ตอนที่ 18 : ENGINEER [#aprilfoolsday]
หลังจากวันนั้นมา พี่มาร์คก็กินข้าวแดงอยู่ในคุกไปตามระเบียบ แบมแบมเองก็ยังคงเศร้าอยู่ แต่มันเป็นพวกสปิริทสูง เลยแยกแยะเรื่องของพี่มาร์คกับเรื่องเรียนได้ ฉันเองก็ปกติดี ไม่ได้มีอาการติดยาแบบที่พี่มาร์คยัดเยียดให้ฉันแต่อย่างใด
แต่ที่แปลกน่ะ
“ลิซ พี่กลับดึกนะวันนี้”
พี่จีซูต่างหาก
ตั้งแต่วันนั้นมา เราก็ดูเหมือนจะเริ่มห่างๆกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่พี่ก็ใกล้ขึ้นปีสี่แล้ว ก็คงมีเรื่องอื่นให้คิดเยอะนอกจากเรื่องของฉันอยู่แล้ว
แต่พี่ต้องคิดเยอะทุกวันเลยหรอ
“ลิซ มึงดูเศร้าๆนะ”
“ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่าช่วงนี้พี่จีซูแปลกไปจริงๆ” ฉันพูดภาษาบ้านเกิด พลางถอนหายใจใส่เพื่อนตัวเล็กในขณะที่เรากำลังกินข้าวด้วยกันและเตรียมตัวเรียนช่วงบ่ายต่อ ปกติแล้วฉันมักจะไปหาพี่จีซูที่คณะเพื่อกินข้าวด้วยกัน แต่ช่วงนี้พี่กลับบอกว่าไม่ว่างแทบจะตลอด
ทั้งที่ปกติพี่ว่างให้ฉันได้ทุกเมื่อแท้ๆ
“ทำไม พี่จีซูของมึงเมนมาหรอ”
“ก็คงงั้นมั้ง” ฉันรู้ว่าแบมแบมมันพยายามทำให้ฉันยิ้ม แต่คงเพราะฉันไม่เถียงแล้วก็ถอนหายใจแบบนี้ มันเลยหน้าเจื่อนไปนิดหน่อย
“เอาน่า จะปีสี่แล้วไงมึง เดี๋ยวก็มีรับนงรับน้อง พี่จีซูคงเครียดนั่นแหละ”
“ก็คงงั้น...มั้ง”
“มึงจะงั้นมั้งๆอีกนานมั้ย ทำตัวหงอยเป็นหมออ้อยไม่ขึ้นไปได้”
“มึงเป็นผู้ชายจริงๆหรอวะ”
“ทำไม”
“พูดมากกว่าผู้หญิงขี้เมาท์อีกนะมึงอ่ะ”
“งั้นก็หุบปากแล้วเลิกหงอยได้แล่ว” แบมแบมจิ้มไส้กรอกในจานมันแล้วยัดเข้ามาในปากของฉันอย่างแรงจนฉันต้องมองค้อนใส่แรงๆที่หนึ่ง
“อือ ขอบคุณมึงนะที่ยังอยู่กับกูอ่ะ” ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มันกลับสำลักน้ำจนไอค่อกแค่กเสียงดัง
“อีห่า! แค่กๆ! ทำเป็นซึ้ง ดาวก้อยหรอมึงกับกูอ่ะ ก็ไม่ เพราะงั้นเลิกทำตัวเลี่ยนแล้วรีบแดกได้ละ งานจารย์ฟิลลิปส์กูยังทำไม่เสร็จ จะลอก”
“...”
