอทุกคนยังอ่านมาถึงจุดนี้ มันก็ไม่เหลือใครจริง ๆ
ไม่มีอะไรเหลือ ไม่เหลือแม้แต่ร่างกายของตัวเอง
อุกกาบาตลูกที่ใหญ่ที่สุด ตกลงมาใส่พวกเราเต็ม ๆ ฉันรู้สึได้ถึงความร้อนที่ลามมาตามตัว
จนถึงใบหน้าของฉัน นั่นแหละที่ทำให้ฉันรู้สึกตัวตื่นขี้นมา
ฉันรู้สึกเลย ความรู้สึกในตอนนั้น มันทรมาน เหมือนฉันรู้สึกถึงความตายที่กำลังมาเยือนตัวเอง
อย่างไรอย่างนั้น พูดไม่ถูกเลยจริง ๆ

ตลอดทั้งวันศุกร์ ซึ่งต้องบอกว่าโชคดีที่ฉันมีสอบ
เลยเอาแต่คิดเรื่องสอบไม่ได้สนใจเรื่องที่ฝันเลย
แต่ถ้าความคิด หรือสมองฉันว่างล่ะก็ เมื่อหลับตาทุกครั้ง ภาพนี้จะเข้ามาในสมองตลอดเวลา
ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงฝังใจแบบนี้ เหมือนตอนที่ฉันฝันว่าเพื่อนถูกไฟคลอกก็เหมือนกัน

ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ถึงได้ระบายออกมา มันทำให้ฉันรู้สึกดีที่อย่างน้อย
เจ้าเครื่องคอมนี่มันก็ฟังฉัน

บางครั้งฉันรู้สึกว่ามันเหมือนเรื่องตลก ที่ฉันฝันเพราะดูหนังมากไป
แต่มันไม่ใช่ เพราะช่วงนั้นฉันแทบไม่แตะหนังเลย เรื่องสุดท้ายที่ฉันดู คือ Eclips
แต่นั่นมันเลยมาครึ่งเดือนได้แล้ว แถมยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย

ทุกวันนี้ฉันยังเห็ภาพนั้นอยู๋ในหัว ฉันรู้สึกกลัวมากเลย
ฉันไม่อยากให้โลกของเราต้องเป็นแบบความฝันของฉัน
มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานและเลวร้ายเกินกว่า ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างฉันจะรับไหว
ความโดดเดี่ยว เดียวดาย ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ท่ามกลางความสิ้นหวัง
ความตายที่เข้ามาใกล้เราเรื่อย ๆ
ฉันไม่ต้องการความรู้สึกพวกนั้นเลย แม้เพียงนิดเดียว

ดังนั้น ฉันสัญญา .... ฉันจะพยายามดูแลโลกให้ดีที่สุด
เท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้

ไม่รู้ว่าฉันจะทำตามสัญญานี้ได้หรือไม่ แต่ฉันจะพยายามให้ถึงที่สุด

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น