มึงแยกเรื่องเรียนกับเรื่องพี่มาร์คได้อย่างโหดเหี้ยจริงๆ
-
ฉันกลับห้องมาได้สักพักแล้วหลังจากหมดคาบเรียน จริงๆฉันก็บอกพี่จีซูไปแล้วว่าฉันรออยู่หน้าตึก แต่กลับมีเพียงข้อความว่า ไม่ต้องรอ พี่ทำงาน กลับสองทุ่ม ตอบกลับมา แค่นั้น
แค่นั้นจริงๆ
“มึง กูรู้สึกแย่จริงๆนะ”
‘เอาน่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป กูบอกแล้วไงว่าพี่จีซูงานเยอะ’ เสียงของแบมแบมที่อยู่ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
“มึงเคี้ยวดีๆก่อนแล้วค่อยตอบกูก็ได้”
‘เออ แปบดิ ...หมูร้านป้าบมแม่งเหนียวจะตายมึงก็รู้’ ประโยคสุกท้ายมันพูดด้วยเสียงเบาจนเกือบกระซิบ นั่นเกือบทำให้ฉันหลุดขำออกมา
“ป้าคะ อีแบมบอกหมูป้าเหนียวค่า”
‘อีห่า เบาๆ เดี๋ยวป้าได้ยิน เค้าเดินมาเก็บจานเนี่ย’
“คือกูกับมึงก็พูดภาษาไทย ป้าเค้าจะแดกวุ้นแปลภาษามานั่งฟังเราพูดมั้ย คิดสิคิด”
‘เออว่ะ’
เฮ่อ มีเพื่อนเด๋อก็คงต้องทำใจอ่ะค่ะสังคม
“มึงก็แดกข้าวไปละกัน ...เออแล้วมึงไปแดกกับใครอ่ะ หรือคนเดียว”
‘กับไอ้ยูคแพทย์อ่ะ’
“หูย คบเพื่อนฉลาด มึงไม่ฉลาดตามเพื่อนบ้างอ่ะ”
‘อุฟุฟวยฟวยฟวย อย่าให้กูด่ามึงเยอะนะ ไม่งั้นฟิคมึงกลายเป็นฟิคยี่สิบบวกเต็มไปด้วยคำหยาบคายแน่ๆ’ แบมแบมบ่นจนฉันหลุดขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้ คุยกับมันก็ดีเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นการเถียงกันมากกว่าคุย อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันลืมเรื่องเครียดๆไปได้บ้าง
“เออ งั้นอยู่กับผัวใหม่มึงไปเถอะ บ้าย!”
‘ผัวใหม่พ่อ- ตู๊ดๆๆ’
ฉันตัดสายมันไปเสียก่อน เพราะขืนปล่อยให้มันด่าไปมันคงไม่ได้กินยูค เอ้ย กินหมูทอดของมันแน่ๆ ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ฟุบหน้าไปกับหมอน ก่อนจะตะแคงมองดูเตียงข้างๆที่ว่างเปล่า
พี่จีซูจะเป็นยังไงบ้างนะ
ฉันไม่กล้าทักหรือโทร.ไปหรอก เพราะฉันกลัว กลัวว่าความห่วงใยของฉันมันจะไปทำให้พี่จีซูรำคาญ ฉันไม่อยากเป็นแฟนจำพวกจู้จี้จุกจิกแบบถามว่าอยู่ไหนกับใครอะไรยังไงตลอด เพราะฉันรู้ว่ามันน่ารำคาญฉันเลยไม่ทำไง
แม้ว่าตอนนี้ฉันจะอยากรู้ว่าตอนนี้พี่จีซูอยู่ไหนกับใครอะไรยังไงก็เถอะ
แกร๊ก
แต่เสียงไขกุญแจก็ทำให้ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติ สาวผมแดงที่สีเริ่มลอกเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ฉันอ้าปากเตรียมจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ แต่พี่ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพี่แล้วก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์เครื่องหรู
ไอโฟนของพี่มันมีอะไรให้สนใจนักหนา
“พี่จีซู วันนี้กลับเร็วจัง”
“...”
เงียบ พี่เงียบแบบนี้อีกแล้ว
พี่ทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันถาม แต่เชื่อฉันมั้ยว่าพี่ได้ยินทุกอย่าง
พี่แค่ทำเป็นไม่สนใจฉัน
“งานเป็นไงบ้างอ่ะ หนักมั้ย”
เงียบ...
“พี่จีซู...”
“ลิซ เลิกถามพี่สักทีได้มั้ย พี่อยากอยู่เงียบๆ”
อึก
ฉันหุบปากไปแบบที่พี่อยากให้เป็น จู่ๆก้อนที่จุกอยู่ในอกมันก็รวมตัวกันกลายเป็นน้ำอุ่นๆที่กำลังรื้นอยู่เต็มตาแทน ฉันเงยหน้าขึ้นไม่ให้มันไหลลงมา พยายามไม่สะอื้น พี่จะได้อยู่เงียบๆ
แต่สายตาของฉันที่เห็นบางอยู่อยู่บนโต๊ะ กลับทำให้ฉันน้อยใจจไปกันใหญ่
“ทำไมพี่ไม่ห้อยเกียร์”
“...”
“พี่จีซู ลิซถามว่า ทำไม พี่ ถึง ไม่ ห้อย เกียร์” ฉันย้ำทีละคำอย่างพยายามใจเย็น
ลลิซ แกต้องอดทนนะ อย่าขึ้นเสียงเด็ดขาด
“พี่จีซู”
“ทำไม แค่พี่ไม่ห้อยเกียร์แล้วมันจะเป็นอะไรนักหนาอ่ะ ...น่ารำคาญจริงๆ”
อึก
ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อได้ยินคำว่ารำคาญออกจากปากพี่ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ในตอนแรกไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้ ฉันยังคงมองพี่ แต่พี่กลับไม่แม้แต่จะชายตามองฉันเลยสักนิด
เราห่างกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ทุกอิริยาบถของพี่อยู่ในสายตาของฉันหมด ไม่ว่าจะเลื่อนโทรศัพท์ไปมา กดนิ้วรัวๆบนหน้าจอ ลูบจมูกตัวเอง หรือแม้กระทั่งจัดผม... พี่เสยผมขึ้นก่อนจะรวบไปไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่งจนหมด เปิดคอขาวให้ฉันเห็น...
เห็นว่ามีอะไรที่ไม่ใช่ของฉัน
“พี่จีซู รอยที่คอน่ะ...” ฉันเกริ่นออกมาอย่างเนิบๆ พี่ค่อยเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ มองฉันด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ไม่แสดงกิริยาท่าทางตกใจใดๆทั้งนั้น
“รอยแดงๆที่คอ ของใคร”
“...”
รู้มั้ย ทำไมฉันถึงถามอะไรแบบนี้ออกไป
เพราะมันไม่ใช่ของฉันแน่นอน
“พี่จีซู...”
“อะไรนักหนาอ่ะลิซ”
“ฉันถามว่าของใคร!”
ท่าทางรำคาญนักหนาของพี่ทำให้ฉันฟิวส์ขาดอย่างช่วยไม่ได้ ฉันเผลอขึ้นเสียง และดูเหมือนความโกรธจะเริ่มครอบงำฉัน ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพี่ที่เตียงช้าๆ น้ำตาจะไหลใบหน้าจะแดงยังไงก็ช่างแม่งแล้วอ่ะตอนนี้
“ลิซ...”
“พี่ไปเอากับใครมา”
ฉันค่อยๆยืนมือออกไปหมายจะแตะที่รอยบนต้นคอของพี่ แต่พี่กลับเบี่ยงตัวเลี่ยงมือฉันออกไป
พอกันที
“มองหน้าฉัน แล้วตอบคำถามฉัน” ฉันก้มลงจับไหล่ทั้งสองข้างของพี่อย่างแรง ให้หันมามองฉัน
“พี่ไปเอากับใครมา”
“...”
ฉันเกลียดความเงียบที่สุดในโลก
“ตอบเซ่!!!”
“เออ! พี่เอากับจุนฮเวมา! พอใจยัง!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เอ้... April Fool's Day มันเป็นวันเกี่ยวกับอะไรน้าาา...
ช่วงไรท์พบประชารีด
ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องใดๆทั้งสิ้นค่ะ 555555555555555555555555555555555555
Happy April Fool's Day นะคะะะะ อิ้อิ้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ซาดิสม์ป่าววะ